Share

ตอนที่ 9

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-12 10:13:34

<ใส่ชุดนี้ในวันแรกของการทำงานนะ เธอจะได้สดใสราวสีของชุด-คีริน>

เมื่อเจย่าเปิดดูข้อความในซองจดหมาย เธอก็ถึงกับยิ้มกว้าง เธอนึกว่าเขาลืมเธอไปแล้วเสียอีก มือเรียวดึงริบบิ้นออกอย่างรีบร้อน กล่องเปิดออกเผยให้เห็นชุดสีชมพูพาสเทลที่เธอลองใส่แล้วชอบเมื่อเช้า มันแบบเดียวและสีเดียวกันกับตัวนั้นเปะ

“นี่พี่คีรินรู้ได้ยังไงน่ะ ว่าเราก็เล็งชุดนี้ไว้เหมือนกัน” เธอกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกเขิน ก่อนรีบหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา

“โทรไปขอบคุณหน่อยดีกว่า” ทีแรกเธอก็ว่าจะอดใจไม่โทรหาเขาก่อน แต่เขาอุตส่าห์ส่งของมาให้แบบนี้ เธอก็อดใจไว้ไม่ได้แล้วจริงๆ

“อ้าว” รอยยิ้มบนใบหน้าของเจย่าหุบลงเมื่อเธอกดโทรออกไปที่เบอร์ของคีรินสองสามครั้ง แล้วเขาไม่รับสาย

“พี่มัวทำอะไรอยู่นะ” หลับแล้วเหรอ? หรือว่าดูงานค้างอยู่? หญิงสาวเลยได้แต่คิดไปต่างๆ นาๆ

ณ กรุงลอนดอนในตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่ ที่ยังไม่มีแม้แสงแดดสาดส่อง ในบ้านเช่าหลังหนึ่งบนโต๊ะของมุมนั่งเล่นเต็มไปด้วยจานอาหาร ของกินเล่น และขวดเบลีย์หนึ่งขวดพร้อมแก้วสองใบวางกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น เจ้าของผลงานทั้งสองก็กำลังนอนกอดกันกลมอยู่ตรงโซฟาตัวใหญ่ คีรินที่ตอนนี้กำลังเอาหน้าซุกเข้าที่ซอกคอของหญิงสาวตัวเล็กซึ่งกำลังยกแขนคล้องคอเขาเริ่มงัวเงียได้สติ

“อือหอมอะไร เฮ้ย!!” เขาดีดตัวลุกนั่ง ก่อนที่หญิงสาวจะตื่นแล้วลุกตามเขาขึ้นมา พลางเกาหัว ด้วยความมึนงง

“เกิดอะไรขึ้นคะ” เธอจ้องหน้าเขา เขาก็มองไปรอบๆ ก่อนจะนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อวาน

หลังกลับมาจากโรงพยาบาลหญิงสาวก็ชวนเขามาทานข้าวที่บ้าน โดยบอกว่าเธอจะทำอาหารให้เขาทาน โซเฟียเดินขากะเผลกไปที่ตู้เย็นเพื่อเปิดดูว่าคนของกาเบรียลซื้อของอะไรไว้ให้เธอบ้าง

‘โอ้โห่’เธอเผลออุทานออกมาเบาๆ เพราะตู้เย็นนั้นเต็มไปด้วยของไว้ทำกับข้าวเยอะแยะมากมาย และส่วนใหญ่ก็เป็นของดีที่เธอไม่เคยจะได้กินมาก่อนด้วยซ้ำ หญิงสาวหันไปมองที่ตู้เคาน์เตอร์ข้างๆ ซึ่งแง้มอยู่ ก่อนที่เธอจะตกใจเพราะมันมีขวดเบลีย์และไวน์อยู่ในนั้น นี่กาเบรียลกะจะให้เธอมอมแล้วรวบหัวรวบหางคุณคีรินเลยหรือไง โซเฟียคิดในใจเมื่อนับดูของในตู้ ก่อนรีบปิดมันไว้ตามเดิน พลันกลับไปหยิบของในตู้เย็นออกมา

