แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: จันทร์กระจ่างภูผา
ฮูหยินผู้เฒ่าซูพยักหน้า “มีเหตุผล! แต่ว่า จะตามหาผู้อยู่เบื้องหลังอย่างไร?”

หลี่หลงหลินยิ้ม “ง่ายมาก! เจ้าหกร่วมมือกับโม่เป่ยเผ่าหมาน ต้องมีการส่งจดหมายหากันอย่างแน่นอน! จดหมายเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะซ่อนในห้องหนังสือ! ขอเพียงลอบเข้าไปในห้องหนังสือ ขโมยจดหมายออกมา ก็จะได้หลักฐาน!”

ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเป็นปม “ง่ายดายเช่นนี้เชียวหรือ?”

หลี่หลงหลินยักไหล่ “มิเช่นนั้นเล่า? เมียจ๋า หรือเจ้ามีความคิดอื่นที่ดีกว่านี้?”

ดวงหน้างดงามของซูเฟิ่งหลิงฉายความโมโห “ขืนท่านเรียกข้าว่าเมียจ๋าอีก ข้าจะฆ่าท่านทิ้ง!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูเป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ย “พอแล้วๆ! พวกเจ้าสองสามีภรรยาหยุดทะเลาะกันได้แล้ว! ข้าคิดว่า ความคิดเห็นหลงหลิน ก็ใช้ได้! แต่ว่า ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด!”

“เฟิ่งหลิง ด้วยความสามารถของเจ้า ลอบเข้าไปในห้องหนังสือขององค์ชายหก ขโมยจดหมาย ไม่ใช่เรื่องยากกระมัง?”

ซูเฟิ่งหลิงลังเลเล็กน้อย “ไม่ใช่เรื่องยากเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่รู้ว่าผังจวนขององค์ชายหกเป็นเช่นไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าห้องหนังสืออยู่ที่ใด”

หลี่หลงหลินตบแผงอกแล้วพูด “เรื่องนี้ง่าย! เมื่อก่อนข้าไปจวนพี่หกบ่อยครั้ง หลับตาก็รู้ว่าห้องหนังสืออยู่ที่ใด! ข้าไปกับเจ้าเอง!”

ซูเฟิ่งหลิงตกตะลึง “ท่านเนี่ยนะ?”

มองสีหน้ายิ้มแย้มของหลี่หลงหลิน ซูเฟิ่งหลิงรู้สึกว่าเขาพึ่งพาไม่ได้แม้แต่น้อย!

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีทางเลือกอื่น

รอกระทั่งกลางดึก ซูเฟิ่งหลิงเปลี่ยนเป็นชุดสีดำ ใช้ผ้าปิดหน้า แล้วตรงไปยังจุดนัดพบ

สีหน้าของซูเฟิ่งหลิงฉายความดูแคลน “ท่านทำได้หรือไม่กันแน่!”

หลี่หลงหลินกลับมองตนด้วยสีหน้าหลงใหล จิปาก คล้ายกำลังวิจารณ์รูปร่างของตน

ซูเฟิ่งหลิงโมโหยิ่งนัก แต่ไม่อาจทำอะไรหลี่หลงหลินได้ “ไม่เอาไหนจริงๆ! นึกไม่ถึงว่าข้าจะเชื่อท่าน ตาบอดไปแล้วจริงๆ! อย่าเป็นตัวถ่วงของข้า อยู่ข้างนอกคอยดูลาดเลาให้ข้าด้วย! ห้องหนังสืออยู่ที่ทิศทางใด ข้าเข้าไปคนเดียว!”

หลี่หลงหลินชี้ไปทิศทางหนึ่ง

ซูเฟิ่งหลิงหมดความอดทนนานแล้ว ใช้วิชาตัวเบา กระโดดข้ามกำแพง

นางหันกลับมามอง โมโหเป็นฟืนเป็นไฟแทบจะในทันที

เพียงชั่วพริบตา หลี่หลงหลินหนีไปอย่างไร้ร่องรอย!

