Share

บทที่ 12

Penulis: จันทร์กระจ่างภูผา
พรึ่บ!

ม่านฉีกขาดโบกพลิ้วตามสายลมยามค่ำคืน ทว่าหลังม่านกลับว่างเปล่าไม่มีผู้ใด!

หลี่เซวียนขมวดคิ้วเป็นปม!

หรือตนคิดผิดแล้ว?

เมื่อครู่รู้สึกได้อย่างชัดเจน มีคนซ่อนตัวอยู่หลังม่าน!

หรือว่า อาศัยจังหวะตอนที่ตนส่งหลี่หลงหลินเพียงครู่หนึ่ง คนๆ นั้นหนีไปแล้ว?

หลี่เซวียนหัวใจหล่นวูบ เดินไปที่โต๊ะหนังสือทันที พบว่าจดหมายมีร่องรอยถูกรื้อค้น

“แย่แล้ว!”

“ตกหลุมพรางแล้ว!”

หลี่เซวียนรู้สึกคล้ายโลกหมุน รีบคว้าโต๊ะ ไม่ได้ล้มลง

หลังจากผ่านไปนาน

ในที่สุดหลี่เซวียนก็ตั้งสติได้ รีบเรียกพบซุนกวางเสี้ยวคนสนิทของตน

ซุนกวางเสี้ยวคุกเข่าทำความเคารพ “องค์ชาย องค์ชายมีอะไรให้รับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”

หลี่เซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ทหารหน่วยกล้าตายเตรียมไปถึงไหนแล้ว?”

ซุนกวางเสี้ยวตอบ “ทหารหน่วยกล้าตายแปดร้อยนายเตรียมพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เคลื่อนกำลังพลได้ทุกเมื่อ!”

หลี่เซวียนพยักหน้า “เยี่ยม! จางไป่เจิงนำทหารรักษาพระองค์หนึ่งแสนนาย เดินทางข้ามคืนออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว เพื่อรบกับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ! รุ่งสางวันพรุ่งนี้ เราเคลื่อนกำลังพลก่อกบฏ เปลี่ยนราชวงศ์!”

ซุนกวางเสี้ยวได้ยินเช่นนั้น ตะลึงงัน “องค์ชาย! เคลื่อนกำลังพลรุ่งสางวันพรุ่งนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ? เร่งด่วนเกินไปหรือไม่? เวลานั้น อย่างมากทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ไกลออกไปเพียงร้อยลี้เท่านั้น! หากพวกเขานำทัพกลับมา แผนการที่เราวางมาหลายปี จะสูญเปล่าพ่ะย่ะค่ะ!”

“ยังมีทหารพันกว่านายของตระกูลซูอีก เรายังไม่อาจทำให้พวกเขาแปรพักตร์...”

หลี่เซวียนสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าย่อมรู้ดีว่า เร่งด่วนเกินไป! หากเตรียมการอีกสามสี่วัน ทำให้ทหารตระกูลซูแปรพักตร์มาได้ จะไม่มีข้อผิดพลาด! แต่ว่า...”

“ไม่ทันการแล้ว!”

“มีคนลักลอบเข้ามาในห้องหนังสือของข้า ขโมยจดหมายระหว่างข้ากับเผ่าหมาน!”

“พรุ่งนี้ในราชสำนัก คนๆ นี้ต้องรายงานเรื่องของข้าอย่างแน่นอน!”

“นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเคลื่อนกำลังพลของข้า!”

“ชนะเป็นราชัน แพ้เป็นโจร ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องนี้!”

ซุนกวางเสี้ยวตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องที่เกิดขึ้น พูด “เช่นนั้นจะรายงานใต้เท้าคนนั้นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ...”

หลี่เซวียนกำหมัดแน่น ส่ายหน้า “ไม่ต้อง! ถึงอย่างไรเขาก็ดูแคลนข้ามาโดยตลอด คิดว่าข้าไม่อาจทำการใหญ่ได้! ครั้งนี้ หากข้าทำเสร็จ เขาต้องยอมศิโรราบใต้ฝ่าเท้า ก้มหัวให้ข้าแน่นอน!”

“จริงด้วย! เจ้าส่งคนไปซุ่มโจมตีระหว่างทางออกจากเมืองหลวงด้วย! เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาด!”

