LOGINในชาติก่อนนางหลงเชื่อคำลวงจากคำว่ารักของเขาจึงต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสมเพช แต่ชาตินี้จะไม่เหมือนเดิม.. เมื่อเย่ปิงปิงได้โอกาสให้ย้อนคืนกลับมาเพื่อแก้ไขความผิดพลาด นางจะไม่เป็นสตรีที่โง่งมในรักอีกต่อไป!!
View Moreบทที่ 1
สู่จุดเริ่มต้น
ในวันที่หิมะสีขาวโพลนตกลงมาโปรยปรายอย่างหนัก ท่ามกลางดวงจันทร์ที่สาดแสงเข้ามายังห้องหนังสือ โฉมสะคราญแห่งเมืองหลวงของแคว้นลั่วหยางได้ย่างกายเข้ามายังห้องหนังสือของจวนจวิ้นอ๋อง
“เจ้ามาแล้วหรือคุณหนูเย่ นั่งก่อนสิ”
‘กงเฟยหรง’ ผายมือให้นางนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องหนังสือของเขา วันนี้เขานึกแปลกใจว่าเพราะเหตุใดนางถึงมาหาเขาในยามพลบค่ำ หรือว่านางจะมีเรื่องทุกข์ใจเหตุเพราะหลานชายของเขากัน
ใจบุรุษรู้สึกร้อนรนขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงสตรีตรงหน้า
“หม่อมฉันนำยาบำรุงมาถวายเพคะ ได้ข่าวว่าจวิ้นอ๋องทรงประชวรเพราะอากาศเย็นลงเพคะ”
น้ำเสียงของนางสั่นเทาเล็กน้อย แววตาคู่สวยหลุกหลิกไปมา นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเขาด้วยความละอายในจิตใจ
กงเฟยหรงมองเย่ปิงปิงด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เขารู้ดีว่าวันนี้คงจะมาถึงสักวันหนึ่ง ในเมื่อนางตัดสินใจเช่นนี้ เขาก็พร้อมจะน้อมรับการตัดสินใจของนาง ครั้งหนึ่งนางเคยช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ หากครั้งนี้นางจะมาขอชีวิตของเขา เขาก็พร้อมยกให้นาง
“ขอบใจเจ้ามากคุณหนูเย่ ข้าจะดื่มให้หมดเลย”
กงเฟยหรงรับถ้วยยามาจากมือเล็กของเย่ปิงปิง เขาส่งยิ้มให้กับนางเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตักยาในถ้วยเอาเข้าปาก
แต่ในตอนนั้นเองเย่ปิงปิงกลับปัดช้อนของเขาลงกับพื้น ใบหน้าสวยหวานมองกงเฟยหรงด้วยความรู้สึกผิด
“มะ หม่อมฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามันมีส่วนผสมที่จวิ้นอ๋องน่าจะเสวยไม่ได้เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอเอากลับไปดีกว่าเพคะ”
เย่ปิงปิงนึกเปลี่ยนใจขึ้นมาฉับพลัน นางรีบยกถ้วยยาบำรุงกลับไป หมายจะเอาไปทิ้งให้สิ้นซาก นางมิอาจจะสังหารบุรุษผู้นี้ได้จริง ๆ
“ปิงเอ๋อร์ เจ้าทำเช่นนี้ท่านอาจะเสียใจเอาได้นะ”
เสียงประตูถูกผลักเข้ามา พร้อมการปรากฏกายของหนึ่งบุรุษ และหนึ่งสตรีที่เย่ปิงปิงรู้จักเป็นอย่างดี
“องค์รัชทายาทมากับน้องสาวของหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ”
“พี่หญิงใหญ่นี่ช่างไม่รู้อะไรเสียบ้างเลยนะเจ้าคะ ข้ากับองค์รัชทายาทก็มารอชมผลงานของพี่หญิงใหญ่อย่างไรเล่า แต่ไม่คิดเลยว่าพี่หญิงใหญ่จะมีใจคิดเป็นอื่นเช่นนี้” นางหันมาเอ่ยกับองค์รัชทายาท “ดูสิเพคะองค์รัชทายาท หากพวกเราไม่มาดูด้วยตาตนเองคงจะไม่รู้ว่าพี่หญิงใหญ่ของหม่อมฉันมีใจออกห่างพระองค์เสียแล้ว เช่นนี้เราจะทำอย่างไรกับคนทรยศดีเล่าเพคะ”
มุมปากของนางยกยิ้มด้วยความสาสมใจ วันนี้นางจะทำให้พี่สาวตัวดีต้องตายอยู่แทบเท้านางให้จงได้!!