‘คุณไหวแน่นะครับ ให้ผมทำให้ดีไหม’ คีรินที่นั่งมองแล้วเห็นว่าเธอดูจะเดินไปมาลำบากจึงเป็นห่วง

‘ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ฉันไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรแล้วน่ะไข้ก็ดูเหมือนจะไม่มีแล้วด้วย อีกอย่างฉันก็อยากทำกับข้าวเลี้ยงขอบคุณ คุณด้วย’ เธอเอ่ยกับเขาด้วยรอยยิ้มก่อนก้มมองของต่างๆ ที่หยิบมา ชายหนุ่มเลยลุกจากที่นั่งแล้วเข้าไปช่วยเธอ

‘งั้นคุณให้ผมช่วยหยิบจับของให้ดีกว่านะ ถึงคุณจะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว แต่อย่าลืมว่าหมอสั่งไม่ให้คุณใช้เท้าเยอะนะครับ’ คำพูดของเขามันทำให้โซเฟียหน้าร้อนผ่าว นี่เขาเป็นห่วงเธอเหรอ

‘ได้ค่ะ งั้นคุณช่วยหยิบถุงมันฝรั่งในตู้เย็นออกมาให้หน่อยนะคะ ฉันว่าจะทำไส้กรอกมันบด แล้วก็พายคอทเทจให้ทาน’ คีรินที่กำลังวุ่นหามันฝรั่งในตู้ หันมาจ้องหน้าเธอด้วยรอยยิ้มทันที

‘พายคอทเทจเหรอครับ ผมเคยทานนานมากแล้วนะ เคยคิดว่ากลับมารอบนี้ต้องหาทานอีกให้ได้ ไม่คิดว่าจะมีเพื่อนบ้านคนสวยมาทำให้ทานแบบนี้’ เขาว่าพลางค้นของในตู้ต่อ โดยไม่ได้หันมาสนใจคนที่ยิ้มให้เขาอย่างปิดไม่มิด

‘ค่ะ ให้ฉันทำให้คุณทานทุกวันเลยก็ได้นะ เพราะฉันทำเมนูนี้บ่อยมาก แม่ฉันชอบทานนะคะ’ เธอเอ่ยพร้อมบิดตัวไปมา ทำไมพูดเองถึงเขินเองซะได้ แล้วแบบนี้เธอจะจีบเขายังไงนะ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันทำอาหารและพูดคุยหยอกล้อกันไปมา เมื่อเสร็จจึงเดินเอามานั่งทานกันที่โต๊ะตัวเตี้ยตรงโซฟา

‘ขอโทษทีนะคะที่บ้านฉันยังไม่มีโต๊ะกินข้าวนะ’ เธอบอกกับเขา

‘ไม่เป็นไรหรอกครับ นั่งพื้นพิงโซฟาก็ดีไปอีกแบบ’

‘อ๋อ งั้นรอแป๊บหนึ่งนะคะ’ หญิงสาวค่อยๆ เดินไปที่ตู้เก็บเบลีย์หยิบขวดหนึ่งออกมาพร้อมกับแก้วสองใบ เธอเอาถาดมารองแล้วกดน้ำแข็งใส่แก้วทั้งสองเท่าๆ กันก่อนเดินมาทางเขา ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นจึงลุกไปช่วยเธอถือ

‘ผมช่วยครับ’

‘ขอบคุณค่ะ คือฉันได้เจ้านี้มาจากการจับฉลากที่ทำงานนะ แต่ยังหาเพื่อนดื่มไม่ได้ คุณช่วยจิบเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม’ เธอชักชวนด้วยคำโกหกพร้อมด้วยแววตาอ้อนๆ ทำคีรินยืนนิ่งเพราะใจของเขากำลังเต้นแรง

‘นะคะ จิบเพื่อมิตรภาพของเราไง’ ดวงตาคู่โตที่กำลังจ้องมายังชายหนุ่ม แพขนตายาวสวยนั่นมันทำให้เขาไม่สามารถจะเอ่ยปฏิเสธได้

‘ถ้าแค่จิบๆ กัน ก็ได้อยู่ครับ’

