2.หาทางหนีเขา
•2• เมื่อสถานการณ์กำลังจะเริ่มตึงเครียด คนไร้มารยาทจึงเอ่ยปากอย่างคนหงุดหงิด เมื่อเห็นพฤติกรรมดื้อดึงของผู้หญิงด้านข้าง "นั่งลงสิวะอีโง่! อยากตายโหงนักเหรอ?" มันตะคอกใส่เสียงดังลั่นเพื่อจะหยุดยั้งเธอ อีกคนจึงต้องกลับมานั่งลงทำหน้าตาบูดบึ้ง ราวกับถูกบังคับให้มาด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงขั้นอารมณ์เสียอย่างรุนแรง กอดอกอย่างไม่พอใจ ความอดทนต่ำจริงผู้หญิงคนนี้ แถมยังแอบดื้อเงียบเอาเรื่องใช่เล่นเลย หึ~ แต่คนที่ยังสนุกสนานมองเหยื่อตาไม่กะพริบ เขากลับแอบกระตุกยิ้มร้ายกาจชอบใจ ซึ่งไม่มีใครทันสังเกตเห็น ไพ่ถูกสับก่อนจะแจกให้ผู้เล่น อีกฝ่ายเมื่อเห็นแต้มบนมือ ถึงกับมีเหงื่อผุดเต็มใบหน้า ขอเรียกไพ่ใบใหม่เพิ่ม คล้ายจะใจชื้นขึ้นมาหน่อย สายตาคมกริบดุจนกเหยี่ยว นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไร้ซึ่งอาการดีใจเสียด้วยซ้ำ เขาไม่จำเป็นหงายไพ่ก็เห็นแต้มบนฝ่ามือแล้ว เพราะแหวนสีเงินที่นิ้วเรียว มันสะท้อนราวกับเป็นกระจกใสจนเด่นชัด หึ! เหนือกว่ากูมีแค่ผีเท่านั้นแหละ คิดอยู่ภายในสมอง แต่ดวงตายังจ้องเหยื่อไม่กะพริบ แม้ไพ่นี้จะต้องใช้ดวงเป็นพิเศษ แต่ก็ใช่ว่าจะโกงกันไม่ได้ เพราะมันอยู่ที่คนสับไพ่ต่างหาก เมื่อหมดเวลาวางไพ่นับแต้มกัน อีกคนก็หนาวสั่นลงกระดูกทันที ยิ่งสาวสวยไม่ต้องพูดถึงหรอก เธอแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วตอนนี้ "ไม่เชื่อกันเลยเป็นอย่างไรล่ะ?" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวออกมา ราวกับคนสิ้นหวัง เมื่อรู้คนยื้อให้เล่นเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งลางสังหรณ์ใจของฉันมันไม่ผิดคาดเลย "มึงขี้โกงนี่!" ตะคอกใส่หน้าตาเดือดดาลตามสันดาน "จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรกันครับ? ผมแพ้ให้คุณมาทุกตาเลย หากชนะบ้างมันแปลกตรงไหน? การพนันไม่ทำให้ใครรวยหรอกครับ มีแต่เจ้าของที่รวย" น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมยิ้มร้ายกาจ เพียงแค่เผลอสบตากับเขาก็รู้สึกขนลุกซู่ เขาน่ากลัวมากจริงๆ "คุณอย่าแพ้แล้วพาลสิคะ! เขาพูดมามันก็ถูกต้องอยู่แล้ว การพนันมันจะโกงได้เหรอคะ เขาก็นั่งกับเรามาตลอดเอาเวลาไหนไปโกง เป็นแค่เกมมีแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ไปจ่ายเงินแล้วกลับเถอะค่ะ!" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวออกมา พยายามทำให้อีกคนใจเย็นลง แต่เธอกลับโดนตบหน้าเสียอย่างนั้น ผมเองจ้องมองก็อยากประเคนฝ่าเท้าเลย "มึงรู้ไหมอีโง่! เงินของมึงร้อยกว่าล้านกูใช้หมดตั้งนานแล้ว! เงินส่วนนี้กู้มาตั้งเป็นพันล้าน ต้องขายอวัยวะกี่ชิ้นถึงจะมีปัญญาจ่ายหมด! เข้าข้างคนอื่นดีนักได้เลย มึงก็อยู่เป็นเด็กขัดดอกเจ้าของไปซะ" มันตะคอกใส่ทำร้ายจิตใจผู้หญิงสุดๆ ยกนิ้วจิ้มหน้าผากเธอพร้อมด่ากราดราวกับโกรธจนพาลไปทั่ว "ผมมีข้อเสนอครับ?" น้ำเสียงดุดันกล่าวแอบยิ้มร้ายกาจ แต่รอยยิ้มนั้นต้องหุบลงเมื่อได้ยินคำแสลงหู จากไอ้กุ๊ยตรงหน้าหยาบคายจนต้องพูดสวนกลับ ไม่ใช่แม่กูสักหน่อย ทำตัวเกเรขนาดนี้จะจับหวดให้เข็ด รู้จักกันน้อยไปแล้วสินะ "มึงเป็นใครเป็นเจ้าของที่นี่หรือยังไง ทำไมชอบขี้เสือกจังวะ!" ตะคอกใส่โวยวายอีกคนอย่างหงุดหงิด เพราะสูญเสียเงินก้อนจนติดลบหนักสุดในยามนี้ "เออก็กูเป็นเจ้าของที่นี่มึงมีเชี่ยอะไรล่ะ?" น้ำเสียงดุดันกล่าวแววตาแข็งกร้าวทันที กระโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนโต๊ะ มีพวกสำรับไพ่และชิปแลกเงิน ตั้งอยู่เป็นกองใหญ่ ซึ่งเขาใช้ฝ่ามือกวาดจนประปรายอยู่เต็มแทน หยิบปืนออกมาวางโชว์หราตรงข้างๆ เอียงคอมองใบหน้านิ่งแต่อีกคนกลับเลิ่กลั่ก อารมณ์สงบลงเจี๋ยมเจี้ยมกะทันหันเมื่อได้พบ เจ้าของกาสิโน ที่ทรงอิทธิพลประเทศนี้เข้าแล้ว! "ทั้งตัวตอนนี้ผมไม่เหลือเงินสดแล้วครับ! คุณช่วยรับอีโง่นี่เอาไว้แทน จะได้หรือเปล่าครับ?" กล่าวออกมาตะกุกตะกัก กลัวจนตัวสั่นหงึกแทบฉี่จะราด ซึ่งใครก็รู้จักฉายาเจ้าของที่นี่เป็นอย่างดีกัน เรื่องความโหดเหี้ยมเวลาลงมือ มีเพียงแก๊งสิงโตและแก๊งบีเวอร์ พอจะคานอำนาจแก๊งเขาได้บ้าง ส่วนแก๊งอื่นเรียกว่าห่างชั้นไปไกลเลย รักชีวิตคงต้องรู้จักหลบหลีกอย่างดี "จะเอามาทำไมเปลือง! อยากได้เงินไม่ได้อยากได้คนเว้ย ถ้าไม่มีเงินมึงก็ต้องสละอะไรสักอย่างแหละ" น้ำเสียงดุดันกล่าวแววตาแข็งกร้าว ข่มขู่จนอีกคนตรงหน้าขาแทบอ่อนแรงลง "อีนี่เป็นบ่อเงินบ่อทองของผมด้วยครับ คุณได้ไปจะไม่ขาดทุนแน่นอนเผลอๆ ได้กำไรด้วยซ้ำนะครับ!" กล่าวออกมาตะกุกตะกัก ผลักสาวสวยด้านข้างมาให้อย่างกับเป็นสิ่งของ ช่างเป็นหน้าตัวเมีeจริงๆ "คุณเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมาเองนะ แล้วทำไมต้องโยนมาให้ฉันด้วย กลับกลายต้องเป็นคนรับผิดชอบแทน! หากพ่อฉันรู้เรื่องนี้คุณต้องไม่ตายดีแน่ หึ!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดด่าทอคนสันดานเสีย "มึงขู่ใคร? เป็นแค่ลูกเมียน้อยเท่านั้น! จะมีคุณค่าอะไรให้คนคำนึงถึงนักหนา ทำอย่างกับตัวเองเป็นลูกเมียหลวง แบบน้องสาวมึงเสียอย่างนั้น! ลองหาเงินเข้าบ้านไม่ได้ดูสิ! อยากจะรู้นักเชียวใครอยากจะมาปกป้องมึง ยิ่งอีแคนดี้เพื่อนรักถึงจะมีไอ้โคล่าอยู่ข้างหลัง หากรู้เรื่องที่มึงหักหลังพวกมัน คงไม่คิดช่วยเหลือมึงอยู่แล้ว อยู่ที่นี่ไปนั่นแหละ ถ้าพ่อมึงถามกูจะบอกเขาให้เอง จำใจส่งมึงขัดดอกเอาไว้ไม่มีเงินจ่ายหนี้ มึงก็เป็นเมียเหมือนสมบัติกูอยู่แล้ว จะยกให้ใครมันก็เป็นเรื่องของกู มึงไม่มีสิทธิ์โต้แย้งอะไรทั้งนั้น!" คนอันธพาลบีบแขนพร้อมกระชาก อีกคนหนึ่งเขย่าอย่างรุนแรง