ย้อนอดีตมาพลิกชะตา (ยุค 70)

ย้อนอดีตมาพลิกชะตา (ยุค 70)

last updateLast Updated : 2025-07-06
By:  sanvittayamOngoing
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
10
1 rating. 1 review
71Chapters
2.3Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

มู่อันเหมยชาติก่อนเธอหนีการแต่งงานเพียงเพราะคิดว่า ว่าที่สามีนั้นเป็นเพียงอดีตนักโทษ แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลาย หลังจากที่รู้ว่าชายคนรักที่เธอหนีตามไปกลับยัดเยียดคำว่าเมียน้อยให้เธอ โดยที่เธอไม่รู้ตัว

View More

Chapter 1

บทที่ 1 มู่อันเหมย

บทที่ 1 มู่อันเหมย

มู่อันเหมย ลูกสาวคนรองของบ้านรองมู่ เธอไม่ชอบความยากจนและไม่อยากทำงานในคอมมูน จึงตั้งใจเรียนจนจบมัธยมเพื่อสอบเข้าโรงงานยาสูบของรัฐในเมือง

บ้านรองมู่นั้นอยู่ด้วยกันห้าชีวิต โดยมีมู่เสียนเป็นหัวหน้าครอบครัว มีนางจางหลานเป็นภรรยา ลูกชายคนโตชื่อมู่เฟยหยวน อายุยี่สิบห้าปี คนเล็กชื่อมู่กวนอี อายุสิบสามปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น และมีมู่อันเหมยเป็นลูกคนรองและเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

แม้ว่าบ้านรองมู่จะยากจนสักเพียงใด ทว่าทุกคนกลับตามใจเธอทุกอย่าง ขอเพียงมู่อันเหมยเอ่ยปากมาเท่านั้น

ในวันที่มู่อันเหมยเรียนจบมัธยมปลาย เธอรีบวิ่งเข้ามาแจ้งแก่ครอบครัวด้วยความดีใจ

พ่อ แม่ ฉันเรียนจบแล้ว อีกสองวันโรงงานยาสูบจะเปิดรับพนักงานใหม่ ฉันขอไปลองสอบดูนะ”

มู่อันเหมยเป็นหญิงสาวที่เอาแต่ใจตนเอง รักสวยรักงาม ยิ่งงานในคอมมูน ที่ทุกบ้านต้องเข้าไปทำงานแลกแต้มเธอยิ่งไม่เคยย่างกรายเข้าไปที่แห่งนั้น เพราะเธอกลัวผิวเสีย

ซึ่งแตกต่างจากเด็กสาวบ้านอื่น เมื่อไหร่ที่ถึงวันหยุดหรือปิดภาคเรียน เด็กจากครอบครัวอื่นต่างก็วิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อขอทำงานแลกแต้ม หวังว่าแรงกายอันน้อยนิดของพวกตนจะทำให้ครอบครัวมีอาหารมากขึ้น

หากลูกมั่นใจก็ทำเถอะ พ่อไม่ห้าม แต่มันต้องใช้เงินเยอะหรือเปล่า พ่อได้ยินว่ามีการซื้อขายตำแหน่งกันด้วยไม่ใช่เหรอ”

เรื่องอื่นเขาไม่มีปัญหา แม้ว่ามู่อันเหมยจะไม่ชอบทำงานบ้านหรือไม่ยอมทำงานในคอมมูนช่วงวันหยุด แต่เรื่องการเรียนเธอกลับทำได้ดีจนน่าตกใจ และเขาเชื่อว่าหากได้สอบเข้าทำงานที่โรงงานยาสูบ เป็นไปไม่ได้ที่ลูกสาวของเขาจะสอบไม่ผ่าน ทว่าสิ่งที่เขากังวลนั้นกลับเป็นเงินที่ต้องใช้จ่ายนั่นเอง

เรื่องค่าใช้จ่ายอาจจะมีค่ะ แต่ว่ามันคุ้มนะคะหากฉันได้งาน เงินเดือนของพนักงานใหม่เริ่มต้นที่ยี่สิบห้าหยวน ฉันตั้งใจจะส่งกลับมาให้พ่อกับแม่ด้วยนะ จะได้ช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน”

เธอพยายามพูดโน้มน้าวครอบครัว ทว่าพี่ใหญ่อย่างมู่เฟยหยวนกลับไม่เห็นด้วย หากครอบครัวต้องไปกู้เงินเพื่อมาจ่ายใต้โต๊ะให้กับมู่อันเหมย

