สลับชะตาองค์ชายจอมโจร

สลับชะตาองค์ชายจอมโจร

last updateПоследнее обновление : 2025-06-11
Язык: Thai
goodnovel12goodnovel
Недостаточно отзывов
6Главы
7Кол-во прочтений
Читать
Добавить в мою библиотеку

Share:  

Report
Aннотация
Каталог
SCAN CODE TO READ ON APP

เมื่อองค์ชายผู้สูงศักดิ์ถูกสลับใบหน้ากับจอมโจร และกำลังจะถูกส่งไปประหาร ทว่าฟ้าดินกลับช่วยให้เขาหลบหนีออกมาได้ และได้รับความช่วยเหลือจากหญิงสาวหมอยาในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่าเขาเป็นเจ้าโจรชั่วคนนั้น แต่กลับให้โอกาสเขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในหมู่บ้านร่วมกับเธอ... เขาจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป จะทวงคืนชะตาตนเองกลับมาได้หรือไม่?

Узнайте больше

Chapter 1

บทที่ 1 : สับเปลี่ยนชะตา

สายลมปลายฤดูหนาวพัดอย่างรุนแรง ปลิดใบไม้จากกิ่งก้านให้ปลิวว่อนบนผืนแผ่นดินอันเยียบเย็น หิมะโปรยปรายลงบนภูผาใหญ่ สะท้อนกับแสงจันทร์เพ็ญจนแวววาวประดุจอัญมณี

ทว่าผู้คนเบื้องล่างขุนเขานั้นไม่ได้ว่างพอจะรับชมความงามของมัน เสียงฝีเท้าหนักและ เสียงหอบหายใจของเหล่าทหารม้าหลวงนับร้อยที่กำลังไล่ตามใครสักคน บอกให้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อเสพความงามของบรรยากาศ

“องค์ชาย! มันหนีขึ้นหน้าผาพะย่ะค่ะ! ม้าของพวกเราตามไปไม่ได้”

“ล้อมภูเขานี้เอาไว้! อย่าปล่อยให้มันลอยนวล! ข้าจะไปจัดการมันเอง!” ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าองค์ชาย จ้องมองเหล่าทหารด้วยสายตาอันเด็ดขาด ก่อนจะแหงนมองชายผู้หนึ่งที่ใช้วิชาตัวเบา วิ่งพลาง กระโดดพลาง จนไต่ขึ้นหน้าผาไปไกล

องค์ชายผู้นี้มีผิวเนียนกระจ่างดั่งหิมะต้นฤดู ทว่าแฝงความเปล่งปลั่งของโลหิต ด้วยสุขภาพที่ดีจากการฝึกฝนขัดเกลาร่างกายมานาน เส้นผมของเขาดำสนิท เรียงเส้นอย่างมีวินัย เงางามประหนึ่งหมึกสดบนพู่กันของปราชญ์ เกล้าขึ้นครึ่งศีรษะอย่างเรียบง่าย คิ้วของเขาเรียวและเข้ม ใต้คิ้วนั้นคือดวงตาลุ่มลึกเยือกเย็น มีประกายเข้มแข็งแต่ไม่แข็งกร้าว คล้ายอ่านทุกสิ่งทุกอย่าง สันจมูกโด่งรับกับปลายปากบางที่มีเส้นโค้งสวยงาม

องค์ชายผู้นี้คือ องค์ชายห้า นามว่า จ้าวหลี่ซวน เขามิใช่เพียงแต่เชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์เท่านั้น หากแต่เป็นจอมยุทธ์ผู้มีใจกล้าหาญด้วย องค์จักรพรรดิได้มอบหมายให้เขาออกตรวจการบ้านเมือง เพื่อดูสภาพชีวิตราษฎรอยู่เสมอ ๆ และในหนนี้นั้น ภารกิจของเขาคือติดตามเบาะแสของ “เจี่ยเถาอู่” โจรชื่อกระฉ่อนที่ก่อวีรกรรมปล้น ฆ่า และเผาบ้านเรือนของราษฎรเป็นจำนวนมาก หนำซ้ำมันยังมีฝีมืออันฉกาจ แม้แต่มือปราบของทางการยังมิอาจจับตัว