พูดจาเหยียดหยามสารพัด จนเธอต้องสะอึกในคำพูดเหล่านั้น ไม่กล้าพูดอะไรต่อปากต่อคำอีก กลัวจะขายขี้หน้าเพิ่มเอาเปล่าๆ ถึงทุกสิ่งมันจะเป็นเรื่องจริง แต่ก็หน้าบางพอไม่กล้าสู้หน้าคนอื่นได้อีก! รู้อย่างนี้คงแอบวางeาแล้วหนีไปกลับแม่แล้ว หากตอนนั้นไม่เผลอคิดว่าเขาจะกลับใจได้ ฉันคงไม่ต้องทุกข์ทนทรมาน อย่างไร้ค่าเช่นนี้ กำหมัดแน่นอย่างเคียดแค้น เม้มริมฝีปากบางขบกัด จนเลือดไหลซึมเล็กน้อย "ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้! มึงเข้าไปคุยกับกูต่อที่ออฟฟิศ ส่วนเธอนั่งรออยู่ตรงนี้อย่าไปซนไหนล่ะ! หากคิดหนีวิ่งเล่นเป็นหนูตัวจ้อย อาจจะตายได้เพราะกับดักเยอะนะ ถือว่าเตือนให้ฟังแล้วกันหึ~" น้ำเสียงดุดันกล่าวปรายตามอง เดินนำหน้าอีกคนไปคุยเรื่องสำคัญต่อที่ห้อง มือก็หยิบโทรศัพท์มาเปิดข้อความ ที่ใช้ให้ลูกน้องคนสนิทไปสืบข้อมูล "ใครอยู่ต่อก็โง่แล้ว!" พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา กวาดสายตามองไปโดยรอบ เพื่อสังเกตว่าคนคุมของที่นี่นั้น ได้หละหลวมการป้องกันแล้วหรือยัง แต่ก็เหมือนไม่มีดวงเลยฉันเนี่ย ผลัดกันเดินวนเวียนราวกับกำแพงแน่นหนา ถ้าไม่ใช่กาสิโนคงนึกว่าเป็นคุกแล้ว รีบลุกขึ้นยืนตรงเตรียมตัวให้พร้อม เอ่ยปากบอกพวกนั้นว่าจะไปเข้าห้องน้ำ เพราะต้องการหนีออกจากที่นี่! "ฉันปวดปัสสาวะไม่ไหวแล้ว ห้องน้ำอยู่ที่ไหนจะไปเฝ้าก็ได้ตามใจ ถ้าไม่ให้ไปก็จะฉี่มันตรงนี้แหละ!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดจ้องเขม็ง สุดท้ายก็ยอมพาไปแต่โดยดี คงกลัวเจ้านายด่าจนแก่แหละ ไอ้หมอนั้นก็ดุเหลือเกินน่ากลัวชะมัด หน้าตาออกจะหล่อดันปากร้ายและเย็นชา หึ! หากต้องเป็นคนขัดดอกจริง ขอคนตามใจไม่ได้เหรอ? สถานะย่ำแย่แบบนั้นใครจะทนยอมเป็นกัน แค่นึกถึงก็สะอิดสะเอียนเต็มแก่แล้วเนี่ย! แต่จะออกจากที่นี่ไปอย่างไรดี เฮ้อ~ คิดอยู่นานก็ยังไม่มีวิธีเอาชีวิตรอดได้เลย แต่งงานผิดยังไม่พอ ชีวิตต้องมาเจออะไรโชคร้ายแบบนี้อีก นี่มันเคราะห์กรรมใหญ่ของฉันหรือเปล่าเนี่ย? "เสร็จหรือยังออกมาได้แล้วครับ!" น้ำเสียงเคร่งขรึมกล่าวเรียกคนเข้าห้องน้ำ "ใจร้อนจริงนะรอนิดหน่อยไม่ได้หรือยังไง?" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดกระฟัดกระเฟียด เดินก้มหน้าอย่างโมโหหยิบขวดสเปรย์พริกไทยในกระเป๋าออกมา ฉีดพ่นใส่หน้าคนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ยกขาเรียวเล็กเตะผ่ากลางเป้าเต็มแรง ในขณะที่ไอ้หมอนี่ไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งบังเอิญมันมาแค่คนเดียว จึงจัดการได้ง่ายหน่อยไม่ต้องเปลืองแรง เก็บของใส่กระเป๋าชะโงกใบหน้า ดูบริเวณทางเข้าหน้าห้องน้ำ มีใครหลบซ่อนอยู่อีกหรือเปล่า? เมื่อรู้สึกปลอดภัยจึงเดินเป็นปกติ กลับออกทางเดิมที่เข้ามาตั้งแต่แรก