Share

หนังสือประหลาด

Penulis: zuey
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-25 06:21:22

เฉียวลู่อาบน้ำทานข้าวเรียบร้อยแล้วเธอพูดเรื่องที่เธอไปเที่ยววันนี้ให้แม่กับพ่อฟังอย่างออกรสแต่กลับลืมเรื่องของคุณยายและหนังสือเก่าเล่มนั้นไปเลยจนกระทั่งเฉียวลู่กลับเข้าห้องนอนของเธอมา

 

“ลืมหนังสือเล่มนี้ไปเลย”

เฉียวลู่หยิบหนังสือเก่าเล่มนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือของเธอมาเปิดดู ข้างในว่างเปล่ามีเพียงตัวอักษรที่เขียนเอาไว้จางๆ ว่าเฉียวลู่

“ทำไม่มีชื่อของเราเขียนเอาไว้ในนี้นะ”

เฉียวลู่พลิกกระดาษหน้าถัดไปแต่กลับไม่มีอะไรเขียนเอาไว้เลยมีเพียงหน้ากระดาษสีขาวอมเหลืองเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเก่า เฉียวลู่ถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ช่างเถอะ ถือซะว่าช่วยอุดหนุนคุณยายแล้วกัน”

ถึงแม้จะรู้สึกสงสัยอยู่บ้างแต่เธอก็เลิกสนใจในหนังสือเก่าเล่มนั้นไป เฉียวลู่วางหนังสือเอาไว้ที่เดิมแล้วปิดไฟเข้านอนทันที คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดทั่วท้องฟ้ามีเพียงแสงดาวที่ทอประกายระยับเกลื่อนกลาดหนังสือเล่มเก่าที่เฉียวลู่วางเอาไว้บนโต๊ะค่อยๆ คลี่เปิดออกทีละหน้าเหมือนมีลมบางเบาพัดผ่านและค่อยๆ เร็วขึ้นแรงขึ้น แสงสว่างถูกสาดกระจายออกมาจากหนังสือเก่าเล่มนั้นและมันค่อยๆ ไหลมารวมกันเป็นจุดเดียวที่หน้าอกของเฉียวลู่และหายไปทันที

เฉียวลู่ถูกเขย่าอย่างแรงจนเธองัวเงียรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

“แม่คะปลุกหนูทำไมช่วงนี้หนูไม่มีงานถ่ายละครนะคะขอนอนต่ออีกหน่อยเถอะ”

เฉียวลู่นอนหันหลังให้แต่คนที่ปลุกเธอยังคงเขย่าอยู่อย่างนั้นจนเธอรู้สึกรำคาญ

“ก็ได้ๆ ค่ะแม่มีอะไรจะคุยกับหนูก็ว่ามาเลย”

เฉียวลู่พยายามถ่างตาที่ยังคงง่วงงุนของเธอมองผู้ที่กำลังเขย่าปลุกตน

“เอ๊ะ”

เฉียวลู่ถึงกับตกใจจนตาสว่างไร้ความง่วงอีกต่อไป คนที่เขย่าปลุกเธอคือเด็กผู้ชายสองคนที่ตัวเล็กและผอมจนแก้มตอบ ใบหน้าเกรอะกรังไปด้วยน้ำมูกและดินโคลน เสื้อผ้าเก่าขาดที่เหมือนไม่ได้ซักมานานปี ใบหน้าน้อยๆ ที่มีน้ำตาไหลออกมาเป็นทางนั้นไร้ความน่ารักสำหรับเฉียวลู่ แต่เมื่อเธอเห็นพวกเขาทั้งสองร้องไห้แล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้

“หนูจ๊ะ เธอสองคนเป็นลูกบ้านไหนทำไมมาอยู่ในห้องของพี่สาว.....”

เฉียวลู่พูดยังไม่ทันจบเธอก็ต้องตกใจอีกรอบเพราะห้องที่เธอบอกว่าเป็นห้องของเธอมันคือกระท่อมที่มุงด้วยหญ้าที่ท่าทางกำลังจะพังลงมาอยู่รอมร่อ ถึงห้องจะค่อนข้างมืดสลัวแต่แสงสว่างเล็กน้อยที่ส่องลอดเข้ามาก็ทำให้เธอมองเห็นสภาพข้างในได้อย่างชัดเจน

“ไม่นะ!!!”

