“อะไร” มุขรินทร์ขมวดคิ้วมุ่น เพื่อนเธอขึ้นเครื่องบินมาแล้วยังจะต้องกลัวอะไรอีก
“กลัวว่าเค้ามีคนของเค้าแล้ว”
“เออ...ฉันก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน ก็ตั้งห้าปีกว่าแล้วนี่ มีหรือไม่มีพอไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”
“แต่ฉันบอกแกไว้ก่อนเลยนะ ว่าถ้าฉันรู้ว่าเค้ามีเมียแล้ว ฉันจะกลับทันที”
“อืม...แต่แกจะทำใจได้ใช่ไหม”
“ถึงได้กลัวอยู่นี่ไง แต่ยังไงก็คิดว่าทำใจได้แหละ แค่ไม่รู้ว่านานแค่ไหน”
“แกยังมีพวกฉันเสมอ” มุขรินทร์จับมือเป็นกำลังใจให้ปารวี เพราะเพื่อนเธอมักจะชอบคิดอะไรล่วงหน้าไปก่อนเสมอ
“ขอบใจอีกครั้งนะ”
“อือ...เพื่อนกันน่า”
ปารวีนั่งสูดหายใจเข้าออกลึกๆ อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะได้รู้แล้วว่าเรื่องที่เธอกำลังกังวลล่วงหน้ามันเป็นจริงหรือไม่จริง
สองสาวเดินทางกันมาร่วมสิบสองชั่วโมง ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย พอลงจากรถแท็กซี่ได้ก็เริ่มสั่นสะท้านไปตามๆ กันเพราะอากาศค่อนข้างเย็นกว่าที่คิดเอาไว้
“อากาศหนาวกว่าที่ฉันคิดเหมือนกันนะเนี่ย”
“ที่นี่น่ะเหรอที่ทำงานของเค้าน่ะ” ปารวีไม่ได้สนใจอากาศตามเพื่อน เธอสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าหลังจากลงจากรถมากว่า เพราะเธอเห็นกำแพงปูนสูงร่วมสามเมตรทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา เดาได้เลยว่าโกดังข้างในต้องใหญ่มากๆ แน่นอน ทั้งยังไม่ค่อยมั่นใจแล้วว่าพวกเธอจะสามารถเข้าไปได้หรือไม่ เพราะตลอดแนวกำแพงมีชายฉกรรจ์ชุดดำยืนเฝ้ากันอยู่เป็นระยะ และแล้วก็มีชายร่างสูงผมทองในชุดดำกำลังเดินตรงมาหาพวกเธอ
“พวกคุณมาหาใครครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามพวกเธอเป็นภาษาอังกฤษ เพราะน่าจะรู้ว่าเธอทั้งสองเป็นคนเอเชีย
“คุณราเดนเค้าอยู่ที่นี่ไหมคะ” มุขรินทร์เห็นปารวีอ้ำอึ้งไม่กล้าตอบอะไรก็เริ่มพูดภาษาอังกฤษตอบกลับอีกฝ่ายไป
“มีธุระอะไรกับคุณราเดนครับ”
“เพื่อนฉันชื่อลูกปลาเป็นภรรยาเค้าค่ะ” พูดพร้อมยกรูปตอนที่ปารวีแต่งงานกับราเดนให้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ได้ดู เพราะรู้ว่าพูดปากเปล่าอีกฝ่ายคงไม่เชื่อง่ายๆ แน่
“รอสักครู่นะครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มหยิบรูปขึ้นมาดูอย่างถี่ถ้วนก่อนจะเริ่มต่อสายหาใครบางคน
สองสาวรอบอดี้การ์ดหนุ่มคุยกับปลายสายไม่นานนัก ก็มีคนขับรถออกมารับพวกเธอเข้าไปด้านใน
“เค้าจะพาเราไปไหน” ปารวีสะกิดมุขรินทร์ขณะนั่งอยู่ในรถตู้คันหรูที่มีม่านบังทึบมองอะไรด้านนอกไม่เห็น และมีบอดี้การ์ดหนุ่มอีกสองคนนั่งประกบพวกเธอไม่ห่าง
“ไม่รู้สิ” มุขรินทร์ส่ายหัวน้อยๆ หากปารวีเดาไม่ออก แล้วเธอที่นั่งอยู่ด้วยกันตลอดจะเดาออกกได้อย่างไร