ทว่าในค่ำคืนนี้ ในการนำขององค์ชาย กลับไล่ต้อนมันจนต้องขึ้นไปบนหน้าผา ซึ่งเจ้าชายเองก็ไม่รอช้า ลงมาจากหลังอาชาคู่ใจ ใช้วิชาตัวเบาที่ร่ำเรียนมาจากแม่ทัพอันดับหนึ่งของดินแดน กระโดดไต่หน้าผาตามขึ้นไปติด ๆ

ไม่นานนัก เจี่ยเถาอู่ก็ขึ้นไปถึงยอดหน้าผา ทว่าองค์ชายกลับตามมากระชั้นชิด จอมโจรในชุดเสื้อคลุมหนังเก่า ๆ เปรอะไปด้วยคราบฝุ่นโคลนรู้ว่าไม่อาจหนีพ้น จึงหันกลับไปเผชิญหน้า มันยืนตระหง่านท่ามกลางหิมะโปรยปรายลงมาใต้แสงจันทร์

“ฮ่าฮ่า... องค์ชายห้าผู้รักความยุติธรรม... เสด็จมาจับโจรด้วยองค์เองงั้นเหรอ? เป็นเกียรติยิ่งนัก ว่าแต่ท่านมาคนเดียวเช่นนี้ มั่นใจในฝีมือขนาดนั้นเชียว?” เจี่ยเถาอู่ยั่วยุ ผมของมันยุ่งเหยิง ใบหน้ามอมแมมที่เต็มไปด้วยด้วยเคราเหยียดยิ้ม ก่อนจะชักกระบี่ออกมา องค์ชายห้าก็ไม่รอช้า ชักกระบี่คู่ใจออกมาด้วยเช่นกัน

องค์ชายพุ่งเข้าหาอีกฝ่ายดังเหยี่ยวพุ่งตัวจับเหยื่อ กระบี่ในมือสาดประกายเย็นเยียบ ฟาดตรงเข้าใส่บ่าซ้ายของเถาอู่ จอมโจรยกกระบี่รับไว้ แต่แรงปะทะทำให้ต้องถอยครึ่งก้าว เพียงเท่านั้นก็ทำให้เขารู้ตัวว่าไม่อาจเทียบพละกำลังกับองค์ชายได้

เสียงเหล็กปะทะกันต่อเนื่อง รวดเร็ว รุนแรง ท่ามกลางหิมะโปรยปราย สองร่างทะยานฟาดฟันกันดั่งพายุ จอมโจรยิ่งสู้ยิ่งเพลี่ยงพล้ำ ล่าถอยไปเรื่อย ๆ และเมื่อหลี่ซวนใช้เพลงกระบี่หลวง “อวิ๋นหลิงเก้าท่าชำระจิต” ท่าไม้ตายลำดับหก “ฝ่าม่านเงาเพลิง” แหวกการปัดป้องทั้งหมดของจอมโจร แล้วแทงเข้าที่บ่าซ้ายของมัน เจ้าโจรชั่วก็พลันลื่นล้มลงกับผืนพสุธา

แต่ขณะที่องค์ชายเงื้อกระบี่จะฟันซ้ำ เจี่ยเถาอู่ยิ้มกลับยิ้มเหยียด เอื้อมมือหยิบก้อนหยกสีดำออกมาจากอกเสื้อ มันส่องแสงประหลาดในความมืด

“ในเชิงกระบี่ ข้าไม่อาจเทียบเจ้าได้เลย แต่เชื้อพระวงศ์เช่นเจ้ารู้จักคำว่า ‘โลกที่แท้จริง’ หรือไม่? มันไม่ได้มีแต่วิชากระบี่เท่านั้นหรอกที่ทำให้ชนะศึก!”