‘อืม ขอบคุณค่ะ’

‘ทำไมคุณถึงได้มาอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอคะคุณคีริน’ เมื่อทานข้าวกันไปได้พอประมาณเธอก็หาเรื่องมาถามเขา แม้เธอจะรู้จากประวัติที่กาเบรียลให้มาแล้ว แต่เพื่อจะตีสนิท โซเฟียก็ต้องแกล้งทำเป็นว่าเธอไม่รู้

‘อ๋อ พอดีผมต้องมาดูแลบริษัทแทนหุ้นส่วนใหญ่ที่เขาไม่สบายน่ะครับ ตอนแรกพ่อผมก็ว่าจะให้ไปอยู่ที่บ้านของหุ้นส่วน แต่ผมเกรงใจเลยขอออกมาหาบ้านเช่าอยู่ดีกว่า’ เขาเอ่ยสายตายังคงจดจ่อกับอาหารในจาน ก่อนที่จะเงยหน้ามองตอนหญิงสาวถามบางอย่างกับเขาอีก

‘แล้วอยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอ’ คีรินเงยหน้าขึ้นมาทำให้สบตาเข้ากับเธอ ทั้งคู่ชะงักนิ่งไปครู่เดียวแล้วยิ้มออกมาพร้อมกัน

‘ตอนแรกผมก็รู้สึกนะ เพราะว่าตอนอยู่ที่บ้าน เราจะอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่’ เสียงของเขาดูเศร้าๆ เหงาๆ เล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นติดขำนิดๆ

‘แต่ตอนนี้ผมคงจะไม่เหงาแล้วแหละ ก็มีคุณมานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนแล้วนี่’ คำพูดที่ไม่ค่อยใส่ใจของคีรินกลับทำใจของโซเฟียเต้นแรงแล้วแรงอีกเกือบไม่ได้ผ่อน หญิงสาวหน้าแดงออกมาจนเขารับรู้ได้

‘คุณนี่เขินง่ายจังนะครับ’ เขาแซวเบาๆ พร้อมตักอาหารใส่ปาก โซเฟียก็อมยิ้มจ้องเขาแววตาอายๆ

‘คุณก็….’ เธอถึงกับพูดไม่ออก เห็นเขาดูนิ่งๆ ไม่คิดว่าจะแอบปากหวานขนาดนี้

‘งั้นวันหลังเรามาทานข้าวด้วยกันทุกวันเลยดีไหมคะ’ เธอว่าเมื่อละลายความเคอะเขินพวกนั้นออกไปได้แล้ว

‘ได้สิครับ วันนี้คุณเลี้ยงผมแล้วไว้วันหลังผมขอเลี้ยงคุณบ้างนะ’

‘อือ งั้นเราชนแก้วกันหน่อยดีไหม’เธอหยิบแก้วเบลีย์ของตัวเองขึ้นมา ‘เพื่อเป็นคำสัญญาว่าคุณจะไม่หลอกฉัน เรื่องจะเลี้ยงข้าว’ ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน ก่อนชนแก้วแล้วยกจิบ คีรินรับรู้ได้ว่าเขาดูจะเข้ากับโซเฟียได้ง่ายเป็นพิเศษอย่างน่าประหลาด

‘แล้วคุณโซเฟียล่ะครับ เป็นผู้หญิงแต่ทำไมถึงได้มาเช่าบ้านอยู่คนเดียวแบบนี้ล่ะ’ หญิงสาวได้ฟังเช่นนั้นเธอก็ชะงักไป พึ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้เตรียมคำโกหกต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้เลย คิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็ก้มหน้างุดทำเป็นว่าตัวเองกำลังเศร้า

