ภูริตานอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล เมื่อคืนเธอปวดท้องรุนแรง จึงโทรหาธีรเดชสามีของเธอแต่เขาก็ไม่รับสาย แม่บ้านจะมาทำความสะอาดวันเว้นวันและวันนี้ก็ไม่ได้มา เธอจึงได้แต่โทรไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิท กว่าเพื่อนเธอจะมาเธอก็หมดสติไปแล้ว โรคกระเพาะของเธอกำเริบมีเลือดออก คงเพราะช่วงนี้เธอเครียดสะสมแล้วก็กินอาหารไม่ตรงเวลา นอนอยู่โรงพยาบาลสองวันแล้วแต่ไร้เงาของสามี เขาไม่แม้แต่จะโทรกลับมา
เธอรู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ แต่ที่ต้องแต่งงานกันเพราะคุณปู่ของเขากับปู่ของเธอเป็นเพื่อนรักกัน จึงต้องการให้ทั้งสองแต่งงานกันอีกเหตุผลก็คือเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไม่สนใจเธอ เธออยากจะทำใจให้ชินแต่มันก็ทำไม่ได้ เธอแอบรักเขามาหลายปี ดีใจที่ได้เเต่งงานกับเขา แต่เขาก็ไม่สนใจเธอเลย
เธอเปิดทีวีดูแก้เหงา พอดีกับที่ข่าวในทีวีกำลังสัมภาษณ์นางเอกละครเรื่องใหม่ ดาวิกา ใช่ ผู้หญิงคนนั้นชื่อดาวิกาเป็นนางเอกละครเรื่องใหม่ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ ละครเรื่องนี้ธีรเดชลงทุนสร้างและผลักดันเธอเต็มที่ ทุ่มงบมหาศาลโปรโมทเธอ ป้ายโฆษณาหลายแห่ง ป้ายบิลบอร์ดทั่วทั้งเมืองล้วนแต่เต็มไปด้วยภาพของดาวิกา เธอยืนโดดเด่นอยู่บนเวทีรับถ้วยรางวัลจากธีรเดช แสงแฟลชสาดส่องให้เธอยิ่งดูสวยสง่าบนเวที
" ต้องขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่สนับสนุนฉัน และคุณธีร์ที่ให้โอกาสฉันได้เล่นละครเรื่องนี้ ถ้าไม่มีเขาฉันคงมายืนอยู่จุดนี้ไม่ได้รางวัลนี้ฉันยกให้คุณค่ะ"
ดาวิกายิ้มเขินอายยื่นถ้วยรางวัลให้ธีรเดช
" รางวัลนี่มาจากความสามารถของคุณเองผมแค่คอยซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลังเท่านั้น "
" ดูเหมือนว่าคุณธีรเดชจะดูแลคุณดาวิกาเป็นพิเศษเลยนะคะ มีข่าวลือว่าคุณทั้งสองเคยคบกันมาก่อน อันนี้จริงหรือเปล่าคะ "
พิธีกรถามคำถามนี้จบ แฟนคลับของดาวิกาก็โห่แซวกันเสียงดัง ทุกคนต่างคิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกัน
" ผมขอไม่ตอบเรื่องส่วนตัวนะครับ เชิญประกาศรายชื่อผู้รับรางวัลท่านอื่นต่อดีกว่า"
ธีรเดชส่งไมค์คืนให้พิธีกรแล้วเดินลงจากเวที มีดาวิกาควงแขนยิ้มเขินอาย ถึงไม่ตอบแต่ภาพที่เห็น ทุกคนก็คิดเหมือนกันไปหมดแล้วว่าทั้งสองเป็นคู่รักกัน
ภูริตามองภาพข่าวบนจอทีวีด้วยน้ำตา ในวันที่เธอเจ็บป่วยนอนอยู่โรงพยาบาลเขากลับอยู่กับคนรัก เคียงข้างกันยิ้มให้กันอย่างมีความสุข เธอกดโทรหาเขา เขารับสายแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
" มีอะไร "
" คุณจะกลับบ้านตอนไหน"
