Mag-log inมื่อลูกเป็ดขี้เหร่อย่างมนสิชา ถูกแม่และน้องสาวทิ้งเธอไว้ใช้หนี้แทนที่ฮ่องกง แล้วหนีกลับไทย มาเฟียหนุ่มหัวหน้าแก๊งอันดับ1ของฮ่องกงถึงกับหน้าชา เมื่อนางบำเรอที่ต้องการกลับกลายเป็นห่านดำที่คอยกวนใจ
view moreณ ถนนเส้นเล็กๆทางลัดจากเมืองเกาลูนมายังเมืองฮ่องกง รถยนต์ทรงยุโรปสีดำเงาสามคันวิ่งเรียงตามกันมาด้วยความเร็วระดับปานกลาง
ด้านเบาะหลังรถยนต์คันที่สองนั้น มีชายร่างสูง ใบหน้าเรียบนิ่งนั่งมาในรถด้วยท่าทีที่เงียบสงบ แต่ว่าภายใต้แว่นกันแสงสีดำนั่น ดวงตาคมมองผ่านกระจกทึบสีดำออกนอกหน้าต่างอย่างระแวดระวัง
เส้นทางที่รถวิ่งผ่านมาดูโล่งตาจนผิดสังเกต เลนถนนฝั่งตรงข้ามว่างเปล่าไม่มีแม้แต่รถยนต์วิ่งสวนทางมาแม้แต่คันเดียว
ชายหนุ่มล้วงมือขวาเข้าในเสื้อสูทพร้อมกับดึงอาวุธปืนสีเงินมันวาวออกมาเตรียมพร้อม ท่าทางของชายหนุ่มทำให้ลูกน้องคนสนิทที่นั่งอยู่ด้านหน้าคนขับหันกลับมาถามเจ้านายด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือเปล่าครับนาย”
“โทรบอกคนของเราทุกคัน ให้ระวังตัวฉันมีลางสังหรณ์ว่าเราจะถูกลอบทำร้าย….”
พูดยังไม่ทันจบประโยค รถคันแรกก็เกิดยางระเบิด เสียหลักหมุนคว้างอยู่กลางถนน รถคันที่สองที่ชายหนุ่มนั่งมาถึงกับเบรกกะทันหันเสียงล้อรถลากไปกับพื้นจนเกิดแรงเสียดสีแล้วก็จอดนิ่งอยู่ห่างจากรถคันแรกไม่ไกล
เหล่าลูกน้องบอดี้การ์ดชุดดำที่นั่งมาในรถ ต่างรีบวิ่งมาที่รถเจ้านายพร้อมกับอาวุธปืนครบมือ ทุกคนยืนล้อมกรอบเจ้านายไว้เหมือนเอาตัวเองเป็นโล่ป้องกันภัย
“หวัง จางเหว่ย”
หัวหน้าแก๊งมังกรดำ มาเฟียอันดับหนึ่งในฮ่องกงที่แม้แต่นักการเมืองและตำรวจยังหวั่นๆ หากต้องมีเรื่องกับคนกลุ่มนี้ เขาขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งแทนพ่อของตัวเองที่ถูกฆ่าตายพร้อมกับแม่เมื่อ5ปีก่อนและยังตามจับคนร้ายไม่ได้ ความแค้นครั้งนั้นทำให้ชายหนุ่มจากที่เคยเป็นคนร่าเริงสดใส กลายเป็นคนเงียบขรึมและเย็นชาจนน่ากลัว
เขาตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะตามล่าไอ้คนชั่วมาตัดคอแล้วเอาเลือดมาล้างตีนให้ได้แทนบุพการีที่ล่วงลับไปแล้วให้ได้
“ปัง ปัง ปัง”
เสียงปืนที่ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับร่างของลูกน้องร่วงลงพื้นนอนแน่นิ่ง กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้งจนติดจมูก หวัง จางเหว่ย จึงบอกลูกน้องให้หาที่หลบกระสุนไม่ต้องห่วงตนเองแล้วก็ลุกขึ้นยืนตวัดปลายกระบอกปืนเล็งไปยังกลุ่มคนลึกลับ ที่แอบอยู่หลังต้นไม้ไม่ไกลจากที่เขายืนอยู่นัก
คมกระสุนวิ่งเจาะแขนพวกมันทีละคน ทีละคน แล้วพากันวิ่งหนีหายกันไปคนละทิศ คนละทางเพราะรู้แล้วว่าหากอยู่ต่อก็คงสู้ฝั่งของ หวัง จางเหว่ย ไม่ได้แน่นอน เหลือเพียงแค่ลูกกระจ๊อกที่นอนหายใจรวยรินใกล้ตาย
