LOGIN“รวมต้นรวมดอกมาแล้วค่ะ ต่อไปนี้หมดหนี้กันแล้วนะคะ” ฉันวางเงินก้อนให้คุณนายสา เจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้ในหมู่บ้าน
“ไม่คิดว่าเธอจะหาเงินมาคืนได้ไวขนาดนี้” คุณนายสาพูดพลางหยิบเงินไปใส่เครื่องนับเงิน “ไม่น่าลำบากไปยืมคนอื่นมาคืนฉัน ยอมมาอยู่บ้านหลังเดียวกันก็จบแล้ว เสี่ยหันเขายินดีต้อนรับ ให้มากกว่านี้ก็ยังได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ บัวลานะคะ” ยกมือไหว้แล้วก็รีบเดินออกจากบ้าน ไม่คิดจะอยากอยู่ที่นี่นานเพราะรู้สึกอันตราย
“หนูบัว” แต่ก็ไม่ทันได้ก้าวขาออกจากประตูบ้านเสียงของชายที่อายุ 60 กว่าก็ดังมาจากทางด้านหลังฉัน
“สวัสดีค่ะเสี่ยหัน” ฉันหันมาเผชิญหน้าแล้วก็ยิ้มรับอย่างมีมารยาทแม้ว่าจะไม่อยากมีมารยาทก็ตาม
“หนูจะย้ายเข้าบ้านเมื่อไหร่จ๊ะ”
“เรื่องนั้นไม่จำเป็นแล้วค่ะ”
“หมายความว่าหนูจะเทียวไปเทียวมาเหรอ แบบนั้นไม่ดีนะหนู เสี่ยไม่ปลื้ม”
“หนูใช้หนี้ของเสี่ยหมดแล้วค่ะ ที่ผ่านมาขอบคุณมากที่ช่วยหนูนะคะ ลาค่ะ” ยกมือไหว้สวย ๆ แล้วก็รีบหันหลังเดินออกจากประตูบ้านของเสี่ยหันอย่างเร็ว
เดินออกมาได้ไม่นานฉันก็ได้ยินเสียงของเสี่ยหันโวยวายลั่นบ้าน
หึ ฉันยอมเป็นผู้หญิงขายตัว แต่ไม่คิดจะเป็นเมียน้อยของเสี่ยหันชายที่อายุแก่กว่าพ่อของฉันซะอีก ฉันไม่คิดทำผิดศีลธรรมแบบนั้น แม้ว่าเมียของสี่ยจะยินดีมาก ๆ ที่จะเอาฉันเข้าไปเป็นเมียน้อยของสามีเขา
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องยอมขนาดนั้น ยอมเพื่ออะไร
ฉันตรงกลับมาบ้านหลังจากที่จัดการเรื่องหนี้จนเรียบร้อย เลือกเก็บเสื้อผ้าบางส่วนเพื่อย้ายเข้าไปอยู่คอนโดตามที่คู่สัญญาต้องการ
ฉันชื่อบัว บัวบูชา เป็นนักศึกษาปี4 ใกล้จะเรียนจบ แต่เหมือนว่าทุกอย่างในชีวิตที่ไม่ราบรื่นก็ไม่ราบรื่นขึ้นไปอีก พ่อที่ขยันสร้างแต่หนี้เมาขี่รถมอเตอร์ไซค์เสียหลักเสียชีวิตคาที่ หนี้ทุกอย่างกลายเป็นฉันกับพี่ชายที่ต้องรับผิดชอบ พี่ชายฝาแฝดเสียสละไม่เรียนต่อ เขาออกไปทำงานหลังจากจบปวช.3เพื่อส่งให้ฉันเรียน ให้ฉันได้มีการศึกษาที่ดี หวังให้ฉันเอาตัวรอดในสังคมที่มีแต่คนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ฉันทั้งเรียนทั้งทำงานเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ช่วยพี่ชายฝาแฝด
เราสองคนรักกันมาก