" กลับตอนไหนก็เห็นเอง คุณมีอะไรอีกไหม"
" ฉัน"
ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดต่อก็ได้ยินเสียงดาวิกาดังเข้ามา
" ธีร์คะ ฉันอยากกินปูอลาสก้าจังคุณพาฉันไปกินหน่อยนะ"
เธอกดวางสายทันที ทีแรกตั้งใจจะบอกเขาว่าเธอป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล อยากให้เขามาหาเธอ แต่ถึงเขาจะรู้เขาก็คงไม่ว่างมาหรอก เธอแต่งงานกับเขามา4ปีเขาไม่เคยพาเธอไปกินข้าวข้างนอก ไม่เคยพาเธอไปออกงานที่ไหน และไม่มีใครรู้ว่าเธอกับเขาเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย งานแต่งไม่มี มีแค่จดทะเบียนสมรสต่อหน้าปู่ของเธอกับปู่ของเขาเท่านั้น เขาอ้างว่าเธอยังเรียนอยู่รอให้เธอเรียนจบก่อน นี่เธอก็เรียนจบมาสองปีแล้ว แต่เขาก็ยังไม่พูดเรื่องงานแต่ง ก่อนหน้านี้ปู่ของเขาเคยบอกจะจัดงานแต่งแต่เขาก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด วันนั้นเธอแอบได้ยินทั้งสองคุยกัน
" หนูพายเรียนจบมาเป็นปีแล้วควรจัดงานแต่งงานได้แล้ว แกบอกเองว่ารอให้เธอเรียนจบก่อน"
" ผมก็พูดไปงั้น คุณปู่คิดว่าผมอยากแต่งงานกับเธอเหรอ แค่ผมจดทะเบียนด้วยก็ฝืนใจจะแย่แล้ว คุณปู่บอกให้ผมจดผมก็จดแค่นี้ก็พอแล้วมั้ง ยังต้องให้ผมแต่งงานอีกเหรอ ผมตอบแทนบุญคุณคุณปู่ช่วยรักษาสัญญาระหว่างคุณปู่กับคุณปู่ของเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว บอกให้ผมทำดีกับเธอผมก็ทำ บอกให้ยกหุ้นให้เธอผมก็ยกให้ อย่าให้ผมต้องทำอะไรที่ฝืนใจมากไปกว่านี้เลย ชุดเจ้าบ่าวผมอยากจะใส่ยืนเคียงข้างกับคนที่ผมรักเท่านั้น และคนๆนั้นแน่นอนว่าไม่ใช่ภูริตา ผมนับวันรอจะหย่ากับเธอครบ5ปีตามสัญญาเมื่อไหร่ ผมจะหย่ากับเธอทันที"
ที่แท้ที่เขาแต่งงานกับเธอก็เพื่อแสดงความกตัญญูกับปู่ของเขาและยอมแต่งงานกับเธอในระยะเวลา5ปีเท่านั้น ที่เขาทำดีกับเธอที่ผ่านมาก็เพราะปู่ของเขาเป็นคนสั่งไม่งั้นเขาคงไม่ทำ เธอคงเป็นตัวน่ารำคาญน่าเกลียดในสายตาของเขา
นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาใจของเธอก็เจ็บปวด ต่อไปเธอจะไม่ทำให้เขาต้องลำบากใจกับเธออีก เธอหยิบมีดปอกผลไม้ขึ้นมากรีดข้อมือตัวเอง
" กรี๊ดดดด ช่วยด้วยค่ะช่วยด้วย หมอ ช่วยด้วย พายแกอย่าเป็นอะไรนะ พายลืมตาขึ้นมาสิพาย "
ภูริตาลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองยังคงนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเหมือนเดิม หันไปมองข้างๆเห็นอิงดาวยืนร้องไห้อยู่
" อิง แกร้องไห้ทำไม"
" ฮือฮือ พายแกฟื้นสักที ฉันนึกว่า"
" นึกว่าฉันตายไปแล้ว แล้วทำไมฉันยังไม่ตายอีก"