เฉียวลู่หันไปมองเด็กชายร่างผอมทั้งสองคนอีกครั้ง

“นี่คงไม่ใช่รายการแอบถ่ายหรอกใช่ไหม เล่นกันแรงไปแล้ว”

เด็กชายทั้งสองมองหน้าเฉียวลู่ด้วยท่าทางงุนงงเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังพูด เฉียวลู่ลงจากเตียงเพื่อยืนยันเรื่องที่เธอกำลังคิดแต่แล้วเธอก็ทรุดลงที่พื้นอย่างแรง

“โอ๊ย!!! นี่มันอะไรกัน”

ขาของเฉียวลู่มีเลือดไหลออกมาเป็นทางเธอมองอย่างตกใจเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายอันมีค่าของเธอ ถ้าหากว่าร่างกายอันบอบบางของเฉียวลู่บาดเจ็บหรือมีแผลเป็นนั่นเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ เธอจะฟ้องร้องรายการนี้ให้เจ๊งไปเลยโทษฐานทำร้ายร่างกาย เด็กชายสองคนเห็นเฉียวลู่ล้มไปกองกับพื้นพวกเขาก็รีบเข้ามาช่วยพยุงเธอทันที แต่ร่างกายผอมแห้งของเด็กสองสามขวบหรือจะช่วยอะไรได้ เฉียวลู่มองท่าทางที่ดูทุลักทุเลของเด็กทั้งสองที่พยายามช่วยเธอแล้วส่ายหัวอย่างจนใจ

“นี่หนูน้อยทำไม่พวกเธอไม่ไปเรียกทีมงานมาล่ะ พี่สาวไม่โทษพวกเธอเรื่องนี้หรอกนะแต่อาการบาดเจ็บของพี่สาวจะต้องหาหมอ”

เฉียวลู่พูดกับเด็กชายทั้งสองอย่างใจเย็น เธอไม่กล่าวโทษพวกเขาเลยสักนิดเพราะนี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา เด็กชายทั้งสองไม่ได้พูดอะไรแต่เหมือนพวกเขาจะเข้าใจในสิ่งที่เฉียวลู่สื่อ พวกเขารีบวิ่งออกไปด้านนอกเพื่อทำตามสิ่งเธอต้องการ

หลังจากที่เด็กทั้งสองคนออกจากห้องนั้นไปเฉียวลู่ก็ได้โอกาสสำรวจห้องนั้นทันที เธอมองไปรอบๆ กระท่อมยังไงเธอก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้เหมือนว่าเธอจะเข้านอนและที่นั่นก็เป็นห้องของเธอเองแล้วตอนนี้มานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง ถ้าหากเป็นการแกล้งกันของรายการบางรายการนี่ก็ถือว่าเล่นกันแรงเกินไปแล้ว เฉียวลู่ก้มลงมองขาของตนเองที่กำลังมีเลือดไหลเป็นทาง

“เจ็บจริงๆ ด้วยนะเนี่ย”

เธอจับที่บริเวณใกล้ๆ แผลอีกครั้ง เสียงดังด้านนอกทำให้เฉียวลู่เงยหน้าขึ้นมองเด็กชายสองคนที่วิ่งออกไปก่อนหน้านี้กลับมาพร้อมกับผู้ชายอายุราวๆ สี่สิบกว่าปี แต่งตัวด้วยชุดโบราณเก่าๆ แต่ดูสะอาดตากำลังมองมาที่เฉียวลู่ที่นั่งอยู่บนพื้น

“เจ้าบาดเจ็บหนักเพียงนั้นลุกขึ้นมาทำไม”

เฉียวลู่มองไปที่ผู้ชายคนนั้นด้วยท่าทางไม่เข้าใจ เธอบาดเจ็บขนาดนี้นี่เขายังคิดจะอยู่ในบทบาทอีกหรือทำกันเกินไปแล้วนะ

“นี่คุณไม่ว่าทีมงานจะสั่งอะไรคุณมาฉันไม่รับรับรู้แต่ตอนนี้ฉันต้องการหมอ คุณต้องโทรตามหมอเดี๋ยวนี้”

