共有

ตอนที่ 8

last update 最終更新日: 2025-09-11 20:19:18

ณ บ้านสองชั้นทรงโมเดิร์นที่ตั้งเรียงรายกันไปตามริมถนน เวลาแสงแดดยามเย็นกำลังสวยงามพร้อมลาขอบฟ้า คีรินหลังจากเคลียร์งานที่เขาเอามาศึกษาต่อบนห้องทำงานเสร็จ ได้เดินลงมาสูดอากาศด้านนอก ชายหนุ่มมองไปที่ข้างบ้านซึ่งเป็นบ้านของสาวผมบลอนด์คนนั้นพลางเผยยิ้มเบาๆ

“นี่ฉันกำลังเป็นอะไรเนี่ย” เขาบ่นให้กับความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อนพลางส่ายหน้าพัลวัน

โคร่ม!!! เสียงดังจากบ้านหลังนั้นทำคีรินชะงักหันพรวดไปจ้องอีกรอบ

“คุณ!!!” ชายหนุ่มรีบเดินไปเกาะรั้วแล้วเรียกชื่อของเธอ

“คุณโซเฟีย! คุณครับ!!” สายตาคมรีบสอดส่องเข้าไปในบ้านทุกช่องทางที่จะทำได้เพราะแอบเป็นห่วงว่าคนในบ้านจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า

“ทำไมเธอไม่ตอบ เอะ!” เขาเห็นแวบหนึ่งว่าร่างเล็กด้านในล้มลงไปกองกับพื้น ขายาวพลันสาววิ่งมาที่รั้วหน้าบ้าน คีรินดึงประตูรั้วสีขาวหน้าบ้านโซเฟีย พอเห็นว่าเธอไม่ได้ล็อกพอดี เลยเปิดและวิ่งเข้าไป

“คุณ!! คุณโซเฟีย!” เขาตกใจมากที่เห็นว่าหญิงสาวนอนล้มอยู่กลางบ้าน คีรินรีบคุกเข่าลงสำรวจ จึงเห็นว่าเท้าของเธอนั้นบวมแดงแถมตัวก็ยังร้อนอีกด้วย

“คุณมีไข้นี่!!” เขาซ้อนร่างเล็กขึ้นมาในอ้อมแขนทันที พลันรีบพามาขึ้นรถที่บ้านของเขาแล้วขับออกไปส่งโรงพยาบาล

“อือ” โซเฟียงัวเงียตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าและสับสนเธอยืดแขนบิดขี้เกียจไปหนึ่งทีก่อนจะลืมตาขึ้น พร้อมกับความตกใจที่เห็นว่าชายหนุ่ม ผู้กำลังวิ่งเล่นในหัวใจเธอยืนส่งยิ้มให้อยู่

“น่ารักจัง” คีรินสบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดอย่างลืมตัว ทำให้โซเฟียที่ตกใจดีดตัวลุกนั่งอยู่นั้นเอียงคอมองเขาด้วยความสงสัย

“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรเหรอคะ” ชายหนุ่มนิ่งชะงักไปก่อนหันมามองเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เปล่าหรอก ว่าแต่คุณเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหม เพลียหรือเปล่าแล้วขายังรู้สึกเจ็บไหมครับ” หญิงสาวรีบก้มสำรวจตัวเองตามที่เขาถามก่อนส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่เท่าไหร่แล้วนะคะ แต่ตอนที่อยู่บ้านนะเจ็บมากเลย ตัวก็ร้อนด้วย” เธอบอกพร้อมรอยยิ้มแตะมุมปากทุกครั้งที่มองหน้าเขา

“คุณหมดสติไปนะเพราะมีไข้ ตอนนี้หมอให้ยาลดไข้กับแก้อักเสบที่ข้อเท้าให้แล้ว”

“ไม่น่าล่ะไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แล้วค่ะ ว่าแต่คุณเป็นคนพาฉันมาส่งที่นีเหรอ” คีรินพยักหน้าให้พร้อมมองตาเธอที่กำลังจ้องเขาด้วยใบหน้าแดงๆ