“ไม่ใช่นะเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ ไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย ตะ แต่ เราไม่ควรทำเช่นนี้กับจวิ้นอ๋อง อย่างไรพระองค์ก็ไม่มีอำนาจที่จะมาสั่นคลอนการขึ้นครองบัลลังก์ของพระองค์ได้ อีกอย่างตอนนี้จวิ้นอ๋องก็ทรงเดินไม่ได้แล้ว เหตุใดเราจะต้องปลิดชีพพระองค์ด้วยเล่า”
“เหตุใดเจ้าถึงโง่เขลาเช่นนี้เล่าปิงเอ๋อร์ ข้าสั่งให้เจ้าวางยาพิษเสด็จอาเจ้าก็แค่ทำตามคำสั่งของข้า ไยต้องมาพูดจาให้มากความด้วย หรือว่าแท้จริงแล้วเจ้ามีใจให้กับเสด็จอาผู้พิการของข้ากัน”
องค์รัชทายาทชี้หน้ามาทางเย่ปิงปิงด้วยความกรุ่นโกรธ ยิ่งเห็นสายตาที่มีแต่ความรักใคร่ของจวิ้นอ๋องที่มีให้แก่ว่าที่พระชายาของตน เขาก็ยิ่งไม่พอใจหนักขึ้นไปอีก
ปัง!!
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!!”
จวิ้นอ๋องที่นั่งเงียบอยู่นานบนรถเข็น ตวาดก้องเสียงดังใส่หลานชายผู้ไม่รู้ความด้วยความโกรธ กล้ามาต่อว่านางต่อหน้าเขาได้อย่างไรกัน
“นี่อย่างไรเล่า เจ้ากับเสด็จอาลอบสวมหมวกเขียวให้ข้าใช่หรือไม่”
“พระองค์เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วนะเพคะ”
เย่ปิงปิงมองชายคนรักด้วยความเสียใจ พระองค์คิดเช่นนี้กับนางได้อย่างไร ที่ผ่านมาที่นางต้องมือเปื้อนเลือดก็เพราะเขาไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงมาใส่ความนางเช่นนี้ได้ พระองค์ไม่เห็นความรักของนางเลยหรือไร
“องค์รัชทายาทตัดสินโทษทั้งสองเลยเพคะ จวิ้นอ๋องกับว่าที่พระชายาลอบสวมหมวกเขียวให้พระองค์ จะปล่อยให้พระองค์ถูกหมิ่นเกียรติไม่ได้นะ...”
เพียะ!!
เย่ปิงปิงตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของน้องสาวตัวดีด้วยความโกรธ
“เจ้ามันนังอสรพิษ ข้าไม่น่าเอ็นดูเจ้าอย่างน้องสาวเลย”
“หึ แล้วใครใช้ให้เจ้าโง่เขลาเช่นนี้เล่า โดนข้าหลอกใช้แล้วยังไม่รู้ตัวอีก นังโง่”
เพียะ!!