เฉียวลู่สั่งเสียงเด็ดขาด ผู้ชายคนนั้นมองมาที่เธอด้วยท่าทางมึนงง

“เจ้าให้บุตรชายของเจ้าไปตามหมอ ก็ข้านี่อย่างไรเล่าหมอที่เจ้าต้องการ เลิกพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วกลับขึ้นไปนั่งบนเตียงเถอะ ข้าจะตรวจให้เจ้าก่อน เมื่อวานตอนที่คนพาเจ้ากลับลงมาจากภูเขาเห็นสลบเจ้าเลือดอาบไปทั้งตัวข้าก็คิดว่าเจ้าจะไม่มีทางรอดแล้ว เห็นเจ้าพูดได้เช่นนี้ข้าก็เบาใจดูท่าทางเจ้าจะไม่เป็นอะไรมาก”

เฉียวลู่ยังคงมึนงงกับคำพูดของผู้ชายคนนั้น ถ้าจะบอกว่าเป็นบทที่ทางทีมงานกำหนดมาให้เขาพูดก็ต้องบอกว่าเขาเล่นได้ดีทีเดียว เธอเป็นนักแสดงชื่อดังแถวหน้าของจีนนะบาดเจ็บหนักขนาดนี้แต่เขากลับพูดออกมาอย่างสบายๆ เหมือนไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่หรือสำคัญอะไร ความจริงเรื่องนี้ต้องออกเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศแล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน

ถึงเฉียวลู่จะยังนึกสงสัยแต่เธอก็ทำตามที่ผู้ชายคนนั้นบอกเพราะเธอเริ่มรู้สึกระบมที่ขาของเธอเนื่องจากนั่งกดทับเป็นเวลานาน เด็กชายผอมแห้งสองคนรีบมาช่วยพยุงเธอทันทีที่เห็นเฉียวลู่ขยับตัว หลังจากนั่งบนเตียงแล้วเธอก็หันไปมองเด็กชายทั้งสอง

“ขอบใจนะ”

เด็กชายทำหน้าประหลาดใจที่เห็นเฉียวลู่พูดกับพวกเขาเช่นนั้น ทั้งสองทำหน้าเอียงอายแล้วหลบไปยืนด้านข้างอย่างรู้ความเพื่อให้ผู้ชายคนนั้นมาตรวจเฉียวลู่

“ข้าขอตรวจชีพจรของเจ้าหน่อย”

เฉียวลู่กลอกตาใส่เขา นี่ยังคิดจะสวมบทบาทแสดงละครอยู่อีกหรือได้สิเธอก็เป็นนักแสดงที่มีสปิริตคนหนึ่งเหมือนกันในเมื่ออยากจะแสดงนักเธอก็จะร่วมเล่นไปด้วย

“เช่นนั้นข้าคงต้องรบกวนท่านหมอแล้ว”

เฉียวลู่จีบปากจีบคอพูดดึงเอาวิญญาณนักแสดงของเธอออกมา หลังจากที่ท่านหมอที่เฉียวลู่เข้าใจว่าเป็นนักแสดงนั้นจับชีพจรของเธอเสร็จเขาก็พยักหน้าให้กับตนเอง

“เมื่อวานตอนที่ข้ามารักษาเจ้าอาการของเจ้าหนักจนเกินเยียวยาข้านั้นไร้ทางช่วย ช่างน่าแปลกใจเหลือเกินที่ตอนนี้เจ้าแทบไม่เป็นอะไรเลยนอกจากบาดแผลภายนอกที่ขาของเจ้า”

นักแสดงชายคนนี้สวมวิญญาณหมอมืออาชีพได้ดีจริงๆ เธอจะน้อยหน้าเขาไม่ได้

“เช่นนั้นท่านคิดว่าข้าหายดีแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ ท่านหมอ”

เฉียวลู่มองท่าทางของเขา หมอนักแสดงพยักหน้าให้เธอ

“ข้าจะสั่งยารักษาแผลที่ขาให้เจ้าแล้วกัน เดี๋ยวให้อวี้หลงอวี้ชิงตามไปเอายากับข้าที่เรือน ส่วนค่ารักษากับค่ายาข้ารู้ว่าเจ้าไม่มีเอาไว้เจ้ามีเมื่อใดค่อยทยอยคืนข้าแล้วกัน”

เฉียวลู่พยักหน้า

“ขอบคุณท่านหมอที่เมตตาข้า”

