หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่

หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่

By:  อวี๋ปู้เหยียนUpdated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
44Chapters
14views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

[เรื่องราวความรักสุดพิเศษ + บอสใหญ่ขึ้นแท่น + รักวัยเด็กที่ตามง้อภรรยา + พี่ชายบุญธรรมตามง้อน้องสาว] ในคืนวันจดทะเบียนสมรส สวีเหยียนซีได้เห็นกับตาว่าเพื่อนสนิทวัยเด็กที่รู้จักและรักกันมานาน 22 ปีนอกใจเธอ ชายชั่วอยากจับปลาสองมือ ขณะที่พี่ชายบุญธรรมคอยช่วยเหลือน้องสาวแท้ ๆ ให้แย่งสามีของเธอไป แถมยังต้องรักษาภาพลักษณ์พี่ชายที่แสนดีอยู่ สวีเหยียนซียิ้มเยาะ พวกเขาคิดว่าเธอเป็นคนโง่ที่ถูกรังแกได้ง่าย ๆ หรือไง? หลังจากตัดสินใจหย่า คนรักในวัยเด็กคิดว่าเธอแค่โกรธและจะกลับมาคืนดีกับเขาแน่นอน เพราะอย่างไรก็ตามคนที่รักเธอมากขนาดนี้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ส่วนพี่ชายบุญธรรมยิ่งมั่นใจว่าเธอถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กและจะกลับมาหาเขาอย่างว่าง่ายหลังจากผ่านความยากลำบากมาบ้าง แต่ใครจะไปคิดว่า สวีเหยียนซีได้อาศัยเส้นสายจากบอสใหญ่คนหนึ่ง และใช้ชีวิตในเมืองจิงได้อย่างสวยงาม ในที่สุด คนรักในวัยเด็กก็ร้อนรน "เธอแค่กำลังโกรธผม เธอรักผมต่างหาก เธอแค่ใช้คุณเป็นเครื่องมือเพื่อแก้แค้นผมเท่านั้น!" บอสใหญ่ยิ้ม "เหรอ? มีเรื่องดี ๆ แบบนี้ด้วยเหรอ?" พี่ชายบุญธรรมตาแดงก่ำ "ซีซี เธอเจอผู้ชายเฮงซวยคนหนึ่งยังไม่พอใช่ไหม ถึงต้องไปหาผู้ชายอีกคน เธอไม่เห็นความดีของพี่บ้างเลยเหรอ!" บอสใหญ่ปิดประตูเสียงดังและผลักสวีเหยียนซีชิดผนัง "จำไว้ คุณใช้ประโยชน์จากผมได้เท่านั้น คนอื่นห้ามคิดเด็ดขาด"

View More

Chapter 1

บทที่ 1

บทที่ 1

ตอนกลางวัน สวีเหยียนซีและฉินเซียวเพิ่งจะจดทะเบียนสมรสกัน และในคืนนั้นเธอก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนหอของพวกเขาแล้ว

บนโต๊ะอาหารเป็นดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่เธอตั้งใจเตรียมไว้เป็นพิเศษ

แต่ในเวลานี้ เธอนั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองหน้าจอโน้ตบุ๊กด้วยดวงตาแดงก่ำขณะกำลังกดโทรศัพท์โทรหาฉินเซียว

ในหน้าจอนั้น ปรากฏใบหน้าอันหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยกามารมณ์ของฉินเซียว

พร้อมกับเสียงที่น่าขยะแขยงดังกระหึ่มออกมาอย่างชัดเจน

ในขณะที่เสียงเรียกเข้าดังขึ้น สมองของเธอกลับว่างเปล่า เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าฉินเซียวรับสาย เธอควรจะเริ่มต้นบทสนทนาด้วยท่าทีแบบไหน

แต่ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มเพียงเหลือบมองเบอร์ที่โทรเข้า แล้วหยุดชะงักไปสองวินาที แต่สุดท้ายด้วยไฟราคะที่ลุกกล้า เขาก็เลือกที่จะเพิกเฉยโดยไม่ลังเล

ในวินาทีนั้น ความอดทนครั้งสุดท้ายของสวีเหยียนซีก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

เธอใช้มือที่แทบจะแข็งทื่อปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กอย่างแรง

สวีหว่านหนิงชนะแล้ว

เธอยั่วยวนผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน 22 ปี และเพิ่งเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอยังไม่ทันจะพ้นข้ามวันได้สำเร็จ

-

ตอนกลางวันขนของเข้ามาอย่างไร สวีเหยียนซีก็ขนมันกลับไปทั้งอย่างนั้น แม้แต่อาหารมื้อค่ำเธอก็จัดการเก็บกวาดจนสะอาดหมดจดราวกับว่าเธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลย

เมื่อกลับถึงคอนโด เธอก็ขดตัวอยู่ในผ้าห่มเงียบ ๆ เหมือนกับโดนดูดพลังจนหมด

จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เธอคิดว่าฉินเซียวโทรกลับมา แต่ความจริงแล้วเป็นสวีหว่านหนิงที่โทรมาโอ้อวดชัยชนะของเธอ

“สวีเหยียนซี ฉันได้กับฉินเซียวก่อนเธออีกนะ” น้ำเสียงของผู้หญิงในสายฟังดูสะใจสุด ๆ

สวีเหยียนซีกำโทรศัพท์แน่นจนปลายนิ้วมือซีดขาว เธอข่มอารมณ์ไว้ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นว่า “ยินดีด้วยนะ”

คำพูดนั้นทำให้สวีหว่านหนิงพึงพอใจอย่างยิ่ง พูดยั่วยุเธอต่อว่า “ถ้าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉัน แล้วทำไมถึงยอมมีอะไรกับฉันล่ะ จริงไหม?”

ไม่ว่าจะมีความรู้สึกหรือไม่ก็ตาม สำหรับสวีเหยียนซีแล้วมันคือการนอกใจ

เมื่อบังคับตัวเองให้ยอมรับความจริงข้อนี้ได้แล้ว เธอหัวเราะเย็นชาแล้วพูดว่า “ใช่สิ ในเมื่อเธอมั่นใจขนาดนั้น งั้นเธอก็ลองดูสิว่าเขาจะยอมหย่ากับฉันเพื่อเธอไหม”

เธอทิ้งคำพูดนั้นไว้ก่อนจะตัดสายไปทันที

อันที่จริงเธอรู้ดีว่าสวีหว่านหนิงไม่ได้ชอบฉินเซียวจริง ๆ หรอก เธอก็แค่อยากจะแย่งของรักที่เหลืออยู่ไม่มากของเธอไปทีละน้อยเท่านั้น

แต่เธอถือดีอะไรมาแก้แค้นเธอ

ต้นเหตุที่พวกเธอถูกสลับตัวตั้งแต่เกิดก็เป็นฝีมือของศัตรูของตระกูลสวีทั้งนั้น และสาเหตุที่สวีหว่านหนิงเป็นโรคซึมเศร้าก็เป็นเพราะพ่อแม่บุญธรรมของเธอที่บีบบังคับเธอ

เมื่อแปดปีก่อนตอนที่สวีเหยียนซีรู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลสวี เธอก็ได้เสนอที่จะจากไป แต่ตระกูลสวีกลับไม่ยอม เมื่อหกปีก่อนตอนที่สวีหว่านหนิงถูกตามตัวกลับมา เธอก็เสนอที่จะจากไปอีกครั้ง แต่ตระกูลสวีก็ยังคงรั้งเธอไว้โดยอ้างบุญคุณที่เลี้ยงดู และสัญญาว่าจะช่วยตามหาพ่อแม่แท้ ๆ ให้เธอ

หลายปีที่ผ่านมา เธอพยายามทำตัวเป็นเหมือนอากาศตลอดเวลาที่อยู่ในตระกูลสวี ไม่ว่าจะเป็นสถานะ พี่ชาย หรือพ่อแม่ ทุกอย่างที่ไม่ใช่ของเธอ เธอก็คืนให้สวีหว่านหนิงทั้งหมด และไม่เคยแตะต้องมันแม้แต่น้อย

ต่อมาตระกูลสวีไม่เพียงแต่ไม่ทำตามสัญญา แถมยังปล่อยให้เธอกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของสวีหว่านหนิงอีก

เธอคิดว่าการแต่งงานกับฉินเซียวจะทำให้เธอหนีจากตระกูลสวีได้ แต่สวีหว่านหนิงกลับทำลายเกราะกำบังสุดท้ายของเธอ

และคนเดียวที่เธอไว้ใจก็หักหลังเธอ

สวีเหยียนซีซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม สะอื้นไห้จนแทบขาดอากาศหายใจ ขณะที่เธอกำลังงัวเงียจะหลับไป จู่ ๆ ก็มีคนหนึ่งเข้ามาโอบกอดเธอ วินาทีที่ต้นคอของเธอถูกจูบ เธอก็ตัวแข็งไปชั่วขณะ เขาคนนั้นคือฉินเซียว

“ที่รัก” ฉินเซียวเรียกเธออย่างอ่อนโยน “เราตกลงกันแล้วไม่ไช่เหรอว่าจะย้ายเข้าเรือนหอวันนี้ ทำไมถึงยังไม่ย้ายไปอีก?”

