24:00 น.
ฉันเดินออกมาจากคลับด้วยสภาพที่โซซัดโซเซเพราะความเมา แต่ก็ยังพอครองสติพาตัวเองกลับมาที่คอนโดได้
“อืม…โลกหมุนจังเลยนะเนี่ย บ้าจริง” ฉันพยายามเดินให้ปกติมากที่สุด ตลอดทางมันไม่ได้น่ากลัวอะไรเพราะมันมีร้านค้าร้านสะดวกซื้อเปิดอยู่กันเต็มไปหมดในช่วงกลางคืน เรียกว่าไม่ได้เปลี่ยวอะไรเลย
“อ่าวแม่หนู ไปไหนมาล่ะนั่นทำไมถึงได้เดินเซขนาดนั้น” ขณะที่ฉันกำลังเดินกลับคอนโด แม่ค้าที่เปิดร้านขายของอยู่ข้างทางก็เอ่ยทักฉันขึ้นมา ทำให้ฉันต้องหยุดชะงักแล้วหันไปพูดกับแกด้วยน้ำเสียงที่ยานหยดย้อย
“อ๋อ พอดีว่าหนูออกไปเที่ยวมาค่ะ กำลังจะกลับแล้ว”
“ผู้หญิงตัวคนเดียวทำไมถึงได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ล่ะแม่หนู ไม่กลัวบ้างหรือไงสมัยนี้โจรชุกชุมจะตาย”
“แหะๆ กลัวค่ะป้า ว่าแต่ป้าเถอะค่ะทำไมถึงยังเปิดร้านขายของอยู่คะ ทำไมถึงยังไม่ปิดซักทีไม่เห็นมีคนมาเดินแล้ว”
“ป้ากำลังจะปิดนี่แหละแม่หนู วันนี้ขายของไม่ค่อยดีเลยก็เลยอยู่ดึก ปกติก็ปิดร้านตั้งแต่สองทุ่มแล้ว” ถึงว่าไม่เคยเห็นหน้าป้าคนนี้มาก่อนเลย ทำงานกันคนละเวลานี่เอง ป้าแกเลิกงานฉันก็หลับไปแล้ว
“อ๋อ ว่าแต่คุณป้าขายอะไรคะ”
“นี่ไงลูก มีหลายอย่างเลยผลไม้สดผลไม้อบแห้ง”
“….” ฉันก้มลงมองดูของที่คุณป้าแกขาย มีหลายอย่างจริงๆ ด้วย “งั้นหนูเหมาหมดนี่เลยค่ะคุณป้า”
“แม่หนู! ถ้าจะมาช่วยป้าเพราะสงสารป้าไม่ต้องนะลูก ป้าไม่อยากทำตัวให้ใครสงสาร”
“เปล่านะคะคุณป้า พอดีว่าวันมะรืนนี้ที่บริษัทของหนูจะมีงานประชุมใหญ่ของบริษัทน่ะค่ะ แต่หนูยังหาของว่างให้พนักงานไม่ได้เลย ก็เลยมาเจอของคุณป้าพอดีนี่แหละค่ะ”
“แม่หนูจะเอาอย่างนั้นจริงๆ เหรอลูก ป้าคงได้ยินมาว่าตามบริษัทเขาซื้อพวกขนมเค้กไม่ใช่หรอแม่หนู แล้วแบบนี้มันจะไปกินกับพวกกาแฟอะไรได้ยังไง ป้าว่ามันคงไม่เหมาะหรอกมั้ง”
“เหมาะสิคะคุณป้า ถ้ากินไม่หมดก็ยังเอากลับไปกินที่บ้านได้แถมไม่เสียง่ายด้วย เอาเป็นว่าหนูเหมาผลไม้อบแห้งของคุณป้าหมดเลยนะคะ ส่วนผลไม้สดป้าก็เอาไว้ขายต่อ”
“ได้เลยจ้ะแม่หนู”
“เอ่อป้าคะ ยังไม่ต้องรีบเอาใส่ถุงก็ได้ค่ะเดี๋ยวหนูจ่ายเงินเอาไว้ก่อนแล้วพรุ่งนี้ถึงจะมาเอา วันนี้คงขนขึ้นคอนโดเองไม่ไหว” ฉันรีบควักเอาเงินแบงค์พันหลายใบยื่นให้กับคุณป้าไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าค่าของมันทั้งหมดเท่าไหร่
สภาพของตัวเองตอนนี้คงจะหอบของอะไรไปไม่ไหวหรอก แค่ตัวคนเดียวยังเอาไม่รอดเลย
“ไม่ถึงพันหรอกจ้ะแม่หนู ให้ป้ามาเกินแล้ว” คุณป้าแกยื่นแบงค์พันที่เหลือคืนมาให้กับฉัน
“ไม่เป็นไรค่ะป้า ป้ารับเอาไว้เถอะหนูให้”
“แม่หนู….”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวกลับห้องก่อนนะคะป้า ยืนจะไม่ตรงแล้ว”
พูดจบฉันก็เดินโซซัดโซเซกลับมาที่คอนโดของตัวเองทันที ฉันรู้สึกทุเรศกับสภาพของตัวเองในตอนนี้มากเลย กระเป๋าสะพายก็ถือลากกลับมาเพราะจับสะพายแล้วมันหล่นลงพื้น
“คุณเดียร์คะ ให้ดิฉันพาขึ้นไปส่งไหมคะ”
“อือ…ไม่เป็นไรค่ะฉันขึ้นไปเองดีกว่า” ฉันตอบพนักงานไป จากนั้นก็เดินเข้าไปในลิฟท์กดขึ้นไปยังชั้นของตัวเอง
