บทที่ 9 สำออย
หลังจากกินข้าวเสร็จ อีริคก็ขอตัวกลับก่อนซึ่งซินซินก็ขอติดรถกลับมาด้วย
"ใจคอจะไม่อยู่คุยกับพ่อเธอหน่อยเหรอ"
"คุยอะไรอีก ในโต๊ะอาหารนายก็ดูออกว่าพ่อเหน็บแนมฉันเรื่องงานแค่ไหน อยู่ต่อก็คงถูกตำหนิอีกเหมือนเคย" หญิงสาวทำหน้าเบื่อหน่ายขั้นสุด "ขอบใจนะ ถ้านายไม่มาด้วย ป่านนี้คงถูกพ่อดุไปหลายยก"
"ถ้าเป็นฉันนะ..." อีริคไม่พูดอะไรต่อ เขาเพียงเลียริมฝีปากตัวเองแล้วเปิดประตูก้าวขึ้นรถ ส่วนซินซินหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องที่เดินตามมา บอกพวกเขาว่าไม่ต้องตามเธอกับอีริค
"แล้วนี่จะไปไหนต่อ"
"บ้าน คอนโดฯ คลับ นั่งกินไวน์ชิลๆ"
"สรุป?"
"ไม่บอก"
"เออ"
ซินซินหันไปมองนอกกระจก ก่อนจะพึมพำเสียงอ่อน
"ถ้าฉันเกิดมาเป็นผู้ชายคงดีนะ"
"ทำไมคิดแบบนั้น เกิดเป็นผู้หญิงไม่ดีตรงไหน"
"..." เธอไม่ตอบแถมยังทำหน้ามุ่ยใส่เขาอีก หากให้อธิบายว่าทำไม คงต้องจอดรถคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว และไม่รู้ว่าจะจบที่ตรงไหน เกิดมาในตระกูลคนจีนแท้ ต้นตระกูลก็อยากให้ลูกผู้ชายสืบทอดนามสกุล แต่เธอดันเกิดมาเป็นผู้หญิงนี่สิ
ครืด~ ครืด~
โทรศัพท์อีริคสั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขาล้วงหยิบออกมากดรับสาย ทว่าโทรศัพท์กลับเชื่อมต่อกับรถทำให้ซินซินที่นั่งอยู่ด้วยกันได้ยินเสียงพาเวล น้ำเสียงเขาเหมือนกำลังตกใจด้วย
(คนโปรดน่าจะต้องปะ...)
อีริคตัดสายลูกน้องแล้วหันมามองหน้าคนข้างกาย
"คนโปรด? ใครเหรอ"
"เด็ก"
"เลี้ยงเด็ก? แล้วเด็กที่ว่าตัวโตแค่ไหนแล้ว" ซินซินพยักพเยิดหน้าถามน้องชาย แต่อีริคไม่ตอบ พอมาถึงบ้านเขาก็โบกมือให้เธอแล้วขับออกมาจากหน้าบ้านซินซิน มุ่งหน้าไปที่คอนโดมิเนียมทันที
"เอ่อนายครับ" พาเวลเลิ่กลั่กที่เห็นเจ้านายลงจากรถ เดินมาหาเขา "เธออาการไม่ค่อยดีครับ"
"นายกำลังทำฉันหงุดหงิดนะพาเวล" อีริคปรายตามองลูกน้อง เขายังหงุดหงิดใจไม่หายที่พาเวลโทรไปรบกวน
อีริคขึ้นไปที่ห้องพัก เพื่อให้เห็นกับตาว่าคนโปรดไม่สบายหนักอย่างที่พาเวลรายงาน พอเข้ามาในห้องก็เจอกับแม่บ้านที่คอยเช็ดตัวให้คนโปรดอยู่