หลังจากที่นักแสดงหมอออกจากกระท่อมไปเฉียวลู่ก็นั่งรอเพื่อให้ผู้กำกับสั่งคัทเพื่อที่เธอจะได้ไปหาหมอจริงๆ สักทีเพราะตอนนี้แผลที่ขาเริ่มปวดตุบๆ แล้ว นั่งอยู่นานเสียงคัทก็ยังไม่ดังขึ้นเฉียวลู่เริ่มหงุดหงิดในใจ

“พอที!!! ฉันไม่สนเรื่องรายการของพวกคุณแล้วถ้าไม่ยอมสั่งคัทฉันจะทำเอง แล้วพวกคุณจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันทั้งหมด”

เฉียวลู่ลุกจากเตียงเพื่อออกไปจากกระท่อมหลังนั้น เธอหวังว่าเมื่อเธอออกมาจะได้พบกับทีมงานและกองถ่ายเธอจะวีนพวกเขาให้หนักๆ แต่สิ่งที่เฉียวลู่เห็นหลังออกมาจากกระท่อมหลังน้อยคือ ภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนกระท่อมที่เธออยู่ อยู่สูงขึ้นมาตรงเชิงเขาด้านล่างที่ไกลออกไปราวสองสามร้อยเมตรมีบ้านเรือนที่ทำจากดินหรือบางหลังก็เป็นเพียงกระท่อมที่มุงด้วยหญ้าตั้งอยู่ประปราย ไม่มีกองถ่ายไม่มีทีมงานไม่มีใครเลย มีแต่เด็กชายตัวเล็กผอมแห้งสองคนที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมาที่เธอ

เฉียวลู่พยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เธอกำลังประสบอยู่ ก่อนหน้านี้ที่เธอจำได้คือเธอกำลังเข้านอนที่บ้านของตัวเอง พอตื่นขึ้นมาก็มาอยู่ที่กระท่อมหลังนี้ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย หรือว่าเธอถูกลักพาตัวมาแล้วคนที่ลักตัวของเธอมาอยู่ที่ไหนพวกเขาเป็นใครทำไมถึงปล่อยให้เธออยู่กับเด็กแค่สองคนเท่านั้น หรือว่าเด็กสองคนนี้ก็ถูกลักพาตัวมาด้วยเหมือนกัน

“ไม่สิ”

เฉียวลู่พึมพำเบาๆ ดูจากสภาพภายนอกพวกเขาไม่น่าจะเป็นเด็กที่บ้านมีฐานะร่ำรวยเลยสักนิด แล้วการแต่งตัวที่ดูย้อนยุคนี่มันอะไรกันหมอกำมะลอคนนั้นอีกคงไม่ใช่ว่า.... เฉียวลู่นึกถึงเรื่องต่างๆ นานา ที่จะสามารถเป็นได้จนกระทั่งนึกถึงบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อขึ้นมา

“ไม่จริงน่า ไม่ใช่ว่าเราทะลุมิติย้อนเวลาบ้าบออะไรนั่นหรอกนะ นี่มันเรื่องเหลวไหลทั้งเพ”

เฉียวลู่ดึงทึ้งผมของตนเองเหมือนคนบ้า เด็กชายทั้งสองที่พึ่งเดินมาถึงกระท่อมน้อยมองเฉียวลู่ด้วยสายตาเป็นห่วง

หลังจากที่สงบสติอารมณ์ของตัวเองได้แล้วเฉียวลู่จึงรู้สึกได้ถึงสายตาของเด็กทั้งสองที่กำลังมองมาที่เธอ ทำให้เฉียวลู่นึกบางอย่างขึ้นมาได้

“นี่เธอสองคนบอกพี่สาวได้ไหมจ๊ะว่าที่นี่คือที่ไหน”

เด็กชายสองคนมองเฉียวลู่ด้วยท่าทางมึนงง

“พวกเธอไม่เข้าใจที่พี่สาวพูดหรือ”

หรือว่าพวกเขาพูดคนละภาษากับเรา เฉียวลู่พยักหน้าให้กับความคิดของตนเอง

“ท่านแม่”

เสียงเล็กๆ ที่ดังมาจากเด็กชายหนึ่งในสองคนทำเอาความคิดของเฉียวลู่ชะงักไป

“ท่านแม่หรือ พวกเธอเรียกใคร.....หรือว่าฉัน”