แต่แล้วก็เหมือนชาติก่อนฉันทำกรรมมาเยอะ ชาตินี้ฉันถึงได้เจอแต่เรื่องหนักหนา พี่ชายฝาแฝดที่เป็นที่พึ่งทางใจและเป็นญาติเพียงคนเดียวของฉันตรวจเจอโรคร้าย ต้องรักษาทันทีไม่อย่างนั้นจะรักษาชีวิตเขาไว้ไม่ได้ เพื่อช่วยพี่ฉันยอมทำทุกอย่าง จึงตัดสินใจยืมเงินของคุณนายสาเพื่อให้พี่ชายได้ผ่าตัด โดยคุณนายสากำหนดมาว่าต้องจ่ายคืนภายในหนึ่งอาทิตย์ หากหามาคืนไม่ได้ก็ถือว่าเป็นสินสอดที่เสี่ยหันยกให้ฉัน
ฉันไม่ได้อยากเป็นเมียน้อยใคร ฉะนั้นจึงเลือกที่จะขายตัวเองให้กับคนที่พร้อมจ่ายและพร้อมจบ
“วันนี้รวินท์เป็นยังไงบ้างคะ” ฉันเอ่ยกับพยาบาลที่ดูแลพี่ชายฝาแฝด
“วันนี้รู้สึกตัวกว่าเมื่อวานค่ะ คุณหมอบอกว่าอาการดีขึ้น”
“ขอบคุณค่ะ” ยิ้มขานรับพยาบาลจึงเดินออกไป จากนั้นฉันจึงมานั่งข้างพี่ชายที่นอนกะพริบตามองเพดานอย่างเลื่อนลอย
หลังจากผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกในสมองออก รวินท์ไม่ได้อาการดีขึ้น อาจจะด้วยอาการแทรกซ้อนหลังผ่าและระยะของโรคที่มันลุกลามไปไกลแล้ว ลามไปกระดูกสันหลังและปอด ก่อนหน้านี้เพื่อหาเงินใช้หนี้รวินท์จึงอดทนต่อความเจ็บปวด
ทว่าการอดทนนั้นนำมาซึ่งความเจ็บปวดยิ่งกว่า
และฉันปล่อยพี่ไปไม่ได้ ฉันจะทำทุกทางเพื่อรักษาพี่ ฉันไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้คนเดียว ฉันอยากให้พี่อยู่กับฉัน ให้เราเป็นที่พึ่งพาของกันและกัน
“รวินท์ ได้ยินบัวไหม บัวใช้หนี้คุณนายสาหมดแล้วนะ รวินท์ไม่ต้องห่วง บัวไม่ไปเป็นเมียน้อยเสี่ยหัน และบัวก็ยังเรียนต่ออย่างที่รวินท์ต้องการ บัวจะไม่ทำให้รวินท์ผิดหวัง รวินท์รีบหายนะ เราสองคนจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน บัวคิดถึงรวินท์มากเลย รีบหายนะแล้วเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอย่างที่สัญญากันไว้” พูดพลางโอบกอดพี่ชายฝาแฝดที่นอนไม่ได้สติ
เพราะไม่อยากตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะใช้เงินในการรักษาเท่าไหร่ฉันก็ยอม ต่อให้หมอบอกว่าไม่มีหวังฉันก็ยังจะรักษารวินท์ ฉันเชื่อว่ารวินท์จะต้องหาย เราสองพี่น้องจะกลับมาอยู่ด้วยกัน
จับมือพี่ชายฝาแฝดแล้วจึงซบใบหน้าลงเบา ๆ ที่ข้างเตียง “บัวขอกำลังใจหน่อยนะรวินท์ กำลังใจจากรวินท์ดีที่สุดแล้ว เค้ารักรวินท์นะ เค้าสู้ รวินท์ก็สู้นะ”
