“นั่นน่ะสิคะ ตัวเองแต่งงานไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เพ็ญแขเอ่ยกับสามี ยิ่งคิดก็ยิ่งงง ว่าคนรักเก่าลูกชายมาทำไม ทั้งสองคนไม่สบายใจที่กิ่งดาวมาอยู่ที่บ้านคณินแบบนี้ กลัวว่าปิติญาดาจะเข้าใจผิด เรื่องจะใหญ่โตซะเปล่าๆ“น้ำมนต์ ให้แม่ไปพูดกับคิงส์ไหมลูก” ผกามาศเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่กิ่งดาวมาปิติญาดาก็เงียบไปมาก“ไม่ต้องหรอกค่ะ ถ้าเขาจะให้คนรักเก่ามาอยู่ที่บ้านด้วยก็เรื่องของเขา น้ำมนต์ใจกว้างพอ” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ใจก็รู้สึกจี๊ดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเธอไม่ใช่นางเอกในละครหรอกนะที่เอาแต่นั่งร้องไห้เป็นเผาเต่ายามที่คนรักเก่าของคนที่ตัวเองรักกลับมาสร้างเรื่องวุ่นวายให้ งานนี้เป็นไงเป็นกันสิ“แต่แม่กลัวว่าเรื่องจะยุ่งนะสิ”“ผู้หญิงคนนั้นเขาแต่งงานไปแล้วค่ะแม่ ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก” ปิติญาดาเอ่ยให้แม่สบายใจ ก่อนจะส่งยิ้มให้แต่ถึงอย่างนั้นผู้ใหญ่ทั้งสี่ก็ยังกังวล“เราแต่งงานกับพี่เขาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องหนักแน่นไว้ รู้ไหม”“ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยรับคำพูดของแม่ เมื่อเห
เสียงกรีดร้องเพราะความหงุดหงิดตามราวีพงศธรไม่ได้ตามที่ต้องการ เนื่องจากชายหนุ่มกับปลายฟ้าไม่รู้ไปหลบอยู่ที่ไหน กิ่งดาวกระฟัดกระเฟียดทำลายข้าวของบนโต๊ะอาหารสุดหรู จนบรรดาเครื่องแก้วราคาแพงหล่นแตกกระจัดกระจายเต็มพื้นหินอ่อน ตามด้วยการหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาฉีกอย่างบ้าคลั่ง แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นข่าวพาดหัวที่ใหญ่ครึ่งหน้าหนังสือพิมพ์“นี่คิงส์ไม่ใช่เหรอ” กิ่งดาวเพ่งมองรูปชายหนุ่มบนเตียงคนไข้ ก่อนจะอ่านข้อความข่าวด้านล่างจึงได้รู้ว่าเขาร่วมมือกับทางตำรวจจับพ่อค้ายาเสพติด ความคิดที่จะหวนกลับไปหาชายหนุ่มย้อนเข้ามาในสมองของกิ่งดาวทันทีเมื่อมีแผนหญิงสาวก็ยิ้มเหยียดออกมา ในเมื่อพงศธรกล้ามีคนอื่นแล้วทำไมเธอถึงจะทำบ้างไม่ได้ กลับไปหาคณินคือตัวเลือกที่ดีที่สุด เขาทั้งหล่อ ทั้งรวยและยังเท่อีกต่างหาก พงศธรสู้ไม่ได้สักนิด กิ่งดาวเดินยิ้มขึ้นไปเก็บข้าวของเตรียมขึ้นลำปาง ท่าทางมีความสุขของเจ้านายทำเอาบรรดาคนรับใช้ในบ้านพากันงง เพราะเมื่อครู่ยังอาละวาดบ้านแทบพังแต่ตอนนี้กลับเดินฮำเพลงอย่างคนอารมณ์ดีกิ่งดาวไม่ลืมที่จะซื้อของบำรุงร่างกายร
