หลังจากแต่งงานไปได้สองปี หมิงซีก็ได้ตั้งท้องขึ้นมาเธอตั้งหน้าตั้งตารอด้วยความสุข แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบสำคัญการหย่าแทนอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้น หมิงซีนอนจมกองเลือด เธอขอร้องให้คุณชายฟู่ช่วยเหลือลูกของพวกเขา แต่เธอกลับต้องเห็นเขากอดยอดดวงใจจากไปต่อหน้าต่อตาเธอสิ้นหวังและไร้เรี่ยวแรง จากนั้นค่อยๆ หลับตาลงอย่างเชื่องช้าต่อมาได้ยินมาว่า คุณชายฟู่ในเมืองเป่ยเฉิงมีชื่อต้องห้ามที่ไม่ให้ใครพูดถึงในงานแต่ง จู่ๆ คุณชายฟู่ก็เกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา เขาคุกเข่าลงกับพื้น และหันไปมองผู้หญิงใจดำคนหนึ่งด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “พาลูกของฉันมาด้วยแบบนี้ เธออยากจะแต่งงานกับใครงั้นรึ?”
View Moreลู่จิ่งสิงพูดด้วยสีหน้าอันมหิต" ซูเนี่ยน คุณอย่าได้คืบแล้วยังอยากเอาศอกอีก "ซูเนี่ยนมองท่าทางโกรธเกรี้ยวของลู่จิ่งสิง ซูเนี่ยนก็ยิ้มอย่างมีความสุขมากขึ้น "เพียงแต่ว่า ระหว่างสามปีนี้ คุณห้ามแต่งงาน แม้ว่าฉันไม่ใช่คนดี แต่ฉันก็ไม่อยากเป็นเมียน้อยของคนอื่น"เรื่องที่เฉินเจียวต้องการมากที่สุดคือการได้เป็นเจ้าสาวของลู่จิ่งสิงและทรมานเธอจนตายไม่ใช่เหรอฉะนั้นเธอก็จะตั้งใจไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นสมหวัง เธอ ซูเนี่ยนจะไม่มีวันเป็นเมียน้อยที่คนอื่นไล่ล่าลู่จิ่งสิงโกรธทันที "คุณคิดว่าคุณเป็นใคร ผมจะแต่งงานหรือไม่แต่งงาน คุณก็ต้องเป็นของเล่นของผม"“ ลู่จิ่งสิง ฉันไม่ได้ปรึกษาคุณ เพราะอย่างไรก็ตาม คุณก็ไม่อยากปล่อยตระกูลซูของเราไป ถ้าเราตกลงกันไม่ได้ละก็”ซูเนี่ยนเบาเสียงลง แต่ความหมายในเสียงนั้นแข็งแกร่งมาก "เราจะต่อสู้จนตายไปด้วยกัน ไม่ตายไม่เลิก"ทันใดนั้นลู่จิ่งสิง ก็หัวเราะ แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างออกไปหลายเมตรก็ตาม แต่เสียงหัวเราะของเขาทำให้คนหวาดกลัวเหมือนเดิมเขาชอบได้ยินคำว่า ไม่ตายไม่เลิกเขาพูดทีละอักษร "ผม สัญญากับคุณ"หลังจากเขาพูดอย่างนั้น เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและยื่นมือออกซูเนี่ยน