แต่ผมไม่เห็นด้วยครับพ่อ แต่ละปีส่วนแบ่งอาหารและเงินที่ได้รับแทบไม่พอใช้ ทำไมเราต้องสร้างหนี้ยืมคนอื่นเพียงเพราะอยากให้อันเหมยเข้าทำงานในโรงงานยาสูบด้วยล่ะ หากคิดว่ามีความสามารถพอก็ใช้ความสามารถของตนเองสิ จะเดือดร้อนหาจ่ายใต้โต๊ะทำไม” และที่เขารู้ จ่ายใต้โต๊ะนั่นเงินไม่ใช่น้อย ขั้นต่ำก็เป็นร้อยหยวน

มันไม่มากขนาดนั้นหรอกพี่ใหญ่ สหายพ่อของเสี่ยวฟางทำงานเป็นหัวหน้าแผนกที่นั่น พอจะมีเส้นสายอยู่บ้าง เราเพียงแค่ซื้อของขวัญติดไม้ติดมือเท่านั้นเอง พรุ่งนี้พ่อของเสี่ยวฟางจะพาไปแนะนำให้รู้จัก”

มู่อันเหมยรีบอธิบาย แม้ว่าเธอไม่ค่อยกลัวใครในบ้านทว่าพี่ชายคนนี้เธอรู้สึกเกรงเขาไม่น้อย

อืม หากมั่นใจว่าใช้เงินเพียงแค่หาซื้อของขวัญพี่จะจัดการให้ แต่ก็อย่าลืมสัญญาแต่งงานล่ะ พี่ให้เวลาหนึ่งปี พ่อจะได้ไม่เสียคำพูด”

มู่เฟยหยวนตกลงที่จะหาเงินมาให้ ถ้าหากอันเหมยได้งานที่โรงงานทำย่อมเป็นเรื่องดี ทว่าพ่อกลับมีคำมั่นสัญญาที่ให้กับบ้านเฉิน ซึ่งก็คือเฉินหยางคุน ชายหนุ่มประวัติไม่ค่อยดีเนื่องจากเคยติดคุกทหารมาก่อน

แม้ว่าเฉินหยางคุนจะประวัติไม่ขาวสะอาด ทว่าเขากลับมีน้ำใจกับทุกคน ครอบครัวของเฉินหยางคุนเหลือเพียงแม่และน้องสาวเท่านั้น

ครั้งนี้เขาคงต้องไปขอความช่วยเหลือบ้านเฉินอีกครั้งเสียแล้ว

ทำไมฉันต้องแต่งงานด้วยล่ะพี่ใหญ่ แค่คำขอบคุณที่พ่อจะตอบแทนลุงเฉิน มันไม่เกี่ยวกับฉันนะ อีกอย่างลูกชายบ้านเฉินเคยติดคุกทหารมาก่อน ฉันไม่เอาด้วยหรอก”

แม้ในอดีตลูกชายบ้านเฉินจะเคยเป็นทหารแต่ก็เคยติดคุกมาก่อน อีกทั้งใบหน้ายังมีรอยแผลเป็นแบบนั้นอีก ต่อให้บ้านเฉินพอจะมีฐานะอยู่บ้าง เธอก็ไม่คิดจะเกี่ยวดองด้วยแน่

เธอเหมาะกับคนมีหน้ามีตา หรือทำงานดีในโรงงานไม่ใช่ชาวบ้านที่มีคดีติดตัวเช่นนี้

อันเหมย น้องจะพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก แม้จะเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันก็จริง แต่เราคือลูก ย่อมต้องทำตามเพื่อแสดงความกตัญญู”

หากเรื่องอื่นเขายอมน้องสาวคนนี้ได้ทุกอย่าง ทว่าเรื่องนี้เขาไม่มีทางยอม สิบปีก่อนลุงเฉินได้ช่วยชีวิตพ่อไว้ ทั้งสองจึงตกลงว่าจะให้เฉินหยางคุนแต่งงานกับอันเหมย ต่อให้เวลานี้ลุงเฉินจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม บ้านรองมู่ยิ่งต้องทำตามที่ลั่นวาจาไว้

หนึ่งปีก็หนึ่งปี จากนั้นค่อยว่ากันเถอะพี่ใหญ่” มู่อันเหมยไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชาย เธอจึงตัดปัญหาด้วยการตอบรับแบบส่ง ๆ จากนั้นจึงรีบเดินเข้าห้องตนเอง

นับวันอันเหมยนิสัยจะแย่กว่าเดิมนะครับพ่อ พูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็เถียงทุกคำ”

ช่างเถอะเจ้าใหญ่ ยังไงลูกก็ให้เวลาน้องหนึ่งปีไม่ใช่เหรอ ว่าแต่ลูกจะเอาเงินที่ไหนให้น้อง”