หลี่ซวนตัดสินใจจะฟันซ้ำ แต่เพียงพริบตาเดียว แสงสีเขียวหม่นจากหยกดำก็กระจายออกมาเป็นม่านหมอก ม้วนตัวทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน

“นี่มัน... เวทมนตร์โบราณงั้นรึ?!”

“ข้ารอวันนี้มานานแล้ว องค์ชาย... ฮ่าฮ่า”

เถาอู่กล่างพลางหัวเราะบ้าคลั่ง ม่านหมอกซัดกระแทกกระบี่ในมือหลี่ซวนจนหลุด องค์ชายรู้สึกเหมือนลมหายใจถูกดูดกลืน เสียงในหัวดังอื้ออึง ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงหล่นลงบนพื้น แล้วสติสัมปชัญญะก็พลันดับวูบไป

.

เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาพบว่าตนเองนอนอยู่บนพื้นดินที่เต็มไปด้วยหิมะขาว แขนขาหนักอึ้งจนขยับได้ยาก แต่เสียงที่ดังขึ้นข้างตัว ทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น

“เจ้าโจรชั่วเถาอู่ถูกองค์ชายห้าปราบได้แล้ว! จับมันไว้!”

หลี่ซวนหันขวับ เขาเห็นภาพตนเอง หรือหากกล่าวให้ถูกคือร่างกายที่คล้ายกับร่างของตน ในเครื่องแต่งกายขององค์ชาย กำลังยืนใช้ใบหน้างาม ส่งยิ้มให้เหล่าทหารกล้าทั้งหลายที่ห้อมล้อม ที่ไหล่ซ้ายมีผ้าพันแผล ที่เป็นแผลที่เขาแทงเจ้าโจรเถาอู่

แล้วเมื่อเขาพยายามชำเลืองตามองตัวเอง กลับพบว่าตัวเองสวมเสื้อผ้าของจอมโจร พอลูบใบหน้าก็พบว่ามีหนวดเครา  หยกดำหล่นอยู่ข้างตัว แตกเป็นเสี่ยง ๆ

“ไม่... ข้าไม่ใช่โจร! ข้าเป็น...”

เขาพยายามตะโกนอธิบาย แต่คำพูดของเขากลับไร้คนฟัง ทหารวิ่งเข้ามากระชากแขนเขา กดใบหน้าลงกับพื้นดิน

“อย่าขัดขืน! โจรเถาอู่ เจ้าถูกจับำหรับความผิดทั้งหมดที่ก่อไว้ ซ้ำยังมีความผิดใหม่ ทำร้ายองค์ชายห้า!”

หลี่ซวนร้องออกมา สายตาเบิกโพลงมอง “ตัวเอง” ยืนอยู่ท่ามกลางหิมะขาวบริสุทธิ์

“เจ้าทำอะไรลงไป?!!”

เขาตะโกนลั่น แต่คนที่กำลังใช้ใบหน้าของเขาเพียงส่งยิ้มเย้ยหยันให้ ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาต่อจากนั้น ก่อนที่เหล่าทหารกล้าจะพันธนาการเขาไว้ด้วยเครื่องจองจำ แล้วนำไปใส่ไว้ในกรงขังที่เตรียมมา

หลี่ซวนที่มีใบห้าของเถาอู่ โดนจับโยนเข้าไปอยู่ในกรงที่อยู่บนเกวียน ผ้าขาดรุ่งริ่งของจอมโจรยังห่อหุ้มร่าง เขาลูบใบหน้าตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่สัมผัสมีแต่ความแปลกแยก

“ไม่ใช่ข้า... นี่ไม่ใช่ข้า...”

น้ำเสียงเขาแหบแห้ง ยิ่งพยายามพูดอธิบายแก่ทหาร ยิ่งถูกข่มขู่ให้เงียบเสียง สถานะของเขา แม้จะมีสายเลือดราชวงศ์แท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับถูกปฏิบัติอย่างไร้ค่า เมื่อมีใบหน้าของโจรผู้ร้ายเช่นนี้ เขาทำได้เพียงสะอื้นอยู่คนเดียวในความมืดเท่านั้น   ตอนนี้ชะตากรรมของเขาดั่งถูกขีดให้นับถอยหลังสู่ความตายที่กำลังมาเยือน

.

