TA-WAN’ S PART
• ณ บ้านพักรวมแม่บ้าน •
ขณะที่ตาล สาววัย 26 ปีกำลังยืนรีดผ้ากองโตของบรรดาเจ้านายเพื่อเตรียมสำหรับนำไปแขวนใส่ตู้เสื้อผ้าให้กับพวกคุณ ๆในวันรุ่งขึ้น
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ก่อนที่ประตูห้องจะค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ
"กลับมาแล้วค่ะ" เด็กสาววัย 16 ย่างเข้า 17 ปีเดินสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่เข้าห้องพร้อมกับเอ่ยทักทายพี่สาวของเธอเหมือนเช่นทุกวัน
"อืม" ตาลพยักหน้ารับคำทักทาย แต่เธอก็ไม่มีเวลาใส่ใจน้องสาวมากเท่าไหร่นัก เพราะต้องใช้สมาธิในการรีดผ้าต่อไปจนกว่าจะเสร็จ เนื่องจากเสื้อผ้าของพวกเจ้านายล้วนเป็นแบรนด์เนมหรูทั้งนั้น ราคาตั้งแต่หลักพันหลักหมื่น บางตัวนี่แสนกว่าบาทเลย
ดังนั้นจึงจะรีดแบบลวก ๆ ส่ง ๆ ไม่ได้ ถ้าจับจีบได้ไม่ดี คุณป้าหัวหน้าแม่บ้านก็จะเรียกไปตำหนิทันที
เมื่อเห็นว่าน้องสาวของเธอเอาแต่นั่งมองหน้า ทว่าก็ไม่พูดไม่จาอะไร ผู้เป็นพี่จึงเป็นฝ่ายไถ่ถามขึ้นก่อน
"มีอะไรหรือเปล่าตะวัน?" ตาลวางเตารีดร้อนลงกับโต๊ะรีดผ้าและเงยหน้าถามตะวันที่นั่งมองเธอทำงานอยู่ไม่ไกลมากนัก
"คือว่า... ตะวันอยากจะขอยืมเงินพี่ตาลไปเรียนพิเศษหน่อยจะได้ไหมจ๊ะ?" สาวน้อยเดินเข้ามาหาพี่สาวพร้อมกับเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา
"ยืม 2,000 บาทเท่านั้น เดือนหน้าตะวันได้เงินค่าพาร์ตไทม์แล้วจะคืนให้เลยจ้ะ" เธอยกมือไหว้ขอด้วยท่าทีอ้อนวอน
"เรียนพิเศษ?" พี่สาวต่างวัยถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เธอพับโต๊ะรีดผ้าเก็บและเตรียมเสื้อผ้าที่จะนำขึ้นไปไว้ที่ตู้เสื้อผ้าบรรดาเจ้านายแต่ละคนก่อนจะแขวนเสื้อผ้าของเจ้านายเอาไว้ด้วยความระมัดระวัง
"คือมีบางวิชาที่หนูพยายามอ่านเองแล้ว แต่มันไม่เข้าใจจริง ๆ และอาจารย์ไม่ค่อยอธิบายในห้องเรียน เอาแต่ไปติวให้กับพวกที่เรียนพิเศษแทนน่ะ" ขณะที่พี่สาวทำงาน ตะวันก็เริ่มอธิบายเหตุและผลที่คิดไว้ แม้จะรู้ดีว่าพี่เธอไม่เห็นด้วยกับการเรียนต่อสักเท่าไหร่ แต่เธอไม่มีที่พึ่งอื่นจริง ๆ
ปั่ก! เสียงเตารีดผ้าร้อน ๆ กระแทกลงที่โต๊ะรีด
"พี่ไม่เข้าใจเลยตะวัน! แกจะฝืนเรียนต่อไปทำไม?" ตาลเงยหน้ามองน้องสาวนิ่ง ๆ
"จริง ๆ เรียนจบแค่ม.3 มันก็ควรจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ?" ก่อนหยุดทำงานและหันมาคุยกับน้องสาวด้วยท่าทีจริงจัง
"ถ้าพี่ตาลไม่มีก็ไม่เป็นนะจ๊ะ" ตะวันยิ้มเจื่อน ๆ ตอบกลับไป
"เรื่องเงินน่ะ พี่พอมีและให้แกได้เลยไม่ต้องหามาคืนหรือยืมอะไร" ผู้เป็นพี่ถอนหายใจก่อนจะควักเงินในกระเป๋าเสื้อของตัวเองและยัดใส่มือของน้องสาวไปทันที
"แต่ที่พี่ไม่เห็นด้วยเลยคือ... เราจะเรียนสูง ๆ ไปเพื่ออะไร?"