" แกห้ามพูดแบบนี้อีก แล้วก็ห้ามทำแบบนี้ด้วย ทำไมต้องเอาชีวิตไปทิ้งเพื่อผู้ชายที่ไม่เห็นค่าของแกด้วย แกดูสิแกป่วยเข้าโรงพยาบาลเขาไม่เคยโผล่หัวมา ไม่แม้แต่จะโทรหาแก ฉันโทรไปบอกเขาว่าแกฆ่าตัวตายแต่เขาก็หาว่าฉันโกหก แกรู้ไหมตอนที่หมอกำลังปั๊มหัวใจแก เขากำลังกินอาหารหรูอยู่กับนังดารานั่น ผู้ชายแบบนี้มันคุ้มแล้วเหรอกับที่แกต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อให้เขาหันมามองแก คนไม่รักถึงต่อให้แกตายเขาก็ไม่มีวันรักแกหรอก แต่ถึงเขาไม่รักแก แกก็ยังมีฉันยังมีปู่ของแกที่รักแก ถ้าปู่ของแกรู้ท่านจะเสียใจมากแค่ไหน"
ภูริตาน้ำตาไหล จริงอย่างที่อิงดาวพูดทุกอย่าง เขาไม่รักเธอต่อให้เธอตายอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ไม่สนใจ พูดถึงคุณปู่เธอก็ยิ่งเสียใจเธอมัวแต่คิดจะให้ธีรเดชหันมาสนใจเธอ จนลืมนึกไปว่าถึงเขาไม่รักเธอแต่ยังมีผู้ชายคนหนึ่งที่รักเธอโดยที่เธอไม่ต้องร้องขอและไม่ต้องทำอะไรเลย อิงดาวกอดปลอบเธออยู่สักพักหมอก็เข้ามาตรวจดูอาการ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้วจึงให้อิงดาวทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล แล้วตรงไปที่บ้านคุณปู่ทันที
ธีรเดชกลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าบ้านเงียบผิดปกติ
" คุณธีร์มองหาคุณพายอยู่เหรอคะ เธอไม่อยู่หรอกค่ะ สามวันก่อนเธอแอดมิทอยู่โรงพยาบาลเมื่อตอนสายๆป้าพึ่งไปเยี่ยมเธอมาน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้วันนี้"
" อยู่โรงพยาบาล เธอเป็นอะไร"
" โรคกระเพาะกำเริบค่ะ ทีแรกป้าจะอยู่เฝ้า แต่คุณอิงดาวเพื่อนของเธอบอกว่าจะเฝ้าเอง ป้าเลยกลับมา ป้าโทรหาคุณธีร์หลายสายแต่คุณธีร์ไม่รับเลย "
ธีรเดชหยิบโทรศัพท์ออกมาดูปรากฎว่าแบตหมด ก่อนหน้าเขาจำได้ว่าเพื่อนของเธอโทรมาบอกว่าเธอฆ่าตัวตายแต่เขาคิดว่าเธอโกหก เพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจจากเขา จึงไม่ได้สนใจ
" รู้ว่าตัวเองเป็นโรคกระเพาะทำไมไม่ดูแลตัวเองดีๆ "
" วันก่อนเธอกรีดข้อมือตัวเอง เอ่อ เธอคงน้อยใจที่คุณธีร์ไม่ยอมมาเยี่ยมเธอ โชคดีที่หมอช่วยไว้ได้ทัน "
ธีรเดชขมวดคิ้วนี่เธอฆ่าตัวตายเรียกร้องความสนใจจากเขาจริงๆเหรอ เขาไปต่างจังหวัดร่วมเลี้ยงฉลองปิดกล้องกองละครแล้วก็บินกลับมาร่วมงานมอบรางวัลสตาร์อวอร์ด เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปสนใจเธอทำไมถึงไม่รู้จักแยกแยะบ้าง
" ไปทำอาหารไว้เยอะหน่อยเอาเมนูที่บำรุงร่างกาย เธอกลับมาจะได้กิน"
" ค่ะ "
ธีรเดชมองดูอาหารวางเรียงรายบนโต๊ะ แล้วดูนาฬิกาบนข้อมือ หกโมงแล้วทำไมเธอยังกลับไม่ถึงบ้าน เขากดโทรออกหาเธอแต่ไม่มีคนรับสาย กดโทรออกเป็นสิบครั้งก็เหมือนเดิมเขาโมโหจะปาโทรศัพท์ทิ้งแต่ก็ยั้งมือไว้ แล้วบอกให้ดาวเรืองป้าแม่บ้านใช้โทรศัพท์ตัวเองโทรหาเธอ ป้าดาวเรืองกดโทรออกแป๊บเดียวเธอก็รับสาย