ซุนกวางเสี้ยวโค้งคำนับ “พ่ะย่ะค่ะ!”

อีกด้านหนึ่ง

ซูเฟิ่งหลิงกลับถึงตระกูลซู ด้วยสภาพน่าเวทนา

หลี่หลงหลินถึงก่อนแล้ว สีหน้าฉายความผ่อนคลาย จิบน้ำชากับฮูหยินผู้เฒ่าซู

ซูเฟิ่งหลิงโมโห พุ่งตัวไปใกล้ ชี้หน้าด่าหลี่หลงหลิน “คนสารเลว! ท่านรู้หรือไม่ ท่านทำให้ข้าเกือบตาย! หากไม่ใช่เพราะข้าหนีออกมาได้ทันเวลา ข้าคงถูกองค์ชายหกจับตัวไปแล้ว!”

หลี่หลงหลินวางถ้วยน้ำชาลง พูดด้วยรอยยิ้ม “หากไม่ใช่เพราะข้าปรากฏตัวทันเวลา เจ้าอยู่ในกำมือขององค์ชายหกไปแล้ว! เจ้าควรขอบคุณข้าต่างหาก ตำหนิข้าได้อย่างไร?”

ซูเฟิ่งหลิงเดือดดาล “ขอบคุณกับผีหน่ะสิ! ท่านยังบอกอีกว่าจะหย่ากับข้า ท่านๆๆ...น่าโมโหจริงๆ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูพูดไกล่เกลี่ย “หลานรัก อย่าเพิ่งทะเลาะกัน! จดหมายการติดต่อระหว่างองค์ชายหกกับเผ่าหมานล่ะ? หลานเอามาได้หรือไม่?”

พวงแก้มของซูเฟิ่งหลิงแดงก่ำ ก้มหน้าลง “ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าเพิ่งแอบเข้าไปในห้องหนังสือ องค์ชายหกก็ปรากฏตัวแล้ว ทั้งยังเกือบจับข้าได้ ตอนหลังข้ารีบเผ่นหนี จึงลืมเรื่องจดหมายไปเสียสนิท”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูทอดถอนหายใจ “เฮ้อ! เจ้าหนอ ฝึกวรยุทธ์จนโง่เขลา! ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องฆ่าแกง เรื่องเล็กแค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จ...”

พู่...

หลี่หลงหลินได้ยินซูเฟิ่งหลิงถูกด่อทอ อดไม่ได้ที่จะพ่นน้ำชาในปากออกมา

ซูเฟิ่งหลิงน้อยอกน้อยใจ เห็นหลี่หลงหลินหัวเราะเยาะตนเอง ยิ่งโมโห “หัวเราะ! ท่านยังมีหน้ามาหัวเราะอีก! ทั้งหมดเป็นเพราะท่านเป็นตัวถ่วง มิเช่นนั้น ข้าคงไม่ถูกท่านย่าดุด่า...”

หลี่หลงหลินหยิบจดหมายออกมาหนึ่งฉบับจากแขนเสื้อ วางไว้บนโต๊ะ “เจ้าอย่าโยนความผิดให้ผู้อื่น! เจ้าทำพลาด เป็นเพราะตัวเจ้าโง่เขลา! แต่ข้าทำสำเร็จ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูและซูเฟิ่งหลิงมองไปทางเดียวกัน เห็นจดหมายมีลายมือของ ‘องค์ชายหก’ มีการลงนามของแม่ทัพจาเอ๋อร์ปาแห่งเผ่าหมาน

ซูเฟิ่งหลิงเบิกตากว้าง พูดด้วยความตกตะลึง “เป็นไปได้อย่างไร? ท่านเอามาเมื่อใด?”

หลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “เจ้าอย่ายุ่ง! ถึงอย่างไร ก็มีหลักฐานแน่นหนาแล้ว โค่นองค์ชายหกได้แน่นอน!”

เสียงของฮูหยินผู้เฒ่าซูสั่นเทา “เปิดจดหมาย ข้าอยากดูสิว่า องค์ชายหกทำร้ายตระกูลซูอย่างไร!”