“ใครเป็นคนส่งแกมา”
จิน หั่ว ลูกน้องคนสนิทที่เป็นทั้งเลขา และมือขวาที่คอยติดตามหวัง จางเหว่ยมาตั้งแต่เด็กได้กระชากคอเสื้อชายคนดังกล่าวขึ้นมาถาม แต่ก็เปล่าประโยชน์ เมื่อมันพยายามกัดเม็ดยาแคปซูลสีเหลือง แล้วกลืนก่อนจะน้ำลายฟูมปาก ตาเบิกโพลง ชักกระตุก ตัวเกร็ง แล้วก็ตายไปต่อหน้าต่อตาโดยที่ จินหั่วยังไม่ทันได้รับคำตอบใดๆ
“มันตายแล้วครับคุณหวัง ผมคาดว่ามันน่าจะชิงฆ่าตัวตายก่อน เพราะดูจากที่มันพยายามกลืนยาแล้ว ผมคิดว่าถึงมันจะมีชีวิตรอดกลับไปมันก็คงตาย จากคนที่จ้างมันมา”
“ส่งคนของเราออกหาข่าว ตามสืบให้ได้ว่าใครที่มันต้องการให้ฉันตาย แล้วอย่าลืมให้ตำรวจเอายาที่มันกินไปพิสูจน์ด้วยว่าเป็นยาประเภทไหน”
“ผมว่ามันแปลกๆ นะครับ ตั้งแต่คุณหวังขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนนายท่านที่จากไป ผมก็ไม่เคยเห็นคนกลุ่มไหนตั้งตนเป็นปรปักษ์กับเราเลย แต่พอคุณหวังไปกว้านซื้อโรงแรมที่เกาลูนมา ก็เกิดเหตุการณ์นี้เลย ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ”
“ไม่แปลกหรอกจิน หั่ว ก็โรงแรมที่ฉันไปซื้อมา เบื้องหลังมันก็คือแหล่งค้ามนุษย์และก็แหล่งสาวขายบริการจากทั่วเอเชียที่ยอมแลกตัวเองเพื่อเงิน แล้วแกคิดว่าใครจะได้ผลประโยชน์จากตรงนี้มากที่สุดละ”
“ตำรวจ…..”
นั่นคือสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของมือขวาคนสนิท หากคุณหวังซื้อโรงแรมมาทั้งหมดแล้วเปลี่ยนภาพพจน์ใหม่ให้เป็นโรงแรมระดับห้า และเปิดกาสิโนแห่งใหม่ที่ถูกกฎหมาย คนที่เสียผลประโยชน์จากการรีดไถเงินค่าคุ้มครองจากกลุ่มคนที่หนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย รวมไปถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพลในละแวกนั้น ที่แม้จะทำท่าทางหวาดหวั่นเกรงกลัวต่อแก๊งมังกรดำ แต่ว่าลับหลังก็คอยแต่จะหักหลังเพื่อหวังผลประโยชน์
“แล้วคุณหวังรู้ได้ยังไงครับว่าเราจะถูกพวกนั้นลอบยิง”
“รถกระบะคันเก่าๆ ที่วิ่งสวนเราไป ตรงแยกเหิ่นฮ่าวนั้นไง ล้อรถข้างซ้ายฝั่งคนขับมันแบน แต่คนขับก็ยังฝืนขับต่อ ทั้งๆ ที่รถเราก็ขับผ่านแต่ไม่ยักเห็นโบกมือ หรือจอดรถขอความช่วยเหลือจากเรา เหมือนกำลังขับรถหนีความกลัวอะไรสักอย่าง และอีกอย่างปกติถนนเส้นนี้จะมีวิ่งรถสวนเลนไปมาตลอด แต่วันนี้แปลกมากที่ไม่มีรถสักคันวิ่งผ่านเราไปเลย”
หวัง จางเหว่ยพูดพร้อมกับเดินไปขึ้นรถที่ลูกน้องเตรียมรออยู่ไม่ไกล ซึ่งตอนนี้ตำรวจในพื้นที่ก็มาถึงที่เกิดเหตุได้สักพักแล้วกำลังเคลียร์พื้นที่แล้วเก็บหลักฐานเพื่อหาข้อมูลตามจับคนร้าย