คนเป็นพ่อได้แต่ห้ามทัพ อาจจะเกิดจากเขาเองที่คอยตามใจอันเหมยมาตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาจึงกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจเช่นนี้

คงต้องรบกวนบ้านเฉินก่อนน่ะครับ อีกอย่างผมจะลองหาวันหยุดดู เผื่อว่าในตลาดมืดมีงานอะไรให้ทำ อย่างน้อยมีค่าแรงส่วนนี้จะได้ทยอยคืนบ้านเฉินและยังเอามาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้บ้าง”

ทุกครั้งที่เขาเข้าไปหางานทำในตลาดมืด เขาก็ยังได้เงินกลับมาทุกครั้ง มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับงานที่เขาได้

มันอันตรายหรือไม่ลูก การค้าในช่วงนี้กวดขันไม่น้อยเลย พวกทหารแดงก็วนเวียนไม่หยุด แม่กลัวว่าลูกจะเกิดเรื่อง”

นางจางหลานเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง บางครั้งลูกชายของเธอแอบเอาสัตว์ป่าที่ล่าได้ไปขาย เธอใจไม่ดีเลยสักครั้ง กลัวว่าจะโดนจับได้ แต่เพราะฐานะทางบ้านไม่สู้ดี ลูกชายของเธอจึงยังคงดื้อดึงและยืนยันที่จะทำ

ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ สบายใจได้ ผมระวังตัวทุกครั้งที่เข้าไปในที่แห่งนั้น”

มู่เฟยหยวนไม่อยากให้ครอบครัวไม่สบายใจ ทว่าเวลานี้ทหารแดงคือสิ่งที่น่ากลัวของชาวบ้าน ทุกครั้งที่เข้าตลาดมืด เขาต้องดูลู่ทางให้ดี เพราะไม่อยากเกิดเรื่องจนทำให้ครอบครัวต้องมาพลอยเดือดร้อนไปด้วย

หลังจากนั้นมู่เฟยหยวนจึงไปรบกวนบ้านเฉินอีกครั้ง ซึ่งนางเฉินและลูกชายอย่างเฉินหยางคุนไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจ แถมยังหยิบเงินให้ตามจำนวนที่ขอยืมอย่างไม่รีรอเช่นกัน

ในที่สุดมู่อันเหมยก็สอบเข้าทำงานในโรงงานยาสูบได้อย่างที่ตั้งใจ เรื่องนี้ทำให้บ้านรองมู่ต่างก็ดีใจมาก ชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างก็อิจฉา แม้กระทั่งบ้านสามยังคล้ายจะเข้ามาบังคับให้มู่อันเหมยสละสิทธิ์ให้ กรณีนี้สามารถทำได้เพราะเป็นคนในตระกูลเดียวกัน

ทว่ามีหรือที่มู่อันเหมยจะยอม เธออุตส่าห์ฝ่าฟันจนเข้าทำงานในโรงงานยาสูบได้ จะมาปล่อยให้บ้านสามยึดครองได้อย่างไร

หญิงสาวทำงานด้วยความดีใจที่สามารถหลุดพ้นจากคอมมูนได้ การทำงานของเธอแม้จะไม่เข้าตาเพื่อนร่วมงานหลายคน เพราะใบหน้าที่สวยสะดุดตาและรูปร่างที่ชวนมอง ทำให้เป็นจุดสนใจของเหล่าบรรดาชายหนุ่มในโรงงาน

หนึ่งในนั้นคือว่านปี่หมิง เขาเป็นชายหนุ่มต่างเมือง ใบหน้าโดดเด่น พูดจาดี เอาใจเก่ง และดูอบอุ่นในสายตาของมู่อันเหมยไม่น้อย เขาจึงครองใจของมู่อันเหมยอย่างง่ายดาย

จะกลับบ้านเหรอครับ ให้ผมไปส่งไหม” ว่านปี่หมิงกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มบวกกับน้ำเสียงที่อ่อนโยน

ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังไม่ได้บอกกับครอบครัวเรื่องของเรา”

ในเวลานี้มู่อันเหมยและว่านปี่หมิงคบหาดูใจกันแล้ว ทว่าชายหนุ่มกลับให้คนรักปิดบังเพื่อนร่วมงานไว้ก่อน เขาใช้ข้ออ้างเรื่องของการเลื่อนตำแหน่งของตนเอง กลัวว่าจะเกิดปัญหาหากมีเรื่องชู้สาวขึ้น ซึ่งมู่อันเหมยยอมรับอย่างง่ายดายเพราะคิดถึงอนาคตของคนรัก