หลี่หลงหลินส่ายหน้าแล้วพูด “ไม่จำเป็น! เนื้อความในใจจดหมาย ข้าอ่านแล้ว เป็นหลักฐานการขายชาติขององค์ชายหกจริงๆ!”

“สำหรับต้าเซี่ย เป็นเรื่องอื้อฉาว ยิ่งมีคนรู้น้อยเท่าใดก็ยิ่งดี”

“หากตระกูลซูรู้เนื้อความในจดหมาย เกรงว่าเสด็จพ่อจะเกลียดแค้น!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูได้ยินเช่นนั้น เหงื่อท่วมตัวทันที “องค์ชายเก้าพูดถูก! เนื้อความในจดหมายฉบับนี้ พวกข้าไม่อ่านจะเป็นการดีที่สุด!”

หลี่หลงหลินกดเสียงลงต่ำ พูด “แต่ว่า! พี่หกเป็นคนร้ายกาจ! เขาต้องเห็นความผิดปกติแล้ว เกรงว่าจะเป็นสุนัขจนตรอก เช้าวันพรุ่งนี้ เคลื่อนกำลังทหารก่อกบฏก็เป็นได้!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกตะลึง “ก่อกบฏ? องค์ชายหกใจกล้ายิ่งนัก แต่ว่า ทหารรักษาพระองค์เดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว เมืองหลวงไร้กำลังทหาร ในวังหลวงเหลือทหารรักษาการณ์ไม่กี่ร้อยนายเท่านั้น!”

“หากองค์ชายหกอาศัยโอกาสนี้ก่อกบฏ แล้วจะทำอย่างไร?”

ดวงตาของหลี่หลงหลินทอประกาย “เหล่าไท่จวิน ตราพยัคฆ์ทหารตระกูลซูอยู่กับท่านหรือไม่?”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตกใจ “ตราพยัคฆ์อยู่กับข้า! แต่ท่านจะเอาตราพยัคฆ์ไปทำอะไร? หรือว่า...”

หลี่หลงหลินพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “ถูกต้อง! ตราพยัคฆ์นี้ เป็นกุญแจสำคัญในการพลิกสถานการณ์!”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Wisarat Taythong
นิยายสนุกมากๆๆ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1352

    เมืองใหม่ตงไห่ หลี่หลงหลินกำลังวางแผนสร้างเรือนพักเพิ่มเติม ราษฎรผู้อพยพที่เดินทางมายังเมืองใหม่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่เมืองใหม่เองก็ต้องพิจารณาเรื่องการขยายอาณาเขตแล้ว องครักษ์นายหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา “องค์รัชทายาท เกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หลี่หลงหลินชะงัก วางพู่กันและหมึกลง “เกิดเรื่องอันใดขึ้น เหตุใดจึงรีบร้อนเช่นนี้?” เขามีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่ในใจ องครักษ์หอบหายใจ เอ่ยว่า “เมื่อครู่ฝ่าบาทเสด็จออกไปพร้อมกับท่านพระเชษฐภาดาพ่ะย่ะค่ะ” หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเขาสองคนออกไปทำอันใด?” หลี่หลงหลินคิดแล้วคิดเล่าก็นึกไม่ออกว่าหลู่จงหมิงกับฝ่าบาทออกไปข้างนอกจะทำเรื่องดีอันใดได้ องครักษ์เอ่ยเสียงขรึม “วันนี้ท่านพระเชษฐภาดามาเข้าเฝ้าฝ่าบาทที่จวนกะทันหัน บอกว่าเกรงฝ่าบาทจะทรงเบื่อหน่ายที่ประทับในจวนหลายวันนี้ จึงชวนพระองค์ออกไปสถานเริงรมย์ฟังดนตรีขับกล่อม เพื่อคลายความอัดอั้นพระทัย” “เหมือนจะบอกว่าไปหอที่ชื่อหอละอองฝนอะไรสักอย่าง ตามหาแม่นางหลิงเอ๋อร์ รายละเอียดหลังจากนั้น ข้าน้อยก็ไม่ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ...” หลี่หลงหลินพึมพำ “แม่นางหลิงเอ๋อร์?” แม้ว่าตอนนี้ต

