เธอแอบนินทาเจ้านายวายร้ายแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ในเมื่อเจ้านายบอกให้กลับเร็วได้ เธอจะรอช้าอยู่ไย เร่งทำงานให้เสร็จโดยเร็วสิคะจะได้กลับบ้านไว ๆ
ในที่สุดการทำงานอย่างขยันขันแข็งก็จบลง แผ่นหลังบางเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนล้าก่อนจะหยิบแว่นตาหนาออกจากใบหน้าสองมือยกลูบใบหน้าอย่างเหน็ดเหนื่อยก่อนจะพึมพำออกมา
"เฮ้อ!! เสร็จซะที เสร็จไวเหมือนนะเนี่ย" แสนดีพูดกับตัวเองเมื่อเคลียร์งานกองโตจนหมดเธอมองนาฬิกาที่บอกเวลาสี่โมงตรง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเลิกงานเร็วแบบมั๊ก ๆ จากนั้นเธอก็คิดอะไรดี ๆ ออก ดวงตากลมโตฉายความตื่นเต้นความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าหายไปทันที
มือบางล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมา กดพิมพ์ข้อความลงแชทกลุ่มของเพื่อนสนิท นาน ๆ ทีจะได้เลิกเร็วแบบนี้ สมควรนัดรวมตัวกัน ความจริงเพื่อน ๆ ในกลุ่มนัดเจอกันบ่อย ๆ แต่เป็นเธอที่ไม่ค่อยว่าง เนื่องจากปัญหาด้านเวลาในการทำงาน เมื่อจัดการนัดกลุ่มเพื่อนเรียบร้อย แสนดีรีบกลับห้องอาบน้ำแต่งตัวและไปเจอเพื่อนที่คลับประจำ
ทันทีที่สาวสวยสุดเซ็กซี่ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มเพื่อนเสียงทักก็ดังวี๊ดว๊ายตอบรับไม่ขาดสาย
“กรี๊ด...นังแซนดี้มาแล้ว!” เจ๊ซันนี่ เจ๊ใหญ่ประจำกลุ่มรีบหันไปทักคนที่มาใหม่แสนดีที่ตอนนี้แปลงโฉมตัวเองจากแสนดีเลขาสุดเฉิ่ม ใครมองก็เมินแต่ตอนนี้หล่อน กลายร่างเป็นสาวสวยสุดแซ่บ ในชุดเซ็กซี่นามว่าแซนดี้
ไม่ต้องถามว่ามาจากอะไร แซนดี้ก็แสนดียังไงล่ะ!
จากเลขาลุคป้าเปลี่ยนลุคจนไม่มีใครจำได้ แว่นหนาเตอะถูกถอดออก ดวงตาคู่สวยถูกแทนที่ด้วยคอนแทกต์เลนส์สีเฮเซลนัทดูมีเสน่ห์ ผมดำตรงถูกม้วนดัดลอนสวย เสื้อเชิ้ตแขนยาวและกระโปรงคลุมเข่าถูกเปลี่ยนเป็นเดรสสั้นสีดำทำให้ดูตัดกับสีผิว ส่งผลให้ร่างงามผิวเนียนสว่างดูออร่าขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า ดูจากที่เธอเดินเข้ามาแล้วผู้คนพากันแหวกทางแล้วพากันมองตามไม่ละสายตาก็รู้ว่าเธอนั้นโซฮอตขนาดไหน
ส่วนเพื่อน ๆ ที่เห็นก็พากันจิกตามองพร้อมด่าเสียงขรมด้วยความหมั่นไส้
“อีดอก เดินเข้ามามีแต่คนมอง กูดับหมด! แล้ววันนี้กูจะได้ผู้ไปแดกไหมเนี่ย!!” โมจิเอ่ยแซวเพื่อนสาวออกมา เพราะตั้งแต่ที่แสนดีเดินเข้ามามีแต่ผู้ชายมองตามไม่ละสายตาตอนนี้ก็ยังมองไม่เลิก
“กูล่ะอยากให้เห็นร่างตอนทำงานจริง ๆ” ตามด้วยเพื่อนคนสุดท้ายอย่างจัสมิน
“กูนึกว่ามันจะเอาร่างแสนดีมาซะอีก แต่ไหน ๆ ก็รวมตัวกันแล้วมาชนหน่อยโว๊ย!!” เจ๊ซันนี่พูดขำ ๆ สี่สาวชนแก้วกันเป็นการฉลองการรวมตัวกันในรอบแรกของเดือน
"แต่ยังไงวะ คืนนี้ถึงได้ออกแรดได้" เจ๊ซันนี่ยังคงถามด้วยความข้องใจ
“ก็เจ้านายให้เลิกงานเร็วทั้งที แซนดี้ก็อยากออกมาเที่ยวบ้าง จะเอาแสนดีมาทำไมล่ะ” แสนดีที่อยู่ในร่างแซนดี้เอ่ย นี่เป็นความลับอีกอย่างหนึ่งของแสนดี คือเธอไม่ได้เฉิ่มเฉยเหมือนตอนทำงานอย่างที่ภามภากรชอบว่าเธอซะหน่อย
เธอแต่งตัวแต่งหน้าเป็น เป็นสาวสวยกับแก๊งเพื่อนแซ่บ ๆ แต่ที่เธอแสดงด้านนั้นให้เจ้านายเห็น ก็เพราะเธอไม่อยากมีเรื่องชู้สาวกับไอ้เจ้านายชีกอบ้ากามน่ะสิ!