"เหอะ ๆ ..."ซูเนี่ยนพยายามยิ้มด้วยริมฝีปากที่ซีดขาว ผมของเธอยุ่งเหยิงราวกับคนบ้า“ ลู่จิ่งสิง คุณก็รู้ดีว่าทำไมฉันถึงโดนดี”“ ลู่จิ่งสิง คุณมันเลว คุณเป็นสัตว์”“ ลู่จิ่งสิง คุณอยากทรมานจนฉันตายไม่ใช่เหรอ”“ฉัน ให้คุณสมปรารถนาดีไหมคะ”ซูเนี่ยนค่อย ๆ พูดทีละคำ เธอฟ้องร้องด้วยเสียงที่แหบแห้งทันใดนั้นเธอดึงผ้าห่มออก กระโดดขึ้นจากเตียง แล้ววิ่งไปที่หน้าต่างด้วยเท้าเปล่าก่อนที่ลู่จิ่งสิงรู้ตัว ซูเนี่ยนก็ปีนขึ้นไปบนขอบหน้าต่างแล้วเธอมองไปที่พื้นในระยะไกลด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็น " ลู่จิ่งสิง นี่คือชั้นที่สิบ คุณคิดว่ามันจะน่าเกลียดไหมถ้าฉันกระโดดลงไป"“ ซูเนี่ยน ลงมาเดี๋ยวนี้” ดวงตา ลู่จิ่งสิงกลัวมาก เขารู้สึกสมองของเขากำลังจะระเบิด เขาก็คำรามด้วยเสียงแหบแห้ง“แต่ฉันน่าเกลียดมากแล้ว หน้าฉันมีแผลยาวขนาดนั้น วันหลังฉันจะแต่งหน้ายังไง ก็ดูไม่สวยอยู่ดี”ซูเนี่ยนพึมพำกับตัวเองอย่างเหม่อลอยหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความอ้างว้างและความรกร้าง ในขณะนี้ เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าความหมายของการมีชีวิตอยู่คืออะไรเหตุใดชีวิตของเธอจึงเปลี่ยนไปอย่างมากในชั่วข้ามคืนหลังจากลู่จิ่งสิงกลับมาเขาทำลายภาพ
“ลู่...จิ่ง...สิง”เสียงอันสิ้นหวังของซูเนี่ยนราวกับไม้ที่ตายแล้วผุพัง เธอเรียกชื่อของชายคนนั้นทีละอักษรเธอรู้สึกขาดอากาศหายใจเรื่อย ๆ เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตายในสมองของเธอมีภาพหนึ่งลอยผ่าน เธอเห็นแม่ที่รักเธอสุดซึ้งถือเค้กมาฉลองวันเกิดของเธอ“ เนี่ยนเนี่ยน เป่าเทียนเร็วเข้า”แม่ของเธอมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ราวกับว่าเธอเป็นสมบัติที่หายากถ้าเธอตาย คุณแม่คงจะใช้ชีวิตต่อไม่ได้หรือเปล่าเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ น้ำตาหยดใหญ่ก็ไหลออกมาจากมุมดวงตาสีแดงของซูเนี่ยนสรุปเธอทำอะไรผิดกันแน่ดวงตาของลู่จิ่งสิงกลายสีแดงสด และดูเหมือนว่าเขากำลังบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งของมือของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบจะหักคออันเรียวเล็กของซูเนี่ยนเขารู้สึกตัวเองไร้สาระมากเขากลับสงสารผู้หญิงคนนี้ กลางคืนยังเป็นห่วงเธออย่างโง่เขลาพ่อของเขาเสียชีวิตในคุกและแม่ของเขากระโดดลงมาจากตึกฆ่าตัวตาย แต่เขากลับลืมเรื่องเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้เล่นงานเขาและล้อเลียนเขาเมื่อเขาหมดหวังแต่แล้วเธอล่ะเธอกลับด่าเขาน่าขยะแขยงน้ำเสียงนั้นเหมือนกับในวิดีโอตอนนั้นเลย เธอด่าเขาน่าเกลียด ว่าเขาโง่ ว่าเขาสมคว
