วันพรุ่งนี้คือวันสำคัญที่สุดในชีวิตของสองคู่รัก ภาคินัย กับ ปลายฝัน และ ธาม กับ น้ำหวาน ค่ำคืนนี้จึงเป็นค่ำคืนแห่งการเตรียมตัวครั้งสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความสุข และความรู้สึกผสมปนเปกันไปหมด ทุกคนต่างพยายามจัดการทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้วันพรุ่งนี้เป็นวันที่สวยงามและน่าจดจำตลอดไป
คฤหาสน์ภาคินัยคึกคักเป็นพิเศษ แสงไฟสว่างไสวไปทั่วบริเวณ สื่อถึงความรื่นเริงที่กำลังจะเกิดขึ้น ห้องรับรองใหญ่ถูกใช้เป็นสถานที่เก็บของขวัญและของชำร่วยที่เตรียมไว้สำหรับงานแต่งงาน พนักงานหลายคนกำลังสาละวนกับการจัดเตรียมสิ่งของต่างๆ ให้เรียบร้อย ในขณะที่บรรดาญาติผู้ใหญ่ต่างเดินทางมาถึงเพื่อร่วมงานมงคลที่กำลังจะมาถึง
คุณปู่ภาคินัย นั่งอยู่บนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่น ใบหน้าของคุณปู่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและแววตาที่เปี่ยมสุข เขาคอยให้คำแนะนำและดูแลความเรียบร้อยอยู่ห่างๆ
"ตาภีม! พรุ่งนี้แกต้องตื่นเช้านะ รู้ไหม" คุณปู่ภาคินัยเอ่ยเตือนหลานชายที่เดินไปมาไม่หยุด
ภาคินัยหัวเราะเบาๆ "ครับคุณปู่ ผมรู้แล้วครับ"
ปลายฝันเดินเข้ามาหาคุณปู่พร้อมกับชาสมุนไพรหนึ่งแก้ว "คุณปู่คะดื่มชาสมุนไพรหน่อยนะคะจะได้หลับสบายค่ะ"
"โอ้โห! น่ารักจริงๆ เลยหนูปาย" คุณปู่ภาคินัยรับแก้วชามาจิบ "พรุ่งนี้หนูปายคงตื่นเต้นน่าดูเลยสิ"
ปลายฝัน ยิ้มเขิน "ค่ะคุณปู่ปายตื่นเต้นมากเลยค่ะเหมือนฝันไปเลย"
ภาคินัยเดินเข้ามานั่งข้างปลายฝันเขาโอบไหล่เธอเบาๆ "ผมก็เหมือนกันครับปาย"
"ปู่ก็ตื่นเต้นนะ อยากเห็นหน้าเหลนเร็วๆ แล้ว" คุณปู่แซวขึ้นมาทำให้ทั้งคู่หน้าแดงก่ำ
"คุณปู่คะ!" ปลายฝันพูดออกมาอย่างเขินอายส่วนภาคินัยได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข
หลังจากนั้นภาคินัยและปลายฝันก็ปลีกตัวมาตรวจเช็กความเรียบร้อยของชุดแต่งงานปลายฝันแขวนชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ไว้ในห้องที่จัดเตรียมไว้ให้ ชุดนั้นดูพลิ้วไหวและสง่างามราวกับถูกรังสรรค์มาเพื่อเธอโดยเฉพาะ
"คุณภีมคะ ปายว่าชุดนี้สวยมากเลยนะคะ" ปลายฝันพูดพลางมองชุดเจ้าสาวด้วยแววตาเป็นประกาย
ภาคินัยยืนอยู่ข้างๆ เธอมองตามสายตาของ ปลายฝัน "สวยสิครับ ก็ปายเลือกเองนี่นา" เขาแกล้งหยอก
"ก็คุณภีมเป็นคนบอกว่าชุดนี้เหมาะกับปายนี่คะ" ปลายฝันแย้งกลับ
ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลัง "ไม่ว่าชุดไหนปายก็สวยที่สุดในสายตาผมเสมอแหละครับ" เขาจูบลงบนเรือนผมหอมกรุ่นของเธออย่างอ่อนโยน
ทั้งสองใช้เวลาอยู่ด้วยกันเงียบๆ ปล่อยให้ความรู้สึกอบอุ่นและความตื่นเต้นในใจไหลวนไปมา พวกเขานึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา ทั้งสุขและทุกข์ที่ได้เผชิญร่วมกัน จนมาถึงวันนี้วันที่ความรักของพวกเขาจะได้รับการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการ
ที่บ้านของน้ำหวานบรรยากาศก็ไม่ต่างกัน คุณพ่อคุณแม่ของน้ำหวานยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมของชำร่วยและของไหว้ญาติผู้ใหญ่น้ำหวานในชุดนอนลายหมีน้อยน่ารักเดินไปมาช่วยงานทุกคนอย่างขะมักเขม้น
"น้ำหวานลูก เหนื่อยไหมจ๊ะ" คุณแม่ของน้ำหวานถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เหนื่อยหรอกค่ะคุณแม่ ฉันมีความสุขมากกว่า" น้ำหวานตอบด้วยรอยยิ้ม
