Legacy พันธะเถื่อนอสูรทมิฬ

Legacy พันธะเถื่อนอสูรทมิฬ

last updateLast Updated : 2025-11-28
By:  Hz.BloomCompleted
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
200Chapters
1.2Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

"ฉันทำแต่เรื่องผลประโยชน์เท่านั้น...เธอจะเอาอะไรมาแลกกับชีวิต?" เมื่อเด็กสาวบ้านนอกที่เพิ่งหนีเข้ากรุงอย่าง ลลิล ต้องเลือกระหว่างความตาย หรือการยอมเป็น 'สิ่งของ' ของมาเฟียผู้ไร้หัวใจอย่าง ธนาทัศ หญิงสาวเสนอ 'ร่างกาย' เพื่อเอาชีวิตรอด แต่เขาไม่ได้ต้องการแค่นั้น... เขาต้องการ 'ทายาท'

View More

Chapter 1

บทที่ 1 : จะเอาอะไรมาแลกกับชีวิตของเธอ

เสียงหอบหายใจของร่างบางดังกระแทกความเงียบของตรอก

นี่เหรอ...กรุงเทพฯ?เมืองที่ปักหมุดไว้ว่าจะเป็นที่เริ่มต้นชีวิตใหม่ กลับต้อนรับด้วยมุมที่มืดมิดและน่าสะพรึงกลัวที่สุด

"เฮ้ย! มันอยู่นั่น!"

เสียงตะโกนหยาบๆ ดังขึ้นไม่ไกล ทำให้ร่างทั้งร่างของลลิลสะดุ้งสุดตัว หัวใจดวงน้อยหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม พวกมันตามมาทันแล้ว!

สัญชาตญาณดิบสั่งให้ร่างบางตะเกียกตะกายอีกครั้ง เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายถูกใช้พุ่งตัวเลี้ยวเข้ามุมตึกถัดไป ทว่าปลายทางคือความสิ้นหวัง กำแพงอิฐสูงตระหง่านปิดทึบ

...ทางตัน…

ขาทั้งสองข้างของลลิลทรุดลงกับพื้นเปียกแฉะทันที

หมดแรงแล้ว...หนีต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ

เงาร่างใหญ่สามร่างเดินเข้ามาปิดปากตรอกที่ลลิลเพิ่งเลี้ยวเข้ามา แสงไฟนีออนสีชมพูที่กะพริบจากร้านค้าฝั่งตรงข้ามถนน สาดส่องให้เห็นรอยยิ้มแสยะน่าขยะแขยงของพวกมัน พวกอันธพาลที่น้าเข้มส่งมา

"จะรีบไปไหนอีหนู" ชายที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าก้าวเข้ามาใกล้ ย่อตัวลงมองร่างที่สั่นเทาด้วยสายตาโลมเลีย "น้าเข้มเขาคิดถึง บอกให้พากลับไปดีๆ"

ลลิลถอยกรูดจนแผ่นหลังบอบบางแนบสนิทกับกำแพงเย็นเฉียบ หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตา น้ำตาแห่งความอัปยศและความกลัว

"ไม่...ไม่กลับ"

"ไม่กลับ ก็ต้องกลับ!"

เสียงนั้นกระแทกใส่หน้า มือหยาบกร้านกระชากต้นแขนของลลิลอย่างแรงจนร่างทั้งร่างปลิวไปตามแรง เสื้อยืดราคาถูกที่ใส่วิ่งมาตลอดทางขาดวิ่น เผยผิวเนื้อขาวเนียนตัดกับความโสโครกของตรอก

"เฮ้ย สวยนี่หว่าถึงว่าน้าเข้มมึงหวง" ชายอีกคนหัวเราะในลำคอ

ความอัปยศพุ่งขึ้นมาจุกที่อก ลลิลกรีดร้องสุดเสียง แต่เสียงกรีดร้องถูกกลบอย่างง่ายดายด้วยเสียงดนตรีอึกทึกที่ดังกระหึ่มจากบาร์ฝั่งตรงข้ามถนน ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครสนใจดอกไม้ริมทางที่กำลังจะถูกขยี้

มือที่สอง...มือที่สาม...เริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายที่สั่นเทา

'ไม่' ความคิดนั้นแหลมคมยิ่งกว่าความกลัวใดๆ 'ยอมตายดีกว่า'

ในวินาทีที่ชายหัวหน้าก้มหน้าลงมาเพื่อจะสูดดมซอกคอ ลลิลรวบรวมแรงทั้งหมด อ้าปาก และฝังคมฟันลงบนมือหยาบกร้านนั้นอย่างจงเกลียดจงชัง!

"โอ๊ย! อีเหี้ยนี่!"