“ลูกน้องของเราที่บาดเจ็บ นายช่วยจัดการค่ารักษาทั้งหมด และจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวเขาด้วย และให้พวกเขารักษาตัวจนกว่าจะหาย ค่อยกลับมาทำงานใหม่”
“ครับ คุณหวัง ส่วนเรื่องนี้ผมจะให้คนของเราไปสืบมาให้เร็วที่สุดครับ”
หวัง จางเหว่ยพยักหน้าให้ลูกน้อง แทนคำตอบ แล้วก็ปรับใบหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม ชีวิตที่ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชะตาชีวิตของเขาจะเป็นเหมือนพ่อหรือเปล่า ชีวิตที่สุขสบายทางกายแต่ไร้ความสุขทางใจ อยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางคมกระสุน
วันสุดท้ายของการมาเที่ยวที่เกาหลีกับกวิตา มนสิชาขอให้น้องสาวพามายังโรงแรมที่คิดว่าเจเลนพักอยู่เพราะเคยเห็นเขาออกมาจากโรงแรมดังกล่าวผ้าเช็ดหน้าที่เขาเอาพันฝ่ามือเธอในวันนั้น เธออยากเอามาคืน มนสิชาเลือกฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ของโรงแรม เพราะไม่อยากจะเจอหน้าเขาระหว่างเดินออกมาจากโรงแรมมนสิชาหันกลับไปเจอจินหั่วเดินออกมาจากลิฟต์และเดินอ้อมไปชั้นจอดรถด้านหลังโรงแรมพอดี เธอจึงให้กวิตายืนรอหน้าโรงแรม ส่วนตัวเธอก็เดินตามจินหั่วไป“ขอโทษที่ต้องให้รอครับคุณหวัง พอดีผมลืมแฟ้มสัญญาลูกค้าไว้เลยต้องเดินกลับไปเอาใหม่”“อือ ไม่เป็นไร ถ้าเรียบร้อยแล็วก็ไปกันเถอะ”จิน หั่ว รับคำพร้อมกับเดินไปเปิดประตูให้คนเป็นเจ้านาย“จิน หั่วพี่จางเหว่ย”เสียงสั่นเครือเรียกชื่อเขาออกมาเธอแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง กับการโกหกหลอกลวงของผู้ชายที่ตนเองรัก กับคนที่เธอคิดว่าไว้ใจมากที่สุด“เหม่ยอิง”“คุณเหม่ยอิง” พวกเขาเองก็ตกใจไม่ต่างกันมนสิชาไม่อาจฝืนทนยืนอยู
จางเหว่ยไม่ได้ทักทายผู้บริหารบริษัทเลยสักนิดแต่กลับเดินตรงลิ่วมาหาเจ้าของร่างเล็กที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับทุกคนที่มารอต้อนรับต่างยิ้มเก้อ ที่ผู้ร่วมลงทุนไม่ได้สนใจพวกเขาเลย“เหว่ยอิง พะ พี่ขอโทษ”ตั้งแต่เกิดมาเขาแทบจะเอ่ยคำขอโทษนับครั้งได้แต่กลับคนนี้เขาต้องระเว้นไว้มนสิชาตวัดสายตามอง จ้องมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อทั้งดีใจ ทั้งโกรธ แต่ก็เกลียดไม่ลง“มาในฐานะหวัง จางเหว่ย หรือเจเลนคะ แค่คำว่าขอโทษมันช่วยเอาความเสียใจ ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมากลับมาไม่ได้หรอกนะพี่รู้ไหมว่ามันทรมานแค่ไหนกับการที่ต้องเห็นคน ถูกระเบิดตายไปต่อหน้าต่อตา แล้วคน คนนั้นก็คือพี่ ทุกคนเข้าใจว่าพี่ตายไปแล้ว แต่วันนี้มันคืออะไร หุ่นโคลนนิ่งเหรอ”“แต่ที่พี่ ทำไปทั้งหมด มันก็มีเหตุผลนะ”“เหตุผลอะไรคะ มันใหญ่พอที่จะหักล้างกับการที่ต้องหลอกคนอื่นว่าตายไปแล้วไหมคะ”“ที่พี่ต้องทำแบบนี้ ก็เพราะพี่เป็นห่วงว่าถ้าเหม่ยอิง ยังอยู่รอบตัวพี่แล้วจะได้รับอันตราย แค่วันนั้นที่เอาตัวมาบังกระสุนให้พี่ แค่นั้นพี่ก็เจ็บเจียนตายแล้ว พ
