Share

บทที่ 1295

Auteur: จันทร์กระจ่างภูผา
ภายในค่ายผู้ลี้ภัยมีเสียงด่าทอดังกึกก้องสะท้านโสต!

เหล่าขุนนางส่งเสียงอื้ออึง

“อะไรนะ?”

“เหตุใดผู้อพยพพวกนี้จึงยินยอมไปตงไห่?”

“พระราชโองการยังมาไม่ถึงมิใช่หรือ?”

เหล่าขุนนางมองหน้ากันเลิ่กลั่ก งุนงงสงสัยยิ่งนัก

“พระราชโองการมาถึงแล้ว!”

เสียงกังวานดังก้องอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย เหล่าผู้อพยพต่างมีสีหน้าตกตะลึงงัน

“พระราชโองการ!”

“ฝ่าบาททรงระลึกถึงพวกเราแล้ว รีบคุกเข่าลงเร็ว!”

“...”

ผู้อพยพนับแสนต่างค้อมกายลงคุกเข่า หมอบกราบถวายความเคารพอย่างสูง

เว่ยซวินถือพระราชโองการ เดินผ่านเหล่าขุนนางไป มิได้สนใจแม้แต่น้อย มุ่งตรงไปยังค่ายผู้ลี้ภัย คลี่พระราชโองการออกช้า ๆ: “สนองโองการสวรรค์ ฝ่าบาทมีราชโองการดังนี้ ปัจจุบันผู้อพยพในเมืองหลวงอดอยากปากแห้ง มีผู้คนล้มตายเพราะความอดอยากเกลื่อนกลาด เป็นความทุกข์ร้อนในใจของข้า บัดนี้ตงไห่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ สามารถแก้ไขความเดือดร้อนเร่งด่วนของราษฎรได้ จึงมีบัญชาให้ผู้อพยพทั้งหนึ่งแสนคนในเมืองหลวง เดินทางไปยังตงไห่พร้อมกัน ชักช้ามิได้แม้เพียงครู่ยาม ห้ามผู้ใดขัดขวางโดยเด็ดขาด!”

“จงปฏิบัติตามนี้!”

สายตาของเว่ยซวินจับจ้องไปยังเหล่าเ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1296

    ณ จวนอ๋องตงไห่ นกพิราบสื่อสารตัวหนึ่งกางปีกบินมา เกาะลงบนบ่าของซูเฟิ่งหลิงซูเฟิ่งหลิงชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าสงสัยเคลือบแคลง: “ยามนี้มิมีการศึก เหตุใดจึงมีนกพิราบส่งสาส์นมา?” นางปลดกระบอกสาส์นจากขานกพิราบด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็พลันตกใจจนหน้าซีดเผือด “อะไรนะ!” ลั่วอวี้จู๋ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ: “น้องหญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” ซูเฟิ่งหลิงยื่นสาส์นให้ลั่วอวี้จู๋ เอ่ยว่า: “พี่สะใภ้ เป็นสาส์นจากหนิงชิงโหวที่เมืองหลวง ในสาส์นเอ่ยว่า บัดนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตตามคำขอขององค์รัชทายาทแล้ว มีพระบัญชาให้ผู้อพยพนับแสนคนเดินทางมายังตงไห่ทันที” ลั่วอวี้จู๋อ่านสาส์นจบก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย: “องค์รัชทายาทเหตุใดจึงทรงทำตามอำเภอใจเช่นนี้? บัดนี้ราษฎรตงไห่เพิ่งจะพอมีพอกินประทังชีวิต องค์รัชทายาทกลับทูลขอผู้อพยพจากฝ่าบาทอีกนับแสนคน? ยังมิต้องพูดถึงว่าผู้อพยพเหล่านี้ต้องบุกป่าฝ่าดงข้ามน้ำข้ามเขามายังตงไห่ หนทางยาวไกล เมื่อมาถึงตงไห่แล้ว พวกเขาจะกินอะไร ดื่มอะไร?” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “พี่สะใภ้ ตอนนี้พวกเราไปหาองค์รัชทายาทที่ห้องหนังสือกันเถิด ดูว่าพระองค์ทรงมีแผนการเช่นไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1297