ก็ไม่เคยมาจะให้ไปประตูหลังก็คงไม่ได้ เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกเกินไปหน่อย เจ้าของที่นี่ยืนขวางหน้าฉันเอาไว้ คล้ายว่าดักรออยู่นานแล้วด้วย กำลังจะล้วงอาวุธคู่กายออกจากกระเป๋า แต่เขาดันคว้าข้อมือของฉันเอาไว้ได้ทัน- ตอนพิเศษ - เข้าสู่ปีที่ 5 หลังจากแต่งงานกันพวกเราทั้งคู่ มีบุตรกันแล้วห้าคน ฉันเฝ้ารอคนที่หกอยู่ไม่รู้จะมาตอนไหน โคล่าและแคนดี้ชอบมาอวดประจำ ทำให้ต้องขยันผลิตลูกตามเลยทีนี้ แต่กลัวสุดตรงประสิทธิภาพรังไข่มากกว่า อายุยิ่งเลยเลขสามมาไกลโพ้นฉันกังวลจริงๆ มัวเสียเวลาตีกับพี่ไคโรเกือบ 7ปีเต็ม คนที่หกวันนี้ต้องเข้าแล้วแหละ ตอนนี้ฉันสวมชุดแม่บ้านสุดเซ็กซี่เพื่อยั่วยวนพี่เขาโดยเฉพาะ เนื่องจากลูกหลับกันหมดแล้วเวลาสะดวกช่างหาได้ยากยิ่งกว่าอะไรดี สองขาเรียวเล็กย่างก้าว เข้ามาสู่หน้าห้องออกกำลังกายด้วยความเร็ว เป้าหมายชอบมาออกกำลังกาย หลังจากเล่นกับลูกและจัดการเอกสารจนเรียบร้อย ฉันค่อยๆ เอื้อมมือแตะลูกบิดประตูหมุนเปิดเข้าไป พร้อมกดลงกลอนเพื่อไม่ให้ใครมาก่อกวน ส่วนพวกเด็กน้อยมีพี่เลี้ยงคอยนอนเป็นเพื่อน ทุกสิ่งอย่างเป็นใจไปหมดเหลือแค่คนเท่านั้น กวาดสายมองหาคุณพ่อสุดหล่อ เขายังคงนอนบนม้านั่งยกน้ำหนักซึ่งมีคานให้วางบาร์เบลได้ เขาชอบเล่นท่าทางฉบับ Bench Press ท่าทางนี้จะเป็นการออกแรงในส่วนของ กล้ามเนื้อหน้าอกซึ่งจะเป็นมัดหลักและส่วนของมัดรองหรือมัดที่ใช้สนับสนุน จะเป็นส่วนของกล้ามเนื้อหัวไหล่และตร
40.ขอแต่งงานอย่างจริงใจ •40• ศิลาพอยืนทรงตัวได้แล้ว เขาก็เอื้อมฝ่ามือหนามาจับฝ่ามือเล็ก ไปกอบกุมลูบละไล้เบาๆ ราวกับคิดถึงกันมากเสียอย่างนั้น ก่อนจะพูดคล้ายเป็นห่วงใยอีกด้วย ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ สถานการณ์บีบบังคับกันเช่นนี้ ฉันก็ไม่รู้จะเอาตัวรอดอย่างไรดีเหมือนกันนะเนี่ย เฮ้อ~ "คุณเป็นอย่างไรบ้างเหรอครับ ผมด่ากราดไล่ลูกน้องออกตามหาคุณไปทั่วเมืองเลยนะ สุดท้ายมารู้ข่าวทีหลังว่าคุณแม่ผม.. เขาแอบลักพาตัวคุณไปเองผมขอโทษด้วย พวกเรายังคบกันอยู่เหมือนเดิมใช่ไหมครับ" ศิลากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมพร้อมฉีกยิ้มกว้าง เนื่องจากเห็นเธอปลอดภัยดีแล้ว อยากไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลไอ้ไคโรก็กันท่าไม่ให้เจอ แต่ก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีแต่ทวงคำตอบคนสวยตรงหน้า เพราะใจรู้สึกชอบเธอมากจนไม่อยากให้เธอไปเป็นของใครทั้งนั้น "ขอโทษด้วยนะคะฉันมีคนรักอยู่แล้ว จริงๆ ตอนนั้นฉันเคยคิดจะเปิดใจให้คุณอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะแต่งงานแล้วค่ะ" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู รีบก้มลงมองพื้นถนนหัวคิ้วผูกชนกันทันที แกล้งโกหกเพื่อรักษาน้ำใจ รู้ว่าไม่สมควรทำอย่างนี้มันไม่ดี แต่หากพูดว่าฉันหลอกใช้เขาคงจะได้มีเรื่องขุ่นเ
