Share

บทที่ 218

Author: จันทร์กระจ่างภูผา
“ใต้เท้าตู้ ท่านมาสาย!”

เว่ยซวินค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา และยกยิ้มเบาๆ

ตู้เหวินยวนหย่อนร่างนั่งลง มุมปากกระตุกเล็กน้อย แค่นเสียงว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะข้าแสร้งหมดสติ ก็คงยังคุกเข่าอยู่หน้าตำหนักหยั่งซิน ทนทุกข์เหมือนขุนนางคนอื่นๆ อยู่แน่!”

เว่ยซวินตกตะลึง

จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้เป็นจักจั่นลอกคราบ[footnoteRef:1] หลุดออกจากเปลือกเพื่อมาตามนัดหมาย [1: หนึ่งในกลยุทธ์ติดพันของสามก๊ก หมายความถึงการหลบหลีกโดยมิให้ผู้ใดล่วงรู้ ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์ในการถอยทัพโดยไม่เกิดความกระโตกกระตาก]

แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินกะโผลกกะเผลก คงเป็นเพราะคุกเข่าอยู่ทั้งคืน ข้อเข่าเลยอ่อนแอ

เว่ยซวินถอนหายใจ “คราวนี้ ฮ่องเต้ตั้งใจแน่วแน่ จะจัดการกับกลุ่มขุนนางของพวกท่านแล้ว!”

เมื่อตู้เหวินยวนได้ยินก็ขมวดคิ้ว “ขันทีเว่ย ท่านหมายความว่าอย่างไร? ฮ่องเต้ไม่ใช่ว่ายืมมือพระเก้าพันปีของท่านมาจัดการกับกลุ่มขุนนางอยู่แล้วหรือ?”

เว่ยซวินส่ายหัวเบาๆ “ผิดแล้ว! จิตใจของฮ่องเต้ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าความสมดุล! หลายปีที่ผ่านมาขันที ขุนนางและทหาร สามกองกำลังได้ต่อสู้กันทั้งที่ลับและที่แจ้ง เขม่นแดกดันกันอยู่ตลอด!”

“ในสายตาคนนอก พวกเราวิ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1598

    เหล่าทหารได้ยินคำพูดของจางไป่เจิง ก็พลันฮือฮากันใหญ่ ทหารใต้บัญชาขององค์ชายเจ็ดอย่างน้อยก็มีหนึ่งพันคน แต่บัดนี้กลับหยุดการทดสอบทั้งหมดเพียงเพราะมีคนไม่ผ่านการทดสอบไม่กี่สิบคน? การทดสอบนี้เชื่อมโยงโดยตรงกับผลงานทางการทัพเชียวนะ! สถานการณ์ในตอนนี้สำหรับต้าเซี่ยถือว่าดีเยี่ยม ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือได้หมดอำนาจลงนานแล้ว ในสายตาของเหล่าทหาร ขอเพียงได้ออกสู่สนามรบ การสร้างผลงานทางการทัพก็เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก แต่บัดนี้จางไป่เจิงกลับปิดกั้นเส้นทางของทหารใต้บัญชาขององค์ชายเจ็ดทั้งหมดโดยตรง องค์ชายเจ็ดมองจางไป่เจิงอย่างไม่พอใจ “ท่านแม่ทัพจาง ท่านหมายความว่าอย่างไร?” องค์ชายเจ็ดไม่คาดคิดว่าจางไป่เจิงจะเด็ดขาดถึงเพียงนี้ จางไป่เจิงออกคำสั่งห้ามทหารใต้บังคับบัญชาของตนออกสู่สนามรบ ซึ่งเท่ากับเป็นการระบุชื่อว่าไม่ให้เขามีโอกาสสร้างผลงาน ในสนามรบ ไม่ว่าทหารนายหนึ่งจะเก่งกาจเพียงใด หากเขาไม่มีกำลังพลใต้บังคับบัญชา ทุกสิ่งก็เป็นเพียงลมปาก อำนาจของคนคนเดียวก็ไม่สามารถต่อสู้กับกองทัพได้เลย ดังนั้น การที่จางไป่เจิงออกคำสั่งห้ามทหารใต้บังคับบัญชาของพระองค์ออกสู่สนามรบ นี่เป็

