ใกล้ถึงวันสำคัญของทั้งสองคู่รักเข้ามาทุกที เพื่อนๆ สุดซี้อย่าง ภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน เลยจัดปาร์ตี้สละโสดให้กันอย่างสนุกสนานและเป็นส่วนตัว เพื่อเป็นการฉลองก้าวสำคัญในชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนไป บรรยากาศของคืนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวเราะและความรักที่อบอวลไปทั่ว
ค่ำคืนนี้เริ่มต้นที่ผับหรูใจกลางเมืองที่ ภาคินัย และ ธาม จองห้อง VIP ไว้สำหรับปาร์ตี้สละโสดของพวกเขาโดยเฉพาะ บรรยากาศภายในห้องคึกคักไปด้วยเสียงเพลงจังหวะสนุกๆ และแสงไฟสลัวๆ ที่สร้างความเร้าใจ ภาคินัยและธาม มาในชุดลำลองสบายๆ แต่ดูดี พวกเขาถูกเพื่อนๆ แกล้งแซวและจับแต่งตัวด้วยพร็อพตลกๆ ที่เตรียมมา ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
"เฮ้ย ภีม! วันนี้วันสุดท้ายแล้วนะเว้ยที่จะได้เป็นโสด!" เพื่อนคนหนึ่งตะโกนแซว
"ใช่แล้ว! รีบกอบโกยความสุขให้เต็มที่เลยเพื่อน!" อีกคนเสริม
ภาคินัยหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเขายกแก้วขึ้น "เพื่อชีวิตโสดที่กำลังจะจากไป และชีวิตคู่ที่กำลังจะเริ่มต้น!"
ทุกคนชนแก้วกันอย่างคึกครื้น
ธามที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็โดนเพื่อนๆ แกล้งไม่แพ้กัน "ธาม! ไม่คิดเลยว่าแกจะยอมสละโสดจริงๆ วะ"
"ก็คนมันเจอคนที่ใช่แล้วนี่หว่า" ธามตอบยิ้มๆ พลางนึกถึงน้ำหวาน
ปาร์ตี้ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน มีเกมตลกๆ และการพูดคุยที่เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดคืน ภาคินัยและธามเป็นที่จับจ้องของเพื่อนๆ ตลอดเวลา พวกเขาถูกเพื่อนๆ แกล้งให้ทำอะไรพิเรนทร์ๆ แต่พวกเขาก็เต็มใจทำ เพราะรู้ว่านี่คือช่วงเวลาสุดท้ายของการเป็นโสดอย่างเต็มตัว
ในขณะเดียวกันปลายฝันและน้ำหวาน ก็มีปาร์ตี้สละโสดของพวกเธอเองที่ห้องเพนต์เฮาส์สุดหรูของปลายฝัน ซึ่งถูกตกแต่งด้วยลูกโป่งสีพาสเทลและดอกไม้สดนานาชนิด บรรยากาศดูอบอุ่นและเป็นกันเอง ต่างจากปาร์ตี้ของหนุ่มๆ อย่างสิ้นเชิง
"ยินดีด้วยนะปาย! ในที่สุดก็ได้แต่งงานกับคุณภีมสักที!" น้ำหวานกอดเพื่อนรักแน่น
"น้ำหวานก็เหมือนกันแหละ" ปลายฝันตอบกลับ "ดีใจด้วยนะที่ได้แต่งงานกับคุณธาม"
เพื่อนสนิทคนอื่นๆ ของปลายฝันและน้ำหวาน ก็มารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา พวกเขาสวมชุดนอนน่ารักๆ และทำอาหารกินกันเอง มีเสียงเพลงเบาๆ คลอเคล้าไปกับการพูดคุยและเล่นเกมสนุกๆ
"ปาย! วันนี้เรามาเม้าท์เรื่องความรักกันให้เต็มที่เลยนะ!" เพื่อนคนหนึ่งเสนอ
"ใช่ๆ! เล่ามาเลยว่าคุณภีมขอแต่งงานยังไง" อีกคนคะยั้นคะยอ
ปลายฝันหน้าแดงก่ำเธอเล่าเรื่องราวความรักของเธอกับภาคินัยตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงวันที่เขาขอเธอแต่งงาน ทุกคนต่างนั่งฟังด้วยความสนใจและส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเป็นระยะๆ
น้ำหวานเองก็ถูกเพื่อนๆ ขอให้เล่าเรื่องราวของเธอกับธาม เธอบรรยายถึงความรู้สึกที่กลับมารักกันอีกครั้ง และการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานริมทะเลที่แสนโรแมนติก เพื่อนๆ ต่างพากันอิจฉาและชื่นชมในความรักของทั้งสองคู่
ปาร์ตี้ของสาวๆ ดำเนินไปอย่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ พวกเขาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรัก ให้คำปรึกษา และมอบกำลังใจให้กันและกัน
เมื่อปาร์ตี้สละโสดของหนุ่มๆ และสาวๆ จบลง ภาคินัยก็ขับรถมารับปลายฝันที่เพนต์เฮาส์ของเธอ พวกเขาตัดสินใจกลับมาพักผ่อนที่คอนโดของภาคินัยเพราะต้องการใช้เวลาอยู่ด้วยกันในค่ำคืนสุดท้ายของการเป็น "โสด" อย่างแท้จริง