ตริ๊ง! เสียงแจ้งเตือนปลุกให้ฉันตื่น หลับไปเกือบครึ่งชั่วโมง ได้อยู่กับรวินท์ทำให้ฉันหลับสบาย ทว่าตั้งแต่รวินท์มาอยู่ที่โรงพยาบาลเราก็แทบไม่ได้เจอกันเท่าไหร่นัก ฉันเร่งรีบหาเงินใช้หนี้คุณนายสาเพราะกำหนดเวลาที่เขาให้ก็เหมือนต้องการให้ฉันไปเป็นเมียน้อยของเสี่ยหันให้ได้
ยอมรับเลยว่าเหนื่อยล้ามากจริง ๆ เหนื่อยทั้งกายและใจ
(คุณธีร์: เดี๋ยววันนี้พี่ไปหานะ)
(บัวบูชา: ค่ะ หนูกำลังจะกลับค่ะ)
(คุณธีร์ : ไปไหน)
(บัวบูชา: มาเก็บเสื้อผ้าของใช้ค่ะ)
(คุณธีร์: อีกนานไหม)
(บัวบูชา: กำลังจะกลับค่ะ)
(คุณธีร์: ประมาณ)
(บัวบูชา: ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงค่ะ)
(คุณธีร์: ตรงต่อเวลาด้วยนะครับ)
(บัวบูชา: ค่ะ รับทราบค่ะ)
ฉันต้องรีบแล้วล่ะ ถ้าหากไปถึงช้าจะผิดต่อความใจดีที่คุณธีร์มีให้ เขาน่ะคือคนที่ช่วยให้ฉันไม่ต้องไปเป็นเมียน้อยเสี่ยหัน และช่วยให้ฉันไม่ต้องขายร่างกายให้กับคนหลายคน
ต่อให้การช่วยของเขามีเงื่อนไข แต่ช่วยก็คือช่วย เพราะโลกใบนี้ไม่มีของฟรี ไม่มีอะไรที่ได้มาแล้วไม่จ่ายกลับ
“รวินท์...บัวกลับก่อนนะ แล้วเดี๋ยวบัวจะมาหาอีก บัวจะเรียนให้จบอย่างที่รวินท์ต้องการ ไม่ต้องกังวลนะ บัวสบายดีมาก ๆ รวินท์หายแล้วเราค่อยไปเที่ยวกันเนอะ” จูบลงที่กลางหน้าผากของพี่ชายฝาแฝด
เดินออกมาหาพยาบาลพิเศษที่จ้างไว้ดูแลรวินท์ เพราะฉันยังต้องเรียนและยังต้องทำงานที่รับเงินมาก่อนแล้ว
“กลับแล้วเหรอคะ”
“ค่ะ บัวฝากดูแลรวินท์ด้วยนะคะ หากมีเรื่องด่วนอะไรติดต่อบัวได้ทันทีเลยนะคะ”
“ได้ค่ะ พี่จะดูแลอย่างดีค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
จากนั้นก็รีบค่ะ รีบออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ตรงมาเรียกแท็กซี่
คุณธีร์เขาเป็นคู่สัญญาของฉัน ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมาถึงขั้นนี้
เขาคงเป็นโชคดีเดียวของฉันแหละมั้ง
หลังจากที่มืดแปดด้านฉันก็ขอให้เพื่อนที่รู้เกี่ยวกับอาชีพนั้นพาไปแนะนำกับคนจัดหางาน แล้วจากนั้นคุณอัปสรก็แนะนำฉันให้กับคุณธีร์ ตอนนั้นฉันคิดแล้วว่าเสียครั้งแรกให้เขาก็อาจจะได้ไม่มากนัก คงต้องหาคนอื่นเพิ่มเพื่อหาเงินใช้หนี้คุณนายสาให้ทันเวลาและหาเงินรักษารวินท์เผื่อเกิดเรื่องฉุกเฉิน
แต่แล้วคุณธีร์เขาก็จ่ายเงินให้ฉันเยอะมาก ทั้งยังขอผูกปิ่นโตแบบนี้ไหมนะที่เขาเรียกกัน หรืออาจจะมีคำอื่นอีก แต่ฉันไม่รู้จัก
