วันต่อมา…
“วันนี้วันเสาร์นะ แกจะไปไหน” เสียงบุษบาเอ่ยถามน้องสาวของตัวเองขึ้น ทำให้เบย์ที่ได้ยินหันมองตอบกลับคนเป็นพี่
“ไปทำจิตอาสา วิชาเสรี”
“อ๋อ…”
“แล้วเจ้จะไปไหนอะ”
“ออกคุยงานนอกสถานที่ แกไปทางไหนอะเดี๋ยวฉันไปส่ง”
“มูลนิธิxxxอะ”
“ผ่านอยู่นะ ให้ไปส่งไหม”
“ไป!” เบย์รีบตอบกลับพร้อมกับไม่วายรีบกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทของตัวเอง โดยใช้เวลาอยู่เกือบสามนาที ปลายสายก็กดรับสาย
(ฮัลโหล...)
“ตื่นยัง”
(เพิ่งตื่นน่ะ มีอะไรหรือเปล่า)
“จะโทรถามว่าเธอจะไปพร้อมฉันไหมที่มูลนิธิอะ พี่สาวฉันจะไปส่ง ถ้าเธอไปด้วย ฉันจะให้เจ้ฉันแวะรับ”
(อ๋อ มะ...ไม่เป็นไรดีกว่า บ้านเธอก็คนละทางกับห้องฉันเลย)
“ไม่เป็นไร ไปรับได้”
(เดี๋ยวฉันไปเองดีกว่า ขอบคุณนะเบย์ ไว้เจอกันที่นั่นเลย) เบย์ก็ชะงักไปเล็กน้อยกับโทนเสียงที่ดูรน ๆ ของคนเป็นเพื่อน ทว่าร่างสวยก็เลือกที่จะไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
“อ่า ๆ แล้วแต่ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกนะ” หลังจากเอ่ยบอกวาวาเสร็จ นิ้วเรียวก็กดวางสายเดินเข้าไปนั่งยังรถของพี่สาวตัวเองตามปกติ ใช้เวลาไม่นาน รถของบุษบาก็ขับเข้าไปจอดยัง
@มูลนิธิคนตาบอด
“กลับตอนไหนก็โทรมานะ เผื่อฉันกลับพอดี จะแวะมารับ” เสียงบุษบาบอกกับน้องสาวของตัวเอง
“โอเค” เบย์ที่ได้ยินก็รับคำก่อนจะเดินลงจากรถไปด้วยท่าทีปกติ ก่อนจะเห็นกลุ่มรุ่นพี่ที่ต่างยืนรอกันอยู่
“พี่แตมป์ พี่มาร์คัส พี่ตงตง…พี่นิว พี่นาย สวัสดีค่ะ” เจ้าของใบหน้าเรียวเอ่ยทักทายไปยังคนที่ยืนอยู่ด้วยท่าทีนอบน้อมตามประสารุ่นน้อง
“ใครมาส่ง” แสตมป์เอ่ยถามน้องคนสนิท
“พี่สาวเบย์อะพี่” ซึ่งเบย์ก็ตอบกลับไปตามปกติ ก่อนที่สองสาวจะยืนพูดชวนกันคุยระหว่างรอคนที่เหลือไปด้วยความสนิทสนม กระทั่ง…
“นั่นรถลีโอหรือเปล่า” เสียงแสตมป์พูดขึ้นหลังจากที่รถสปอร์ตสีขาวค่อย ๆ เคลื่อนตัวขับเข้ามายังบริเวณที่ทั้งห้ายืนอยู่ ก่อนที่ทุกคนจะชะงักนิ่งไปเมื่อเห็นร่างเล็กของวาวาที่เดินลงมาจากรถคันหรูนั้น
“โอ๊ะ มาด้วยกัน…แฮะ” แสตมป์ที่รู้สึกแปลกใจพึมพำเอ่ยออกมา ขณะที่เบย์เองก็ยืนนิ่งไปด้วยความงุนงงไม่ต่าง โดยวาวาที่ไม่คิดอะไรก็ยิ้มสดใสเดินตรงเข้ามาทักทายทุกคนด้วยความชวนมอง
“มาด้วยกันได้ยังไงน่ะ น้องวาวา” แสตมป์ที่รู้สึกสงสัยกระซิบถามคนตัวเล็ก วาวาที่ได้ยินแบบนั้นก็ยกยิ้มตาหยีบอก
“พี่ลีโอไปรับวามาน่ะค่ะ เห็นว่าทางผ่าน” เจ้าของใบหน้าเรียวใสตอบกลับอย่างอารมณ์ดีพลางหันมองยังรุ่นพี่ใจดีที่ขับรถไปรับเธอถึงด้านหน้าคอนโดที่พักด้วยรอยยิ้มหวาน ทว่าในตอนนั้นเอง
“เหลือแม่งคนเดียวอีก…” เสียงมาร์คัสพูดขึ้น แต่ยังไม่ทันที่คนตัวสูงจะพูดจบ