“ถ้างั้นเรากลับกันเลยไหมครับ นี่มันก็จะดึกแล้วนะ” เขาเอ่ยชวนอย่างเกๆ กังๆ โซเฟียมองดูด้วยความชอบก่อนเธอจะเอะใจได้

“เอ้อ! นี่ฉันหลับไปนานมากเลยเหรอคะ”

“ก็สามชั่วโมงพอดีนะ หมอเขาบอกว่าถ้าคุณตื่นแล้วและอาการดีขึ้นไม่ได้เป็นอะไรมากก็ให้กลับบ้านได้เลย ผมก็เลยรอคุณตื่นก่อน กลัวว่าคุณจะกลับบ้านเองไม่ไหว” หญิงสาวมองเขาด้วยความซาบซึ้ง

“ทำไมคุณไม่ปลุกฉันล่ะคะ ช่างเป็นคนดีอะไรแบบนี้ งั้นเรากลับกันเถอะค่ะ ถึงบ้านแล้วให้ฉันทำกับข้าวเลี้ยงนะคะ” ชายหนุ่มนิ่งไปครู่ เขาพยักหน้ารับ ก่อนเข้ามาพยุงเธอที่กำลังจะลุก

“ค่อยๆ เดินนะครับหมอบอกว่าคุณยังใช้ขาที่เจ็บมากไม่ได้นะ เดี๋ยวมันจะอักเสบเพิ่ม”

“ขอบคุณค่ะ ว้ายๆ” หญิงสาวเดินเซถลารีบคว้าเอวของคีรินอย่างลืมตัว ทำให้ตัวเขาขยับเข้าไปชิดเธอ จมูกโด่งของทั้งคู่แนบเข้าหากันอย่างไม่ได้นัดหมาย เสียงลมหายใจดังแผ่วๆ ราวพวกเขากำลังกลั้นหายใจ ดวงตาสบกันเปล่งประกายดั่งดวงดาวบนท้องฟ้ายามราตรี ตึกตักๆ

“เอ้อ ขอโทษค่ะ” เธอค่อยๆ ดันตัวเองออกจากเขาอย่างนึกเสียดาย ทั้งคู่หันหน้าหนีกันไปคนละทางเพราะต่างคนต่างเขินอายให้อีกฝ่าย

“ไม่เป็นไรครับ ผมว่าเราค่อยๆ เดินกันไปเถอะนะ” คีรินหันกลับไปจ้องที่หญิงสาวอีกครั้งพลางจับมือเธอมาคล้องแขนเขาไว้ เพื่อไม่ให้เธอเสียหลักจะล้มลงไปอีก

“ขอบคุณมากเลยนะคะ ฉันนี่ซุ่มซ่ามจังเลย” ทั้งคู่เดินไปพร้อมคุยกันไป

“ไม่เป็นไรครับ น่ารักดีออก” หญิงสาวชะงักเงยหน้ามองเขาด้วยใบหน้าแดง

“จริงเหรอคะ เป็นครั้งแรกเลยนะที่มีใครมาชมฉันแบบนี้”

“เหรอครับ ถ้าอยู่ใกล้ผม อาจจะได้ยินผมเผลอชมคุณทุกวันเลยก็ได้” โซเฟียหน้าร้อนเขินเขาจนพูดไม่ออก แทนที่เธอควรจะหยอดเขาไปให้มากกว่านี้แท้ๆ แต่เธอดันมาเสียอาการเพราะเขาชมเธอตามมารยาทเนี่ยน่ะ หญิงสาวกอดแขนเขาไว้แน่น พลางก้มหน้ามองพื้นยังไม่กล้าแม้จะสบสายตากับเขาด้วยซ้ำ

บ้านฤทธา

“มานั่งเศร้าอะไรอยู่ตรงนี้ลูกสาวพ่อ” หลังทานข้าวเย็นเสร็จจิรกิตติ์ที่เห็นว่าลูกสาวแอบเดินออกมานั่งเงียบๆ คนเดียวที่สวนหลังบ้าน เขาจึงเดินออกมาหา