หลายวันต่อมา ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฝนโปรยบาง ๆ ดุจน้ำตาฟ้าร่ำไห้ให้ชะตากรรมของผู้บริสุทธิ์

หลังถูกไต่สวนอย่างเร่งรีบ แล้วถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงตั้งแต่ถูกจับส่งมาที่นี่ เขาก็ถูกนำไปใส่เกวียนที่บรรจุนักโทษ แล้วพาไปยังลานกลางเมือง เพื่อประจานผู้กระทำความผิดฉกรรจ์ เสียงกลองประหารดังขึ้นสามครั้ง ประตูกรงเปิดออก พร้อมเสียงตะโกนจากทหารยาม

“เจี่ยเถาอู่! เจ้าต้องโทษประหารในวันนี้! ออกมา!”

หลี่ซวนในคราบจอมโจรถูกฉุดกระชากออกมาจากกรงขัง โซ่ตรวนหนักอึ้งพันมือและข้อเท้า ทหารสองนายจับแขนเขาแน่นราวกับกลัวปีศาจ เขาถูกลากขึ้นไปยังลานประหารกลางเมือง

รอบลานกว้าง ชาวบ้านพากันมุงดู บ้างขว้างก้อนหินใส่ บ้างตะโกนด่า

“เจ้าโจรนรก!”

“ขอให้ตกนรกหมกไหม้!”

“มันเผาหมู่บ้านข้า!”

หลี่ซวนหันมองสายตาของผู้คนทีละคู่ ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดที่มีต่อ “เจี่ยเถาอู่” ไม่ใช่เขา แต่เขาไม่อาจแก้ตัวใด ๆ ได้เลย

“ท่านพ่อ... พระเชษฐา... สวรรค์... เชื่อข้าที...”

เขากระซิบอย่างแผ่วเบากับตัวเอง แม้รู้ว่าไม่มีใครได้ยินอีกแล้ว คงจะมีเพียงเทพยดาเท่านั้นที่รับฟัง แต่พวกท่านจะตอบสนองอย่างไรก็สุดที่จะทราบได้

ลานประหารตั้งอยู่กลางเมือง บนยกพื้นไม้ มีเพชฌฆาตและดาบใหญ่เตรียมไว้เรียบร้อย คนมากมายกรูเข้ามาชมประหารโจรชื่อดัง พ่อค้าแม่ขายเร่ของข้างทางราวกับเป็นงานเทศกาล

หลี่ซวนถูกเหวี่ยงลงคุกเข่าบนแท่นไม้ แขนทั้งสองถูกมัดตรึงไว้กับเสา เพชฌฆาตยืนถัดไปเพียงห้าก้าว ดาบยาววางแนบข้างมือ

“เตรียมตัวประหาร! นับถอยหลัง!”

“หนึ่ง!”

“สอง!”

ท่ามกลางเสียงนับถอยหลัง สายลมแหวกผ่านยอดไม้กลับแรงขึ้นเรื่อย ๆ ท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับกลายเป็นสีดำสนิทในพริบตา เมฆปั่นป่วนบดบังแสงอาทิตย์ ราวกับสวรรค์โกรธเคืองต่ออาชญากรตัวจริง ที่ยังมิได้รับการพิพากษาโดยธรรม

“สาม!”

ทันใดนั้นเอง ฟ้าผ่าเปรี้ยงใหญ่ผ่าลงมากลางลานประหาร เป้าหมายไม่ใช่ที่ใด หากแต่ผ่าลงยังเสาหลักของแท่นประหารเอง!