เขาบีบนิ้วของตัวเอง " เจียวเจียว ครั้งที่แล้วผมเคยบอกคุณแล้วว่า ห้ามแตะต้องใบหน้าของซูเนี่ยน "ใบหน้าเฉินเจียวซีดลงทันทีลู่จิ่งสิงพูดต่อ "คุณไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ ผมจะให้คนจัดการคนพวกนั้นเอง"นั่นหมายความว่า เขาจะไม่ปล่อยคนพวกนั้นเฉินเจียวโกรธมาก เธอกัดฟัน ถ้าลู่จิ่งสิงทำแบบนั้นจริง ๆ ต่อไปเธอจะเสียชื่อในครอบครัวของเธอเธอเป็นคนเรียกคนเหล่านั้นไปเธอพูดอย่างน้อยใจ"เมื่อวานฉันผิดเอง ฉันไม่ควรถูกคุณซูยั่วยุ ฉันควรห้ามพวกเขาไว้"ลู่จิ่งสิงถามอย่างไม่แสดงอารมณ์ "เธอพูดว่าอะไร"เฉินเจียวลังเลอยู่ครู่หนึ่งและตอบอย่างไม่เต็มใจ "คุณสัญญากับฉันก่อน ถ้าคุณรู้เธอพูดอะไร คุณจะไม่โกรธ"“ครับ”“คุณซูบอกว่า ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะอยากให้คุณช่วยตระกูลซู เธอไม่อยากนอนกับคุณเลย เธอเห็นหน้าคุณ เธอรู้สึกหมั่นไส้มาก โดยเฉพาะรอยแผลบนหลังของคุณเหมือนตะขาบ เธอคงฝันร้ายแม้จะมองแวบเดียว... "เฉินเจียวเห็นลู่จิ่งสิงเริ่มเโกรธเรื่อย ๆ และเธอตั้งใจพูดด้วยความโกรธ"จิ่งสิง ฉันโกรธมาก คุณหาสาวข้างนอก ฉันไม่ว่าอะไร แต่ถ้าผู้หญิงด่าคุณอย่างนี้ ฉันทนไม่ได้ค่ะ”คิ้วที่แข็งกระด้างของลู่จิ่งสิง แสดงถึงความโกรธ แล
ลู่จิ่งสิงหันกลับมา เขาเห็นคนที่เรียกเขาคือเฉินเจียวทันใดนั้นเขาจำได้ว่า เฉินเจียวไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ เขาดับก้นบุหรี่โดยไม่รู้ตัวแล้วทิ้งก้นบุรี่ไปเฉินเจียวการกระทำของเขา เธอรู้สึกโล่งใจทันทีเธอรู้เลยว่า ลู่จิ่งสิงจะไม่ตำหนิเธอ ต่อให้ธอจะฆ่าผู้หญิงคนนั้น แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะจัดการเธอ“คุณมาที่นี่ทำไม” ลู่จิ่งสิงถามเฉินเจียวถือกระติกน้ำร้อนไว้ในมือแล้วพูดอย่างอ่อนโยน "จิ่งสิง ฉันเตรียมซุปให้คุณเป็นอาหารเช้า เป็นซุปทะเลของโปรดของคุรเลยนะ"ลู่จิ่งสิงรู้สึกซาบซึ้งมาก ในช่วงเวลาที่เขาได้รับทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมในต่างประเทศนั้น ซุปที่เฉินเจียวทำให้เขาเป็นความอบอุ่นเดียวที่ทำให้เขาสู้ชีวิตได้พวกเขามาที่ห้องอาหารของห้องวีไอพีแล้วนั่งลงเฉินเจียวเปิดฝา ตักซุปด้วยมือของเธอเองแล้วยื่นให้ลู่จิ่งสิงลู่จิ่งสิงรับชามไว้ เขาดื่มซุปให้หมดภายในเวลาอันสั้น“อร่อยไหมคะ รสชาติเหมือนเมื่อก่อนไหมคะ” เฉินเจียวถามเขาด้วยสายตาอ่อนหวาน สายตาอันอ่อนหวานนั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้คำตอบ"อร่อย"เฉินเจียวตักให้เขาอีกหนึ่งชาม แต่เมื่อเธอยื่นให้เขา มือของเธอก็อ่อนลง น้ำซุปในชามนั้นหกออกมาหมด หลังมือข