“ประจำเดือนฉันมา ก็เลยปวดท้องน่ะ” เสียงที่อ่อนแรงของเธอทำให้ข้ออ้างนี้ดูสมจริงยิ่งขึ้น และยังสามารถยับยั้งความคิดของฉินเซียวที่อยากจะทำอะไรกับเธอได้สำเร็จ

“ประจำเดือนของคุณมาตรงเวลาตลอด ทำไมคราวนี้ถึงมาก่อนกำหนดสองอาทิตย์เลยล่ะ?”

“อาจเป็นเพราะสองวันก่อนเจออากาศหนาวมามั้ง”

ฉินเซียวบีบปลายจมูกของเธออย่างจนใจ “ดูสิว่าต่อไปนี้คุณยังจะกล้าใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นอีกไหม รอเดี๋ยวนะ ผมจะไปต้มน้ำขิงให้”

สวีเหยียนซีไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่มองตามแผ่นหลังที่รีบร้อนเดินออกไปของเขา เธอวางแขนพาดหน้าผากขณะที่หัวใจเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ

ในใจของเธอ ฉินเซียวเป็นคนอบอุ่นและเอาใจใส่แบบนี้เสมอ เขาจำทุกความชอบและนิสัยของเธอได้ จำได้แม้กระทั่งวันที่เธอมีประจำเดือน แล้วก็เตรียมน้ำขิงกับถุงประคบร้อนให้ล่วงหน้า ตั้งแต่สมัยเรียนจนกระทั่งตอนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาหรือในรถของเขา จะมียาแก้แพ้ฉุกเฉินและลูกอมแก้เจ็บคอของเธอติดอยู่เสมอ

ทุกคนต่างอิจฉาเธอที่มีคนรักที่ทุ่มเทให้เธออย่างหมดใจขนาดนี้

แน่นอนว่าความกดดันและความเจ็บปวดที่ตระกูลสวีมอบให้เธอ ได้รับการเยียวยาด้วยการอยู่เคียงข้างของฉินเซียว เธอยอมตกลงที่จะอยู่ในบ้านตระกูลสวีต่อ ส่วนหนึ่งก็เพื่อฉินเซียว

ไม่นานนักชายหนุ่มก็ถือถ้วยน้ำขิงเข้ามา และถือถุงประคบร้อนด้วยมืออีกข้าง “ที่รัก มา ดื่มซะหน่อย เดี๋ยวผมจะช่วยนวดท้องให้ด้วย”

สีหน้าของสวีเหยียนซีดูไม่ดีจริง ๆ ดูซูบซีดและไร้ชีวิตชีวา

เธอรับน้ำขิงมาแล้วดื่มไปเพียงสองสามอึกอย่างขอไปที

เมื่อเห็นดังนั้น ฉินเซียวก็พูดโน้มน้าวอย่างอดทน “ดีมาก ดื่มให้หมดนะ”

เธอไม่อยากดื่ม เลยเปลี่ยนเรื่อง “ฉินเซียว ทำไมเมื่อคืนฉันโทรหาคุณแล้วคุณถึงไม่รับสาย?”

ทันทีที่พูดจบ สายตาของฉินเซียวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่สวีเหยียนซีก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

เธอรอคอยว่าเขาจะอธิบายอย่างไร

วินาทีต่อมา ฉินเซียวลูบผมของเธอพลางอธิบายอย่างใจเย็นว่า “คุณก็รู้ว่าคุณพ่อเพิ่งยกอำนาจให้ผมบางส่วน ผมต้องใช้โอกาสนี้สร้างผลงานให้ดีสักหน่อย เพื่อให้เขาเชื่อมั่นในตัวผมมากขึ้น ขอโทษนะที่รัก ตอนนั้นผมกำลังประชุมอยู่เลยตั้งโหมดปิดเสียงไว้ เลยไม่ทันสังเกต”

เมื่อเห็นเขาโกหกหน้าตาเฉย สวีเหยียนซีก็หัวเราะอย่างขมขื่น

ครั้งหนึ่ง เขาเคยสัญญาไว้อย่างหนักแน่นว่าจะซื่อสัตย์กับเธอตลอดไป จะไม่นอกใจและไม่หลอกลวง

เธอถามว่า “แล้วทำไมประชุมเสร็จถึงไม่ส่งข้อความมาให้ฉันเลยล่ะ”

ฉินเซียวแสดงสีหน้าขอโทษ “ผมตั้งใจจะส่งข้อความหาคุณนะ แต่ใครจะไปคิดว่าพอเริ่มงานยุ่งแล้วก็ลืมไปเลย ดูสิ พอผมทำงานเสร็จก็รีบกลับมาหาคุณทันทีเลยนี่ไง? ที่รัก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมทำผิดพลาด ให้อภัยผมหน่อยไม่ได้เหรอ?”