‘คือว่าฉัน…ฉันมาทำงานที่ร้านเสื้อผ้าแถวนี้นะคะ เลยมาเช่าบ้านที่นี่เพราะมันใกล้สามารถเดินเท้าไปถึงรถไฟได้ อีกอย่างครอบครัวฉันก็มีแค่ฉันกับแม่ ตอนนี้แม่ฉันท่านอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะต้องรักษาอาการอัมพาตครึ่งซีกนะ’ เธอบอกเขาไปแค่นั้นพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆ ซึ่งทำให้คีรินรับรู้ได้ว่าเธออาจมีเรื่องอะไรไม่สบายใจอยู่ เขาเลยจับแก้วน้ำสีน้ำตาลครีมนั้นขึ้นมาขอชนกับเธออีกรอบ เมื่อจิบเสร็จก็ได้พูดกับเธอต่อ

‘ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ คุณสามารถระบายกับผมได้ตลอดนะครับ เราเป็นเพื่อนกันแล้วนี่’ คำพูดของเขามันทำให้โซเฟียประทับใจเอามากๆ ทำไมเขาถึงได้เป็นคนดีแบบนี้ล่ะ

‘แน่นอนค่ะ คุณเพื่อนบ้าน’ หญิงสาวเผยยิ้มกว้างอีกครั้งพร้อมยกแก้วขึ้นมาชน จากนั้นบรรยากาศก็เงียบไปราวทั้งคู่มีอะไรที่กำลังก่อเกิดในใจ และต้องคิดตาม พวกเขาจ้องกันเป็นพักๆ พลันหลบสายตาด้วยการหยิบแก้วเบลีย์ขึ้นจิบแก้เขิน

ทั้งสองนั่งจิบเบลีย์เพื่อมิตรภาพกันอยู่ไม่นานก็เริ่มไร้สติ เนื่องจากพวกเขาคออ่อนทั้งคู่ จากที่นั่งกันคนละฝั่งของโต๊ะตัวเตี้ย ตอนนี้กลับมานั่งเอาหลังพิงโซฟาอยู่ข้างกัน สีหน้าแววตาดูกึ่งหลับกึ่งตื่น ท่าทีสะลึมสะลือแหงนคอยิ้มมองเพดาน

‘คุณคีรินมีคนรักหรือยังคะ’ หญิงสาวถามกับเขาซึ่งชายหนุ่มก็เอาแต่เงียบ จนเธอหันไปมอง โซเฟียเห็นว่าเขานั้นหลับไปแล้ว หญิงสาวถือโอกาสขยับเข้าไปมองเขาใกล้ๆ ไล่มองตั้งแต่ไรผมตรงหน้าผากลงมาตามสันจมูกโด่ง ก่อนที่เธอจะสะดุดอยู่ตรงริมฝีปากของเขา

‘คนอะไรหล่อจัง’ เธอเอ่ยเสียงแผ่วพลางใช้มือปัดปอยผมของตัวเองที่เกะกะออกไป แล้วค่อยๆ เลื่อนใบหน้าของเธอเข้าไปใกล้ ริมฝีปากอิ่มประกบเบาๆ ลงที่มุมปากของชายหนุ่ม

‘นุ่มนิ่มมากเลย’ คนเมายิ้มอย่างชอบใจที่ได้ขโมยจุ๊บเขา เธอกำลังจะก้มลงไปเพื่อจุ๊บเขาอีกครั้งแต่ภาพก็ตัดสลบเหมือดคาอกเขาไปเสียก่อน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 29

