Share

บทที่8

Penulis: moonlight -mini
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-29 02:08:20

บทที่8

ร่างบางยืนอยู่หน้าประตูจวนสกุลจื่อ

‘ข้ากลับมาแล้ว’ ริมฝีปากอิ่มไหวระริกยกยิ้มด้วยความยินดี ในที่สุดก็ได้กลับมา

“คุณหนู นายท่านรอที่เรือนรับรองแล้วเจ้าค่ะ”

แม่บ้านหม่า ออกมายืนรอต้อนรับคุณหนูใหญ่ตามคำสั่งของฮูหยิน ข่าวลือว่าจื่อฮูหยินรังเกียจคุณหนูใหญ่ที่เกิดจากฮูหยินรอง จนถึงขั้นส่งไปอยู่ต่างเมืองและไม่ยินยอมให้กลับมาอยู่อาศัยร่วมจวน กระทบภาพลักษณ์อ่อนโยนเพียบพร้อมไปด้วยจารีตประเพณีของฮูหยินไม่น้อย แม้จะกลบข่าวลือด้วยการบอกใครๆว่าคุณหนูใหญ่นั้นร่างกายอ่อนแอ เลือกที่จะรักษาด้วยอยู่บ้านเกิดมารดา จนในที่สุดวันเวลาก็กลืนข่าวพวกนั้นจนหมดสิ้น แทบไม่เคยมีใครพูดหรือถามถึงคุณหนูจื่อรั่วอีกเลย การเดินทางกลับมาของคุณหนูในครั้งนี้จะทำให้ชื่อเสียงของจื่อฮูหยินแปดเปื้อนอีกครั้งไม่ได้ จึงต้องออกมายืนต้อนรับขับสู้อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อแสดงให้ผู้คนภายในและภายนอกได้เห็นว่าตระกูลจื่อนั้นยินดีที่คุณหนูจื่อรั่วกลับมามากมายเพียงใด

จื่อรั่วลงรถม้ามาพร้อมแม่นมจาง เดินตามคนสนิทของฮูหยินเข้าจวนไป เมียงมองรอบๆตัวไปตลอดทาง จวนสกุลจื่อนั้นเปลี่ยนไปมากนั้น ใหญ่โตโออ่ากว่าตอนที่นางอยู่จนแทบจะไม่เหลือภาพเดิม มีสิ่งเดียวที่เหมือนเดิมคงจะเป็นป้ายแซ่สกุลที่ประตูจวนละมั้ง

“คงจะต่างจากจวนที่อยู่บ้านนอกนั้น คุณหนูถึงได้มีท่าทีเยี่ยงนี้”

แม่บ้านหม่าอดที่จะบิดปากเอ่ยว่าจาออกมาไม่ได้ ท่าทางระริกระรี่มองซ้ายมองขวา คงจะไม่เคยเห็น ก็อย่างว่าล่ะ เบี้ยหวัดที่ฮูหยินส่งให้พอสำหรับซื้อข้าวหุงกรอกหม้อเท่านั้น

“จริงอย่างเจ้าว่า ข้าไม่เคยเห็น เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลแต่กลับอยู่ในจวนเล็กๆกับแม่นมสองคน ข้าวของเครื่องเรือนไม่เคยเปลี่ยนมาตลอดสิบกว่าปี ข้าว่าข้ากลับมาคราวนี้ แม่ใหญ่คงจะเตรียมเรือนที่เหมาะสมกับฐานะของข้าไม่ให้ใครมาดูหมิ่นได้ เพราะหากดูหมิ่นข้าก็เท่ากับตำหนิไปถึงแม่ใหญ่ด้วย ท่านว่าจริงหรือไม่”

จื่นรั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ก้าวเข้าเรือนรับรองทิ้งแม่บ้านหม่าที่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น

แม่บ้านหม่าถึงกับพูดไม่ออก ไม่เคยคาดคิดว่าจะถูกคุณหนูใหญ่โต้ตอบกลับแบบนี้ทั้งๆที่เพิ่งเจอกัน

