“ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องสนิทกัน ชิ!”
นาเดียจีบปากจีบคอพูดออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจ เธอทำทุกอย่างเพื่อที่อยากจะได้สนิทกับเขา แต่เขากลับไม่อยากสนิทกับเธอ มันน่าน้อยใจจริงๆ หล่อซะเปล่า ใจดำชะมัด!
“ตกลงจะให้พี่ไปส่งที่ไหนครับ” คุณหมอสุดหล่อยังคงถามประโยคเดิมขึ้นมาอย่างใจเย็น
“ไปผับค่ะ หนูไม่อยากสนิทกับพี่หมอแล้ว!”
นาเดียสะบัดหน้าใส่พี่หมอแล้วมองออกไปนอกรถด้วยความน้อยใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ภายในรถถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบอีกครั้งจนกระทั่งรถยนต์คันหรูมาจอดที่หน้าผับ เจ้าของรถกำลังจะลงจากรถมาเปิดประตูให้หญิงสาวแต่เธอกลับเปิดลงไปเองด้วยท่าทางง้องอน
“ไม่สนิทกัน ไม่ต้องเปิดให้หรอก แล้วก็ไม่ต้องเดินไปส่งด้วย ชิ!”
นาเดียแกล้งประชดก่อนจะเดินตรงเข้าไปด้านใน ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในใจก็คิดว่ายังไงพี่หมอผู้ชายที่แสนดีและเป็นสุภาพบุรุษก็ต้องตามมาส่งเธอถึงโต๊ะแน่ๆ แต่เธอกลับคิดผิดเมื่อผู้ชายที่เดินตามเธอเข้ามาไม่ใช่พี่หมอ
“คนสวยมากับใครเหรอครับ”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใบหน้าดุเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆ กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ลอยแตะจมูกจนนาเดียต้องเบือนหน้าหนี และพยายามเดินเลี่ยงไปอีกทาง ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะมาต่อล้อต่อเถียงกับใครหรอกนะ
หมับ!
ไม่ทันก้าวพ้นมือหนาก็รั้งแขนของเธอไว้แล้วยังพยายามฉุดกระชากให้เดินตาม
“จะรีบไปไหนล่ะครับ ยังไม่ได้ตอบผมเลย”
“ปล่อยค่ะ” นาเดียบอกเสียงเแข็งและพยายามมองหาการ์ด ความกลัวเริ่มครอบงำเมื่อตรงทางเดินไม่มีใครเลย ตอนนี้ทุกคนน่าจะสนุกกันอยู่ด้านใน
“สนใจไปต่อด้วยกันมั้ย”
คนเมาบอกด้วยน้ำเสียงชวนขนลุกและพยายามลวนลามเธออย่างหน้าไม่อาย
“ไม่ไป! ปล่อยฉันนะ!!”
นาเดียปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับพยายามแกะมือหนาออกจากตัว แต่คนตัวเล็กอย่างเธอจะสู้แรงผู้ชายคนนี้ได้ยังไง ยิ่งเธอพยายามแกะออก ชายหนุ่มก็ยิ่งกระชับกอดให้แน่นขึ้นและออกแรงฉุดกระชากเธอไปยังมุมมืด
“คุยกันแป๊บเดียวนะคนสวย ไม่นานหรอก” น้ำเสียงร้ายกาจบวกกับท่าทางคุกคามทำให้นาเดียกลัวเป็นอย่างมาก
“ปล่อยนะ! ช่วยด้วย!”