    ณ บ้านพักในย่านแอ็คตัน คีรินนอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่ที่โซฟาในบ้านในใจพลางนึกถึงเรื่องวันนั้น ‘ฉันขอโทษ’ วันที่เขาแอบเห็นว่าโซเฟียใส่ผงอะไรบางอย่างลงไปในแก้วเบลีย์ที่ให้เขาดื่ม แต่กระนั้นตัวเขาก็ยังไว้ใจเธอยอมดื่มไปถึงครึ่งแก้วและจึงรู้ว่ามันคือยานอนหลับ เวลานั้นตอนที่สลบไปเขายังมีสติแม้จะกึ่งหลับกึ่งตื่นเพราะฤทธิ์ยาแต่ก็พอจะรับรู้ได้รางๆ ว่าโซเฟียเอาแต่พูดขอโทษเธอร้องไห้ด้วย ส่วนคำพูดอื่นเขากลับจำไม่ได้ว่ามันคือคำว่าอะไรบ้าง เพราะเขาทนฤทธิ์ยานอนหลับไม่ไหวจึงหลับสนิทตื่นขึ้นมาอีกทีก็เช้าแล้วพร้อมกับเห็นว่าเธอและเขานอนร่วมกันอยู่ที่เตียงโดยไม่มีอะไรมาปิดบังร่างกาย “พ่อของเธอสั่งให้ทำแบบนั้นเหรอ? แล้วความรู้สึกของเธอที่มีต่อฉัน มันคือของจริงไหม” เขาหลับตาลงช้าๆ ราวกับพยายามลบภาพทุกอย่างในหัว แต่เสียงเธอในคืนนั้นยังคงวนเวียนอยู่ ‘ฉันขอโทษ... อย่าเกลียดฉันเลยนะคะ’ คีรินลุกขึ้นจากโซฟา พ่นลมหายใจหนักเหมือนจะปล่อยบางอย่างทิ้งไปกับอากาศ แต่หัวใจกลับตะโกนว่า “ฉันต้องรู้ให้ได้ ว่าเธอรักฉันจริง หรือแค่เล่นละครเก่ง” “คุณคีรินคะ” ชายหนุ่มรีบหันไปมองเสียงเรียก พบว่าหญิงสาวกำลังเดินเข้ามาในบ้าน

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 28

    ณ งานเลี้ยงของเหล่านักธุรกิจบนดาดฟ้าของตึกคอนโดสูงใจกลางเมือง แขกของงานหนึ่งในนั้นก็คือเขา คีริน หลังจากที่ชายหนุ่มเดินคุยกับคู่ค้าและคนรู้จักเสร็จ เขาก็ปลีกตัวออกมายืนเหม่อมองทิวทัศของเมืองใหญ่ ในหัวเอาแต่คิดเห็นเธอคนที่เขาเริ่มมีใจนั่งรถเข้าไปในโรงแรมกับชายอื่น ยิ่งคิดมันก็ยิ่งปวดร้าวจนเข่าแทบทรุด มือที่ถือแก้วไวน์อยู่กำแน่น เรื่องนี้เขาคิดไว้บ้างแล้วและตั้งใจว่าจะไม่โกรธเธอ แต่พอมาเจอเข้าจริงเขาก็อาจจะเป็นหนุ่มใจเย็นแบบที่เขาคิดไว้ไม่ได้ “สวัสดีครับคุณอนาวิน” เสียงของใครบางคนทำเขาหลุดจากห้วงความคิด คีรินรีบหันไปจ้องมอง จึงเห็นว่าตรงหน้าคือ กาเบรียล ลาวาเลนเต้ แต่ที่ทำเขาตกใจไปกว่านั้นเห็นจะเป็น โซเฟียที่กำลังยืนก้มหน้าใส่ชุดเดรสสีขาวลูกไม้ยืนอยู่ข้างๆ ชายแก่ตรงหน้าเขาและสายตาของเขาก็เผลอมองเธอนานเกินกว่าที่ควรเป็น เธอสวยจนทำให้เขาลืมว่าควรจะโกรธ ลืมแม้กระทั่งความคิดในหัวของตัวเขาเมื่อครู่ “สวัสดีครับ คุณกาเบรียล” เขารีบมีสติแล้วยื่นมือไปจับทักทายกาเบรียล ตามประสาคนรู้จัก แต่หางตาก็ยังไม่ละจากสาวสวยที่คุ้นเคย “อ๋อ คนนี้โซเฟีย เธอเป็นลูกสาวนอกสมรสของผมเองครับ” คำแนะนำของชายแก่ทำใ