เอาเถอะตอนไปกินก็ไปกินคนเดียวนี่นา ขากลับจะให้ใครมาลำบากด้วยไม่ได้
“อือ…ตุบ ตับ ตุบ” ฉันเดินเซซ้ายเซขวาจนตัวกระแทกกับกำแพงเสียงดังตุบ แต่ฉันก็ยังประคองตัวเองเดินมาจนถึงหน้าประตูห้องจนได้
หน้าสองหลังสาม วลีเด็ดของคนเมาทุกคนหลังจากที่ดื่มไปมากเหมือนกับฉัน
“อืมมม….ติ๊ด!” ฉันเตะคีย์เข้าที่หน้าห้องของตัวเองก่อนจะผลักประตูเดินเข้าไปด้านใน
แต่ทว่า…
พรึบ!!
มีใครก็ไม่รู้เอาแขนมาขวางประตูของฉันเอาไว้ ก่อนที่เจ้าของแขนนั้นจะดันตัวเองเข้ามาในห้องของฉัน
“นายเป็นใคร ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
“….” ฉันพยายามเพ่งตามองคนตรงหน้าดีๆ ก่อนจะเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ “คะ คิงส์!”
ใช่! คนตรงหน้าของฉันก็คือคิงส์ผู้ชายที่เคยจับตัวฉันกับพิงค์ไปเมื่อหลายปีก่อน ผู้ชายคนนี้เป็นคนไม่ดี ฉันจำได้ว่าเขาถูกครามสามีของอีพิงค์ส่งเข้าคุกนี่นา นี่เขาออกมาจากคุกแล้วเหรอเนี่ย
แกร้ก!
ประตูถูกปิดลงพร้อมกับล็อคกลอนเรียบร้อยเลยด้วย
“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกยามจริงๆ ด้วย”
“คิดว่าฉันกลัวเหรอ…” เขากระตุกยิ้มแล้วก้าวเดินเข้าหาฉันด้วยท่าทีที่คุกคาม ทำให้ฉันต้องก้าวขาถอยหลังหนีโดยอัตโนมัติ
“นะ นายจะทำอะไร ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันตวาดใส่คนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน สายตาของเขามันดูน่ากลัวมาก แถมลักษณะท่าทางของคนที่เพิ่งจะออกมาจากคุกก็ดูน่ากลัวไม่น้อยเลย ทรงผมสกินเฮดผิวเข้มคิ้วเข้มมีรอยสัก
“เธอเป็นใครถึงได้กล้าออกคำสั่งกับคนอย่างฉัน”
“เป็นใครไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญคือนายกำลังบุกรุกในพื้นที่ส่วนตัวของฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจจับนายเข้าคุกอีกรอบ”
“โถ่สาวน้อย เธอนี่คิดอะไรตื้นๆ จริงเลยนะ แต่ถ้าอยากแจ้งความก็เอาเลยเพราะฉันก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว คนที่เสียหายเป็นเธอต่างหากล่ะ อย่าลืมสิแม่นักธุรกิจสาว ถ้าเธอมีข่าวฉาวกับผู้ชายเมื่อไหร่บริษัทของเธอดับแน่”
“นายนี่มัน…”
“ก่อนจะว่าฉันเลว หันมองดูตัวเองก่อนนะ”
“นายพูดบ้าอะไรของนาย?” ฉันไปทำอะไรมาตอนไหน เท่าที่ฉันจำได้ฉันไม่เคยไปทำอะไรที่เรียกว่าเลวเลยนะ
“ก็พูดตามความจริงไง บ้านเธอไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้เหรอถึงไม่รู้โลกภายนอกเลย”
“นายพูดอะไรของนาย จะพูดอะไรก็พูดตรงๆ ไปเลยฉันไม่ชอบคนอ้อมค้อม พูดจบแล้วก็ออกไปจากห้องของฉันด้วย”
“ไม่ออกอย่าทำเหมือนไม่เคยสิ ตอนกลางวันฉันเห็นผู้ชายเข้าไปที่บริษัทของเธอ ตกเย็นมาก็พาเด็กฝึกงานที่บริษัทไปงานเลี้ยง ตกดึกก็ออกท่องราตรีนั่งกุ๊กกิ๊กอยู่กับบาร์เทนเดอร์ในคลับ”
“ยะ อย่าบอกนะ ว่านายคอยตามดูฉันตลอด” แสดงว่าที่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมีคนติดตาม รู้สึกเหมือนว่ามีคนกำลังมองอยู่ตลอดเวลาก็เป็นความจริงน่ะสิ
“ใช่ และที่ฉันตามดู ก็เพราะว่าฉันอยากได้เธอไง”
“….”