"แกเองก็น่าจะรู้ตัวดีที่สุด... ว่าเรียนไม่เก่งเลยสักวิชา" เธอพูดตอกย้ำไปตามจริง
"เออ ถ้าแกสอบได้ทุนการศึกษามาตลอด หรือได้เกรด 4 ทุกวิชาจนได้เรียนฟรี พี่จะไม่ว่าเลยนะ นี่ยังดึงดันเรียนต่อไปเพื่ออะไร?" ตาลตั้งใจเอ่ยออกไปตรง ๆ เพราะไม่ว่าจะเตือนจะสอนน้องสาวกี่ครั้ง ตะวันก็ยังคงดิ้นรนหาทางเรียนต่อ
"หนูรู้ว่าหนูโง่แถมหัวช้ากว่าคนอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากจะพยายามและพัฒนาตัวเองต่อไปให้มากที่สุด" ตะวันน้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย
"หนูอยากเรียนมหาลัย อยากจบสูง ๆ อยากมีงานดี ๆ ทำ เพื่อให้เราสองคนได้กินอยู่สุขสบายกว่านี้" เด็กสาวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"แล้วอาชีพคนใช้มันไม่สบายตรงไหน?" ตาลสวนกลับน้องสาวของเธอทันที
"บ้านก็มีให้อยู่ ข้าวก็มีให้กิน น้ำไฟไม่ต้องจ่าย พี่ไม่เห็นว่าเราจะเดือดร้อนจนต้องกระเสือกกระสนอะไรอีกเลย" หญิงสาวพูดพลางเก็บเตารีดผ้าและเตรียมจะเอาเสื้อผ้าที่คัดแยกแล้วไปอีกห้องหนึ่งแทน
"พี่ตาล... ตะวันแค่ไม่อยากเห็นพี่ทำงานนะ… (หนัก) " ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบพี่สาวก็หันกลับมามองหน้าของเธออีกครั้ง
"คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายมีพระคุณต่อเรามากแค่ไหนแกรู้บ้างไหม?"
"ในวันที่พ่อแม่เราเสียไป นอกจากท่านทั้งสองคนจะช่วยเรื่องค่าทำศพแล้ว ยังรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ไร้ประโยชน์อย่างพวกเราเอาไว้ด้วย"
"ตอนนั้นพี่ยังเด็กมาก ช่วยงานอะไรแทบไม่ได้เลยแต่ท่านก็ให้เงินเดือน ที่อยู่อาศัย ส่วนแกที่เป็นเพียงแค่เด็กทารกหัดคลานท่านจึงให้พวกป้า ๆ แม่บ้านช่วยเลี้ยงดูจนเติบโตมาได้ ค่านม ค่าแพมเพิส ค่าหมอ ค่ายา ท่านไม่เคยทวงบุญคุณกับเราเลยสักบาทเดียว" ตาลพูดย้ำถึงบุญคุณพวกเจ้านาย เนื่องจากกลัวน้องสาวของเธอจะลืมกำพืดว่าตัวเองมีทุกวันนี้ได้เพราะใคร
"สำหรับพี่ ถ้าแกอยากจะเรียนสูง ๆ เพื่อที่ดีดตัวเองออกไปจากที่นี่ ก็ไปคนเดียวเถอะนะ" พูดจบจึงหยิบเสื้อผ้าของเจ้านายที่รีดเสร็จแล้วมาถือไว้
"เพราะสำหรับพี่แล้ว ต่อให้ต้องเป็นคนใช้บ้านนี้ไปทั้งชาติ พี่ก็ยังไม่รู้จะทดแทนบุญคุณพวกท่านได้หมดรึเปล่า" เธอเอ่ยทิ้งท้าย
"พี่ตาล ตะวันไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะ" ตะวันยังไม่ทันจะเอ่ยอธิบายอะไร
พี่สาวของเธอก็เลือกที่จะเดินออกไปจากห้องทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น และที่อีกฝ่ายทำแบบนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะอารมณ์กันมากกว่านี้
นับวันทั้งสองพี่น้องก็ยิ่งคุยกันได้น้อยลง ยิ่งตะวันโตมากขึ้น เธอก็ยิ่งเห็นแตกต่างจากตาลไปเสียทุกเรื่อง