เปลวเพลิงลุกไหม้ เสาไม้แตกกระจาย ผู้คนกรีดร้องวิ่งหนี ทหารล้มระเนระนาด แรงระเบิดของสายฟ้า สะบัดโซ่ตรวนของหลี่ซวนให้หลุดกระเด็นออก เขาไม่รอช้า อาศัยจังหวะที่สายฟ้ายังฟาดลงมาต่ออีกหลายครั้ง จนไฟไหม้ทั่วลานประหารวิ่งฝ่าฝูงชนออกไปอย่างสุดแรงเกิด

ทหารหลายคนยังตั้งสติไม่ได้ บ้างตกใจคิดว่าเป็นเทพเจ้าลงโทษ บ้างตะโกนไล่ตามแต่ไม่ทัน เขาจึงได้จังหวะรีบหนีออกจากเมือง ใช้วิชาตัวเบาขึ้นไปยังหลังคาบ้านคน ฝ่าข้ามกำแพงเมือง หลบเข้าป่าทางตะวันตกเฉียงใต้ แม้จะบาดเจ็บ เลือดไหลจากแผลบนหลัง มือทั้งสองเปื้อนโคลนและเลือด

เขาหนีจนสุดฝีเท้า ไม่รู้ว่าหนีมาได้ไกลกี่ลี้ หนีมาจนสิ้นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย ต้องทรุดกายลงข้างกอไม้ใหญ่ หายใจรวยริน

“ข้าจะ... ไม่ตาย...”

องค์ชายผู้ถูกสับเปลี่ยนหน้ากัดฟันพูดกับตัวเอง ขณะที่สติของเขาค่อย ๆ ดับวูบลง เสียงฝนเริ่มซาลง แต่ก็คงยังคงโปรยปรายลงมาเบา ๆ ยังพื้นดินรอบตัว ทว่าก่อนสติจะดับสนิท สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า โสตประสาทของเขาแว่วยินเสียงผู้หญิงดังขึ้นเบา ๆ

“ใครกัน... คนบาดเจ็บงั้นหรือ?”

หลี่ซวนฝืนลืมตาขึ้นครั้งสุดท้าย สายตาอันเลือนรางเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งโน้มตัวลงดูแผลเขา ก่อนสติจะดับสิ้นสนิทไป

จากนี้ชะตาขององค์ชายผู้ถูกสับเปลี่ยน กำลังจะเริ่มต้นใหม่ในชื่อ “จอมโจรเจี่ยเถาอู่”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Комментарии

