Share

บทที่ 5

Penulis: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 5

สวีเหยียนซีหายใจหอบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว เธอวางมีดปอกผลไม้ลงก่อนจะหันไปหาพลาสเตอร์มาปิดบาดแผล

ถ้าสวีเหยียนเช่อไม่ตื้อไม่เลิก เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้ ตอนนี้เธอจะรักตัวเองมากขึ้นและจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชอีกแล้ว

หลังจากแน่ใจว่าสวีเหยียนเช่อออกจากหมู่บ้านแล้ว เธอก็รีบขนของทั้งหมดขึ้นรถ

เธอไม่รอช้า มุ่งหน้าไปที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ทันที ที่นี่มีห้องหลายประเภท แต่เมื่อเธอมาถึงชั้นคอนโดที่จ้าวจวิ้นโจวบอก เธอถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่คอนโดธรรมดา แต่เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ทั้งชั้นแบบหนึ่งลิฟต์หนึ่งห้อง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอย้ายของเข้าไปแล้ว เธอก็เห็นคฤหาสน์จวี๋ซานที่ตั้งอยู่บนเนินเขาจากหน้าต่างในห้องหนังสือ

สีหน้าของสวีเหยียนซีดูซับซ้อน

“เจตนาแอบแฝง” ของจ้าวจวิ้นโจวช่างแอบแฝงจริง ๆ

หลังจากจัดข้าวของเรียบร้อยแล้ว สวีเหยียนซีก็ไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันที่ซูเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นขับรถไปที่เฟิงไห่กรุ๊ป

เธอจอดรถริมถนนก่อนจะโทรหาฉินเซียว

สายถูกรับในทันที เสียงทุ้มแหบของชายหนุ่มดังมาจากปลายสายว่า “ที่รัก”

สวีเหยียนซีกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่ด้วยความอ่อนไหวของเธอ เธอจึงฟังออกว่าเสียงของฉินเซียวผิดปกติมาก เธอจงใจถามว่า “คุณกำลังประชุมอยู่หรือเปล่า?”

“....ใช่แล้ว” ฉินเซียวหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้เสียงของเขาฟังดูเป็นปกติที่สุด “ที่รัก วันนี้น่าจะยุ่งมากเลย มีอะไรหรือเปล่า รอตอนเย็นค่อยกลับไปคุยกันที่เรือนหอดีกว่าไหม?...หืม”

สวีเหยียนซีหลับตาลง ภาพที่น่าขยะแขยงที่เห็นเมื่อคืนก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง

เธอทนไม่ได้ที่จะต้องไปนั่งคุยเรื่องหย่ากับผู้ชายที่เพิ่งไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นมา

เธอกลัวว่ากลิ่นนั้นจะทำให้เธอสำลักตายเสียก่อน

“โอเค งั้นไว้คุยกันตอนเย็น” สวีเหยียนซีวางสายอย่างรวดเร็วด้วยความรังเกียจ แม้ว่ามือของเธอจะไม่สกปรก เธอก็ยังถูมันแรง ๆ และลบประวัติการโทรออกไปด้วย

ในขณะนั้นเอง เธอถึงรู้สึกว่าความรู้สึกขยะแขยงนั้นลดลงไปบ้าง

เมื่อสตาร์ทรถ เธอก็โทรหาโหยวฉี “ฉีฉี เธออยู่ที่ร้านไหม ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้”

ในเวลาเดียวกัน ที่ห้องทำงานของฉินเซียว

หลังจากเสร็จกิจแล้ว เขาก็ดึงกางเกงขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ท่าทางที่เต็มไปด้วยความใคร่เมื่อครู่หายไปอย่างสิ้นเชิง

“เสร็จแล้ว เธอไปได้แล้ว”

แก้มของสวีหว่านหนิงแดงก่ำ ดวงตาของเธอยังคงชุ่มชื้น “พี่ฉินเซียวใจร้ายจังเลย เสร็จแล้วก็รีบไล่ฉันไปเลยเหรอคะ?”

ฉินเซียวเหลือบมองเธอ “เธอเป็นน้องเมีย มาอยู่ในห้องทำงานฉันนานขนาดนี้ ไม่คิดเหรอว่าจะมีคนเอาไปนินทา? ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูของเสี่ยวซี ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่”

พอได้ยินว่าเขายังคงคิดถึงแต่สวีเหยียนซี นังคนน่ารังเกียจนั่น สวีหว่านหนิงก็รู้สึกอิจฉาริษยาอย่างบ้าคลั่ง แทบอยากจะให้สวีเหยียนซีรีบไปตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เธอเม้มริมฝีปาก “พี่ฉินเซียว ฉันยอมเป็นชู้รักของพี่แล้ว ฉันไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่หวังว่าพี่จะใจดีกับฉันบ้าง แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ?”

ฉินเซียวตอบอย่างเฉยเมยว่า “ฉันจะเตรียมเครื่องประดับให้เธอชุดหนึ่ง”

เมื่อเห็นเขาจะเอาเครื่องประดับมาให้เพื่อไล่เธอไป สวีหว่านหนิงก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น “พี่ฉินเซียว ฉันต้องการเป็นคนรักของพี่ ไม่ได้ต้องการเงินของพี่!”

“ฉันมีแต่เงินให้เธอได้เท่านั้น ส่วนความรัก ฉันให้ได้แค่เสี่ยวซี” ฉินเซียวไม่เปิดโอกาสให้เธออาละวาด “ยังคิดจะเอาเรื่องฆ่าตัวตายมาขู่ฉันอีกเหรอ? ถ้าเธอกล้าอีกครั้ง งั้นเธอก็อย่าตายในเมืองจิง ไปตายไกล ๆ ซะ”

“...” สวีหว่านหนิงรู้สึกไม่พอใจจนจุกอกไปหมด แต่เมื่อคิดได้ว่ากว่าจะได้ตัวฉินเซียวมา เธอก็ทำได้แค่ระงับอารมณ์และยอมอ่อนข้อ “ฉันผิดไปแล้วค่ะ พี่ฉินเซียว”

“งั้นก็รีบไปได้แล้ว” ฉินเซียวออกคำสั่งไล่อย่างหงุดหงิด

เธอเม้มริมฝีปากอย่างไม่เต็มใจและทำได้แค่จากไปก่อน

ขณะยืนอยู่ในลิฟต์ เธอก็คิดแผนหนึ่งขึ้นมาได้ แล้วถ่ายรูปข้อความในลิฟต์ จากนั้นส่งให้สวีเหยียนซีอย่างได้ใจ พร้อมคำบรรยายว่า [สวีเหยียนซี เมื่อกี้ตอนที่เธอคุยโทรศัพท์กับพี่ฉินเซียว ฉันก็อยู่ในห้องทำงานของเขาด้วยนะ]

สวีเหยียนซีเพิ่งเปิดข้อความอ่านผ่าน ๆ โทรศัพท์ก็ถูกโหยวฉีแย่งไป

โหยวฉีอ่านแล้วก็สบถด่าออกมาทันที “ยัยแอ๊บเป็นโรคซึมเศร้าหน้าไม่อายนี่! ฉันว่านักจิตวิทยาที่ตระกูลสวีหามาเชื่อถือได้จริงเหรอ ดูนิสัยยัยนี่แล้ว ฉันว่าไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้าหรอก แต่เป็นโรคอยากเป็นเมียน้อยมากกว่า”

สวีเหยียนซีโค้งริมฝีปาก แต่ก็ต้องชี้แจงเรื่องหนึ่ง “นักจิตวิทยาที่จ้างมาเป็นนักจิตวิทยาชั้นนำของประเทศ ไม่มีทางผิดพลาดได้หรอก”

“อ๋อ งั้นโรคซึมเศร้าของยัยนั่นก็กลายพันธุ์แล้วล่ะสิ เธอเลยเริ่มคลั่ง” โหยวฉีคืนโทรศัพท์ให้พลางมองสวีเหยียนซีด้วยความสงสาร “เธอกับไอ้หมาตัวนั้นคบกันมานานขนาดนี้ แน่ใจนะว่าจะตัดใจได้?”

สวีเหยียนซีดื่มชา ขณะที่ดวงตาที่หลุบลงฉายแววตาเจ็บปวด “ฉันเป็นโรคกลัวความสกปรกทางความสัมพันธ์”

เธอไม่สนใจว่าแฟนเธอจะเคยมีแฟนเก่า แต่เธอไม่สามารถทนได้หากเขายังไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นในระหว่างที่คบกับเธอ

ทั้ง ๆ ที่ฉินเซียวรู้เรื่องนี้ดี แต่เขาก็ยังทำ

“ฉันคิดว่าผู้ชายทุกคนบนโลกนี้อาจจะนอกใจได้ แต่ฉินเซียวจะไม่มีวันเป็นแบบนั้นแน่ ๆ ฮึ!” โหยวฉีสบถด่าด้วยความโกรธ “ผู้ชายที่นอกใจก็เหมือนก้อนอึ”

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของสวีเหยียนซีก็ดังขึ้น

ซึ่งเป็นสายจากแม่สวี

โหยวฉีก็เห็นเช่นกัน คิ้วของเธอกระตุกเล็กน้อย “ต้องให้เธอกลับบ้านแน่เลย หาข้ออ้างปฏิเสธสิ?”

สวีเหยียนซีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมแสยะมุมปาก “วันนี้ไม่ได้ ก็ต้องพรุ่งนี้ ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก”

พูดจบ เธอก็รับสาย “แม่คะ”

แม่สวีออกคำสั่งในโทรศัพท์ “บอกฉินเซียวว่าให้มาทานข้าวที่บ้านคืนนี้ เธอน่ะมาก่อน แม่มีเรื่องจะคุยด้วย”

หนึ่งชั่วโมงต่อมา สวีเหยียนซีก็มาถึงบ้านตระกูลสวี

ทันทีที่เธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกก็เห็นสวีหว่านหนิงกำลังซบอยู่ในอ้อมกอดของแม่สวี แม่สวีมีสีหน้ายิ้มแย้มและกำลังป้อนผลไม้ให้เธออย่างเอ็นดู ขณะที่สวีเหยียนซีกำลังจะละสายตา สวีหว่านหนิงกลับส่งสายตาที่ท้าทายมาให้เธอ เธอเลือกที่จะเมินเฉยและเอ่ยว่า “แม่คะ หนูกลับมาแล้ว”

เกือบจะในเวลาเดียวกัน “แม่คะ หนูง่วงแล้วค่ะ ถ้าทำอาหารเสร็จแล้วค่อยปลุกหนูนะคะ” สวีหว่านหนิงลุกขึ้น หาวนอนแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน

แม่สวีลุกขึ้นและพูดกับเธออย่างอ่อนโยน “ได้จ้ะ เดี๋ยวอาหารเสร็จแล้วแม่จะเรียกนะ”

พูดจบ เธอก็หันมามองสวีเหยียนซีด้วยสีหน้าอื่น “เมื่อคืนหนิงหนิงอาการแย่ขนาดนั้น เธอกล้าดียังไงถึงพาฉินเซียวไปโดยไม่สนใจใครเลย สวีเหยียนซี เธอคิดว่าแค่จดทะเบียนสมรสแล้วก็กลายเป็นคนตระกูลฉินจริง ๆ แล้วใช่ไหม!”

“แม่คะ หนิงหนิงเกิดเรื่อง หนูเองก็เป็นห่วง แต่หนูกับฉินเซียวไม่ใช่หมอจิตเวช อยู่ตรงนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้” เธออธิบายอย่างใจเย็น

“ยังจะหาเหตุผลเถียงข้าง ๆ คู ๆ กับฉันอีก!” แม่สวีโกรธมากและยกมือขึ้นจะตบ

“แม่ครับ!” สวีเหยียนเช่อปรากฎตัวขึ้นอย่างทันท่วงทีและจับข้อมือของแม่สวีไว้ “คืนนี้เป็นครั้งแรกที่ฉินเซียวจะมาทานข้าวที่บ้าน ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา แม่จะตบซีซีตอนนี้ แล้วคืนนี้เธอจะไปเจอคนอื่นได้ยังไง?”

สวีเหยียนซียืนอยู่กับที่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งใจกับการช่วยเหลือของสวีเหยียนเช่อเลย เพราะแม้ไม่มีเขา เธอก็ไม่คิดจะยืนอยู่เฉย ๆ ให้โดนตบอยู่แล้ว

“เธอมันลูกอกตัญญู แกยังจะปกป้องเธออีกทำไม!” แม่สวีพูดอย่างโกรธจัด

สวีเหยียนซีไม่ได้รอให้สวีเหยียนเช่อพูด พูดด้วยรอยยิ้มที่ฝืนว่า “แม่จะคิดว่าหนูเป็นลูกอกตัญญูก็ได้ค่ะ แต่แม่คะ อย่างน้อนตระกูลสวีเองก็มีชื่อเสียงในเมืองจิงนะคะ ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเมื่อคืนนี้แพร่งพรายออกไปข้างนอก แม่รู้ไหมว่าคนอื่นจะพูดถึงเรายังไง?”

“ซีซี พูดให้น้อยหน่อย” สวีเหยียนเช่อดึงมือเธอไว้

“เรื่องในบ้านของเรา ใครจะไปรู้ได้ ถ้ามีคนรู้จริง ๆ ก็คงเพราะแกควบคุมปากของตัวเองไม่ได้!” แม่สวีชี้หน้าเธอและด่าว่า “ถ้าไม่มีตระกูลสวีเลี้ยงดูแก แกจะมีวันนี้ได้เหรอ? แกจะได้แต่งงานกับคนที่มีฐานะอย่างฉินเซียวได้เหรอ? คิดให้ดี ๆ หน่อย ฉันเลี้ยงแกมาตั้งหลายปี แกก็ควรจะรู้จักตอบแทนบุญคุณซะบ้าง!”

สวีเหยียนซีดิ้นรนหลุดจากการจับกุมของสวีเหยียนเช่อ เธอเผชิญหน้ากับแม่สวีอย่างตรง ๆ และพูดออกมาว่า “เรื่องที่ตระกูลสวีเลี้ยงดูหนู หนูไม่มีอะไรจะพูดค่ะ แต่แม่คะ สวีหว่านหนิงเป็นลูกสาวแท้ ๆ ที่แม่ตามหากลับมาอย่างยากลำบากนะคะ”

“หนูรู้ว่าแม่กับพ่ออยากจะชดเชยให้เธออย่างไม่มีขีดจำกัด แต่การชดเชยแบบนี้ก็ควรมีขอบเขตนะคะ หนูกับฉินเซียวเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่แม่กลับปล่อยให้ลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองไปยั่วยวนสามีของหนู แบบนี้มันถูกต้องแล้วเหรอคะ?”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 100

    บทที่ 100“คุณไล่ผมไปไม่ได้นะ ที่นี่บ้านของอาจารย์ถัง และอาจารย์หญิงก็อนุญาตให้ผมอยู่ที่นี่ได้” ฉินเซียวไม่มีอารมณ์โกรธเลยแม้แต่น้อย เขาก้าวเข้ามาและยิ้มให้เธอ “ผมเชิญหมอที่เก่งที่สุดในเมืองจิงมาแล้ว ตอนนี้อยู่ข้างบน คุณอยากจะขึ้นไปดูไหม?”สวีเหยียนซีสะกดอารมณ์เอาไว้ และจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา “คุณว่างมากเหรอ?”ฉินเซียวยังคงยิ้ม “ตราบใดที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณ ผมก็ไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อเลยครับ”เมื่อเห็นเขาเข้ามาใกล้ สวีเหยียนซีก็ถอยหลังไปสองก้าว ไม่อยากจะสนใจเขา หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบนก่อนฉินเซียวยิ้มอย่างพอใจ หันกลับไปทำหมูสามชั้นพะโล้ต่อเมื่อมาถึงชั้นสอง หมอกำลังคุยกับอาจารย์หญิงอยู่“ก็คงเหลือเวลาอีกไม่กี่วันนี้แล้วครับ จะใช้ยาอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้วครับ” หมอพูดด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง “คุณนายครับ ทำใจเถอะนะครับ”อาจารย์หญิงเช็ดน้ำตาพลางพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ”ถึงแม้จะรู้ดีว่าไม่มีทางรักษาให้หายได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้อีกครั้ง สวีเหยียนซีก็รู้สึกเย็นไปทั้งตัว ราวกับว่าขาถูกถ่วงด้วยตะกั่วจนเดินไม่ได้เลยอาจารย์หญิงเห็นเธอ “เหยียนซี เธอมาแล้วเหรอ? ตอนนี้อาจารย์ของเธอมีสติ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 99

    บทที่ 99“...”“สถาปนิกสวี คุณตั้งใจจะพาผมไปทัวร์สถานที่ออกเดททั้งหมดเลยหรือไง?” น้ำเสียงของจ้าวจวิ้นโจวเริ่มเปรี้ยวขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าก็แสดงออกชัดเจนว่า ผมไม่พอใจสวีเหยียนซีอยากจะทำหน้าหมดคำพูด แต่ก็ทำไม่ได้เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดแอปพลิเคชันสมาชิกของร้านนี้ และรายชื่อที่ผูกไว้ยังคงเป็นโหยวฉีเธอชูหน้าจอให้เขาดู“นี่เป็นสถานที่ออกเดทของฉันกับคุณโหยวคะ”“...”เธอดึงโทรศัพท์กลับคืนแล้วพูดว่า “ยังไม่สายมาก ฉันจะซื้อของว่างช่วงบ่ายไปให้เพื่อนร่วมงาน ถ้าท่านประธานจ้าวไม่อยากเข้าไปและไม่อยากกิน ก็รบกวนรอฉันในรถสักครู่นะคะ”แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ ใครบางคนก็ลงจากรถไปแล้วรอยยิ้มบนใบหน้าของสวีเหยียนซี แทบจะแข็งเป็นหิน เธอแค่ต้องการเลี้ยงอาหารเขาเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่กลับกลายเป็นว่าเหมือนเธอชวนเขามาออกเดทท่าทางของเขามันช่าง...เมื่อเข้าไปในร้านขนมหวาน พนักงานก็ต้อนรับเธออย่างอบอุ่นและเมื่อเห็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาที่มากับเธอในครั้งนี้ พวกเขาก็ตาเป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็นสวีเหยียนซีบอกพนักงานให้แพ็คขนมทุกอย่างอย่างละสองชิ้นก่อน จากนั้นก็เดินไปหาจ้าวจวิ้นโจวอย่างเป็นธรรมชาต