“ช่างเป็นคนขี้ขลาดจริงๆ!”

ซูเฟิ่งหลิงเพียงคิดว่าตนต้องแต่งงานกับคนไม่เอาถ่านเช่นนี้ นางกระวนกระวายใจยิ่งนัก

ฟู่!

ซูเฟิ่งหลิงพ่นลมหายใจ ร่างอรชนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วภายใต้แสงจันทร์ เพียงไม่นานก็เข้าไปในจวนขององค์ชายหก

ตามทิศทางที่หลี่หลงหลินชี้ ซูเฟิ่งหลิงหาห้องหนังสือเจออย่างรวดเร็ว ลักลอบเข้าไปผ่านช่องหน้าต่าง

“จดหมาย...จดหมาย...”

ซูเฟิ่งหลิงเพิ่งมาถึงโต๊ะหนังสือ ยังไม่ได้เริ่มหา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก

ออกไปทางช่องหน้าต่าง เห็นชัดว่าไม่ทันแล้ว

ภายใต้ความเร่งรีบ ซูเฟิ่งหลิงซ่อนตัวหลังม่าน

หลี่เซวียนผลักประตูเข้ามา สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งนัก ทั้งยังด่าทอไม่หยุด “สารเลว! เจ้าเก้า เจ้าเก้าสารเลวจริงๆ! กล้าทำลายแผนการของข้า! ข้าต้องหั่นร่างมันเป็นชิ้นๆ จึงจะบรรเทาความคับแค้นใจของข้าได้!”

หลี่เซวียนอารมณ์เสีย โยนแจกันบนโต๊ะทิ้งจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ฉีกภาพอักษรจีนราคาแพงบนกำแพง ระบายความโกรธแค้นในใจ!

“เอ๊?”

หลี่เซวียนพบว่าหน้าต่างเปิดค้างไว้ สาวเท้าเดินมา

เขาจำได้ดีว่า ตอนตนออกไป หน้าต่างปิดสนิท

หรือถูกลมพัดจนหน้าต่างเปิดเช่นนั้นหรือ?

ซูเฟิ่งหลิงได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หัวใจบีบรัดจนแทบกระดอนออกมา

กลางดึก ลอบขโมยของในห้องหนังสือองค์ชาย แม้กระโดดลงแม่น้ำฮวงโหก็ไม่อาจแก้ตัวได้!

อีกทั้ง หลี่เซวียนกล่าวหาว่านางลอบสังหารองค์ชายก็ได้ แม้กระทั่งตระกูลซูก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย!

ทำอย่างไรดี...ทำอย่างไร...

ขณะที่ซูเฟิ่งหลิงอับจนหนทาง คิดว่าจะถูกจับได้แล้วนั้น ด้านนอกมีคนมารายงาน “องค์ชาย! องค์ชายเก้ามาขอพบ กล่าวว่ามีเรื่องจะหารือพ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่เซวียนชะงักฝีเท้า ขมวดคิ้วเป็นปม “เจ้าเก้า? คนไม่เอาถ่านเช่นเขาจะมีเรื่องสำคัญอะไร? ให้เขาเข้ามา!”

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง

หลี่หลงหลินมาถึงห้องหนังสือ ทันทีที่เดินเข้ามาเขาเช็ดน้ำมูกและเช็ดน้ำตา “พี่หก! พี่หก! ข้าสำนึกผิดแล้วขอรับ!”

หลี่เซวียนฉงน “เจ้าเก้า! เจ้าเป็นอะไร? สำนึกผิด? เจ้าทำอะไรผิด?”

ใบหน้าของหลี่หลงหลินฉายความเศร้าหมอง “ข้าไม่ควรแย่งสตรีกับพี่หก! ข้าไม่รู้จริงๆ ว่า พี่หกชอบเสือร้ายอย่างซูเฟิ่งหลิง!”

หลี่เซวียนเข้าใจทันที

ฟูมฟายตั้งนาน หลี่หลงหลินมาเพราะเรื่องนี้นี่เอง!

