หลายวันต่อมา
P.A.X HOTEL นินิวกลับมาทำงานตามปกติหลังจากใช้เวลารักษาตัวอยู่นานหลายเดือนจนตอนนี้ถอดเฝือกและแผลหายแล้ว ในวันที่รถของเธอซ่อมไม่ได้ก็ยังมีธามขับรถรับส่งโดยที่เจ้าตัวก็ไม่เต็มใจ อีกทั้งวันนี้ก็ได้ธามมาส่งที่หน้าโรงแรมของแพคทริคเพื่อมาขอเจรจาค่าเสียหายกับเขาและลูกน้องของเขา เสียงฝีเท้าหนักเดินมาที่ทางเข้า รอประตูบานเลื่อนของโรงแรมหรูเปิด ร่างอรชรรีบเข้าไปทักทายพนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ขอโทษนะคะมาพบคุณแพคทริคค่ะ ต้องไปตรงไหนคะ” “ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ” “ไม่ได้นัดค่ะ มีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย แต่ถ้าต้องนัดจะได้เจอเมื่อไรคะ” “อีกสองเดือนคิวว่างค่ะ จองเลยไหมคะ” “อืมม ไม่ดีกว่าค่ะ มีเบอร์ติดต่อไหมคะ” “มีค่ะเป็นเบอร์เลขานะคะ” ครืด~ ครืด~ เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือดังขึ้นมา นินิวเลยถือโอกาสกดรับสายแทนที่จะรอบันทึกเบอร์ให้เสร็จก่อน“สักครู่นะคะ” “ว่าไงมึง”ถามคนปลายสาย (อีนิวมานี่กูเจอไอ้แพคทริคข้างหน้าเนี่ย มาเร็ว) “โอเคๆ ….พี่คะงั้นไม่เป็นไรไม่เอาแล้วค่ะขอบคุณค่ะ” . . . “มึงบ้าป่ะให้กูขับรถตามมันมาเนี่ยนะ”น้ำเสียงหงุดหงิดโวยวายลั่นรถยนต์ราคาแพงเพราะว่านินิวมาไม่ทันแพคทริคขับรถออกมาจากโรงแรมเสียก่อนจนนินิวสั่งให้ธามขับรถตาม ด้วยถนนเส้นนี้ผู้คนสัญจรไปมามากมายคงไม่ได้มีใครมานั่งสังเกตว่ามีคนขับรถตามมา “เฮ้ย!มันเลี้ยวเข้าบ้านว่ะ จอดตรงนี้เลย ขอบใจมากมึง”ธามหยุดรถกระทันหันตรงข้ามกับคฤหาสน์หลังใหญ่โตที่แพคทริคเพิ่งเลี้ยวรถเข้าไปข้างในตามคำสั่งของนินิว กริ๊ง~ กริ๊ง~ เสียงกริ่งหน้าประตูรั้วดังขึ้นมาทำให้สองพี่น้องที่กำลังจะเดินเข้าบ้านหันไปตามเสียงนั้น เป็นฝีมือของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตอนนี้กำลังด้อมๆมองๆอยู่หน้ารั้ว ไม่พอเธอยังคงกดมันซ้ำๆ “ใครวะ?” “จะไปรู้เหรอ” “เออเดี๋ยวพี่ไปดูเอง เข้าบ้านไป” “มาหาใคร”เจ้าของบ้านทักทายผู้มาเยือนผ่านรั้วเหล็กที่กั้นอยู่ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาคุ้นๆแต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหน “เอ่อคือฉันมาตามหานายนั่นแหละ” “หาฉัน?” “ใช่”เพราะไม่รู้ว่าคู่กรณีจริงๆเป็นใครจึงทำได้แค่ตามหาแพคทริคคนที่เธอพอรู้จัก ไม่รอช้านินิวเริ่มเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบให้แพคทริคฟังว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น แต่หลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องที่เธอเห็นของผิดกฎหมายของเขาเพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอน “พูดอะไรของเธอ เธอต้องการอะไร”ใบหน้าของแพคทริคทำเหมือนงุนงงราวกับว่าเพิ่งเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก “ฉันขอเบอร์ติดต่อลูกน้องคนนั้นของนายหน่อย” “ลูกน้องคนไหนล่ะ ลูกน้องฉันมีเป็นร้อย” “ก็คนที่ขับรถกระบะคันนั้นไง” “คันไหนล่ะ” “…”นินิวอึ้งไปเมื่อเจอคำถามแบบนี้ อีกทั้งใบหน้าของเขาที่แสดงออกว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนทำให้เธอไปต่อไม่ถูก เธอเล่าไปยาวเหยียดแต่ได้กลับมาเพียงความว่างเปล่า “มันคือใครล่ะ เธอบอกชื่อมาสิหรือบอกรูปประพันสันฐานมา แล้วฉันจะให้ข้อมูลมัน” “…”นินิวจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด ถ้าเธอรู้เธอคงไม่มาหาเขาหรอก ไม่เคยเจอใครโกหกได้หน้าตายเท่านี้มาก่อน “คือฉันก็ไม่รู้….” “ถ้าเธอไม่รู้ ฉันก็ไม่สามารถรู้ได้นะว่ามันเป็นใคร”เขาตัดบทสนทนาได้น่าโมโหมาก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อข่มความโกรธในใจ “โอเค งั้นไม่ตามหาแล้วว่ามันเป็นใคร แต่นายต้องรับผิดชอบค่าเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นให้ฉันแทนลูกน้องนาย”บิลค่ารักษาพยาบาลถูกเอาออกมาจากกระเป๋าแล้วกางให้เขาดูผ่านรั้วเหล็กที่กั้นอยู่ “ค่าเสียหาย? เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเขาเล่นกันแบบนี้เหรอ”มาเฟียหนุ่มแสร้งเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ มือหนาเปิดชายเสื้อเชิ้ตเล็กน้อยพอให้เห็นปืนที่เหน็บอยู่ที่เอว “…”ไม่รู้เขามาไม้ไหน แต่เธอสัมผัสอะไรได้บางอย่างว่าสันติไม่ใช่ทางออกที่ดี เธอจึงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายขึ้นมาเพื่อเปิดคลิปหลักฐานให้เขาดูอยากรู้ว่าเขาจะสามารถแถได้อีกไหม “เห็นไหมว่ามันมีรถนายและรถคันนั้น แล้วฉันมีหลักฐานว่ารถของลูกน้องนายพุ่งมาที่รถฉันแต่เห็นเลขทะเบียนไม่ชัด ถึงจะเป็นรถของลูกน้องนายแต่ฉันคาดว่ามันน่าจะอยู่ในเวลางานดังนั้นถ้าอ้างอิงตามกฎหมายที่บอกว่าถ้าลูกจ้างขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเจ้านายก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย”นินิวอ้างอิงตามกฎหมายที่เธอเองก็ไม่มีความรู้มากนักพร้อมกับเปิดคลิปหลักฐานความยาวหนึ่งนาทีให้เขาดูพร้อมอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่มันไม่มีโอกาสได้เล่นจบ “ไฮเทคเนอะมิจฉาชีพสมัยนี้”มาเฟียหนุ่มมองหน้าอีกฝ่ายอย่างยียวน เหตุการณ์นี้เขาไม่ผิดและเขาเองทำโทษคนผิดให้เธอไปแล้ว