“วี นี่มันไม่ใช่ทางกลับบ้านฉันนี่” จริญญาเอ่ยทักท้วงเมื่อคนที่บังคับพาเธอไปส่งบ้านหลังจากฝึกงานด้วยกันเสร็จ กำลังพาออกนอกเส้นทาง “ก็ใครว่าจะพาไปส่งที่บ้านล่ะ โทรบอกแม่เธอสิ ว่าจะไปนอนบ้านพั้นช์ เดี๋ยวพรุ่งนี้สายๆ กลับ” “จะบ้าหรอ จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไปนะ จอดเด
มือใหญ่กอดกระชับเธอแน่นๆ ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ ระหว่างเธอกับเขา คนตัวบางกลั้นหยาดน้ำตา เธอกอดเขาตอบแน่นๆพอกัน พังหมดแล้วความสัมพันธ์ของเธอกับเขา เธอไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ แต่ก็ทนอยู่เป็นตัวแทนเพื่อรองรับอารมณ์ของเขาไม่ไหวอีกต่อไป เธอเจ็บ เจ็บทุกครั้งที่ยอมนอนกับเขา ทั้งๆ
เธอกลับเข้ามาในห้องทำงานของเขาช่วงบ่ายหลังจากทานข้าวและซักไซ้เรื่องราวของเพื่อนรักทั้งสองเสร็จ คนตัวโตนั่งหน้าตูมรออยู่ก่อนแล้วเพราะวันนี้เธอใช้เวลาในการลงไปทานข้าวนานกว่าทุกครั้ง “ทำไมวันนี้ไปนานจัง พี่รอพั้นช์มาตั้งนานแล้วนะ” เธอยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา ก็พบว่ามันไม่ได้
“พี่พีทคะ ไม่เห็นมีงานเลย” “มีสิ ไปนั่งรอพี่ก่อน เดี๋ยวพี่มา” เขาลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเอง เดินไปที่ประตูห้องทำงานแล้วกดล็อกกลอนอย่างแน่นหนาทันที คนตัวบางตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเขาล็อกประตูแล้วเดินกลับมาหาเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แฟ้มงานสักแฟ้มก็ไม่ม
“อ้าว พีท พั้นช์ ไหนว่าจะทำโอทีกลับดึกไงลูก นี่พี่หมอแวะมาหาพั้นช์ เลยอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนป้า กำลังจะกลับแล้ว โชคดีที่พั้นช์กลับบ้านมาก่อน ไม่งั้นรออดเจอกันแน่” ทันทีที่เขาและเธอกลับถึงบ้าน เดินผ่านห้องนั่งเล่นก็เจอเข้ากับแม่และเหมราช แขกขาประจำของบ้าน ที่มาบ่อยจนท่านประธานหนุ่มอึดอัด
“เดี๋ยวสิครับแม่ จะรีบไปไหน พั้นช์ยังเรียนไม่จบเลยนะ” “แม่ต้องรีบสิ เพราะผู้ชายหิวโหยที่มันไว้ใจไม่ได้บางคน มันรีบกว่าแม่อีกนะ” เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แม่พูดแบบนี้เหมือนกับรู้อะไรมา ทั้งๆ ที่ก่อนเข้าและออกจากห้องของเธอ เขาก็มองซ้ายขวาดีแล้วทุกครั้ง มั่นใจว่าไม่มีใครเห็น
พิรัชย์ย่องออกจากห้องของพาขวัญตั้งแต่เช้าตรู่ เขาหันซ้ายหันขวาดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใคร จึงรีบเดินเร็วๆ ออกไป แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น “ตาพีท เรามีเรื่องต้องคุยกัน รีบไปอาบน้ำ แล้วมาหาแม่ที่ห้อง” พิรัชย์และพาขวัญที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย น
“อืม พีทโอเค แล้วพั้นช์ล่ะ โอเคหรือเปล่า” “พั้นช์โอเคค่ะ” พิรัชย์ยื่นมือมาจับมือน้อยๆ ของคนตัวบางข้างกายไว้แน่น วันนี้เขายิ้มกว้างยิ่งกว่ากว้าง มีความสุขที่สุด เหมือนความหนักอึ้งทั้งหมดมันหลุดออกไปจากใจเขาหมดแล้ว “แต่ตั้งแต่วันนี้ไป จนกว่าจะถึงวันแต่งงาน แม่
เขาจับเธอให้ลุกขึ้นจากกายเขา แล้วจูงมือพาคนตัวน้อยลงไปเล่นน้ำกันในสระโดยที่ไม่ยอมให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำสีหวานนั่นอีกสักชิ้น หนุ่มสาวหยอกล้อกันอยู่ในน้ำอีกไม่นาน คนตัวโตที่หื่นกระหายก็แผลงฤทธิ์ใส่เมียสาวอีกครั้ง “พี่พีท” “เรียกพี่ทำไมครับ” “ก็พี่ เอ่อ มัน..”