3 ปีต่อมา“คุณลุงขา…” เสียงเด็กน้อยดังมาแต่ไกลทันทีที่ลงมาจากรถ ก่อนที่ร่างอ้วนกลมจะวิ่งเข้าใส่ลุงครามจนเกือบหงายหลังไป “คิดถึงคุณลุงจังเลยค่ะ”“เหรอครับ ลุงก็คิดถึงเด็กอ้วนของลุงเหมือนกันครับ” มือหนาบีบแก้มยุ้ยเบาๆ อย่างมันเขี้ยว“น้องดารินครับ เข้าบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ เล่นมาทั้งวันมีแต่เหงื่อทั้งนั้นเลย” คิงส์พูดขึ้นจากทางด้านหลังลูกสาว“ค่ะคุณพ่อ”แกตอบรับคำพูดของผู้เป็นพ่อแต่โดยดี ก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปด้านใน“แล้วมึงล่ะ มีอะไรหรือเปล่าถึงได้แวะมา” ถึงแม้จะเป็นครอบครัวที่สนิทและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กันบ่อยนัก เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเอง จะมาเจอกันสักครั้งก็ต่อเมื่อมีงานหรือปาร์ตี้เล็กๆ ระหว่างครอบครัว“กูเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลียน่ะ ก็เลยซื้อของมาฝากหลานสาวกับหลานชาย ไม่ได้แวะเอามาให้สักทีวันนี้ผ่านมาพอดีก็เลยแวะเอามาให้” ครามบอก“อ๋อ ขอบใจมากนะ”“อือ..กูกลับละ”“อืม…ขับรถกลับดีๆ นะมึง อย่าไปไถลเล่นกับฟุตบาทล่ะ”“เออ!”เป็นคำพูดที่ห่วงใยแต่ก็ยังไม่วายสอดแทรกเรื่องกวนบาทาใส่กัน ไม่รู้เลยว่าใครจอมยั่วใครจอมโมโหกันแน่ เพราะทั้งสอง
บ้านพักริมทะเล“อ่า…สดชื่นจัง…” คิงส์กางแขนออกกว้างแอ่นอกรับลมบริสุทธิ์จากผืนทะเล แต่จู่ๆ ก็มีมือปริศนามาผลักเขาออกไป“ยืนกีดขวางฉิบหายมึงเนี่ย!” ครามพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิด แต่ดูเหมือนจะแกล้งคนข้างๆ มากกว่า“ก็ทางเดินมีตั้งมากมายมึงไม่เดิน มาเดินเอาตรงที่กูยืนอยู่เนี่ยนะ!?” คิงส์หันไปต่อว่า ตรงที่เขายืนเป็นหน้าบ้านก็จริงแต่บ้านก็กว้างพอที่จะไปเดินทางอื่นได้“นี่มันบ้านกู กูจะเดินไปตรงไหนก็ได้ไม่ผิด” ครามทำหน้าเฉยชาใส่คิงส์ ราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรกับการกระทำของตัวเองเลย“มันไม่ผิดหรอก มันอยู่ที่มารยาทต่างหากไอ้เวร! กูรู้ว่าบ้านหลังนี้เป็นของมึง แต่กูมายืนอยู่ตรงนี้ก่อนมึง” คิงส์หันไปเท้าเอวด่าอยู่ด้วยกันสองคนไม่ได้เลยจริงๆ สองคนนี้ มีอันเป็นต้องหาเรื่องทะเลาะกันอยู่ตลอด ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ ที่ด่ากัน“แล้วไง? กูไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักหน่อย”“มึงนี่มันกวนตีนไม่เปลี่ยนเลยนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนกูกับมึงก็คงจะวางมวยกันไปแล้ว”“มาดิ ตอนนี้ยังวางได้นะ”“เดี๋ยวกูจะฟ้องเมียมึง” คิงส์พูดขู่“ฟ้องเรื่องอะไร๊ กูไม่ได้มีเรื่องปิดบังอย่างเช่นเรื่องแต่งรถเหมือนมึงสักหน่อย”“ให้กูพูดจริงๆ เ