ครานี้เย่ปิงปิงตวัดฝ่ามือใส่หน้าของนางอีกครั้งด้วยความเหลืออด ในตอนที่นางจะเข้ามาตบหน้าของน้องสาวอีกครั้ง องค์รัชทายาทก็ได้เข้ามาผลักนางออกไป ร่างของเย่ปิงปิงล้มลงไปกับพื้นไม้อันเย็นเฉียบ องค์รัชทายาทรีบเข้ากอดประคองดูหน้าของน้องสาวนางด้วยความทะนุถนอม
Talk : แวะมาเปิดเรื่องใหม่ค่า เรื่องนี้เป็นแนวแก้แค้น นางเอกสายฟาดค่า ฝากติดตามด้วยนะคะ ถ้าชอบฝากกดใจ คอมเมนต์ และสติ๊กเกอร์คนละอันเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ
ปล. ใครสายอีบุ๊ครอไม่นานนะคะ อีบุ๊คจะมาในเร็ว ๆ นี้ค่ะ และจัดโปรลดราคาพิเศษสุด ๆ สำหรับเดือนเกิดของไรต์ค่ะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
ตอนพิเศษ 4 การละเล่นของเด็กน้อย กงซูเจินที่เห็นหน้าของเจียงหนิงเหมยก็รีบตรงเข้าไปดึงแขนของหญิงสาวด้วยความสนิทสนม "พี่สาว เราไปนั่งเล่นกันที่ศาลาด้านนู้นกันเถิดเจ้าค่ะ ข้ามีอะไรสนุก ๆ อยากมาเล่นกับพี่สาวด้วยเจ้าค่ะ" กงซูเจินแย้มยิ้มอย่างน่ารักน่าเอ็นดู นี่จึงทำให้เจียงหนิงเหมยรู้สึกเอ็นดูท่านหญิงน้อยผู้นี้มาก นางทรุดตัวนั่งคุกเข่าเพื่อให้สามารถพูดคุยกับเด็กหญิงได้ "ท่านหญิงน้อยนำทางเลยเพคะ หม่อมฉันจะเป็นเพื่อนเล่นให้ท่านหญิงน้อยเองเพคะ" จบคำหญิงสาวก็จูงมือเด็กหญิงไปทางศาลาด้านนู้น โดยมีหญิงสาวกว่าสามสิบนางติดตามมาด้วย แม้ทั้งคู่จะดูสนิทสนมกันมากจนสร้างความไม่พอใจให้แก่สตรีทั้งหลาย แต่เพราะพวกนางคิดว่าอย่างไรพวกนางก็ยังมีโอกาสอยู่มาก สตรีที่อยู่แต่ในสนามรบจะเข้าใจการเล่นกับท่านหญิงน้อยที่ถูกประคบประหงมได้อย่างไร หวังซิ่วอิงไม่ใคร่จะถูกชะตากับกงซูเจินนัก นางจึงคิดว่าในบรรดาเด็กทั้งสามนั้น กงซีซวนดูน่าเข้าหาที่สุด เพราะใบหน้าของเด็กชายนั้นเปื้อนยิ้มตลอดเวลา ผิดกับกงซีห่าวที
ตอนพิเศษ 3ด่านสุดท้าย ไป๋มู่ตานที่ไม่มีหลานสาวนั้นรู้สึกเอ็นดูบุตรสาว และบุตรชายของชินอ๋องมาก โดยเฉพาะกงซูเจินที่พระนางเอ็นดูมากเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะพระนางเองนั้นไม่มีบุตรสาวเลย เมื่อได้มีหลานสาวที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู และช่างพูดเช่นนี้ พระนางจึงทั้งรักและหวงแหนท่านหญิงน้อยมากทันทีที่ไทเฮาทรงรู้เรื่องในวันนี้ พระนางก็กริ้วเป็นอย่างมาก มีอย่างที่ไหนกล้ามารังแกผู้อื่นในวังหลัง ทั้งยังกล้ามาขึ้นเสียงและต่อว่าหลานสาวคนโปรดของพระนางอีก"เจินเอ๋อร์หลานป้า เจ้ากลัวหรือไม่""ไม่เพคะ หลานรู้ดีว่าอยู่ที่นี่ไม่มีใครกล้าทำร้ายหลานได้ ก็หลานมีไทเฮาที่ทรงรักหลานอยู่ทั้งคนนี่เพคะ"กงซูเจินเข้าไปออดอ้อนไป๋มู่ตานอย่างน่าเอ็นดู เรียกเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นมาจากไทเฮาได้"เด็กดี อย่าได้กลัวไปเลย"ไป๋มู่ตานเรียกกงซูเจินให้เข้าไปหา พระนางลูบศีรษะเล็กด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันไปคุยกับเย่ปิงปิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง"ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วยที่เกิดเรื่องเช่นนี้ได้ โชคดีที่เจินเอ๋อร์เป็นเด็กกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด มิเช่นน