ปัง!! เมื่อเสียงประตูห้องพักปิดลง
เด็กสาววัย 16 ปียืนกำเงินในมือเอาไว้แน่น เธอซับน้ำตาตัวเองแบบลวก ๆ
แม้จะไม่อยากร้องไห้ แต่มันก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่
"หนูก็แค่ไม่อยากให้พี่ต้องทำงานหนักแบบนี้" เด็กน้อยน้ำตาไหลอาบสองแก้ม
"หนูอยากให้พี่สบายกว่านี้ก็เท่านั้นเอง" เธอปาดน้ำตาของตัวเองที่มันไหลออกมาไม่หยุดเลยหลังจากนั้น
"การที่หนูอยากมีอนาคตที่ดีกว่านี้ มันผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอ?" ตะวันมองไปที่หนังสือเรียนกองโตที่เธอนั่งอ่านและฝึกทำแบบฝึกหัดแทบจะทุกคืน
ถึงเธอจะหัวช้าไปบ้าง แต่ก็เอาความขยันเข้าสู้มาโดยตลอด ความฝันเดียวในตอนนี้ของเด็กมัธยมปลายคนหนึ่ง คือการได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย รีบเรียนให้จบแล้วหางานดี ๆ ทำเลี้ยงดูตัวเองและพี่สาวได้ก็เท่านั้น
อีกฝ่ายทำงานที่นี่มาตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป พี่ตาลถือเป็นแม่บ้านประจำที่คุณผู้หญิงไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุดคนหนึ่งเลย เธอเป็นคนที่ต้ังใจทำงานมาก ๆ ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานบ้านทุกอย่าง จนบางทีแทบไม่ได้พักเลย พี่ตาลไม่เคยมีเวลาให้กับตัวเอง ทั้งไม่ยอมหยุดงานแม้แต่วันเดียว แม้จะมีวันหยุดก็ตาม
ตะวันตัดสินใจคืนเงิน 2,000 บาทใส่กระเป๋าสตางค์ของพี่สาวเธอไป เพราะคำพูดนั้นมันก็ทำให้เธอไม่กล้าจะไปเรียนพิเศษแล้วแหละ
สาวน้อยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อหยุดร้องไห้และรีบอาบน้ำเตรียมตัวกลับมานั่งอ่านหนังสือต่อทันที
ความที่เธอไม่ได้เงินเหลือมากพอจะเรียนพิเศษเหมือนกับคนอื่น ๆ ทำให้ต้องอ่านหนังสือและทบทวนให้ได้มากกว่าคู่แข่งจากทั่วประเทศ เพื่อเตรียมสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย
RUNWAY’ S PART
บนรถ
หลังจากที่พิต้าลงจากรถและเดินตรงไปยังคลินิกนั้น ซึ่งมันก็คือคลินิกทำแท้งเถื่อนที่รันเวย์โทรมานัดกับหมอเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เพียงไม่กี่นาทีก่อนจะขับรถมาถึง
สายตาคมกริบจ้องตามแผ่นหลังของผู้หญิงแพศยาคนนั้น สองมือกำพวงมาลัยรถเอาไว้แน่น ปลายเท้าแตะที่คันเร่งก่อนจะกระทืบเหยียบซ้ำ ๆ จนมิด
ทว่ารถสุดหรูมันยังคงไม่ขยับไปไหนเพราะว่าเขาได้ดับเครื่องยนต์นานแล้ว
"ถ้าฆ่าคนตายแล้วไม่ผิด มึงจะเป็นคนแรกเลยที่กูจะทำ" รันเวย์กัดฟันมองพิต้าด้วยความแค้นใจและไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงต่อจากนี้ดี ที่ชายหนุ่มเริ่มลนลานก็เพราะกลัวว่าแฟนจะรู้เรื่องอีกฝ่ายเข้าสักวัน แน่นอนว่าคนที่แสนดีอย่างหนึ่ง ถ้าเธอรู้ว่ารันไปทำคนอื่นท้องต้องรับไม่ได้แล้วบอกเลิกกันแน่ ๆ ซึ่งมันจะเป็นแบบนั้นไม่ได้!