"นั่นไง ธามมาแล้ว" แสตมป์ก็เอ่ยออกมาพร้อมกับสายตาทุกคนที่หันไปจ้องมองยังเจ้าของความสูงกว่าร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแววตาดูเข้มดุกว่าทุกครั้ง ก่อนที่ทั้งหมดจะเริ่มแบ่งกันไปทำหน้าที่ของตัวเองตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้ กระทั่งผ่านไปพักใหญ่กับกิจกรรมจิตอาสาของกลุ่ม
“เธอโอเคหรือเปล่า” เสียงเบย์หันถามเพื่อนตัวเล็กของตัวเองที่วันนี้วาวาดูมีท่าทีอ่อนเพลียแปลก ๆ จนเบย์อดไม่ได้ที่จะห่วงใย
“ฮะ”
“เธอดูเหมือนเหนื่อย ๆ น่ะ พักก่อนไหม”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
“แต่เธอดูหน้าซีด ๆ นะวันนี้ ไม่สบายเหรอ”
“ปละ…เปล่าหรอก เอ่อ คือว่าฉัน…”
“พักเถอะ” เบย์มองหน้าบอกเพื่อนตัวเล็กโทนเสียงจริงจัง วาวาที่ได้ยินแบบนั้นจึงได้แต่ทำหน้ายู่ไม่อยากเอาเปรียบคนอื่น ๆ ซึ่งลีโอที่ได้ยินสองคนพูดคุยกันอยู่ก็เดินเข้ามาเอ่ยเสริม
“ถ้าเราไม่อยากพัก งั้นก็เอาไอติมไปนั่งทานเล่นกับน้อง ๆ ดีไหม” คนตัวสูงเสนอไอเดียออกมา ทำให้เจ้าของใบหน้าเรียวใสที่ได้ยินรีบพยักหน้าตอบกลับอย่างชอบใจกับหน้าที่นี้ พร้อมกับรีบสาวเท้าเดินออกไปหาเด็กน้อยคนหนึ่งที่พิการมองไม่เห็นมาตั้งแต่เด็กด้วยความนึกสงสารมีความใจดีอ่อนโยนแสดงออกมาด้วยใจจริง ลีโอที่เห็นก็ส่งยิ้มไปกับท่าทีพวกนั้น ขณะที่เบย์เองก็เหลือบมองท่าทีของรุ่นพี่ตัวสูงด้วยแววตานิ่ง ๆ อยู่เช่นกัน กระทั่งร่างสูงเหมือนรู้สึกตัว เขาก็หันมองไปยังรุ่นน้องอีกคนที่จ้องมองตัวเองอยู่ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ทว่า…
“…” เบย์กลับแสดงสีหน้าเรียบนิ่งทำตัวไม่ถูกใส่อีกคนไป ก่อนจะผละสาวเท้าเดินออกไปด้วยท่าทีราบเรียบแบบนั้น โดยมีสายตาของลีโอที่มองตามร่างสวยของเพื่อนรุ่นน้องตัวเล็กที่เดินออกไปนิ่งอย่างรู้สึกแปลก ๆ บอกไม่ถูก
ดูเหมือนรุ่นน้องคนนี้จะไม่ค่อยพูดคุยกับเขาสักเท่าไร แถมยังดูมีความไม่เป็นมิตรในบางครั้ง…
หรือบางที…เขาก็อาจจะคิดไปเอง
“ช่างเถอะ” ริมฝีปากหนาพึมพำออกมาพลางสาวเท้าเดินตรงเข้าไปยังวาวาที่กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับเด็ก ๆ ด้วยแววตาเอ็นดู
ด้านเบย์
หลังจากเดินเลี่ยงออกมาจากรุ่นพี่ตัวสูง หญิงสาวในชุดนักศึกษาก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปช่วยรุ่นพี่คนอื่น ๆ ในการนำข้าวกล่องที่เตรียมมาไปแจกให้ผู้พิการต่าง ๆ ที่มีทั้งเด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ช่างเป็นอะไรที่ค่อนข้างสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย กระทั่ง…
“ยังมีพวกข้าวของเครื่องใช้อยู่บนรถขนของอีกนะ ไปช่วยกันยกหน่อยสิ” เสียงแสตมป์เดินเข้ามาเอ่ยบอกกับกลุ่มผู้ชายที่ยืนกันอยู่ แน่นอนว่าเบย์ที่ว่างจากการแจกอาหารกล่องก็ไม่รอช้าที่จะสาวเท้าเดินเข้าไปหมายจะช่วย ทว่าขณะที่ร่างบางกำลังเดินจนเกือบจะถึงรถขนของแล้วนั้น