เมื่อมาถึงห้องคอนโดของภาคินัยบรรยากาศก็เปลี่ยนจากความครึกครื้นของงานปาร์ตี้กลายเป็นความเงียบสงบและอบอุ่น ภาคินัยจุดเทียนหอมกลิ่นโปรดของปลายฝันและเปิดเพลงคลอเบาๆ สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติก
"เหนื่อยไหมครับปาย" ภาคินัยถามพลางโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังขณะที่เธอกำลังถอดรองเท้าส้นสูง
"ไม่เหนื่อยหรอกค่ะคุณภี แต่ว่า ปายรู้สึกแปลกๆ นะคะ" ปลายฝันพูดเสียงอู้อี้
"แปลกยังไงครับ" ภาคินัยกระซิบถามข้างหูเธอ
"ก็เดี๋ยวเราก็จะไม่ได้เป็นโสดแล้วนี่คะ" ปลายฝันตอบด้วยน้ำเสียงเขินอาย
ภาคินัยหัวเราะเบาๆ เขาหมุนตัว ปลายฝันให้หันหน้าเข้าหาเขา "ไม่เป็นไรหรอกครับปายต่อจากนี้ไปเราจะไม่ได้เป็นโสดอีกแล้วแต่เราจะมีกันและกันตลอดไปไงครับ"
ปลายฝันเงยหน้าขึ้นมอง ภาคินัยแววตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและความเชื่อใจ ภาคินัยโน้มใบหน้าลงมาจูบปลายฝันอย่างอ่อนโยนจูบแรกนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนหวานและความหมาย ก่อนที่มันจะค่อยๆ ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้นตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของทั้งสอง
ภาคินัยอุ้มปลายฝันขึ้นในท่าเจ้าสาวและพาเธอเดินตรงไปยังห้องนอนที่มืดสลัวแสงเทียนที่ริบหรี่สร้างบรรยากาศที่เชื้อเชิญให้หัวใจของทั้งสองใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น เขาค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงนอนอย่างแผ่วเบา
ภาคินัยค่อยๆ ทอดตัวลงนอนราบข้างๆ ปลายฝัน บนเตียงนุ่มๆ ใบหน้าของพวกเขาระดับเดียวกัน เขายื่นมือออกไปลูบไล้เส้นผมของปลายฝัน อย่างอ่อนโยน ปลายฝันค่อยๆ พลิกตัวหันหน้าเข้าหาภาคินัยดวงตาของพวกเขาสบประสานกันในความมืดสลัว แววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา
"คุณภีมคะ" ปลายฝันกระซิบเรียกชื่อเขาเบาๆ
ภาคินัยไม่พูดอะไรเขาเพียงแค่ยิ้มตอบ ก่อนจะใช้ริมฝีปากของเขาบรรจงจูบลงบนกลีบปากอิ่มของปลายฝัน อย่างแผ่วเบาสัมผัสแรกเต็มไปด้วยความอ่อนโยนราวกับจะปลอบประโลมความประหม่าที่อาจจะหลงเหลืออยู่ จูบนั้นค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของทั้งสอง ปลายฝัน ตอบรับจูบของเขาอย่างเต็มที่มือของเธอเลื่อนขึ้นไปโอบรอบคอของภาคินัย อย่างแนบแน่น
ภาคินัยเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ปลายฝันมากขึ้น ร่างกายของพวกเขาสัมผัสกันแนบชิด การเคลื่อนไหวของเขาเน้นความผ่อนคลายและความสบายของ ปลายฝันเป็นหลัก เขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเนียนของเธออย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วของเขาไล้ไปตามส่วนโค้งเว้าของร่างกายเธออย่างช้าๆ สร้างความรู้สึกวาบหวามไปทั่วทั้งร่างของ ปลายฝัน
ปลายฝันรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในท่านี้ เธออยู่ในท่าที่สบายที่สุด ปล่อยให้ภาคินัยเป็นผู้กระตุ้นสัมผัสต่างๆ ด้วยริมฝีปากของเขาที่เคลื่อนไหวไปทั่วซอกคอ ไหล่ และเนินอกของเธออย่างอ่อนโยนแต่เร่าร้อนเธอครางแผ่วเบาด้วยความรู้สึกที่พุ่งพล่าน หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก
ภาคินัยคอยกระซิบคำรักและคำชมเชยอยู่ข้างหู ปลายฝันทำให้เธอรู้สึกมั่นใจและมีความสุขมากยิ่งขึ้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความอ่อนหวานและความปรารถนาที่ไม่อาจปฏิเสธได้
หลังจากช่วงเวลาแห่งความอ่อนโยนและลึกซึ้งในท่าแรก ภาคินัย ค่อยๆ ประคอง ปลายฝัน ให้ขยับตัวลงมายังบริเวณขอบเตียงอย่างช้าๆ ปลายฝัน นอนหงายโดยให้สะโพกอยู่บริเวณขอบเตียงพอดี ภาคินัยคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของเธอ ทำให้พวกเขาทั้งสองอยู่ในมุมที่เปิดกว้างสำหรับการมองเห็นและการสัมผัสอย่างเต็มที่
ปลายฝันรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของ ภาคินัย ที่รดรินอยู่บริเวณเรียวขาของเธอ เธอเหลือบมองใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา และรู้สึกถึงความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
ภาคินัยเงยหน้าขึ้นมองปลายฝัน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหลงใหล เขายื่นมือออกไปลูบไล้ไปตามเรียวขาของปลายฝันอย่างช้าๆ จากนั้นก็ไล่ขึ้นมาตามต้นขาด้านในอย่างแผ่วเบาทำให้ปลายฝันสะท้านไปทั้งร่าง
"ปายสวยมากเลยครับ" ภาคินัย กระซิบเสียงแหบพร่า
ปลายฝันครางแผ่วเบาด้วยความรู้สึกที่ยากจะควบคุม เธอใช้มือโอบรอบศีรษะของภาคินัยดึงเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ท่านี้ทำให้ภาคินัยสามารถเข้าถึงจุดกระตุ้นต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและมีมุมที่เปิดกว้างสำหรับการมองเห็นและสัมผัสอย่างเต็มที่
ภาคินัยใช้ริมฝีปากของเขาบรรจงจูบและไล้ไปตามเรียวขาของปลายฝัน อย่างอ่อนโยนแต่เร่าร้อน สร้างความรู้สึกวาบหวามไปทั่วทั้งร่างของเธอ เสียงลมหายใจของทั้งคู่หนักหน่วงขึ้นตามจังหวะของความปรารถนาที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
ปลายฝันแอ่นกายตอบรับทุกสัมผัสที่ภาคินัยมอบให้ เธอกำลังจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความสุขที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ความรู้สึกร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ความตึงเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวันมลายหายไปสิ้นเหลือเพียงความปรารถนาที่เอ่อล้นและความสุขที่ไม่อาจบรรยายได้
ภาคินัยยังคงมอบความสุขให้ปลายฝันอย่างต่อเนื่อง เขาจ้องมองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความสุขและความเคลิบเคลิ้ม ทำให้เขายิ่งรู้สึกหลงใหลในตัวเธอมากยิ่งขึ้น
ค่ำคืนนี้คือบทสรุปที่แสนพิเศษของความเป็นโสดและเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนาของภาคินัยและปลายฝัน
ในอีกมุมหนึ่งของเมืองน้ำหวานและธามก็กำลังดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเขาเช่นกัน หลังจากปาร์ตี้สละโสดของสาวๆ ธามก็พา น้ำหวานกลับมาที่บ้านของเขาซึ่งถูกจัดเตรียมไว้สำหรับค่ำคืนพิเศษนี้
ห้องนอนของธามถูกประดับประดาด้วยแสงไฟสลัวๆ และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ น้ำหวานยืนอยู่ที่กลางห้อง ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอาย เมื่อธามเดินเข้ามาโอบกอดเธอจากด้านหลัง
"น้ำหวานครับ วันนี้คุณสวยมากเลยนะ" ธามกระซิบข้างหูเธอน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหลงใหล
น้ำหวานซบหน้าลงกับอกของธาม "คุณธามก็เหมือนกันค่ะ"
ธามค่อยๆ พลิกตัวน้ำหวานให้หันหน้าเข้าหาเขา ดวงตาของพวกเขาสบประสานกันอย่างลึกซึ้ง ธามโน้มใบหน้าลงมาจูบน้ำหวานอย่างอ่อนโยน จูบนั้นเต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนาและคำมั่นสัญญาที่เขามีให้เธอ
พวกเขาจูบกันอย่างดูดดื่ม ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกนำพาไป ความรักที่เอ่อล้นอยู่ในใจถูกถ่ายทอดผ่านจูบอันแสนหวานนี้
ธามค่อยๆ อุ้ม น้ำหวานขึ้นอย่างแผ่วเบาและพาเธอเดินไปยังเตียงนอนที่นุ่มสบาย
ธามค่อยๆ ประคอง น้ำหวานให้ขึ้นมาอยู่บนตัวเขาอย่างช้าๆ น้ำหวานหันหลังให้ธามเธอค่อยๆ นั่งลงบนตัวเขาอย่างช้าๆ โดยมีใบหน้าหันไปทางปลายเตียงท่านี้ทำให้น้ำหวา เป็นผู้ควบคุมความลึกและจังหวะในการเคลื่อนไหวด้วยตัวเองและยังเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับสัมผัสของพวกเขา
น้ำหวานรู้สึกถึงการควบคุมทุกอย่างในตอนนี้เธอค่อยๆ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ แต่ทรงพลัง รู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับธามที่อยู่ด้านล่าง เธอใช้มือยันพื้นเตียงไว้ด้านหลังเพื่อรักษาสมดุลและกำหนดจังหวะได้อย่างเต็มที่
ธามใช้มือโอบเอวน้ำหวานไว้พลางลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเนียนของเธออย่างหลงใหล เขาส่งเสียงครางตอบรับทุกการเคลื่อนไหวของเธอ ดวงตาของเขาจ้องมองแผ่นหลังที่งดงามของน้ำหวานด้วยความชื่นชมและปรารถนา
น้ำหวานค่อยๆ เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นตามความปรารถนาที่พุ่งพล่านเธอหลับตาลง สัมผัสได้ถึงความสุขที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง ความรู้สึกตื่นเต้นและเร่าร้อนผสมผสานกันอย่างลงตัว ท่านี้ทำให้เธอรู้สึกถึงอิสระและความมั่นใจในการมอบความสุขให้แก่กัน
เสียงลมหายใจของทั้งคู่หนักหน่วงขึ้นตามจังหวะที่เร่าร้อน บรรยากาศเต็มไปด้วยความร้อนรุ่มและอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
หลังจากช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่และเร้าใจในท่าแรก ธาม ค่อยๆ ประคองน้ำหวานให้นอนหงายลงบนเตียงอย่างช้าๆ น้ำหวาน ยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ร่างกายของเธอโค้งคล้ายสะพาน ธามอยู่ด้านบนของเธอ โดยที่เขาปรับตำแหน่งให้เข้ากับท่าทางของ น้ำหวานท่านี้ช่วยให้มีการสอดใส่ที่ลึกขึ้นและกระตุ้นจุดเสียวซ่านได้ดีขึ้น
ธามมองเข้าไปในดวงตาของน้ำหวาน ที่เต็มไปด้วยความปรารถนา เขาก้มลงจูบริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม พลางกระซิบคำรักข้างหู
"ผมรักคุณนะน้ำหวาน"
น้ำหวานครางตอบรับด้วยเสียงแผ่วเบา เธอใช้มือโอบรอบคอของธาม ดึงเขาเข้ามาใกล้ขึ้นการยกสะโพกขึ้นของเธอทำให้ ธามสามารถเข้าถึงจุดกระตุ้นที่สำคัญได้อย่างลึกซึ้งและแม่นยำ
ธาม เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ แต่มั่นคงเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แน่นแฟ้นและลึกซึ้งยิ่งขึ้นในท่านี้น้ำหวานสัมผัสได้ถึงความเร่าร้อนที่พุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่าง ความสุขที่เอ่อล้นจนยากจะเก็บกลั้นเอาไว้ได้
เสียงลมหายใจของทั้งคู่ดังกระหึ่มไปทั่วห้อง ท่ามกลางความมืดสลัวและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ ร่างกายของพวกเขากลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว สื่อถึงความรักและความปรารถนาที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ค่ำคืนนี้คือบทสรุปที่แสนพิเศษของความเป็นโสดและเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนาของ น้ำหวานและธาม
รุ่งเช้าของวันถัดมา ทั้งภาคินัยและปลายฝันตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส พวกเขาตื่นเต้นกับวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง ภาคินัยกอดปลายฝัน ไว้แน่น
"อรุณสวัสดิ์ครับว่าที่ภรรยา" ภาคินัยกระซิบข้างหูเธอ
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณภีม" ปลายฝันตอบด้วยน้ำเสียงหวาน
ในเวลาเดียวกันธามและน้ำหวาน ก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเดียวกัน ธาม จูบหน้าผากของน้ำหวานอย่างอ่อนโยน
"พร้อมไหมครับน้ำหวาน" ธามถาม
"พร้อมค่ะคุณธาม พร้อมที่จะเป็นภรรยาของคุณธามค่ะ" น้ำหวานตอบด้วยรอยยิ้ม
ปาร์ตี้สละโสดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ที่กำลังจะตามมา ทั้งสองคู่พร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์ สร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุข และใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดกาล
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