ไม่ทันที่สองสาวจะเดากันออกว่ารถคันหรูนี้จะพาเธอไปไหน รถก็ได้หยุดและประตูด้านข้างก็เริ่มเปิดออก แล้วก็มีฝรั่งชุดดำหน้าละอ่อน แต่ตัวใหญ่โตยืนยิ้มให้พวกเธออยู่ด้านนอก
“สวัสดีครับ ผมเมเลอร์เป็นมือขวาของคุณราเดนครับ นายให้ผมมารับคุณเพิร์ลกับคุณลูกปลาไปข้างใน” เมเลอร์ทักทายสองสาวเป็นภาษาไทย และด้วยใบหน้าที่เป็นมิตรของเขาก็ทำให้สองสาวเริ่มผ่อนคลายลงได้บ้าง
ปารวีและมุขรินทร์เดินตามเมเลอร์มาถึงห้องแห่งหนึ่งที่ด้านในเต็มไปด้วยความมืด มีโซฟาสีดำเป็นรูปตัวยูที่กลางห้อง แสงที่มีในห้องตอนนี้ก็มีเพียงแค่แสงจากแชนเดอเลียร์ที่ห้อยลงมากึ่งกลางห้องเท่านั้น
“พวกคุณรออยู่ที่นี่ก่อนนะครับ อีกเดี๋ยวคุณราเดนจะมาคุยด้วย”
“ค่ะ” ปารวีพยักหน้าน้อยๆ ให้เมเลอร์ ทั้งที่มีคำถามมากมายอยู่ในหัว แต่เธอก็ไม่กล้าถามชายหนุ่มเพราะเกรงใจ ทว่าเมื่อเหลือเธอและมุขรินทร์เพียงสองคนในห้องก็รู้สึกแปลกๆ กับบรรยากาศในห้องพิกล
“แก” ปารวีหันมองหน้ากับมุขรินทร์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นกลัว ที่นี่เหมือนฉากในหนังฆาตกรรมไม่มีผิด
“แกก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันใช่ไหม”
“อืม ไม่ใช่ว่าห้องนี้เป็นห้องเชือดล่ะ”
“ไม่ใช่หรอกมั้ง” ตอนนี้ในใจลึกๆ ของมุขรินทร์ก็รู้สึกไม่ต่างจากปารวี ทว่าเธอไปทำอะไรให้ราเดนต้องมาเก็บพวกเธอล่ะ
“จะบินมาทำไมไม่บอกกันก่อน”
“ว๊าย...” ปารวีตกใจเสียงของราเดนจนโผเข้าไปกอดมุขรินทร์แน่น
“เอ่อ...ลูกปลา” มุขรินทร์ต้องรีบสะกิดเพื่อนรักที่กำลังตระหนกเกินกว่าเหตุ
“เอ่อ...สะ สวัสดีค่ะคุณราเดน โทษทีค่ะเมื่อกี้ฉันแค่ตกใจ”
ราเดนจ้องมองหญิงสาวที่ดีดตัวลุกยืนจัดเผ้าจัดผมอยู่ตรงหน้าไม่ไกล เขามองเธอตาไม่กระพริบ เพราะปารวีเปลี่ยนไปมากพอสมควรในสายตาของเขา
ห้าปีที่แล้วเธอเหมือนเด็กกะโปโล มีดวงตาเหมือนลูกแมวน้อยที่น่าสงสาร ทว่าวันนี้เธอดูโตเป็นสาวสะพรั่ง พวงแก้มและจมูกที่กำลังแดงระเรื่อเพราะเพิ่งผ่านอากาศเย็นจากข้างนอกทำให้เธอดูมีเสน่ห์เป็นทวีคูณ แต่นั่นก็ใช่เรื่องที่เขาจะต้องใส่ใจ อยากรู้มากกว่าว่าเธอมาหาเขาถึงที่นี่ด้วยธุระเรื่องอะไร
“อืม...เมื่อกี้ผมถามว่าจะบินมาทำไมไม่บอกผมก่อน ผมจะได้ให้คนไปรับ”
“คือ...ว่า”
มุขรินทร์เห็นปารวีเอาแต่ยืนอ้ำอึ้ง เธอก็เลือกที่จะลุกยืนขึ้นข้างๆ กับเพื่อนรัก ก่อนจะเกริ่นนำให้ปารวี “ก็เพื่อนฉันมีเรื่องร้อนใจอยากจะคุยกับคุณน่ะสิคะ”