“กูล่ะอยากให้เจ้านายมันเห็นมันในร่างนี้จริง ๆ” โมจิพูดกลั้วหัวเราะ พลางคิดว่าถ้าเกิดเจ้านายของเพื่อนสนิทเห็นร่างทองของมันจริง ๆ จะตกตะลึงขนาดไหน
“พนันได้เลย ยัยแซนดี้ไม่รอดแน่ ๆ” เจ๊ซันนี่ว่าตาม
“กูว่ามันปลาบเจ้านายมันอยู่ ทรงนี้ไปไหนไม่รอดหรอก” จัสมินผสมโรงอย่างออกรส
แซนดี้วางแก้วเหล้าลงทำสีหน้าระอา “พอ ๆ กูอุตส่าห์อยู่ในร่างแสนดีสุดเฉิ่ม โดนไอ้คุณภามถอนหายใจใส่ทุกวัน พวกมึงก็จะมาชงมาเชียร์อะไรพอ ๆ”
“เอ่อ แล้วเรื่องนั้นเป็นไงบ้างวะ ดี” จัสมินเอ่ยถามเธอ เรื่องนั้นที่เพื่อนหมายถึงก็คือเรื่องเซ็กส์บำบัด เรื่องที่เธอใช้ของเล่นกับตัวเองในการบำบัดความเครียด ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่แสนดีได้เคยระบายกับเพื่อน ในกลุ่มนี้จึงรู้เรื่องราวลับ ๆ ของแสนดีหมดทุกคน
ตอนที่เธอจะเอ่ยบอกเพื่อน ๆ แสนดีทำใจอยู่นานทั้งเขินทั้งอาย กว่าจะเอ่ยปากบอก เธอคิดว่ามันคงเป็นเรื่องแสนประหลาดและสัปดน แต่เปล่าเลย เพื่อน ๆ รับฟังและตอบรับไปในที่ดีและแสดงออกว่ามันเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นหลายเดือน
“ไม่เห็นแปลกเลยค่ะ ของมึงใช้เพื่อการบำบัด ส่วนกูนั้นใช้ของเล่นตอบสนองความใคร่ตัวเองค่า” เจ๊ซันนี่เอ่ยออกมาเป็นคนแรกหลังจากที่ได้ฟังแสนดีเล่าเรื่องเซ็กส์บำบัด นอกจากจะอึ้งส่วนมากเพื่อนจะทึ่งเสียมากกว่าที่แสนดีพูดออกมาเพื่อนปรึกษาหารือกันตามตรง
“หากต้องการของเล่นแบบไหน เจ๊แนะนำให้ได้นะคะ” เจ๊ซันนี่ยังสนับสนุน
“ใช่มึง...มันไม่ใช่เรื่องแปลก มึงไม่ต้องกังวล อย่างของไอ้โม มันมีพาร์ทเนอร์เพื่อเป็น FWB ยิ่งกว่ามึงอีก” จัสมินเอ่ยพร้อมกับพยักหน้าไปทางโมจิที่ยิ้มกว้างยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน
“เออเว๊ยย...เรื่องของมึงปกติ ไม่ต้องคิดมากห่าเหวอะไรทั้งนั้น อะไรที่เป็นความสุขมึงก็ทำไปเหอะ มึงมีอะไรอยากระบายหรือให้ช่วยก็บอก พวกกูพร้อมจะซัปพอร์ตมึงเสมอ” โมจิยังพูดด้วยความเป็นห่วงและพร้อมที่จะสนับสนุน
ปัจจุบัน
“ก็เรื่อย ๆ ช่วงไหนเครียดก็ของเล่น แต่ช่วงนี้ก็เบื่อ ๆ เหมือนกัน มันไม่ค่อยเสร็จ” แสนดีเอ่ยออกมาตามตรง เพราะเธอกับกลุ่มเพื่อนสนิทกลุ่มนี้ไม่ได้มีความลับอะไรต่อกัน สามารถพูดเรื่องนี้ได้อย่างสนิทใจ
“ลองเปลี่ยนจากของเล่น มาเป็นเอ็นอุ่นจริง ๆ ไหม?”