"โธ่เว้ย ๆ ๆ ๆ" เขากระแทกหัวตัวเองเข้ากับพวงมาลัยรถซ้ำ ๆ เพื่อระบายความเครียดหลังหาทางออกไม่ได้เลย ชีวิตรัก 7 ปีจะมาพังเพราะผู้หญิงแพศยาอย่างพิต้าไม่ได้!!
พิษสวาท | ตอนพิเศษ | ครอบครัวที่สมบูรณ์รันเวย์หันไปเตรียมกับลูกชาย ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปเปิดประตูให้ภรรยา และจับมือของเธอ"ค่อย ๆ เดินนะครับแม่" เซอร์เวย์จูงมืออีกข้างของตะวัน ก่อนที่สองพ่อลูกจะพาเธอเดินตรงเข้าไปในพื้นที่โล่งกว้างของเรือนหอสุดอลังการ"ตื่นเต้นนะเนี่ย..ทำไมถูกปิดตาคนเดียวเลยอะ" ตะวันยิ้มอย่างรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเลย เธอไม่รู้เลยว่าสองพ่อลูกจะเซอร์ไพรส์อะไรกันแน่.."โอเค ตรงนี้แหละ" รันเวย์พูดขึ้นก่อนจะจับไหล่ของเธอหันไปทางหนึ่ง ซึ่งแสงแดดอุ่น ๆ ในยามเช้าก็กระทบลงบนผิวกายของหญิงสาวทันที มืออีกข้างหนึ่งของเธอยังคงจูงมือลูกชายเอาไว้แน่น"เปิดแล้วนะ" รันเวย์เดินอ้อมไปด้านหลังก่อนจะกระซิบเบา ๆ เข้าที่ข้างหูของเธอพร้อมกับค่อย ๆ ปลดผ้าออกช้า ๆฟุ่บ! วินาทีที่ผ้าปิดตาถูกเปิดออก เธอก็ได้มองเห็นสวนสีเหลืองอร่อมของดอกทานตะวันที่มีมากมายเป็นร้อย ๆ ดอกได้เลย"ว้าว..." ตะวันอ้าปากค้างทันทีกับความสวยงามตรงหน้าของเธอในตอนนี้"ชอบไหม?" รันเวย์ค่อย ๆ โอบกอดเธอจากทางด้านหลัง และกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู"ชอบค่ะ" ตะวันมองดูดอกทานตะวันมากมายที่หันหน้าตรงมาทางเธอในตอนนี้"อุ๊ย! ลุงบรา
พิษสวาท | ตอนพิเศษ | ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์"ถ้าพวกมันตีเดี๋ยวผมจัดการมันเอง" วินด์เซอร์เดินตรงเข้ามาแบบเซหน่อย ๆ ก่อนจะมายืนเกาะแขนของเฟรนด์ชิพแทน"มึงยืนให้ตรงก่อนไหม?" รันเวย์ส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะพวกมันสี่คนนั่งมอมกันเองตั้งแต่งานยังไม่เริ่มนั้นเอง"ทำไมพวกมึงขี้เมากันจังเลยวะ" เฟรนด์ชิพส่ายหน้าเบา ๆ กับความแสบและซนของบรรดาน้องชายตัวเองย่ิงเวลาเจอกันทีไรบรรลัยแทบทุกที ขนาดว่าพวกมันจะโตจนมีลูกมีเมียไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่เจอกันก็กลายเป็นเด็กกันอยู่ดี"เดี๋ยวนับพาเจ้าสาวไปฝั่งสาว ๆ ดีกว่านะ พวกหนุ่ม ๆ ก็สนุกกันให้เต็มที่เถอะ" นับหนึ่งโอบเอวตะวันเดินพาไปฝั่งสมาคมแม่บ้านของเธอทันที"ไปเถอะ แถวนี้มันเถื่อน" นับหนึ่งกระซิบกับตะวันเบา ๆ ก่อนจะหัวเราะคิกคัก ๆ กันสองคน"เออไอ้รันแล้วมึงไม่ได้เชิญไอ้บราวน์เหรอวะ?" เฟรนด์ชิพเอ่ยถามขึ้น เพราะเขามองไปรอบงานแล้วก็ไม่เจอเพื่อนรุ่นตัวเองเลย"จะไม่เชิญได้ไง กูเชิญพร้อมมึงเลย""เชิญก่อน ไอ้สี่ตัวบาทนี่ด้วย" รันเวย์หันไปมองทางวินด์เซอร์ ฟาเรน คลินต์ และไทม์โซน"เหรอ?" เฟรนด์ชิพก้มมองนาฬิกาเล็กน้อยเพราะปกติบราวน์แทบไม่เคยพลาดงานเลี้ยงหร
พิษสวาท | ตอนพิเศษ | การแต่งงานครั้งสุดท้ายท่อนเอ็นอวบ ๆ จะถูกยัดเข้ามาในช่องทางรักของเธอและสอดเข้ามาจนลึกสุดโค่น ก่อนบดเอวซ้ำ ๆ ก่อนจะเริ่มซอยเข้าออกอย่างช้า ๆ"อื้อ.." ตะวันครางออกมาเบา ๆ เธอติดแหง็กอยู่ในเครื่องซักผ้ายิ่งครางเท่าไหร่เสียงมันก็ยิ่งดังก้องอยู่ด้านในนี้ตับ ตับ ตับ ตับ คนด้านนอกเร่งจังหวะกระแทกแรงขึ้น ๆ จนเครื่องซักผ้าโยกไปตาม ๆ กัน"ซี้ด..โอ่ย..อ่าส์.." หญิงสาวโอดครวญออกมาด้วยความเสียวและเกร็งมากขึ้น ๆกลีบเนื้อโอบรักแก่นกายของเขาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฝ่ามือหนาโอบรั้งเอวบางแน่นและกระแทกซ้ำ ๆ ๆตับ ตับ ตับ"อื้อ..อะอื้อ.." ร่างบางถ่างขาออกจิตใจของเธอจดจ่ออยู่กับท่อนเอ็นที่ผุบเข้าผุบออกร่องเสียวของตัวเอง ความรู้สึกมันเหมือนมีผีเสื้อนับร้อย ๆ ตัวบินอยู่ภายในช่องท้องและ..ตับ ตับ ตับ.."โอ่ว..อ่าส์..ซี้ด..อื้อ!!" ตะวันกระตุกเกร็งครางสนั่นเครื่องซักผ้าและเกร็งกลีบรักแน่นจนบีบแก่นกายของเขาแทบไม่สามารถจะขยับได้เลย.."หู่วว...ซี้ด!!" รันเวย์คำรามลั่นเร่งเครื่องกระแทกเข้าซ้ำ ๆ ๆ จนน้ำรักพวยพุ่งเข้าไปในร่องรักของเธออีกครั้ง..พร๊วด!! ร่างสูงชักแก่นกายออกจากช่องทางรักพร้อม ๆ กับลาว
พิษสวาท | ตอนพิเศษ | คนใช้ (ชีวิตร่วมกัน) PIC"เฮ่อ ๆ ๆ " ตะวันหายใจหอบเหนื่อย สติกระจัดกระเจิงเหมือนล่องลอยอยู่กลางอากาศ ความสุขของสวาทมันวูบวาบผ่านไปเพียงชั่ววูบสั้น ๆ แต่มันเติมเต็มสีสันของชีวิตคู่รักได้เป็นอย่างดีเลยจริง ๆ"ฮ่า ๆ ๆ " รันเวย์ยิ้มหัวเราะออกมาเช่นกันด้วยความสุขสมถอนแก่นกายออกจากร่องรักของเธอช้า ๆ พร้อมกับก้มลงไปประทับรอยจูบที่โหนกเนินสาว ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างกายของเด็กสาวที่เขารักเหมือนเช่นทุก ๆ คืนที่ผ่านมา"ถ้าพรุ่งนี้ลูกถามให้บอกว่า แผ่นดินไหวนะ" รันเวย์หันมองหน้าตะวันพร้อมกับพูดขึ้นอย่างยิ้ม ๆ"ได้ค่ะ" เธอพยักหน้ารับอย่างเข้าใจความตรงกันเช้าวันต่อมา "อาหารเช้าเสร็จแล้วจ้า พ่อลูกไปนั่งกันเลย" ตะวันเตรียมทั้งกาแฟและทั้งนมสด ไว้ให้สองพ่อลูก พร้อมกับแซนด์วิชง่าย ๆ ในมื้อเช้า ซึ่งรันเวย์ก็รับหน้าที่ไปปลุกเจ้าอ้วนและพากันไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะมานั่งทานอาหารเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากันในทีแรกรันเวย์อยากจะจ้างแม่บ้าน แต่ตะวันคิดว่าคอนโดมันก็ไม่ได้กว้างมากเท่าไหร่ เธอจึงขอทำเองดีกว่า อีกอย่างการที่มีแค่สองคนในบ้าน มันก็ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวดี ยิ่งวันหยุดแบบนี้แล้วไม่ต้องเ
พิษสวาท | ตอนพิเศษ | เติมเต็มสวาท"ผมก็คิดว่าอย่างงั้นเหมือนกันนะแม่" รันเวย์มองลูกชายของเขาอย่างหนักใจไม่แพ้กัน"แต่เจ้าถังแก๊สเนี่ย มันฉลาดมาก..วันหนึ่งมันก็คงรู้ความจริงจนได้อะ" รันเวย์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดจะปกปิดเรื่องแม่ผู้ให้กำเนิดของเซอร์เวย์ แค่อาจจะต้องให้ลูกชายโตมากกว่านี้สักหน่อย แล้วจริงค่อยบอกบนรถร่างสูงขับรถขึ้นจอดบนคอนโดไปก็นั่งเคี้ยวหมากฝรั่งมาตลอดทางตั้งแต่เขาเลิกบุหรี่ได้ เขาก็หันมาติดการเคี้ยวหมากฝรั่งแทนซะอย่างงั้นส่วนเรื่องเหล้าเบียร์ ก็งดได้ แต่ก็จะมามีหลุดดื่มไวน์บ้างเป็นครั้งคราวจริง ๆ การที่เขาบริจาคไตไปข้างหนึ่งมันอาจจะทำให้เขามีชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป เพราะเขาลด ละ เลิก พวกสิ่งไม่ดีต่าง ๆ จนหมดสิ้นแถมยังหันมาใส่ใจทั้งสุขภาพทั้งทางกายและทางใจสำหรับรันเวย์ในตอนนี้การได้ใช้เวลาอยู่กับคนรัก ครอบครัว มันมีความสุขมากกว่าการออกไปเที่ยวกลางคืน และเปลี่ยนคู่นอนไปวัน ๆ เหมือนเช่นเมื่อก่อนส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะในวันนี้เขามีวุฒิภาวะมากขึ้น และที่สำคัญไปกว่านั้นเขามีตะวันคนที่เข้าใจตัวตนที่แท้จริงของเขาในทุก ๆ อย่าง ที่รันเวย์
พิษสวาท | ตอนพิเศษ | พรีเวดดิ้งตะวันรันเวย์"ผมว่าไม่กร่อย เพราะปาร์ตี้ส่วนใหญ่ก็มีจุดสนุกที่พีค ๆ อยู่ไม่กี่ชั่วโมงหรอก เราก็แค่ทำให้ช่วงเวลาสั้น ๆ ของพวกเขามันถึงขีดสุด สนุกและน่าจดจำ หรือ..ก็แค่เรียกเงินเพิ่มหากต้องการจะอยู่บนฟ้ากันนาน ๆ " รันเวย์เป็นฝ่ายยกมือพูดสวนกลับไปทันทีอย่างเก็บอาการแทบไม่อยู่เหมือนมีคนมาค้านเมียรักของตัวเอง แต่เขาก็ให้เหตุและผลดีซะจนทุกคนก็คล้อยตามไปหมด"ก็จริงนะครับ ผมคิดไม่ถึงจุดนั้นจริง..ถ้าโปรเจกต์นี้สำเร็จเราก็มีแต่ได้กับได้" เมื่อกรรมการคนที่ค้านได้ฟังเหตุผลของรันเวย์เขาก็เปลี่ยนแนวคิดทันที"ถ้าอย่างงั้นให้คุณเป็นหัวหน้าโปรเจกต์นี้ไปเลยก็แล้วกันนะ..มีอะไรก็ปรึกษาผมได้" รันเวย์ลุกขึ้นก่อนจะผายมือไปทางว่าที่ภรรยาของเขาอย่างให้เกียรติ"ตลอดเวลา" เขาพูดทิ้งท้ายและยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจในความกล้า และไอเดียที่บรรเจิดของเธอ"ขอบคุณค่ะ ดิฉันจะทำให้ดีที่สุด" ตะวันโค้งก้มหัวให้กับทุกคนในห้องประชุม และคนสุดท้ายที่เธอโค้งคำนับก็คือว่าที่สามีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กันนี่เอง"ครับ" เขาเม้มปากขานรับอย่างหลุดยิ้มออกไปในที่สุด"โอเค เลิกประชุมได้" รันเวย์หันไปบอกกับทุกคน ก