Комментариев нет
6
บทที่ 1 : สับเปลี่ยนชะตา
สายลมปลายฤดูหนาวพัดอย่างรุนแรง ปลิดใบไม้จากกิ่งก้านให้ปลิวว่อนบนผืนแผ่นดินอันเยียบเย็น หิมะโปรยปรายลงบนภูผาใหญ่ สะท้อนกับแสงจันทร์เพ็ญจนแวววาวประดุจอัญมณีทว่าผู้คนเบื้องล่างขุนเขานั้นไม่ได้ว่างพอจะรับชมความงามของมัน เสียงฝีเท้าหนักและ เสียงหอบหายใจของเหล่าทหารม้าหลวงนับร้อยที่กำลังไล่ตามใครสักคน บอกให้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อเสพความงามของบรรยากาศ“องค์ชาย! มันหนีขึ้นหน้าผาพะย่ะค่ะ! ม้าของพวกเราตามไปไม่ได้”“ล้อมภูเขานี้เอาไว้! อย่าปล่อยให้มันลอยนวล! ข้าจะไปจัดการมันเอง!” ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าองค์ชาย จ้องมองเหล่าทหารด้วยสายตาอันเด็ดขาด ก่อนจะแหงนมองชายผู้หนึ่งที่ใช้วิชาตัวเบา วิ่งพลาง กระโดดพลาง จนไต่ขึ้นหน้าผาไปไกลองค์ชายผู้นี้มีผิวเนียนกระจ่างดั่งหิมะต้นฤดู ทว่าแฝงความเปล่งปลั่งของโลหิต ด้วยสุขภาพที่ดีจากการฝึกฝนขัดเกลาร่างกายมานาน เส้นผมของเขาดำสนิท เรียงเส้นอย่างมีวินัย เงางามประหนึ่งหมึกสดบนพู่กันของปราชญ์ เกล้าขึ้นครึ่งศีรษะอย่างเรียบง่าย คิ้วของเขาเรียวและเข้ม ใต้คิ้วนั้นคือดวงตาลุ่มลึกเยือกเย็น มีประกายเข้มแข็งแต่ไม่แข็งกร้าว คล้ายอ่านทุกสิ่งทุกอย่าง สันจมูกโด่งรับกับ
last updateПоследнее обновление : 2025-06-06
Читайте больше
บทที่ 2 : สตรีผู้ช่วยชีวิต
เสียงฝนยังคงโปรยปรายลงมาเบา ๆ บนหลังคาฟางอย่างไม่หยุดหย่อน แสงฟ้าแลบเป็นระลอกสว่างวาบผ่านช่องหน้าต่างไม้ ร่างหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนเสื่อผืนเก่าในกระท่อม ขาหอบหายใจถี่ ร่างกายเปียกชุ่ม เลือดซึมออกจากบาดแผลกลางหลัง เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งยังชุ่มน้ำจนแทบแนบติดผิวเสียงประตูไม้เก่าดังแอ๊ดเบา ๆ หญิงสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้อง พร้อมตะเกียงน้ำมันในมือ แสงอุ่นนวลจากเปลวเทียนสะท้อนดวงหน้าของนางอย่างแผ่วเบานางคือหญิงสาวผู้ที่พบร่างเขานอนหมดสติอยู่ข้างลำห้วยริมทุ่งนา ท่ามกลางฝนที่กระหน่ำลงมาในยามค่ำ กระท่อมของนางตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางผืนนาอันเวิ้งว้าง ไม่มีเพื่อนบ้าน ไม่มีญาติพี่น้อง เป็นอาคารเล็ก ๆ ที่มีเพียงหญิงสาวนางเดียวใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบงันกระนั้น ความเงียบในวันนี้ กลับถูกทำลายโดยเสียงหายใจอันเหนื่อยอ่อนของเขาหญิงสาวนั่งลงข้างตัวชายแปลกหน้า เอื้อมมือบิดผ้าเช็ดร่างเขาอย่างระมัดระวัง น้ำจากผมของเขาหยดลงกับพื้น นางมองด้วยสายตาเรียบสงบ แต่เปี่ยมด้วยความระวังใบหน้าของนางงดงามประหนึ่งภาพเขียนจากฝีแปรงของจิตรกรวังหลวง ผิวเนียนผ่องราวหยกขาว ไม่มีตำหนิแม้แต่น้อย และเมื่อแสงตะเกียงสาดส่องต้อง พ