“พี่แจมมี่พาหลานๆ กลับหมดแล้วเจก็เลยไม่มีคนให้คุยด้วยเฉยๆ ค่ะ” เธอหันมามองพ่อที่ย่อนก้นลงนั่งข้างๆ กันที่ม้านั่ง

“จริงสินะ แป๊บๆ ลูกๆ ของพ่อก็โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว” จิรกิตติ์เงยหน้ามองท้องฟ้า “วันนั้นที่พี่สาวของลูกเกิดพ่อยังจำได้ดีเหมือนว่ามันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้อยู่เลย พอมาวันนี้แจมมี่ดันมีสามีและมีหลานให้พ่อ แถมไม่ได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับพ่อและแม่อีกแล้ว” เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่มีแววตาที่พึงพอใจอยู่ไม่น้อย “ลูกสาวที่เคยวิ่งเล่นอยู่บ้านนี้กลายเป็นเหมือนแขกของบ้านทุกครั้งที่กลับมา และทิ้งความคิดถึงเอาไว้เมื่อเธอต้องกลับไป” เจย่ามองคุณพ่อของเธอด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

“ไม่เอาสิคะคุณพ่อ พูดแบบนี้เดี๋ยวเจก็จะอยู่เกาะคุณพ่อกินไปจนตายหรอก” จิรกิตติ์หันมายิ้มให้ลูก

“ไม่ได้ ปีนี้ลูกก็ 24 แล้วนี่” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความเป็นห่วงและหวงอยู่นิดๆ “ถึงพ่อจะอยากเก็บลูกไว้ให้อยู่กับพ่อกับแม่มากแค่ไหน พ่อก็คงทำแบบนั้นไม่ได้” เขายกมือขึ้นลูบหัวของเธอ

“แต่พ่อขอให้ลูก เลือกคนที่จะมาอยู่ด้วยกัน ด้วยหัวใจของลูกนะเข้าใจไหม คนที่ลูกรักเขาแล้วเขาก็ต้องรักลูก” เจย่ามองหน้าพ่อด้วยแววตาซาบซึ้ง

“คนคนนั้นไม่ต้องดีไปหมดทุกอย่างก็ได้ ขอแค่เขาดีกับลูกพ่อทุกอย่างก็พอ” ประโยคนี้มันทำให้เจย่าอดนึกถึงพี่คีริน พี่ชายแสนดีของเธอไม่ได้ หญิงสาวยิ้มเขินแล้วกระซิบพูดกับพ่อเสียงเบา

“แล้วถ้าเป็นพี่คีรินล่ะคะ คุณพ่อว่าพอได้ไหม” จิรกิตติ์เลิกคิ้วในทันที พลางถามลูกกลับด้วยความสับสน

“คนที่ลูกอยากจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตคือคีรินจริงๆ เหรอลูก พ่อคิดว่าลูกแค่ปลื้มเขา แล้วพี่เขาก็เป็นแค่คนที่ลูกชอบในวัยเด็กเสียอีก” คำถามของบิดาอดสร้างความลังเลในใจให้หญิงสาวไม่ได้

“แต่ว่าตั้งแต่เกิดมาผู้ชายที่ดีกับเจที่สุดรองจากคุณพ่อแล้วก็พี่จอน ดูเหมือนจะมีแค่พี่คีรินนี่ค่ะ”ใช่! ก็เขาอบอุ่นกับเธอที่สุด จนเธอไม่เคยคิดจะไปชอบใครเลยตั้งแต่เล็กจนโตเพราะว่าเธอยึดเอาคีรินเป็นต้นแบบของผู้ชายที่เธอชอบ

“แต่ความดีกับความรักมันไม่ใช่สิ่งเดียวกันหรอกนะลูก” คำพูดนี้ของพ่อทำเจย่าหลุดจากความคิดแล้วหันมาสบตาด้วยอีกครั้ง “บางทีคนที่ดีกับเราก็อาจจะไม่ใช่คนที่เรารักจริงๆ ส่วนคนที่เรารักเขาก็อาจจะไม่ได้ดีกับเราเสมอไปนะ พ่อไม่อยากให้ลูกสับสนน่ะเจย่า” คนฟังก้มหน้าดั่งคิดตามคำที่พ่อบอก