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1351

    ฮ่องเต้หวู่ทรงเสด็จเพียงลำพังในอุทยานหลวงด้านหลัง ทอดสายตามองเหล่าบุปผชาติที่ประชันโฉมเบ่งบาน ในใจรู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง เว่ยซวินรีบเดินเข้ามา คารวะพลางทูลว่า “ฝ่าบาท ท่านพระเชษฐภาดามาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” ฝีเท้าของฮ่องเต้หวู่ชะงักงัน แล้วทรงตรัสถามอย่างประหลาดใจ “พระเชษฐภาดามาทำอันใด?” เว่ยซวินส่ายหน้า แล้วเอ่ยว่า “บ่าวมิทราบพ่ะย่ะค่ะ ทราบเพียงว่าตั้งแต่ฝ่าบาทเสด็จมาถึงตงไห่ ยังมิได้มาเข้าเฝ้าเป็นการเฉพาะ จึงตั้งใจมาเข้าเฝ้าในครั้งนี้พ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้หวู่โบกมือ แล้วตรัสอย่างจนใจ “ให้เขาเข้ามาเถิด” การมาของพระเชษฐภาดาคงไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องที่ดินห้าแสนหมู่นั่น ที่ทำให้เราปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งนัก แต่เมื่อเจ้าเก้าตัดสินใจไปแล้ว เราก็มิอาจทำอันใดได้ ครู่ต่อมา หลู่จงหมิงก็ตามเว่ยซวินเข้ามาในอุทยานหลวงด้านหลัง เมื่อหลู่จงหมิงเห็นฮ่องเต้หวู่ก็รีบถวายบังคม “กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!” ฮ่องเต้หวู่ตรัสเสียงขรึม “ลุกขึ้นเถิด” หลู่จงหมิงค่อยๆ ลุกขึ้น ใบหน้าเจือรอยประจบประแจงเล็กน้อย ฮ่องเต้หวู่เหลือบมองหลู่จงหมิง แล้วตรัสว่า “พระเชษฐภาดา หากเจ้ามาเพราะเรื่องที

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1350

    บนเรือลำใหญ่ ลมทะเลสายหนึ่งพัดผ่าน ใบเรือโบกสะบัดพลิ้วไหวตามลมองค์หญิงใหญ่มีสีหน้าเย็นเยียบ “ท่านลุง ฉวยโอกาสที่ฮ่องเต้หวู่ยังอยู่ที่ตงไห่ ตอนนี้ท่านยังมีโอกาสสุดท้ายที่จะพลิกกระดาน”หลู่จงหมิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ กล่าวเสียงสั่นว่า “โอกาสสุดท้ายที่จะพลิกกระดานหรือ? จะพลิกได้อย่างไร โปรดองค์หญิงใหญ่ชี้แนะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”องค์หญิงใหญ่ตรัสเสียงเคร่งขรึมว่า “ลอบสังหารฮ่องเต้หวู่ แล้วโยนความผิดเรื่องนี้ไปให้เจ้าเก้า”“อะไรนะ!” ในดวงตาของหลู่จงหมิงฉายแววตื่นตะลึงหลังจากสิ้นเสียง นอกห้องโดยสาร ลมฝนก็โหมกระหน่ำ ฟ้าแลบหลู่จงหมิงพยักหน้าเล็กน้อย จมอยู่ในภวังค์ความคิดการลอบสังหารฮ่องเต้หวู่คือโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต หากเรื่องถูกเปิดโปงขึ้นมาเมื่อใด ก็ยากจะหนีพ้นภัยพิบัติ!แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ต่อให้ตนไม่ทำอะไรเลย ยอมจำนนรอความตาย สุดท้ายก็เป็นหนทางสู่ความตายอยู่ดีตอนนี้ทรัพย์สินกิจการทั้งหมดของตระกูลหลู่ถูกหลี่หลงหลินหลอกเอาไปหมดแล้ว เงินในบัญชีของจวนเหลืออยู่เพียงร้อยตำลึง คนกว่าร้อยชีวิตทั้งจวนพระเชษฐภาดาล้วนต้องใช้เงินสำหรับค่ากินค่าอยู่ค่าใช้จ่าย ตอนนี้ไร้ซึ่งทรัพย์สินตระกูลแล้ว หล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1349