ข่าวพาดหัวบนหน้าหนังสือพิมพ์ยอดนิยม คือสิ่งที่สะดุดตาของผกามาศในเช้าวันนี้ เธอหยิบขึ้นมาอ่านเห็นหัวข้อข่าวที่เขียนไว้ว่า‘หนุ่มใจเด็ดเอาตัวบังกระสุนพ่อค้ายาเสพติดช่วยคนรัก รอดปฏิหาริย์’เธอเพ่งมองรูปเหนือหัวข้อข่าวที่เป็นกรอบเล็กๆ ก่อนจะอุทานออกมาอย่างตกใจ“น้ำมนต์” ผกามาศพยายามเพ่งมองให้หลายๆ ครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ไม่ว่าจะมองยังไงหญิงสาวในภาพข่าวนี่ก็คือปิติญาดาแน่ๆ ลูกสาวเธอไปเกี่ยวข้องกับบาเสพติดได้ยังไง หรือนี่จะเป็นสาเหตุของคำพูดแปลกๆ เมื่อวาน คิดแบบนั้นผกามาศจึงตรงไปหาสามีพร้อมทั้งยื่นหนังสือพิมพ์ให้อ่านศรชัยเองก็ตกใจไม่แพ้ภรรยา ตามด้วยมงคลและเพ็ญแข ทั้งสี่มองหน้ากันไปมา ปิติญาดาเข้าไปเกี่ยวกับการจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ยังไง แล้วจากข่าวนี่คณินยังถูกยิงอีก“เดี๋ยวผมโทรไปถามตาคิงส์ให้ดีกว่า ว่าเรื่องเป็นยังไงกันแน่” มงคลที่นั่งอยู่ด้วยเอ่ยขึ้น คณินถูงยิงแต่เขากลับไม่รู้เรื่อง พ่อลูกชายตัวด
วันนี้หมออนุญาตให้ชายหนุ่มจะเดินทางกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้แล้ว ขณะนั่งรถ ซึ่งคนในโรงงานนำรถตู้คันใหญ่มารับผู้เป็นนายจะได้นั่งสบายๆ อยู่นั้น ปิติญาดาจึงเอ่ยถามอะไรบางอย่างขึ้น“พี่คิงส์ รู้มาก่อนไหมว่าวันนั้นเราต้องแต่งงานกำมะลอกัน”“รู้…แต่พี่ไม่รู้ว่าคนที่ต้องแต่งงานด้วยเป็นใคร” คณินเอ่ยตอบตามจริง สิ่งที่เขาสงสัยดูจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปิติญาดาคงรู้ความจริงแล้วอย่างแน่นอน เขาจะพูดยังไงให้เธอเข้าใจและไม่โกรธ“แล้วทำไมพี่คิงส์ถึงยอมแต่ง”“พี่ต้องการช่วยแม่” คำพูดของชายหนุ่มทำเอาปิติญาดาอึ้ง ไม่คิดว่าเขาจะอ่อนโยนแบบนี้ แต่ความจริงแล้วคงถูกบีบบังคับโดยไม่รู้ตัวเหมือนเธอก็เป็นได้“จริงสิ พ่อกับแม่เราสองคนสนิทกันนี่นา แล้วตอนนี้เสียใจไหมคะ ที่เราต้องแต่งงานกัน” ปิติญาดาเอ่ยถามตรงๆ“ดีใจมากกว่า พี่ขอบคุณพ่อกับแม่ด้วยซ้ำ ที่ทำให้ได้แต่งงานกับน้ำมนต์”“ถ้าไม่มีวันนั้น พี่คิงส์ยังคิดไหมว่าอนาคตเราจะได้แต่งงานกัน”“คิด&he