กฎหมายที่เธอนำมาอ้างก็ใช้ไม่ได้กับเขาเพราะเขาอยู่เหนือมัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ หรือถ้าจะบอกความจริงว่าเจมส์ตายไปแล้วทุกอย่างก็วนลูปอยู่ที่เดิม “…”เธอไม่ใช่มิจฉาชีพ มันเป็นอดีตไปแล้ว นี่เขาจะหมายถึงเธอตัดต่อมันขึ้นมาอย่างงั้นเหรอ เธอค่อนข้างประหลาดใจกับพฤติกรรมแบบนี้โดยแสดงออกไปทางสีหน้าหมดแล้วและความอดทนก็หมดลง “นี่นายเป็นบ้า…” “กลับไปซะอย่ามาวุ่นวายหน้าบ้านฉันอีก”จู่ๆเขาก็ไล่ตะเพิดเสียงดังข่มเสียงตะคอกของเธอ มาเฟียหนุ่มหันหลังจะเดินกลับเข้าบ้าน แต่นินิวไหวตัวทันรีบใช้แขนที่ขนาดพอดีกับช่องว่างของลูกกรงรั้วสอดเข้าไปรั้งท่อนแขนแกร่งไว้ทัน “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”แพคทริคหันมามองมือเรียวที่รั้งท่อนแขนเขาไว้ด้วยความรำคาญใจ ก่อนจะสะบัดทิ้ง นินิวไม่สนคว้าแขนเสื้อไว้แต่ไม่ทันเขาเดินห่างรั้วไปแล้วเธอทำได้เพียงตะโกนตามหลังไป “นาย กลับมาก่อนกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”หงุดหงิดที่แพคทริคเดินหนีไม่สนใจใยดีเธอ สองมือบอบบางจับลูกกรงรั้วไว้มั่นเขย่าแรงๆ เท้าเตะด้วยความไม่พอใจ มันได้ผลมาเฟียหนุ่มหันมามองนักข่าวสาวอย่างคาดโทษ เขาเดินกลับมาใกล้รั้วอีกครั้งเธอจึงหยุดการกระทำนั้นไว้ “วันนั้นเธอเมาไม่ใช่เหรอ แล้วก็ตั้งใจล้มใส่รถฉันด้วย ทำไมล่ะแผนเรียกเงินแรกไม่สำเร็จเลยต้องใช้วิธีนี้เหรอ มุกตื้นๆฉันไม่หลงกลหรอกนะ” “พูดบ้าอะไรของนาย”มือบอบบางเขย่ารั้วอย่างแรงราวกับว่าถ้าพังมันทิ้งได้ก็จะทำ เสียงของมันดังจนเจ้าของคฤหาสน์หงุดหงิด เขาเร่งฝีเท้าเดินไปเปิดประตูข้างรั้วออกมาข้างนอกกับเธอ เธอจึงปล่อยมือออกจากลูกกรงรั้วและมองตามเขาจนกระทั่งเขาเดินมาประชิดตัวเธอ “ออกไปจากบ้านฉัน อย่าให้ฉันพูดเป็นครั้งที่สาม”หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อปืนกระบอกใหญ่จ่อมาที่ศีรษะเธอ “ทำไมไม่มีความรับผิดชอบวะ จ่ายมาก็จบแล้วป่ะ สิบสองล้านค่าปลอบขวัญและค่าเสียหายอื่นๆ”เรียกค่าเสียหายมากกว่าจำนวนเงินจริงๆที่เคยคิดไว้แต่นั่นก็ไม่ผิดเพราะเธอมีสิทธิ์ที่จะได้มัน ชีวิตเธอมีค่ามากกว่านั้น “ทำตัวได้สมกับเป็นมิจฉาชีพเนอะ อยากได้เงินเหรอถ้าฉันจ่ายสิบสองล้านเนี่ยฉันต้องได้ตัวเธอด้วยละมั้ง มาอ้าขาให้ฉันสิแล้วเธอจะได้มันไป แต่ต้องให้ฉันเอาจนกว่าจะคุ้มสิบสองล้านนะ”มือหนาจะสัมผัสใบหน้าสวยแต่ถูกเธอสะบัดทิ้งไปก่อน มือเรียวผลักอกแกร่งไปอย่างแรงเมื่อสายตาของเขาลวนลามเธอ “สมองคิดได้แค่นี้จริงๆเหรอ ต่ำตมมาก ถ้านายไม่รับผิดชอบค่าเสียหายฉันจะฉะ…..” “อยากกินลูกปืน? แล้วเธอจะรู้ว่าเธอคิดผิดที่กล้ามีเรื่องกับฉัน”เขาเค้นเสียงดุดันอย่างรู้ทันความคิดเธอ ยังไม่พอเขายังขยับปืนมาจ่อใกล้ศีรษะมากขึ้น “ฉันเข้าใจว่าเงินมันหายากนะแต่อย่าทำวิธีนี้อีก ไปหาเหยื่อรายอื่นเถอะ ทำแบบนี้ฉันแจ้งตำรวจจับเธอได้นะ”ตำรวจเหรอ? เธอรอดพ้นจากตำรวจมาแล้วหลายครั้งไม่มีวันที่ตำรวจจะจับคนอย่างเธอได้ “นาย…”ชะงักไปทันทีเมื่อเขายิงปืนขึ้นฟ้า โชคดีที่เป็นปืนเก็บเสียงไม่มีใครแตกตื่น “มีปัญหาอะไรไม่ทราบยัยมิจฉาชีพ”กลายเป็นว่าแพคทริคเป็นคนที่โดนล่ามเสียเอง แพคทริคนั่งอยู่บนโซฟาขนาดพอดีกับตัว โดยที่แขนของเขาถูกกุญแจมือพันธนาการไว้ทางด้านหลัง มีผ้าปิดดวงตาคมกริบไว้ ภายใต้ความมืดมิดยิ่งทำให้ตื่นเต้น เรือนร่างกำยำเปลือยเปล่าของเขามีมือเล็กลูบไล้พานให้ร่างกายตื่นตัว ไรขนอ่อนลุกชูชันทั่วร่าง“หิวนมเมียหรือยัง”มือบางชักรูดแก่นกายเกินมาตรฐานชายไทยอย่างเบามือ สัมผัสจากมืออุ่นๆทำให้เท้าของมาเฟียหนุ่มจิกเกร็ง“หิวมาก อย่าทรมานผัวนะ”เพียะ!“อ๊าาา”แพคทริคครางเสียงกระเส่าเมื่อร่างกำยำถูกฟาดด้วยแส้หนังเบาๆ ที่แผงอก ซึ่งก่อนหน้านี้เธอฟาดมาแล้วหลายครั้งจนเขาแสบซ่านไปทั้งตัว แต่เขาก็ยินดีที่จะโดนมันอีกร่างเล็กเปลือยเปล่าอ้าขาคร่อมลำตัวแพคทริคใช้กลีบอวบนูนถูไถไปกับแก่นกาย ยิ่งส่วนนั้นเสียดสีกันมันยิ่งกระตุ้นให้เธอรีบดันหัวเห็ดแดงก่ำเข้ามาในร่องสวาทจนสุดความยาว“อ๊าาา”เสียงครางกระเส่าดังออกมาโดยพร้อมเพรียงกันระงมห้องนอน ทั้งคนปรนเปรอและคนถูกปรนเปรอต่างอารมณ์พลุ่งพล่าน เธอจึงยื่นอกอวบไปป้อนยังปาก ในขณะที่ร่องสวาทขยับเข้าออกรูดกลืนแก่นกายอย่างเนิบนาบร่างกายของเธอกลับมาปกติ หมอก็อนุญาตให้มีได้แล้ว แต่กลับไม่
แพคทริครับกล่องของขวัญจากบีน่ามาให้นินิว เมื่อนินิวรับมาเปิดกล่องออกมามันเป็น ไปตามคาด สร้อย กำไร ต่างหูรูปงู รูปทรงของมันสวยงามนินิวเองก็ถูกใจไม่น้อย “เป็นไง”“ได้แซะเมียนี่มีความสุขมากมั้ง”“ราคาแพงนะ หอมผัวหน่อยสิ”นิ้วชี้สะกิดแก้มสากตัวเองรอให้แฟนสาวหอมแต่เธอกลับหยิกเบาๆ“มาดื่มกันดีกว่ามา”นินิวยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมารอให้ทุกคนชนแก้วด้วยกันเคล้ง!“หมดแก้ว!”แก้วเก้าใบชนกันเสียงดังก่อนที่แต่ละคนจะกระดกเครื่องดื่มลงคอไปอย่างรวดเร็ว“เออพวกมึง แล้วสิ่งที่กูเคยขอไปว่าจะรวมสองแก๊งเข้าด้วยกันนี่เอายังไง”“มันต้องน่าสะพรึงกลัวมากแน่ๆเพราะแต่ละคนสุดๆกันทั้งนั้น”บีน่าบอกออกมา“รวมไหม แถลงข่าวด้วยไหม เดี๋ยวเอาขึ้นหน้าหนึ่งให้”“มีนักข่าวขี้เสือกอยู่ด้วยวะ”เจอาร์ปรายตาไปมองธามแต่ก็รู้ว่าธามแค่กระเซ้าเย้าแหย่“เดี๋ยวกูตั้งโต๊ะแถลงข่าวให้เอาไหม”“เก็บแม่งจะดีไหม…ซี๊ดด”จู่ๆเจอาร์ก็รู้สึกแปลกๆ เผลอซี๊ดปากเสียงกระเส่าอย่างลืมตัว ทำให้เขาเป็นจุดรวมสายตา ทุกคนมองมาด้วยความประหลาดใจ เจอาร์เองก็ไม่ต่างกันนัก“มึงเป็นอะไร ไอ้เจ”ขุนพลถามด้วยความสงสัยเมื่อเจอาร์เหงื่อเริ่มผุดออกมาตามกรอบโ
สองเดือนต่อมาคฤหาสน์แพคทริค“ไอ้ตัวเล็กของแด๊ดหลับง่ายที่สุด”หลังจากเจ้าตัวเล็กทานนมจนอิ่ม แพคทริคก็กล่อมพิ้งค์พลอยจนหลับไปอย่างง่ายดายภายในไม่กี่นาที เขาวางลูกน้อยลงในที่นอนอย่างเบามือ ยืนดูลูกหลับต่ออีกพักใหญ่ ไม่มีเบื่อ“ละมุนเนอะ”เสียงของนินิวที่ดังมาทางด้านหลังทำให้แพคทริคยิ้มกริ่มแพคทริคไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะละมุนละม่อนได้ขนาดนี้เขาเองก็แปลกใจที่ตัวเองมีลูกแล้วเปลี่ยนไปขนาดนี้~ฟอด~นินิวเข้าไปสวมกอดแฟนหนุ่มทางด้านหลัง หอมหนักๆที่แก้มสากเพื่อเป็นรางวัลให้แพคทริค“เฮียน่ารักจนทนไม่ไหวเลยหรือไง”“ขอบคุณเฮียมากที่ช่วยแบ่งเบาภาระนิว”“มันเป็นหน้าที่ผัวและผัวที่ดีอย่างเฮียก็ต้องช่วยเมียที่ดีที่สุดเลี้ยงลูก”“น่ารักที่สุด”หยิกแก้มสากเบาๆด้วยความเอ็นดู“วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี เดี๋ยวเพื่อนเฮียมาหาลูกนะ”“นิวก็นัดธามไว้แล้ว”“เมื่อไรลูกจะพูดได้”“ใจเย็นก่อนไหมพ่อ”“ทำยาเร่งดีไหม”“เดี๋ยวตบคว่ำเลย”สีหน้าหน้าแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง ทั้งๆที่รู้ว่าแพคทริคพูดเล่น เธอง้างมือหมายจะฟาดเขาจริงๆ“ล้อเล่น”มาเฟียหนุ่มยกมือขึ้นไหว้แฟนสาวโดยอัตโนมัติ “ใครจะทำแบบนั้นกับลูก”“แล้วไป”
หลายเดือนต่อมาบ้านพักของนินิวปัง! ปัง! ปัง!เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวในห้องยิงปืนมานานนับชั่วโมง นินิวลั่นไกใส่เป้าปืนด้วยความชำนาญ เป็นกิจกรรมยามว่างในตอนที่แพคทริคห้ามไม่ให้ทำงาน หลายเดือนที่ผ่านมาเธอจึงซ้อมยิงปืนเป็นกิจวัตรท้องโตขึ้นทุกวัน ในที่สุดนินิวก็ต้องบอกเรื่องนี้กับยายวีรกรรมทั้งหมดของเธอเธอก็เล่าให้วรรณาฟังอย่างละเอียดจะได้ไม่มีอะไรที่ปิดบังกันต่อไป แม้วรรณารู้แล้วจะตกใจอยู่บ้างแต่สุดท้ายก็ยอมรับได้“แม่มันเกรี้ยวกราดขนาดนี้ ลูกออกมาจะเกรี้ยวกราดขนาดไหน”มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาสวมกอดหญิงสาวทางด้านหลัง วางปลายคางเกยไหล่มน มือหนาโอบหน้าท้องขนาดใหญ่ไว้อย่างทะนุถนอม นินิววางปืนลงที่โต๊ะ เหลียวมองแพคทริค มือเรียวกุมมือหนาที่กำลังลูบท้องเธออยู่ “ก็เป็นลูกสาวซาตานจะธรรมดาได้ไง”“ลูกอาจจะออกมาพร้อมกับปืนเลยก็ได้นะ”“ไม่แน่คำแรกที่พูดได้อาจจะเป็นปืน”“เมียเฮียเก่งขึ้นทุกวันนะ”เขาปรบมือเบาๆ ก่อนจะกลับไปกอบกุมมือเธอไว้เหมือนเดิม“กลัวไหมล่ะ”“เกรงใจมากกว่าน่ะ”“นี่ถ้าไม่ติดว่าท้องอยู่จะกระโดดตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังยิงปืนให้ดู”เธอว่าพลางหยิบปืนขึ้นมาควงเล่นด้วยความชำนาญ“