ฉันที่ได้ยินรู้สึกดีใจมากเพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าฉันไม่ต้องไปฝืนใจนอนกับใครหลายคน แล้วก็ยังได้เงินก้อนมาใช้หนี้ค่าผ่าตัด
และเพราะการเดินทางที่ค่อนข้างไกลทำให้คุณธีร์ยื่นข้อเสนอมาเพิ่ม โดยให้ฉันไปอยู่ที่คอนโดของเขา ฉันก็เลยถือโอกาสเรียกเงินก้อนใหญ่เพื่อไปปิดจบหนี้เสี่ยหัน
โชคดีจริง ๆ ที่คุณธีร์ยอมให้ ฉันถึงพ้นคำว่าเมียน้อย
ฉันดีใจ ดีใจมากเลยที่ไม่ต้องไปเป็นเมียน้อยของเสี่ยหันที่แก่กว่าพ่อฉันด้วยซ้ำ และดีใจมากที่เจอคุณธีร์ เขาคือคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยดึงฉัน ถึงจะแลกด้วยร่างกายฉันก็ไม่เสียดาย เพราะมันดีกว่าฉันต้องไปเป็นเมียน้อยคนอื่น สำหรับคุณธีร์แล้วเราสองคนต่างคือคนแปลกหน้าที่อยู่ด้วยกันด้วยสัมพันธ์ทางกาย
ไม่ว่าเขาจะมองฉันยังไงมันก็เป็นเรื่องของเขา เขาจะเป็นคนยังไงมันก็เป็นเรื่องของเขา เราต่างไม่เกี่ยวข้องกัน เขาให้ในสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันก็พร้อมให้ในสิ่งที่เขาต้องการ
เราต่างแลกเปลี่ยนกัน โดยที่ฉันต้องห้ามรู้สึกอะไรกับเขาเพราะจะกลายเป็นฉันเองที่เจ็บปวด เขาพูดไว้ชัดเจนฉันก็ควรจะไม่เล่นกับไฟ แม้หัวใจจะแอบสั่นไหวในตอนที่เราอยู่ด้วยกัน
ฉันก็จะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นมาออกมาบ่อยนัก ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นฉันที่เจ็บปวด เหมือนอย่างที่คุณธีร์เคยเตือนเอาไว้
“ว่าไงครับป๊า”(เมื่อกี้ถามว่าอะไรนะ)“ป๊าคิดว่าไอยาดีไหมครับ”(ดีแบบไหน ดีกับใคร ถ้าในฐานะเพื่อนของเอลลี่ก็ดีมาก ๆ)“แล้วถ้าในฐานะลูกสะใภ้คนโต”(มาถามป๊าแบบนี้หนูไอยายอมแต่งงานกับแกแล้วเหรอ)“อ้าว ทำไมป๊าพูดแบบนี้ครับ”(ก็ที่ผ่านมาแกไม่เคยให้เกียรติเขาเลย เขาจะยอมแต่งงานกับคนที่อายุเยอะกว่าเขาหลายต่อหลายปีเหรอ หาคนที่อายุเท่ากัน คนที่อายุเด็กกว่าจะไม่ดีกว่าแต่งงานกับคนที่ไม่ให้เกียรติอย่างแกเหรอ)“ป๊าครับ ผมไม่ให้เกียรติไอยาตรงไหน”(ถ้าที่ทำอยู่เรียกว่าให้เกียรตินั่นแปลว่าที่ผ่านมาทั้งชีวิตของแกไม่ได้สนใจสิ่งที่ป๊าสอนแกเลย อย่าไปหาทำแบบนี้ที่ไหนกับใครอีกนะ เดี๋ยวเขาจะด่ามาถึงป๊า ป๊าอาย)“ป๊าพูดแบบนี้แปลว่าป๊ายินดีใช่ไหมถ้าไอยาจะเป็นเมียผม”(ให้เขายอมรับแกเป็นผัวก่อน