“แล้วจะต้องทำยังไงเราถึงจะไม่สับสนล่ะคะ” จิรกิตติ์อมยิ้ม

“ใช้ใจไง” คนพูดมองมาที่เธอด้วยความเอ็นดู “เดี๋ยวพอลูกไปทำงานได้อยู่ใกล้ชิดเขา ลูกก็จะรู้เองแหละว่าจริงๆ เขาเป็นแค่คนที่ดีด้วย เป็นแค่คนที่ลูกรักหรือว่าเป็นทั้งสองอย่าง” หญิงสาวพยักหน้า พยายามที่จะเข้าใจแม้จะยังสับสน จนคุณพ่อของเธอลุกขึ้น

“มันดึกมากแล้วไปเข้านอนเถอะ นั่งอยู่ตรงนี้ยุงมันเยอะนะลูก” เขาเอ่ยบอกพอเธอพยักหน้าให้ จิรกิตติ์ก็เดินกลับเข้าบ้านไปก่อน เจย่าจึงทำได้เพียงครุ่นคิด

“ถึงเขาจะเป็นทั้งสองอย่างแบบที่พ่อพูดสำหรับเรา แต่สำหรับเขา….เราจะได้เป็นอะไรนะ” เธอเอ่ยอย่างน้อยใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าพี่ชายคนที่เธอชอบ คิดกับเธอเช่นไร นี่ขนาดเธอกลับมาหลายวันแล้วเขายังไม่โทรหรือแวะมาเยี่ยมเลยสักครั้ง

“ไม่ใช่ว่าพี่มีคนรักไปแล้วหรอกนะ” เธอบ่นๆ ไปกับอากาศก่อนที่จะสะดุ้งให้เสียงเรียกจากแม่บ้าน

“คุณหนูมาอยู่นี่เอง พี่ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ” เจย่ารีบหันไปมองแม่บ้านสาวที่เดินมาพร้อมกับกล่องสีชมพูผูกริบบิ้นสีแดงดูสะกดตา

“พี่อ้อมมีอะไรจ๊ะ”

“เมื่อกี้มีคนมากดออดหน้าบ้านนะคะพี่เปิดออกไปแล้วเจอเจ้ากล่องนี้วางอยู่ มีจดหมายอยู่ด้วยเห็นจ่าหน้าซองเป็นชื่อคุณหนู เลยเอามาให้” แม่บ้านส่งกล่องใบนั้นให้กับเธอ

“ขอบใจนะพี่” เจย่ารับไว้พลางใช้มืออีกข้างหยิบซองจดหมายเล็กๆ อันนั้นขึ้นมาดูเธอยิ้มกว้าง แล้วเดินเอากลับไปเปิดที่ห้อง

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 25

    ณ บ้านพักที่ลอนดอนในช่วงเย็น หลังจากที่นาตาเลียผ่าตัดเสร็จ โซเฟียก็ขอให้คีรินพากลับบ้าน “คุณโอเคไหม อยู่คนเดียวได้แน่นะ” เขาถามเธอด้วยความเป็นห่วง เพราะยังเห็นว่าเธอน้ำตาคลอและซึมอยู่เลย “ไปอยู่ที่บ้านผมก่อนดีไหม” หญิงสาวรีบหันมาส่ายหน้าให้ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากจะคิดอะไรเงียบๆ สักพักนะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง” เธอตอบแต่ก็ไม่มองหน้าเขา คีรินเห็นแบบนั้นเขาก็ไม่เป็นสุขใจเลย “ถ้างั้น เย็นนี้ผมจะทำอาหารมาทานที่บ้านคุณนะครับ ได้ไหม? ผมกลัวว่าคุณจะไม่ทานข้าว” เขาเอ่ยอย่างห่วงใย หญิงสาวจึงพยักหน้า “ถ้าจะมาอย่าลืมโทรบอกก่อนนะคะ เผื่อว่าฉันจะเผลอหลับนะ” “ครับ” เขาทำได้เพียงมองดูเธอเดินเข้าบ้านไป เธอโทรหาใครตอนที่อยู่โรงพยาบาล ใช่ที่บอกว่าคุยกับพ่อไหม? ทำไมสายตาเธอถึงดูมีความลังเลบางอย่างแฝงอยู่ตั้งแต่ตอนนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะสงสัยเพียงใด คีรินก็จำเป็นต้องเดินกลับบ้านตัวเองไปก่อน ร่างของโซเฟียเข้ามานั่งลงที่มุมโต๊ะตัวเตี้ย เอาหลังพิงกับตัวของโซฟาแววตาของเธอเหม่อลอยเพราะยังคิดไม่ตกกับเรื่องที่จะต้องทำ เธอนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นนานโข “คุณจะโกรธจะเกลียดฉันไหมคะ” เธอบ่นพลางนึกถึงใบหน้าและรอยยิ้มขอ