คฤหาสน์แพคทริค“นอนเลยนะ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปไม่ให้ทำงานแล้ว”หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาลแพคทริคก็ประคบประหงมนินิวเป็นอย่างดี ประคองให้เดินขึ้นเตียงไปพักผ่อนสำหรับค่ำคืนนี้“แค่ท้องไม่ได้พิการ ไม่ต้องขนาดนี้”เมื่อศีรษะทุยถึงหมอน ด้วยความหมั่นไส้ที่เขาเห่อมากเกินจึงตำหนิเบาๆ“ฉันเพิ่งเคยมีลูก ไม่รู้ต้องทำไง เป็นห่วงเธอและลูกด้วยเข้าใจไหม”ดึงหมอนอีกใบมาหนุนนอน ตะแคงหันหน้าเข้าหานินิว“รู้ ขอบคุณมาก แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไร”“งั้นก็นอน ดึกแล้ว”“ฝันดีนะคะแด๊ดดี้”“แด๊ดดี้เอาไว้ให้ลูกเรียกเถอะ ฉันว่ามันไม่เหมาะกับคนโฉดอย่างฉัน”“สรรพนามเดิมมันดูห่างเหินไปนะ”“ไหนลองเรียกฉันว่าเฮีย”“เฮียแพค~”“ฟังดูแปลกๆแฮะ น้องนิว”ทั้งสองหัวเราะเบาๆกับสรรพนามใหม่ที่ใช้เรียกของกันและกัน“เดี๋ยวก็ชินนะ”“ขอไปทักทายลูกได้ไหม”“หยุดความคิดนั้นไว้ก่อน เวียนหัวจะตายอยู่แล้ว”“บอกลูกว่าแผ่นดินไหวเขาก็เชื่อ”“ไม่เอาเดี๋ยวลูกมึนหัวตาม”“งั้นตั้งแต่พรุ่งนี้นอนอยู่บ้านเฉยๆเดี๋ยวเฮียเลี้ยงเอง”“นี่ก็สนับสนุนให้เมียเป็นง่อยจัง”ดันตัวลุกขึ้นเพียงนิดไปหยิบผ้าห่มที่พับอยู่ปลายเท้ามาคลี่ออกแล้วห่มปิดใบห
หลายวันต่อมาแก๊งนกต่อนินิวสูดกลิ่นยาดมเข้าปอดฟืดใหญ่เพื่อบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะที่เป็นมาหลายวันแบบไม่ทราบสาเหตุ ทานยาไปแล้วทุเลาลงบ้างแต่ก็ไม่หายไปทีเดียว“ไหวไหม นางพญามานั่งดมยาอย่างนี้เนี่ย”ปกรณ์จับไหล่มนของนินิว ทำให้เธอเหลียวมามอง เธอปิดฝายาดม วางมันไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะหันมาหาปกรณ์เต็มตัว ตวัดขาเรียวยาวไขว่ห้าง “ไหวอยู่แล้ว”มือเรียวตบใบหน้าสวยเบาๆเรียกสติตัวเองกลับมา“เออ มีงานเข้ามาเนี่ย”“งานอะไร”“สายสืบของหน่วยอื่นส่งข้อความมาให้หน่วยเราช่วย ไปล้วงข้อมูลของผู้ชายคนนี้”ปกรณ์ว่าพลางหยิบไอแพดมาเปิดให้นินิวดูรูปชายที่เป็นเป้าหมายรายต่อไป “แล้วนิวต้องทำอะไรบ้าง”ปกรณ์บอกรายละเอียดงานสองสามนาทีหลังจากนั้นนินิวไม่พิรี้พิไรรีบไปแต่งตัว ก่อนจะวางแผนคร่าวๆกับลูกน้องก่อนเริ่มงานคืนนี้คฤหาสน์แพคทริค“เฮีย งานเรียบร้อยแล้วนะ ตอนนี้นิวกลับบ้านแล้ว”เสียงเจื้อยแจ้วรายงานปกรณ์ผ่านโทรศัพท์ ทันทีที่ทำงานเสร็จนินิวก็รีบกลับมาหาแพคทริค(ได้ครบนะ)“ครบ ทั้งหมดฝากไปกับไอ้เปี๊ยกแล้ว สักพักคงถึง มันมาส่งนิวก่อน”(โอเค พรุ่งนี้รอรับเงินได้เลย) “โอเคครับ รับทราบครับ”นินิวกดวางสาย เธอเดิ