    ลั่วอวี้จู๋เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท พระองค์โปรดไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเถิด บัดนี้ยังกลับคำได้ทัน คำนวณเวลาเดินทางแล้ว ผู้อพยพนับแสนคนนี้เกรงว่ายังมิได้เดินทางออกจากเขตเมืองหลวง ยังสามารถให้พวกเขากลับไปยังค่ายผู้ลี้ภัยได้ หากมาถึงตงไห่แล้ว ย่อมสิ้นหนทางแก้ไข! หากที่ตงไห่มิอาจจัดการผู้อพยพนับแสนคนนี้ได้อย่างเหมาะสม เกรงว่าผลลัพธ์ร้ายแรงที่ตามมาจะยากเกินกว่าจะคาดคะเนได้!” หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “มิต้อง เพียงผู้อพยพแสนคน ข้ายังเห็นว่าน้อยไปด้วยซ้ำ” “เห็นว่าน้อยไปรึ?” เหล่าพี่สะใภ้ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ อ้าปากค้าง ในแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ซูเฟิ่งหลิงเอ่ย: “องค์รัชทายาท ผู้อพยพนับแสนคนนี้เกือบจะเท่ากับจำนวนประชากรของเมืองตงไห่แล้ว เมืองตงไห่เล็กแค่นี้ จะรองรับผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?” ลั่วอวี้จู๋พยักหน้า แล้วเอ่ยเสริม: “ใช่แล้วเจ้าคะ องค์รัชทายาท ยังมิต้องเอ่ยถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของผู้อพยพนับแสนคน เพียงแค่เรื่องที่พักอาศัยก็เพียงพอให้ปวดหัวแล้ว คงมิอาจให้พวกเขาไปอาศัยอยู่ตามท้องถนนได้หรอกกระมัง? ถึงเวลานั้นเกรงว่าเมืองตงไห่คงจะวุ่นวายเหมือนจับปูใส่กระด้ง ไม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1298

    หลี่หลงหลินมองซูเฟิ่งหลิงอย่างระอาใจอยู่บ้าง เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “อ้ายเฟย เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน? เราคือองค์รัชทายาทแห่งต้าเซี่ยผู้สง่างาม หรือจะก่อกบฏต่อตนเองได้อย่างไร?” ซูเฟิ่งหลิงถามอย่างประหลาดใจ: “เช่นนั้นเหตุใดองค์รัชทายาทจึงตรัสว่าเขาทิศประจิมอยู่ใกล้เมืองหลวงเกินไป ทำให้การจัดการบางเรื่องไม่สะดวกเล่าเจ้าคะ?” หลี่หลงหลินส่ายหน้า เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “บัดนี้ไม่ว่าจะเป็นการถลุงโลหะหรือการหล่อโลหะล้วนก่อให้เกิดไอพิษ ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงยิ่ง หากตั้งอยู่ที่เขาทิศประจิม ก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อพระวรกายของเสด็จพ่อและเสด็จแม่ อีกทั้งในภายภาคหน้าเมื่อกิจการขยายใหญ่ขึ้น ไอพิษที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากขึ้น ถึงเวลานั้นเกรงว่าแม้แต่ราษฎรทั่วทั้งเมืองหลวงก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย” ซุนชิงไต้พยักหน้า เอ่ยว่า: “ที่องค์รัชทายาทตรัสนั้นมีเหตุผลยิ่งเจ้าค่ะ บัดนี้สภาพแวดล้อมที่เขาทิศประจิมไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วจริง ๆ อากาศโดยรอบก็เริ่มมีกลิ่นผิดปกติ กระทั่งมีราษฎรที่เขาทิศประจิมเริ่มมีอาการไอที่ข้าหาสาเหตุมิได้ และจำนวนผู้ป่วยก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” หลิ่ว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1299