ซูเนี่ยนเอนตัวลงบนที่นั่งของรถ เธอไร้เรี่ยวแรง เธอและไม่ตอบสนองใด ๆม่านตาของลู่จิ่งสิงหดตัวลงอย่างกะทันหัน และเขาหวาดกลัวอยู่ครู่หนึ่ง เขารีบขับรถไปที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดในโรงพยาบาลซูเนี่ยนนอนอยู่บนเตียงผ่าตัด สติของเธอค่อย ๆ กลับมาการฉีดยาชาเฉพาะที่ยังไม่ได้ผล และเธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าแพทย์ใช้แหนบหยิบเศษกระเบื้องออกจากบาดแผลทุกครั้งที่หยิบเศษนั้นออก อวัยวะภายในจะถูกดึง จนทำให้ซูเนี่ยนเจ็บปวดแสนสาหัสเธอพูดไม่ออก เธอรู้สึกร้อนบ้างหนาวบ้าง เหงื่อเย็นบนหน้าผากของเธอหยดลงมา ไหลเข้าบาดแผล เธอกำฝ่ามือแน่นเพราะความเค็มมีบาดแผลมากมายบนแผ่นหลังที่เรียบเนียนและขาวสะอาด หมอก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน เมื่อคุณหมอเห็นแผลของแผ่นหลังนั้น คุณหมอเองรู้วสึกเสียใจโดยเฉพาะใบหน้านั้น ร่องแหว่งทอดยาวจากโหนกแก้มถึงขมับซึ่งอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้ยาชาค่อย ๆ ออกฤทธิ์ ซูเนี่ยนมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น เธอมีความรู้สึกแบบว่า เธอได้ย้อนเวลากลับสู่กลางฤดูร้อนตอนนั้นเธอยังคงเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนของพ่อแม่ มีเพื่อนสนิทที่แสนดีและมีผู้ชายที่รักเธออย่างสุดซึ้งผู้ชายที่จะเขินอายทุกครั้งที่มองเธอแวบ
ซูเนี่ยนคุมหัวของเธอไว้ มีสองสามคนรีบเข้ามาเตะเธออย่างบ้าคลั่งและตามอำเภอใจหลัง ท้อง และแขนของเธอโดนคนพวกนั้นทีบอย่างแรงผมของซู่เหนียนถูกคนเหล่านั้นดึงอย่างแรง และเธอก็ถูกคนพวกนั้นผลักลงกับพื้น เธอลุกตัวไม่ได้ ช่องปากของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นของโลหิต ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในอวัยวะภายในของเธอทำให้เธอหมดสติ และเธอก็พ่นเลือดออกมาเต็มคำหมัดและเท้าของคนเหล่านั้นราวกับสัตว์ร้ายที่กระหายเลือด เมื่อคนเหล่านั้นเห็นเลือด พวกเขาตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น และพวกเขาก็โจมตีหนักขึ้นเรื่อย ๆซูเนี่ยนขดตัวอยู่บนพื้น เธอพยายามกัดฟันและทนความเจ็บไว้ เพราะเธอไม่อยากร้องไห้เธออดไม่ได้ที่ต้องคิดว่า เมื่อวานในงานเลี้ยงของคนอื่น เธอยังด่าคนอ่นเป็นเมียน้อยที่หยิ่งผยอง แต่วันนี้เธอกลายเป็นเมียน้อยที่ทุกคนไล่ล่าแถมเธอยังเป็นหญิงชู้ประเภทที่ห่วยที่สุด ซึ่งเธอเองยังดูถูกตัวเองเลยเธอไม่สามารถหลบลู่จิ่งสิงได้ ดังนั้นเธอจึงต้องยอมรับความอัปยศอดสูที่เขานำมาให้เธอวินาทีนั้น เธอคิดอยู่ว่า ตายอย่างนี้ไปเลย ถ้าตายก็ไม่ต้องถูกคนอื่นล่ามโซ่ อย่างน้อย ตายแล้วมีความสุขมากกว่าการมีชีวิตอยู่ไม่รู้ใครดึงแขนที่เธอกุมหัวออก