เฉียวลู่ชี้มาที่ตัวเอง เด็กชายสองคนพยักหน้ารับเฉียวลู่ตกใจกับสิ่งที่ตนได้ยินจนอ้าปากค้าง

“ไม่นะฉันยังไม่ได้แต่งงาน”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   บทส่งท้าย กลับไปเริ่มต้นใหม่

    ฉีหมิงเยี่ยนกลับมาพร้อมชัยชนะหลังจากนั้นหนึ่งเดือน คนตระกูลเสิ่นและผู้ที่เข้าร่วมก่อการกบฏต่างก็ถูกตัดหัวแขวนประจานเอาไว้ทุกหัวเมืองที่ถูกยึดคืนกลับมาได้ แต่ชัยชนะครั้งนี้กลับไม่ได้มีการเฉลิมฉลองเพราะฉีอ๋องต้องสูญเสียพระชายาอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน เขาขังตัวเองเอาไว้ในห้องที่มีโลงใส่ศพของนาง อาจารย์ของเฉียวลู่เองก็ไม่คิดว่าตนเองจะต้องสูญเสียลูกศิษย์ของตนไปถึงสองคนพร้อมกัน เขาได้ใช้น้ำแข็งพันปีมรดกตกทอดของเจ้าสำนักเซียนแพทย์แช่ร่างของเฉียวลู่เอาไว้รอสามีของนางกลับมา“อาลู่เจ้าลืมตาขึ้นมาเถิด เจ้าอย่าได้ล้อข้าเล่นเช่นนี้เลย สามีของเจ้าตกใจรู้หรือไม่”ฉีหมิงเยี่ยนร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ ปากก็พร่ำเพ้อหานางไม่หยุด ร่างบางที่เหมือนนอนหลับอยู่ภายในโลกไม้ที่ถูกทำขึ้นอย่างประณีตไม่ขยับไหวติงแม้เพียงนิดเขาทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไรกัน เขาอุตส่าห์เปลี่ยนแปลงอนาคตทุกอย่างแล้ว คนตระกูลเสิ่นที่เป็นสาเหตุการตายของนางเขาก็สังหารจนสิ้น แต่แล้วเหตุใดนางถึงยังจากเขาไปอีกเล่า สวรรค์ท่านช่างใจร้ายกับข้านัก ท่านคิดที่จะทำลายหัวใจของข้าอีกกี่ครั้งกันท่านถึงจะพอใจเสียงร้องโหยหวนดั่งสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   แก้แค้นแทนพี่สาว

    ไม่นานหลังจากนั้น ทหารจากค่ายวิหคทมิฬพบสองพี่น้องที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งโดยบังเอิญ พวกเขาตามรอยของกั๋วจื่อชางเข้าไปในป่า แต่ต้องคลาดกันเพราะมีน้ำป่าไหลทะลักบนภูเขา จึงต้องย้อนกลับมาที่หมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างจากร่องรอยสุดท้ายที่หาเจอ เพราะเหตุนั้นจึงได้พบนายน้อยของตำหนักชินอ๋องทั้งสองคนเกือบครึ่งเดือนที่พวกเขาถูกจับตัวไป เพราะไม่ค่อยได้ทานอาหารสองพี่น้องจึงดูซูบผอมไปเล็กน้อย เฉียวลู่ที่ได้ข่าวจากคนของค่ายวิหคทมิฬนางเร่งเดินทางมาที่หมู่บ้านโดยเร็ว“ลูกแม่!!”นางกอดร่างเล็กทั้งสองเอาไว้ในอ้อมแขน พลางลูบหลังพวกเขาอย่างปลอบโยน อวี้หลงและอวี้ชิงที่เคยฝึกอยู่ในค่ายวิหคทมิฬอย่างหนักไม่เคยแม่แต่จะหลั่งน้ำตาสักหยด แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของมารดา เสียงร้องไห้เล็กๆ สองเสียงก็ดังประสานขึ้นก้องกังวานทั่วหมู่บ้านเหล่าทหารจากค่ายวิหคทมิฬที่รู้จักเด็กชายทั้งสองมองพวกเขาด้วยความแปลกใจ นึกว่าบุตรชายของมัจจุราชฉีจะกลายเป็นเหล็กกล้าเหมือนดั่งบิดาเสียอีก ไม่นึกว่าจะยังมีมุมน่ารักดั่งเด็กน้อยเมื่อยามที่อยู่กับมารดาเฉียวลู่ที่ถูกพรากบุตรชายจากอกไปหลายวัน นางเองก็ขวัญเสียไม่แพ้กัน สองแม่ลูกก