“อ้าวพี่เร ไหนบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงคะ”“ธุระเสร็จไวพี่ก็เลยรีบกลับ ลูกๆ บ่นคิดถึงพี่บ้างรึเปล่า” ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีดำเข้ามาสวมกอดพร้อมกอดหอมพวงแก้มนวลของคนเป็นภรรยาฟอดใหญ่“คนตามใจไม่อยู่ทั้งคนจะไม่บ่นถึงได้ยังไงล่ะคะ”“รู้สึกเหมือนกำลังโดนบ่นยังไงก็ไม่รู้”“แล้วทานอะไรมารึยังคะ”“เรียบร้อยครับ แล้วสิ่งที่อยากทานตอนนี้ก็คือเมีย” เขาช้อนก้นอุ้มคนตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะก่อนจะแทรกตัวกึ่งกลางขาเรียวทั้งสอง จากนั้นก็รวบใบหน้าหวานด้วยมือทั้งสองประคองบดจูบด้วยความโหยหาปารวียกแขนทั้งสองคล้องคอคนเป็นสามีอย่างรู้งานก่อนจะแลกลิ้นอุ่นนุ่มกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ใช่ว่าเขาโหยหาเธอเพียงฝ่ายเดียว เธอเองก็เฝ้าคิดถึงสัมผัสของเขาแทบทุกวินาทีที่ต้องห่างเช่นกันราเดนละมือจากใบหน้าหวานเลื่อนลงมาปลดกางเกงปลดปล่อยแท่งร้อนที่กำลังผงาดหัวปูดเป่งออกมาเผชิญโลกกว้างก่อนจะถลกชุดคลุมตัวบางจากหัวไหล่มนคนเป็นภรรยาให้ไปกองอยู่กับหน้าโต๊ะเมื่อคนตัวเล็กล่อนจ้อนเผยผิวเนื้อนวลเนียนชวนสัมผัสเขาก็วาดแขนประคองแผ่นหลังบางไล่พรมจูบตั้งแต่ลำคอระหงส์สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้เต็มปอดจนมาบรรจบอยู่ที่เนินอกอวบ
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผันนานร่วมสามปีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากมายโดยเฉพาะชีวิตของปารวี จากก่อนหน้านี้เธอเป็นเพียงเจ้าของไร่ผูกรักริมธาร มีหน้าที่บริหารไร่ และต้อนรับนักท่องเที่ยวตอนนี้เธอกลายเป็นคุณแม่ลูกสองที่ทำหน้าที่ดูแลลูก และเป็นผู้บริหารรีสอร์ทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไปแล้ว หลังจากที่เธอคืนดีกับราเดนได้ เขาก็เข้ามาพัฒนาไร่ของเธออย่างเต็มที่ ส่วนงานที่คลังอาวุธก็ยังคงบินไปดูแลอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะใช้ชีวิตอยู่กับเธอที่ไร่ส่วนเพื่อนๆ ของเธอตอนี้ต่างคนต่างก็มีชีวิตเช่นที่ฝัน ไก่หวานเปิดธุรกิจร้านเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วดูท่าทุกอย่างก็กำลังไปได้สวย ส่วนอารยาก็เป็นเภสัชอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือร้านยาของเธอได้ขยายไปอีกสามสาขาส่วนมุขรินทร์ตอนนี้ก็เลิกทำงานเป็นบัญชีฟรีแลนซ์ แล้วเข้าไปช่วยสามีบริหารงานอยู่ที่รัสเซีย ใช่แล้ว ตอนนี้สองคนนั้นแต่งงานกันเรียบร้อย และตอนนี้ก็กำลังจะมีโซ่ทองคล้องใจออกมาลืมตาดูโลกแล้วด้วยส่วนสามภพก็กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ไหนจะดูแลไวน์ที่โรงบ่ม และยังเป็นนักขายตัวยงที่หาลูกค้าได้เก่งมากๆ จนราเดนไม่ต้องเข้าไปช่วยทำอะไรในส่วนของชวิน ต