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1597

    องค์ชายเจ็ดประสานมือคำนับอย่างมั่นใจ “แต่ละนายล้วนแข็งแรงดั่งมังกรพยัคฆ์ เปี่ยมด้วยโลหิตอันร้อนแรง พร้อมออกรบได้ทุกเมื่อ!” จางไป่เจิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เริ่มการทดสอบได้แล้ว ข้าอยากเห็นเหล่าทหารใต้บังคับบัญชาของท่านออกรบในสนามรบ” องค์ชายเจ็ดโบกมือ ทหารเตรียมพร้อมเข้ารับการทดสอบ ส่วนพระองค์ก็ยืนดูอยู่ข้างๆ ในสายตาขององค์ชายเจ็ด การยิงธนูไปห้าสิบก้าวช่างเป็นเรื่องเด็กๆ ขอแค่เป็นคน ก็ทำได้สบายๆ ไม่รู้ว่าสมองของหลี่หลงหลินมีอะไรไปกระทบกระเทือน ถึงได้จัดการทดสอบแบบนี้ขึ้นมา ช่างเสียเวลาจริงๆ! เหล่าทหารใต้บังคับบัญชาขององค์ชายเจ็ดเดินไปยังแท่นทดสอบด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม พวกเขาเหนี่ยวคันธนูและเหนี่ยวลูกธนูเหมือนปกติ แต่ที่แปลกคือ พวกเขาไม่เห็นเป้าธนูเลย! เหล่าทหารต่างตกตะลึง มองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่มันกำลังทดสอบอะไรกันแน่? ถ้าเป็นการทดสอบการยิงธนู แล้วทำไมถึงไม่มีเป้าธนู? แต่เมื่อครู่เหล่าทหารเหล่านั้นผ่านการทดสอบได้อย่างไร? เหล่าทหารต่างมีสีหน้าเลื่อนลอย ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ในเมื่อมองไม่เห็นเป้าธนู แล้วพวกเขาจะยิงธนูได้อย่างไร ทหารกลุ่มหนึ่งพร้อมใจกันวา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1596

    วันต่อมา อาทิตย์อัสดง แสงสุดท้ายของดวงตะวันลับหายไปในดินแดนทางเหนือ ผืนหญ้าอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต เหลือเพียงเสียงลมที่พัดโหมกระหน่ำ ทหารหลายหมื่นนายรวมพลกันในค่าย เตรียมพร้อมสำหรับการทดสอบการมองเห็นในเวลากลางคืน มีเพียงทหารที่ผ่านการทดสอบเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการโจมตีชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือในยามวิกาล เหล่าทหารแต่ละนายล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ในใจของพวกเขาทุกคนต่างรู้ดีว่า การโจมตีชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือในยามวิกาลนี้ เป็นโอกาสทองในการสร้างผลงานทางการทัพอย่างชัดเจน ยิ่งมีหลี่หลงหลินคอยวางแผนอยู่เบื้องหลัง! ขอเพียงผ่านการทดสอบการมองเห็นในเวลากลางคืนได้ ก็ย่อมสามารถสร้างผลงานทางการทัพได้อย่างแน่นอน นี่คือผลงานทางการทัพที่ได้มาอย่างง่ายดาย! ใบหน้าของเหล่าทหารต่างเปื้อนรอยยิ้มสดใส เพราะการทดสอบนี้ช่างง่ายดายเหลือเกิน เหล่าทหารเพียงแค่ยิงธนูสามดอกไปยังเป้าธนูที่อยู่ห่างออกไปห้าสิบก้าว หากยิงถูกเป้าหนึ่งดอก ก็ถือว่าผ่านการทดสอบแล้ว สำหรับเหล่าทหารที่อาการตาบอดตอนกลางคืนได้รับการรักษาจนหายขาดแล้ว นี่มันง่ายดายราวกับมีมือก็ทำได้! หลี่หลงห

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1595

    ได้ยินดังนั้น หลี่หลงหลินก็มองไปยังขอบฟ้า โดยมิได้เอ่ยอะไรเลย ซูเฟิ่งหลิงกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “รัชทายาท องค์ชายเจ็ดผู้นี้ช่างเหลวไหลเกินไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล่าวร้ายท่านถึงเพียงนี้ หากไม่ลงมือจัดการเขาเสียบ้าง เกรงว่าขวัญกำลังใจของทหารจะเปลี่ยนไปนะเพคะ!” เอ่ยแล้ว ซูเฟิ่งหลิงก็พับแขนเสื้อขึ้น ราวกับจะรีบไปคิดบัญชีกับองค์ชายเจ็ดทันที หลี่หลงหลินเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “ก็แค่คนโง่เง่าคนหนึ่งเท่านั้นเอง” ซูเฟิ่งหลิงตกตะลึง นางไม่คิดว่าหลี่หลงหลินจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ องค์ชายเจ็ดทำเกินไปถึงเพียงนี้แล้ว แต่หลี่หลงหลินกลับเอ่ยคำง่ายๆ เพียง คำเดียว? ซูเฟิ่งหลิงกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะเพคะ! หากไม่จัดการ ความน่าเกรงขามของกฎทัพจะอยู่ตรงไหน? องค์รัชทายาทจะเอาหน้าไปอยู่ที่ไหนเพคะ!” หลี่หลงหลินส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “อ้ายเฟย เรื่องนี้เจ้ายังไม่เข้าใจ” “องค์ชายเจ็ดตอนนี้อยู่ใต้บัญชาของจางไป่เจิง ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะต้องไปยุ่ง” “ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการ อย่าให้เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้มาถ่วงเวลาเรื่องใหญ่” ใบหน้าของซูเฟิ่งหลิงเต็มไปด้วยความไม่เ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1594

