LOGIN"ระหว่างเรามันก็ชัดเจนมาตลอดนะ ลืมข้อตกลงวันแรกแล้วเหรอ" "..." "แค่พี่ดีด้วยไม่ได้แปลว่าพี่จะรักเธอ" "แต่ว่าหนูรักพี่ธีร์นะคะ หนูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลย พี่เป็นคนแรกของหนู เป็นคนแรกในทุกเรื่อง เป็นคนที่อยู่กับหนูในเวลาที่หนูเศร้า หนูรักพี่นะพี่ธีร์ นอกจากรวินท์ก็มีพี่ที่ทำให้หนูอยากมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้ หนูรักพี่จริง ๆ นะ" "อืม แล้วยังไง" เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาดูไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่ฉันพูดออกมาอย่างยากลำบาก เขาไม่ใส่ใจมันเลย "พี่ธีร์...รู้สึกกับหนูบ้างหรือเปล่าคะ ที่ผ่านมาเคยรู้สึกดีกับหนูไหมคะ" "เหมือนว่าพี่จะเคยบอกเธอแล้วนะว่ารู้สึกกับพี่เท่าไหร่ก็ได้ รักพี่พี่ก็ไม่ว่า แต่ว่าพี่จะไม่รับผิดชอบความรู้สึกของเธอ ฉะนั้นอย่ามาเรียกร้องในสิ่งที่พี่ให้เธอไม่ได้" "..." "อย่าลืมสิว่าเธอเป็นแค่เด็กเลี้ยงของพี่เท่านั้น เธอก็แค่ของเล่น พี่ชอบหน่อยก็เล่นนาน แต่ว่าตอนนี้พี่เริ่มไม่อยากเล่นแล้วสิ"
View More“อัปสรบอกว่าเธอต้องการใช้เงิน” ผมถามหญิงสาวที่กำลังแต่งตัว
“ใช่ค่ะ หนูมีเรื่องจำเป็น”
“เท่านี้พอหรือเปล่า” ผมลุกมาหยิบเงินสดหนึ่งแสนบาทวางที่เตียง สำหรับเรื่องแบบนี้ผมเลือกจ่ายเป็นเงินสด และที่เสียให้เธอมากก็เพราะว่าผมได้ความสดจากเธอ
“มากค่ะ แต่ยังไม่พอ” เออ ก็ตรงดี ดูหิวเงิน
“แปลว่าต้องทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ”
“...ค่ะ”
“นานเท่าไหร่”
“ไม่ทราบค่ะ” คงคิดจะทำไปเรื่อย ๆ เหมือนผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เห็นว่าทำแบบนี้ได้เงินง่ายดี ไม่ต้องเหนื่อย แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงินก้อน
เธอคนนี้ก็คงไม่ต่างกัน
“ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเธออายุ 22 ปีใช่ไหม”
“ค่ะ”
“เรียนหรือทำงาน”
“ตอนนี้เรียนปี4 ปีสุดท้ายค่ะ”
“จากนี้กระทั่งเรียนจบเป็นของผมคนเดียวดีไหม”
“...”
“ผมจ่ายเดือนละหกหมื่น มีพิเศษต่างหาก เจอกันเมื่อไหร่ผมจะเป็นฝ่ายนัด ในช่วงที่ไม่ได้นัดกันเธอจะทำอะไรก็ได้ แต่ห้ามมีคนอื่นระหว่างที่เรายังอยู่ในข้อตกลง”
“...”
“ไม่ตกลง?”
“ตก ตกลงค่ะ” เห็นนิ่งเงียบ นึกว่าจะไม่ตอบตกลงซะแล้ว ราคาที่ผมให้ก็ไม่ได้น่าเกลียด เสียงหวานเอ่ยด้วยน้ำเสียงกล้า ๆ กลัว ๆ “แต่ว่าหนูขอล่วงหน้าสามเดือนได้หรือเปล่าคะ หนูต้องการใช้เงินค่ะ”
“...”
“ถ้าหนูขอมากเกินไป...”