อุ๊ยย น่าลอง....ของใครดีน้าา
'แสนดีคือแซนดี้ พวกเธอคือคนคนเดียวกัน'เขาควรดีใจหรือควรรู้สึกอย่างไรดีกับความจริงที่กระแทกหน้า ความรู้สึกเหมือนถูกหลอกทำให้โลกทั้งใบที่เคยมั่นคงพังทลายลงในชั่วพริบตาหัวใจเหมือนถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก ความไว้เนื้อเชื่อใจที่เคยมีราวกับกระจกใสถูกทุบจนแตกละเอียดเป็นเสี่ยง ๆ ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจทุกอย่างสับสนประดังประเดเข้ามาไม่หยุดในหัวมีแต่คำถามว่า 'ทำไม ๆ' วนเวียนอย่างไม่จบไม่สิ้น เขารู้สึกเหมือนคนโง่ที่ถูกเธอปั่นหัวมาตลอดในตอนที่เขามั่นใจแล้วว่า เขาชอบแสนดีเลขาสุดเฉิ่มที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอดสี่ปี แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขากันแน่ คำถามเกิดขึ้นเต็มหัวเขาไปหมด เธอทำแบบนั้นทำไม แสนดีจงใจเข้าหาเขาอย่างนั้นเหรอ? เธอทำเหมือนผู้หญิงพวกนั้นที่ต้องการเข้าหาเขาจริง ๆ เหรอ?หรือบางทีอาจไม่เป็นแบบนั้น...ในใจของภามยังค้าน เพราะถ้าเธอทำเธอต้องทำเมื่อหลายปีก่อนแล้วสิ!หรือเธอตั้งใจเข้ามาหลอกเขา ต้องการปั่นหัวเขาเล่น แต่เธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรกัน ที่ผ่านมาเธอทำหน้าที่อย่างดีไม่เคยให้ท่าไม่มีท่าทางอะไรที่ทำเหมือนสนใจเขาด้วยซ้ำ ทั้งยังเว้นระยะห่างขีดเส้นเจ้านายกับลูกน้องชัดเจน อีกท
“ฉันทำได้ไหม?” ภามเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลปนเสียงพร่า แสนดีพยักหน้าเป็นคำตอบเธอเองก็หักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ร่างกายอ่อนระทวยตั้งแต่เขามอบจูบให้ครั้งแรก ภามโอบรอบเอวคอดกิ่วแล้วก้มลงบดจูบกันอีกครั้ง ต่างคนต่างดูดริมฝีปากราวกับโหยหามานาน อวัยวะรับรสที่อ่อนนุ่มเกี่ยวกระหวัดพันกันไปมา มือหนาค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแล้วถอดมันออกทันที มือร้อนลูบไล้ผิวเนียนและปลดบราเซียออกยอดอกชูชันขึ้นมาราวกับรอสัมผัส ฝ่ามือนวดคลึงอกอวบทั้งสองเต็มกำมือ เสียงหวานครางออกมาเมื่อถูกปรนเปรอที่จุดอ่อนไหวจนเธอสร้างสยิวไปทั้งตัวตรงจุดนั้นก็ร้อนผ่าวคล้ายจะมีไฟลุกขึ้นมา แรงปรารถนาเข้าครอบงำจนสมองขาวโพลนสติหายไปเกินครึ่งมือบางจัดการถอดเสื้อยืดสีขาวของภามออกเช่นกันปากร้อนไล่จูบริมฝีปากบางกดจูบดูดดื่ม ลิ้นสากเลียมาที่ซอกคอ ร่างเล็กเนื้อตัวสั่นเทิ้มเมื่อถูกดูดเม้มเข้าที่เนื้ออ่อนจนขนลุกชัน ภามลงน้ำหนักฝากรอยสีกุหลาบไว้เป็นเครื่องหมาย ความเสียวซ่านเริ่มก่อตัวเมื่อถูกปลุกเร้าอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง เธอบิดตัวหนีตามสัญชาตญาณแต่ริมฝีปากของร่างสูงยังตามมาไม่ลดละเขาหอมไล้ลงมาจนถึงยอดอกอวบ มือร้อนทั้งสองบีบนวดมาถึงต้นขาขาวแล้ว
สายตัดไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบ แสนดีเหลือบตามองท่านประธานใหญ่ที่จองมาเขม็ง เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะท่านเพิ่งบอกไปว่าให้เธอรับใช้เจ้านายซึ่งคือเขาที่เป็นท่านประธาน แต่ตอนนี้เธอดันรับปากลูกชายเขาเรื่องงานที่สั่งมาเป็นชุด ไหนเลยจะกล้าปฏิเสธทำให้ตอนนี้เธอได้แต่นั่งทำตัวไม่ถูก และที่สำคัญประโยคสุดท้ายที่คุณภามพูดนั้นมันทำเอาเธอใจเต้นตึกตักสั่นรัว เพราะอยู่มาเกือบจะ 5 ปีเขาเคยเอ่ยแบบนี้ที่ไหนกันภูมิพัฒน์มองเลขาลูกชายได้แต่คิดในใจว่า ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาขาดเลขาอย่างแสนดีไปไม่ได้อย่างแน่นอน คนอาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมมองออกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมันมากกว่าเลขาและเจ้านาย ลูกชายของเขาเอาแต่ใจ และคนที่จัดการเรื่องตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ตามเช็ดตามล้างให้เจ้าภาม ก็มีแต่เลขาแสนดีที่ทำได้ไม่สิ ลูกชายเขาเลือกให้เธอเป็นคนทำให้ต่างหาก ส่วนเธอก็เป็นคนที่ยอมเฮ้อ...ปวดหัว!!!"กลับเถอะ"***หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป กับการที่แสนดีได้เปลี่ยนเจ้านายใหม่ชั่วคราว เธอได้เลิกทำงานไวขึ้น ทุกครั้งที่เลิกงาน ท่านประธานมักบอกให้เธอกลับไปพักผ่อนซะ งานไม่ได้เร่งรีบขนาดนั้น แสนดีซึ้งจนน้ำ
แสนดียิ้มแหยเมื่อเห็นท่านประธานใหญ่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองอยู่ ท่าทางแบบนี้เหมือนกับว่าท่านจะได้ยินซะแล้ว“เอ่อ...พอดีดิฉันกำลังสั่งอาหารกลางวันให้คุณภามค่ะ” เธอเอ่ยตอบเสียงเบา ภูมิพัฒน์คิ้วขมวด มองเลขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ ก็ไอ้เจ้าลูกชายเขามันไม่ได้ทำงาน แล้วมันอยู่บ้าน สั่งข้าวเองไม่เป็นรึยังไง“ตอนนี้เจ้านายของเธอคือฉัน คนอื่นไม่ต้องไปฟังคำสั่งเข้าใจไหม” ภูมิพัฒน์เอ่ยเสียงเข้มแล้วเดินกลับเข้าห้องไป ในใจคิดถึงไอ้ลูกชายเอาแต่ใจ ขนาดวันปกติที่มันไม่ได้ทำงานมันก็มีแม่บ้านคอยเตรียมอาหารให้ ไม่จำเป็นต้องให้เลขามาจัดการให้ตลอด เรื่องแค่นี้ทำไมแม่บ้านจะจัดการให้มันไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าเจ้าตัวนั้นเจาะจงให้เป็นเลขาของมันโดยเฉพาะ...แต่ทำไมล่ะ?ภูมิพัฒน์เข้ามานั่งในห้องทำงานก่อนจะต่อสายตรงไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อถามเรื่องของแสนดี เหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้องและเขาต้องรู้ให้ได้ หลังจากวางสายฝ่ายบุคคล ภูมิพัฒน์ไม่รู้ว่าจะตกใจเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างเรื่องเงินเดือนของแสนดีกับหน้าที่ที่ลูกชายมอบให้เขาเพิ่งรู้ว่าเงินเดือนของแสนดีพอ ๆ กับเลขาของเขาเลย ซึ่งระยะเวลาการทำงานแค่ 4 ปี ไม่น่าเงินเดือนสูงขนาดนี้