ทำผิดพลาดครั้งแรก... เหอะ เรื่องแบบนี้ให้อภัยกันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ

เขาทำมันแล้ว แถมยังหาข้ออ้างมาปกปิดอีก การลักลอบคบชู้แบบนี้ ไม่ก็ไม่มีเลย หรือก็มีอีกนับครั้งไม่ถ้วน

เมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มเข้ามาใกล้ สวีเหยียนซีก็ขมวดคิ้ว รู้สึกว่าความขยะแขยงดันขึ้นมาในอกทันที เธอแสร้งทำเป็นหันหน้าไปอีกทาง และพูดอย่างอ่อนแรงว่า “คุณไปเอายาแก้ปวดให้ฉันหน่อยสิ คราวนี้ปวดจริง ๆ”

ฉินเซียววางถุงประคบร้อนลงแล้วรีบออกไปหายา

คอนโดไม่ใหญ่มาก ในเวลานี้เงียบสงบมาก สวีเหยียนซีจึงได้ยินเสียงฉินเซียวรื้อค้นลิ้นชัก และในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาแทบจะรับสายในทันที และรีบเดินไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง

เพียงแค่ได้ยินเสียง สวีเหยียนซีก็สามารถจินตนาการได้ว่าการโทรครั้งนี้ทำให้ฉินเซียวรู้สึกผิดและประหม่ามากแค่ไหน ราวกับกลัวว่าเธอจะค้นพบอะไรบางอย่าง

เธอหลับตาลงอย่างเงียบ ๆ ไม่ยากที่จะเดาว่าคนที่โทรมาคือสวีหว่านหนิงแน่นอน

ไม่นานฉินเซียวก็วางสาย เขาหายาแก้ปวดเจอแล้วกลับเข้ามาในห้องนอน

“ที่รัก มา ทานยาแก้ปวดซะนะ ถ้ายังไม่ดีขึ้น เราก็ไปหาหมอกัน อย่าเป็นเหมือนครั้งที่แล้วอีกนะ เกือบทำให้ผมช็อคตาย”

ความรักและความห่วงใยของเขาในตอนนี้ช่างดูตลบตะแลงสุด ๆ ในสายตาของสวีเหยียนซี

เธอกลืนยาแก้ปวด ก่อนจะถามอย่างไม่ใส่ใจว่า “ใครโทรมาตอนดึกดื่นขนาดนี้?”

ฉินเซียวหน้าเจื่อนอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเขาก็อธิบายว่า “ผู้ช่วยโทรมายืนยันตารางงานวันพรุ่งนี้กับผมน่ะ”

สวีเหยียนซีหลบตาลงบดบังความเศร้าหมองในดวงตาของเธอเอาไว้ ภายในไม่ถึงสิบนาที เขาโกหกเธอถึงสองครั้ง

ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่า บางทีเธออาจไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้ที่อยู่เคียงข้างเธอมา 22 ปีอย่างถ่องแท้เลย

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ซึ่งก็คือสวีเหยียนเช่อ พี่ชายคนโตของเธอโทรหา

“พี่คะ”