" คุณพาย คุณออกจากโรงพยาบาลแล้วหรือยังค่ะ แล้วตอนนี้อยู่ไหนคะ ทำไมยังไม่กลับไม่ถึงบ้านอีก คุณธีร์ให้ป้าทำอาหารไว้รอเยอะแยะเลย "
กลับมาถึงเมืองไทยเขาก็พาเธอไปเปลี่ยนแหวนวงใหม่ให้ขนาดพอดีกับนิ้ว แล้วยังเตรียมจัดงานแต่งอีก ตอนนี้ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้กันหมดว่าเธอกับเขตคามกำลังจะแต่งงานกัน เลิกงานตอนเย็นเธอได้เจอกับธีรเดชที่มาดักรออยู่หน้าบริษัท เขาก้าวเข้ามาหาเธอ จะจับมือเธอแต่ถูกเขตคามปัดออก" อย่ามาแตะต้องผู้หญิงของกู"" มึงอย่าดึงเธอเข้ามาในเกมส์ระหว่างเรา มึงแค่ต้องการเอาชนะกู เหมือนตอนที่มึงแย่งดาไปจากกูเท่านั้นแหละ กูไม่เข้าใจว่ามึงจะอิจฉาอะไรกูนัก "" อิจฉา ฮ่าฮ่าฮ่า กูนี่นะอิจฉามึง กูจะอิจฉามึงทำไม กูหล่อกว่ามึงเท่ห์กว่ามึงตั้งหลายเท่า รวยกว่ามึงด้วย กูมีบริษัทตั้งหลายแห่งไหนจะโรงพยาบาลอีก แล้วมึงมีอะไรแค่บริษัทเดียวก็จะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่ ไง ตั้งแต่พายลาออกมาได้ข่าวว่าบริษัทมึงทั้งขาดทุนทั้งหุ้นตก แล้วน้ำหอมล็อตใหม่ก็ขายไม่ดีเหมือนตอนที่พายอยู่ ผู้ลงทุนก็ทยอยถอนหุ้นอีกไม่ใช่เหรอ ฮ่าฮ่า ไม่เหมือนบริษัทกูนะปีนี้ได้กำไรโคตรเยอะแล้วก็บริษัทน้ำหอมของกูกับพายก็ได้กำไรเกินคาด แล้วยังขายดีจนผลิตไม่ทันอีก "" เรื่องอื่นช่างมัน กูสนใจแค่เรื่องพาย "" สนใจพาย มาสนใจอะไรตอนนี้ตอนที่เธออยู่กับมึงทำไมไม่สนใจเธอ ปล่อยให
เขตคามพึ่งรู้ว่าวันเกิดของภูริตาผ่านมาแล้วและวันนั้นที่เขาเจอเธอที่พัทยาเธอก็พึ่งกลับจากการฉลองวันเกิดที่ไอยวรินทร์จัดให้ เขาจึงตั้งใจจะชดเชยให้เธอย้อนหลัง เขามองดูแหวนเพชรในกล่องและตั๋วบินไปปารีส2ใบเขาจะขอเธอแต่งงานที่นั่นเขตคามพาภูริตาไปเที่ยวหลายที่พาไปกินของอร่อยๆเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ จนมืดค่ำเขานั่งลงล้วงเอากล่องแหวนเพชรมาเปิด " ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วไปหน่อย แต่ผมไม่อยากรออีกแล้ว ผมอยากเข้านอนพร้อมคุณและตื่นนอนขึ้นมาเจอคุณในทุกเช้า พายครับผมรักคุณ แต่งงานกับผมนะ แสงไฟจากหอไอเฟลยิ่งทำให้บรรยากาศในตอนนี้โรแมนติกเข้าไปอีก ภูริตาลังเลแต่ก็คิดว่าความรักไม่ต้องใช้เวลานานหรอก รักก็คือรัก เธอพยักหน้าตอบรับ เขตคามดีใจรีบสวมแหวนให้เธอแต่แหวนหลวมไปหน่อย " ผมขอโทษนะผมกะไม่ถูกไว้กลับไปผมจะไปเปลี่ยนให้พอดีกับนิ้วคุณ ไม่สิ หาร้านที่นี่ก็ได้นี่งั้น พรุ่งนี้ผม"" ไม่ต้องรีบหรอกไว้กลับไปเมืองไทยก่อนก็ได้ แต่ฉันขอถอดเก็บไว้ก่อนนะกลัวมันหาย "เขตคามหน้าเศร้าพึ่งสวมไปแท้ๆก็ต้องถอดออกดูเป็นลางไม่ดีเลย แต่ถ้าหล่นหายไปจริงๆก็ไม่ดี ต้องโทษเขาที่กะขนาดนิ้วของเธอไม่ดีเอง ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
