แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปม

คิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!

ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเล

ราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่อง

ดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?

พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!

ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!

ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!

เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุด

ก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!

หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!

จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!

ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรง

เหตุผลนั้นง่ายนิดเดียว!

ฮ่องเต้หวู่คนนี้ เป็นจอมหวาดระแวง!

ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ แม้นำจดหมายเขียนด้วยเลือดออกมา เขาก็ต้องคิดว่า ตนเป็นคนปลอมแปลง!

เพราะท้ายที่สุดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หวู่ หรือขุนนางในราชสำนัก เวลานี้ล้วนอยากหาแพะรับบาป!

และตนก็เป็นคนที่เหมาะสมที่สุด!

“ซึ่งก็หมายความว่า...”

“ไม่ว่ากระหม่อมจะดิ้นรนเพียงใด ก็ต้องตายเท่านั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

หากเป็นองค์ชายเก้าที่ไม่เอาถ่านคนนั้นล่ะก็ ต้องร้องเรียกหาพ่อแม่แล้วแน่ๆ

แต่หลี่หลงหลินเกิดเป็นมนุษย์มาสองชาติภพ ยิ่งเผชิญหน้ากับเหตุการณ์สิ้นหวัง ก็ยิ่งนิ่งสงบ

“ไม่! ข้ายังมีความหวัง!”

หลี่หลงหลินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าฉายรอยยิ้ม

“เสด็จแม่...”

หลี่หลงหลินหันไปมองพระชายาโหรว “กระหม่อมฝากเสด็จแม่ไปกราบทูลเสด็จพ่อหนึ่งถ้อยคำ! เพียงหนึ่งถ้อยคำ กระหม่อมต้องรอดจากความตายแน่นอน!”

พระชายาโหรวส่ายหน้า “ลูกรัก ลูกยอมรับชะตากรรมเถอะ เสด็จพ่อของลูกมีอำนาจในการตัดสินใจแต่เพียงผู้ใด เรื่องใดที่ตัดสินใจแล้ว ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...”

หลี่หลงหลินหัวเราะ โน้มตัวไปใกล้พระชายาโหรว พูดกระซิบเพียงหนึ่งถ้อยคำ

พระชายาโหรวราวกับถูกฟ้าผ่า ร่างบางสั่นเทา แววตาฉายความเหลือเชื่อ จ้องมองหลี่หลงหลินอยู่นาน แล้วค่อยหันหลังเดินจากไป

ณ ห้องทรงพระอักษร

ฮ่องเต้หวู่ในชุดเสื้อคลุมมังกร สองมือไขว้หลัง มองฎีกาที่สูงดั่งภูเขาบนโต๊ะ สีหน้าเคร่งขรึม

ทั้งหมดนี้คือฎีการ้องเรียนองค์ชายเก้าหลี่หลงหลิน!

นอกเหนือจากนั้น คือหนังสือเลือดจากหญิงหม้ายตระกูลซู ร้องขอให้ประหารหลี่หลงหลิน คืนความยุติธรรมให้กับตระกูลซู!

ฮ่องเต้หวู่เงียบอยู่นาน ผายมือ

ขันทีหลวงเว่ยซินรีบสาวเท้าเดินมาด้านหน้า “ฝ่าบาท ทรงมีอะไรให้กระหม่อมรับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”

น้ำเสียงของฮ่องเต้หวู่เยือกเย็น “รุ่งสางวันพรุ่งนี้ นำตัวองค์ชายเก้าออกมาจากประตูอู๋เหมิน ประหารชีวิตด้วยทัณฑ์เลาะกระดูก!”

เว่ยซวินโค้งคำนับ “กระหม่อมน้อมรับบัญชา”

เวลานี้เอง พระชายาโหรวร้องห่มร้องไห้บุกเข้ามาให้ห้องทรงพระอักษร โดยไม่สนใจการห้ามของเหล่าองครักษ์ “ฝ่าบาท ฝ่าบาท...”

สีหน้าของฮ่องเต้หวู่เคร่งขรึม กล่าวตำหนิ “พระชายาโหรว แม้ข้าจะรักและโปรดปรานเจ้า! แต่เจ้ากลับกล้าโอหังเพราะเห็นว่าตนเป็นสนมคนโปรดของข้า ยุ่งเรื่องในราชสำนัก ระวังข้าจะไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ มารดาตามใจบุตรมากไป ทำให้บุตรประพฤติตัวเหลวไหล! เจ้าเก้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ คงต้องโทษที่เจ้ารักและตามใจเขามากไป!”

“ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าเก้าต้องตายเท่านั้น!”

“เจ้าออกไปซะเถอะ!”

พระชายาโหรวไม่เพียงไม่ออกไป ตรงกันข้ามนางร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม “ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้มาขอร้องแทนลูกเพคะ! แต่ว่า...ลูกมีถ้อยคำหนึ่ง ฝากให้หม่อมฉันกราบทูลฝ่าบาทเพคะ!”

ฮ่องเต้หวู่พูดเสียงเหี้ยม “พูดว่าอะไร เจ้าบอกมาสิ!”

พระชายาโหรวกลั้นเสียงสะอื้น “ลูกบอกว่า ลูกสำนึกผิดแล้วเพคะ! หวังว่าฝ่าบาทจะเมตตา ก่อนที่เขาจะตาย ไปขอโทษตระกูลซูด้วยตนเอง ให้ตระกูลซูลงโทษตามอำเภอใจเพคะ!”

พระพักตร์ของฮ่องเต้หวู่โอนอ่อนลงเล็กน้อย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “คนใกล้ตายมักจะพูดด้วยความจริงใจและพูดจากใจจริง! หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เหตุใดต้องทำเช่นนั้นตั้งแต่แรกด้วย!”

“แต่ว่า เรื่องขอโทษ ช่างมันเสียเถอะ! เจ้าไม่รู้หรอกว่าหญิงหม้ายตระกูลซูร้ายกาจเพียงใด!”

“โดยเฉพาะซูเฟิ่งหลิง แม้จะเป็นสตรี แต่เกรี้ยวกราดยิ่งนัก เป็นทหารหญิง ที่ไม่แพ้ชายใด!”

“หากเจ้าเก้าไปตระกูลซูจริงๆ เกรงว่าเพียงเดินเข้าไป ก็ถูกซูเฟิ่งหลิงแทงตายแล้ว...”

พระชายาโหรวเงียบ สีหน้าสิ้นหวัง

นางคิดไม่ถึงว่า คำร้องขอเล็กๆ น้อยๆ เพียงแค่นี้ ฮ่องเต้หวู่ยังไม่ตกลง!

เวลานี้ จู่ๆ เว่ยซวินก็กดเสียงลงต่ำ “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ หากองค์ชายเก้าตายในตระกูลซู เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้หวู่ชะงัก พูดด้วยความไม่พอพระทัย “เรื่องที่ดี? แม้เจ้าเก้าจะเสเพลเพียงใด แต่ก็เป็นลูกของข้า! โอรสสวรรค์ทำความผิด รับโทษทัดเทียมประชาชน! เจ้าเก้าทำความผิดมหันต์​ ย่อมถูกลงโทษตามกฎระเบียบของต้าเซี่ย! หากเขาตายในตระกูลซู จะเหมาะสมได้อย่างไร?”

สีหน้าเว่ยซวินฉายความเจ้าเล่ห์ “ฝ่าบาท หากพระองค์ลงโทษองค์ชายเก้าตามกฎมณเฑียรบาล ยากนักที่จะเลี่ยงไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเรื่องประหารสายเลือดของตนเอง พวกคนทรยศเหล่านั้น ย่อมแต่งเรื่องว่าร้ายฝ่าบาท ว่าฝ่าบาทจิตใจอำมหิต ไม่เพียงเข้มงวดกับขุนนาง แม้กระทั่งสายเลือดของตนก็ยังไม่เว้นพ่ะย่ะค่ะ”

“หากองค์ชายเก้าตายด้วยน้ำมือของซูเฟิ่งหลิง ไม่เพียงไม่เกี่ยวข้องกับพระองค์ ทั้งยังดับความโกรธของทุกคนได้”

“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เรื่องดีๆ เช่นนี้เหตุใดจึงไม่ทำหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

พระพักตร์ของฮ่องเต้หวู่ตระหนักรู้ในทันที หลังจากเงียบพักใหญ่ ตรัสกับเว่ยซวิน “เว่ยซวิน เจ้าพูดมีเหตุผล! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าพาตัวเจ้าเก้าไปตระกูลซู จะฆ่าหรือจะแกง เชิญตามอำเภอใจ!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (6)
goodnovel comment avatar
ณัฎฐเอก โอชาผล
สนุกมากจริงๆ
goodnovel comment avatar
Somkid Suphamongkoldee
น่าสนใจปกติจะเห็นแต่ผู้หญิงข้ามภพ
goodnovel comment avatar
ชลกนก ภัทร์ศุภกุล
น่าติดาม เูแตกต่างจากเรื่องอื่นๆที่เคยอ่านมา
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1464

    ม่านราตรีมาเยือน ความมืดมิดเข้าครอบคลุมทั่วปฐพีณ ภูเขาทิศเหนือนอกเมือง เหลือเพียงจันทร์เพ็ญดวงกลมลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้ายามราตรีหลังจากจางอี้ได้รับคำสั่งของหลี่หลงหลินแล้ว ก็นำหน่วยองครักษ์เสื้อแพรหลายร้อยนายเข้าล้อมกระท่อมมุงฟางไว้กระท่อมมุงฟางนั้นดูธรรมดาสามัญ ด้านหลังมีป่าไผ่ผืนใหญ่รถม้าอันหรูหราคันหนึ่งค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ภูเขาทิศเหนือหลี่หลงหลินนั่งอยู่ในรถม้า ขมวดคิ้วมุ่น จมอยู่ในภวังค์ความคิดภาพขององค์ชายห้าหลี่ชิงเฟิงปรากฏขึ้นในห้วงความคิด ใบหน้าซีดขาว ร่างกายผ่ายผอมเขาไม่อาจเชื่อมโยงภาพขององค์ชายห้าเข้ากับยอดฝีมือยุทธภพที่องค์ชายเจ็ดกล่าวถึงได้เลยคนขี้โรคเช่นนี้จะเป็นยอดฝีมือยุทธภพได้อย่างไร?หรือว่าองค์ชายเจ็ดกำลังโกหก?หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยท่าทางหัวทึบแต่ร่างกายกำยำขององค์ชายเจ็ด ย่อมไม่สามารถแต่งเรื่องโกหกเช่นนี้ได้เรื่องนี้แปดเก้าส่วนคงเป็นความจริงแต่องค์ชายห้าในฐานะองค์ชาย การเคลื่อนไหวถูกจำกัดอย่างยิ่ง แล้วเขาไปเรียนวิชาฝีมือเหล่านี้มาจากที่ใด? และยังสามารถปิดบังทุกคนได้อย่างแนบเนียนโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้?หลี่หลงหลินคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกปริศนาข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1463

    องค์ชายเจ็ดเหลือบมององค์ชายแปดอย่างดุดันองค์ชายแปดก็เข้าใจในทันที รีบหลบฉากออกไป “องค์รัชทายาท ไม่ทราบว่าเป็นอันใด จู่ๆ ข้าก็ปวดท้องขึ้นมา ขอตัวไปจัดการธุระส่วนตัวสักครู่...”แม้องค์ชายแปดจะเป็นคุณชายเสเพล แต่ก็มีไหวพริบไม่น้อยในเมื่อกล่าวว่าเป็นความลับสุดยอดในบรรดาความลับสุดยอด ย่อมเป็นเรื่องที่ตนเองไม่ควรได้ยินเมื่อเห็นองค์ชายแปดจากไปแล้ว องค์ชายเจ็ดจึงลดความระแวดระวังลง “องค์รัชทายาท ท่านอาจไม่ทรงทราบ พี่ห้าแม้ภายนอกจะดูเหมือนบัณฑิตที่อ่อนแอ แต่แท้จริงแล้ววรยุทธ์สูงส่งยิ่งนัก ไม่ใช่ดังที่เห็นภายนอกเลยแม้แต่น้อย...”“โดยเฉพาะวิชาตัวเบาของเขา มาไร้เงาไปไร้ร่องรอย!”หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “จริงรึ?”องค์ชายเจ็ดกล่าวเสียงหนักแน่น “จริงแท้แน่นอน ครั้งหนึ่งข้าเคยไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลนี้ และเคยประลองกับองค์ชายห้าหลายครั้ง อาจกล่าวได้ว่า ฝีมือของข้าเมื่ออยู่ต่อหน้าองค์ชายห้า ก็เปรียบดุจทารก ไม่อาจต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย”หลี่หลงหลินกล่าวเสียงหนักแน่น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่า ฝีมือขององค์ชายห้ายังจะเหนือกว่าพระชายาอีกหรือ?”องค์ชายเจ็ดครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “เกรงว่าจะเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1462