    เมื่อองค์ชายเจ็ดเอ่ยถึงจุดที่อารมณ์พลุ่งพล่าน ก็ทรงชักกระบี่จากเอวออกมา แล้วอาศัยฤทธิ์สุราฟาดฟันอยู่ข้างกองไฟ ราวกับจะตัดขาดทุกสายตาที่เย็นชา! พระองค์จะใช้กระบี่ในมือพิสูจน์ว่าพระองค์มิได้ด้อยไปกว่าหลี่หลงหลิน! ขอเพียงสร้างผลงานทางการทัพได้ ฮ่องเต้หวู่ต้องทรงมองพระองค์ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปแน่ บัณฑิตร่ายกวี นักรบฟาดฟันกระบี่ ล้วนเป็นวิธีระบายอารมณ์ภายในใจทั้งสิ้น กองไฟลุกโชนสว่างไสว สะท้อนบนพระพักตร์ขององค์ชายเจ็ด เหล่าทหารเมื่อได้ยินคำพูดขององค์ชายเจ็ด ก็พลันเฮฮาครื้นเครงกัน บางคนฟาดฟันหอกกระบี่ บางคนปรบมือโห่ร้องยินดี ในความมืดมิดที่ไม่ไกลออกไป มีนัยน์ตาหงส์คู่หนึ่ง จับจ้องทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายทหารไว้ในสายตา ซูเฟิ่งหลิงมองเห็นทุกสิ่ง สายลมพัดนำเสียงโห่ร้องยินดีของเหล่าทหารมา นางเก็บความโกรธไว้ในใจแทบไม่อยู่ เพราะนางได้ยินทุกคำที่องค์ชายเจ็ดเอ่ยเมื่อครู่ชัดเจนแจ๋ว ซูเฟิ่งหลิงกล่าวเสียงเย็นชา “นี่มันคิดจะก่อกบฏ!” เดิมทีนางคิดจะเข้าไปห้ามปราม แต่จู่ๆ ก็นึกถึงคำที่หลี่หลงหลินเคยกำชับนางไว้ ไม่ว่าเรื่องใด หากไม่แน่ใจ ต้องรีบไปหาหลี่หลงหลินทันที หากหา

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1593

    ได้ยินดังนั้น เหล่าทหารต่างตกตะลึง และพากันจ้องมององค์ชายเจ็ด องค์ชายเจ็ดเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “ข้าไม่เคยเชื่อเรื่องตาบอดตอนกลางคืนอะไรนั้นหรอกนะ ดวงตาที่ปกติดี เว้นแต่จะตาบอดไปแล้ว ไม่เช่นนั้นจะมองไม่เห็นได้อย่างไร?” เหล่าทหารมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เมื่อองค์ชายเจ็ดเอ่ยคำนี้ออกมา ทำให้พวกเขารู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย แต่พวกเขายังไม่ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างตนเองกับองค์ชายเจ็ด แม้ว่าองค์ชายเจ็ดจะกินอยู่ร่วมกับทหารในกองทัพ แต่เมื่อกลับถึงเมืองหลวงแล้ว เหล่าทหารก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ส่วนองค์ชายเจ็ดก็จะประทับอยู่ในวัง มีคนรับใช้ส่วนตัว และมีอาหารจากในวังคอยบำรุง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดภาวะขาดสารอาหาร ดังนั้น ในสายตาขององค์ชายเจ็ด โลกนี้จึงไม่มีตาบอดตอนกลางคืนจริงๆ เพราะพระองค์ไม่เป็นอย่างนั้น แต่เหล่าทหารกลับแตกต่างออกไป ในชีวิตประจำวันพวกเขาไม่ค่อยได้สัมผัสอาหารดีๆ ที่มีเนื้อสัตว์อุดมสมบูรณ์ โภชนาการจึงไม่เพียงพอจริงๆ พอถูกองค์ชายเจ็ดหลอกล่อเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ดวงตาที่มองไม่เห็น แม้แต่ขาก็อาจจะถูกหลอกจนพิการได้ องค์ชายเจ็ดแย้มยิ้มเย็นชา “นี่อาจจะเป็นแผนกา

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status