39.ฟังแค่เสียงหัวใจ •39• วันที่เธอโดนยาสลบผมได้แอบทำการ ให้เธอลงนามเซ็นสัญญาหย่าขาดกับไอ้สามีเวรนั่น แต่เปลี่ยนมาเซ็นสัญญาใหม่กับผมแทนครับ เพราะรู้ว่าเธอกำลังจากผมไปแล้วจริงๆ มีเพียงแค่ปล่อยมือแยกห่างกันช่วงหนึ่ง แต่รั้งเธอด้วยฐานะตามเอกสารเพียงแค่แผ่นเดียว โดยที่เธอเองยังไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เหตุผลแค่ไม่อยากให้เธอ.. ต้องมาเจอกับภัยอันตรายอยากปกป้องคุ้มครองให้เธอมีชีวิตรอดได้อย่างอิสระและมีความสุข ทำอะไรมาตั้งมากขนาดนั้น แต่ก็ไม่อยากจะอธิบายหรือพูดให้เธอฟัง แกล้งแสดงเป็นคนใจร้ายเหมือนเย็นชาแต่ก็ยังควบคุมอารมณ์หึงหวงไม่ไหว ช่วงหลังสิ่งที่กังวลจิตใจสุด จนไม่มีสมาธิตั้งใจทำงานได้อย่างสงบ คือเธอกำลังจากผมไปเพราะพ่อเธอขะมักเขม้นทำธุรกิจหามรุ่งหามค่ำทุกวัน แต่ยิ่งเก็บสะสมเงินมากเท่าไหร่ กลับยังไม่พอจะรวบรวมมันให้ครบ จำนวนตั้งหนึ่งหมื่นล้านผมตั้งดอกเบี้ยสูง เพียงแค่อยากยืดเวลาให้อยู่กับเธอได้นาน แต่กลายเป็นทำให้เธอต้องมารู้สึกผิดหวัง หมดความเชื่อใจคนอย่างผมอีก พ่อทรายถึงขั้นกู้ยืมเงินจากแก๊งสิงโตเพื่อซื้ออิสระลูกคืนกลับไปดังเดิม คุณดนัยปรารถนาอยากช่วยทรายจริงๆ ตอนนั้นผมแค่อยากรู้สายสัม
38.สับสนไปชั่วขณะ •38• เขาทำหน้างอคอหักอย่างไม่พอใจ เพราะโดนผู้เป็นแม่กล่าวตักเตือน เนื่องจากความโมโหร้ายจากเขา มันช่างน่ากลัวมากจริงๆ "แม่ครับผมสืบมาแล้วถึงได้กล้าลงมือ แม้จะยั้งมือไม่ค่อยอยู่ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็คำนวณผลได้ผลเสียอยู่แล้ว ยอมรับว่าใจเย็นได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องของเธอผมควบคุมไม่ได้" น้ำเสียงดุดันกล่าวแย้งแม่ตัวเองทันควัน "อย่ามาทำพูดดีไปหน่อย ลูกค้าประจำที่แลกเงินบ่อยชื่ออะไรนะ น้องของตาบิลลี่น่ะ" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง "ชื่อบูเก้ครับ" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมถอนหายใจแรง เพราะรู้ตัวว่าแม่จะต้องบ่นเรื่องนี้แน่นอน "นั่นแหละ! หึงเมียจนต้องไปยิงขาเขาเลยน่ะ แม่จึงไปเจรจากับตาบิลลี่เอง เพราะรู้ว่าลูกคงไม่มีทางขอโทษอยู่แล้ว ซึ่งแม่เองก็แค่เจรจาเพื่อรักษาลูกค้าคนนี้เอาไว้ แต่ไม่ได้ขอโทษว่าเราทำผิดอะไร แค่บอกฐานะของทรายให้คนพวกนั้นรู้อย่างชัดเจน จะได้ไม่ต้องมีเรื่องค้างคาใจกันอีก" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบปรายหางตามอง "ครับ! ผมรู้ความผิดนี้แล้วคุณหญิงคันศร ฟังผมเล่าต่อดีกว่านะครับจะออกไปไกลแล้ว" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันให้แม่ฟัง ส