    องค์หญิงใหญ่กำลังจิบชาหอมในมือ เมื่อเห็นหลู่จงหมิง ก็เหลือบตามองขึ้นเล็กน้อย “ท่านลุง ท่านมาได้อย่างไร?”หลู่จงหมิงมีสีหน้าประจบประแจง “ไม่ได้พบกันนาน จึงมาเยี่ยมเยียนท่านเสียหน่อย มาพูดคุยรำลึกความหลัง”องค์หญิงใหญ่แค่นเสียงเย็นชาคราหนึ่ง “พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องพูดจาห่างเหิน คงไม่ใช่เพราะเจอเรื่องยากลำบากอะไรเข้าอีกแล้วกระมัง?”หลู่จงหมิงชะงักไป หัวเราะแล้วกล่าวว่า “ไม่มีเรื่องใดรอดพ้นสายตาของท่านไปได้จริงๆ ลุงเจอปัญหาจริงๆ จึงคิดจะมาหาท่านเพื่อปรึกษาหารือวางแผน”องค์หญิงใหญ่วางถ้วยชาในมือลง กล่าวเสียงเรียบว่า “ว่ามาเถิด พบเจอปัญหาอันใดอีก? หรือว่าเกี่ยวข้องกับหลี่หลงหลินอีกแล้ว?”หลู่จงหมิงพอได้ยินชื่อของหลี่หลงหลิน ในใจก็พลันเดือดดาลด้วยโทสะ!“องค์หญิงใหญ่ เจ้าหลี่หลงหลินนี่ ตอนนี้มันชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว! มันถึงกับอ้างเรื่องการแลกเปลี่ยนที่ดิน แลกเอาที่นาชั้นดีอันอุดมสมบูรณ์ในตงไห่ของพวกเราไปจนหมด! นั่นล้วนเป็นรากฐานของตระกูลหลู่ของพวกเรานะพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงใหญ่ตะลึงงันทันที “แลกเปลี่ยนที่ดินหรือ”หลู่จงหมิงอธิบายเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดให้องค์หญิงใหญ่ฟัง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1348

    เหล่าผู้อพยพซาบซึ้งจนน้ำตาไหลพราก ต่างพากันคุกเข่าลงคำนับ“องค์รัชทายาท! การได้พบท่านนับเป็นวาสนาสามชาติของข้าโดยแท้ บุญคุณนี้ชั่วชีวิตก็ไม่อาจตอบแทนได้หมดสิ้น!”“มีที่ดินผืนนี้ ข้าก็มีบ้านแล้ว ไม่ต้องร่อนเร่พเนจรไปทั่วสารทิศอีกต่อไป! ต่อไปตงไห่ก็คือบ้านของข้า!”“...”หลี่หลงหลินกล่าวเสียงขรึมว่า “เมืองใหม่มีรูปลักษณ์เช่นปัจจุบันนี้ได้ ไม่ใช่ความดีความชอบของข้าเพียงผู้เดียว แต่ยังเป็นความดีความชอบของพวกเจ้าด้วย ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะสามารถมองเมืองใหม่นี้เป็นบ้านของตนเองได้อย่างแท้จริง”ดวงตาของหลิวเกินเซิงพร่าเลือนไปด้วยน้ำตา น้ำตาขุ่นสายหนึ่งไหลผ่านแก้ม “องค์รัชทายาท! บุญคุณถึงเพียงนี้ ชั่วชีวิตข้าก็ยากจะตอบแทนได้หมดสิ้น!”หลี่หลงหลินก้าวไปข้างหน้า ประคองหลิวเกินเซิงให้ลุกขึ้น “ขอเพียงพวกเจ้าสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เป็นอย่างดี ก็สำคัญกว่าเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น ตอนนี้การก่อสร้างเมืองใหม่เพิ่งจะเริ่มต้น ต่อไปยิ่งเป็นเวลาที่ต้องการให้พวกเจ้าแสดงฝีมืออย่างเต็มที่”หลิวเกินเซิงพยักหน้า ในดวงตามีน้ำตาเอ่อคลอ......จวนพระเชษฐภาดาหลู่จงหมิงนับตั้งแต่กลับมาจากจวนอ๋อง ก็เอาแต่นั่งอยู่ใน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1347