เมื่อไหร่คุณจะบอกครอบครัวล่ะครับ ผมจะได้เข้าไปทำความรู้จักกับครอบครัวคนรักของผมเสียที อย่าลืมว่าเราเป็นมากกว่านั้นแล้วนะครับ”

สายตาที่หวานหยดส่งไปยังมู่อันเหมย ทำให้หญิงสาวอายจนหน้าแดง ไม่ใช่เธอไม่อยากพากลับไปพบหน้าครอบครัว ทว่าตัวเธอเองยังมีสัญญาแต่งงานกับลูกชายบ้านเฉิน ซึ่งทางครอบครัวคงไม่ยอมแน่หากเธอล้มเลิกงานแต่งในครั้งนี้

อีกทั้งในเวลานี้เธอได้ตกเป็นของคนรักทั้งกายและใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลับบ้านคราวนี้เธอต้องไปคุยกับลูกชายบ้านเฉินเป็นการด่วน คงไม่มีชายคนใดอยากแต่งงานกับหญิงที่สูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วแน่

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

user avatar
Nattery
สนุกดี พระเอกธงเขียวปี๋มาก เป็นเรื่องแรกที่อ่านเจอว่าพระเอกมีไอเทม ขอบคุณที่อัพเดทจนจบ
2025-07-26 02:19:03
0
71 Chapters
บทที่ 1 มู่อันเหมย
บทที่ 1 มู่อันเหมยมู่อันเหมย ลูกสาวคนรองของบ้านรองมู่ เธอไม่ชอบความยากจนและไม่อยากทำงานในคอมมูน จึงตั้งใจเรียนจนจบมัธยมเพื่อสอบเข้าโรงงานยาสูบของรัฐในเมืองบ้านรองมู่นั้นอยู่ด้วยกันห้าชีวิต โดยมีมู่เสียนเป็นหัวหน้าครอบครัว มีนางจางหลานเป็นภรรยา ลูกชายคนโตชื่อมู่เฟยหยวน อายุยี่สิบห้าปี คนเล็กชื่อมู่กวนอี อายุสิบสามปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น และมีมู่อันเหมยเป็นลูกคนรองและเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวแม้ว่าบ้านรองมู่จะยากจนสักเพียงใด ทว่าทุกคนกลับตามใจเธอทุกอย่าง ขอเพียงมู่อันเหมยเอ่ยปากมาเท่านั้นในวันที่มู่อันเหมยเรียนจบมัธยมปลาย เธอรีบวิ่งเข้ามาแจ้งแก่ครอบครัวด้วยความดีใจ“พ่อ แม่ ฉันเรียนจบแล้ว อีกสองวันโรงงานยาสูบจะเปิดรับพนักงานใหม่ ฉันขอไปลองสอบดูนะ”มู่อันเหมยเป็นหญิงสาวที่เอาแต่ใจตนเอง รักสวยรักงาม ยิ่งงานในคอมมูน ที่ทุกบ้านต้องเข้าไปทำงานแลกแต้มเธอยิ่งไม่เคยย่างกรายเข้าไปที่แห่งนั้น เพราะเธอกลัวผิวเสียซึ่งแตกต่างจากเด็กสาวบ้านอื่น เมื่อไหร่ที่ถึงวันหยุดหรือปิดภาคเรียน เด็กจากครอบครัวอื่นต่างก็วิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อขอทำงานแลกแต้ม หวังว่าแรงกายอันน้อยนิดของพวกตนจะทำให้ครอบครัวมีอา
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 2 ตัดขาดความสัมพันธ์
บทที่ 2 ตัดขาดความสัมพันธ์“กลับมาแล้วเหรออันเหมย ทำงานมาทั้งสัปดาห์เหนื่อยมากไหม”นางจางหลานกลับมาเตรียมอาหารมื้อเย็นให้สามีและลูกชายทั้งสองเอ่ยถามด้วยความดีใจ เมื่อเห็นหน้าลูกสาวที่ไม่ได้เจอมาทั้งสัปดาห์“ไม่เท่าไรค่ะแม่ พ่อกับพี่ใหญ่ยังไม่กลับมาอีกเหรอ”“อืม ทั้งสองขึ้นเขาไปเก็บกับดักสัตว์ป่า คงอีกสักพัก กลับมาเหนื่อย ๆ เข้าไปอาบน้ำก่อนสิ กว่าแม่จะทำอาหารเย็นเสร็จคงจะอีกนาน”ครึ่งปีแล้วที่ลูกสาวของเธอไปทำงานในโรงงานยาสูบ แรก ๆ มู่อันเหมยยังคงกลับบ้านทุกวัน แต่เมื่อสามเดือนก่อนกลับมาขออยู่หอพักพนักงาน