ราเดนได้แต่ก้มหน้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ แม้จะเห็นว่าปารวีไม่ได้อยากจะเชียร์เขาสักนิด ทว่าเขาก็ยังอยากจะทำในสิ่งที่รับคำท้าชวิน วันนี้เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เขา หรือ ชวิน ที่จะเป็นผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้พักใหญ่แล้วที่เสียงของท่อไอเสียรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ดังลั่นสนั่นไปทั้งสนาม บีบให้หัวใจของคนที่เฝ้ามองไม่ละสายตาได้เต้นแรงตามเสียงนั้นไปด้วยปารวีแทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นว่าราเดนแทบจะหลุดโค้งทุกครั้งที่เข้าโค้ง ทว่าชวินกลับขับรถในสนามได้อย่างชำนาญ แต่ก็ทิ้งห่างราเดนได้ไม่ไกลมากนัก“รอบสุดท้ายแล้ว ใครจะชนะล่ะเนี่ย”เสียงของไก่หวานยิ่งทำให้ปารวีใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอและจับจ้องไปยังรถของราเดนตาไม่กระพริบ ยอมรับกับหัวใจตัวเองเลยว่าตอนนี้เขาอยากให้เป็นราเดนที่เข้าเส้นชัยไม่ใช่ชวิน ทว่าเหมือนเธอจะมองไม่เห็นโอกาสนั้นเลยและในโค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นชัย รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สองคันก็ได้ตีคู่กันมาติดๆ เล่นเอาคนที่เกาะขอบสนามแทบจะหยุดหายใจเพราะลุ้นไปตามๆ กัน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น“อ๊าย...พี่เร!...” ปารวีร้องเสียงหลงเมื่อรถของราเดนพุ่งออกไปจากสนามแข่งแล้วไ
หวังว่าการยอมลงทุนเรียกคะแนนความสงสารจากคนตัวเล็กจะทำให้เธอกลับมาเป็นของเขาได้โดยเร็ว เขาจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนที่พยายามจะขโมยหัวใจของเขาไปเช้านี้ชวินเลือกที่จะไปเยี่ยมราเดนพร้อมกับทุกคน เพราะเมื่อคืนเขาเจอหลักฐานเด็ดที่ทำให้เห็นว่าการที่ราเดนต้องเข้าโรงพยาบาลมันไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ทว่าเขาเชื่อว่าราเดนต้องการเรียกร้องความสนใจจากปารวีต่างหาก“ดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ”ทุกคนมองไปยังชวินกันเป็นตาเดียวที่เห็นเขาเข้าไปหาราเดนเป็นคนแรกทั้งที่ก็ไม่ค่อยจะชอบหน้ากันสักเท่าไร“อืม ก็ดีขึ้นมากแล้ว” ราเดนพยักหน้าน้อยๆ ตอบชวินเสียงห้วน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหนถึงได้แสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยเขาก่อนทุกคน“เมื่อวานผมดูกล้องวงจรปิดแล้ว ผมเห็นว่าคุณเข้าไปเล่นกับลูกหมาตัวนั้นเอง ไม่ใช่ลูกหมาตัวนั้นวิ่งมาหาคุณ เรียกคะแนนสงสารจากลูกปลาสินะครับ” เมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่กันครบ ชวินก็ไม่รีรอที่จะเผยธาตุแท้ของราเดน โดยเฉพาะปารวี เขาอยากให้เธอรู้ว่าราเดนกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออีกแล้ว ดูสิว่าหากหญิงสาวรู้แล้วมันจะเป็นยังไง“จริงเหรอคะ” ปารวีมองจ้องคนตัวโตที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงด้วยแววตาผิ