น้องเก้าคนนี้ของตน ไม่เอาถ่านจริงๆ!

กระทั่งเวลานี้ เขายังไม่รู้อีกหรือว่า ซูเฟิ่งหลิงเป็นหมากตัวสำคัญ ในแผนการก่อกบฏที่ตนวางไว้?

เดิมทีหลี่เซวียนคิดว่า หลี่หลงหลินทำลายแผนการของตน ด้วยความตั้งใจ

ดูเหมือนว่าตนจะคิดมากเกินไปแล้ว!

หลี่เซวียนรีบพูด “แท้จริงแล้ว ข้าก็ไม่ได้ชอบซูเฟิ่งหลิง เพียงแต่ข้าเห็นว่าเสด็จพ่อตกที่นั่งลำบาก อยากจะช่วยเสด็จพ่อแบ่งเบาก็เท่านั้น! คิดไม่ถึงว่า ฮูหยินผู้เฒ่าซูคิดแต่อยากจะให้หลานสาวแต่งงานกับเจ้า!”

“ในเมื่อเสด็จพ่อพระราชทานสมรส เป็นเรื่องที่ตัดสินใจแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลง”

“เจ้ากลับไปเถอะ! พี่ไม่เก็บมาใส่ใจ...”

แต่หลี่หลงหลินกลับยังคงไม่ยอม เขาพูด “เสด็จพ่อพระราชทานสมรสแล้วอย่างไรขอรับ? เสือสาวนั่นดุร้ายยิ่งนัก ไม่มีความอ่อนโยนแม้แต่น้อย ชายคนใดจะชอบนาง! พรุ่งนี้ข้าจะหย่ากับนาง ยกนางให้พี่หกขอรับ!”

ซูเฟิ่งหลิงซ่อนตัวหลังม่าน โมโหจนแทบจะขาดสติแล้ว

คำพูดเหล่านี้ของหลี่หลงหลิน เจตนากระมัง?

ต้องตั้งใจแน่นอน!

ข้าแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ?

เรือนร่างและรูปโฉมของข้า สิ่งใดบ้างที่ไม่ดีเลิศ?

อีกเรื่องหนึ่ง ข้าเป็นมนุษย์ ไม่ใช่สินค้า

เจ้าคิดอยากจะทิ้งก็ทิ้ง คิดอยากยกให้คนอื่นก็ยกให้คนอื่นเช่นนั้นหรือ?

สิ่งที่ทำให้ซูเฟิ่งหลิงบ้าคลั่งยิ่งกว่าก็คือ นึกไม่ถึงว่าหลี่เซวียนจะปฏิเสธ “เจ้าเก้า ความหวังดีของเจ้า ข้ารับไว้แล้ว! แต่ว่าสตรีดุร้ายดั่งเสืออย่างซูเฟิ่งหลิงคนนี้ ข้าก็ไม่อยากได้ เจ้าเก็บไว้คนเดียวเถอะ!”

“ดึกมากแล้ว ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้าเองก็กลับไปพักเถอะ!”

หลี่เซวียนไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับหลี่หลงหลิน จึงไล่แขก พาตัวเขาออกไป

หลังจากนั้น หลี่เซวียนแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็น ชักดาบขึ้นมา เดินไปตรงหน้าต่าง ไม่พูดไม่จา แทงทะลุม่านหน้าต่าง!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1464