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 24

    โรงพยาบาล “ฮัลโหลทำไมคุณพึ่งมารับสายคะ หนูโทรหาคุณทั้งคืนทำไมคุณถึงไม่รับ” โซเฟียเอ่ยกับปลายสายทั้งน้ำตา [“ฉันคงมีเวลาว่างมารอรับโทรศัพท์จากแกยี่สิบสี่ชั่วโมงมั้งโซเฟีย”] แต่เขากลับตอบกลับมาอย่างไม่แยแส “เมื่อคืนแม่ของหนูช็อก หมอทำ CT เพิ่มแล้วบอกว่ามีเลือดออกในสมอง ต้องรีบผ่าตัดด่วน... แต่หมอที่ดูแลบอกว่าถ้าจะให้ผ่าเลย ต้องเคลียร์ค่ารักษาของสองเดือนที่แล้วก่อน เพราะเราพาแม่มาอยู่ใน Private Ward ตั้งแต่แรก และคุณก็ยังค้างค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ เขาบอกว่าจะผ่าให้ทันที ถ้าเราจ่ายเงินที่ติดอยู่ก่อน” เธอพูดไปร้องไห้ไป “ทำไมคุณทำแบบนี้ ไหนคุณบอกหนูว่าจ่ายให้ทุกเดือนไง คุณโกหกหลอกใช้หนูมาตลอดเลยเหรอ” เธอต่อว่าปลายสายอย่างเรียกร้อง เธอทำทุกอย่างที่เขาอยากให้ทำพร้อมข้อตกลงเสียดิบดีแต่เขากลับไม่ปฏิบัติตามที่เขาเคยพูด [“แล้วจะทำไม ถ้าแกอยากให้ฉันจ่ายก็รีบรวบหัวรวบหางไอ้อนาวินนั่นให้ฉันสักทีสิ”] โซเฟียปล่อยโฮ ทำไมเขาถึงใช้วิธีนี้มาบีบเธอ “ฮื้อ~ ก็ได้ หนูจะทำให้สาแก่ใจคุณไปเลย เพราะฉะนั้นคุณต้องทำการจ่ายเงินค่ารักษาให้แม่หนูเดี๋ยวนี้! แล้วหนูจะรีบทำให้” เธอยื่นข้อเสนอให้เขาเป็นเชิงขู่