last updateПоследнее обновление : 2025-06-06
Читайте больше
บทที่ 3 : หมอยา
แดดยามสายสาดลอดผ่านไผ่สูงริมชายคา กลิ่นดินชื้นแตะจมูกอ่อน ๆ ขณะที่ไอน้ำค้างยังเกาะอยู่บนปลายใบพืชผัก ซูเหยียนก้มตัวอยู่ในสวนเล็กหลังกระท่อม มือของนางเปื้อนดินเล็กน้อย แต่กลับดูคล่องแคล่วและสง่างาม แม้ชุดของนางจะเป็นเพียงผ้าฝ้ายพื้นเมืองสีน้ำเงินเข้ม หากแต่ท่วงท่าการก้มถอนผัก วางตะกร้า หรือตรวจต้นใบล้วนบรรจงราวกับการร่ายรำของผู้ผ่านการฝึกศิลปะมาอย่างชำนาญสวนของนางไม่ใหญ่ เป็นเพียงแปลงดินแคบ ๆ เรียงชิดแนวไม้ไผ่ และมีรั้วไม้เตี้ย ๆ กั้นรอบ ในแปลงมีทั้งต้นผักชีฝรั่ง กวางตุ้งเขียว ขิงข่า ตะไคร้ และพืชสมุนไพรอีกหลายชนิดที่มักไม่พบในครัวเรือนทั่วไปนางเอื้อมเด็ดใบโหระพาอย่างระวัง ตรวจดูรากว่านหางจระเข้ แล้วบรรจงใช้มีดปลายแหลมเล็ก ๆ ตัดส่วนที่ใช้ได้เก็บลงตะกร้า ขณะถอนต้นกุยช่าย นางหันไปมองกระท่อมหลังน้อย ริมหน้าต่างยังเปิดไว้ ทำให้นางพอรู้ว่าคนบาดเจ็บยังคงนอนนิ่งอยู่“ต่อให้เป็นโจรหรือปีศาจก็ตาม.. คนที่เจ็บ ก็ยังต้องหายากินอยู่ดี...” ซูเหยียนถอนหายใจเบา ๆ แสงแดดกระทบใบหน้าด้านข้างของนาง ดวงตาดำขลับของหญิงสาวเปล่งประกายภายใต้ความเงียบ ยากที่ผู้ใดจะรู้ว่าในใจนางกำลังคิดสิ่งใดอยู่จนกระทั่งในตะ
last updateПоследнее обновление : 2025-06-06
Читайте больше
บทที่ 4 : การตัดสินใจ
แดดสายคล้อยเหนือหลังคาฟาง เสียงจั๊กจั่นครางระงมอยู่หลังแนวไม้ไผ่ในยามสายอันเงียบสงบ แต่ภายในกระท่อมหลังน้อย กลับมีคลื่นความกดดันอันมองไม่เห็นแผ่ซ่าน เมื่อเสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังก้าวเดินเข้ามา ก่อนจะหยุดลงหน้าประตูไม้ตึง ตึง ตึง“หมอหญิงซูเหยียน เปิดประตูด้วยเถิด ข้า ผู้ใหญ่บ้าน หลินจู้เอง” เสียงผู้มาเยือนดังขึ้นหลังเคาะประตูหลายครั้ง ซูเหยียนเหลือบตามองหลี่ซวนเพียงแวบหนึ่ง ก่อนพับผ้าเช็ดมือ แล้วเดินไปเปิดประตู ทำให้นางพบกับชายสูงวัยร่างสูงใหญ่ ผมหงอกแซมขมับในชุดผ้าฝ้ายสีเขียวเนื้อหนา ยืนอยู่พร้อมชาวบ้านอีกเกือบสิบคนด้านหลัง“ข้าได้ยินว่ามีชายแปลกหน้าอยู่ในเรือนเจ้ามาหลายวันแล้ว” ผู้มาเยือนกล่าว “เจ้าไม่รายงานใคร ทั้งที่ธรรมเนียมของพวกเราระบุชัดว่า หญิงชายไม่ควรอยู่ร่วมเรือน หากมิใช่ญาติหรือสามีภรรยา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หญิงต้องเสียหาย”“เขาเป็นคนบาดเจ็บ ข้าไม่อาจปล่อยเขาให้ตาย” ซูเหยียนตอบโดยไม่หลบสายตา ผู้ใหญ่บ้านถอนหายใจ แววตายังแข็งกร้าวราวกับจะเอาโทษให้ได้“แม้เจ้าจะเป็นหมอยา แต่เจ้าก็เป็นหญิงไม่มีสามี ชื่อเสียงของเจ้ามีผลต่อความเชื่อมั่นของหมู่บ้าน ถ้าเจ้าทำเช่นนี้ ต่อไปชายใดก
last updateПоследнее обновление : 2025-06-10
Читайте больше
บทที่ 5 : งานแต่ง