“ค่ะ… แม่ฝันถึงพ่อบ้างไหมคะ” คำถามนี้ของปิติญาดาทำเอาผกามาศนิ่งงัน ภคมณและต้องหทัยที่นั่งอยู่ข้างๆ ปิติญาดาพลอยกลั้นหายใจลุ้นไปด้วยไม่ได้ว่าคำตอบจากการพูดคุยกันครั้งนี้จะเป็นอะไร“ไม่เลยจ้ะ ป่านนี้พ่อคงอยู่สุขสบายบนฟ้านู่น”“แต่น้ำมนต์กลับฝันถึงพ่อ ฝันว่าพ่อยังไม่เสียชีวิต” ปิติญาดาน้ำเสียงสั่นเครือขึ้นมาทันที ภคมณต้องปลอบด้วยการลูบหลังเพื่อนเบาๆ“เหรอจ๊ะ ลูกคงคิดมากไป”“ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่ก็คงดีนะคะแม่” พูดประโยคนี้น้ำตาของปิติญาดาที่กลั้นไว้ก็หยดลงบนหน้าขา ทั้งๆ ที่พยายามกลั้นไว้สุดกำลังแล้วแท้ๆ“น้ำมนต์ยังทำใจไม่ได้เหรอลูก” ผกามาศพลอยไม่สบายใจไปด้วย เพราะรู้ว่าปิติญาดานั้นต้องเศร้ามากแค่ไหน อยากบอกความจริงให้รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องทั้งหมดแล้วคืออะไรกันแน่“ค่ะ…” ปิติญาดาเอ่ยรับ “แม่คะ แม่เคยโกหกอะไรบ้างไหมคะ”“ไม่นี่จ๊ะ” ปากบอกว่าไม่ แต่ใจของคนเป็นแม่กลับตอบว่ามี และเรื่องโกหกที่ว่านั่นถ้าปิติญาดารู้เข้า
“รู้แล้วก็ถนอมน้ำใจเพื่อนอย่างพวกฉันให้มากๆ หน่อย” ต้องหทัยยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้ปิติญาดา ก่อนจะเช็ดน้ำตาของตัวเองปอยๆ ทั้งสามนั่งร้องไห้อยู่แบบนั้น โดยไม่สนใจสายตาคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาสักนิด“ลูกฉันต้องดีใจแน่ๆ ที่มีป้าจิตใจดีแบบนี้”“แกท้องแล้วเหรอหนูจ๋า” คนถูกเรียกว่าป้าตาโต ปิติญาดามองไปยังบริเวณท้องของเพื่อนรักทันที ซึ่งว่าที่คุณแม่ก็พยักหน้ารับ“อื้อ...”“ดีใจด้วยว่ะแก ดีใจด้วนะคะพี่วศิน” ปิติญาดาชะเง้อพูดกับว่าที่คุณพ่อ ซึ่งวศินก็ยิ้มกลับอย่างเดียวเหมือนกัน “แต่ว่าฉันไม่ให้ลูกแกเรียกฉันว่าป้านะ ไม่เอา แก่ไป รับไม่ได้”“ย่ะ...แม่นาง” ภคมณย่นจมูกให้เพื่อน ทั้งสามสามจึงพากันยิ้มออก ก่อนที่ต้องหทัยจะเอ่ยถามในอีกเรื่องที่เธอสงสัย“แกรักพี่คิงส์เขาหรือเปล่าน้ำมนต์”“ตอนแรกไม่ได้รัก เกลียดขี้หน้าเขาด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ฉันรักเขาแล้ว รักมากด้วย” หญิงสาวเอ่ยตอบอย่างไม่ต้องใช้เวลาคิด“ดี...แกจะได้ลงจากคา
“แต่ฉันดีใจนะที่แกปลอดภัยดี ตกลงเรื่องที่บ้านแกนี่เป็นยังไง ได้ข่าวว่า...” ต้องหทัยกำลังจะพูดในสิ่งที่เธอสงสัยและถามที่มาที่ไป แต่ภคมณก็ค้านขึ้นเพราะสถานที่ไม่ค่อยสะดวกนั่นเอง“ไว้ไปคุยกันข้างนอกนะ เกรงใจคนป่วย”“อ้อ...ลืม” พูดจบก็โค้งให้ชายหนุ่มที่นอนบนเตียง เพียงแวบแรกที่ได้เห็นแม้หน้าตาจะซีดเซียวเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ผู้ชายคนนี้ก็ดูดีมากคนหนึ่ง “ขอโทษที่รบกวนนะคะ แบบว่าดีใจมากไปหน่อยที่เจอเพื่อน คุณคือพี่คิงส์ใช่ไหม”“ครับ” คณินเอ่ยรับสั้นๆ“ฉันชื่อหมวย นี่หนูจ๋ากับสามีพี่วศิน