9
คนเดิมที่เดิม
ณ คอนโดฯ แห่งหนึ่ง
ลิลิธขับรถวนเข้ามาจอดในลานจอดรถส่วนตัวของคอนโดฯ หรูใจกลางเมือง แสงไฟสลัวจากโคมไฟเหนือเพดานกระทบเงาสีเมทัลลิกของรถ
ด้วยราคาห้องที่สูงเกือบสิบล้าน ทำให้มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ทุกมุมของคอนโดฯ สะท้อนถึงความหรูหรา
เธอหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาสแกนบริเวณล็อบบี้ที่ออกแบบอย่างทันสมัย ผนังหินอ่อนสีขาวขลับจับกับแสงไฟทำให้บรรยากาศภายในดูสวยสง่าและเงียบสงบ
เมื่อลิฟต์เปิดถึงชั้นที่เธอพัก ลิลิธเดินไปยังประตูห้อง เธอสแกนคีย์การ์ดเพื่อปลดล็อก ก่อนจะผลักประตูเข้าไปภายในห้องที่เย็นฉ่ำด้วยอุณหภูมิแอร์ ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่ได้เป็นคนเปิดทิ้งเอาไว้แน่ ๆ
“เฮ่อ...” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาและเพียงเธอก้าวเข้าไปไม่กี่ก้าว เธอก็พบว่ามีแขกที่ไม่ได้รับเชิญกำลังนั่งรอเธออยู่ที่โซฟาใจกลางห้องโถงรับแขก
แผ่รัศมีของความเย่อหยิ่งและเย็นชา แววตาคมกริบของเขาจับจ้องมาที่เธอ ราวกับรอเธออยู่นานแล้ว
“ไง” ดราก้อนเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเจือความเย็นชา ขณะนั่งเอนกายด้วยท่าทีที่เหมือนเป็นเจ้าของห้อง
ลิลิธมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉยและเธอไม่ได้มีท่าทีตกใจใด ๆ กับการมาเยือนของแขกที่ไม่ได้รับเชิญเลยแม้แต่นิด
“ฉันคิดว่าเธอขายคอนโดฯ นี้ไปแล้วซะอีกนะ” ดราก้อนพูดขณะเอียงตัวไปด้านข้างเล็กน้อย พยายามสังเกตท่าทางของเธอ แต่ลิลิธก็ยังคงรักษาท่าทีไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา
“ทำไม...หรือว่านายตั้งใจจะมาทวงคอนโดฯ คืนจากฉัน?”
“ฮ่า ๆ ๆ” ดราก้อนหัวเราะออกมาลั่นก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปหยุดตรงหน้าของอดีตคู่หมั้นอีกครั้ง
“อะไรที่ฉันเคยให้เธอไป...ฉันไม่เคยคิดจะทวงคืนหรอกนะ” ดราก้อนกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะใช้สายตาเจ้าเล่ห์ของเขาเหลือบมองลิลิธแบบหัวจรดเท้าซ้ำ ๆ
ลิลิธไม่ได้ปล่อยให้เขายืนมองเธอเพียงฝ่ายเดียว เพราะเธอก็ใช้สายตาแบบนั้นมองดราก้อนแบบหัวจรดเท้าเช่นกัน
ดราก้อนหัวเราะในลำคอเบา ๆ ราวกับกำลังสนุกกับการเห็นเธอพยายามเก็บอารมณ์ เขาเดินเข้าไปใกล้เธออีกก้าว แผ่นหลังกว้างและร่างสูงใหญ่ของเขาทำให้ลิลิธรู้สึกเหมือนถูกกดดันอย่างไม่ทันตั้งตัว
“หยุดพล่ามแล้วพูดมาตรง ๆ ว่ามาที่นี่เพื่ออะไร?” ลิลิธถามเสียงเย็น แต่คำพูดของเธอกลับไม่ทำให้ชายตรงหน้าหยุดยิ้ม
ดราก้อนยกมือขึ้นลูบปลายคางเบา ๆ สายตาคมกริบไล่มองเธอช้า ๆ ตั้งแต่ใบหน้าเรียวลงไปจนถึงปลายเท้า ก่อนจะวกกลับมาสบตากับเธออีกครั้ง เขายิ้มมุมปาก รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และแฝงแง่ความนัย
“คิดถึงไง...ก็เลยแวะมาหา” เขาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ เจือแววเย้ยหยันในน้ำเสียง
“หึ!” ลิลิธเบะปากแทนความรู้สึกทั้งหมดที่มีแทนคำตอบ
“โอเค...งั้นเข้าเรื่องเลยก็ได้” ดราก้อนกระตุกยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้จนเธอสามารถสัมผัสถึงลมหายใจของเขาได้
“คืนนั้น...เธอท้องได้ยังไง?”
คำถามนั้นทำให้ลิลิธนิ่งงันไปชั่วขณะ ร่างสูงเดินวนรอบตัวเธอราวกับนักล่าที่กำลังไล่ต้อนเหยื่อ
“ฉันจำได้ว่าฉันใส่ถุง...และฉันก็ไม่ได้แตกใน ไม่ใช่เหรอ?” เขากระซิบใกล้ ๆ ราวกับจงใจจะยั่วให้เธอโมโห
“ถุงมันแตก” ลิลิธสูดลมหายใจลึก รวบรวมสติทุกอย่าง เธอยืนนิ่งเผชิญหน้ากับเขา ดวงตาเย็นชาแต่เต็มไปด้วยความมั่นคง
“ก็ถ้ารู้ว่าถุงมันแตก ทำไมไม่กิน... (ดราก้อน)/ฉันกินยาคุมแล้ว แต่มันคุมไม่อยู่ไง (ลิลิธ)” คนตัวเล็กตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูรำคาญอีกฝ่ายเต็มทน
“แล้วทำไมพอรู้ว่าท้องแล้ว ไม่รีบมาบอกฉันล่ะ” ดราก้อนเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าพร้อมกับเอื้อมมือไปบีบไหล่ทั้งสองข้างของเธอเบา ๆ
“บอกเหรอ?” ลิลิธทำหน้าเหมือนจะหัวเราะออกมา ทั้งที่นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ในตอนนั้นน่ะแค่หน้าฉันนายยังไม่อยากจะมองเลยด้วยซ้ำไป” ลิลิธสูดหายใจลึก พยายามเก็บความเจ็บปวดที่เอ่อล้นในหัวใจ สายตาเธอยังคงนิ่งและเยือกเย็น แต่ลึก ๆ ในดวงตานั้นกลับเต็มไปด้วยความปวดร้าวที่ซ่อนอยู่
“นายเป็นคนไล่ฉันออกไปจากชีวิตของนายเอง จำไม่ได้เหรอ?”
“นายบอกว่า...ไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงก็อย่ากลับมาให้เห็นอีก”
“แต่สุดท้าย...เธอก็กลับมา?” ดราก้อนเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาหาเธอ ลมหายใจของทั้งคู่รดใบหน้าของกันและกันอยู่พักใหญ่
🧝🏻♀️________🐉
สามารถเพิ่มเติมความฟิน ความอิน และอ่านรีวิวเรื่องนี้ได้ที่พื้นที่ในเน็ต รวมถึงฟังเพลงได้ที่ TIKTOK
#อยู่ในตะเกียงแก้ว
#lilithsdragonพันธะสวาทมังกร
#พันธะสวาทมังกร
#เพลงลิลิธถึงดราก้อน
#ลิลิธดราก้อน