ตามมาด้วยเสียงทุ้มนุ่มลึกของชายหนุ่มดังมาจากปลายสาย “หนิงหนิงกรีดข้อมือตัวเอง”
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
44 Chapters
บทที่ 1
บทที่ 1ตอนกลางวัน สวีเหยียนซีและฉินเซียวเพิ่งจะจดทะเบียนสมรสกัน และในคืนนั้นเธอก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนหอของพวกเขาแล้ว บนโต๊ะอาหารเป็นดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่เธอตั้งใจเตรียมไว้เป็นพิเศษแต่ในเวลานี้ เธอนั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองหน้าจอโน้ตบุ๊กด้วยดวงตาแดงก่ำขณะกำลังกดโทรศัพท์โทรหาฉินเซียว ในหน้าจอนั้น ปรากฏใบหน้าอันหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยกามารมณ์ของฉินเซียวพร้อมกับเสียงที่น่าขยะแขยงดังกระหึ่มออกมาอย่างชัดเจนในขณะที่เสียงเรียกเข้าดังขึ้น สมองของเธอกลับว่างเปล่า เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าฉินเซียวรับสาย เธอควรจะเริ่มต้นบทสนทนาด้วยท่าทีแบบไหนแต่ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มเพียงเหลือบมองเบอร์ที่โทรเข้า แล้วหยุดชะงักไปสองวินาที แต่สุดท้ายด้วยไฟราคะที่ลุกกล้า เขาก็เลือกที่จะเพิกเฉยโดยไม่ลังเลในวินาทีนั้น ความอดทนครั้งสุดท้ายของสวีเหยียนซีก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิงเธอใช้มือที่แทบจะแข็งทื่อปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กอย่างแรงสวีหว่านหนิงชนะแล้วเธอยั่วยวนผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทที่โตมาด้วยกัน 22 ปี และเพิ่งเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอยังไม่ทันจะพ้นข้ามวันได้สำเร็จ-ตอนกลางวันขนของเข้ามาอย่างไร สวีเ
Read more
บทที่ 2
บทที่ 2ณ บ้านตระกูลสวีฉินเซียวรีบก้าวเข้าไปก่อน ตรงขึ้นไปชั้นบนอย่างร้อนรน โดยทิ้งเธอไว้ข้างหลังมองดูแผ่นหลังที่เร่งรีบของเขา สวีเหยียนซีรู้สึกเหมือนเท้าของเธอถูกเทด้วยตะกั่ว ก้าวเดินอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ระหว่างทางมา เธอสังเกตเห็นแล้วว่าบนใบหน้าที่เคร่งขรึมของฉินเซียวแฝงไว้ด้วยความร้อนรนและกระวนกระวายที่ไม่อาจปกปิดได้เลยนั่นไม่ใช่ความรู้สึกผิดหรือความประหม่า เพราะสีหน้าแบบนั้นเขาเคยแสดงออกมาตอนที่เธอถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินเพราะปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงสามีของเธอไม่สนใจเธอ กลับเป็นห่วงผู้หญิงอีกคนตอนนี้ทุกคนอยู่ในห้องของสวีหว่านหนิง เท้าของเธอหยุดอยู่แค่หน้าประตู และฉากที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง!สวีหว่านหนิงนอนร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของฉินเซียวราวกับตุ๊กตากระเบื้องที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ฉินเซียวทำท่าทางแบบเดียวกับที่เขาเคยทำกับเธอ เขาปลอบโยนเธออย่างอดทนและเป็นห่วงส่วนคนอื่น ๆ กลับไม่รู้สึกว่าสิ่งนี้ผิดปกติเลยแม้แต่น้อยทันใดนั้น ร่างสูงใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ “ตามพี่มา”สวีเหยียนซีถูกพี่ชายคนโตจับข้อมือและพาเข้าไปในห้องหนังสือทันทีที่ประตูปิดลง สวีเหยีย
Read more
บทที่ 3
บทที่ 3สวีเหยียนซีกำหมัดแน่นจนเล็บแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อ พยายามทำให้เสียงดูสงบที่สุด “พี่ใหญ่ ขอบคุณที่บอกเรื่องพวกนี้กับฉันนะคะ”แต่สวีเหยียนเช่อก็ยังฟังออก น้ำเสียงของเขาจึงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน “ซีซี อย่าโทษพี่เลยนะ เธอเป็นน้องสาวที่โตมาด้วยกันกับพี่ พี่อยากให้เธอเจอแต่ผู้ชายดี ๆ ไม่ใช่ไอ้สารเลวที่หลายใจแบบนี้”คำพูดนี้ทำให้สวีเหยียนซีรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเสแสร้งสิ้นดีทั้ง ๆ ที่เขากำลังช่วยสวีหว่านหนิงแย่งฉินเซียวไปจากเธอ แต่กลับต้องพูดจาดี ๆ แบบนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีเธอหลับตาลงพลางหายใจเข้าลึก ๆ และตัดสินใจขั้นเด็ดขาดในที่สุดไม่ว่าจะเป็นตระกูลสวีหรือฉินเซียว พวกเขาก็เหมือนขยะเธอไม่ต้องการขยะเหล่านี้“ซีซี...”“พี่ใหญ่คะ ฉันง่วงมากแล้ว เรื่องอื่นไว้คุยกันพรุ่งนี้เถอะค่ะ” สวีเหยียนซีพูดอย่างเย็นชาและวางสายทันทีสวีเหยียนเช่อโทรมาอีกครั้ง แต่เธอก็เลือกที่จะปฏิเสธเธอนั่งอยู่บนโซฟาเพื่อปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หาชื่อหนึ่งในรายชื่อในโทรศัพท์——จ้าวจวิ้นโจวเธอส่งข้อความไปหาเขาว่า [คุณจ้าวคะ ข้อตกลงเมื่อสามปีก่อนยังใช้ได้อยู่ไหมคะ?]ตอนนี้เป็น
Read more
บทที่ 4
บทที่ 4สวีเหยียนซีปิดหน้าต่างแชทลง จากนั้นห่ออาหารทั้งหมดใส่ถุงด้วยสีหน้านิ่งเฉย แล้วนำไปให้สุนัขจรจัดที่เธอเคยให้อาหารก่อนหน้านี้ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังกลับ ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็พยักหน้าให้เธอเล็กน้อย “คุณสวี”สวีเหยียนซีอึ้งไปสองวินาที เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คิดเลยว่าฟางห่าว ผู้ช่วยพิเศษของจ้าวจวิ้นโจวจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่“ผู้ช่วยฟาง” เธอตอบกลับอย่างสุภาพฟางห่าวยื่นซองเอกสารให้เธอ “ท่านประธานจ้าวให้ผมนำกุญแจคอนโดมาให้คุณสวี และเขาก็กำชับมาว่าหวังว่าคุณสวีจะสามารถจัดการเรื่องการย้ายบ้านให้เรียบร้อยภายในวันนี้ และปรับสภาพจิตใจให้พร้อม เพื่อไม่ให้กระทบกับการเริ่มงานในวันพรุ่งนี้ครับ”สวีเหยียนซีรับมาอย่างใจเย็น “อืม ทราบแล้วค่ะ”ในข้อตกลงที่เซ็นเมื่อคืนนี้ เธอได้เข้าร่วมทีมสถาปนิกของจ้าวจวิ้นโจวอย่างเป็นทางการ ข้อตกลงมีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือเธอต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัดการย้ายบ้านเป็นเงื่อนไขแรกที่จ้าวจวิ้นโจวเสนอขึ้นก่อนที่เธอจะกลับบ้านเมื่อคืนถึงเขาจะไม่เสนอ แต่สวีเหยียนซีก็จะย้ายบ้านอยู่แล้วคอนโดนี้เป็นของขวัญที่ตระกูลสวีให้เธอในนาม ซึ่งเป็นการสร้างภา
Read more
บทที่ 5
บทที่ 5สวีเหยียนซีหายใจหอบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว เธอวางมีดปอกผลไม้ลงก่อนจะหันไปหาพลาสเตอร์มาปิดบาดแผลถ้าสวีเหยียนเช่อไม่ตื้อไม่เลิก เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้ ตอนนี้เธอจะรักตัวเองมากขึ้นและจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชอีกแล้วหลังจากแน่ใจว่าสวีเหยียนเช่อออกจากหมู่บ้านแล้ว เธอก็รีบขนของทั้งหมดขึ้นรถเธอไม่รอช้า มุ่งหน้าไปที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ทันที ที่นี่มีห้องหลายประเภท แต่เมื่อเธอมาถึงชั้นคอนโดที่จ้าวจวิ้นโจวบอก เธอถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่คอนโดธรรมดา แต่เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ทั้งชั้นแบบหนึ่งลิฟต์หนึ่งห้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอย้ายของเข้าไปแล้ว เธอก็เห็นคฤหาสน์จวี๋ซานที่ตั้งอยู่บนเนินเขาจากหน้าต่างในห้องหนังสือสีหน้าของสวีเหยียนซีดูซับซ้อน“เจตนาแอบแฝง” ของจ้าวจวิ้นโจวช่างแอบแฝงจริง ๆหลังจากจัดข้าวของเรียบร้อยแล้ว สวีเหยียนซีก็ไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันที่ซูเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นขับรถไปที่เฟิงไห่กรุ๊ปเธอจอดรถริมถนนก่อนจะโทรหาฉินเซียวสายถูกรับในทันที เสียงทุ้มแหบของชายหนุ่มดังมาจากปลายสายว่า “ที่รัก”สวีเหยียนซีกำลังจะ
Read more
บทที่ 6
บทที่ 6“ยั่วยวนสามีแก?” เสียงของแม่สวีค่อย ๆ แหลมสูงขึ้นด้วยแรงโกรธ “ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลสวีของฉัน แกคิดเหรอว่าจะมีโอกาสได้รู้จักคนอย่างฉินเซียว? อย่าลืมล่ะ ว่าสิ่งที่แกมีอยู่ทุกวันนี้ เดิมทีมันเป็นของลูกสาวฉันต่างหาก!”ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวจนเผลอพูดสิ่งที่อัดอั้นออกมาถ้าเป็นเมื่อก่อนต่อให้แม่สวีไม่พูดออกมา แต่สายตาที่มองมายังเธอทุกครั้งก็เหมือนกำลังจ้องมองโจรผู้ร้ายที่คอยปล้นทุกสิ่งทุกอย่างจากลูกสาวสุดรักของเธอเธอคิดว่าไม่พูดมันออกมาก็ยังจะดีเสียกว่า อย่างน้อยก็ไม่ทำให้บรรยากาศให้แย่ลงไปกว่านี้ เพราะอย่างไรเสีย หลังแต่งงานกับฉินเซียวแล้ว เธอก็ไม่คิดจะกลับมาที่นี่บ่อยนักหรอกแต่ในเมื่อตอนนี้เธอกำลังจะหย่าอยู่แล้ว การที่ตระกูลสวีทำให้เรื่องราวใหญ่โตถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าเธอยังปล่อยให้ตัวเองถูกผูกมัดด้วยศีลธรรมอีก งั้นเธอก็คงโง่เกินไปแล้วจริง ๆ สมควรถูกเหยียบหัวสวีเหยียนเช่อเหมือนจะเดาออกว่าเธอคิดจะพูดอะไร กำลังจะยกมือห้ามแต่สวีเหยียนซีกลับหลบตัวทัน และเอ่ยออกมาทันทีว่า “ถ้าหนูจะพูดว่าตัดความสัมพันธ์กับตระกูลสวี คราวนี้แม่คงไม่คัดค้านอะไรอีกแล้วใช่ไหมคะ”“...” แม่สวีไม่คิดว่าเ
Read more
บทที่ 7
บทที่ 7ลมหายใจของสวีเหยียนซีชะงักไปชั่วขณะเธอรู้ดีว่าสวีหว่านหนิงกำลังรอให้เธอโกรธจนผลุนผลันเข้าไปอาละวาดแต่เธอกลับเลือกที่จะเงียบ และหันหลังเดินจากไปทันทีเมื่อเห็นดังนั้น สายตาของสวีหว่านหนิงพลันมืดหม่นลง ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งนังผู้หญิงสารเลวนี่ ทนได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ!-หลังจากกลับมาถึงห้อง สวีเหยียนซีก็ยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้าและอาเจียนออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ถึงแม้จะไม่มีอะไรให้อาเจียนออกมาแล้ว แต่เธอก็ยังคงอยากจะอาเจียนต่อไปเขากล้าดียังไงถึงได้ทำเรื่องน่ารังเกียจกับสวีหว่านหนิงอย่างโจ่งแจ้งในบ้านตระกูลสวีแบบนี้!เมื่อนึกถึงความทรงจำอันงดงามที่เคยมีร่วมกับฉินเซียวขึ้นมา เธอก็อยากจะเปลี่ยนมันให้เป็นเพียงแค่กระดาษ A4 แล้วโยนมันทั้งหมดใส่เครื่องทำลายเอกสาร ให้มันแหลกสลายหายไปเมื่อกับความรู้สึกของเธอในขณะเดียวกันนั้นเอง โทรศัพท์ก็สั่นเตือนขึ้น สวีเหยียนซียืนพิงหลังกับอ่างล้างหน้า พร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมา ปรากฏเป็นข้อความจากจ้าวจวิ้นโจว[ไหน ๆ เรื่องก็พังไม่เป็นท่าแล้ว ก็อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย ออกมาเจอผมดีกว่า เราไปหาลูกค้ากัน]เธอตอบกลับอย่างใจเย็น [ท่านประธาน
Read more
บทที่ 8
บทที่ 8สวีหว่านหนิงกัดฟันกรามแน่นจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ“สวีหว่านหนิง คำพูดที่ฉันพูดเมื่อคืนไม่ได้เป็นเพียงแค่ลมปาก ถ้าเธอสามารถทำให้ฉินเซียวออกมาพูดเองและยอมหย่ากับฉันได้เมื่อไหร่ นั่นแหละคือชัยชนะที่แท้จริงของเธอ” ระหว่างที่พูด สวีเหยียนซีก็ก้าวเข้าไปหาเธออย่างเงียบเชียบ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับข้อมือขวาของอีกฝ่ายไว้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้เธอลงมือทำร้ายตัวเองจริง ๆมีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่สวีหว่านหนิงเกือบจะเชื่อคำพูดของเธอ แต่ก็แค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้นทันใดนั้นเอง เธอก็หัวเราะออกมา “สวีเหยียนซี ที่แท้เธอก็แค่กลัวฉันจะทำร้ายตัวเอง แล้วสุดท้ายตัวเองจะต้องเดือดร้อนใช่ไหมล่ะ”คิ้วของสวีเหยียนซีขมวดเข้าหากันใครจะรู้ ในวินาทีถัดมา สวีหว่านหนิงก็ปล่อยมือทันทีและโยนมีดพับทิ้งลงบนพื้น“การทำร้ายตัวเอง ไม่จำเป็นต้องกรีดข้อมืออย่างเดียวหรอก จริงไหม?”