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือหนักๆ ฟาดลงบนใบหน้าจนชาหนึบ โลกทั้งใบหมุนคว้าง รสคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วปาก ลลิลล้มลงกองกับพื้นเปียกแฉะ ร่างกายสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง

"มึงกล้ากัดกูเหรอ! " ชายคนนั้นคำรามอย่างเดือดดาล เงื้อมือขึ้นสูงเตรียมจะตบซ้ำ แต่แล้ว…

เอี๊ยดดดดด!

เสียงเบรกดังเสียดแก้วหูจนน่าแสบรอน แสงไฟหน้าสว่างจ้าจนแสบตา สาดทะลุความมืดของตรอกเข้ามา จนพวกอันธพาลทั้งสามต้องยกแขนขึ้นบังหน้า

รถเบนท์ลีย์สีดำสนิทราวกับรัตติกาล จอดขวางปากตรอกไว้พอดิบพอดี ประตูรถติดตามที่ขับตามหลังมาเปิดออกพร้อมกัน ชายชุดดำร่างสูงใหญ่สี่คนก้าวลงมาอย่างพร้อมเพรียง รวดเร็ว และเงียบกริบ

"พวกมึงใครวะ!" ชายที่ถูกกัดตะโกนถาม เสียงสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่มาใหม่

ตุบ! 

ทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลง ภายในไม่ถึงสามสิบวินาที ความเงียบที่น่าอึดอัดกลับเข้ามาปกคลุมตรอกอีกครั้ง มีเพียงเสียงร้องครวญครางเบาๆ ของพวกอันธพาลที่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น

ร่างบางคลายความตึงเครียดลงเล็กน้อย พวกเขาอาจเป็นผู้มีอำนาจที่ผ่านมาพบ เลยยื่นมือมาช่วยให้เธอหลุดพ้นจากนรกขุมนี้ได้อย่างทันท่วงที

ประตูรถเบนท์ลีย์คันหรู ประตูหลังฝั่งคนขับก็เปิดออกอย่างเชื่องช้าและมั่นคง

รองเท้าหนังขัดมันวาวจนสะท้อนแสงไฟนีออนสีชมพู ก้าวเหยียบลงบนพื้นตรอกที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำครำ กลับไม่เปื้อนเปรอะเลยแม้แต่น้อย

ร่างสูงสง่าในชุดสูทไร้รอยยับก้าวตามออกมา แสงไฟจากหน้ารถสาดส่องจากด้านหลัง ทำให้ลลิลเห็นเพียงเงาดำมืดที่สูงตระหง่าน  'ธนาทัศ'  บุรุษผู้เป็นนายใหญ่แห่งตระกูล 'อันธการกุล'  ก้าวผ่านร่างบางไปราวกับเป็นเพียงกองขยะกองหนึ่ง แล้วไปหยุดตรงหน้าชายชุดดำที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า เดช

"เรียบร้อยดีใช่ไหม"

น้ำเสียงนั้น ทุ้ม เรียบ และเย็นชา เป็นเสียงของคนที่คุ้นเคยกับการออกคำสั่ง ไร้ความตื่นตระหนกใดๆ 

"ครับนาย การเจรจาที่บาร์ไม่มีปัญหา ของกำลังจะย้ายครับ" เดชรายงาน

"ดี"

บทสนทนาสั้นๆ นั้นจบลง และนั่นคือเวลาที่ธนาทัศหันมามองลลิลเป็นครั้งแรก ลลิลตัวแข็งทื่อภายใต้สายตานั้น 

ดวงตาคู่นั้นเย็นชาเหมือนน้ำแข็งขั้วโลก ว่างเปล่า ไร้ความปรานี สายตานั้นกวาดมองตั้งแต่ศีรษะที่เปรอะเปื้อน เสื้อผ้าที่ขาดวิ่น จนถึงเท้าเปล่าที่สั่นเทา

ธนาทัศขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ใช่เพราะความสงสาร แต่เหมือนรำคาญใจกับภาพที่ไม่น่าดูตรงหน้า

ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อย ถอดสูทตัวนอกราคาแพงออก แล้ว 'โยน' คลุมลงบนร่างของลลิล

สูทตัวนั้นหนักอึ้ง และอุ่น มีกลิ่นหอมจางๆ ของโคโลญจน์ราคาแพงและกลิ่นยาสูบจางๆ ที่ลลิลไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน นี่คือความอบอุ่นที่ได้รับในรอบหลายวันที่ผ่านมา 

ลลิลกำลังจะเงยหน้าขึ้นเพื่อขอบคุณ แต่ชายหนุ่มก็หันหลังกลับไปสนใจธุระของตนเอง ร่างสูงพูดกับเดชด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

"จัดการให้เรียบร้อยซะ"

คำสั่งฆ่านั้นเบาบางแต่หนักแน่นราวกับค้อนที่ทุบลงมาบนโลกทั้งใบของลลิล

"ครับนาย" เดช ชายมือขวาคนนั้น ขานรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดียวกับเจ้านาย

