Share

บทที่ 639

Author: ฉินอันอัน
ตอนที่อ๋องฉีได้รับจดหมายนั้น อากาศก็ร้อนแล้ว

เขาเพิ่งมาถึงเมืองเมืองหงตู ทุกอย่างล้วนไม่ราบรื่น ขณะที่กำลังหงุดหงิดใจ ยิ่งในยามที่อากาศร้อนจัด เมืองหงตูก็ราวกับเตาไฟ เผาจนผู้คนหายใจแทบไม่ออก แม้กระทั่งขาของเขาก็เหมือนจะปวดมากขึ้น

อารมณ์ของเขาจึงยิ่งขุ่นเคือง ทนไม่ไหวถึงกับเตะม้านั่งข้างๆ เข้าอย่างแรง

ผลคือกลับกระแทกเข้าที่ขาเจ็บของตนเอง ความเจ็บแล่นปราดขึ้นมา ทำให้เขาขมวดคิ้วแน่นด้วยความเจ็บปวด

จินเป่าถือถ้วยน้ำแข็งเข้ามา พอเห็นเขาก็แทบยืนไม่มั่น รีบวางถ้วยแล้วเข้าไปพยุงเขา

อ๋องฉีกลับปัดเขาออก แล้วทรุดตัวลงไปนวดขาของตนเอง พลางเอ่ยเสียงต่ำ “อาจารย์ของเจ้าอยู่ไหน?”

จินเป่ายืนตัวตรงอย่างนอบน้อม ตอบกลับว่า “กราบทูลท่านอ๋อง ท่านอาจารย์ได้รับข่าวสารบางอย่างแล้วก็ออกไปข้างนอก ตอนนี้ยังไม่กลับมาขอรับ”

อ๋องฉีจึงแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะขมวดคิ้ว หยิบสาส์นทักทายจากเจ้าเมืองเมืองหงตูขึ้นมาอ่าน

ในขณะที่อ่านด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ขันทีสวีก็เร่งฝีเท้าเข้ามา โค้งตัวลงอย่างเคารพ เอ่ยเรียกท่านอ๋อง

เขาส่งเสียงรับคำ พลางโยนสาส์นในมือทิ้ง แล้วหันศีรษะไปมองขันทีสวี เอ่ยถามว่า “เป็นอย่างไร ฝั่งเมืองหลวงจัดก
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 652

    ครองคู่ไปจนแก่เฒ่าฮ่องเต้หย่งชางนึกถึงตนเองเมื่อครั้งยังเป็นวัยหนุ่ม สมัยนั้นเพิ่งอภิเษกกับพระชายาหลิ่ว ยังเคยตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะอยู่เคียงข้างกับหว่านหยินไปจนแก่เฒ่าไม่พรากจากกันพระองค์พลันรู้สึกเหม่อลอยขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ก็แย้มพระสรวลพลางมองเซียวอวิ๋นถิง “เจ้าช่างเหมือนเรายิ่งนัก”สง่างาม มีความทะเยอทะยานตามแบบเด็กหนุ่ม กล้าหาญดั่งลูกวัวแรกเกิดที่ไม่กลัวพยัคฆ์ แถมยังเปี่ยมด้วยความจริงใจอันบริสุทธิ์พระองค์เลิกพระขนงขึ้นเล็กน้อย “เอาเถอะ เราเข้าใจแล้ว จะให้กรมพิธีร่างพิธีการขึ้นมา เจ้าคือพระนัดดา ภรรยาเจ้าย่อมเป็นแม่ของแผ่นดินในอนาคต จะมองข้ามไม่ได้เป็นอันขาด”เซียวอวิ๋นถิงถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ฮ่องเต้หย่งชางทรงยอมผ่อนปรนเช่นนี้ ก็แสดงว่าพระองค์มีความประทับใจในตัวชีหยวนอยู่ไม่น้อยและแท้จริงก็เป็นเช่นนั้น ชีหยวนภายนอกก็คือคุณหนูตระกูลขุนนางที่พอมีฝีมือยุทธ์อยู่บ้าง ขี่ม้าเก่ง เรื่องที่ออกนอกกรอบมีแค่แข่งม้ากับหลิ่วหมิงจูเท่านั้น ไม่เคยมีเรื่องฉาวอื่นอีกเลยเมื่อฮ่องเต้หย่งชางคิดถึงพระชายาหลิ่ว ก็อดทอดถอนพระทัยมิได้ จึงเรียกหลี่ฉางชิงเข้ามาถามว่า “ท่านนัก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 651