ทุกสายตามองไปยังร่างบางที่ก้าวเข้ามายังห้องรับรอง

“จื่อรั่วคารวะท่านพ่อ ท่านแม่ใหญ่” เสียงหวานหยอบกายลงอย่างนอบน้อม ส่งยิ้มละมุนให้แก่ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง เก้าอี้ประธานคือบิดาผู้ให้กำเนิด แก่ไปมากทีเดียว สตรีที่นั่งเคียงข้างจะเป็นใครไม่ได้ฮูหยินเอกผู้เคียงบ่าเคียงไหล่คู่บารมีบิดาจนมีได้ทุกวันนี้ ส่วนดรุณีที่นั่งถัดมาคงจะเป็นคุณหนูรอง แต่เหตุใดนางจึงเกล้าผมเช่นสตรีที่ออกเรือนแล้ว

“นั่งๆคนกันเองทั้งนั้น”

“เจ้าค่ะ”

“งานหมั้นหมายจะมีขึ้นในอีก 7 วัน ทางนู้นเตรียมการเรียบร้อยแล้ว”

ที่เรียกนางกลับมาก็ได้แจ้งชัดในจดหมายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมากความ ในเมื่อมาถึงแล้วก็พูดให้จบชัดเจนไปในคร่าเดียว

“ท่านพ่อพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าต้องแต่งกับผู้ใด”

“คุณชายซานซีหาว บุตรชายคนเล็กของเสนาบดีฝ่ายซ้าย”

จื่อเหลียง มองบุตรสาวตั้งแต่หัวจรดปรายเท้า จื่อรั่วเหมือนมารดาของนางยิ่งหนัก กริยายามหยอบกายทำความเคารพ ไม่เสียแรงที่จ้างคนไปสอนสั่งอบรมกริยามารยาทถึงฝู่โจ ยอมขัดใจฮูหยินโดยอ้างว่าอย่างไรนางก็ต้องออกเรือน หากไม่รู้อะไรเลย คนจะว่ามาถึงฮูหยินได้ว่าไม่อบรบสั่งสอน เดิมที่จื่อเหลียงจะให้จื่อรั่วแต่งออกเรือนตั้งแต่อายุ 16 แต่ไม่ว่าเสนอตระกูลใดแก่ฮูหยิน นางก็ไม่ยินยอมให้จื่อรั่วออกเรือน  จนกว่าบุตรสาวของนางจะได้แต่งกับตระกูลดีๆ ก็คือให้จื่อปิงเลือกก่อนนั้นเอง จื่อรั่วถึงจะมีสิทธิ์แต่งออกไป พอจื่อปิงอายุ 16 ก็แต่งกับบุตรชายคนเล็กของเจ้ากรมโยธา หลังจากจื่อปิงแต่งออกไปฮูหยินรักก็นำรายชื่อคุณชายมากมายมาให้เขาเลือก ทั้งที่แต่งฮูหยินแล้วและยังไม่แต่ง เขาใช้เวลาเลือกอยู่นานพอควร เพราะต้องเลือกคนที่จะมาเกื้อหนุนตระกูลของเขาได้ไม่ใช่มาเป็นภาระ แม้จะไม่ได้เลี้ยงจื่อรั่วมาเองกับมือ ไม่ได้ยินดียินร้ายกับการมีชีวิตของนาง แต่อย่างไรนางก็คือบุตรสาวที่เขาให้กำเนิด นางต้องเชิดชูตระกูลเขาให้สูงขึ้น จื่อเหลี่ยงยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ใครจะไปคาดคิดว่าตระกูลซานถึงกับส่งเทียบหมั้นมาเอง นี่ละเพราะบารมีของเขาทำให้มีขุนนางใหญ่อยากผูกสัมพันธ์ด้วย จื่อเหลียงอดไม่ได้ที่จะยกหางเข้าข้าวตนเอง