    ม่านราตรีมาเยือน ความมืดมิดเข้าครอบคลุมทั่วปฐพีณ ภูเขาทิศเหนือนอกเมือง เหลือเพียงจันทร์เพ็ญดวงกลมลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้ายามราตรีหลังจากจางอี้ได้รับคำสั่งของหลี่หลงหลินแล้ว ก็นำหน่วยองครักษ์เสื้อแพรหลายร้อยนายเข้าล้อมกระท่อมมุงฟางไว้กระท่อมมุงฟางนั้นดูธรรมดาสามัญ ด้านหลังมีป่าไผ่ผืนใหญ่รถม้าอันหรูหราคันหนึ่งค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ภูเขาทิศเหนือหลี่หลงหลินนั่งอยู่ในรถม้า ขมวดคิ้วมุ่น จมอยู่ในภวังค์ความคิดภาพขององค์ชายห้าหลี่ชิงเฟิงปรากฏขึ้นในห้วงความคิด ใบหน้าซีดขาว ร่างกายผ่ายผอมเขาไม่อาจเชื่อมโยงภาพขององค์ชายห้าเข้ากับยอดฝีมือยุทธภพที่องค์ชายเจ็ดกล่าวถึงได้เลยคนขี้โรคเช่นนี้จะเป็นยอดฝีมือยุทธภพได้อย่างไร?หรือว่าองค์ชายเจ็ดกำลังโกหก?หลี่หลงหลินส่ายหน้าด้วยท่าทางหัวทึบแต่ร่างกายกำยำขององค์ชายเจ็ด ย่อมไม่สามารถแต่งเรื่องโกหกเช่นนี้ได้เรื่องนี้แปดเก้าส่วนคงเป็นความจริงแต่องค์ชายห้าในฐานะองค์ชาย การเคลื่อนไหวถูกจำกัดอย่างยิ่ง แล้วเขาไปเรียนวิชาฝีมือเหล่านี้มาจากที่ใด? และยังสามารถปิดบังทุกคนได้อย่างแนบเนียนโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้?หลี่หลงหลินคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกปริศนาข

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1463

    องค์ชายเจ็ดเหลือบมององค์ชายแปดอย่างดุดันองค์ชายแปดก็เข้าใจในทันที รีบหลบฉากออกไป “องค์รัชทายาท ไม่ทราบว่าเป็นอันใด จู่ๆ ข้าก็ปวดท้องขึ้นมา ขอตัวไปจัดการธุระส่วนตัวสักครู่...”แม้องค์ชายแปดจะเป็นคุณชายเสเพล แต่ก็มีไหวพริบไม่น้อยในเมื่อกล่าวว่าเป็นความลับสุดยอดในบรรดาความลับสุดยอด ย่อมเป็นเรื่องที่ตนเองไม่ควรได้ยินเมื่อเห็นองค์ชายแปดจากไปแล้ว องค์ชายเจ็ดจึงลดความระแวดระวังลง “องค์รัชทายาท ท่านอาจไม่ทรงทราบ พี่ห้าแม้ภายนอกจะดูเหมือนบัณฑิตที่อ่อนแอ แต่แท้จริงแล้ววรยุทธ์สูงส่งยิ่งนัก ไม่ใช่ดังที่เห็นภายนอกเลยแม้แต่น้อย...”“โดยเฉพาะวิชาตัวเบาของเขา มาไร้เงาไปไร้ร่องรอย!”หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย “จริงรึ?”องค์ชายเจ็ดกล่าวเสียงหนักแน่น “จริงแท้แน่นอน ครั้งหนึ่งข้าเคยไม่เชื่อเรื่องเหลวไหลนี้ และเคยประลองกับองค์ชายห้าหลายครั้ง อาจกล่าวได้ว่า ฝีมือของข้าเมื่ออยู่ต่อหน้าองค์ชายห้า ก็เปรียบดุจทารก ไม่อาจต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย”หลี่หลงหลินกล่าวเสียงหนักแน่น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่า ฝีมือขององค์ชายห้ายังจะเหนือกว่าพระชายาอีกหรือ?”องค์ชายเจ็ดครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “เกรงว่าจะเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1462