“เฮ้ย มันลูบหัวน้องเขาเลยเหรอวะ” เสียงใครบางคนพูดคุยกันดังขึ้น ทำให้เจ้าของใบหน้าเรียวที่ได้ยินหันมอง ก่อนจะพบว่าเป็นนิวกับนายที่ยืนมองอะไรบางอย่างกันอยู่ ด้วยความสงสัยเบย์จึงเคลื่อนสายตามองตามไป แล้วหญิงสาวก็ต้องชะงักไปกับภาพที่เห็น
ภาพของลีโอที่กำลังเหมือนปลอบใจอะไรวาวาอยู่ด้วยการยกมือของเขาลูบยังหัวเล็กช้า ๆ อย่างอบอุ่นอ่อนโยน จนเบย์เองรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นไม่ปกติ
ความอบอุ่นที่ชายคนหนึ่งมีต่อผู้หญิงที่ตัวเองรู้สึกพิเศษด้วย…
เธอรู้สึกได้ถึงความรู้สึกแบบนั้น
“กูว่ามันจริงจังแน่ ปกติไอ้ลีโอไม่ใช่คนที่จะถึงเนื้อถึงตัวใครง่าย ๆ ตอนมันจีบกับลาเบล…ก็แบบนี้” เสียงนิวพูดขึ้นตามความรู้สึกของตัวเอง ขณะที่นายเองก็ไม่คิดคัดค้านอะไร
“อืม แล้วน้องก็ตัวเล็กเหมือนลาเบล” นายเอ่ยออกมาอย่างคิดแบบเดียวกันกับเพื่อนสนิทว่าลีโอเริ่มที่จะมีอะไรบางอย่างต่อรุ่นน้องตัวเล็กแบบวาวาเข้าแล้ว โดยเบย์ที่ได้ยินทุกอย่างก็เอาแต่ยืนนิ่งไปด้วยความไม่รู้จะต้องรู้สึกยังไงกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่ได้รู้สึกอิจฉาหรืออะไรต่อเพื่อนสนิทตัวเอง เพราะคนน่ารักเป็นธรรมชาติอย่างวาวา จะเป็นที่รักหรือที่หมายปองของเหล่ารุ่นพี่ก็ไม่แปลก
แต่ที่เธอรู้สึกก็คือ…เธอรู้สึกไม่ดีและอึดอัด
หากรุ่นพี่คนนี้จะเข้ามาเป็นคนพิเศษของเพื่อนเธอ แล้วเธอจะต้องรู้สึกยังไง เธอจะต้องทำยังไงกับความจริงที่รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองเคยนอนกับว่าที่แฟนของเพื่อน ไม่สิ มันไม่ใช่การหลับนอนธรรมดา แต่มันคือการ ขายตัวให้เขาเลยด้วยซ้ำ
แล้วเธอจะต้อง…ทำยังไงกับความรู้สึกพวกนี้
“อ้าวน้อง” เสียงนิวหันมาทักทายเบย์ที่ยืนอยู่ ทำให้เจ้าของใบหน้าเรียวได้สติ
“…” เธอก้มหน้ารับคำทักจากรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ไปด้วยท่าทีนอบน้อมแสดงออกชัดถึงความไม่สนิทสนม
“มาช่วยยกของเหรอ ไม่ต้องก็ได้นะ เดี๋ยวพวกพี่ทำกันเอง” นายที่เห็นท่าทีของเบย์เอ่ยบอก ทว่าเรียวปากสีหวานก็ยิ้มบาง ๆ ตอบกลับ
“ไม่เป็นไรค่ะ ช่วยกันจะดีกว่า” สิ้นเสียงหวานตอบกลับ นิวกับนายที่ไม่ได้สนิทอะไรกับรุ่นน้องสาวก็จำต้องพยักหน้าตอบกลับไปเชิงตามใจ ก่อนจะช่วยกันยกลังน้ำที่ซื้อกันมาเดินตรงเข้าไปภายในมูลนิธิ โดยเบย์ที่ยืนอยู่คนเดียวก็ลอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ไม่ใช่เพียงแค่กับลีโอที่เธอทำตัวไม่ถูก กับทั้งนิวแล้วก็นาย เธอก็ยังคงรู้สึกแปลก ๆ กับทั้งสองอยู่เหมือนกัน มันเป็นความไม่กล้าสนิทใจ และเป็นกังวลอยู่เสมอ กลัวว่าอีกคนจะจำเธอเข้าได้ในสักวัน ว่าเธอ…คือหญิงสาวในคืนนั้น
“เฮ้อ” ทว่าขณะที่ร่างบางยืนถอนหายใจออกมา…
“ยังเหลืออะไรอยู่บ้างครับ” เสียงทุ้มคุ้นเคยของรุ่นพี่คนนั้นก็ดังขึ้น ทำให้เบย์ลืมตัวหันไปเผชิญหน้ากับคนที่มาใหม่ด้วยความไม่ทันได้ตั้งตัวพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมที่ลอยเข้ามาเตะเข้าที่ปลายจมูกสวยเข้าอย่างจัง