อีกคนยินดีแต่อีกคนกลับทุกข์ระทรม อกไหม้ใส้ขม ที่บุตรสาวของคนที่นางเกลียดจะได้ดีไปกว่าบุตรสาวของตนเอง จื่อฮูหยินกำหมัดแน่นภายใต้เสื้อคลุม ตั้งแต่เห็นใบหน้าของจื่อรั่วที่ก้าวเข้าเรือนรับรองมา ยิ่งแค้นใจ ใบหน้าไม่ผิดแปลกไปจากมารดาของนางเลยแม้แต่น้อย หวังจู๋เสี้ยนสวยฝุดฝาดราวกับเทพเซียน ไม่ใช่สินางคือมารจิ้งจอก ตอนที่มีชีวิตอยู่ก็แย่งความรักจากสามีไปจนหมด ใช้มารยาล่อหลอกให้จื่อเหลียงยอมแต่งนางเข้ามาเป็นฮูหยินรอง พอตายไปจื่อฮูหยินถึงได้พบกับความสุขเสียที แล้วทำไมยังส่งจื่อรั่วมาทำลายความสุขของนางอีก จื่อฮูหยินพยายามยื้อเวลาทุกครั้งที่สามีจะให้จื่อรั่วกลับมาแต่งงาน เลือกคุณชายตระกูลรอง คนที่ไม่มีอำนาจใหญ่โต หรือบางคนเป็นคุณชายตระกูลใหญ่แต่แต่งฮูหยินแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีเทียบของหมั้นมาจากตระกูลของเสนาบดีขอจื่อรั่วแต่งแบบนี้ ‘ข้าไม่มีวันให้นางมีความสุขกว่าจื่อปิง ไม่มีวัน’

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เขาวานให้ข้าเป็นสาย(รัก)ลับ   บทที่32

    บทที่32รถม้าวิ่งเข้าสู่ราชวัง จื่อรั่วถูกมัวมัวประคองลงจากรถม้า ก่อนจะส่งมือของนางทาบลงฝ่ามือใหญ่ จื่อรั่วช้อนสายตามองผ่านผ้าคุลม เอ่ยเสียงแผ่วเบา “พี่ล่ง”จูล่งแต่งชุดเจ้าบ่าว จับจูงเจ้าสาวเข้าสู่พิธี จื่อรั่วเดิมตามแรงดึงจากฝ่ามือหนาและแรงประคองจากมัวมัว ไหนราชโองการให้นางแต่งกับฮองเต้ แต่นี้จูล่ง ไม่ผิดแน่จูล่งรู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหวของสตรีข้างๆจึงเอียงใบหน้ากระซิบลงข้างหู “ไว้เสร็จพิธีข้าจะเล่าทุกอย่างให้รั่วเอ้อร์ ฟังทั้งหมด แต่ตอนนี้เจ้าต้องใจเข้าพิธีแต่งงานของเราสองคนก่อนเถิด”จื่อรั่วช้อนสายตาตามเสียงนั้น บุรุษผู้นี้เป็นจูล่งไม่ผิดแน่ ใบหน้านี้ สายตาที่มองนางอย่างมั่นคงและจริงใจรอยยิ้มละมุนละไมที่มีให้นางเพียงผู้เดียว เป็นจูล่งของนางไม่ผิดแน่ จึงพยักหน้าตอบรับเบาๆ กระชับมือแน่น สื่อให้บุรุษด้านข้างรับรู้ว่านางเชื่อใจเขาแต่กว่าพิธีจะเสร็จสิ้นก็เรัยกว่าแทบจะพรากลมหายใจคันชั่งหยกยื่นมาหมายจะเปิดผ้าคลุมเจ้าสาว“ช้าก่อน ท่านติดค้างข้าหลายเรื่องทีเดียว ข้าควรได้ฟังคำอธิบายก่อน ท่านถึงจะมีสิทธิ์เปิดผ้าคลุมออก” “แต่ข้ากับเจ้าเข้าพิธีกันเรียบร้อยแล้วน่ะ” จูล่งโอดครวญ เขาอยากจะเห็น