ไม่นานนักธามก็ขับรถมาถึงบ้านของน้ำหวานเขามาพร้อมกับดอกกุหลาบช่อโตที่มอบให้น้ำหวานทันทีที่เจอหน้า
"น้ำหวานครับ นี่สำหรับคุณครับ" ธามยื่นดอกกุหลาบให้น้ำหวาน
น้ำหวานรับดอกกุหลาบมาด้วยความดีใจ ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ "ขอบคุณค่ะคุณธาม"
"วันนี้เหนื่อยไหมครับ" ธามถามพลางลูบผมของน้ำหวานอย่างอ่อนโยน
"ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ คุณธามล่ะคะ เหนื่อยไหม" น้ำหวานถามกลับ
"ไม่เหนื่อยครับแค่คิดว่าพรุ่งนี้จะได้แต่งงานกับน้ำหวานก็หายเหนื่อยแล้วครับ" ธามพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
คุณพ่อคุณแม่ของน้ำหวานยิ้มมองดูความรักของทั้งสองด้วยความสุขพวกเขาเห็นแล้วว่าธามจะดูแลลูกสาวของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
หลังจากช่วยงานที่บ้านน้ำหวานและธามก็มานั่งพักผ่อนที่ระเบียงบ้านลมยามค่ำคืนพัดโชยมาเบาๆ ช่วยคลายความร้อนในใจ
"น้ำหวานครับ ผมดีใจจริงๆ นะที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง" ธาม พูดพลางกุมมือ น้ำหวาน ไว้แน่น
"น้ำหวานก็เหมือนกันค่ะคุณธาม น้ำหวานไม่คิดเลยว่าวันนีจะมาถึง" น้ำหวานตอบด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง
"ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลคุณไปตลอดชีวิตนะครับ" ธามกระซิบคำมั่นสัญญา
น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองธามแววตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและความเชื่อใจ เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอจะฝากชีวิตไว้ด้วย
หลังจากแยกย้ายกับว่าที่เจ้าสาวภาคินัยและธามก็มาเจอกันที่ผับแห่งเดิมที่พวกเขาจัดปาร์ตี้สละโสดแต่คราวนี้มีเพียงพวกเขาแค่สองคนนั่งดื่มเบาๆ และพูดคุยกันถึงความรู้สึกก่อนวันสำคัญ
"แกตื่นเต้นไหมวะภีม" ธามถามขึ้น
ภาคินัยยิ้ม "ตื่นเต้นสิเหมือนฝันไปเลยว่ะ"
"ฉันก็เหมือนกัน" ธามพยักหน้า "ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้วันที่เราสองคนจะได้แต่งงานพร้อมกัน"
"ใช่ ไม่คิดเลยจริงๆ" ภาคินัย พูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง "ที่ผ่านมาเราผ่านอะไรกันมาเยอะเนอะ"
"เยอะจริงๆ นั่นแหละ" ธามเห็นด้วย "แต่ก็ดีแล้วแหละ ที่ทุกอย่างมันจบลงด้วยดี"
"ก็เพราะมีพวกแกอยู่ข้างๆ กันไง" ภาคินัยตบบ่าธามเบาๆ "ขอบใจมากนะเว้ยธาม ที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอด"
"แกก็เหมือนกันแหละภีม" ธามยิ้ม "ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเสมอ"
พวกเขานั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เรื่องในอดีต เรื่องธุรกิจที่กำลังเติบโต ไปจนถึงเรื่องชีวิตคู่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ภาคินัยและธามต่างให้คำปรึกษาและกำลังใจซึ่งกันและกัน พวกเขารู้ดีว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความรัก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ที่ท้าทายยิ่งกว่า
"พรุ่งนี้แกก็จะเป็นสามีของปายแล้วนะ" ธามพูดพลางยิ้มขำ
"เออ แล้วแกก็จะเป็นสามีของน้ำหวานแล้วเหมือนกัน" ภาคินัยแซวกลับ
ทั้งสองหัวเราะออกมาพร้อมกัน ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนแห่งการทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง
เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนดึกสงัดภาคินัยและธามก็แยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้
ที่คอนโดของภาคินัยปลายฝันกำลังอาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอนเธอมองแหวนหมั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายด้วยรอยยิ้มในใจเต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น เธอเชื่อว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่สวยงามที่สุดในชีวิตของเธอ
เมื่อภาคินัยเข้ามาในห้องนอนปลายฝันก็ยังคงยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองออกไปนอกเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ
"ปายยังไม่นอนอีกเหรอครับ" ภาคินัยถามพลางเดินเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง
"ปายนอนไม่หลับเลยค่ะคุณภีม ปายตื่นเต้นมาก" ปลายฝันตอบ
ภาคินัยจูบลงบนเรือนผมของเธออย่างอ่อนโยน "เหมือนผมเลยครับ"
"คุณภีมคิดว่าพรุ่งนี้จะออกมาดีไหมคะ" ปลายฝันถามด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย
"ดีสิครับ" ภาคินัยตอบอย่างมั่นใจ "ทุกอย่างจะต้องออกมาดีที่สุด เพราะพรุ่งนี้คือวันพิเศษของเรา"
เขาดึงปลายฝันเข้ามาในอ้อมกอด พวกเขากอดกันแน่น สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความรักที่ส่งผ่านถึงกัน เสียงหัวใจของทั้งคู่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
ในขณะเดียวกันที่บ้านของน้ำหวานเธอก็กำลังนอนอยู่บนเตียง จ้องมองเพดานห้องด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด มีทั้งความสุข ความตื่นเต้น และความกังวลเล็กน้อย เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูรูปที่ธามส่งมาให้ รูปของพวกเขาที่ถ่ายด้วยกันเมื่อตอนไปเที่ยวทะเล
ไม่นานนัก เสียงข้อความก็ดังขึ้น "ฝันดีนะครับน้ำหวาน พรุ่งนี้เจอกันนะครับผมรักคุณ" ข้อความจากธามทำให้น้ำหวานยิ้มได้เธอพิมพ์ตอบกลับไปว่า "ฝันดีค่ะคุณธาม ฉันก็รักคุณธามค่ะ"
น้ำหวานวางโทรศัพท์ลง เธอหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ความรู้สึกต่างๆ ไหลวนอยู่ในใจ วันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล และเธอพร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในชีวิตในฐานะภรรยาของ ธาม
ค่ำคืนก่อนวันแต่งงานเป็นค่ำคืนที่ยาวนานที่สุดสำหรับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งสองคู่ แต่ก็เป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันมีค่า พวกเขาได้ทบทวนเรื่องราวความรักที่ผ่านมา ได้แบ่งปันความรู้สึกกับคนที่รัก และได้เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง
แสงจันทร์สาดส่องลงมายังผืนโลกอย่างอ่อนโยน ราวกับจะอวยพรให้กับการเริ่มต้นใหม่ของทั้งสองคู่รัก ภาคินัย กับ ปลายฝัน และ ธาม กับ น้ำหวาน ต่างก็หลับตาลงพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า พวกเขาเชื่อมั่นว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่สวยงามที่สุดในชีวิตของพวกเขา และความรักของพวกเขาจะคงอยู่ตลอดไป
เมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าเริ่มสาดส่องเข้ามาในห้องมันคือสัญญาณว่าวันสำคัญได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว วันแห่งความรัก การเริ่มต้นใหม่ และความสุขที่กำลังจะเบ่งบานไปทั่วหัวใจของทุกคน
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