แกค่อยเรียกเขาว่าเมีย)“ป๊า ตอบให้ตรงคำถามก่อน”(ป๊าตอบไม่ตรงตรงไหน ป๊าพูดเรื่องจริงทุกเรื่อง)“ก็ที่ผมถามป๊าไงว่าโอเคไหมถ้าไอยาไปเป็นสะใภ้ของป๊า”(โอเค โอเคมาก ๆ ถ้าหนูไอยายอมแต่งงานกับแกก็ถือว่าเป็นบุญแกแล้ว)“ป๊าโอเค แต่คนอื่นไม่โอเค แบบนี้จะทำไง”(แกเคยสนใจคนที่บ้านด้วยเหรอ)“...”(และก่อนที่แกจะมากังวลเรื่องเหล่านี้
“นี่กำลังจะเลิกกับพี่เหรอไอยา นี่เธอกำลังบอกเลิกพี่เหรอ”“ค่ะ พี่เอสเป็นประธานบริษัทที่มีชื่อเสียง ตอนนี้พี่ควรจะแต่งงานได้แล้ว ระหว่างเราควรจบได้แล้วค่ะ เราสองคนไม่มีวันที่จะแต่งงานกันได้ เราไม่มีอนาคตร่วมกัน อย่ามาเสียเวลากับไอเลย พี่ไปสร้างครอบครัวกับคนที่เหมาะสมกับพี่เถอะนะ”“คนที่บ้านพี่ให้เธอมาเท่าไหร่วันนี้เธอถึงจะมาเลิกกับพี่ เขาให้เธอเท่าไหร่พี่ให้เธออีกเป็นสิบเท่า พี่ไม่มีวันเลิกกับเธอ”“มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเงิน เขาไม่ได้ให้เงินไอ ต่อให้เขาให้ไอก็ไม่รับ”“งั้นมันเกี่ยวกับอะไร”“พี่เอสนี่พี่ไม่รู้จริง ๆ เหรอ”“หรือว่าไอชอบคนอื่น มีคนอื่นมาจีบไอใช่ไหม มันเด็กกว่าพี่ ดีกว่าพี่งั้นเหรอไอถึงจะเลิกกับพี่ พี่บอกกี่รอบแล้วว่าให้เลิกทำงานไลฟ์สดแบบนี้ได้แล้ว เลิกมีหน้ามีตาในโซเชียล เลิกให้คนเห็นรูปร่างไอสักที ไอรู้ไหมว่าเวลาที่มีคอมเมนต์ชมไอ คอมเมนต์จีบไอพี่หึงพี่หวงไอมากแค่ไหน” เขาเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าปล่อยไว้อารมณ์เขาอาจจะรุนแรงกว่านี้“ใจเย็นค่ะพี่เอส ไอไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น”“ถ้าไม่ได้ชอบคนอื่นแล้วเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเลิกกัน ที่ผ่านมาเราก็อยู่ด้วยกันดีไม่ใช่เหรอ”“ร
“เธอคือไอยาสินะ” หญิงอายุประมาณหกสิบกว่าเอ่ยถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ตามมารยาท“นั่งสิ”“ขอบคุณค่ะ” แล้วก็นั่งลงตามที่หญิงคนนี้ต้องการ“เธอรู้จักฉันไหม”“ทราบค่ะ”“ในเมื่อรู้จักฉัน ฉันเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน”“ค่ะ”“ระหว่างเธอกับลูกชายของฉันเป็นอะไรกัน”“เป็นเพียงแค่คนรู้จักกันค่ะ”“แค่นั้นเหรอ”“ค่ะ”“ถ้าเป็นเพียงแค่นั้นจริง ๆ ทำไมลูกชายของฉันถึงไม่ยอมแต่งงานสักที”“ไม่ทราบค่ะ” มาถามฉันได้ไง ฉันจะรู้เหรอ“ถ้าเธอไม่ทราบแล้วใครจะทราบ”“คุณเอสค่ะ” ก็ต้องเจ้าตัวอยู่แล้วที่รู้ ไปถามลูกชายตัวเองซะก็จบ จะมาถามฉันทำไม ฉันไม่ได้มีอิทธิพลต่อเขาขนาดนั้น ไม่ได้สั่งห้ามให้เขาแต่งงานสักหน่อย“นี่ลูกชายของฉันหลงอะไรเธอกันนะ”“...”