    ...ณ ใจกลางเมืองใหม่ตงไห่ลานกว้างที่เดิมทีว่างเปล่า บัดนี้กลับเนืองแน่นไปด้วยผู้คนจนเต็มพื้นที่หลิวเกินเซิงกวาดตามองไป เห็นศีรษะผู้คนเคลื่อนไหวขวักไขว่ ต้องออกแรงทั้งหมดที่มี กว่าจะเบียดเสียดมาถึงแถวหน้าสุดได้ทันใดนั้น ร่างที่คุ้นตาปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขาเพียงเห็นหลี่หลงหลินสวมชุดปักลายหม่าง ดูองอาจผึ่งผาย ก้าวเดินเข้ามาพอหลี่หลงหลินปรากฏตัว กลุ่มคนที่เดิมทีเสียงดังจอแจก็เงียบกริบลงในทันใด ต่างคุกเข่าลงคำนับบนลานกว้างเหลือเพียงเสียงลมหายใจของเหล่าชาวบ้านอพยพ เงียบสงัดจนกระทั่งเสียงเข็มตกก็ยังได้ยินในสายตาของผู้อพยพ การที่ตนสามารถมีชีวิตเช่นนี้ได้ในปัจจุบัน ล้วนเป็นเพราะหลี่หลงหลินประทานให้หลี่หลงหลินกล่าวเสียงเรียบว่า “ลุกขึ้นเถิด ข้ามีเรื่องจะกล่าวกับพวกเจ้า”ใบหน้าของผู้อพยพเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้หลิวเกินเซิงขยับเข้าไปอยู่ด้านหน้าสุด เอ่ยถามว่า “องค์รัชทายาท มีเรื่องอันใดเร่งด่วนหรือพ่ะย่ะค่ะ?”หลี่หลงหลินชูโฉนดที่ดินปึกหนาในมือขึ้น กล่าวว่า “นี่คือที่นาชั้นดีอันอุดมสมบูรณ์ของตงไห่ ทว่าตอนนี้ไร้คนเพาะปลูก ข้าจะแบ่งที่ดินเหล่านี้ให้พวกเจ้า”“แบ่งที่ดิน?!”เหล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1346

    ฮ่องเต้หวู่นิ่งอึ้งไปในทันที ในแววตาฉายแววตื่นตะลึง “เจ็ดสิบปี? เวลามันจะไม่นานเกินไปหน่อยหรือ หากมองตามประวัติศาสตร์ แม้แต่ราชวงศ์ที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด จะมีสักกี่ราชวงศ์กันที่อยู่ได้ถึงเจ็ดสิบปี?”หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย ทูลว่า “เสด็จพ่อ เรื่องนี้พระองค์อาจยังไม่ทรงทราบ ระยะเวลาเจ็ดสิบปีนี้มิใช่สิ่งที่ลูกกล่าวขึ้นมาพล่อยๆ แต่เป็นผลลัพธ์ที่ได้มาหลังจากการไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“สาเหตุหลักที่แบ่งที่ดินให้ชาวบ้าน ก็เพราะตงไห่ต้องการการพัฒนา และการพัฒนาก็ต้องการคน ทว่าตอนนี้ชาวบ้านอพยพเหล่านี้เปรียบเสมือนจอกแหนไร้ราก ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่ในหอพักของเมืองใหม่ สุดท้ายก็ไม่ช่วยแก้ปัญหาอยู่ดี”“ตอนนี้ผู้อพยพเหล่านี้ก็เหมือนต้นไม้ หากไม่มีผืนดิน ก็ไม่อาจหยั่งราก ยิ่งไม่อาจเติบโตเป็นไม้ใหญ่เสียดฟ้าได้ ขอเพียงมีที่ดิน ชาวบ้านก็จะสามารถหยั่งรากในตงไห่ พัฒนาตงไห่ได้”“เจ็ดสิบปีคือเวลาที่เพียงพอสำหรับการสร้างตัวสร้างฐานะของบรรพบุรุษสามชั่วอายุคนพอดิบพอดีพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ทำตามที่เจ้าว่าเถิด ข้าไม่มีความเห็นใดๆ”...เมืองใหม่ตงไห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1345