  • เขาวานให้ข้าเป็นสาย(รัก)ลับ   บทที่31

    บทที่31หุบเขาห่างไกล มีเรือนหลังใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ จื่อรั่วตื่นมาท่ามความงุนงง มือของนางถูกกุมเอาไว้ด้วยมืออันเหี้ยวย่นของแม่นมจาง จื่อรั่วจำวันนั้นได้เป็นอย่างดีเขาพานางออกจากวังมาในสภาพไร้สติ เขาทำตามที่รับปากนางเอาไว้ พานางออกมาจากวังต้องห้ามได้ แต่กลับไร้เงาของเขา แม่นมจางนำจดหมายที่จูล่งฝากเอาไว้ให้‘ขอโทษที่วางยาเจ้า การออกมาจากวังหลวงไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีนี้รวดเร็วที่สุด ข้าต้องภาระกิจใหญ่ ซึ่งอาจหมายถึงชีวิต หากภารกิจสำเร็จข้าจะไปรับเจ้ากลับหยิ่งตู่ไปพบครอบครัวของข้า แต่ถ้าหากไม่ บุรุษที่เดินทางไปกับเจ้าเป็นคนที่ข้าไว้ใจ เขาจะดูแลเจ้ากับแม่นมจางเป็นอย่างดี’จื่อรั่วอ่านจดหมายนั้นซ้ำไปซ้ำมา อยู่หลายครั้ง ร้องไห้น้ำตารองหน้าอยู่หลายคืน จนในที่สุดนางก็ลุกขึ้นมาสำรวจรอบๆเรือน พอเบื่อก็ออกสำรวจรอบๆป่า จนได้พบว่า บุรุษที่จูล่งฝากฝังนางเอาไว้ ฝีมือวรยุทธ์ดีเยี่ยมก็แน่ล่ะ จูล่งเก่งขนาดนั้น ลูกน้องจะกระจอกงอกง่อยได้อย่างไร “ข้าจะรอท่าน”ดวงหน้างามทอดสายตาทองไปยังทางขึ้นเขา นางไม่ร้องไห้คร่ำครวญ แต่จะรอคอยบุรุษที่นางรักด้วยหัวใจที่เชื่อหมั่นว่าเขาจะทำภารกิจสำเร็จลุล่วง ไม่เป็

  • เขาวานให้ข้าเป็นสาย(รัก)ลับ   บทที่30

    บทที่30ปั้ง!ฝ่ามือหนามือหนาตบลงบนพนักวางแขน บัลลังก์ทองสั่นสะเทือน“ข้าจะแต่งกับนาง ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาขวาง” จูล่งฮองเต้ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง หัวข้อถกเถียงในท้องพระโรงวันนี้คือ การรับสนมเข้าวัง “แต่คุณหนูใหญ่ตระกูลจื่อ ไม่เหมาะสมจะเป็นฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” แม้เจียวก้านและขุนนางฝ่ายเจียวก้าวจะสนับสนุนเขาเต็มกำลัง แต่ก็ทีขุนนางอีกหลายคนที่มองว่าคุณหนูจื่อรั่วไม่เหมาะกับตำแหน่งแม่ของแผ่นดิน“ถ้าอย่างไร รับคุณหนูใหญ่ตระกูลจื่อเข้ามาเป็นพระสนมก่อนดีไหมพ่ะย่ะค่ะ” ขุนนางอีกคนรีบเสนอ เพราะหลายวันที่ผ่านมาถดเถียงกันอยู่เพียงเรื่องนี้ ไม่ว่าอย่างไรฮองเต้ก็จะรับนางเข้ามาเป็นฮองเฮา“ข้าบอกแล้วข้าไม่รับสนม ไม่ว่าตำแหน่งใดๆก็ไม่รับ ข้าจะรับจื่อรั่วมาเป็นฮองเฮาเพียงผู้เดียว” ไม่ว่าอย่างไร จูล่งก็ไม่มีทางรับสตรีใดเข้าวัง“ฝ่าบาท ราชวงศ์จำเป็นต้องแตกสาขา เพื่อความมั่นคงของแคว้น ตอนนี้เชื่อพระวงค์โดยสายเลือดมีเพียงพระองค์ เหล่าอ๋องทั้งสามและองค์หญิงที่อภิเษกไปอยู่แคว้นฉู่”กงกงเดินเข้ามากระซิบกระซาบ จูล่งฮองเต้พยักหน้า ไม่ช้าก็มีบุรุษสวมชุดเกราะเดินองอาจเข้ามาภายในท้องพระโรง แม่ทัพใหญ่ซ่งเว่ยหลง เป็นคนคุ

  • เขาวานให้ข้าเป็นสาย(รัก)ลับ   บทที่29

    บทที่29จูล่งสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจูล่งฮองเต้ โดยใช้ยังคงใช้พระนามเดิมที่บิดามารดาตั้งให้ ขึ้นนั่งบัลลังก์มังกรโดยที่ขุนนางไม่มีใครคิดที่จะจะขัดขวาง วังหลังก็ถูกกวาดล้าง จูล่งฮองเต้สั่งให้ถอดถอนสนมทุกนางให้กลับบ้านเก่าพร้อมจ่ายเบี้ยรายปีให้เป็นครั้งสุดท้าย ส่วนองค์หญิงองค์ชายทุกคนถูกถอดถอนบรรดาศักดิ์พร้อมเบี้ยรายปีครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกัน ทุกคนโชคดีที่จำนวนเหล่าองค์หญิงองค์ชายมีจำนวนไม่มาก เพราะฮองเต้หลงมีรับสั่งให้สนมตั้งแต่ขั้นผินลงไปดื่มยาห้ามครรภ์ทุกครั้งที่ทำการรับใช้พระองค์ ทรงไม่โปรดให้สนมชั้นต่ำตั้งครรภ์มังกรจูไป๋เสวี่ยขี่ม้าตามหลังคุณชายสี่และรองแม่ทัพไป๋ชู่จากเมืองลี่เจียงกลับเมืองหลวงแคว้นเว่ยทันทีหลังจากพี่สี่รีบควบม้ากลับมาส่งข่าวด่วน การยึดบัลลังก์คืนจากฮองเต้หลงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พี่ๆ ทั้งสี่คนได้แผลกันคนละเล็กละน้อยเท่านั้น แต่แม่ทัพหลิวเสวี่ยอวี้ บาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากัน หลังจากที่คุณชายรองดึงกระบี่ออกจากอก จนวันนี้ก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาจูกูกัดกิ่นและจูฮูหยินตัดสินใจขอเดินทางแยกกับบุตรชายและบุตรสาวเพราะทั้งสองเดินทางด้วยรถม้าต้องใช้เวลา จูไปเสวี่ยขี่ม้าไปคงเดินทางถึงไ