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 98

    บทที่ 98ผู้จัดการร้านยิ้ม “โต๊ะอื่นเต็มหมดแล้วครับคุณสวี”“เต็มเหรอ?” สวีเหยียนซีกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ยังไม่เต็มเลยนี่ผู้จัดการร้านยังคงยิ้มอย่างดีที่สุด “อีกเดี๋ยวก็เต็มแล้วครับ”จ้าวจวิ้นโจวที่นั่งอยู่ตรงข้ามพูดขึ้น “สวีเหยียนซี ผมหิวแล้ว”สวีเหยียนซีจึงเลิกสงสัย นั่งลงอย่างรวดเร็ว แล้วสั่งอาหารสองสามอย่างอย่างชำนาญ จากนั้นถามว่า “ท่านประธานจ้าวอยากทานอะไรไหมคะ?”“คุณสั่งเลย ผมทานได้หมด”ดังนั้น สวีเหยียนซีจึงสั่งเพิ่มอีกสองสามอย่างผู้จัดการร้านถามว่า “คุณสวีครับ เปิดไวน์แดงเหมือนเดิมไหมครับ?”เหมือนเดิม? จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงเล็กน้อยและจ้องมองสวีเหยียนซีอย่างลึกลับสวีเหยียนซีส่ายหน้าและบอกว่าเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้แทนเมื่อผู้จัดการร้านออกไป จ้าวจวิ้นโจวก็ถามอย่างคลุมเครือว่า “คุณมาที่นี่บ่อยเหรอ?”“ฉัน...”“น่าจะถามว่าคุณกับฉินเซียวมาที่นี่บ่อยเหรอ?”“...ไม่ใช่ค่ะ ฉันกับคุณโหยวก็มาที่นี่บ่อยเหมือนกัน”จ้าวจวิ้นโจวยิ้มหน้าเจื่อน “ที่แท้ที่นี่ก็คือที่ออกเดทของพวกคุณ”“ไม่ใช่นะคะ”“ร้านอาหารในเมืองจิงมีตั้งมากมายให้คุณเลือก แต่คุณกลับพาผมมาที่ร้านที่คุณกับเขาออกเดทกันบ่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 97

    บทที่ 97ข่าวสวีหว่านหนิงถูกควบคุมตัวได้แพร่ไปถึงหูของสวีเหยียนเช่ออย่างรวดเร็วแม่สวีร้องไห้จนตาแดงก่ำมาหาเขา“พ่อกับน้องสาวแกถูกจับตัวไปแล้ว ทำไมแกยังนั่งเฉยอยู่ตรงนี้! รีบไปหาทางช่วยพ่อกับน้องสาวแกออกมาเร็วเข้าสิ!”เสียงเร่งเร้าและเสียงร้องไห้ของแม่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมากเขาคลึงหว่างคิ้ว “รู้อยู่ว่าเกิดเรื่องใหญ่ในบ้าน เธอยังไปทะเลาะกับคนในอินเทอร์เน็ต วันนี้ก็ยังกล้าทำร้ายซีซีต่อหน้าตำรวจที่สถานีตำรวจอีก แม่ครับ ถ้ายังตามใจเธอต่อไป เธอก็จะกลายเป็นคนไร้ค่าไปเลยนะครับ!”“แล้วแกลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอยังป่วยอยู่!” แม่สวีพูดอย่างโมโห “ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาตั้งใจไปยั่วโมโหหนิงหนิง เธอก็คงไม่ใจร้อนขนาดนี้ ตอนนี้ยังมาพูดว่าเธอไม่ดีอีก แกรีบไปช่วยเธอออกมาให้ได้ก่อนสิ”“ผมจะไม่ช่วย ให้เธอสำนึกผิดในนั้นสองวัน” สวีเหยียนเช่อพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน“แก แก แก!” แม่สวียกมือขึ้นกุมหน้าอกด้วยความโกรธจัด “ฉันว่าแกตั้งใจเข้าข้างสวีเหยียนซี นังสารเลวนั่นแน่ ๆ !”“แม่ครับ!” สวีเหยียนเช่อเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหันด้วยความรำคาญ “อย่างน้อยเธอก็เป็นคนที่แม่เลี้ยงมานะ!”“ฉันเป็นคนเลี้ยงมาแล้วยัง