ตอนพิเศษ 2คัดเลือกฮองเฮา สองปีผ่านไปแคว้นลั่วหยางได้ถึงคราวเปลี่ยนรัชสมัยใหม่ เนื่องจากฮ่องเต้กงหนิงเจี้ยนได้ยกราชบัลลังก์ให้กับกงเจียวลู่ขึ้นเป็นฮ่องเต้คนถัดไป โดยพระองค์อยากจะพักผ่อน ออกห่างจากเรื่องวุ่นวายเพื่อไปใช้ชีวิตอันสงบสุขในบั้นปลายของชีวิตถึงแม้กงเจียวลู่จะยังไม่มีฮองเฮาเคียงบัลลังก์ แต่เขาจะใช้โอกาสนี้คัดเลือกสตรีจากทั่วทั้งแคว้น เพื่อเฟ้นหาหญิงสาวที่คู่ควรกับตำแหน่งมารดาแห่งแผ่นดิน โดยการคัดเลือกรอบสุดท้าย เขาจะให้ท่านหญิงน้อยและท่านชายน้อยแห่งจวนชินอ๋อง เป็นด่านสุดท้ายของการคัดเลือก โดยตั้งข้อแม้ไว้เพียงหนึ่งข้อ หากสตรีนางใดสามารถเอาชนะใจเด็กทั้งสามได้ เขาก็จะแต่งตั้งนางให้เป็นฮองเฮา!! "เจ้าได้ยินเรื่องนี้หรือยัง ฮ่องเต้จะให้ท่านหญิงน้อย และท่านชายน้อยช่วยคัดเลือกสตรีที่จะมาเป็นฮองเฮาด้วย"ชายชราเอ่ยถามสหายข้างกาย พวกเขาทั้งสองกำลังพูดคุยเรื่องแปลกประหลาดนี้ด้วยกัน"ปัดโธ่! ผู้ใดไม่รู้บ้าง ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานท่านหญิงท่านชายน้อยมากเพียงใด จะกล่าวว่าหลงหลานจนกระทั่งให้คัดเลือกสตรีให้ก
ตอนพิเศษ 1ท่านชายน้อยและท่านหญิงน้อย อากาศอันแสนอบอุ่นของสารทฤดูที่มาเยือนแคว้นลั่วหยางนั้น ภายในจวนของชินอ๋องได้มีเสียงหัวเราะร่าของเด็กน้อยทั้งสามดังก้องกังวานไปทั่วเรือน เมื่อเย่ปิงปิงที่เพิ่งเสร็จจากการตรวจสอบบัญชีของร้านค้า นางได้เดินตรงมาหาลูก ๆ ด้วยความคิดถึง แต่ภาพตรงหน้านั้นกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกขบขันยิ่งนัก ดวงตาคู่สวยทอประกายแห่งความเอ็นดูออกมาอย่างเปี่ยมล้นเกากงกงที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเด็กน้อยทั้งสามที่อายุได้หนึ่งหนาวนั้น เขาได้ทำท่าทางต่าง ๆ โดยแสดงสีหน้าที่หลากหลาย ทั้งหัวเราะร่า ยิ้มตาหยี คิ้วขมวดมุ่นขึงขัง ดวงตาเบิกกว้างที่ขยายใหญ่กว่าปกติ และเบะปากร้องไห้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กน้อยทั้งสามจึงส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาด้วยความชอบใจ "ฮ่ะฮ่าฮ่า"เสียงหัวเราะของเด็กน้อยช่างเป็นการปลอบประโลมให้กับหัวใจของเกากงกงยิ่งนัก ในทุก ๆ วันที่เขารู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน เขาก็ได้มาเล่นกับท่านชายและท่านหญิงน้อย การทำท่าทางต่าง ๆ คือสิ่งที่ทำให้เด็กน้อยทั้งสามหัวเราะร่าด้วยความเบิกบานใจ เกากงกงจึงชอบมาเล่นเช่นนี้ในทุ


















reviewsMore