" ใครโทรมาเหรอแก "" คนโรคจิตหน่ะ"" _ "กินอาหารเสร็จก็พากันออกไปเดินเล่นข้างนอก ไอยวรินทร์ส่งสัญญาณ แล้วดอกไม้ไฟก็สว่างไสวขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิดเหนือท้องทะเล ภูริตาตื่นตาตื่นใจกับภาพตรงหน้า ดอกไม้ไฟหลายร้อยดอกถูกจุดขึ้นติดๆกัน เธอยิ้มกว้างอย่างมีความสุข นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนทำเพื่อเธอขนาดนี้" แฮปปี้เบิร์ดเดย์จ๊ะพายเพื่อนรัก ฉันขอให้แกมีความสุขมากๆนะ เป็นไงของขวัญจากฉันชอบไหม "" ชอบมากขอบใจนะรินของขวัญของแกฉันชอบที่สุดเลย"" ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกต้องชอบ จำได้ว่าตอนเด็กๆแกชอบดูพลุดอกไม้ไฟมาก ตอนนั้นมีงานวัดแกก็ลากฉันไปดูเขาจุดพลุเป็นเพื่อนพอโตมาก็ชอบชวนฉันไปดูตามงานต่างๆแต่หลายปีมานี้เราไม่ค่อยได้ไปมาไหนด้วยกัน"" อือ นานแล้วนะที่เราไม่ได้ดูดอกไม้ไฟด้วยกันแบบนี้ "" งั้นคืนนี้เรามารำลึกความหลังกันฉันจะอยู่คุยกับแกทั้งคืนเลย"คืนนี้ภูริตาพักอยู่ที่วิลล่ากับไอยวรินทร์ ส่วนพิมพิลาบอกว่าจะแวะไปหาเพื่อนเก่าไม่ไกลจากที่นี่ตอนเช้าถึงจะกลับทั้งสองคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ต่างคนต่างไม่รู้ตัวว่าหลับไปตอนไหน ตอนเช้าก็พากันกลับกรุงเทพ แต่ไอยวรินทร์แวะซื้อขนมร้านอร่อยที่มาพัทยาทีไรต้องแวะ
ภูริตามองไปที่ห้องทำงานของเขตคาม วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาโทรมาบอกว่าไม่เข้าบริษัทตั้งแต่วันนั้นที่เขาไปที่คอนโดของเธอ เขาก็หายหน้าหายตาไป มีโทรมาบ้างบางวัน บางวันก็ส่งข้อความมา เธอพยายามไม่คิดมากคิดว่าเขากำลังดูแลพ่อของเขาและคงยุ่งมาก แต่ธีรเดชกลับเป็นคนที่มาให้เธอเห็นหน้าทุกวัน เลิกงานเขาจะมารอเธอที่หน้าบริษัท แล้วขับรถตามเธอไปที่คอนโดทุกวันเอาดอกไม้มาให้ทุกวันแต่เธอก็ไม่เคยรับ วันนี้หลังเลิกงานเธอแวะห้างเพื่อซื้อของสดไปใส่ตู้เย็น ธีรเดชก็ตามเธอมาด้วยเธอไล่เขาจนไม่รู้จะไล่ยังไงแล้ว ตราบใดที่เขาไม่ข้ามเส้นที่ขีดไว้เธอก็ไม่สนใจ เขาอยากตามก็ตามไป ระหว่างเลือกซื้อของสายตาก็หันไปเห็นเขตคามกำลังเข็นรถเข็นมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักคล้ายลูกครึ่งหยิบของลงรถเข็น ทั้งสองคุยกันหัวเราะคิกคัก ธีรเดชเห็นภูริตาหยุดเดินก็มองตามสายตาของเธอ เขากระตุกยิ้มมุมปาก" ผมบอกคุณแล้วว่าคนอย่างมันไม่จริงจังกับคุณหรอก ที่มันหายไปหลายวันมันบอกคุณว่ายังไงหล่ะภาพตรงหน้ายืนยันชัดไหมว่ามันโกหกคุณ "ภูริตาทำเป็นไม่สนใจรีบเข็นรถไปจ่ายเงินทันที เขตคามรู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองจึงหันหลังไปดูก็ไม่เห็นมีใครที่รู้จัก ธีรเดชช่วยเอาข