หลังจากพิธีแต่งงานที่จัดขึ้นช่วงค่ำอย่างเรียบง่ายได้ผ่านพ้นไป เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกส่งตัวเข้าเรือนหอเปิดประตูเข้ามาได้ จางเหว่ยก็จู่โจมเธอทันทีหลังจากอดทนมานาน เขาสวมกอดจากทางด้านหลัง ระดมจูบหัวไหล่อย่างหิวกระหาย“เดี๋ยวค่ะพี่จางเหว่ยพี่ไม่เหนื่อยเหรอ เรายังไม่ได้อาบน้ำกันเลยนะ”มนสิชาหมุนตัวกลับมาถามผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทางนิตินัย แต่อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เขากับเธอก็จะเป็นของกันและกัน“หึ ไม่เหนื่อย เพราะพี่เก็บแรงไว้แล้ว แรงทำงานกับแรงทำเรื่องอย่างว่ามันเป็นคนละส่วนกันนะ” เขาบอกเธอยิ้มๆ“แต่พี่รู้ใช่ไหมว่า เหม่ยอิง เอ่อ...ไม่เคยเรื่องอย่างว่า”“ไม่รู้สิ พี่ยังไม่ได้ลอง ต่อให้พี่ไม่ใช่ผู้ชายคนแรก พี่ก็ไม่ได้รังเกียจ เพราะยังไง หัวใจพี่ก็รักผู้หญิงคนนี้ด้วยหัวใจ ไม่ใช่เพียงร่างกายอย่างเดียว”เขากอดเธอเพียงหลวมๆด้วยความสูงที่สูงกว่า เขาโน้มตัวลงมาจูบหน้าผากอย่างแผ่วเบา แล้วเลื่อนลงมาจูบริมฝีปากบางอมชมพู ที่เผยอรับการจุมพิตของเขาจากบทเพลงที่เข้าหาแบบจู่โจมแ
การ์ดในงานจะดึงตัวเธอออกไปแต่มนสิชายกมือห้ามบอกว่าเธอจะออกไปเอง กวิตาเดินเข้ามายืนตรงหน้าพี่สาว ที่หันหลังกลับออกมาจากจุดนั้น เธอเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายคนนั้นเหมือนกับคุณหวังราวกับเป็นคน คนเดียวกัน แต่ผู้ชายคนนั้นก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่คุณหวัง“พี่มน”“ตา พี่คิดถึงเขา คิดถึงมาก พี่จะทำยังไงดี พี่ลืมเขาไม่ได้”“โธ่ พี่มน”กวิตาเดินเข้าไปโอบกอดพี่สาวที่ตอนนี้ร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ เธอรับรู้ถึงความเจ็บปวดนั้นผ่านความเข้มแข็งที่พี่สาวแสดงออกมาเสมอ“พี่เคยคิดว่าพี่จะใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ ถ้าพี่ไม่มีเขาแต่ตอนนี้มันทรมานเหลือเกิน ภาพของเขายังคงวนเวียนอยู่พี่จะทำยังไง ฮือๆ”เสียงสะอื้นที่กลั้นไว้ ตอนนี้มันอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว หัวใจเธอมันเป็นแค่ก้อนเนื้อจะให้แข็งแกร่งแบบหินก็คงไม่ไหวภาพสองสาวยืนกอดกันร้องไห้อยู่ในสายตาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ที่เดิม เขาไม่ได้เดินหนีไปไหน ดวงตาคมที่จ้องมองกลับสั่นไหวขาทั้งสองข้างจะก้าวลงไปหาแต่ก็ยับยั้งไว้แล้วตัดสินใจหันหลังกลับเข้าไปยังห้องวีไอพีด้านหลังเหมือนเ