“หรือเธอทำของใส่เขาเหรอ”“นอกจากใต้หว่างขาหนูก็ไม่มีของอะไรค่ะ”“น่าเกลียด เธอนี่มันน่าเกลียดจริง ๆ”“หนูเพียงแค่พูดความจริงค่ะ และความจริงก็อาจจะไม่น่าฟัง”“พูดมาเลยว่าเธอต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะเลิกยุ่งกับลูกชายของฉัน”“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นค่ะ”“ขอแค่เธอเลิกยุ่งกับลูกชายฉันก็ไม่มีอะไรลำบาก”“คำว่าไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหนูหมายถึงคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงิ
หลังจากเผด็จศึกเมื่อคืนผ่านไป ฉันเพิ่งรู้ว่าพี่บีมเป็นคนมีของเล่นที่ใหญ่มาก ก่อนหน้านี้ฉันไปอยู่ไหนมาทำไมไม่รีบเผด็จศึกเขาให้ไวกว่านี้ ถ้าหากฉันรู้ว่าจะมีของเล่นที่ใหญ่โตและลีลาท่าทางที่สุดแสนจะยั่วยวน ฉันไม่มีทางที่จะปล่อยให้เขาลอยไปลอยมาต่อหน้าฉันแบบนี้เด็ดขาดพูดไปแล้วก็รู้สึกเสียดาย รู้สึกหวงยังไงไม่รู้ที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นได้ไปเชยชมโมโหตัวเองจังก่อนหน้านี้คิดว่าจะหย่า ทว่าเขาบอกเองว่าที่ไม่หย่าก็เพราะฉัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเมื่อคืนนี้เขาบอกแล้วว่าเขาเป็นคนของฉัน ฉะนั้นเขาก็คือของฉัน ไม่ว่าจะรักฉันหรืออยู่ด้วยความจำเป็นอะไรก็ตาม เมื่อฉันได้กินและติดใจแล้วฉันไม่มีทางจะปล่อยเขาไปสามีที่หล่อขนาดนี้ฉันปล่อยผ่านไปได้ยังไงนานแบบนี้“ถ้าจะจ้องพี่ขนาดนี้ ไม่กินพี่เข้าไปเลยล่ะ” พี่บีมลืมตาขึ้นมาสบตากับฉัน“ตื่นนานแล้วเหรอคะ”“ตื่นก่อนหนูครับ”“หนู?”“ก็หนูเอลลี่ไง เรียกแบบนี้น่ารักดีให้พี่เรียกได้ไหม”“มีอะไรที่ไม่ได้กัน ในเมื่อพี่บอกว่าลี่เป็นของพี่ พี่เป็นของลี่”“แน่นอนอยู่แล้วพี่เป็นของลี่ครับ”“เป็นของลี่คนเดียวหรือเปล่า”“อยากถามอะไร” ใบหน้าหล่อยกยิ้มที่มุมปาก สีหน้าเจ้าเล่ห