“กูขออุ้มหลานหน่อย” ครามยื้อแขนที่รอรับเด็กสาวตัวน้อย แต่กลับถูกคิงส์พาเดินหนีออกไป “ไอ้คิงส์! กูบอกขออุ้มหลานหน่อย”“กูไม่ให้อุ้ม” คิงส์หันมาตอบกลับเสียงแข็งกร้าว“แต่นี่หลานกู”“หลานมึง แต่ลูกกู”ทั้งสองยืนเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะไม่มีใครยอมใครเลย อีกคนก็อยากอุ้มหลาน อีกคนก็หวงลูกราวกับจงอางหวงไข่ ไม่ยอมให้ใครได้แตะต้องลูกสาวเลยโดยเฉพาะคราม“เฮ้ย! มึงจะหวงทำไมวะ กูแค่ขออุ้มหลานหน่อยแค่นี้เอง ไม่ได้พาไปไหนสักหน่อย” ครามพูดแย้งออกไป“กูไม่ให้อุ้ม เดี๋ยวมึงเอาลูกกูไป” คิงส์หวงลูกสาวมาก เพราะแกทั้งน่ารักขี้อ้อน ตัวอ้วนกลมแถมแก้มซาลาเปาหน้าหยิกเล่น ใครเห็นก็ต้องเป็นหลง โดยเฉพาะครามที่ชอบเด็กผู้หญิงตัวอ้วนๆ กลมๆ มาก“กูขออุ้มนิดเดียว มึงก็ยืนโด่อยู่ตรงนี้ กูจะเอาลูกมึงไปไหนได้”“มึงอยากได้ลูกผู้หญิงอีก ทำไมมึงถึงไม่ทำเอาเองล่ะ เหอะ! หรือว่าหมดน้ำยาแล้ว?” คิงส์หัวเราะเย้ยหยันคนตรงหน้า“น้ำยากูยังไม่หมดหรอก แต่เมียกูไม่ยอมมีลูกให้อีกนี่หว่า บอกว่ามีแค่สองคนก็พอแล้ว” ครามถอนหายใจเฮือกใหญ่“มึงมันไม่มีน้ำยาเองนี่หว่า”“แล้วมึงล่ะ ทำไมไม่มีอีก”“กูทำหมันแล้วจะมีได้ไงวะ คนอย่างกูอะมันน้
6 เดือนต่อมาบ้านแสนอบอุ่น“แอ้ แอ้” เสียงของน้องดารินดังอ้าวออกมาถึงข้างนอก ฉันชะโงกหน้าเข้าไปมองก็เห็นว่าแกกำลังนั่งเล่นอยู่กับพี่ชายอยู่ ส่วนคิงส์ก็คอยนั่งดูแลอยู่ข้างๆ ตอนนี้พากันหลงเด็กน้อยคนนี้ทั้งพี่ชายทั้งพ่อเลย“ดูท่าคุณหนูไทเกอร์กับคุณคิงส์จะพากันหลงคุณหนูดารินจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วนะคะเนี่ย” ป้าอิ่มพูดขึ้น“ใช่ค่ะป้าอิ่ม” สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือกลัวว่าพี่น้องจะไม่รักกัน กลัวว่าจะมีคนมาพูดทำพี่น้องทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วน้องไทเกอร์มีวุฒิภาวะของความเป็นพี่มาก คอยดูแลน้องอยู่ตลอด ทุกวันหลังเลิกเรียนก็จะมาเล่นอยู่กับน้อง อายุห่างกันมากไม่ใช่ปัญหาเลย ดีซะอีกที่จะมีพี่ชายคนโตคอยดูแลน้องสาวคนเล็กคนนี้น้องไทเกอร์แกเข้าใจดีว่าทำไมฉันถึงต้องดูแลเอาใจใส่น้องมากเป็นพิเศษ แต่ฉันก็ไม่เคยละเลยแกเลยสักครั้ง ฉันทำให้แกได้เห็นว่าต่อให้จะมีน้องอีกซักกี่คนความรักที่ฉันมีให้แกก็ยังเหมือนเดิม“แล้วคุณเดียร์ ไม่คิดจะมีคุณหนูอีกซักคนเหรอคะ”“ไม่ล่ะค่ะป้า เดียร์ผ่าคลอดน่ะค่ะคุณหมอบอกว่าถ้าท้องอีกอาจจะเสี่ยงแท้งต้องยุติการตั้งครรภ์ค่ะ เดียร์แพ้ยามากค่ะ โดยเฉพาะยาชากับยาสลบ”“ตายจร