ท้องฟ้าปลอดโปร่งแทบไม่มีเมฆ แสงแดดร้อนแรงสาดส่องไปทั่วทั้งบริเวณสุสาน ธีรเดชนั่งอยู่หน้าหลุมฝังศพดำรง ไม่สนใจแดดที่สาดส่องลงมาเขานั่งอยู่อย่างนั้นตั้งแต่เช้าจนเกือบเที่ยงแล้ว อาชายืนอยู่ใต้ต้นไม้มองดูธีรเดชนั่งเหม่อลอยสำนึกผิด ถึงเขาจะเป็นห่วงแต่เขาก็เป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่ง แดดร้อนขนาดนั้นเขาไม่บ้าไปนั่งตากแดดด้วยหรอก เมื่อธีรเดชอยากอยู่แบบนั้นก็ปล่อยไป เขาจะรออยู่ตรงใต้ต้นไม้ร่มๆนี่แหละ ทักษะเดินเข้ามาพร้อมลูกน้องอีกสี่คน" บอสครับ รู้แล้วครับว่าคุณพายอยู่ที่ไหน "ธีรเดชหันขวับมามองทักษะภูริตาขับรถเข้ามาจอดแล้วเดินลงจากรถตั้งแต่ที่ย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นที่ดำรงซื้อให้เป็นเรือนหอของเธอกับธีรเดช เธอก็ใช้เงินเก็บของตัวเองซื้อคอนโดใกล้ที่ทำงานใหม่ หลังจบเรื่องวุ่นๆเธอลาออกจากบริษัทของธีรเดชแล้วมาทำงานที่บริษัทเปิดใหม่ ทีแรกเธอตั้งใจจะเปิดบริษัทเล็กๆ ผลิตน้ำหอมตามที่เธอถนัดตอนนั้นเขตคามก็เสนอขอลงทุนด้วย ภานุพงศ์บอกเธอว่าเขามีคอนเน็คชั่นที่ดีมีหุ้นส่วนย่อมดีกว่าลงทุนคนเดียวหรือเสียเวลาไปหาผู้อื่นร่วมทุน เธอคิดไปคิดมาก็จริงอย่างที่ภานุพงศ์ว่า เลยใช้เงินทุนที่ปู่ดำรงให้มรดกเธอเปิดบริษัทใหม่
" สรุปว่าที่คุณทำเรื่องโหดร้ายกับท่านเพราะท่านมีท่าทีไม่ชอบคุณแค่นั้น "" จะว่างั้นก็ได้ ถ้าไม่มีปู่ของคุณเรื่องของเรา"" ไม่มีเรื่องของเรา ถึงผมจะหย่ากับพายผมก็ไม่มีทางเลือกคุณ "" คุณโกหก "" ที่ผมทำดีกับคุณเพราะแค่สงสารคุณ ผมเห็นว่าคุณเคยเป็นแฟนกับพี่ภพเลยดีกับคุณก็แค่นั้น "อิศริยาแค่นยิ้มหัวเราะ หึหึ แค่สงสารเหรอแต่ว่าความสงสารเป็นบ่อเกิดแห่งความรักไม่ใช่เหรอ " ตอนที่คุณฉีดยาให้คุณปู่ตอนที่ท่านชักกระตุกต่อหน้าคุณ คุณทำได้ยังไง ผมไม่คิดว่าคุณจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ "" ฮ่าฮ่าฮ่า ช่วยไม่ได้ตาแกนั่นดันฉลาดรู้ทันฉัน แล้วตอนนั้นมีออเดอร์สั่งหัวใจกับไตเข้ามาพอดีฉันก็เลย "" สารเลว "ธีรเดชกำมือแน่นหน้าตาดำมืดแววตาเกรี้ยวกราดตะคอกด่าอิศริยา แต่เธอไม่สะทกสะท้านเลย" ใครกันแน่ที่เลว ทิ้งเมียตัวเองที่แท้งแล้วมาเฝ้าฉันทั้งคืน แล้วยังจะมาบอกว่าไม่คิดอะไรกับฉันอีก "ธีรเดชนิ่งอึ้ง ภูริตาแท้ง แท้งตอนไหนแล้วเธอไปท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาไม่รู้เรื่องหรือว่าจะเป็นวันนั้นที่ทั้งภูริตาและอิศริยาตกบันไดพร้อมกัน แต่เขากลับไม่สนใจเธอแต่เป็นห่วงอิศริยารีบอุ้มอิศริยาไปห้องฉุกเฉิน ตอนนั้นหางตาเขาเห็นเธ