  • เขาวานให้ข้าเป็นสาย(รัก)ลับ   บทที่28

    บทที่28แม้จะต้องสังหารคนที่เคยยืนเคียงบ่าเคียงไหล่มาก่อน จูล่งก็ไม่ลังเล เขารู้ฝีมือองครักษ์ของฮองเต้ทุกคนเป็นอย่างดี แต่องครักษ์ทุกคนก็รู้ฝีมือเขาเช่นกันเมื่อถูกลุมล้อม จูล่งจึงพลาดพรั้ง ถูกปลายกระบี่จองฮองเต้แทงเข้าที่หัวไหล่ขวา ฮองเต้หลงหมายจะซ้ำอีกดาบสังหารกบฏแท่ทัพหลิวเห็นจูล่งพลาดพลั้ง จึงกระโดดเอาตัวเข้าบังจูล่งเอาไว้ แทงกระบี่สวนออกไปยังทิศทางที่ฮองเต้แทงหมายจะสังหารจูล่งกระบี่ทั้งสองเล่นจึงปักที่อกข้างซ้ายของทั้งสองฝ่ายพอดี ทั้งคู่ตึงทรุดลงไปนั่งกับพื้น“อย่าอาฆาตแค้นกันเลย คิดซะว่ามันคือเวรกรรมที่พระองค์สังหารคนที่เลี้ยงดูพระองค์” จูล่งตวัดปลายกระบี่ตัดศีรษะของฮองเต้หลงหลุดจากบ่าในกระบี่เดียวรีบไปประคองแม่ทัพหลิวเพื่อดูอาการและให้คนไปตามน้องรองมาดูอาการแม่ทัพทันทีส่วนองครักษ์ที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่ เมื่อเห็นฮองเต้สิ้นพระชนม์จึงวางดาบยอมจำนวน ไม่มีประโยชน์ที่จะสู้ต่อไปอีกแล้วคุณชายรองจูเหวินจางรีบฝ่าเข้ามาดูอาการแม่ทัพหลิวในทันที“แม่ทัพเอาตัวบังให้ข้า ไม่งั้นคนที่นอนอยู่ตรงนั้นอาจเป็นข้าเอง” จูล่งกล่าวบอกน้องชายเสียงเบา เขาเป็นหนี้ชีวิตแม่ทัพหลิวแล้ว หากไม่ได้แม่ทัพ คง

  • เขาวานให้ข้าเป็นสาย(รัก)ลับ   บทที่27

    บทที่27หลังจากที่สำรวจเส้นทางตามแผนที่ พบกุญแจและทางเข้าตามที่จูไป๋เสวี่ยบอกอย่างไม่ผิดเพี้ยน แม่ทัพหลิวจึงวางแผนนำกองกำลังเขาเมืองหลวง โดยการเดินทางเจ้าเมืองหลวงหลายๆ เส้นทาง แยกกันมากลุ่มล่ะ 1-2คนเท่านั้น เพื่อจะได้ไม่เป็นการผิดสังเกต ผู้นำตระกูลอย่างเจียวเจี้ยก็สนับสนุนอาวุธและเสบียงอาหาร ยอมเปิดคลังเสบียงของตระกูลเพื่อช่วยเหลือในครั้งนี้ สิ่งที่ทำให้พี่น้องทั้งสี่ของสกุลจูและเขาตกใจก็คือ นอกจากจะเชื่อมไปยังพระราชวังยังมีอาวุธมากมายเก็บซ่อนเอาไว้ หากดูผิวเผินเส้นทางนี้ไม่เคยมีการใช้งานมาก่อนเพราะไม่มีรอยเท้าใดๆ เลยเงาสายหนึ่งวิ่งฝ่าท่ามกลางความมืดไปมุ่งตรงไปยังปลายทางอย่างไม่หยุดพัก บนไหล่หนามีร่างสลบไสลของสตรีนางหนึ่ง “เจ้าไม่คิดจะบอกความจริงกับนาง” หลิวเสวี่ยอวี้มองสหายที่แบกร่างจื่อรั่วที่สลบออกมาจากอุโมงค์ลับ จูล่งค่อยๆว่างร่างของนางลงบนรถม้าแผ่วเบา จุมพิตลงบนหน้าผาก ก่อนจะพยักหน้าให้องครักษ์เงาบังคับรถม้าลงจากเขาไป“ข้าฝากจดหมายไว้กับองครักษ์มู่แล้ว” นั้นคือชื่อขององครักษ์เงาที่คอยตามดูแลนางมาตลอดหลายปีอีกไม่เพียงชั่วยามจะเริ่มแผนการทั้งหมด แม้จะฝากนางไว้กับเจียวเฟย แต่กร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status