    “สามารถงอกเงยเป็นเงินได้!” ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด ที่ดินที่สามารถงอกเงยเป็นเงินได้นั้น ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ดูจากท่าทีของหลี่หลงหลินแล้ว ก็ไม่เหมือนกำลังเอ่ยวาจาโอ้อวด หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “ข้าตั้งใจจะสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่แถบชายฝั่งทะเล มิเพียงสามารถจัดการให้ผู้อพยพพักพิงอาศัยได้ ยังจะขยายขนาดของสามกิจการใหญ่นั้น ให้ก้าวไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน! ที่ดินเช่นนี้ ไม่ว่าจะแห้งแล้งหรืออุดมสมบูรณ์ ย่อมสามารถนำมาซึ่งผลกำไรหลั่งไหลมามิขาดสายได้อย่างแน่นอน!” บนใบหน้าของหลี่หลงหลินเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น มั่นใจในแผนการ ท่าทีเปี่ยมด้วยอำนาจบัญชาการ เมื่อได้ฟัง ลั่วอวี้จู๋พลันมีสีหน้าปรากฏแววลังเล: “องค์รัชทายาท ปัจจุบันกิจการนำผลกำไรมาสู่ตระกูลซูในแต่ละปีอย่างมั่นคงและเป็นกอบเป็นกำแล้ว หากผลีผลามโยกย้ายและขยายขนาดกิจการ มิเพียงต้องนำผลกำไรที่ได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไปลงทุนทั้งหมด กระทั่งอาจต้องเผชิญกับสภาวะที่รายได้ไม่แน่นอนอีกด้วย...” ลั่วอวี้จู๋ดูแลบัญชีของตระกูลซูทั้งหมดตลอดจนกิจการทั้งหมด ในฐานะผู้ดูแลการคลัง นางย่อมต้องพิจารณาจากมุมมองด้านผลกำไร ไม่ว่าจากด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1300

    ทุกคนมองไปยังจุดที่หลี่หลงหลินชี้บนแผนที่ สีหน้าล้วนแสดงความลำบากใจ ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท ณ สถานที่แห่งนี้จะสามารถสร้างเมืองใหม่ขึ้นได้จริงหรือเจ้าคะ?” แม้ซูเฟิ่งหลิงจะไม่เข้าใจวิชาการก่อสร้าง แต่นางมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง บ้านเรือนทั้งหมดในต้าเซี่ยล้วนต้องสร้างห่างจากทะเลและทะเลสาบ มิเช่นนั้นอากาศชื้นที่มาพร้อมกับลมทะเลจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของอิฐดินดิบที่ใช้สร้างบ้าน นานวันเข้าบ้านเรือนก็จะพังทลาย กระทั่งไม่มีหนทางซ่อมแซม ทำได้เพียงรื้อทิ้งสร้างใหม่เท่านั้น ดังนั้นแม้เมืองตงไห่จะอยู่ติดทะเล แต่จากประตูเมืองไปจนถึงริมทะเลที่แท้จริงยังต้องเดินทางอีกกว่าสิบลี้ หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “ที่นี่คือทำเลที่มีค่าที่สุดในตงไห่ ตลอดจนทั่วทั้งต้าเซี่ย เพียงหนึ่งเดียว ณ ที่แห่งนี้จะต้องสร้างเมืองขึ้นได้อย่างแน่นอน” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท ที่นี่อยู่ใกล้ชายทะเลมากเกินไป หากสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่นี่ เกรงว่าอีกไม่กี่ปีก็จะถูกลมทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นกองซากปรักหักพัง เรื่องนี้มิใช่เรื่องล้อเล่น องค์รัชทายาทโปรดทรงไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเถิด!”

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1

    “ลูกรัก”“ดื่มเหล้าพิษจอกนี้!”“แม่ร่วมเดินสู่ยมโลกพร้อมกับเจ้า!”หลี่หลงหลินลืมตาขึ้น พบว่าตนอยู่ในชุดนักโทษ ถูกขังอยู่ในคุกที่มืดมิดหญิงงามในชุดชาววังแสนสง่า ร่ำไห้ดั่งสาลี่ต้องหยาดพิรุณ น้ำตานองหน้า มือถือจอกทอง ดวงหน้างามสะพรั่งเปี่ยมไปด้วยความสิ้นหวังชั่วพริบตา ความทรงจำมากมายพรั่งพรูเข้ามาในความคิด!ราชวงศ์ต้าเซี่ย ราชวงศ์หนึ่งที่ไม่มีในหน้าประวัติศาสตร์!ข้าทะลุมิติกลายมาเป็นองค์ชายเก้า!หญิงงามในชุดชาววังตรงหน้า คือมารดาของข้า พระชายาโหรวสตรีที่ฮ่องเต้หวู่ทรงโปรดปรานมากที่สุด!ผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์ สมาชิกราชสกุล ร่ำรวยสมบัติวิบูลย์ทรัพย์ สระสุราเมรัยพงไพรเนื้อ หญิงงามละลานตา ช่างเป็นสิ่งที่ผู้คนเสาะแสวงเสียเนี่ยกระไร!ทว่าหลี่หลงหลินกลับไม่ดีใจแม้แต่น้อยชื่อเสียงเรียงนามขององค์ชายเก้าแย่มาก เป็นเศษสวะที่ทุกคนทราบกัน!ไม่เพียงแค่นี้เขายังทำความผิดร้ายแรง ทำให้ฮ่องเต้หวู่พิโรธ สังหารสายเลือดเพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม!เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง!ต้องเป็นความผิดบาปใดกัน ทำให้ฮ่องเต้หวู่ไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อเป็นลูก จำต้องสังหารตนให้ได้?ความทรงจำของหลี่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 2

    หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปมคิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเลราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่องดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุดก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรงเหตุผลนั

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 3

    เมืองหลวงจวนตระกูลซูพรึ่บ!ณ ลานกลางจวน ลำแสงสีเงินเคลื่อนผ่าน!นั่นไม่ใช่สายฟ้า แต่เป็นลำแสงสะท้อนจากหอกยาว!เงาตามติดการเคลื่อนไหวของหอก หอกพุ่งตัวดุจดั่งมังกร!นางสวมเสื้อเกราะ ด้านหลังมีผ้าคลุมสีแดงโบกสะบัด ไม่ได้สวมหมวกเกราะ ผมยาวสลวยถึงกลางหลังมัดรวบเป็นหางม้า พริ้วไหวขึ้นลงวีรชนผู้กล้าหาญ สตรีไม่แพ้บุรุษ!สตรีผู้นั้นคือซูเฟิ่งหลิงหลานสาวแม่ทัพผู้เฒ่าซู!ตึ้ง!หอกยาวในมือซูเฟิ่งหลิงทิ่มแทงด้วยความรุนแรง เจาะทะลุหุ่นไม้ แตกเป็นเสี่ยงๆ!บนศีรษะของหุ่นไม้มีแผ่นกระดาษติดไว้ สามตัวอักษร...หลี่หลงหลิน!หญิงสาวข้างกายปรบมือ “คุณหนู วิชาหอกของคุณหนูพัฒนาขึ้นอีกแล้วเจ้าค่ะ!”ซูเฟิ่งหลิงกำหมัดแน่น ทรวงอกอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง ดวงตาหงส์น้ำตารื้น พูดด้วยความโมโห “วิชาหอกเก่งกาจ มีประโยชน์อะไร? ข้าเจ็บใจที่ไม่อาจสังหารไอ้คนสารเลวหลี่หลงหลินด้วยตนเอง ไม่อาจแก้แค้นให้ตระกูลซูที่จงรักภักดีได้!”พวกสตรีได้ยินเช่นนั้น ต่างก้มหน้าลง สีหน้าฉายความโกรธเคืองตระกูลซูจงรักภักดีทุกชั่วอายุคน ภักดีต่อต้าเซี่ย!เพราะคนสารเลวหลี่หลงหลิน ทำให้ผู้ชายของตระกูลซูตายอย่างอนาถ เหลือเพียงห