“ให้ได้ แต่เธอต้องอยู่ในกฎของผม”
“ได้ค่ะ หนูจะไม่ทำผิดกฎของคุณ”
“ไม่ถามหน่อยเหรอว่ากฎอะไร”
“...อะไรคะ”
“ระหว่างเราต้องเป็นความลับ เจอข้างนอกเราคือคนไม่รู้จักกัน และระหว่างเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เธอไม่มีสิทธิ์แสดงความเป็นเจ้าของ เธอรู้สึกดีกับผมได้ หลงรักผมได้เต็มที่ แต่ผมไม่คิดจะรับผิดชอบความรู้สึกของเธอ ฉะนั้นไม่รู้สึกอะไรกับผมจะเรื่องดีที่สุด รับได้ไหม”
“ค่ะ ได้ค่ะ”
“แน่ใจนะ”
“ค่ะ”
“ชื่ออะไร”
“บัว บัวบูชาค่ะ”
“ชื่อดี”
“ให้หนูเรียกคุณว่าอะไรคะ”
“ผมชื่อธีร์”
“คุณธีร์ หนูขอเรียกแบบนี้นะคะ”
“ได้”
“ค่ะ คุณธีร์” ใบหน้าสะสวยของเธอมีรอยยิ้มเล็กน้อย เดาว่าคงจะดีใจที่มีเงินใช้ยาว ๆ ตามประสาคนที่รักสบาย
“คนนี้ของดี ยกให้ไอ้ธีร์ก็แล้วกัน” อัปสรดันหลังหญิงสาวหน้าตาสะสวยมายืนข้างผมเหมือนทุกครั้งที่เคยทำแล้วก็กระซิบด้วยความสนิทสนม “จ่ายให้น้องหนัก ๆ หน่อยนะ น้องต้องการใช้เงิน”
“ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกที”
“เออ ช่วย ๆ น้องมันหน่อย”
ถ้าเช็กแล้วว่าของดีจริง ผมก็จ่ายหนักตลอด ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากเพราะว่าผมมันชอบทำบุญอยู่แล้ว
บุญที่ทำแล้วได้ผลตอบแทนทันตาเห็น ขึ้นสวรรค์ทันใจ
“ได้ข่าวมาว่ามึงผูกปิ่นโตเด็กคนล่าสุดเหรอวะ” มาวินถามเมื่อผมนั่งลงที่โซฟาข้างเด็กสาวที่เพื่อนผมมันเรียกมา
“แสนรู้”
“ก็เด็กมันน่าเอาดี ว่าจะต่อสักหน่อย ไม่คิดว่ามึงจะผูกปิ่นโตซะได้ น่าเสียดาย”
“คนอื่นมีเยอะแยะ”
“ก็คนนี้กูชอบ สเปกกูเลย เสียดายที่อัปสรให้มึง อัปสรแม่งลำเอียงตลอด”
“งั้นก็ทำใจ เพราะคนนี้กูเพิ่งเล่น”
“มึงจะเล่นนานไหม”
“อยากแดกต่อขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ไอ้เหี้ยก็ไม่ใช่เมียไหม แค่อาหารว่างก็เท่านั้น”
“อาหารว่างที่เพื่อนแดกแล้วมึงก็ไม่ควรจะอยากเลียจาน”
“ขยันเปรียบ เปรียบซะกูไม่อยากแดกต่อ”
“ถ้าอยากแดกมากก็รอกูเบื่อก่อน”
“แดกพร้อม ๆ กันไม่ได้เหรอวะ”
“ไปไกล ๆ กูเลย”
“ว่าแต่น้องคนนี้เป็นงานขนาดไหนวะ มึงถึงผูกปิ่นโต”
“ไม่เป็น”
“ฮะ!”