    ในเพลานี้ที่เขตศักดินาอ๋องฉีกำลังอ่านจดหมายของหลี่ฉางชิง ที่มาพร้อมกับจดหมายยังมีหีบหนึ่งใบ ภายในบรรจุยาพอกสีดำคล้ำ ยาพอกในหีบส่งกลิ่นฉุนแรง ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ต้องยกมือขึ้นปิดจมูกแต่อ๋องฉีกลับไม่ทำเช่นนั้น ไม่เพียงไม่ปิดจมูก กลับยังมองหีบตรงหน้าด้วยความละโมบ จากนั้นจึงหันไปมองหมอเทวดาเซวียที่กำลังก้มหน้าขูดยาออกจากยาพอกด้วยความตื่นเต้นร้อนรน “เป็นอย่างไร? เจ้าว่ายานี้ใช้การได้หรือไม่?!”ยาพอกนี้หลี่ฉางชิงเป็นผู้ส่งมา บอกว่าเป็นยาทาสมานกระดูกที่เขาได้มาจากการเดินทางท่องไปถึงเขตตะวันตก สามารถทำให้กระดูกที่หักเชื่อมติดได้ใหม่ทันใดนั้นอ๋องฉีก็คิดถึงชีหยวนในชาติก่อน ที่ตอนแรกชีหยวนถูกพี่ชายของนางตีขาหัก แต่ภายหลังกลับสามารถเป็นหน่วยกล้าตายได้ ก็เป็นผลมาจากยาทาสมานกระดูกนี่เองบัดนี้เขาก็มีแล้ว ขาของเขาก็รักษาหายได้ใช่หรือไม่?!แค่เพียงคิดถึงความเป็นไปได้นี้ แววตาก็ลุกวาวราวกับเปลวเพลิงแผดเผา เต็มไปด้วยความคลั่งไคล้หมอเทวดาเซวียมีสีหน้าระมัดระวัง พร้อมกับความประหลาดใจ “ข้าน้อยต้องศึกษาดูก่อน ยาเช่นนี้แคว้นเราไม่เคยมีมาก่อน ข้าน้อยก็ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย ให้ข้าน้อยลองทดสอบดูก่อน”อ๋อ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 650

    เช่นนั้นหากตอนนี้จะทำลายงานมงคลนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเซียวจิ่งจาวเพียงถามไปว่า “เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำอย่างไร?”เฝิงไฉ่เวยเหลือบมองเขา ก่อนจะแสยะยิ้มแล้วยักคิ้วขึ้น “ง่ายจะตายไป คนดวงอัปมงคลผู้หนึ่ง จะคู่ควรเป็นชายาของพระนัดดาสุดรักของฮ่องเต้ได้อย่างไร?”เซียวจิ่งจาวก็เข้าใจความหมายของนางทันทีและก็พลันตระหนักขึ้นมาได้ในบัดดลใช่แล้ว ในเมื่อครั้งก่อน นักพรตหลี่เคยกล่าวว่าดวงชะตาระหว่างองค์รัชทายาทกับฮ่องเต้หย่งชางขัดแย้งกัน บิดาบุตรไม่อาจใกล้ชิดกันได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฮ่องเต้หย่งชางจึงหลีกเลี่ยงที่จะพบองค์รัชทายาทมาโดยตลอดหากนักพรตหลี่กล่าวว่าดวงชะตาของชีหยวนไม่ดี...เกรงว่าฮ่องเต้หย่งชางจะพลอยไม่ชอบทั้งตระกูลชีเลยด้วยซ้ำจริงดังว่า หากคิดจะทำเรื่องเลวร้ายให้ถึงที่สุด จะอย่างไรก็ต้องดูที่สตรีโดยเฉพาะสตรีที่ถูกความแค้นครอบงำจนเสียสติและถึงตอนนั้น เซียวอวิ๋นถิงจะเลือกอย่างไรเล่า?หากเขายืนกราน ฮ่องเต้หย่งชางคงจะระอาเขาเป็นคนแรกแน่นอนแต่หากเขาไม่ยืนกราน เรื่องนี้ก็จะจบลงเพียงเท่านี้ ตระกูลชีกับเซียวอวิ๋นถิงก็จะเหินห่างกันไปตลอดกาล “ยอดเยี่ยม!”เซียวจิ่งจาวตบมือเบา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 649

    เฝิงไฉ่เวยกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไทรในลานเรือนนางไม่ได้ออกจากจวนมาหลายวันแล้ว ช่วงนี้บางคืนยังฝันถึงเฝิงจวิ้นเป็นระยะ ๆ ในความฝัน เขาก้มหน้าตะโกนบางอย่างข้างหูนาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานน่าสังเวชแต่สุดท้าย ภาพในฝันก็มักจะถูกขัดจังหวะด้วยรอยยิ้มของชีหยวนนางฝันถึงภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ชีหยวนเป็นคนลงมือวางเพลิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทุกครั้งที่สะดุ้งตื่นจากความฝัน ความเคียดแค้นในใจของนางที่มีต่อชีหยวนก็มากขึ้นอีกขั้นทำไมกัน?ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?!เฝิงจวิ้นสมควรตายจริง ๆ งั้นหรือ?!ไม่ว่าจะเป็นชีหยวนหรือเซียวอวิ๋นถิง ต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ได้ทำผิดถึงขั้นต้องตาย หากจะโทษก็ต้องโทษนิสัยแค้นฝังใจของชีหยวนเขาในฐานะว่าที่องค์รัชทายาทแห่งแผ่นดิน กลับยินยอมปกป้องและลำเอียงเข้าข้างนาง ถึงขั้นปล่อยให้นางเหยียบย่ำอยู่เหนือกฎหมายคนขาดเขลาเบาปัญญาเช่นนี้ ต่อให้วันหน้าได้ขึ้นครองบัลลังก์ ก็ไม่มีทางเป็นฮ่องเต้ที่ดีได้แน่เขาไม่คู่ควรให้นางต้องเสียเวลาแม้แต่น้อยขณะลมพัดผ่านมา ประตูในลานเรือนก็ส่งเสียงเอี๊ยดเบา ๆ แล้วถูกผลักออก นางจึงค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้โยก วางหนังสือในมือลงก็หั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 648

    พอพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเฝิงอวี้จางก็แดงเรื่อขึ้นมาในทันที “จวิ้นอ๋องมีน้ำใจแล้ว! ไอ้ลูกไม่รักดีก่อเรื่องราวใหญ่โต ทำให้ขายหน้าขายตา ไหนเลยจะกล้าให้ท่านอ๋องลำบากมาเยือนด้วยพระองค์เองอีก”เฝิงจวิ้นตายทั้งที่ยังมิทันบรรลุนิติภาวะ ถือเป็นการตายก่อนวัยอันควร ตามธรรมเนียมแล้วย่อมไม่อาจฝังไว้ในสุสานบรรพบุรุษได้ดังนั้นตระกูลเฝิงจึงให้เผาศพเขาก่อน แล้วตั้งโกศไว้ที่วัดชานเมืองหลวงเป็นการชั่วคราว รอจนถึงวันที่เหมาะสมจึงจะส่งกลับภูมิลำเนา เพื่อหาที่ฝังอีกครั้งเฝิงจวิ้นตายอย่างไม่งามนัก ข่าวลือต่าง ๆ พัดสะพัดไปทั่วประกอบกับตระกูลเฝิงถูกตำหนิ เฝิงอวี้จางก็ถูกสั่งกักบริเวณ งานศพของเฝิงจวิ้นจึงจัดอย่างเรียบง่าย ไม่ได้เชิญแม้แต่พระหรือนักพรตมาทำพิธีเพราะกลัวจะถูกนินทาว่าร้ายยิ่งไม่ต้องพูดถึงญาติสนิทมิตรสหายที่มาร่วมจัดพิธีส่งวิญญาณเลยบัดนี้เซียวจิ่งจาวกลับมาเยือนด้วยตนเอง แม้แต่เฝิงอวี้จางก็อดมิได้ที่จะรู้สึกดีต่อเขาขึ้นมาในใจเซียวจิ่งจาวถอนหายใจเบา ๆ “แม้ญาติผู้น้องจะหลงผิด แต่ถึงอย่างไร ก็เป็นญาติกัน ท่านเองก็เป็นท่านลุงแท้ ๆ ของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อเคารพรักท่านมาโดยตลอด เพียงแต่ตอนนี้ไ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 647

    ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวจิ่งจาวกับองค์รัชทายาทนั้น แตกต่างจากเซียวอวิ๋นถิงโดยสิ้นเชิงเซียวอวิ๋นถิงถูกส่งออกไปตั้งแต่ยังเล็ก ครั้นกลับมาก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว เป็นคนที่สามารถต่อสู้และฟันฝ่าได้ด้วยตนเอง มิใช่คนแบบเดียวกับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยดังนั้น ความผูกพันฉันพ่อลูกระหว่างเขากับองค์รัชทายาทจึงมีอยู่น้อยนิดองค์รัชทายาทเอง ก็มีแต่ความรังเกียจและห่างเหินมอบให้เขา มากกว่าความรักใคร่ของพ่อลูกแต่ระหว่างองค์รัชทายาทกับเซียวจิ่งจาว กลับมิได้เป็นเช่นนั้นเขากล้าที่จะพูดทุกอย่างอย่างเปิดเผยครานี้ยืนอยู่ต่อหน้าองค์รัชทายาท เขาก็เอ่ยคำโดยไม่ปิดบัง “เสด็จพ่อ ตระกูลเฝิง คือตระกูลฝ่ายมารดาของท่านมิใช่หรือ? คนอื่นไว้ใจไม่ได้ แล้วท่านไม่อาจไว้ใจตระกูลเฝิงได้เลยหรือ?”ตระกูลเฝิงงั้นหรือ?องค์รัชทายาทเพ่งมองเขาด้วยสายตาล้ำลึก “เจ้ารู้เรื่องสถานการณ์ในเมืองหลวงดีเหลือเกินนะ”“ใช่พ่ะย่ะค่ะ” เซียวจิ่งเจาก็ตอบรับอย่างตรงไปตรงมา “เพราะลูกเป็นโอรสของเสด็จพ่อ และเสด็จพ่อก็จะเป็นบิดาและเป็นที่พึ่งของลูกตลอดไป”รัชทายาทยกมือขึ้นเล็กน้อย “พูดต่อไป”เซียวจิ่งจาวผ่อนลมหายใจเล็กน้อย ก้มหน้าลงไป

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status