Latest chapter

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1300

    ทุกคนมองไปยังจุดที่หลี่หลงหลินชี้บนแผนที่ สีหน้าล้วนแสดงความลำบากใจ ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท ณ สถานที่แห่งนี้จะสามารถสร้างเมืองใหม่ขึ้นได้จริงหรือเจ้าคะ?” แม้ซูเฟิ่งหลิงจะไม่เข้าใจวิชาการก่อสร้าง แต่นางมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง บ้านเรือนทั้งหมดในต้าเซี่ยล้วนต้องสร้างห่างจากทะเลและทะเลสาบ มิเช่นนั้นอากาศชื้นที่มาพร้อมกับลมทะเลจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของอิฐดินดิบที่ใช้สร้างบ้าน นานวันเข้าบ้านเรือนก็จะพังทลาย กระทั่งไม่มีหนทางซ่อมแซม ทำได้เพียงรื้อทิ้งสร้างใหม่เท่านั้น ดังนั้นแม้เมืองตงไห่จะอยู่ติดทะเล แต่จากประตูเมืองไปจนถึงริมทะเลที่แท้จริงยังต้องเดินทางอีกกว่าสิบลี้ หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “ที่นี่คือทำเลที่มีค่าที่สุดในตงไห่ ตลอดจนทั่วทั้งต้าเซี่ย เพียงหนึ่งเดียว ณ ที่แห่งนี้จะต้องสร้างเมืองขึ้นได้อย่างแน่นอน” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท ที่นี่อยู่ใกล้ชายทะเลมากเกินไป หากสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่นี่ เกรงว่าอีกไม่กี่ปีก็จะถูกลมทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นกองซากปรักหักพัง เรื่องนี้มิใช่เรื่องล้อเล่น องค์รัชทายาทโปรดทรงไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเถิด!”

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1299

    “สามารถงอกเงยเป็นเงินได้!” ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด ที่ดินที่สามารถงอกเงยเป็นเงินได้นั้น ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ดูจากท่าทีของหลี่หลงหลินแล้ว ก็ไม่เหมือนกำลังเอ่ยวาจาโอ้อวด หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “ข้าตั้งใจจะสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่แถบชายฝั่งทะเล มิเพียงสามารถจัดการให้ผู้อพยพพักพิงอาศัยได้ ยังจะขยายขนาดของสามกิจการใหญ่นั้น ให้ก้าวไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน! ที่ดินเช่นนี้ ไม่ว่าจะแห้งแล้งหรืออุดมสมบูรณ์ ย่อมสามารถนำมาซึ่งผลกำไรหลั่งไหลมามิขาดสายได้อย่างแน่นอน!” บนใบหน้าของหลี่หลงหลินเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น มั่นใจในแผนการ ท่าทีเปี่ยมด้วยอำนาจบัญชาการ เมื่อได้ฟัง ลั่วอวี้จู๋พลันมีสีหน้าปรากฏแววลังเล: “องค์รัชทายาท ปัจจุบันกิจการนำผลกำไรมาสู่ตระกูลซูในแต่ละปีอย่างมั่นคงและเป็นกอบเป็นกำแล้ว หากผลีผลามโยกย้ายและขยายขนาดกิจการ มิเพียงต้องนำผลกำไรที่ได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไปลงทุนทั้งหมด กระทั่งอาจต้องเผชิญกับสภาวะที่รายได้ไม่แน่นอนอีกด้วย...” ลั่วอวี้จู๋ดูแลบัญชีของตระกูลซูทั้งหมดตลอดจนกิจการทั้งหมด ในฐานะผู้ดูแลการคลัง นางย่อมต้องพิจารณาจากมุมมองด้านผลกำไร ไม่ว่าจากด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1298

    หลี่หลงหลินมองซูเฟิ่งหลิงอย่างระอาใจอยู่บ้าง เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “อ้ายเฟย เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน? เราคือองค์รัชทายาทแห่งต้าเซี่ยผู้สง่างาม หรือจะก่อกบฏต่อตนเองได้อย่างไร?” ซูเฟิ่งหลิงถามอย่างประหลาดใจ: “เช่นนั้นเหตุใดองค์รัชทายาทจึงตรัสว่าเขาทิศประจิมอยู่ใกล้เมืองหลวงเกินไป ทำให้การจัดการบางเรื่องไม่สะดวกเล่าเจ้าคะ?” หลี่หลงหลินส่ายหน้า เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “บัดนี้ไม่ว่าจะเป็นการถลุงโลหะหรือการหล่อโลหะล้วนก่อให้เกิดไอพิษ ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงยิ่ง หากตั้งอยู่ที่เขาทิศประจิม ก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อพระวรกายของเสด็จพ่อและเสด็จแม่ อีกทั้งในภายภาคหน้าเมื่อกิจการขยายใหญ่ขึ้น ไอพิษที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากขึ้น ถึงเวลานั้นเกรงว่าแม้แต่ราษฎรทั่วทั้งเมืองหลวงก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย” ซุนชิงไต้พยักหน้า เอ่ยว่า: “ที่องค์รัชทายาทตรัสนั้นมีเหตุผลยิ่งเจ้าค่ะ บัดนี้สภาพแวดล้อมที่เขาทิศประจิมไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วจริง ๆ อากาศโดยรอบก็เริ่มมีกลิ่นผิดปกติ กระทั่งมีราษฎรที่เขาทิศประจิมเริ่มมีอาการไอที่ข้าหาสาเหตุมิได้ และจำนวนผู้ป่วยก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” หลิ่ว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1297