    ทุกคนพยักหน้าเงียบๆ ไม่กล้าเอ่ยคำใดให้มากความหลี่หลงหลินโบกมือ กล่าวเสียงขรึมว่า “ในเมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้านแล้ว ก็ออกไปเถิด ข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องหารือกับเสด็จพ่อ”เหล่าตระกูลขุนนางและคหบดีต่างกลัวหางจุกก้น ล่าถอยออกจากจวนอ๋องไปอย่างเงียบเชียบ ไม่กล้าอยู่ต่อแม้แต่ครึ่งเค่อหลี่หลงหลินถือโฉนดที่ดินปึกหนา เดินไปเบื้องหน้าฮ่องเต้หวู่ “เสด็จพ่อ ตอนนี้พวกเราก็มีที่ดินแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้าเบาๆ กล่าวว่า “ช่างเหนือความคาดหมายของข้าอยู่บ้าง จับเสือมือเปล่าได้ดีนัก!”หลี่หลงหลินแย้มสรวลพลางทูลว่า: “เสด็จพ่อ ลูกหาได้จับเสือมือเปล่าไม่ อย่างไรเสียลูกก็ได้มอบที่ดินนับร้อยเท่าให้พวกเขาไปจริงๆ และนี่ก็เป็นการแลกเปลี่ยนโดยสมัครใจของพวกเขาเองพ่ะย่ะค่ะ”แววพระเนตรของฮ่องเต้หวู่จับจ้องแน่วแน่ ตรัสว่า “ในเมื่อตอนนี้เจ้ามีที่ดินมากมายถึงเพียงนี้ จะเปลี่ยนที่ดินให้เป็นเงินได้อย่างไร? เพราะข้ารู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าที่ดินไม่อาจกลายเป็นเงินขึ้นมาลอยๆ ได้ มีเพียงเปลี่ยนเป็นเงินแล้ว เจ้าจึงจะมีทุนพัฒนาสร้างกองเรือ แล่นเรือออกไปค้นหาทวีปใหม่ได้”หลี่หลงหลินยิ้มบาง “เสด็จพ่อ เรื่องนี้พระองค์อาจยัง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1344

    เหล่าขุนนางและคหบดีที่อยู่ที่แห่งนั้นล้วนเจ็บปวดใจและขุ่นเคืองอย่างยิ่ง จ้องมองหลี่หลงหลินเขม็งดุจพยัคฆ์จ้องตะครุบเหยื่อหลี่หลงหลินแย้มยิ้มบางเบา ส่งสายตาให้ซูเฟิ่งหลิงซูเฟิ่งหลิงเข้าใจในทันที กุมกระบี่ประจำกาย ก้าวออกไปข้างหน้า ตะโกนใส่เหล่าขุนนางในที่นั้นว่า “บนโฉนดที่ดินนี้มีตัวอักษรขาวดำเขียนไว้ชัดเจน หรือคิดจะปฏิเสธไม่ยอมรับอีก?”ซูเฟิ่งหลิงสวมเกราะเงิน ท่วงท่างามสง่าองอาจ แผ่จิตสังหารอันแรงกล้าออกมาเหล่าทหารตระกูลซูติดตามมาติดๆ แสดงท่าทีคุกคามน่าสะพรึงกลัวหลู่จงหมิงเพิ่งจะตระหนักได้ในตอนนี้เองนี่มันงานเลี้ยงลวงมาฆ่าชัดๆ!เขาคือมีดเขียง ส่วนข้าคือเนื้อปลา!ฮ่องเต้หวู่เป็นเพียงฉากบังหน้าการกระทำทั้งหมดของหลี่หลงหลินล้วนได้รับความเห็นชอบอย่างเงียบๆ จากฮ่องเต้หวู่ ฮ่องเต้หวู่มิได้ตรัสอันใดเลยแม้แต่คำเดียวตั้งแต่ต้นจนจบหลู่จงหมิงเงยหน้ามองไป เพียงเห็นฮ่องเต้หวู่หรี่ตามองต่ำ เก็บงำสีหน้า ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนหลู่จงหมิงลอบสาปแช่งในใจข้าผู้เป็นถึงพระเชษฐภาดา ปกติอยู่ที่ตงไห่บัญชาการลมฝน มีอิทธิพลยิ่งนัก บัดนี้กลับปล่อยให้เจ้าหลี่หลงหลินมาเหยียบย่ำข้าได้อย่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status