“เป็นอะไรทำไมวันนี้ถึงกลับบ้าน” ในตอนสี่ทุ่มกว่าสามีในนามเดินเข้ามาในบ้าน พร้อมกับน้ำเสียงเอ่ยทักที่ไม่น่าฟัง “แล้วนี่นึกอะไรนั่งดื่มอยู่คนเดียวแบบนี้ อกหักจากใครมาอีก หรือโดนใครหักอกมาครับ”เหอะ ดูปากเขาสิ พูดออกมาก็เหน็บฉันเลยฉันที่เตรียมตัวเตรียมใจมาว่าคืนนี้จะต้องขยับความสัมพันธ์กับเขาให้ได้ก็เลยได้โอกาสเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างซะเลย“ถ้าใช่แล้วพี่ช่วยอะไรลี่ได้” สวมบทคนเมาพร้อมกับสีหน้าน่าสงสารมองหน้าสามีในนามและทำหน้าเศร้ามากกว่าเดิม“ถึงขั้นไหนแล้ว”“อะไรขั้นไหนคะ” พูดพลางทำเสียงสะอื้นไปด้วย“ระหว่างลี่กับผู้ชายคนนั้นไง ถึงขั้นไหนแล้ว ลึกซึ้งกับเขาหรือยัง”“...”“ที่ไม่ตอบคืออะไร อายหรือยังไง”“...” คิดไม่ออกต่างหากว่าจะหยิบยกใครขึ้นมาอ้างดี“หรือว่าชอบเขามาก”“ก็ต้องชอบสิ”“ใคร” ทั้งที่เขาเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง ไม่ได้ตะคอกตะโกนไม่ได้ใส่อารมณ์ ทว่าฉันรู้สึก หวั่นใจแปลก ๆแค่คำถามว่าใคร ทำไมฉันถึงต้องรู้สึกกลัวล่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย อย่าอ่อนสิเอลลี่“พี่ถามว่าไอ้คนนั้นมันเป็นใคร” พี่บีมย้ำอีกครั้งเมื่อฉันยังเงียบ“ช่างเถอะอย่าพูดถึงเลยค่ะ ลี่ผิดเองที่ชอบเขา ลี่ผิดเองที่คิด
ครืด ครืด ครืดนั่งหมดอาลัยตายอยาก มองเพื่อนกินข้าวไปพลาง ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือฉันก็ดังขึ้น เบอร์ที่โชว์หน้าจอคือเบอร์ของป๊า“ค่ะป๊า”(วันนี้หนูเข้าบริษัทเหรอเอลลี่)“ใช่ค่ะมีเรื่องพูดกับพี่บีมก็เลยแวะเข้าไปหาเขาค่ะ”(แล้วไม่เห็นจะแวะเข้ามาหาป๊าบ้างเลย ห้องทำงานของป๊าก็ไม่ได้ไกลกันนะ)“ขอโทษค่ะป๊า”(ป๊าไม่ได้โกรธ ป๊าก็แค่น้อยใจที่ลูกสาวป๊าไม่แวะมาหาป๊าเลย)“ป๊าอ่า ไม่น้อยใจนะคะ ไม่ว่ายังไงป๊าก็คือคนที่เอลลี่รักที่สุดค่ะ”(แล้วหนูมีปัญหาอะไรหรือเปล่า บอกป๊าได้เลยนะหรือว่าอยากได้อะไรไหม)“ขอป๊าได้จริงเหรอคะ”(ขอได้ในเรื่องที่หนูรู้ว่าป๊าต้องให้หนูได้แน่ ๆ)“...” เห็นไหมอะ ป๊ารู้ว่าฉันจะพูดเรื่องอะไร“ป๊าคะ”(ป๊าอยากให้เอลลี่ลองเปิดใจกว้าง ๆ ให้บีมนะลูก บีมเป็นคนดี ป๊าเชื่อว่าป๊ามองคนไม่ผิด)“ค่า ป๊าไม่ต้องห่วงนะ หนูกับพี่บีมเราอยู่ด้วยกันอย่างดีค่ะ”(ถ้าเป็นอย่างที่หนูพูดป๊าก็จะดีใจมาก ๆ)“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ป๊าสบายใจได้ค่ะ”(ถ้าอย่างนั้นป๊าขออะไรหนูสักอย่างได้ไหมลูกสาวสุดที่รักของป๊า)“พูดมาได้เลยค่ะ ลูกสาวคนนี้ให้ป๊าได้อยู่แล้ว”(ป๊าอยากอุ้มหลานจังเลย เอลลี่ทำให้ป๊าได้ไหมลูก)“ป๊