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 23

    เช้าวันรุ่งขึ้น เจย่าตื่นขึ้นมาบนเตียงด้วยความรู้สึกมึนๆ อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ยังอยู่ “เรามานอนตรงนี้ได้ไง” เธอชะงักมองร่างกายของตัวเอง ที่ตอนนี้ก็ยังใส่เสื้อผ้าชุดเดิมของเมื่อวาน ไม่ทันจะคิดให้มากความหญิงสาวก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือตัวเองสั่นอยู่ในกระเป๋าสะพาย ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง เธอรีบเปิดดู ปรากฏเห็นเป็นสายค้างของพ่อกับแม่และพี่ชายที่โทรตามตั้งแต่เมื่อคืน เจย่าตาเหลือกลุกพรวดและวิ่งออกไปจากห้องอย่างไม่ได้หันกลับมาสนใจ ว่าห้องที่ตนนอนอยู่ทั้งคืนเป็นห้องของใครเสียด้วยซ้ำ ร่างเล็กวิ่งจู๊ดออกมานอกตึกแล้วเรียกแท็กซี่ไปเอารถที่บริษัทขับกลับบ้านทันที บ้านฤทธา “เจย่า!!” คนเป็นพ่อและพี่ชายที่รออยู่รีบลุกขึ้นมาสำรวจดูยัยตัวดีที่เดินเข้าบ้านมา “เมื่อคืนไปไหนต่อ ทำไมหายไปทั้งคืนโทรหาก็ไม่รับ” จิรกิตติ์เอ่ยถามกับลูกสาวเสียงดุ เจย่ายิ้มเจื่อนมองหน้าพ่อ “ก็ไปดื่มกับเพื่อนไงค่ะ พอดีเมามากกลับไม่ได้เลยค้างห้องเพื่อนนะคะ” เธอตอบแม้จะยังไม่มั่นใจว่าใช่ห้องเพื่อนจริงหรือเปล่า “แล้วทำไมไม่ส่งข้อความมาบอกกันก่อน” จอนนี่บ่นสายตาเขายังคงสำรวจน้องอย่างจับสังเกต “ก็เมาจะไปส่งมาได้ไ

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 22

    “ได้ งั้นฉันจะทำให้เธอจำฉันเอง” แผนร้ายผุดขึ้นมาในหัวของเขาพร้อมรอยยิ้มแต้มมุมปาก อนาคินก้มหน้าลงจูบเธออีกครั้งรอบนี้หญิงสาวยอมเปิดปากให้แต่โดยดี เขาจึงว่าจะลองลิ้มรสจูบหยอกกับลิ้นเล็กของเธอสักครู่ ก่อนจะหยุดและทำตามแผนที่คิดไว้ แต่มันดันไม่เป็นดั่งหวังเมื่อเธอพลิกตัวเองขึ้นมาอยู่เหนือเขา หญิงสาวนั่งลงบนตักของคนใต้ล่างพลางรูดซิปเสื้อของเธอออกพร้อมถอดมันทิ้งไป “เจย่า?” เขาเรียกชื่อของเธอเสียงสั่น พลางมองหน้าสวยที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ตรงหน้า อนาคินกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลำบากเมื่อ เธอโชว์ความมหึมาเด้งดึงชูชันต่อหน้าเขา ชายหนุ่มหันหน้าหนีใบหน้าแดงก่ำ ที่เขาคิดไว้ไม่ใช่แบบนี้นะ ในระหว่างที่คิดหน้าของเขาก็ถูกเธอดึงกลับไปพร้อมโอบหัวเขาไว้จนใบหน้าคมเข้าไปซุกอยู่ที่อกอวบ “ไม่ไหวแล้วเว้ย” แล้วเช่นนี้เสือแบบเขาเหตุใดจะทนได้ อนาคินรวบเอวเล็กกอดไว้ในทันทีพลางใช้ปากดูดยอดอกเสียงดังจ๊วบ บวกกับเจ้าของร่างน้อยที่กำลังครางเสียงสั่น “อะ อ่า อือ” เจย่ากัดที่ริมฝีปากตัวเองด้วยความหวาดเสียวแววตาหลับพริ้มราวคนกำลังฝันหวาน กระโปรงตัวยาวของเธอถูกเขาถอดออกอย่างง่าย “ไม่กงไม่แกล้งมันแล้ว เอาจริงกันเล