โรงพยาบาล“ทำไมต้องวางยาสลบเธอด้วยล่ะครับหมอ ปกติแค่ผ่าคลอดให้แค่ยาชาก็ได้นี่นา” คนตัวสูงเอ่ยถามคุณหมอขณะที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ภายในห้อง“คนไข้แจ้งมาล่วงหน้าแล้วนะครับว่าแพ้ยาชา และการวางยาสลบแบบนี้มันจะปลอดภัยดีกว่านะครับ ถ้าคนไข้มีอาการแทรกซ้อนขณะที่กำลังผ่าคลอด อาจจะทำให้เป็นอันตรายทั้งแม่และเด็กได้ครับ”“เธอกับลูกจะปลอดภัยใช่ไหมครับหมอ มีกับลูกของผมจะปลอดภัยใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงสั่นคลอน กลัวว่าลูกและภรรยาจะเป็นอะไรไป ถึงจะรู้มาบ้างว่าเธอแพ้ยา แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะแพ้หนักขนาดนี้ และคำพูดของเดียร์พี่เคยพูดเอาไว้ก็ลอยเข้ามาในหัวของเขาทันที ( ตอนที่ฉันผ่าคลอดน้องไทเกอร์ ฉันแพ้ยาชาหนักมากจนหัวใจของฉันหยุดเต้นไปหลายครั้ง แต่ฉันก็กลับมาได้ในที่สุด )“ครับผม หมอรับรองครับว่าภรรยาและลูกของคุณจะต้องปลอดภัย”“…” ถึงคุณหมอจะยืนยันและรับรองแบบนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เขาสบายใจอยู่ดีคิงส์ยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ รอคุณหมอออกมาบอกข่าวดีกับเขาเวลาต่อมาแกร่ก~ประตูสีขาวบานใหญ่ถูกเปิดออกตามด้วยร่างสูงที่ใส่ชุดกาวน์ปิดหน้าปิดตาเดินออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของคิงส์“เมียกับลูกของผมเป็น
หลายวันต่อมา“อืม…”“เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหมแบบนี้” คิงส์เอ่ยถามภรรยาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พลางไล่บีบนวดตามขาให้เธอบรรเทาอาการปวด“ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ เฮ้อ..”“เมื่อไหร่จะคลอดครับลูกสาวพ่อหืม…พ่อตั้งหน้าตั้งตารอแล้วนะ รีบๆ ออกมานะครับ” ว่าแล้วก็พลางลูบที่ท้องใหญ่ไปมา“โอ๊ะ!?” เดียร์ร้องอุทานเพราะตกใจที่ลูกในท้องถีบอย่างแรงเมื่อคิงส์พูดจบ ราวกับว่ารับรู้ได้และอยากออกมาเต็มทนแล้ว เพียงแต่ยังไม่ครบกำหนดที่จะออกมาเท่านั้น“เป็นไร! จะคลอดเหรอ?” คิงส์เอ่ยถามด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงร้องของภรรยา“เปล่า ลูกดิ้นอะ ดิ้นแรงเลย” เดียร์บอก“เหรอ ขอจับหน่อยนะ” คิงส์เลื่อนมือไปสัมผัสกับหน้าท้องของเธออีกครั้ง เพราะอยากจะรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายในนั้น “ดิ้นจริงด้วย ดูสิถีบมือฉันใหญ่เลยอะ”เขาเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตในท้องใหญ่ของเธอ ดวงตาคมแดงก่ำราวกับคนกำลังจะร้องไห้ มือหนาก็ยังเลื่อนสัมผัสไปมาอยู่แบบนั้น“สงสัยแกจะได้ยินสิ่งที่คุณพูดนะ ดิ้นใหญ่เลย”“เหรอ…รีบๆ ออกมานะครับ พ่ออยากอุ้มอยากหอมแก้มหนูจะแย่แล้ว”ก๊อก ๆ ๆ ๆ“คุณพ่อคุณแม่ครับ นอนหรือยังครับ” เสียงเล็กๆ ด้านนอกตะโก