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ขอบคุณนะ

    “อยู่ให้ห่างจากน้องชายของข้านะ”อวี้หลงวิ่งเข้าไปคิดที่จะทำร้ายนาง แต่หญิงใบ้กลับหลบได้อย่างง่ายดาย เขาวิ่งมาขวางนางอีกครั้งแต่ถูกหญิงใบ้จับโยนจนร่างเล็กลอยละลิ่วไปไกล นางใช้มือคลำไปที่ใบหน้าและลำคอของอวี้ชิงเบาๆ จากนั้นจึงหยิบยาออกมาจากแขนเสื้อแล้วยัดเข้าไปในปากของเขา นางบีบจมูกของอวี้ชิงเพื่อให้เขากลืนยาลูกกลอนลงไป อวี้หลงคิดว่านางวางพิษน้องชายตนเอง เขากรีดร้องออกมาทั้งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด“อ๊ากกกก!!!ข้าจะสู้ตายกับเจ้า”เด็กชายที่สูงเพียงอกของนางพยายามต่อสู้กับหญิงใบ้สุดกำลัง ดวงตาเฉยเมยมองเด็กน้อยที่กำลังวิ่งเข้าหานาง เขาแกว่งหมัดไปที่หลายทีแต่นางก็ไม่ได้สู้กลับ นางทำเพียงพลิกเท้าหลบไปมาเหมือนกำลังเย้าแหย่สัตว์ตัวเล็กๆเด็กตัวเล็กที่พยายามต่อสู้กับผู้ใหญ่ผ่านไปนานสุดท้ายก็ยังไร้ผล อวี้หลงหอบหายใจแรงเพราะเรี่ยวแรงของเขาหมดไปจากการที่เขาแบกน้องชายเดินเป็นเวลานาน“พะ...พี่ชาย”เสียงเล็กๆ ที่ดังขึ้นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจของเขา อวี้หลงเลิกสนใจหญิงใบ้รีบวิ่งไปดูน้องชายของตนทันที“ชิงเอ๋อเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”อวี้หลงแตะไปที่หน้าผากของเขา ตัวที่ร้อนดังไฟตอนนี้ได้เย็นลงเล็กน้อย ใบหน้าแดงก่ำ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   หนี

    อวี้หลงและอวี้ชิงฟื้นขึ้นมาหลังจากที่ถูกลักพาตัวโดยชายชุดดำหลายสิบคน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาถูกจับตัวมา ท่านแม่และท่านพ่อจะต้องเป็นห่วงพวกเขามากแน่ๆตลอดทางที่รถม้าวิ่งพวกเขาถูกจับกรอกยาบางอย่างทำให้ไร้เรี่ยวแรงและหลับไป ทหารที่ทำหน้าที่คุ้มกันรถม้ากลับขึ้นมาดูพวกเขาเป็นระยะ สองพี่น้องฝาแฝดแสร้งหลับเพื่อไม่ให้ถูกกรอกยาอีกอวี้หลงใช้เท้าสะกิดน้องชายเบาๆ อวี้ชิงหรี่ตามองพี่ชายเล็กน้อย ทั้งสองพยักหน้าให้กันเป็นการสื่อสารที่เหมือนจะมีแค่พวกเขาที่เข้าใจ“เป็นอย่างไรบ้างพวกเขาตื่นขึ้นมาบ้างหรือไม่”เสียงหวานที่คุ้นหูทำให้นึกถึงสตรีผู้หนึ่งที่ท่านแม่แนะนำว่านางคือสหาย นางกล้าหักหลังท่านแม่แล้วจับตัวพวกเขามาหรือ ช่างน่าตายนัก“หลายวันมานี้พวกเขาฟื้นขึ้นมาไม่กี่ครั้งขอรับ ตอนนี้ยังคงหลับอยู่เพราะข้ากรอกยาสลายพลังไปแล้ว”ซูหลีพยักหน้า จากนั้นจึงเดินกลับขึ้นรถม้าคันที่อยู่ด้านหน้าพร้อมกับกั๋วจื่อชาง ไม่มีใครเอะใจเรื่องนี้เลยว่าพวกเขาจะแสร้งหลับเพราะคิดว่าเป็นเพียงเด็กหกขวบที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมเท่านั้น หลังจากที่ดื่มยาสลายพลังไปสองสามครั้งดูเหมือนฤทธิ์ยาจะค่อยๆ ไร้ผลและไม่สามารถทำอันใด