วันรุ่งขึ้นที่ผู้ใหญ่บ้านนัดหมายให้เป็นวันแต่งงานได้มาถึงเสียงฆ้องกลองจากปลายหมู่บ้านดังก้องมาแต่เช้า กลิ่นธูปหอมจาง ๆ ลอยอบอวลมากับลม ขณะที่แสงแดดอ่อนยามรุ่งสาดส่องลอดม่านไม้ไผ่ซูเหยียนยืนอยู่หน้ากระจกไม้เล็ก ๆ ภายในเรือนของตน สวมชุดคลุมผ้าฝ้ายสีแดง พร้อมทั้งผ้าคลุมหน้าที่แม่เฒ่าในหมู่บ้านนำมาให้ คลุมทับเสื้อและกระโปรงสีเขียวด้านใน เชือกคาดเอวถักจากเส้นไหมสีน้ำตาลแดงถูกมัดไว้หลวม ๆ ที่เอว แม้จะไม่ใช่ชุดเจ้าสาวตามธรรมเนียมชาววัง แต่เมื่ออยู่บนเรือนร่างของหญิงสาวผู้นี้ กลับงามประหลาดจนมิอาจละสายตานางส่องกระจกโดยไม่แต่งเติมใบหน้ามากนัก ร่างกายของนางอบอวลด้วยกลิ่นยาหอมอ่อน ๆ จากตลับไม้เก่า ๆ ซึ่งเคยเป็นของมารดา เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย นางก็เดินออกไปยังลานหน้ากระท่อม ที่ซึ่งมีโต๊ะไม้สองสามตัวเรียงกันง่าย ๆ รองรับพิธีแต่งงานที่มิได้ใหญ่โต หลี่ซวนยืนอยู่ที่นั่น ผมยาวถูกมัดไว้ลวก ๆ สวมชุดผ้าหยาบ ๆ ของชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ผู้ใหญ่บ้านนำมาให้ แทนชุดนักโทษที่สวมอยู่แต่แรก แม้จะไม่ได้สภาพดีเท่าไรนัก เพราะผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้เอ็นดูเขามากพอจะให้ของดี ๆ แต่ก็ดีกว่าชุดรุ่งริ่งเปื้อนดินโคลนที่เขาสวมตอ
last updateПоследнее обновление : 2025-06-11
Читайте больше
บทที่ 6 : ความจริงของหมู่บ้าน
สองสามวันผ่านไป นับตั้งแต่งานแต่งงานที่เรียบง่ายและเปี่ยมด้วยนัยสำคัญ หลี่ซวนเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาก แม้บาดแผลยังไม่จางหาย แต่เรี่ยวแรงก็มากพอจะเดินเองได้ ซูเหยียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นางกลับมาสวมชุดผ้าฝ้ายสีน้ำเงิน คอเสื้อและแขนเสื้อลายสีแดงและทองเหมือนเดิม ยังนอนในห้องเก็บยาและปรุงสมุนไพร ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการปรุงยา ส่วนหนึ่งนำมาให้หลี่ซวนในคราบเถาอู่ที่กำลังบาดเจ็บ อีกส่วนบรรจุให้ห่อ เหมือนเตรียมไว้สำหรับสถานการณ์ข้างหน้า ราวกับชีวิตนี้ไม่มีเหตุการณ์แต่งงานใด ๆ เกิดขึ้นในเช้าวันหนึ่ง หลังออกไปเก็บสมุนไพร ปรุงยาเรียบร้อย นางส่งถ้วยยาร้อนให้เขาเช่นเคย แต่แทนที่จะเงียบตามปกติ นางกลับเอ่ยขึ้นเบา ๆ"วันนี้มีประชุมหมู่บ้านที่ลานกลางหมู่บ้าน ข้าเห็นว่าเจ้าควรไปฟังด้วยตัวเอง...""ชาวบ้านยอมให้ข้าไปหรือ?" หลี่ซวนถาม ก่อนจะมองหน้านางอย่างแปลกใจ"ไม่มีใครห้ามเจ้า ตั้งแต่เจ้าเอ่ยว่าจะเป็นสามีของข้า" ซูเหยียนพูดเรียบ ๆ แล้วยิ้มให้ ไม่ใช่เชิงล้อเลียน ไม่ใช่หยอกล้อ"เจ้าจะไปด้วยไหม?" หลี่ซวนถามขึ้น"ไปสิ ข้าต้องนำสมุนไพรที่ปรุง ไปให้ชาวบ้านหลาย ๆ คน" ซูเหยียนบอกกับเขา ก่อนจะนำห่อยาสมุนไพรจำนวนหนึ่งใ
last updateПоследнее обновление : 2025-06-11
Читайте больше
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status