“ไม่เป็นอะไรเลย”
“ปกติกูเห็นมึงไม่ชอบคนไม่เป็นงาน”
“เปลี่ยนแนว กินแบบเก่า ๆ แล้วเบื่อ”
“งั้นคนนี้กูขอบาย กูชอบแบบเก่ง ๆ เป็นงาน ขี้เกียจมานั่งสอนคนไร้เดียงสา”
“เหอะ” ก็จริงอย่างที่เพื่อนผมพูด ผมเองก็ไม่ชอบคนไม่เป็นงาน แต่ว่าช่วงนี้ผมอยากลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง แก้เบื่อแก้เซ็ง กินแต่อะไรเดิม ๆ ก็เอียน
สิ้นประโยคนั้นเขาก็ประกบจูบที่ปากฉันอย่างรุนแรง เป็นสัมผัสที่ฉันไม่เคยพบเจอ เขาอุ้มฉันขึ้น พาฉันเดินมาที่ห้องนอน โยนฉันลงใส่ที่นอนอย่างแรง ไม่ทันได้รู้สึกเจ็บเขาก็ตามมาคร่อมฉัน จูบฉัน กระชากเสื้อผ้าฉันออกจากร่างกายจากนั้นก็สอดใส่ กระแทกเข้ามาแบบที่ฉันยังไม่มีอารมณ์ร่วมซึ่งมันเจ็บมาก เจ็บจนฉันน้ำตาไหล เจ็บจนอดทนไม่ไหว“พี่ธีร์คะหนูขอโทษ” เอ่ยขอโทษขณะที่มือจับหน้าท้องเขาเพื่อไม่ให้เขากระแทกเข้ามาแต่ก็ไม่เป็นผล มีเหรอที่ฉันจะห้ามเขาได้“วันนี้เธอรับบทของเล่นที่พูดไม่ได้ อย่าให้พี่ได้ยินเสียงเธอ ถ้าเธอทนได้รอบนี้พี่จะจ่ายให้หนัก ๆ เลย แต่ถ้าเธอทนไม่ได้พี่จะให้เธอได้สมใจเธอ”“อะไรคะ”“ก็อยากเอาคนอื่นไม่ใช่เหรอ พอดีเลยเพื่อนพี่มันพร้อมมาก เรียกมาตอนนี้คงจะสนุกน่าดู เธออยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ไหมล่ะ พี่เต็มใจสอนเธอเลยนะ”“ไม่นะคะพี่ธีร์ หนูขอโทษค่ะ หนูผิดไปแล้ว” ฉันรีบยกมือไหว้ ฉันมันลูกไก่ในกำมือ เขาจะทำอะไรฉันก็ได้ทั้งนั้นก่อนหน้านี้ไม่น่าปากดีใส่เขาเลย“เธอผิดอะไร” คุณธีร์ปัดมือฉันออก จากนั้นเขาก็จับมือฉัน สอดประสาน กดไว้ที่เตียงนอน สายตาจ้องมองฉันด้วยความกดดัน“ผิดที่หนูอวดดีค่ะ”“ห
เรียนเสร็จแล้วฉันก็รีบมาที่ร้านกาแฟที่เคยทำอยู่ เปลี่ยนชุดแล้วฉันเข้าประจำตำแหน่ง คุณธีร์เขาส่งข้อความมาว่าช่วงนี้ติดธุระไม่ได้เข้ามาให้ฉันดูแลตัวเองฉันก็เลยถือโอกาสมาทำงานซะเลย“มาแล้วเหรอบัว”“ค่ะพี่หว่าหวา”“พี่นึกว่าบัวจะไม่มาซะแล้ว”“ขอโทษนะคะ บัวเคลียร์เรื่องทางบ้านค่ะ ตอนนี้เหมือนจะเรียบร้อยแล้ว”“มีอะไรก็บอกพี่นะ พี่ยินดีช่วย”“ขอบคุณค่ะพี่”เจ้าของร้านนี้ชื่อหว่าหวา เป็นรุ่นพี่ที่จบไปสามปีแล้ว เราเคยรู้จักกันจากการเป็นสายรหัส พี่เขาเห็นว่าฉันหางานก็เลยรับฉันเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ เธอท่าทางดูแรง แต่ที่จริงเป็นคนที่ใจดีมาก ๆ“เออนี่ แซนวิชที่บัวเคยทำมาน่ะลูกค้าชอบมาก เขาติดใจถามพี่ว่าไม่ขายแล้วเหรอ บัวอยากทำมาขายที่ร้านไหม พี่ไม่คิดเงิน”“ได้เหรอคะ”“ได้สิ ลูกค้าชอบขนาดนี้ต้องมีมาขายนะ”“ได้ค่ะ บัวจะทำมาส่งนะคะ”“จ้า”“ขอบคุณนะคะพี่”“ขอบคุณอะไร พี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”“ช่วยสิคะ ถ้าพี่ไม่ช่วยบัวจะได้ทำงานนี้ได้ยังไง”“เอาน่า ช่วย ๆ กัน แล้วรวินท์เป็นยังไงบ้าง”“เรื่อย ๆ ค่ะ”“สู้นะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น”“ค่ะ”พี่หว่าหวาเธอรู้เรื่องฝาแฝดของฉัน รู้เรื่องราวในชีวิตของฉันค่อนข้างมาก
มหาวิทยาลัย “เรื่องที่บ้านจัดการเรียบร้อยยัง เงินพอไหม เอาของฉันก่อนได้นะ” ไอยาเพื่อนที่ค่อนข้างจะสนิทกันเอ่ยถามเบา ๆ ให้เราได้ยินกันสองคน“เรียบร้อยแล้ว ขอบใจนะ ขอบใจมาก ๆ เลย”“มีอะไรให้ขอบใจ ฉันพาแกเสียคนนะ”“แต่ถ้าไม่ได้ไอยาฉันคงแย่กว่าตอนนี้”“ไม่ใช่บุญคุณอะไรเลย”“ยังไงก็ต้องขอบคุณ ขอบคุณนะ”“ซื้อน้ำเลี้ยงหนึ่งแก้วก็พอ เคไหม”“อื้ม ได้อยู่แล้ว”ไอยาเคยรับงาน ตอนนี้ก็ยังรับอยู่ เรื่องนี้เพื่อนไม่เคยปิด ซ้ำยังเล่าให้ฟังด้วยว่าเจออะไรมาบ้าง และลงท้ายว่าถ้าไม่เดือดร้อนจริงอย่าไปทำ“กระซิบอะไรกันสองคนคะ” เอลลี่เพื่อนสาวคนสวยที่ขยันหาแฟนเอ่ยถามหลังจากที่เงยหน้าจากการตอบแชต“กำลังคุยกันว่าแฟนคนต่อไปของแกชื่ออะไร”“คนนี้เรียนวิดวะจ้า นี่เขาลืมของจะให้ฉันเอาไปให้ พวกแกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”“นึกยังไงไปเคี้ยวเด็กวิศวะ ปกติไม่เห็นกิน”“เจอกันที่ผับ กลับพร้อมกัน หลังจากฟื้นก็เลยรู้ว่าเรียนวิศวะ ก็ไม่ได้ชอบหรอก แต่เขาแซ่บดี ก็เลยกินต่อ”“แหม แกกะเก็บทุกคณะทุกสาขาเลยหรือไง”“ถ้าได้ก็ดี ไปนะ ไปกินข้าวที่โรงอาหารนั้นกัน เขาบอกว่าจะเลี้ยง”“รวยจ้า”“สืบแล้ว ได้อยู่”“จ้า”“พวกแกไปเป็นเพื่อนฉัน
“ตัวมีกลิ่นยา” คือคำเอ่ยทักเมื่อฉันเดินเข้ามาในห้องแล้วเจอคุณธีร์นั่งอยู่โซฟา เขานั่งอยู่ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามานานหรือยัง แต่ว่าฉันมาถึงเร็วกว่าที่บอกเขาไว้แน่นอน“หนูไปโรงพยาบาลมาค่ะ” จมูกเขาดีขนาดนี้เลยเหรอ“เป็นอะไร”“ไปเยี่ยมญาติค่ะ” ญาติเพียงคนเดียวของฉันฉันน่ะอยากเล่าความทุกข์ใจให้ใครสักคนฟัง แต่มันก็คงไม่มีใครมารับฟังฉันขนาดนั้นใครหน้าไหนจะมาใส่ใจชีวิตของคนที่ไม่ได้สำคัญต่อตัวเอง“ไปอาบน้ำ พี่ไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล”“ค่ะ” ในเมื่อเขาไม่ชอบ ฉันก็ต้องรีบ เขาถือว่าเป็นผู้มีพระคุณ อะไรที่เขาไม่ชอบฉันไม่ควรทำฉันต้องทำให้เขาพอใจเพราะว่าถ้าพูดให้ถูกตอนนี้ก็เหมือนว่าฉันจะเป็นหนี้เขาหนึ่งชั่วโมงต่อมากิจกรรมระหว่างเราจบลง คุณธีร์นอนอยู่บนเตียงหลังจากที่เขาสอนให้ฉันคร่อมขย่มดุ้นเขา ฉันทำไม่เป็นและเหมือนจะไม่ค่อยถูกใจคุณธีร์สักเท่าไหร่ต้องพยายามศึกษาให้มากกว่านี้ ถ้าเกิดเขาเบื่อขึ้นมาฉันคงไม่มีปัญญาจะหาเงินมาใช้หนี้ในเร็ววัน เงินที่เขาให้มาไม่ใช่น้อย ๆฉะนั้นฉันควรหาทางออก หาวิธีให้เขาไม่เบื่อ“พี่ธีร์คะ” ฉันเรียกในตอนที่นอนหนุนแขนของคุณธีร์ เขาบอกให้ฉันเรียกพี่เราจะได้สนิทกันมากขึ้น ทว่าฉันไ