37.เจอของที่หายไป •37• หลังโทรไปหาทางบ้านทุกคน ล้วนเตรียมตัวจะมาเยี่ยมเยียนเธอกัน เพราะยามนี้ทราย ได้คล้ายดั่งคนภายในครอบครัวไปแล้ว เธอหลับเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง ก็ลืมตาตื่นเอ่ยปากขึ้นมา "ขอน้ำหน่อยค่ะ" เสียงแหบแห้งกล่าวผมจึงรีบไปเทน้ำเปล่า รินใส่แก้วเพื่อให้เธอดื่มกินประมาณหกแก้วได้ ราวกับตัวเองเป็นต้นไม้อยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง กำลังขาดน้ำมากมายเสียอย่างนั้นแหละ "พอหรือยังครับดื่มอีกไหม" น้ำเสียงดุดันกล่าวถาม เธอส่ายศีรษะเงียบอยู่นานเหมือนมีบางสิ่ง ที่ยังอยากจะรู้แต่ไม่กล้าถามออกมาตรงๆ อาจจะเพราะความทรงจำยังไม่กลับมาน่ะสิ สุดท้ายเธอก็อ้าปากได้สักที "สองคนนั้นในนิทานเป็นอย่างไรคะ ตอนจบหนูหลับไปไม่ทันได้ฟังเลย เขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งไหมคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถาม "ใช่บทสรุปคือพวกเขาได้เจอกันครับ" น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมฉีกยิ้มกว้างมาให้ "ใครเป็นคนไปหากันก่อนเหรอคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถามอย่างสงสัย "แน่นอนว่าเป็นสาวน้อยคนนั้นเอง เธอได้รักษาสัญญาที่เคยพูดเอาไว้น่ะสิ" น้ำเสียงดุดันกล่าวตอบ "มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ เหตุใดพี่ผู้ชายเขาถึงไม่ตามหาเธอก่อนล่ะคะ" ซุ่มเสียงไพ
36.ย้อนวัยเด็ก •36• หลังจากมาเยี่ยมคุณพ่อซึ่งบวชเป็นพระ ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มอายุวัย 19ปี กำลังเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยตามถนนเล็กๆ แต่ทว่าเห็นควันไฟออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากเกิน จึงรีบวิ่งไปยังสถานที่เป็นจุดเกิดเหตุ เจอกับไอ้คนลงมือจัดการ ซึ่งมีกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น "เฮ้ยทำอะไรกันอยู่วะ" โหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่น จนคนพวกนั้นเตรียมขับรถยนต์หนีหายไป เป็นเพราะคงกลัวความผิดที่ตนเองก่อน่ะสิ ผมวิ่งจ้ำอ้าวมาแต่ไกลจากจุดที่ตะโกน ยืนชะเง้อชะแง้ส่องภายในบ้านหลังนี้ทันที กำลังจะล้วงลงกระเป๋ากางเกง เพื่อเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์หาสถานีตำรวจ เนื่องจากมาประเทศนี้แค่เพียงไม่กี่ครั้ง จึงไม่รู้ว่าสถานีดับเพลิงใช้เบอร์อะไร แต่ก็ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้หยุดชะงักตั้งใจฟัง "กรี๊ด~ ใครก็ได้ช่วยหนูด้วยค่ะ มีใครอยู่ข้างนอกไหมคะ มีคนติดอยู่ข้างในได้ยินไหมคะ" เสียงกรีดร้องลั่นบ้านราวกับตกใจกลัวมาก เพราะเวลาตอนนี้มันมืดค่ำแล้ว บังเอิญบ้านเดี่ยวหลังนี้ มันตั้งตระหง่านอยู่แค่เพียงหลังเดียวเท่านั้น ทำให้ผมต้องรู้สึกร้อนใจหนักจนต้องตัดสินใจ ปีนรั้วเข้าไปภายในบ