อ้างว่าเหนื่อยกับการเดินทางและต้องตื่นเช้าจนเกินไปเมื่อเห็นว่าลูกเหนื่อยกับการเดินทางและต้องตื่นเช้าเพื่อไม่ให้เข้างานสายจึงได้อนุญาตให้อยู่หอพักพนักงาน“เดี๋ยวฉันมานะแม่”มู่อันเหมยเมื่อรู้ว่าพ่อกับพี่ชายยังไม่กลับมาและไม่ได้อยู่กับลูกชายบ้านเฉินจึงคิดจะทำบางอย่าง เมื่อบอกกล่าวกับแม่เธอจึงรีบเดินออกจากบ้านมาทันที“พี่ใหญ่เฉิน”เฉินหยางคุนกำลังเดินกลับบ้านกลับมีเสียงเรียกเขาไว้ เมื่อหันมามองก็เป็นว่าที่ภรรยาของตนเอง เขาไม่ใช่คนหวาน ติดจะเย็นชาจึงไม่รู้ว่าต้องทำสีหน้าอย่างไรเมื่อเจอหญิ
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 3 กลับมาอีกครั้ง
บทที่ 3 กลับมาอีกครั้งมู่อันเหมยคล้ายกับคนใจลอย จนมาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง ตลอดเวลาเธอกล่าวโทษตนเองที่ใจง่ายจนชีวิตต้องเป็นแบบนี้ ขอโทษพ่อแม่และครอบครัว รวมถึงว่าที่สามีที่เธอรังเกียจตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน เธอไม่อยากให้ครอบครัวอับอายที่ลูกสาวทำตัวเช่นนี้การเป็นชู้กับสามีคนอื่นเป็นเรื่องต่ำช้าที่น่ารังเกียจ ทว่าเธอกลับท้องไม่มีพ่ออีก หญิงสาวคิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมาจนน้ำตาที่ไหลออกมานั้นแทบจะเป็นสายเลือดสุดท้ายเพื่อไม่ให้ครอบครัวอับอายและตัดสินโทษให้ตนเอง จึงได้ตัดสินใจกระโดดหน้าผาเพื่อจบชีวิตของเธอพร้อมกับลูกที่ยังไม่ลืมตาขึ้นมาดูโลกภายนอก“ชาตินี้ฉันทำตัวไม่ดี ทำให้ครอบครัวเสียใจ ทำให้ครอบครัวต้องอับอายที่หนีการแต่งงาน หากชาติหน้ามีจริงและถ้าเป็นไปได้ ฉันขอกลับมาแก้ไขอดีตตนเองอีกครั้ง ฉันจะไม่ทำผิดเรื่องเดิมอีก”มู่อันเหมยได้แต่คร่ำครวญขอโทษครอบครัว แม้กระทั่งบ้านเฉินที่เธอผิดสัญญาเรื่องการแต่งงาน“ลูกรัก ชาตินี้เราสองคนบุญน้อย หากชาติหน้ามีจริง เรากลับมาเป็นแม่ลูกกันอีกนะ”ทันทีที่อธิษฐานจบ หญิงสาวจึงกระโดดหน้าผาด้วยความรู้สึกผิด ทว่าภาพที่เธอเห็นก่อนที่ร่างจะกระแทกกับพื้น เธอกลับเห็นพี่ให
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
บทที่ 4 สบตาครั้งแรก
บทที่ 4 สบตาครั้งแรกเช้าวันต่อมาบ้านรองมู่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี ด้วยเพราะทุกคนเคยชินกับการตื่นเช้าขนาดนี้ หากนอนต่อนั่นหมายถึงว่าอาจจะล้มป่วยหรือเหนื่อยจนเกินไปจึงได้ตื่นสาย“พี่ใหญ่ พี่ไปยืมเงินใครมาเหรอ”“เงินอะไรอันเหมย”จากที่งัวเงียเพราะตื่นคนสุดท้าย ตอนนี้มู่เฟยหยวนแทบจะตาสว่างขึ้นมาทันที เมื่อโดนกล่าวหาว่าไปยืมเงินคนอื่น“อ้าว ก็เงินที่ฉันซื้อของขวัญให้กับสหายพ่อของเสี่ยวฟางยังไงล่ะ”“ของขวัญอะไร อันเหมยสอบเข้าได้เพราะความสามารถตนเอง ไม่มีของขวัญอะไรทั้งนั้น นี่น้องอาการยังไม่ดีขึ้นใช่ไหม พี่คิดว่าอันเหมยควรจะกลับไปนอนนะ อีกไม่นานต้องไปทำงานแล้วไม่ใช่เหรอ หากยังป่วยแบบนี้พี่คิดว่าคงโดนไล่ออกภายในสามวัน”มู่เฟยหยวนคิดว่าน้องสาวยังไม่หายจากการล้มหัวฟาดที่ลำธารเมื่อวาน วันนี้จึงได้พูดอะไรแปลก ๆ อีกแล้ว“จริงเหรอ สงสัยฉันจำผิดไป”เอาอีกแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่เหมือนเดิม หรือเพราะชาติที่แล้วเธอก็สอบได้ด้วยตนเอง แต่เพราะเธอไปไหว้คนคนนั้นก่อนจึงคิดว่าเขาช่วยให้เธอได้เข้าทำงาน ยิ่งคิดยิ่งสับสน มู่อันเหมยจึงขอตัวกลับเข้าห้องเพื่อทบทวนความทรงจำก่อนหน้านี้ทั้งหมดทุกคนในครอบครัวไม
last updateLast Updated : 2025-07-06
Read more
บทที่ 5 เฉินหยางคุน
บทที่ 5 เฉินหยางคุน“อืม ร่างกายหายแล้วใช่ไหม เข้าอำเภอไหวหรือเปล่า” เฉินหยางคุนคล้ายกับคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงเอ่ยถาม“หายแล้วค่ะ ว่าแต่พี่จะเข้าอำเภอกับฉันเหรอ แล้วไปทำไม”“รออยู่ที่นี่นะเดี๋ยวมา ผมขอไปลางานที่คอมมูนและไปเอาจักรยานก่อน”หากรอเกวียนคงต้องรออีกสักพักใหญ่ เพราะเกวียนเที่ยวนี้เพิ่งออกไปได้ไม่นาน หากต้องเดินไปเขากลัวว่าร่างบอบบางของมู่อันเหมยจะไม่ไหวเอา เพิ่งจะหายป่วยด้วยดังนั้นปั่นจักรยานไปจึงดีที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องชายหญิงที่ไม่ควรใกล้ชิดเพราะยังไม่แต่งงานเขาไม่สนใจ ในเมื่อเขาและมู่อันเหมยมีสัญญาหมั้นหมายกัน และเขาเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ในเมืองคงไม่เรียกตรวจเอกสารกับเขา!เฉินหยางคุนเลือกที่จะไม่ตอบ แต่บอกให้เธอรออยู่ที่นี่แทน ส่วนเขาหมุนตัวเดินกลับไปยังคอมมูนทันที“เฮ้อ…ไม่คิดจะเอาคำตอบเลยใช่ไหม คนอะไรจะประหยัดคำพูดได้ขนาดนั้น ว่าแต่เข้าอำเภอเหรอ…ฉันต้องเปลี่ยนชุดไหม”มู่อันเหมยพึมพำกับตนเอง แต่เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่ใส่ดูเก่าจนเกินกว่าจะไปในเมืองได้ เธอจึงเลือกที่จะกลับเข้าไปในห้องของตนเอง เพื่อเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาเข้าอำเภอทำไม หากมอมแมมไปคงไม
last updateLast Updated : 2025-07-06
Read more
บทที่ 6 เข้าอำเภอด้วยกัน
บทที่ 6 เข้าอำเภอด้วยกันหลังจากแยกตัวมาจากแม่ เขาก้มดูตนเองเล็กน้อย เมื่อเห็นสภาพที่เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นด้วยดิน เขาจึงเดินกลับเข้าห้องตนเองก่อนจะไปเปลี่ยนชุดใหม่เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วจึงเดินไปทางหลังบ้าน เพื่อไปเอาจักรยานที่จอดอยู่ปั่นไปที่บ้านรองมู่ด้วยหัวใจที่อิ่มเอม ทว่าใบหน้าของชายหนุ่มกลับมีความเย็นชาไว้เช่นปกติ ทำให้ชาวบ้านที่เห็นต่างไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเฉินหยางคุนนั้นมีความสุขแค่ไหน เมื่อมาถึงบ้านรองมู่ มู่อันเหมยนั่งรอเขาก่อนแล้ว“รอนานไหม”“ไม่เลยพี่ใหญ่เฉิน ฉันเพิ่งเดินออกมาก่อนหน้านี้ไม่นาน”“ไปกันเถอะ เดี๋ยวแดดจะร้อนเสียก่อน เพิ่งจะหายป่วย”“แต่…แต่ฉันยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลยนะพี่ กลัวกลับมาแล้วไม่เจอ…” มู่อันเหมยยังมีความกังวล เธอคิดจะไปที่คอมมูนเพื่อบอกกล่าวเรื่องที่เธอจะเข้าเมืองกับพี่ใหญ่เฉิน“ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว อาหยวนรับรู้ คงไปบอกน้ามู่และน้าสะใภ้มู่ให้แล้ว”คราวนี้มู่อันเหมยตกใจกับการกระทำของเขาไม่น้อย จึงเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่มอย่างไม่ได้ตั้งใจ ต่อให้ใบหน้ายังคงเย็นชาเช่นเดิม แต่ทำไมดวงตาเขาถึงมีประกายคล้ายคนกำลังยิ้มล่ะ“รีบไปเถอะ”“ค่ะ”มู่อันเหมยต
last updateLast Updated : 2025-07-06
Read more
บทที่ 7 ผู้ชายอบอุ่น
บทที่ 7 ผู้ชายอบอุ่นระหว่างปั่นจักรยานมาตลาดมืด ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่ามีสายตาสองคู่กำลังมองด้วยความตกใจ“นายเห็นเหมือนฉันหรือเปล่าอาโจว”จื้อเฉียงสะกิดสหายด้วยความตกใจ พร้อมกับถามว่าเห็นเหมือนที่เขาเห็นไหม“ฉันไม่ได้ตาบอด นั่นมันเจ้านายของพวกเรา ว่าแต่คนที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานใช่ว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายหรือเปล่า” จงอี้ตอบกลับ เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเองเหมือนกันเจ้านายผู้แสนเย็นชาโหดเหี้ยมที่ไม่เคยก้มหัวให้ใครแม้แต่กลุ่มทหารแดงที่ชาวบ้านล้วนหวาดกลัว ทำไมวันนี้เจ้านายเขาช่างดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นแบบนั้นล่ะ ทั้งสองคล้ายจะมุ่งหน้าไปตลาดมืดใช่หรือไม่“ถ้าอย่างนั้นเราสองคนรีบกลับไปตลาดมืดกันก่อนดีไหม เผื่อเจ้านายเรียกหา”วันนี้เขามาจัดการธุระบางอย่างให้เฉินหยางคุน แต่ในเวลานี้ควรจะกลับไปยังตลาดมืดก่อนดีกว่าเผื่อว่าเจ้านายมีเรื่องด่วนและเรียกหาจากนั้นทั้งสองจึงขี่จักรยานกลับมายังตลาดมืดอีกครั้งด้วยความรวดเร็วในตลาดมืดแห่งนี้ดูไม่เหมือนกับชาติก่อน ในนี้คล้ายกับมีของมาขายมากขึ้นกว่าเดิม แต่พอคิดไปคิดมาที่นี่ไม่ใช่ที่เดียวกับที่เธอเคยมาซื้อของชาติที่แล้ว“ตลาดมืดแห่งนี้ดูเหมือนจะมีของเยอะเลยน
last updateLast Updated : 2025-07-06
Read more
บทที่ 8 มายืมเงินบ้านเฉิน
บทที่ 8 มายืมเงินบ้านเฉิน“หล่อนไม่รู้หรือยังไงว่าทั้งสองบ้านมีสัญญาหมั้นหมายกัน อีกไม่นานคงมีงานหมั้นของทั้งสองคน เราเป็นคนนอกอย่าไปยุ่งเรื่องนี้เลย”นางกวนไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นมากนัก แค่เรื่องอาหารการกินของครอบครัวที่ขัดสนยังหาทางออกลำบาก อย่าเอาเวลาไปยุ่งหรือวุ่นวายครอบครัวคนอื่นเลยชาวบ้านคนอื่นจึงได้สงบปากสงบคำตนเอง ทว่ายังคงมองไปยังเฉินหยางคุนและมู่อันเหมยจนลับสายตา“ขอบคุณมากค่ะสำหรับวันนี้”เมื่อมาถึงบ้านมู่อันเหมยจึงเอ่ยขอบคุณเขาอีกครั้ง ใบหน้าของเธอบ่งบอกว่ามีความสุขและสบายใจ“อืม ผมกลับก่อน เข้าบ้านแล้วรีบพักเถอะ วันนี้แดดร้อนเดี๋ยวจะไม่สบาย”เฉินหยางคุนกลัวว่ามู่อันเหมยจะกลับมาป่วยอีก เนื่องจากวันนี้ตะลอนในเมืองกันนานพอสมควร“ฉันหายป่วยแล้วพี่ใหญ่เฉิน ขอเอาของไปเก็บก่อน อีกสักพักจะตามไปนะคะ”มู่อันเหมยตอบกลับ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับข้าวของมากมายที่ชายหนุ่มซื้อให้เฉินหยางคุนมองจนร่างบางลับสายตา เขาจึงปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยหัวใจพองโตมู่อันเหมยไม่รู้เลยว่าขณะที่เก็บของใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอไม่คิดเลยว่าชาติก่อนเธอจะตาบอดละทิ้งชายที่แสนดีชื่อเฉินห
last updateLast Updated : 2025-07-06
Read more
บทที่ 9 โดนตอกหน้าหงาย
บทที่ 9 โดนตอกหน้าหงายสะใภ้บ้านสามมู่ยังคงเถียงคอเป็นเอ็น และแสดงท่าทางที่ดูเหนือกว่า หากแม่สามีเอ่ยปากขึ้นมา ไม่ว่าบ้านใหญ่หรือบ้านรองล้วนไม่อาจปฏิเสธ เพราะคำว่ากตัญญูมันค้ำคอใช่แล้ว ไม่ว่าปู่หรือย่าพูดสิ่งใด ลุงใหญ่และพ่อของเธอล้วนทำตาม เพราะคำว่ากตัญญู แม้ว่าทั้งสองบ้านจะแยกตัวออกมาแล้วก็ตาม มู่อันเหมยได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจแต่ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้เธอไม่มีทางยอมแน่ คงเป็นลูกชายคนรองของบ้านสามที่อยากได้งานของเธอ เพราะลูกชายคนโตนิสัยดีพอสมควร และไม่ชอบวุ่นวายกับใคร มักจะอยู่กับลูกกับเมียตนเองชาติก่อนเพราะเธอมอบของขวัญให้กับสหายของพ่อเสี่ยวฟาง เรื่องจึงไม่ลุกลาม เธออ้างเรื่องนี้ได้บวกกับเธอให้พ่อของเสี่ยวฟางออกหน้า ทว่าชาตินี้เธอจะอ้างอะไร ของขวัญก็ไม่ได้ให้ จะให้พ่อของเสี่ยวฟางออกหน้าก็ไม่ถูกต้อง นี่เป็นเรื่องระหว่างบ้านรองและบ้านสามตระกูลมู่“ฉันคงให้หล่อนยืมไม่ได้หรอกนะ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับว่าที่ลูกสะใภ้ฉันโดยตรง ฉันซึ่งเป็นว่าที่แม่สามี ไม่มีวันที่จะทำร้ายว่าที่ลูกสะใภ้ตนเอง หล่อนกลับไปเถอะเงินที่ต้องคืนฉันให้เวลาอีกสามวัน หากไม่นำมาคืน ฉันจะเอาสัญญาไปแจ้งเจ้าหน้าที่
last updateLast Updated : 2025-07-06
Read more
บทที่ 10 ปรับความเข้าใจ
บทที่ 10 ปรับความเข้าใจเฉินฟางเซียนทันทีที่ทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อย จึงรีบกล่าวลา วันนี้การบ้านเยอะ อยากจะทำให้เสร็จก่อนจึงรีบขอตัวกลับทว่าบ้านรองมู่กลับขมวดคิ้วแทน เพราะเมื่อกลางวันเฉินหยางคุนน่าจะรู้แล้วว่ามู่อันเหมยไม่ยินดีที่จะแต่งงาน แต่ทว่าทำไมเวลานี้ทุกอย่างจึงกลับมาเป็นเช่นนี้ได้ล่ะ“อันเหมยยอมแต่งเข้าบ้านเฉินแล้วเหรอเจ้าใหญ่” มู่เสียนเอ่ยถามบุตรชายด้วยความสงสัย“นั่นสิพ่อ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน” มู่เฟยหยวนไม่ตอบคำถามพ่อตนเอง แต่เขาถามกลับแทน“บ๊ะ ไอ้นี่ พ่อถามเอ็งแต่ดันถามกลับ กวนโมโหอีกแล้ว” มู่เสียนนั้นอยากตะบันหน้าลูกชายเหลือเกิน เขาถามดี ๆ แต่เจ้าลูกชายกลับย้อนถามเสียนี่“อ้าว…พ่อ ผมตอบไม่ดีตรงไหน รีบทำงานต่อเถอะครับ เดี๋ยวสัญญาณเลิกงานก็ดังแล้ว”จากนั้นสองพ่อลูกจึงก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่อ โดยมีนางจางหลานส่ายหน้าอย่างระอาให้สามีและลูกชายตนเองแต่ภายในใจนั้นเธอคิดเช่นกันว่าวันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางไหน ทำไมลูกสาวที่ค้านหัวชนฝาเรื่องแต่งงานเกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน แถมเวลานี้ยังไปอยู่ที่บ้านเฉินอีกด้วยบ้านรองมู่จึงทำงานกันจนเวลาล่วงเลยมาจนเลิกงาน จากนั้นจึงรีบไปอาบน้
last updateLast Updated : 2025-07-06
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status