"สำออย" ฝ่ามือหนาคว้าจับแขนเรียวเล็ก ก่อนจะออกแรงกระชากร่างเล็กลุกขึ้นมา แรงกระชากมหาศาลพาร่างเล็กลอยมากระแทกอกแกร่ง ใบหน้าสวยเหยเกเล็กน้อย จากพิษไข้ทำให้เธอไม่รับรู้ความเจ็บปวด อนึ่งร่างกายกำลังด้านช้ากับความเจ็บปวดนี้ "ฉันรู้ว่าเธอต้องการอะไร อย่ามาสำออย" อีริคยังไม่ปักใจเชื่อ ว่าคนโปรดจะป่วยหนัก
"นายครับ" พาเวลมองไปที่ใบหน้าซีดเซียว แรงกระแทกเมื่อครู่ทำให้เลือดกำเดาเธอไหลออกมาเปรอะเปื้อนเสื้ออีริค
"ฉันจะจัดการกับเธอยังไงดี!" เขากำหมัดแน่น ก่อนจะพยักหน้าให้พาเวล
สามชั่วโมงต่อมา
คนโปรดปรือตาหนักอึ้งขึ้นมองเพดานห้อง ห้องพักกว้างขวางแถมยังมีเฟอร์นิเจอร์ครบทุกอย่าง แต่มันที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เธอคุ้นเคย
"อื้อ~" หญิงสาวเปล่งเสียงครางแหบพร่า เธอรู้สึกปวดหนึบที่จมูกมาก จนต้องยกมือขึ้นมากุมไว้
"ฟื้นแล้วเหรอ" พาเวลเอ่ยถาม พร้อมกับวางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง
"ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ ทะ ทำไมไม่คุ้นตาเลย"
"อย่าถามมาก มากินข้าวแล้วก็กินยา"
"อ๊ะ!" เธอก้าวลงจากเตียง แต่ก็ถูกรั้งไว้ด้วยสายน้ำเกลือ "ที่นี่ที่ไหน ทำไม..." เพราะวิวด้านนอกไม่ใช่วิวตึกสูงเหมือนที่เคยเห็น เธอจึงเดินออกไปที่ระเบียงและกวาดสายตามองด้วยความตื่นเต้นปนอยากรู้ว่ามันคือที่ไหนกันแน่
สนามหญ้ากว้างขวาง มีบ้านติดกันอยู่หลายหลังและมีคนใส่สูทสีดำยืนอยู่รอบบ้าน
"อาการเป็นยังไงบ้างครับ" น้ำเสียงนุ่มนวลของผู้มาใหม่เรียกความสนใจจากคนโปรดให้ละสายตาจากภาพเบื้องหน้ากลับไปมองยังต้นทางของเสียง
นายแพทย์หนุ่มในชุดทำงานสุดแสนเรียบร้อยเดินเข้ามาตรวจคนโปรดตามหน้าที่
"ไข้ลดแล้ว ยังมีอาการหอบเหนื่อยอยู่ไหมครับ"
"ค่ะ รู้สึกเหนื่อยอยู่" คนโปรดยังไม่ละสายตาจากใบหน้าอ่อนหวานของคนตรงหน้า ราวกับกำลังต้องมนต์สะกด "คุณเป็นหมอเหรอคะ"
"ครับ หมอประจำตัวคุณ" นายแพทย์หนุ่มกำลังจะเอ่ย แต่พาเวลกลับทำเสียงกระแอมกระไอก่อน "เอาเป็นว่าเราจะได้เห็นหน้ากันตลอดสามวัน"
"ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ" คนโปรดไหว้ขอบคุณหมอ ก่อนที่เธอจะเดินไปนั่งลงที่เก้าในโต๊ะเข้ามุม แล้วเลื่อนถาดอาหารมาตรงหน้า เป็นข้าวต้มกุ้งตัวโตและมีถ้วยขิงซอยอยู่ข้าง ๆ ด้วย
'อย่างน้อยเขาก็ยังปรานีฉัน ไม่ให้ตายอย่างอนาถอยู่ในห้องแคบ ๆ นั่น'