    ลั่วอวี้จู๋เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท พระองค์โปรดไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเถิด บัดนี้ยังกลับคำได้ทัน คำนวณเวลาเดินทางแล้ว ผู้อพยพนับแสนคนนี้เกรงว่ายังมิได้เดินทางออกจากเขตเมืองหลวง ยังสามารถให้พวกเขากลับไปยังค่ายผู้ลี้ภัยได้ หากมาถึงตงไห่แล้ว ย่อมสิ้นหนทางแก้ไข! หากที่ตงไห่มิอาจจัดการผู้อพยพนับแสนคนนี้ได้อย่างเหมาะสม เกรงว่าผลลัพธ์ร้ายแรงที่ตามมาจะยากเกินกว่าจะคาดคะเนได้!” หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “มิต้อง เพียงผู้อพยพแสนคน ข้ายังเห็นว่าน้อยไปด้วยซ้ำ” “เห็นว่าน้อยไปรึ?” เหล่าพี่สะใภ้ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ อ้าปากค้าง ในแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ซูเฟิ่งหลิงเอ่ย: “องค์รัชทายาท ผู้อพยพนับแสนคนนี้เกือบจะเท่ากับจำนวนประชากรของเมืองตงไห่แล้ว เมืองตงไห่เล็กแค่นี้ จะรองรับผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?” ลั่วอวี้จู๋พยักหน้า แล้วเอ่ยเสริม: “ใช่แล้วเจ้าคะ องค์รัชทายาท ยังมิต้องเอ่ยถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของผู้อพยพนับแสนคน เพียงแค่เรื่องที่พักอาศัยก็เพียงพอให้ปวดหัวแล้ว คงมิอาจให้พวกเขาไปอาศัยอยู่ตามท้องถนนได้หรอกกระมัง? ถึงเวลานั้นเกรงว่าเมืองตงไห่คงจะวุ่นวายเหมือนจับปูใส่กระด้ง ไม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1296

    ณ จวนอ๋องตงไห่ นกพิราบสื่อสารตัวหนึ่งกางปีกบินมา เกาะลงบนบ่าของซูเฟิ่งหลิงซูเฟิ่งหลิงชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าสงสัยเคลือบแคลง: “ยามนี้มิมีการศึก เหตุใดจึงมีนกพิราบส่งสาส์นมา?” นางปลดกระบอกสาส์นจากขานกพิราบด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็พลันตกใจจนหน้าซีดเผือด “อะไรนะ!” ลั่วอวี้จู๋ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ: “น้องหญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” ซูเฟิ่งหลิงยื่นสาส์นให้ลั่วอวี้จู๋ เอ่ยว่า: “พี่สะใภ้ เป็นสาส์นจากหนิงชิงโหวที่เมืองหลวง ในสาส์นเอ่ยว่า บัดนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตตามคำขอขององค์รัชทายาทแล้ว มีพระบัญชาให้ผู้อพยพนับแสนคนเดินทางมายังตงไห่ทันที” ลั่วอวี้จู๋อ่านสาส์นจบก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย: “องค์รัชทายาทเหตุใดจึงทรงทำตามอำเภอใจเช่นนี้? บัดนี้ราษฎรตงไห่เพิ่งจะพอมีพอกินประทังชีวิต องค์รัชทายาทกลับทูลขอผู้อพยพจากฝ่าบาทอีกนับแสนคน? ยังมิต้องพูดถึงว่าผู้อพยพเหล่านี้ต้องบุกป่าฝ่าดงข้ามน้ำข้ามเขามายังตงไห่ หนทางยาวไกล เมื่อมาถึงตงไห่แล้ว พวกเขาจะกินอะไร ดื่มอะไร?” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “พี่สะใภ้ ตอนนี้พวกเราไปหาองค์รัชทายาทที่ห้องหนังสือกันเถิด ดูว่าพระองค์ทรงมีแผนการเช่นไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1295