    องค์ชายเจ็ดผู้มีร่างสูงใหญ่กลับถูกซัดจนกระเด็นปลิวไปทั้งอย่างนั้นองค์ชายเจ็ดเสียหลัก ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “นี่...นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”พรวด! โลหิตสีแดงฉานคำหนึ่งพลันถูกกระอักลงบนพื้นซูเฟิ่งหลิงก้าวเข้าไปใกล้ ใช้ปลายทวนเงินชี้ไปยังองค์ชายเจ็ด “เจ้ายอมหรือไม่!”ใบหน้าขององค์ชายเจ็ดแดงก่ำ ชั่วขณะหนึ่งถึงกับพูดไม่ออกเขาพ่ายแพ้แก่สตรีธรรมดานางหนึ่ง!ความแข็งแกร่งที่เคยภาคภูมิใจนักหนา พลันมลายสิ้นในพริบตา!แม้องค์ชายเจ็ดจะไม่เต็มใจอย่างที่สุด แต่แพ้ก็คือแพ้เขายกมือขึ้นประสานหมัด กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พระชายา ข้าน้อยยอมแล้ว! แพ้อย่างหมดใจ ขอยอมศิโรราบ!”“ท่านทำให้ข้าได้ประจักษ์แล้วว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน”ซูเฟิ่งหลิงเก็บทวนเงินกลับ แค่นเสียงเย็นชาคราหนึ่ง “ตอนนี้เจ้าควรขอบคุณแม่ทัพจางที่มิได้ลงมือกับเจ้าในครานั้น มิเช่นนั้นชีวิตของเจ้าคงยากจะรักษาไว้ได้!”“ฝีมือของแม่ทัพจางนั้นทัดเทียมกับข้า หากมิใช่องค์รัชทายาทเพิ่งจะกำชับให้ข้าออมมือไว้ เพื่อมิให้ทำอันตรายถึงชีวิตเจ้า ป่านนี้เจ้าคงกลายเป็นศพภายใต้ทวนของข้าไปแล้ว!”องค์ชาย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1461

    องค์ชายเจ็ดพลันเดือดดาลขึ้นมาทันที “องค์รัชทายาท เจ้าคงจะดูแคลนข้าเกินไปแล้วกระมัง!”หลี่หลงหลินแค่นเสียงเย็นชา “มิใช่ข้าดูแคลนเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้าในตอนนี้ แม้แต่พระชายาองค์รัชทายาทก็ยังเอาชนะไม่ได้ ยิ่งมิต้องพูดถึงจางไป่เจิง เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย”องค์ชายเจ็ดพลันเดือดดาลอีกครา “องค์รัชทายาท เจ้าดูแคลนข้าเกินไปแล้ว!”หลี่หลงหลินยังคงแค่นหัวเราะ “มิใช่ข้าดูแคลนเจ้า ด้วยฝีมือของเจ้าในยามนี้ แม้แต่พระชายาเจ้าก็ยังสู้ไม่ได้ อย่าว่าแต่จะไปคิดต่อกรกับจางไป่เจิงเลย”องค์ชายเจ็ดเหลือบมองซูเฟิ่งหลิงแวบหนึ่งแล้วแค่นเสียงเย็นชา “สตรีธรรมดานางหนึ่ง ข้าไม่ลดตัวไปสู้กับนางหรอก”ซูเฟิ่งหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “องค์ชายเจ็ด เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”ซูเฟิ่งหลิงฝึกยุทธ์มาตั้งแต่เยาว์วัย จิตใจรักการเอาชนะและไม่ยอมคนอย่างยิ่งนางย่อมไม่อาจทนให้ใครมาดูแคลนตนเองได้!องค์ชายเจ็ดกล่าวว่า “พระชายา แม้กองทัพตระกูลซูของเจ้าจะห้าวหาญเก่งกาจในการรบ แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า สตรีธรรมดาเช่นเจ้าอย่าได้อวดดีแถวนี้ ประเดี๋ยวจะหาว่าข้าไม่เตือนหากต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัว!”ซูเฟิ่งหลิงพลัน