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าไปร่วมโต๊ะล่ะ”“ไม่ กลัวอดใจกระทืบคนไม่ได้”“หึ่...” ซีโวลอดขำพรืดกับคำตอบของเพื่อนรัก นับว่าไม่ผิดหวังกับคำตอบที่ออกมาจากปากของราเดน“ขำอะไรของนายนักหนา”“ก็ตั้งแต่คบกันมาฉันไม่เคยเห็นแกหึงผู้หญิงนี่หว่า เอาน่า... ฉันเชื่อว่าแกเอาลูกปลากลับคืนมาได้อยู่แล้ว แต่อย่าใจร้อนทำให้เธอโกรธอีก ห้ามบังคับ แต่ควรหัดใช้สมองให้เป็น”“พูดให้มันเข้าใจง่ายๆ หน่อยสิ” ราเดนเริ่มขมวดคิ้วระหว่างส่งเครื่องดื่มให้ซีโวลอด“เรื่องอื่นล่ะเก่งเหลือเกิน มาตกม้าตายเพราะเรื่องผู้หญิง” พูดจบก็ยกแก้วดื่มน้ำเมาสีสวยอึกใหญ่ ทั้งอมยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อนที่ดูจะไร้เดียงสาเรื่องหัวใจ“ขอความเห็น ไม่ใช่ให้มาด่าฉัน”“ฉันว่ายังไงลูกปลาก็ยังหลงเหลือความรักให้นายอยู่ แค่ทำตัวน่าสงสารให้เธอเห็นใจนาย เดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนกับนายเอง แต่ตอนนี้ห้ามทำอะไรให้เธอโกรธเด็ดขาดถึงจะหมั่นไส้หมอนั่นแค่ไหนก็ช่าง เข้าใจไหม”ราเดนนั่งเงียบ ดวงตาคมยังคงจับจ้องไปยังกลุ่มคนที่ร่วมโต๊ะดินเนอร์กันที่ริมชายหาด ไม่ค่อยชอบใจนักที่เห็นปารวีนั่งหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับชวิน เพราะรอยยิ้มที่เธอให้ชวินมันควรจะเป็นของเขา เขาหลี่ตามากขึ้นเรื่
“ก็ฉันจะอยู่รีสอร์ทพี่โชน ทำไมคะ หรือจะบังคับเอาฉันไปขังที่อื่นอีก บอกเลยนะคะว่าให้ฉันเจ็บตัวมากกว่านี้เพื่อหนีไปจากคุณฉันก็ยอม” สาวเจ้าในชุดมินิเดรสคอบัวแขนสั้นสีชมพูนั่งกอดอกบุ้ยปาก ดวงตามีแต่ความแข็งกร้าว ทำเอาคนที่มองจ้องอยู่ต้องถอนหายใจอ่อน“จะให้พี่ทำยังไงถึงจะหายโกรธพี่” ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเริ่มที่จะประชดประชันเขาขึ้นมา“ก็แค่เซ็นใบหย่ากัน แล้วก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะ”“ถ้าพี่บอกว่าจะยอมเซ็นใบหย่าให้ จะไปอยู่รีสอร์ทอื่นได้ไหม”“คุณมีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับฉันคะ”ราเดนยืนกัดฟันถอนหายใจและเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็ต้องทำตามใจปารวี เมื่อเก็บของเรียบร้อยก็พาเธอไปที่รีสอร์ทของชวินเมื่อมาถึงเขาก็ต้องพยายามสงบอารมณ์ให้มากที่สุดเท่าที่เคยทำมา เพราะหลังจากชวินรู้ว่าปารวีกลับมาพักที่รีสอร์ทของตัวเองก็รับเดินทางจากบ้านมาหาภรรยาของเขาทันที แถมยังทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ พูดคุยกันอย่างออกรสทำเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ด้วย จนเขาต้องเดินหนีมาหาที่สงบอารมณ์ดีที่เขารู้ว่าซีโวลอดกับมุขรินทร์ยังเที่ยวด้วยกันอยู่แถวนี้เลยได้โทรตามให้ทั้งสองมาที่นี่ อย่างน้อยเขาก็ยังมีซีโวลอดเป