นาเดียที่เห็นว่าตัวเองเริ่มจะไม่ปลอดภัยจึงดิ้นอย่างสุดแรงพร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียง เผื่อจะมีใครอยู่ใกล้ๆ และเข้ามาช่วยเธอได้ทัน
“ปล่อยเธอ”
เหมือนเสียงสวรรค์ที่ทำให้หัวใจดวงน้อยพองโต ความกลัวหายไปทันทีที่เห็นว่าคนที่มาช่วยคือพี่หมอ เขาก้าวเข้ามาเอาตัวเธอออกห่างจากชายหื่นกาม นาเดียที่ยังกลัวอยู่ก็สวมกอดเอวหนาทันที ไออุ่นจากอ้อมแขนแกร่งและกลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
นาเดียเงยหน้ามองใบหน้าหล่อของพี่หมอด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน พี่หมอในโหมดโหดดูเท่ห์จนหัวใจของเธอเต้นแรงไม่หยุด
“มายุ่งอะไรด้วยวะ!” คนเมาถามขึ้นถามขึ้นมาอย่างหาเรื่อง ใบหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจที่มีคนเข้ามายุ่ง
“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอกครับ เพราะผู้หญิงคนนี้เธอมากับผม” คุณหมอตอบด้วยน้ำเสียงดุดันกว่าทุกครั้ง แล้วกอดกระชับร่างเล็กให้เดินออกไปจากตรงนี้ เพื่อเลี่ยงการปะทะกับชายอีกคน ด้วยหน้าที่การงานหากไม่จำเป็นเขาจะไม่มีเรื่องกับใครเด็ดขาด
“ไม่เป็นไรแล้วครับ” หมอหนุ่มยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังคนในอ้อมแขนเบาๆ เพื่อปลอบใจ และบอกเธอเป็นในๆ ให้เลิกกอดเขาได้แล้ว
“ขอบคุณนะคะ” นาเดียยังคงซุกใบหน้ากับหน้าอกแกร่งของพี่หมอจนเขาต้องดันไหล่เธอออก
“ไม่เป็นไรครับ แล้วเพื่อนหนูอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งหาเพื่อน”
“ตรงนั้นค่ะ”
นาเดียชี้ไปยังโต๊ะของเพื่อนแล้วเดินตามพี่หมอไปอย่างว่าง่าย ลืมเรื่องราวก่อนหน้าที่งอนพี่หมอไปเสียสนิท เธอรู้สึกประทับใจมากที่พี่หมอมาช่วยเธอ มันเหมือนกับเรื่องราวในละครหลังข่าวที่นางเอกถูกผู้ชายลวนลามแล้วพระเอกก็มาช่วยไว้ทัน
พอมาถึงโต๊ะของเพื่อน พี่หมอก็ขอตัวกลับไปทันที ไม่ว่าใครจะชวนให้อยู่ก็ไม่ยอมอยู่ ทุกคนเห็นว่าหมอเป็นคนดีเกินไปที่จะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้จึงยอมให้กลับ
“เป็นอะไรอีก แล้วนี่หายไปไหนมาตั้งนาน”
ฮันน่าถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเพื่อนรักมากับพี่หมอแถมยังมายืนใจลอยไม่เป็นตัวของตัวเอง
“นี่! โดนหมอจับฉีดยามาหรือไง” ฮันน่าเขย่าแขนเพื่อนเรียกสติ แต่เพื่อนรักกลับยิ้มออกมาราวกับคนละเมอ
“มึง… กูว่ากูชอบพี่หมอว่ะ” นาเดียตอบด้วยแววตาเป็นประกาย
“เหรอ?” ฮันน่าไม่ได้ตกใจกับสิ่งที่เพื่อนพูดออกมาเลยสักนิด เพราะรู้นิสัยเพื่อนดี ชอบที่แปลว่าอยากได้ ไม่ได้หมายถึงรัก
“อย่าทำเสียงแบบนั้นนะ กูพูดจริงๆ กูชอบพี่หมอ”นาเดียพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเองให้เพื่อนเข้าใจ ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่เธอรู้สึกแบบนั้นกับพี่หมอจริงๆ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนเลย
“มันต้องใช่ความรักแน่ๆ เลยมึง กูว่ากูรัก…” คนที่พึ่งสัมผัสถึงความรักพยายามอธิบายความรู้สึกตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้พูดจบ เพื่อนก็ยกมือห้าม
“พอเลย! ถ้าเมาก็ไปนอน”
“กูพูดจริง! สาบาน…”
“พอ! สาบานไปก็ตายเปล่า ปล่อยพี่หมอไปมีอนาคตเถอะ มึงอย่าไปดึงพี่หมอมาลงนรกอเวจีปรอยเปรตกับเราเลย เอาไปดื่ม!”
ฮันน่าบอกด้วยความหวังดีพร้อมกับยื่นแก้วให้เพื่อน ให้รีบดื่ม รีบเมา จะได้เลิกเพ้อเจ้อสักที
…
ตอนหน้านุงเดียจะรุกหนักแล้วนะ
คอมเมนท์เป็นกำลังใจให้หน่อย
เช้าวันต่อมา“พี่ฝากร้านด้วยนะ”นาเดียหันไปบอกนโมที่ยืนทำงานอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ถึงนโมจะยังเด็กแต่เธอก็ขยันและทำงานเก่งมาก“เที่ยวให้สนุกนะคะพี่เดีย เดี๋ยวหนูดูแลร้านให้ไม่ต้องห่วงนะคะ” นโมตอบพร้อมรอยยิ้มและเธอก็มั่นใจว่าเธอสามารถดูแลร้านได้“ขอบใจนะ เดี๋ยวพี่จะซื้อของมาฝาก”“ไปกันครับ”คุณหมอที่เดินลงมาพร้อมกระเป๋าเดินทางสองใบ ก็ชวนนาเดียไปที่รถทันที เธอยิ่งเป็นห่วงร้านถ้าขืนปล่อยให้ยืนนานกว่านี้ อีกหน่อยก็คงเปลี่ยนใจไม่อยากไปกันพอดี“พี่ไปก่อนนะ ถ้ามีเรื่องอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ”นาเดียยืนคิดสักพักก่อนจะหันไปบอกนโม ในใจก็เป็นห่วงร้าน แต่ถ้าเธอไม่ไปวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าพี่หมอจะมีเวลาว่างพาเธอไปเที่ยวอีกเมื่อไหร่“ค่ะ” นโมมองตามหลังเจ้าของร้านพร้อมรอยยิ้มนาเดียเดินตามคุณหมอไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้าน ถึงจะมีวันหยุดแค่สองวัน แต่เขาก็อยากจะพาเธอไปเที่ยว จะได้พักผ่อนและมีเวลาอยู่ด้วยกัน..ใช้เวลาในการเดินทางเกือบสามชั่วโมงกว่าจะมาถึงและหาที่พักกันได้ เนื่องจากเป็นการมาเที่ยวแบบไม่ได้วางแผนมาก่อน ทำให้คีรินลืมเรื่องที่พักไปอย่างสนิทใจพอมาถึงก็ต้องขับรถหาที่พักกันก่อน และวันนี้ก็เป็นวันหยุ
วันนี้นาเดียปิดร้านเร็วกว่าทุกวันเนื่องจากเป็นคำสั่งของคุณหมอ เพราะว่าเขาจะพาเธอไปทานอาหารข้างนอกและกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร“วันนี้หนูสวยมากเลยนะ” คีรินเอ่ยชมหลังจากที่นั่งรอนาเดียแต่งตัวอยู่นานเกือบหนึ่งชั่วโมง“แล้วทุกวันหนูไม่สวยเหรอคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามกลับทันที“สวยทุกวันครับ แต่วันนี้สวยเป็นพิเศษ” คีรินเอ่ยชมพร้อมรอยยิ้ม ยังไงเธอก็สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่แล้ว“ขอบคุณค่ะ” คำตอบของคุณหมอเรียกรอยยิ้มจากเธอได้เป็นอย่างดี“ไปกันครับ” มือหนากุมมือเล็กเอาไว้ด้วยความรัก ก่อนจะพาเธอเดินไปขึ้นรถ เพื่อที่จะไปร้านอาหารที่จองเอาไว้..@ร้านอาหารสุดหรู“ทำไมมาร้านแพงจังเลยคะ” นาเดียถามขึ้นมาทันทีเมื่อคุณหมอจอดรถที่หน้าตึกสูง พอได้ทำงานหาเงินเองนาเดียก็ไม่ค่อยชอบทานร้านอาหารหรูๆ สู้เก็บเงินเอาไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า“ไม่แพงหรอกครับ” คีรินตอบก่อนจะโอบกอดเอวเล็กเดินเข้าไปด้านใน“เขามีงานอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมจัดดอกไม้สวยจังเลย”กุหลาบสีแดงถูกจัดตกแต่งตั้งแต่ทางเดินเข้ามาจนถึงด้านบนสุดของตึกที่เป็นโซนอาหาร ทำเอานาเดียมองดูกุหลาบสีสวยตลอดทาง เพราะเป็นดอกไม้ที่เธอชอบ“พี่ก็ไม่รู้เหม
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“หนูไม่ไปกับพี่จริงๆ เหรอครับ”นานๆ จะเป็นวันหยุดของคุณหมอ แทนที่จะได้ออกไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตด้วยกัน แต่นาเดียกลับไม่ยอมและยืนยันที่จะอยู่ร้าน ทั้งๆ ที่พนักงานก็มีตั้งหลายคน แบบนี้จะไม่ให้เขาน้อยใจได้ยังไง“ไปวันหลังไม่ได้เหรอคะ ช่วงนี้ลูกค้ากำลังเยอะเลย” นาเดียกลัวพนักงานที่ร้านจะดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง เพราะช่วงนี้ลูกค้าเยอะมาก เธอจึงต้องมาคอยช่วยดูแลลูกค้า“ถ้าหนูไม่ไป งั้นตอนเย็นเราไปทานข้าวข้างนอกกันนะครับ” ถึงคีรินจะชวนเธอเอาไว้นานแล้ว แต่พอถึงวันเธอกลับไม่ยอมไปด้วย เขาจึงต้องหาข้อแลกเปลี่ยน“ทำไมต้องไปทานข้างนอกด้วยคะ หรือว่าพี่หมอเบื่ออาหารที่หนูทำแล้ว” ใบหน้าสวยจ้องมองคุณหมออย่างเอาเรื่อง เพราะตั้งแต่เธอไปเรียนทำอาหารมาก็แทบจะไม่ได้ออกไปทานข้าวข้างนอกเลย“ไม่ใช่ครับ พี่แค่อยากจะพาหนูออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” คีรินรีบอธิบายทันที“ก็ได้ค่ะ” พอได้ยินคำตอบของคุณหมอก็ค่อยสบายใจขึ้นมาบ้าง นาเดียจึงตอบตกลงที่จะไปด้วย“พี่ไปก่อนนะครับ ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ” คีรินถามออกมาอีกครั้งเผื่อว่าเธอจะเปลี่ยนใจ“ขับรถดีๆ นะคะ” นาเดียตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะโบกมือลาคุณหมอที่กำลังเดินออกไ
“รีบๆ ด้วยนะ แม่อยากอุ้มหลานแล้ว”ประโยคที่คุณแม่พูดทิ้งท้ายเอาไว้ทำเอานาเดียเขินจนแทบจะทำตัวไม่ถูกแล้ว“มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ ยังไม่ได้แต่งงานเลย” คีรินรีบหาข้ออ้าง“ท้องก่อนแต่งก็ไม่เห็นเป็นไรหรอก ยังไงปลายทางก็ต้องแต่งก็ต้องท้องอยู่ดี”“คุณแม่ครับ”“ก็แม่อยากได้หนูเดียเป็นลูกสะใภ้หนิ ถ้าขืนลูกชักช้านะ แม่จะไปสู่ขอหนูเดียที่บ้านก่อนเลย”“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”ทุกคนนั่งทานข้าวกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากคนในครอบครัว นั่งพูดคุยกันจนดึกก่อนที่คุณพ่อกับคุณแม่จะกลับ ปล่อยให้ลูกๆ ได้พักผ่อนกัน“แม่กลับก่อนนะ วันไหนว่างๆ ก็พาหนูเดียไปหาแม่ที่บ้านบ้างนะ”“ได้ครับ สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะ”คีรินเดินไปส่งคุณพ่อกับคุณแม่ที่รถก่อนจะเดินกลับเข้ามาหานาเดียอย่างอารมณ์ดี“มาครับเดี๋ยวพี่ช่วยเก็บ”“ไม่เป็นไรค่ะ หนูทำเองดีกว่า”“ช่วยกันทำ… จะได้เสร็จเร็วๆ ครับ” คีรินเว้นวรรคคำพูดและเน้นย้ำทุกคำ จนความหมายแทบจะเปลี่ยนไปในทางสองแง่สองง่าม“จะรีบไปไหนคะ”“ก็คุณแม่อยากอุ้มหลาน พี่ก็ต้องรีบหน่อยสิครับ”“ไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาอ้างเลยค่ะ”“พี่ไม่ได้อ้างนะ แต่พี่ทำจริง!!”“พี่
หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดของคีรินซึ่งคืนนี้ครอบครัวของเขาจะมาทานอาหารที่ร้านและมาแสดงความยินดีกับนาเดียที่เปิดร้านใหม่ถึงแม้จะเปิดร้านมานานแล้ว แต่ทางครอบครัวของคุณหมอพึ่งจะกลับจากดูงานที่ต่างประเทศ พอมาถึงก็รีบโทรหาลูกชายทันทีพอนาเดียรู้เรื่องก็ถามข้อมูลกับคุณหมอทั้งคืน คุณพ่อชอบทานอะไร คุณแม่ชอบทานอะไร เรียกได้ว่าตื่นเต้นและนั่งคิดเมนูทั้งคืน“พี่หมอเสร็จหรือยังคะ”นาเดียขึ้นมาตามคุณหมอที่บอกจะลงไปข้างล่างตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นลงไปสักที“ใกล้เสร็จแล้วครับ” คีรินที่กำลังอาบน้ำอยู่ก็ตอบเสียงดัง เพราะกลัวว่าเธอจะไม่ได้ยิน“งั้นหนูลงไปรอข้างล่างนะคะ”“ได้ครับ”ร่างเล็กเดินลงไปด้านล่างเพื่อดูความเรียบร้อยของร้านต่อในระหว่างที่รอคุณหมออาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ“เสร็จแล้วครับ”ใช้เวลาไม่นานคุณหมอก็เดินลงมาด้วยความพร้อมที่จะออกไปข้างนอกแล้ว ความจริงอยากได้อะไรให้พนักงานออกไปซื้อให้ก็ได้ แต่นาเดียดื้ออยากจะออกไปเลือกของเอง สุดท้ายเขาก็ต้องใจอ่อนยอมไปกับเธอ“พี่ฝากร้านด้วยนะ” นาเดียหันไปบอกพนักงานรุ่นน้องที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์“ค่ะ” นโมรับคำอย่างว่าง่าย ถึงแม้เจ้านายจะไม่บอก เรื่
เช้าวันต่อมา@MYDEARคาเฟ่เจ้าของร้านคาเฟ่คนสวยมายืนรอต้อนรับลูกค้าที่โทรมาบอกว่าใกล้จะถึงร้านแล้ว“ร้านสวยดีนะ” ออสตินทักขึ้นก่อนใครเมื่อมองดูบรรยากาศภายในร้าน“รินยินดีด้วยนะ” ไอรินร่วมแสดงความยินดีเมื่อได้เห็นความสำเร็จของเพื่อนรักอย่างนาเดีย“ร้านน่ารักมาก ชื่อร้านก็ด้วย”คริสตัลเอ่ยชมขึ้นมาอีกคน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงแรงๆ อย่างนาเดียจะจัดร้านได้น่ารักขนาดนี้“ขอบใจนะ แล้วนี่ฮันน่าไม่มาเหรอ” นาเดียขอบคุณคำชมจากเพื่อนๆ ก่อนจะถามหาเพื่อนรักอีกคนที่ยังไม่เห็นมา“ไม่รู้สิ ยังไม่เห็นเลย” คริสตัลตอบขึ้นเมื่อทุกคนเอาแต่ยืนเงียบ“เดี๋ยวมันคงตามมาแหละ”เมื่อเห็นเจ้าของร้านเงียบไปกวินจึงพูดขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ“ไปนั่งตรงนู้นกันก่อนดีกว่า” นาเดียชี้ไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านในสุด จะได้นั่งคุยกันสะดวก“เปิดร้านวันแรกลูกค้าก็เยอะเลยนะ” ไอรินนั่งลงก่อนจะทักขึ้น เปิดร้านวันแรกก็มีลูกค้ามานั่งเยอะขนาดนี้ ผิดกับตอนเปิดร้านอาหารของเธอมาก“สาธุขอให้เป็นแบบนี้ไปตลอดนะ อยากดื่มอะไรสั่งได้เลยนะ” นาเดียไม่พูดเปล่ารีบยกมือขึ้นมาประกบกันราวกับไหว้พระ ก่อนจะยื่นเมนูของร้านให้เพื่อนๆ“มีเหล้ามั้ย” กวินถามขึ้นมา