    องค์ชายเจ็ดผู้มีร่างสูงใหญ่กลับถูกซัดจนกระเด็นปลิวไปทั้งอย่างนั้นองค์ชายเจ็ดเสียหลัก ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “นี่...นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”พรวด! โลหิตสีแดงฉานคำหนึ่งพลันถูกกระอักลงบนพื้นซูเฟิ่งหลิงก้าวเข้าไปใกล้ ใช้ปลายทวนเงินชี้ไปยังองค์ชายเจ็ด “เจ้ายอมหรือไม่!”ใบหน้าขององค์ชายเจ็ดแดงก่ำ ชั่วขณะหนึ่งถึงกับพูดไม่ออกเขาพ่ายแพ้แก่สตรีธรรมดานางหนึ่ง!ความแข็งแกร่งที่เคยภาคภูมิใจนักหนา พลันมลายสิ้นในพริบตา!แม้องค์ชายเจ็ดจะไม่เต็มใจอย่างที่สุด แต่แพ้ก็คือแพ้เขายกมือขึ้นประสานหมัด กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พระชายา ข้าน้อยยอมแล้ว! แพ้อย่างหมดใจ ขอยอมศิโรราบ!”“ท่านทำให้ข้าได้ประจักษ์แล้วว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน”ซูเฟิ่งหลิงเก็บทวนเงินกลับ แค่นเสียงเย็นชาคราหนึ่ง “ตอนนี้เจ้าควรขอบคุณแม่ทัพจางที่มิได้ลงมือกับเจ้าในครานั้น มิเช่นนั้นชีวิตของเจ้าคงยากจะรักษาไว้ได้!”“ฝีมือของแม่ทัพจางนั้นทัดเทียมกับข้า หากมิใช่องค์รัชทายาทเพิ่งจะกำชับให้ข้าออมมือไว้ เพื่อมิให้ทำอันตรายถึงชีวิตเจ้า ป่านนี้เจ้าคงกลายเป็นศพภายใต้ทวนของข้าไปแล้ว!”องค์ชาย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1461

    องค์ชายเจ็ดพลันเดือดดาลขึ้นมาทันที “องค์รัชทายาท เจ้าคงจะดูแคลนข้าเกินไปแล้วกระมัง!”หลี่หลงหลินแค่นเสียงเย็นชา “มิใช่ข้าดูแคลนเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้าในตอนนี้ แม้แต่พระชายาองค์รัชทายาทก็ยังเอาชนะไม่ได้ ยิ่งมิต้องพูดถึงจางไป่เจิง เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย”องค์ชายเจ็ดพลันเดือดดาลอีกครา “องค์รัชทายาท เจ้าดูแคลนข้าเกินไปแล้ว!”หลี่หลงหลินยังคงแค่นหัวเราะ “มิใช่ข้าดูแคลนเจ้า ด้วยฝีมือของเจ้าในยามนี้ แม้แต่พระชายาเจ้าก็ยังสู้ไม่ได้ อย่าว่าแต่จะไปคิดต่อกรกับจางไป่เจิงเลย”องค์ชายเจ็ดเหลือบมองซูเฟิ่งหลิงแวบหนึ่งแล้วแค่นเสียงเย็นชา “สตรีธรรมดานางหนึ่ง ข้าไม่ลดตัวไปสู้กับนางหรอก”ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “องค์ชายเจ็ด เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงฝึกยุทธ์มาตั้งแต่เยาว์วัย จิตใจรักการเอาชนะและไม่ยอมคนอย่างยิ่งนางย่อมไม่อาจทนให้ใครมาดูแคลนตนเองได้!องค์ชายเจ็ดกล่าวว่า “พระชายา แม้กองทัพตระกูลซูของเจ้าจะห้าวหาญเก่งกาจในการรบ แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า สตรีธรรมดาเช่นเจ้าอย่าได้อวดดีแถวนี้ ประเดี๋ยวจะหาว่าข้าไม่เตือนหากต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัว!”ซูเฟิ่งหลิงพลัน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1460

    จวนอ๋ององค์ชายเจ็ดหลี่หยวนกำลังฝึกยิงธนูอยู่ภายในลานฝึกเขาอายุไล่เลี่ยกับองค์ชายแปด แต่เพราะตากแดดตากลมอยู่เสมอ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ใหญ่อย่างมาก ผิวพรรณดำมืด ไว้หนวดเครา สวมใส่เกราะทั้งตัว ขับเน้นให้องอาจยิ่งขึ้นบ่าวจวนอ๋องวิ่งเหยาะๆ มาหยุดข้างกายองค์ชายเจ็ด พูดรายงานว่า “ท่านอ๋อง รัชทายาทมาเยี่ยม พูดว่ามีเรื่องต้องการพบท่าน...”องค์ชายเจ็ดไม่ตอบ ปล่อยลูกธนูออกจากคันศรแล้วสวบ!ยิงตรงกลางเป้าพอดีองค์ชายเจ็ดพูดเสียงเคร่งขรึม “ให้เขาเข้ามาเถอะ”หลังเวลาครึ่งก้านธูปผ่านไปองค์ชายแปดพาหลี่หลงหลิเข้าลานฝึกเขาก้าวเดินด้วยท่าทางยโสโอหัง ร้องตะโกนว่า “พี่เจ็ด ข้าพารัชทายาทมาเยี่ยมท่าน!”องค์ชายเจ็ดวางธนูในมือลง กล่าวทักทาย “กระหม่อมคารวะรัชทายาท”หลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “ลุกขึ้นเถอะ”องค์ชายเจ็ดลุกขึ้น จัดเกราะให้เรียบร้อยแล้วเอ่ยถาม “องค์ชาย วันนี้ลมอะไรหอบท่านมาได้เล่า?”องค์ชายเจ็ดและหลี่หลงหลินไม่เคยติดต่อกันมาก่อนต่อให้พูดว่าล้วนเป็นองค์ชาย แต่หลี่หลงหลินคนเสเพลคนนี้มีเพียงองค์ชายแปดยอมขลุกอยู่กับเขาต่อให้สุดท้ายเขาได้เป็นรัชทายาท แต่ก็ทำเรื่องเหลวเหลวมากมายอ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1459

    องค์ชายแปดแปลกใจ พูดล้อเล่นขึ้นมา “องค์ชาย ท่านถามละเอียดเพียงนี้ คงไม่ใช่ต้องการช่วยจางไป่เจิงพลิกคดีหรอกกระมัง?”“ตอนนี้เขาเป็นคนใกล้ตายแล้ว ขวัญกล้าล่วงเกินเสด็จแม่ ได้รับโทษก็สมควรแล้ว ใครช่วยพูดแทนเขาก็ไม่มีประโยชน์ ท่านอย่าเสียแรงเปล่าเลย ยังไม่สู้คิดเรื่องหาความสำราญ เหตุใดต้องเสียเวลาอยู่กับคนตายคนหนึ่งด้วยเล่า?”หลี่หลงหลินพูดเสียงเครียด “ไม่ ตอนนี้ข้าสงสัยว่าจางไป่เจิงกำลังถูกปรักปรำ เหล้าของเขาถูกวางยาพิษ”“เหล้าของเขาถูกวางยาพิษ?!” เหงื่อเย็นผุดบนแผ่นหลังองค์ชายแปด “นึกถึงการกระทำของจางไป่เจิงในวันนั้นก็ผิดปกติอยู่บ้างจริงๆ ด้วยความคอแข็งของเขาดื่มเหล้าเพียงสองสามจอกย่อมไม่เมามายถึงขั้นนั้น”แววตาหลี่หลงหลินทอประกาย สบมององค์ชายแปด “ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ข้ายังกล้ายืนยัน ตอนนี้คนร้ายก็คือหนึ่งในพวกเจ้าบรรดาองค์ชายทั้งสาม”องค์ชายแปดชะงักไป สีหน้าเผือดซีด รีบอธิบาย “องค์ชาย ต่อให้มอบความกล้าให้ข้ามากเพียงใด ข้าก็ไม่กล้าวางแผนปรักปรำจางไป่เจิง ต่อให้ข้าไม่อยากออกรบ ก็ไม่มีความคิดปรักปรำทำลายเขา...”หลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “ข้าไม่ได้พูดว่าเป็นเจ้าเสียหน่อย ตลอดงานเลี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status