หลังจากจบงาน Outing ทุกคนมาทำงานตามปกติ รวมถึงภามด้วย แต่แสนดียังอยู่ในช่วงของการพักตามที่ภามบอก แน่นอนว่าเกิดเรื่องราวในบริษัทและยิ่งเป็นตำแหน่งสูง ๆ ด้วย ยิ่งถูกพูดถึง ภามถูกคณะกรรมการบอร์ดบริหารเพ่งเล็ง เหตุประพฤติตัวไม่เหมาะสม เพราะทำร้ายร่างกายพนักงานเกินกว่าเหตุ แม้ชนัยจะทำผิดจริงแต่ก็ไม่สมควรทำร้ายร่างกายเขาขนาดนั้นเนื่องจากการยื่นเรื่องไล่ชนัยออกทำให้คณะกรรมการต้องจัดประชุมเครียดและนั่นทำให้เรื่องที่ชนัยทำกับแสนดีเปิดเผยในห้องประชุมผู้บริหาร แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นไปตามที่ภามคาดหวังเพราะคณะกรรมการลงความเห็นว่าไล่ชนัยออกไม่ได้ เพราะด้วยชื่อเสียงเรื่องงานของชนัยนั้นไม่ได้ด้อยและหาคนอย่างชนัยยากเขาเป็นถึงโปรดิวเซอร์เบอร์ต้น ๆ รายการที่เขาทำอยู่ตอนนี้ ติดตลาดและเอนเกจดีทั้งหมด ยังไม่รวมรายการใหม่ที่คุณโรสเป็นพิธีกร ที่มาเป็นอันดับหนึ่งตอนนี้แล้วนั่นก็สร้างความไม่พอใจให้กับภามเป็นอย่างมาก@ห้องประชุม"ว่าไงนะ นี่พวกคุณคิดว่าเรื่องที่มันทำเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนั้นเหรอ!!! ไม่ทราบว่าก่อนจะพูดได้ไตร่ตรองออกมาจากสมองกันก่อนรึเปล่า ไอ้เหี้ยนั่นมันเข้าข่ายคุกคามทางเพศนะ!!" ภามลุ
“ไอ้เหี้ย!!!!”ภามรีบกระโจนเข้ามาหาชนัย ยิ่งมองไปทางเตียงเห็นเลขาของตัวเองนอนกึ่งโป๊อยู่ เขาก็ขาดสติตะโกนด่ากราดเสียงดังด้วยผลพวงจากน้ำเมาที่ดื่มไปเยอะยิ่งทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านเดือดดาลกว่าเดิมหลายเท่า ร่างสูงพุ่งเข้ามาจัดการชนัย ง้างหมัดต่อยไปที่ใบหน้าเต็มแรงผลั้วะ!!!ภามต่อยชนัยจนล้มลงแต่ยังไม่พอ ร่างสูงเข้าไปคร่อมตัวชนัยแล้วรัวหมัดต่อไปหลายหมัด จนพนักงานบริษัทที่ตามเข้ามาต้องรีบเข้าไปห้ามและช่วยกันจับเจ้านายที่กำลังขาดสติออกมา"ว๊ายย..ตายแล้วคุณภาม เดี๋ยวก่อนค่ะ ใจเย็นก่อนค่ะ ใครก็ได้ช่วยแยกคุณภามก่อน" เจ๊กีกี้ ที่วิ่งตามมาติด ๆ ส่งเสียงห้ามเสียงดัง เพื่อนพนักงานที่ตามมาด้วยรีบแยกเจ้านายหัวร้อนออกจากชนัยทันที“ออกไปให้หมด!!!” ภามที่หลุดออกจากชนัยหันไปตวาดลูกน้องเสียงดัง ทุกคนรีบออกจากห้องไปอย่างเร็ว เหลือแต่ชนัยที่นอนสลบอยู่ภามเดินตรงเข้าไปหาร่างบางที่นอนไม่รู้เรื่องราว มือสั่น ๆ ยกขึ้นติดกระดุมเข้าด้วยกันจากนั้นก็ใช้ผ้าห่มคลุมตั้งแต่หัวปิดหน้าเอาไว้ แล้วอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวออกมา เขาเดินตรงดิ่งไปยังห้องที่พวกเขาพักอยู่ ถึงแม้ว่าภามจะปิดใบหน้าหญิงสาวคนนั้นไว้แต่ทุกคนก็รู้อยู่ดีว