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 96

    บทที่ 96“มึงมันเหี้ย!”สวีเหยียนซีด่าคำหยาบอย่างชัดถ้อยชัดคำจนทำให้ใบหน้าของสี่คนที่อยู่ไม่ไกลแสดงความประหลาดใจออกมาในระดับที่แตกต่างกันสวีเหยียนซีมีใบหน้าสวยโดดเด่น ปกติจะมีกิริยามารยาทงดงามตามธรรมชาติ ความประทับใจแรกที่ทุกคนเห็นเธอคือเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลใหญ่แต่เมื่อเธอพูดคำหยาบ มันกลับดูแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อจ้าวจวิ้นโจวยกยิ้ม นั่นแหละถึงจะดูเหมือนคนกำลังโกรธดวงตาของสวีเหยียนซีฉายแววตาเย็นชา “เรื่องนี้ ฉันจะจำคุณไปตลอดชีวิต!”“ไม่นะ!” ฉินเซียวคว้ามือเธอไว้ “ผมผิดไปแล้ว เสี่ยวซี! ผมจะไปหาหมอที่เก่งที่สุดในโลกมารักษาอาจารย์ถังเดี๋ยวนี้ ผมจะขอโทษเขา ผมจะหาทางชดเชยให้แน่นอน ได้โปรดอย่าโกรธผมเลยนะ อย่าไม่สนใจผม”เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวจวิ้นโจวก็เย็นชาลงทันทีเขาสาวเท้าเดินเข้าไปเมื่อลู่อวี่ที่กำลังโมโหอยู่เห็นว่าเจ้านายของเขากำลังจะไปเป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม เขาก็ตามไปอย่างตื่นเต้น “บอสไปแล้ว เราก็ไปเหมือนกัน!”ทว่าฟางห่าวและอู๋เสว่นีกลับจับแขนเขาคนละข้างอย่างรู้ใจฟางห่าวพูดว่า “แค่บอสก็พอแล้ว”“โธ่เอ้ย คนเยอะก็มีพลังมาก พวกเราไปเป็นกำลังเสริมให้สถาปนิกสว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 95

    บทที่ 95สวีหว่านหนิงส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่งพลางมองฉินเซียวอย่างน่าสงสาร“พี่ฉินเซียว อย่าไปเชื่อที่พวกเขาพูดนะคะ ฉันไม่ได้ทำเลย! ไม่ได้ทำจริง ๆ!”ฉินเซียวจะไปเชื่อคำพูดของเธอได้อย่างไรเธอเป็นคนแบบไหน เขารู้ดีที่สุด“รู้ไหมว่าพ่อของเธอเพิ่งถูกควบคุมตัวเมื่อคืนนี้?” ฉินเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ แทนที่จะอยู่อย่างสงบ เธอกลับเลือกที่จะทำเรื่องน่าอับอาย ถ้าพ่อฉันไม่สั่งให้ฉันมา เธอก็คิดเหรอว่าเรื่องไร้สาระของเธอแบบนี้ฉันอยากจะยุ่งด้วย?”คำพูดนี้เป็นการข่มขู่สวีหว่านหนิง แต่ก็เป็นการบอกสวีเหยียนซีทางอ้อมว่าเขาไม่ได้มาด้วยความสมัครใจสวีหว่านหนิงเม้มปาก น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาไม่หยุด “พี่ฉินเซียว ฉันเป็นภรรยาของพี่นะคะ”“หุบปาก!” ฉินเซียวตะคอกใส่เธอด้วยความรำคาญ“คุณตำรวจจางครับ เราจะยืนดูละครรักที่นี่เหรอครับ?” จ้าวจวิ้นโจวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาตำรวจจางก็รู้สึกปวดหัวเช่นกัน เขาจึงส่งสายตาให้เพื่อนตำรวจคนอื่น ๆ แล้วสวีหว่านหนิงก็ถูกบังคับให้ควบคุมตัวไปเธอทั้งร้องไห้ทั้งเรียกหาพี่ฉินเซียว แต่ใครบางคนกลับไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเธอเลยจนกระทั่งเสียงของเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status