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ลักพาตัว

    หลังงานเลี้ยงที่วังหลวง เหล่าราชทูตที่มาร่วมงานต่างทยอยเดินทางกลับแคว้นของตน องค์หญิงเซียวหมิ่นเองก็เช่นเดียวกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไปเล็กน้อยคือ นางกลับไปที่แคว้นเซียวในครั้งนี้มีเว่ย หลี่หมิงตามนางกลับไปด้วย ส่วนทางด้านเว่ยอ๋องก็ต้องกลับไปเตรียม ของหมั้นและสินสอดเพื่อแต่งสะใภ้เข้าจวน“ข้าขอให้พวกท่านเดินทางปลอดภัย หากมีโอกาสข้าจะไปร่วมงานแต่งของท่านทั้งสอง”“ข้าไปก่อนนะพี่อาลู่ท่านอย่าลืมแวะมาหาข้าเล่า”เฉียวลู่ออกมาส่งขบวนราชทูตจากแคว้นเซียวและแคว้นเว่ยที่นอกเมือง องค์หญิงเซียวหมิ่นยังมีท่าทางอาลัยอาวรณ์ต่อนาง และไม่อยากกลับแคว้นเซียว“รีบออกเดินทางเถอะสายมากแล้ว”ทหารอารักขาให้สัญญาณ ขบวนรถม้าจากแคว้นเซียวจึงเริ่มเคลื่อนตัว“ข้าขอขอบคุณเว่ยอ๋องที่ช่วยเหลือและดูแลข้ามาถึงหนึ่งปี ในอนาคตหากท่านมีเรื่องเดือดร้อนใด ทั้งข้าและสำนักเซียนแพทย์จะเข้าช่วยเหลือท่านอย่างเต็มกำลัง”นางหันมาขอบคุณเว่ยอ๋องที่กำลังออกเดินทางเช่นเดียวกัน“ไม่เป็นไรมิได้ ที่ข้าช่วยพระชายาก็ถือว่าเราทั้งสองแคว้นมีวาสนาต่อกัน ในอนาคตหากข้ามีเรื่องเดือดร้อนข้าจะมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าแน่นอน”เว่ยอ๋องเอ่ยลาจากนั

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   กรรมตามสนอง

    นางกำนัลที่พาเฉียวลู่มาที่ห้องรับรองครั้งแรกย่องกลับมาดูสถานการณ์ เมื่อได้ยินเสียงน่าบัดสีดังขึ้นข้างในนางจึงรีบกลับไปที่งานเลี้ยงทันที ผ่านไปไม่นานนางกำนัลกลับมาพร้อมราชทูตและขุนนางมากมาย รวมทั้งชินอ๋องผู้ที่จะมาเป็นพยานสำคัญในเรื่องนี้เสียงครางกระเส่าของบุรุษยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่เสียงของสตรีนั้นร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกขัดกันยิ่งนัก“นี่มันเรื่องอันใดกัน ในงานเลี้ยงวันพระราชสมภพของฝ่าบาท ใครช่างใจกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”ผู้ที่เอ่ยขึ้นคือราชครูเสิ่นบิดาของเสิ่นชิงหยุน ทุกคนที่ตามมาดูเรื่องสนุกต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย“ผู้ที่อยู่ในห้องนั้นคือ....”นางกำนัลมองไปที่ฉีหมิงเยี่ยนก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความหวานกลัว“ผู้ใดกันเหตุใดถึงไม่ยอมพูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด หากกระทำผิดย่อมต้องได้รับโทษเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนาง”ราชครูเสิ่นจ้องไปที่นางกำนัลอย่างไม่วางตา เพื่อกดดันให้นางเอ่ยชื่อผู้ที่กำลังแสดงฉากร่วมรักอยู่ภายในห้องออกมา“พระชายาชินอ๋องเจ้าค่ะ บ่าวทำหน้าที่นำทางพระชายาชินอ๋องให้มารอที่ห้องนี้ แต่ไม่คิดว่านางจะ...”ทุกคนต่างหันกลับมามองฉี

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status