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 27

    สองร่างเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยกันโดยที่คีรินดูจะตัวติดเดินใกล้เธอไม่ห่าง จนโซเฟียเริ่มใจเต้นแรงอยู่ไม่สุข “เอ้อ คุณคีริน ไม่ต้องเดินใกล้ขนาดนี้ก็ได้มั้งคะ” โซเฟียหยุดเดินเขาก็เดินเอาตัวมาแนบจนร่างชิดกัน หญิงสาวต้องหันไปพูดกับเขาด้วยท่าทีเขินๆ “ทำไมล่ะครับ เราเป็นผัวเมียกันแล้วนี้” เขาว่าพลางจับปลายคางของเธอเสยขึ้น ทำเอาโซเฟียหน้าแดงต้องรีบปัดออก “บ้า นี่คุณเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” เธออายจนต้องรีบเปิดประตูเข้าห้องพักของแม่ไป คีรินมองตามแววตาของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จะเดินตามเธอ “เป็นยังไงบ้างครับ” เขาเดินเข้ามาเห็นเธอคุยอยู่กับพยาบาลในห้องก็เดินเข้าไปถาม “คุณพยาบาลบอกว่าแม่ยังไม่ได้สติเลยค่ะ” โซเฟียมีสีหน้าซีดลงก่อนที่เธอจะเหลือบไปมองหน้าคนบนเตียง คีรินยื่นมือลูบหลังเธอ “ไม่เป็นไรนะครับ ท่านปลอดภัยแล้ว พักผ่อนอีกสักหน่อย คงจะฟื้นขึ้นมาเอง นี่ก็แค่วันเดียวเองนี้” โซเฟียเงยมองเขาพร้อมพยักหน้า ก่อนเธอจะรับรู้ได้ว่ามือถือในกระเป๋ากำลังสั่น “ฉันขอออกไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” หญิงสาวเดินออกมาพลางหยิบมือถือออกจากกระเป๋าพอเห็นว่าเป็นเบอร์ของใครเธอก็รีบเดินหลบไปหาที่เงียบ

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 26

    “เบอร์พี่คิน…” เธอนั่งเงียบจ้องไปที่จอมือถือ เขาโทรมาทำไม? จะโทรมาพูดเรื่องเมื่อคืนเหรอ? หรืออะไร หญิงสาวหน้าแดงแจ๋เมื่อแอบคิดไปไกล จนสายจากเขาถูกตัดไปเอง ก่อนจะเด้งขึ้นเป็นข้อความเข้ามาแทน หลังเธออ่านข้อความบนจอจบเขาก็โทรเข้ามาอีกรอบจนเธอเผลอกดรับอย่างไม่ได้ตั้งตัว เจย่าหน้าเจื่อนไปในทันทีแต่ก็จำต้องยกมือถือขึ้นแนบหู แต่เขากลับไม่พูดอะไรมีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆ ดังแทรกเข้ามา “มีอะไรคะ โทรมาแล้วทำไมไม่พูด” เธอจึงตัดความเงียบด้วยการถามเขาก่อน [“พี่นึกว่าเธอเองก็จะไม่พูดกับพี่ด้วยเหมือนกันแหะ เป็นยังไงบ้าง”] เจย่าขมวดคิ้ว “หมายถึงอะไรเป็นยังไงบ้าง” เธอสวนเพราะอยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรเกี่ยวกับคืนนั้นหรือเปล่า ปลายสายจึงเงียบไปอีกรอบ [“ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดถึงอยากได้ยินเสียง”] เขาว่าเจย่าเผลออมยิ้ม ตาบ้านี้จะมาหยอดอะไรอีกล่ะ [“เตรียมของหรือยัง วันจันทร์นี้อย่าลืมว่าต้องไปชุมพรกับพี่นะ”] “จำได้แล้วน่า เจไม่ใช่ปลาทองนะไม่ลืมหรอก” เธอตอบกลับเขาเชิงประชด [“ก็ดี งั้นวันจันทร์หกโมงเช้าพี่จะไปรับที่บ้านนะ เราจะเอารถไปเอง”] “ห๊า!!!” เจย่าตาเบิกกว้างนี้เธอจะต้