เราสามคนเป็นเพื่อนยายน้ำมนต์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ต้องหทัยเอ่ยเป็นการเป็นงานพร้อมแนะนำให้ได้รู้จักกันทั้งสองฝ่าย ภคมณและวศินโค้งศีรษะให้คณินเป็นการทักทายแบบง่ายๆ ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้ารับเช่นกัน“พวกเราขอตัวยายน้ำมนต์ไปคุยด้วยสักครู่ใหญ่ๆ นะคะ” ภคมณเอ่ยขึ้น เพราะดูท่าการสนทนาครั้งนี้จะกินเวลานานเพราะมีเรื่องสงสัยเต็มไปหมด“ตามสบายครับ”“มานี่เลยแก&r
“ก็…” คนถูกถามหันไปมองต้องหทัยที่นั่งนิ่งอยู่ ซึ่งหญิงสาวรีบลุกขึ้นมายืนข้างๆ เขตไทยทันที ให้ตายสิ ถ้าไม่พูดสงสัยคืนนี้ภคมณไม่ยอมให้เธอไปไหนแน่ๆ“แฟนฉัน จบไหม” คำพูดของต้องหทัยทำเอาเขตไทยยิ้มที่หญิงสาวกล้าบอกกับเพื่อนว่าเขาเป็นใคร“อ้อ… จบจ้ะเพื่อน งั้นฉันไปเช็คอินก่อนดีกว่า เช้าๆ ค่อยเจอกัน” ภคมณเดินจูงมือกับวศินไปเช็คอิน ปล่อยให้คนรักเขาอยู่กันไปตามลำพัง“ไอ้เพื่อนบ้า” ต้องหทัยแหวใส่เพื่อนตามหลังไป ก่อนจะเขินมากกว่าเดิมเมื่อสบตากับเขตไทย “ดึกแล้ว หมวยไปนอนก่อนดีกว่า”“เดี๋ยวสิครับ” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมมือหญิงสาวไว้ เพราะมีเรื่องอยากบอก“คะ”“พี่รักหมวยนะ” คำว่ารักที่ได้ยินจากเขตไทย ทำให้ใบหน้าสวยตามสไตล์สาวลูกครึ่งไทยจีนอมยิ้มจนแก้มเป็นสีชมพูระเรื่อน่ามอง เขินแล้วเขินอีก ที่อยู่ๆ เขตไทยก็มาบอกรักเอาตอนนี้“รู้ค่ะ”“รู้แล้วไม่บอกอะไรพี่กลับเลยเหรอ” เสียงทุ้มๆ เอ่ยถามพร้อมสบ
“ไม่บอก เดี๋ยวแกไปหาน้ำมนต์ก่อนฉัน ไว้ไปด้วยกันพรุ่งนี้ แกพักที่ไหนบอกมา”“เอ้อแกนี่ โตจนจะเป็นแม่คนแล้ว ยังจะมาเล่นแง่อีก” ต้องหทัยบ่นกระปอดกระแปดใส่เพื่อน ก่อนจะบอกว่าตนพักที่รีสอร์ตอะไร แต่ก็โล่งอกขึ้นมากที่รู้ว่าภคมณรู้ที่อยู่ของปิติญาดาแล้ว หวังว่าเพื่อนเธอจะสบายดี ยิ่งคิดก็อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ“มีอะไรน่าดีใจครับ”“ตอนนี้เรารู้ที่อยู่เพื่อนหมวยแล้วค่ะ” ขณะพูดเรื่องนี้ต้องหทัยก็ยิ้มตลอดเวลา“ที่ไหน”“เห็นว่ามาอยู่ลำปาง พรุ่งนี้คงได้รู้กันว่าที่ไหน”“จริงเหรอ ใกล้กันแค่นี้เองนะ” เขตไทยเลิกคิ้วสูง เพราะไม่คิดว่าเพื่อนของต้องหทัยจะมาอยู่ที่นี่“ค่ะ…” ต้องหทัยยังคงยิ้มอย่างมีความสุข พลอยทำให้เขตไทยยิ้มไปด้วยอีกคน แต่ในความคิดของเธอตอนนี้ ถ้าปิติญาดารู้ว่าพ่อยังไม่เสียชีวิตเพื่อนเธอจะทำยังไง แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่เธอยังปะติดปะต่อไม่ได้ส่วนเพื่อนสาวที่พวกเธอกำลังตามหากันอยู่ ตอนนี้ก็กำลังดูแลคณินอย่างใกล้ชิด เพราะผู้ชายคนนี้คือ