“พี่พีท” ภรรยาสาวที่ได้ฟังคำสารภาพบาปของเขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้ เธอเคยได้ยินเขาสารภาพกับแม่ของเขาเหมือนกันว่าเขาชอบเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง หรือเขาจะจริงจังอะไรกับคำพูดนั้น แต่ที่ไหนได้ มันคือเรื่องจริงหรือนี่ “ตอนนั้นพี่สับสนและรู้สึกผิดมา
สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันต่อมา เมื่อคืนเข้าหอ เขาปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนหลายชั่วโมง ก่อนปลุกเธอมาทานข้าวเย็นแล้วอาบน้ำเตรียมตัวนอน ซึ่งเขาก็จับเธอกินด้วยความหิวกระหายอีกแค่สองครั้งเท่านั้น เพราะภรรยาป้ายแดงที่พ่วงด้วยตำแหน่งว่าที่คุณแม่ยังสาวค่อนข้างอ่อนเพลียจนเห็นได้ชัด เขา
“โอวว เมียจ๋า โคตรเซ็กซี่ อื้มมม พี่จะไม่ไหวเอานะเมียจ๋า อ่าห์ ที่รักกกก” ความอดทนของเขาหมดลงแล้ว จึงเกร็งสะโพกกระแทกกระทั้นตัวตนใหญ่โตในร่องรักของเธอแรงๆ ถี่ๆ จนสาวน้อยของเขาสมใจ นอนหลับตาพริ้มครางกระเส่า “ลืมตามองพี่ ที่รัก” เธอลืมตามาสบตาคมกริบที่เต็มไปด้
ไหนว่าตามใจเธอไง งานแต่งงานในโบสถ์ง่ายๆ ของเขา คือการเชิญแขกมาร่วมงานจนเต็มโบสถ์ขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้นับพัน ไหนจะตกแต่งสถานที่ด้วยดอกกุหลาบนำเข้าสีขาวและดอกลิลลี่แห่งหุบเขา หรือ Lily of the Valley สีขาวน่ารักเต็มโบสถ์ไปหมด ทั้งยังจัดสถานที่สำหรับถ่ายรูปที่สวนข้างโบสถ์เสียหรูหรา ประดับประดาด้วยดอกไม้
พาขวัญหลับไปหนึ่งคืนเต็มๆ เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเช้าของอีกวัน สิ่งแรกที่เธอเห็นนอกจากเพดานสีขาวของโรงยาบาลคือคนตัวโตที่ฟุบหน้านอนหลับอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ มือใหญ่จับมือของเธอแน่นจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ “พี่พีท” พิรัยช์สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงหวานที่แสน
“นายนิมมานต์ หยุด ยกมือขึ้น นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เราล้อมไว้หมดแล้ว ทิ้งปืนซะ ช้าๆ ทิ้งปืนลงพื้น” ชายวัยกลางคนที่ถึงแม้จะสั่งฆ่าคนมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้ลงพื้นที่จริงๆ ด้วยตัวเองเลยสักครั้ง จึงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมยกมือขึ้นตามที่ตำรวจบอก แต่เมื่อมองไปทางด้านข้างที่เป็นทางออก
พิรัชย์เหยียบคันเร่งแทบมิดเพื่ออยากไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ทีมบอดี้การ์ดขับตามมาติดๆ แต่เมื่อใกล้ถึงที่หมายก็ต้องขับตามเจ้านายให้ห่างเข้าไว้ เพื่อความปลอดภัยของพาขวัญ พิรัชย์ถึงที่หมายในไม่นาน ตรงหน้าเขาคือโกดังร้างกลางป่า ที่มีคนของนิมมานต์ยืนเฝ้ายามอยู่รอบบริเวณ พวกมันตรงเข้าค้นตัว
หลังจากวันนั้น คลื่นลมก็สงบมาโดยตลอด นิมมานต์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร และคนของเขาก็พยายามหาหลักฐานมาจนได้นั่นคือคลิปเสียงที่ไอ้คนที่รับจ้างมาฆ่าเขาแอบอัดไว้ทุกครั้งที่มีการนัดเจอกันและพูดคุยรายละเอียดงานทุกอย่าง มีเสียงของมันและนิมมานต์ชัดเจน มันคงรู้ตัวว่ามันคงอาจถูกเก็บได้ทุกเมื่อ จึงรวบรวมหลักฐานเอาผ