ทว่าตอนที่เธอตักข้าวต้มใส่ปาก เสียงสัตว์ชนิดหนึ่งส่งเสียงร้องดังเข้ามาในห้อง คนโปรดหันไปมองด้วยความสนใจแต่กลับถูกพาเวลเดินไปปิดผ้าม่านไว้
"เสียงเมื่อกี้เหมือนเสียงม้าเลยค่ะ ม้าใช่ไหม"
"เธอควรกินให้มาก แล้วพูดให้น้อยลงนะ" พาเวลทำเสียงดุเธอ แล้วเดินออกมาจากห้องพักในสนามม้า ที่อีริคเป็นคนสั่งให้พาคนโปรดมารักษาที่นี่ โดยเรียกหมอประจำตัวเขามารักษาเธอ แทนการพาไปโรงพยาบาล
"เธอฟื้นแล้วครับนาย หมอว่าไข้ลดแล้วแต่ก็ต้องดูอาการต่อไป"
"..." อีริคสะบัดมือเล็กน้อย เป็นการบอกให้พาเวลออกไปจากห้องทำงาน ที่เขายึดเอาห้องรับรองแขกในสนามม้า เป็นที่พักและที่ทำงานชั่วคราว
"หากคุณซินซินมา นายจะให้ผมตอบเธอว่ายังไงครับ"
"ปิดสนามม้า ปรับปรุงชั่วคราว"
"ครับนาย"
วันต่อมา 10:00
"อ้าว! ปิดปรับปรุงได้ยังไง ทำไมริคไม่เห็นบอกอะไรฉัน" ซินซินที่เตรียมของมาให้ม้าตัวโปรดทั้งสองตัวเท้าเอวทำหน้าบึ้งตึงใส่ลูกน้องของอีริค
"นายไม่ได้แจ้งครับ แต่มีการซ่อมบำรุงจริง ๆ จึงต้องปิดไม่ให้ใช้งานชั่วคราว"
"กี่ชั่วโมง?"
"สามวันครับ"
"สามวัน! ตายโหง! แล้วม้าฉันจะอยู่ยังไงเนี่ย"
"คุณพาเวลเลี้ยงให้อยู่ครับ"
"เออ ๆ ไม่กวนแล้ว" เธอเดินกลับไปที่รถ จากนั้นก็ขนของที่เตรียมมาให้ม้าลงมาจากรถ "เอาของพวกนี้ไปให้คาร์มิลกับโซลาร์ด้วย"
"ได้ครับ"
"อ่อ แล้ววันนี้ริคจะเข้ามาที่นี่ไหม"
"ไม่ครับ นายติดงาน"
"อ๋อ แล้วไป" ซินซินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปทันที แท้จริงแล้วอีริคพักอยู่ในสนามม้าตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว
"คุณซินซินมาถามหานายด้วยนะครับ" พาเวลรับสารจากลูกน้องมา ก็รีบมารายงานเจ้านาย
"อืม"
"แต่ผมแจ้งลูกน้องแล้วว่าสนามม้าปิดปรับปรุงชั่วคราว เธอก็เลยกลับไป ฝากเพียงของใช้ของโซลาร์กับคาร์มิลไว้"
"ดีแล้ว แล้วยายนั่นเป็นยังไง"
"อาการดีขึ้นแล้วครับ"
"อืม"
"นายจะไปหาเธอไหม"
"อยากให้มันตายคามือฉันงั้นเหรอ"
พาเวลก้มหน้าทันที
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะครับ เดี๋ยวจะไปสั่งให้ลูกน้องพาม้าคุณซินซินไปเดินเล่น"
"อืม" อีริคเสยผมลวก ๆ พลางพ้นลมหายใจออกอย่างหนัก "มารยาหญิงของเธอ ใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก"
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย