“อะไรนะ แกว่าเมื่อวานแกเห็นนังพั้นช์กับคุณพีท นั่งรถกลับไปพร้อมกันหรอ” ศศิกานต์เค้นถามเพื่อนรักที่ฝึกงานอยู่แผนกประชาสัมพันธ์ และในตอนนั้นเฝ้าเคาน์เตอร์อยู่คนเดียว ก็ดันได้เห็นภาพเด็ดๆ ที่คนอื่นไม่มีโอกาสได้เห็น “ใช่ ฉันเห็นกับตา มันอ่อยอีท่าไหน มาฝึกงานวันแรกคุณพีทถึงให้
แต่จะให้เขาเปิดโรงแรมแล้วจับเธอกินก่อนกลับบ้านมันก็ไม่ใช่ เพราะเขาไม่ได้ต้องการแค่เรื่องอย่างว่าจากเธอ แต่เขาต้องการที่จะนอนกอดร่างนุ่มๆ ของเธอจนหลับไปพร้อมกัน ตื่นมาพร้อมกัน ได้อาบน้ำด้วยกัน ได้ใช้เวลาพูดคุยทำความรู้จักกัน เขาต้องการแบบนั้นมากกว่า บนโต๊ะอาหารมื้อเช้า พาขวัญก้มหน้าก้มต
“วี นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านฉันนี่” จริญญาเอ่ยทักท้วงเมื่อคนที่บังคับพาเธอไปส่งบ้านหลังจากฝึกงานด้วยกันเสร็จ กำลังพาออกนอกเส้นทาง “ก็ใครว่าจะพาไปส่งที่บ้านล่ะ โทรบอกแม่เธอสิ ว่าจะไปนอนบ้านพั้นช์ เดี๋ยวพรุ่งนี้สายๆ กลับ” “จะบ้าหรอ จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไปนะ จอดเด
มือใหญ่กอดกระชับเธอแน่นๆ ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ ระหว่างเธอกับเขา คนตัวบางกลั้นหยาดน้ำตา เธอกอดเขาตอบแน่นๆพอกัน พังหมดแล้วความสัมพันธ์ของเธอกับเขา เธอไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่ก็ทนอยู่เป็นตัวแทนเพื่อรองรับอารมณ์ของเขาไม่ไหวอีกต่อไป เธอเจ็บ เจ็บทุกครั้งที่ยอมนอนกับเขา ทั้งๆ
เธอกลับเข้ามาในห้องทำงานของเขาช่วงบ่ายหลังจากทานข้าวและซักไซ้เรื่องราวของเพื่อนรักทั้งสองเสร็จ คนตัวโตนั่งหน้าตูมรออยู่ก่อนแล้วเพราะวันนี้เธอใช้เวลาในการลงไปทานข้าวนานกว่าทุกครั้ง “ทำไมวันนี้ไปนานจัง พี่รอพั้นช์มาตั้งนานแล้วนะ” เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา ก็พบว่ามันไม่ได้
“พี่พีทคะ ไม่เห็นมีงานเลย” “มีสิ ไปนั่งรอพี่ก่อน เดี๋ยวพี่มา” เขาลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเอง เดินไปที่ประตูห้องทำงานแล้วกดล็อกกลอนอย่างแน่นหนาทันที คนตัวบางตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเขาล็อกประตูแล้วเดินกลับมาหาเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แฟ้มงานสักแฟ้มก็ไม่ม
“อ้าว พีท พั้นช์ ไหนว่าจะทำโอทีกลับดึกไงลูก นี่พี่หมอแวะมาหาพั้นช์ เลยอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนป้า กำลังจะกลับแล้ว โชคดีที่พั้นช์กลับบ้านมาก่อน ไม่งั้นรออดเจอกันแน่” ทันทีที่เขาและเธอกลับถึงบ้าน เดินผ่านห้องนั่งเล่นก็เจอเข้ากับแม่และเหมราช แขกขาประจำของบ้าน ที่มาบ่อยจนท่านประธานหนุ่มอึดอัด
“เดี๋ยวสิครับแม่ จะรีบไปไหน พั้นช์ยังเรียนไม่จบเลยนะ” “แม่ต้องรีบสิ เพราะผู้ชายหิวโหยที่มันไว้ใจไม่ได้บางคน มันรีบกว่าแม่อีกนะ” เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แม่พูดแบบนี้เหมือนกับรู้อะไรมา ทั้งๆ ที่ก่อนเข้าและออกจากห้องของเธอ เขาก็มองซ้ายขวาดีแล้วทุกครั้ง มั่นใจว่าไม่มีใครเห็น
เขาจับเธอให้ลุกขึ้นจากกายเขา แล้วจูงมือพาคนตัวน้อยลงไปเล่นน้ำกันในสระโดยที่ไม่ยอมให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำสีหวานนั่นอีกสักชิ้น หนุ่มสาวหยอกล้อกันอยู่ในน้ำอีกไม่นาน คนตัวโตที่หื่นกระหายก็แผลงฤทธิ์ใส่เมียสาวอีกครั้ง “พี่พีท” “เรียกพี่ทำไมครับ” “ก็พี่ เอ่อ มัน..”
“พี่พีท” ภรรยาสาวที่ได้ฟังคำสารภาพบาปของเขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้ เธอเคยได้ยินเขาสารภาพกับแม่ของเขาเหมือนกันว่าเขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง หรือเขาจะจริงจังอะไรกับคำพูดนั้น แต่ที่ไหนได้ มันคือเรื่องจริงหรือนี่ “ตอนนั้นพี่สับสนและรู้สึกผิดมา
สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันต่อมา เมื่อคืนเข้าหอ เขาปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนหลายชั่วโมง ก่อนปลุกเธอมาทานข้าวเย็นแล้วอาบน้ำเตรียมตัวนอน ซึ่งเขาก็จับเธอกินด้วยความหิวกระหายอีกแค่สองครั้งเท่านั้น เพราะภรรยาป้ายแดงที่พ่วงด้วยตำแหน่งว่าที่คุณแม่ยังสาวค่อนข้างอ่อนเพลียจนเห็นได้ชัด เขา
“โอวว เมียจ๋า โคตรเซ็กซี่ อื้มมม พี่จะไม่ไหวเอานะเมียจ๋า อ่าห์ ที่รักกกก” ความอดทนของเขาหมดลงแล้ว จึงเกร็งสะโพกกระแทกกระทั้นตัวตนใหญ่โตในร่องรักของเธอแรงๆ ถี่ๆ จนสาวน้อยของเขาสมใจ นอนหลับตาพริ้มครางกระเส่า “ลืมตามองพี่ ที่รัก” เธอลืมตามาสบตาคมกริบที่เต็มไปด้
ไหนว่าตามใจเธอไง งานแต่งงานในโบสถ์ง่ายๆ ของเขา คือการเชิญแขกมาร่วมงานจนเต็มโบสถ์ขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้นับพัน ไหนจะตกแต่งสถานที่ด้วยดอกกุหลาบนำเข้าสีขาวและดอกลิลลี่แห่งหุบเขา หรือ Lily of the Valley สีขาวน่ารักเต็มโบสถ์ไปหมด ทั้งยังจัดสถานที่สำหรับถ่ายรูปที่สวนข้างโบสถ์เสียหรูหรา ประดับประดาด้วยดอกไม้
พาขวัญหลับไปหนึ่งคืนเต็มๆ เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเช้าของอีกวัน สิ่งแรกที่เธอเห็นนอกจากเพดานสีขาวของโรงยาบาลคือคนตัวโตที่ฟุบหน้านอนหลับอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ มือใหญ่จับมือของเธอแน่นจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ “พี่พีท” พิรัยช์สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงหวานที่แสน
“นายนิมมานต์ หยุด ยกมือขึ้น นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เราล้อมไว้หมดแล้ว ทิ้งปืนซะ ช้าๆ ทิ้งปืนลงพื้น” ชายวัยกลางคนที่ถึงแม้จะสั่งฆ่าคนมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้ลงพื้นที่จริงๆ ด้วยตัวเองเลยสักครั้ง จึงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมยกมือขึ้นตามที่ตำรวจบอก แต่เมื่อมองไปทางด้านข้างที่เป็นทางออก
พิรัชย์เหยียบคันเร่งแทบมิดเพื่ออยากไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ทีมบอดี้การ์ดขับตามมาติดๆ แต่เมื่อใกล้ถึงที่หมายก็ต้องขับตามเจ้านายให้ห่างเข้าไว้ เพื่อความปลอดภัยของพาขวัญ พิรัชย์ถึงที่หมายในไม่นาน ตรงหน้าเขาคือโกดังร้างกลางป่า ที่มีคนของนิมมานต์ยืนเฝ้ายามอยู่รอบบริเวณ พวกมันตรงเข้าค้นตัว
หลังจากวันนั้น คลื่นลมก็สงบมาโดยตลอด นิมมานต์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร และคนของเขาก็พยายามหาหลักฐานมาจนได้นั่นคือคลิปเสียงที่ไอ้คนที่รับจ้างมาฆ่าเขาแอบอัดไว้ทุกครั้งที่มีการนัดเจอกันและพูดคุยรายละเอียดงานทุกอย่าง มีเสียงของมันและนิมมานต์ชัดเจน มันคงรู้ตัวว่ามันคงอาจถูกเก็บได้ทุกเมื่อ จึงรวบรวมหลักฐานเอาผ