    ภายในค่ายผู้ลี้ภัยมีเสียงด่าทอดังกึกก้องสะท้านโสต! เหล่าขุนนางส่งเสียงอื้ออึง “อะไรนะ?” “เหตุใดผู้อพยพพวกนี้จึงยินยอมไปตงไห่?” “พระราชโองการยังมาไม่ถึงมิใช่หรือ?” เหล่าขุนนางมองหน้ากันเลิ่กลั่ก งุนงงสงสัยยิ่งนัก “พระราชโองการมาถึงแล้ว!” เสียงกังวานดังก้องอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย เหล่าผู้อพยพต่างมีสีหน้าตกตะลึงงัน “พระราชโองการ!” “ฝ่าบาททรงระลึกถึงพวกเราแล้ว รีบคุกเข่าลงเร็ว!” “...” ผู้อพยพนับแสนต่างค้อมกายลงคุกเข่า หมอบกราบถวายความเคารพอย่างสูง เว่ยซวินถือพระราชโองการ เดินผ่านเหล่าขุนนางไป มิได้สนใจแม้แต่น้อย มุ่งตรงไปยังค่ายผู้ลี้ภัย คลี่พระราชโองการออกช้า ๆ: “สนองโองการสวรรค์ ฝ่าบาทมีราชโองการดังนี้ ปัจจุบันผู้อพยพในเมืองหลวงอดอยากปากแห้ง มีผู้คนล้มตายเพราะความอดอยากเกลื่อนกลาด เป็นความทุกข์ร้อนในใจของข้า บัดนี้ตงไห่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ สามารถแก้ไขความเดือดร้อนเร่งด่วนของราษฎรได้ จึงมีบัญชาให้ผู้อพยพทั้งหนึ่งแสนคนในเมืองหลวง เดินทางไปยังตงไห่พร้อมกัน ชักช้ามิได้แม้เพียงครู่ยาม ห้ามผู้ใดขัดขวางโดยเด็ดขาด!” “จงปฏิบัติตามนี้!” สายตาของเว่ยซวินจับจ้องไปยังเหล่าเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1294

    ภายในค่ายผู้ลี้ภัยเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แต่ละคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ต่างมองตาละห้อยมายังหนิงชิงโหว เสียงเด็กร้องไห้งอแงดังแว่วอยู่ข้างหู สภาพแวดล้อมในค่ายผู้ลี้ภัยยามนี้เลวร้ายอย่างยิ่ง ไม่มีขุนนางผู้ใดยินดีเข้ามารับผิดชอบ น้ำเน่าไหลนองไปทั่ว อากาศค่อย ๆ อุ่นขึ้น เริ่มมีแมลงวันแมลงหวี่แพร่พันธุ์ หนิงชิงโหวสูดลมหายใจลึก เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “บัดนี้เบื้องหน้าพวกท่านมีเพียงหนทางรอดเดียว ฉวยโอกาสที่อากาศยังมิได้ร้อนอบอ้าว รีบเดินทางไปยังตงไห่เพื่อพึ่งพิงองค์รัชทายาททันที เมื่อถึงตงไห่ องค์รัชทายาทย่อมไม่ทรงทำให้พวกท่านลำบากเป็นแน่ มิเช่นนั้นหากยังคงอยู่ในเมืองหลวงต่อไป ก็มีแต่ทางตายสถานเดียว!” หนิงชิงโหวสีหน้าเคร่งขรึม ผู้อพยพเบื้องหน้ามืดฟ้ามัวดิน มองไปสุดลูกหูลูกตา มิอาจเห็นจุดสิ้นสุดได้เลย นี่จะต้องมีผู้อพยพมากมายเพียงใดกัน และมีครอบครัวที่เคยสมบูรณ์พูนสุขสักกี่ครอบครัวกันเล่า? เพียงเพราะภัยสงคราม จึงต้องตกอยู่ในสภาพพลัดพรากไร้ที่อยู่อาศัย หนิงชิงโหวตวาดเสียงดัง: “ผู้ใดเชื่อมั่นในองค์รัชทายาท ผู้นั้นรอด! ผู้ใดกังขาในองค์รัชทายาท ผู้นั้นตาย!” แม้สุ้มเสียงของหนิงชิงโหวจ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1293

    หนิงชิงโหวในชุดบัณฑิตผู้นี้ดึงดูดความสงสัยใคร่รู้ของเหล่าผู้อพยพได้ในที่สุด พวกเขาต่างพากันเดินเข้ามาหา ในไม่ช้า รอบกายของหนิงชิงโหวก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมายมหาศาลในสายตาของผู้อพยพ หนิงชิงโหวในชุดบัณฑิตปรากฏตัวที่นี่ ย่อมต้องเป็นผู้รับคำสั่งราชสำนักมาแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยเป็นแน่ เหล่าผู้อพยพต่างหยิบชามกระเบื้องในมือขึ้นมา วิงวอนขอเสบียงอาหารจากหนิงชิงโหว ทันใดนั้น หนิงชิงโหวกลับรู้สึกว่าตนเองช่างต่ำต้อยถึงเพียงนี้ แม้นได้อ่านตำราปราชญ์จนเจนจบ แต่ก็มิอาจหาหนทางแก้ไขปัญหาในความเป็นจริงจากในตำราเหล่านั้นได้ บัดนี้ราษฎรผู้ทุกข์ยากอยู่เบื้องหน้า แต่เขากลับจนปัญญา ไร้ความสามารถจะช่วยเหลือ จำนวนผู้อพยพเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สถานการณ์เริ่มจะวุ่นวาย กระทั่งมีผู้อพยพจำนวนไม่น้อยเริ่มดึงทึ้งชายเสื้อของหนิงชิงโหว แต่หนิงชิงโหวก็มิได้หวั่นไหว ในแววตาของเขามีเพียงราษฎรผู้ทุกข์ยากเหล่านี้ นี่คือเขตเมืองหลวง ใต้พระบาทโอรสสวรรค์แท้ ๆ ในต้าเซี่ยอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ยังมีราษฎรเช่นนี้อีกเท่าใดกัน เขาเองก็ยากจะจินตนาการได้ พลันเกิดเพลิงแห่งความมุ่งมั่นลุกโชนขึ้นในใจของหนิงชิง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1292

    “ให้ผู้อพยพหนึ่งแสนคนไปตงไห่รึ?” เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่ออย่างยิ่ง เจ้ากรมคลังเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “เว่ยกงกง สถานการณ์ที่ตงไห่ในยามนี้ หรือฝ่าบาทจะยังไม่ทรงทราบ? ราษฎรที่ตงไห่ต่างร้องทุกข์กันระงม หากส่งผู้อพยพหนึ่งแสนคนนี้ไปยังตงไห่ แล้วจะต่างอันใดกับการผลักไสพวกเขาให้ลงไปในหลุมไฟเล่า?” “ยิ่งไปกว่านั้น จลาจลของราษฎรที่ตงไห่ยังมิได้สงบลง หากส่งผู้อพยพอีกหนึ่งแสนคนนี้ไปอีก มิใช่เป็นการส่งเสริมให้คนชั่วเหิมเกริม เป็นการขุดหลุมฝังตนเองหรอกหรือ?” เหล่าขุนนางในราชสำนักล้วนตื่นตระหนก หรือว่าฝ่าบาทจะทรงเลอะเลือนไปแล้วจริง ๆ? การจัดการกับผู้อพยพเช่นนี้ถือเป็นหนทางที่เลวร้ายที่สุด มีแต่จะทำให้สถานการณ์ในราชสำนักยิ่งปั่นป่วนวุ่นวาย เจ้ากรมกลาโหมก้าวออกมายืนขวางหน้าเว่ยซวิน: “เว่ยกงกง หากในใจข้ายังพอมีมโนธรรมหลงเหลืออยู่ ยังคงห่วงใยทุกข์สุขของราษฎร และยังถือว่าพอจะมีกึ๋นอยู่บ้าง ข้าย่อมไม่ไปประกาศพระราชโองการเช่นนี้ของฝ่าบาทเป็นแน่!” ทันใดนั้น เพลิงโทสะในใจของเว่ยซวินก็ลุกโชนขึ้น ในฐานะขันทีในวัง สิ่งที่ชิงชังที่สุดคือการถูกผู้อื่นขุดคุ้ยปมด้อยของตน!

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status