หมิงซีเขามันไร้สาระเธอจะกินหรือไม่กินก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าเธอไม่กิน เพียงแต่ว่า เขาอยู่ที่นี่ เธอกินไม่ลง"คุณออก--"ก่อนที่คำว่า 'ไป' จะเอ่ยออกมา ปากของหมิงซีก็ถูกอะไรยึดไว้"..."ริมฝีปากบางของเขากดลงบนริมฝีปากเธอเบา ๆ ราวกับว่าเขาได้พิจารณาถึงความเจ็บปวดในปากของเธอ เขาจึงลดความรุนแรงลงแต่ถึงแม้เขาทำอย่างนั้นแล้ว หมิงซีก็ยังรู้สึกรังเกียจเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องน้ำ เธอะบัดมือและทำโจ๊กหกใส่เขาฟู่ซือเยี่ยนถูกโจ๊กร้อนลวก หลังจากเขาปล่อยปาก เขาโกรธเมื่อหมิงซีคิดว่าเขาจะโกรธอีกครั้ง แต่เขากลับระงับความโกรธไว้ เปิดกล่องโจ๊กอีกกล่องหนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "กินเลย ไม่งั้นผมจะป้อนคุณเหมือนเมื่อกี้"หมิงซี ไม่เข้าใจชายคนนั้นคิดจะทำอะไรอยู่ในสายตาของเธอ พฤติกรรมของเขาในปัจจุบันผิดปกติเอาล่ะ เธอกินเลยดีกว่าขอแค่เขาออกจากห้องนี้ ขอแค่เขาไม่แทงหัวใจของเธอละกันเธอก้มศีรษะลงแล้วค่อย ๆ เอาช้อนตักโจ๊กเข้าปากทีละช้อนตอนที่เธอกินข้าวเช้า ทรมานเธอมาก เพราะไม่รู้ว่าปากถลอกตรงไหน แค่สัมผัสก็รู้สึกเจ็บมากถ้าไม่ใช่เป็นเพราะฟู่ซือเยี่ยนอยู่ที่นี่ เธอค
หลังจากที่ฟู่ซือเยี่ยนรับยากจากเพื่อน เขาก็ยัดยาสองสามเม็ดเข้าไปในปาก หยิบน้ำแร่ที่โจวมู่ส่งให้เขา แล้วกลืนยาลงไปกู้เหยียนโจวไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาเห็นเพื่อนเขาจ้องมองไปที่ห้องผู้ป่วยตลอดเขาพยายามบอกเพื่อน "เมื่อแกมีอาการ พยายามห่างกับหมิงซีเลย ร่างกายเล็ก ๆ ของเธอรับแกไหวเหรอ ถ้าแกมีเวลานะ แกไปรักษาตัวแบบจริงจังเลย ไม่งั้น ถ้าแกคุมตัวไม่ได้ สร้างปัญหาอะไรไป แกจะเสียใจทีหลัง"กู้เหยียนโจวพูดอย่างคลุมเครือ เพราะโรคไบโพลาร์สามารถกลายเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็ก ไม่ว่าฟู่ซือเยี่ยนจะควบคุมตนเองได้มากแค่ไหน ก็มักจะมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้โดยปกติแล้วเมื่อคุณเผชิญหน้ากับสิ่งที่คุณใส่ใจมากที่สุด การควบคุมตนเองของคุณจะพังทลายลงทันทีทีนี้ฟู่ซือเยี่ยนยอมจดจำคำพูดของเพื่อนไว้ในใจ เขาเม้มริมฝีปากแล้วตอบเพื่อนของเขา "ฉันรู้"กู้เหยียนโจวถามต่อ "แล้วคลิปที่เพิ่งโพสต์ในอินเทอร์เน็ต เห็นบอกว่าแกฉลองวันเกิดให้เสวี่ยเวย และพวกแกสองคนมีข่าวดีกัน มันเป็นเรื่องอะไรกัน"ฟู่ซือเยี่ยนยกเปลือกตาขึ้นและตอบอย่างเฉยเมยว่า "พวกนักข่าวเขียนมั่ว"“แล้วแกก็ปล่อยข่าวกระจายไปทั่วเหรอ แกไม่กลัวน้องหมิงซีเสียใจหรือไ