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 21

    ณ ผับ× ทุกคนในโต๊ะลุกขึ้นชนแก้วกันพวกเขามีรอยยิ้มและสนุกไปกับเสียงเพลง เจย่าเองก็เช่นกันแม้เธอจะแค่จิบๆ แต่พอดูเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เมากันแล้วลุกดีดเต้นให้ดูก็หัวเราะชอบใจ “เบาๆ ด้วยนะพี่ซูชิอย่าไปเหยียบตีนคนอื่นเข้าล่ะ ยิ่งตัวโตๆ อยู่” วาเนียที่นั่งข้างเจย่าร้องบอกกับพี่ซูชิที่ลุกออกจากโต๊ะไปเต้นกับหนุ่ม “ว่าแต่เจย่าไม่อยากลุกเต้นหน่อยเหรอครับ เพลงกำลังมันเลยนะ” โทนี่ที่ดูจะเป็นคนรักสนุกไม่น้อยเขาถามเธอพลางโยกตัวไปตามเสียงเพลง “ไม่เป็นหรอกค่า ไม่ค่อยชอบนะ” ระหว่างที่คุยอยู่วาเนียก็จับแก้วเหล้าใส่มือให้เพื่อน “ยกๆ หมดแก้วดิวะ มานั่งตั้งนานแกยังไม่หมดแก้วเดียวเลยนะ” วาเนียจับแก้วของเธอขึ้นมาชนด้วย “แกฉันไม่ชอบดื่ม ถ้ากลับบ้านเมาทั้งพ่อทั้งพี่ชายบ่นหูชาแน่” “โอ้ย โตๆ กันแล้วนะน้องเจย่า ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกไหมคะ ชีวิตเราจะได้ใช้คุ้มค่าขึ้นนะ” พี่อ้อมบอก หญิงสาวก็ยิ้มอ่อนให้ เพราะเธอก็แอบคิดจะหาเช่าคอนโดอยู่เหมือนกัน ก็ระยะทางจากบ้านมาที่บริษัทมันก็ไกลกันสมควร “นี่ที่เขาว่ากันว่าท่านรองคนใหม่รักสนุกนี่เป็นเรื่องจริงสินะครับ” โทนี่เอ่ยเป็นเชิงบ่นแต่ทำเอาเพื่อนทั้งโต๊ะเลิ่กลั่กหันมองตาม

  • พลาดรักซ้อนแผนลวง   ตอนที่ 20

    [“คุณผู้ช่วยเลขาเจริยา ช่วยเข้ามาหาผมในห้องหน่อย”] เสียงจากโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้นทำให้เธอหุบยิ้มทันที กะจะหลบหน้าแล้วจะเรียกหาทำไมเนี้ย ถึงเธอจะคิดแบบนั้นแต่สุดท้ายก็ต้องลุกและเดินเข้าไปหาเขาอยู่ดี “ท่านรอง” เธอเปิดประตูเข้ามาแต่ดันไม่เห็นว่าเขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พอหันซ้ายจึงเห็นว่าเขายืนล้วงกระเป๋ามองทอดลงไปดูวิวทิวทัศน์ด้านล่างอยู่ “มานั่งที่โซฟาสิ” เขาบอกทั้งทียังไม่ได้หันมามองเธอ แต่เจย่าก็เลือกที่จะปฏิเสธ “ท่านรองพูดมาเลยก็ได้ค่ะ” เขาหันมาจ้องหน้าทันที ทำให้เจย่ารู้ว่าเขาไม่พอใจให้คำพูดเธอ แต่ก็หาได้แคร์เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่เขา “เรื่องที่จะคุยมันยาวมากนะ บอกให้มานั่งก็มานั่งสิ” เขาเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวก่อนเธอ เอาศอกราบลงกับขอบโซฟาแล้วยกสองมือขึ้นประสานกันไว้ตรงหน้า “จะมานั่งดีๆ หรือจะให้หักคะแนนไม่ให้ผ่านงาน แล้วก็ไม่ต้องเจอคีรินปีหน้า” เขาพูดเป็นเชิงประชดแต่ก็ทำให้คนหัวดื้ออย่างเธอยอมลงมานั่งตรงโซฟาตัวข้างเขาแต่โดยดี “มีอะไรก็ว่ามาสิคะ” เธอเลิ่กลั่กเพราะเห็นว่าเขาเอาแต่จ้องหน้าจนรู้สึกใจเต้น เจย่าเลยหันหน้าหนีไปมองทางอื่น “เย็นนี้มีนัดไหม” เธอหันกลับมาจ้องเขาอีกรอบ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status