เธอรับรู้ได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีมันแวบขึ้นมาในสมองของสวีเหยียนซี เธอเชื่อตามสัญชาตญาณว่าห้ามปล่อยมือของสวีหว่านหนิงเป็นอันขาด แต่ทันใดนั้นสวีหว่านหนิงก็ก้มหน้าลงกัดเข้าที่หลังมือของเธออย่างแรงเธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ในวินาทีนั้นเองร่าง
Read more
บทที่ 9
บทที่ 9เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้จ้าวจวิ้นโจวคือเจ้านายของเธอ สวีเหยียนซีจึงพยายามข่มอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ ก่อนจะกดรับสาย “ท่านประธานจ้าวคะ”คราวนี้น้ำเสียงของจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ฟังดูหยอกล้อเหมือนก่อนหน้า แต่กลับเคร่งขรึมและจริงจังขึ้น “เลี้ยวไปจอดข้างทางตรงสี่แยกข้างหน้า”คำพูดนั้นทำให้เธอชะงักไปชั่วครู่ รีบหันไปมองกระจกหลังทันที“อยู่ข้างหลังคุณ อย่ามัวแต่มองไปมองมา”“...” สวีเหยียนซีรีบวางสาย ความเศร้าโศกที่ยังคงอยู่ในใจถูกความประหลาดใจขับออกไปจนหมดสิ้นเธอหาที่จอดรถข้างทางแล้วลงจากรถ ไม่นานฟางห่าวก็เดินเข้ามาหา“คุณสวี เชิญขึ้นรถคันหลังเลยครับ รถของคุณผมจะขับไปส่งที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ให้”ดวงตาของสวีเหยียนซีมองไปยังรถโรลส์-รอยซ์ ฟางห่าวอธิบายต่อว่า “คุณสวี ตั้งแต่คุณขับออกมา คุณสวีเหยียนเช่อก็ให้รถตามประกบคุณแล้วครับ ถ้ายังเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไป เกรงว่าคุณจะถูกจับได้”เมื่อได้ยินดังนั้น รูม่านตาของเธอก็หดแคบลงเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าอย่างใจเย็น “งั้นก็รบกวนผู้ช่วยฟางด้วยนะคะ”เธอไม่ลังเลอีกต่อไป คว้ากระเป๋าแล้วก้าวเข้าไปในรถโรลส์-รอยซ์อย่างใจเย็นจ้าวจวิ้นโจวกำลังนั่งไขว่
Read more
บทที่ 10
บทที่ 10“พรุ่งนี้เช้าจะไปที่บริษัทย่าซั่วพร้อมหน้าตาบวมช้ำแบบนั้นเหรอ?” เขาเอ่ยแซว“กลับไปฉันจะประคบเย็น พรุ่งนี้ก็คงแต่งหน้ากลบได้แล้ว”“อยากให้ผมจูงมือพาเข้าบ้าน หรือว่าจะเดินเข้าไปเอง?”“...” เปลือกตาของสวีเหยียนซีกระตุกสองครั้ง ภายใต้อำนาจกึ่งบังคับกึ่งกดดันของเขา สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเดินเข้าไปเองเพราะเธอรู้ดีว่าจ้าวจวิ้นโจวเป็นคนที่พูดจริงทำจริง และไม่เคยพูดเล่นเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน ลุงโจว ซึ่งเป็นพ่อบ้านก็ยกถุงน้ำแข็งที่เตรียมไว้ล่วงหน้ามาให้ จ้าวจวิ้นโจวเชิดคางเล็กน้อยเป็นเชิงสั่ง “เอาไปให้เธอ”สวีเหยียนซีรับถุงน้ำแข็งมา “ขอบคุณค่ะ”ลุงโจวยิ้มอย่างเป็นมิตร “ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ” พูดจบ เขาก็พาคนรับใช้ออกไป ปล่อยให้พวกเขาสองคนอยู่กันตามลำพังสวีเหยียนซีนั่งประคบเย็นนิ่ง ๆ พลางคิดหาวิธีที่จะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด“จะหย่าเมื่อไหร่?” จ้าวจวิ้นโจวถามขึ้นอย่างกะทันหัน จนมือของเธอชะงักไปสายตาของเขาหรี่ลง ริมฝีปากก็ยกยิ้มเย็น “หรือว่ายังไม่คิดเรื่องการหย่าอย่างจริงจังอีก? สวีเหยียนซี ในเมื่อยังไม่ตัดสินใจ แล้วคุณยังจะกล้ามายุ่งกับผมก่อนอย่างนั้นเหรอ?”“เรื่องการหย่
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status