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 25

    ณ บ้านพักที่ลอนดอนในช่วงเย็น หลังจากที่นาตาเลียผ่าตัดเสร็จ โซเฟียก็ขอให้คีรินพากลับบ้าน “คุณโอเคไหม อยู่คนเดียวได้แน่นะ” เขาถามเธอด้วยความเป็นห่วง เพราะยังเห็นว่าเธอน้ำตาคลอและซึมอยู่เลย “ไปอยู่ที่บ้านผมก่อนดีไหม” หญิงสาวรีบหันมาส่ายหน้าให้ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากจะคิดอะไรเงียบๆ สักพักนะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง” เธอตอบแต่ก็ไม่มองหน้าเขา คีรินเห็นแบบนั้นเขาก็ไม่เป็นสุขใจเลย “ถ้างั้น เย็นนี้ผมจะทำอาหารมาทานที่บ้านคุณนะครับ ได้ไหม? ผมกลัวว่าคุณจะไม่ทานข้าว” เขาเอ่ยอย่างห่วงใย หญิงสาวจึงพยักหน้า “ถ้าจะมาอย่าลืมโทรบอกก่อนนะคะ เผื่อว่าฉันจะเผลอหลับนะ” “ครับ” เขาทำได้เพียงมองดูเธอเดินเข้าบ้านไป เธอโทรหาใครตอนที่อยู่โรงพยาบาล ใช่ที่บอกว่าคุยกับพ่อไหม? ทำไมสายตาเธอถึงดูมีความลังเลบางอย่างแฝงอยู่ตั้งแต่ตอนนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะสงสัยเพียงใด คีรินก็จำเป็นต้องเดินกลับบ้านตัวเองไปก่อน ร่างของโซเฟียเข้ามานั่งลงที่มุมโต๊ะตัวเตี้ย เอาหลังพิงกับตัวของโซฟาแววตาของเธอเหม่อลอยเพราะยังคิดไม่ตกกับเรื่องที่จะต้องทำ เธอนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นนานโข “คุณจะโกรธจะเกลียดฉันไหมคะ” เธอบ่นพลางนึกถึงใบหน้าและรอยยิ้มขอ

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 24

    โรงพยาบาล “ฮัลโหลทำไมคุณพึ่งมารับสายคะ หนูโทรหาคุณทั้งคืนทำไมคุณถึงไม่รับ” โซเฟียเอ่ยกับปลายสายทั้งน้ำตา [“ฉันคงมีเวลาว่างมารอรับโทรศัพท์จากแกยี่สิบสี่ชั่วโมงมั้งโซเฟีย”] แต่เขากลับตอบกลับมาอย่างไม่แยแส “เมื่อคืนแม่ของหนูช็อก หมอทำ CT เพิ่มแล้วบอกว่ามีเลือดออกในสมอง ต้องรีบผ่าตัดด่วน... แต่หมอที่ดูแลบอกว่าถ้าจะให้ผ่าเลย ต้องเคลียร์ค่ารักษาของสองเดือนที่แล้วก่อน เพราะเราพาแม่มาอยู่ใน Private Ward ตั้งแต่แรก และคุณก็ยังค้างค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ เขาบอกว่าจะผ่าให้ทันที ถ้าเราจ่ายเงินที่ติดอยู่ก่อน” เธอพูดไปร้องไห้ไป “ทำไมคุณทำแบบนี้ ไหนคุณบอกหนูว่าจ่ายให้ทุกเดือนไง คุณโกหกหลอกใช้หนูมาตลอดเลยเหรอ” เธอต่อว่าปลายสายอย่างเรียกร้อง เธอทำทุกอย่างที่เขาอยากให้ทำพร้อมข้อตกลงเสียดิบดีแต่เขากลับไม่ปฏิบัติตามที่เขาเคยพูด [“แล้วจะทำไม ถ้าแกอยากให้ฉันจ่ายก็รีบรวบหัวรวบหางไอ้อนาวินนั่นให้ฉันสักทีสิ”] โซเฟียปล่อยโฮ ทำไมเขาถึงใช้วิธีนี้มาบีบเธอ “ฮื้อ~ ก็ได้ หนูจะทำให้สาแก่ใจคุณไปเลย เพราะฉะนั้นคุณต้องทำการจ่ายเงินค่ารักษาให้แม่หนูเดี๋ยวนี้! แล้วหนูจะรีบทำให้” เธอยื่นข้อเสนอให้เขาเป็นเชิงขู่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status