“รวมต้นรวมดอกมาแล้วค่ะ ต่อไปนี้หมดหนี้กันแล้วนะคะ” ฉันวางเงินก้อนให้คุณนายสา เจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้ในหมู่บ้าน“ไม่คิดว่าเธอจะหาเงินมาคืนได้ไวขนาดนี้” คุณนายสาพูดพลางหยิบเงินไปใส่เครื่องนับเงิน “ไม่น่าลำบากไปยืมคนอื่นมาคืนฉัน ยอมมาอยู่บ้านหลังเดียวกันก็จบแล้ว เสี่ยหันเขายินดีต้อนรับ ให้มากกว่านี้ก็ยังได้”“ไม่เป็นไรค่ะ บัวลานะคะ” ยกมือไหว้แล้วก็รีบเดินออกจากบ้าน ไม่คิดจะอยากอยู่ที่นี่นานเพราะรู้สึกอันตราย“หนูบัว” แต่ก็ไม่ทันได้ก้าวขาออกจากประตูบ้านเสียงของชายที่อายุ 60 กว่าก็ดังมาจากทางด้านหลังฉัน“สวัสดีค่ะเสี่ยหัน” ฉันหันมาเผชิญหน้าแล้วก็ยิ้มรับอย่างมีมารยาทแม้ว่าจะไม่อยากมีมารยาทก็ตาม“หนูจะย้ายเข้าบ้านเมื่อไหร่จ๊ะ”“เรื่องนั้นไม่จำเป็นแล้วค่ะ”“หมายความว่าหนูจะเทียวไปเทียวมาเหรอ แบบนั้นไม่ดีนะหนู เสี่ยไม่ปลื้ม”“หนูใช้หนี้ของเสี่ยหมดแล้วค่ะ ที่ผ่านมาขอบคุณมากที่ช่วยหนูนะคะ ลาค่ะ” ยกมือไหว้สวย ๆ แล้วก็รีบหันหลังเดินออกจากประตูบ้านของเสี่ยหันอย่างเร็วเดินออกมาได้ไม่นานฉันก็ได้ยินเสียงของเสี่ยหันโวยวายลั่นบ้านหึ ฉันยอมเป็นผู้หญิงขายตัว แต่ไม่คิดจะเป็นเมียน้อยของเสี่ยหันชายที่อายุแ
ครืด ครืด ครืด...มองหน้าจอแล้วก็แทบไม่อยากจะกดรับสาย อยากจะปล่อยให้สายตัดไปเลย แต่ก็ทำไม่ได้ ผมไม่ได้มีความกล้าขนาดนั้น“ครับ”(มาทานข้าวที่บ้านหน่อยสิ แม่เหงา)“วันไหนครับ” คำว่าแม่เหงาทำให้ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะไม่ว่างแค่ไหนก็ต้องหาเวลาว่างตามที่แม่ต้องการผมไม่ควรปล่อยให้แม่เหงาเพราะผม(มะรืนแล้วกัน)“ไหนว่าเหงา ไปวันนี้เลยไม่ได้เหรอครับ”(วันนี้ยังไม่เหงาเท่าไหร่)“นัดวันเหงาเหรอครับ”(ใช่ มีปัญหาเหรอ)“ลูกจะกล้ามีปัญหากับแม่ได้ยังไงครับ”(มะรืนเจอกัน สวัสดีวันพุธลูกชาย)“ครับ สวัสดีวันพุธ”ผมธีร์ทัศ แห่งตระกูลอิทธิฤทธิ์ ลูกชายคนที่สองของคุณหญิงปภาพิน บ้านผมมีพี่น้องสามคน พี่คนโต ธันวา ผม ธีร์ทัศ น้องคนเล็ก ธารณ์คนโตเป็นประธานบริษัทนำเข้าส่งออกสินค้าคนเล็กเป็นหมอเฉพาะทางที่โรงพยาบาลเอกชนผมคนกลางเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเอกชนคุณหญิงท่านวางแนวทางการใช้ชีวิตไว้ให้พวกผมเรียบร้อยครับ คุณหญิงของผมท่านมีหุ้นส่วนที่มหาวิทยาลัย มีหุ้นในโรงพยาบาลเอกชน ส่วนบริษัทขนส่งก็ของท่านเอง อิทธิฤทธิ์ครอบคลุมครับพี่ชายคนโตของผมมีครอบครัวแล้ว มีลูกสาวโตแล้วและก็มีหลานสาวที่น่ารัก คุณหญิง
Comments