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1460

    จวนอ๋ององค์ชายเจ็ดหลี่หยวนกำลังฝึกยิงธนูอยู่ภายในลานฝึกเขาอายุไล่เลี่ยกับองค์ชายแปด แต่เพราะตากแดดตากลมอยู่เสมอ เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ใหญ่อย่างมาก ผิวพรรณดำมืด ไว้หนวดเครา สวมใส่เกราะทั้งตัว ขับเน้นให้องอาจยิ่งขึ้นบ่าวจวนอ๋องวิ่งเหยาะๆ มาหยุดข้างกายองค์ชายเจ็ด พูดรายงานว่า “ท่านอ๋อง รัชทายาทมาเยี่ยม พูดว่ามีเรื่องต้องการพบท่าน...”องค์ชายเจ็ดไม่ตอบ ปล่อยลูกธนูออกจากคันศรแล้วสวบ!ยิงตรงกลางเป้าพอดีองค์ชายเจ็ดพูดเสียงเคร่งขรึม “ให้เขาเข้ามาเถอะ”หลังเวลาครึ่งก้านธูปผ่านไปองค์ชายแปดพาหลี่หลงหลิเข้าลานฝึกเขาก้าวเดินด้วยท่าทางยโสโอหัง ร้องตะโกนว่า “พี่เจ็ด ข้าพารัชทายาทมาเยี่ยมท่าน!”องค์ชายเจ็ดวางธนูในมือลง กล่าวทักทาย “กระหม่อมคารวะรัชทายาท”หลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “ลุกขึ้นเถอะ”องค์ชายเจ็ดลุกขึ้น จัดเกราะให้เรียบร้อยแล้วเอ่ยถาม “องค์ชาย วันนี้ลมอะไรหอบท่านมาได้เล่า?”องค์ชายเจ็ดและหลี่หลงหลินไม่เคยติดต่อกันมาก่อนต่อให้พูดว่าล้วนเป็นองค์ชาย แต่หลี่หลงหลินคนเสเพลคนนี้มีเพียงองค์ชายแปดยอมขลุกอยู่กับเขาต่อให้สุดท้ายเขาได้เป็นรัชทายาท แต่ก็ทำเรื่องเหลวเหลวมากมายอ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1459

    องค์ชายแปดแปลกใจ พูดล้อเล่นขึ้นมา “องค์ชาย ท่านถามละเอียดเพียงนี้ คงไม่ใช่ต้องการช่วยจางไป่เจิงพลิกคดีหรอกกระมัง?”“ตอนนี้เขาเป็นคนใกล้ตายแล้ว ขวัญกล้าล่วงเกินเสด็จแม่ ได้รับโทษก็สมควรแล้ว ใครช่วยพูดแทนเขาก็ไม่มีประโยชน์ ท่านอย่าเสียแรงเปล่าเลย ยังไม่สู้คิดเรื่องหาความสำราญ เหตุใดต้องเสียเวลาอยู่กับคนตายคนหนึ่งด้วยเล่า?”หลี่หลงหลินพูดเสียงเครียด “ไม่ ตอนนี้ข้าสงสัยว่าจางไป่เจิงกำลังถูกปรักปรำ เหล้าของเขาถูกวางยาพิษ”“เหล้าของเขาถูกวางยาพิษ?!” เหงื่อเย็นผุดบนแผ่นหลังองค์ชายแปด “นึกถึงการกระทำของจางไป่เจิงในวันนั้นก็ผิดปกติอยู่บ้างจริงๆ ด้วยความคอแข็งของเขาดื่มเหล้าเพียงสองสามจอกย่อมไม่เมามายถึงขั้นนั้น”แววตาหลี่หลงหลินทอประกาย สบมององค์ชายแปด “ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ข้ายังกล้ายืนยัน ตอนนี้คนร้ายก็คือหนึ่งในพวกเจ้าบรรดาองค์ชายทั้งสาม”องค์ชายแปดชะงักไป สีหน้าเผือดซีด รีบอธิบาย “องค์ชาย ต่อให้มอบความกล้าให้ข้ามากเพียงใด ข้าก็ไม่กล้าวางแผนปรักปรำจางไป่เจิง ต่อให้ข้าไม่อยากออกรบ ก็ไม่มีความคิดปรักปรำทำลายเขา...”หลี่หลงหลินพูดเสียงเคร่งขรึม “ข้าไม่ได้พูดว่าเป็นเจ้าเสียหน่อย ตลอดงานเลี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status