ลลิลรู้สึกถึงความตายที่คืบคลานเข้ามา ร่างทั้งร่างชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สูทราคาแพงที่เคยให้ความอบอุ่นเมื่อครู่ หล่นฮวบลงจากไหล่ กองลงบนพื้น เผยให้เห็นร่างที่บอบช้ำและเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นอีกครั้ง

ไม่นะ...หนีจากน้าเข้ม...รอดจากพวกอันธพาล...ไม่ใช่เพื่อมาตายอย่างหมาข้างถนนในตรอกมืดๆ นี้

ลลิลใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าหาร่างสูงของคนที่ดูเป็นหัวหน้า

ซบใบหน้าที่เปื้อนเลือดและน้ำตาลงบนรองเท้าหนังขัดมันราคาแพง กอดขากางเกงสแลคเนื้อดีไว้แน่นราวกับคนจมน้ำที่คว้าขอนไม้ท่อนสุดท้าย

ทุกอย่าง 'ชะงัก' เดชหยุดก้าว ธนาทัศนิ่งแม้แต่เสียงลมหายใจของลลิลก็ยังหยุดไปชั่วขณะ

นี่เป็นสิ่งเดียวในคืนนี้ ที่ทำให้ชายผู้เย็นชาคนนี้ประหลาดใจได้

ธนาทัศก้มลงมอง 'สิ่งมีชีวิต' ที่กำลังเกาะขาอยู่ สั่นเทา แต่ไม่ยอมปล่อย

"ได้โปรด..." เสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือจนแทบไม่เป็นภาษา "ได้โปรด...อย่าฆ่าฉัน ฮึก..."

"ฉันจะไม่พูดอะไร ฉันสาบาน...ฉันทำได้ทุกอย่าง"

"ฉัน...ฉันไม่มีใคร จะไม่มีใครตามหา...ได้โปรด"

ร่างบางอ้อนวอนซ้ำไปซ้ำมา สติแตก แต่สัญชาตญาณยังคงสั่งให้เกาะขาชายผู้นั้นไว้แน่น

ร่างสูงมองหญิงสาวอยู่นานหลายวินาที ใบหน้าที่บอบช้ำกลับเผยความงดงามล้ำค่าที่ไม่อาจซ่อนได้ แสงไฟสลัวกระทบดวงตาคู่สวยที่สิ้นหวังราวกับเพชรในโคลนตม

แม้จะเป็นเพียงนางนกในกรงที่ไร้เจ้าของ แต่ความงามและรูปลักษณ์นี้ มีมูลค่าพอที่จะใช้เป็น 'ตัวประกันชั้นดี' …

"ฉันทำแต่เรื่องผลประโยชน์เท่านั้น"

ลลิลชะงักเงยหน้าขึ้นมองร่างสูง ดวงตาที่บวมช้ำเบิกกว้าง

ดวงตาคมกริบก้มมองดวงตาสวยที่สิ้นหวังคู่นั้น

"แล้วจะเอาอะไรมาแลกกับชีวิตของเธอ"

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters
No Comments
200 Chapters
บทที่ 2-3 : พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าเธอยังมีคุณค่า
แลก? สิ่งเดียวที่อาจจะมีค่าพอที่จะ 'แลก' กับชีวิตของตัวเอง ก็มีแค่ร่างกาย...ร่างบางกอดขาของธนาทัศไว้แน่น อยากจะอ้าปากตอบแต่กลับไร้ซึ่งเสียงออกมาความเงียบในตรอกหนักอึ้ง มีเพียงเสียงครวญครางแผ่วเบาของพวกอันธพาล และเสียงลมหายใจที่ขาดห้วงของลลิลธนาทัศก้มลงมอง มือเล็กๆ ที่เปื้อนเลือดและน้ำครำ เกาะกุมกางเกงสแลคราคาแพงจนเป็นรอยยับ ถึงแม้โคลนจะเปื้อนเต็มใบหน้า แต่ก็ยังปิดบังความสวยของหญิงสาวไม่ได้ร่างสูงไม่พูดอะไรเพียงพยักหน้าสั้นๆ ให้กับลูกน้อง เดชที่ได้รับคำสั่งก้าวเข้ามามือหยาบกร้านคว้าเข้าที่ต้นแขนของลลิล"โอ๊ย!" "ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็เงียบซะ" เสียงเย็นชาของเดชกระซิบขู่ ลลิลจึงได้แต่กัดริมฝีปากแน่น กลั้นเสียงสะอื้นที่เหลือประตูหลังเปิดออก ร่างบางถูก 'โยน' เข้าไปที่เบาะหลังเหมือนกระสอบข้าวสาร ศีรษะฟาดเข้ากับขอบประตูอย่างจัง เสียงดัง 'อั่ก' ดวงตาทั้งสองพร่าเลือน เห็นดาวระยิบระยับอยู่ชั่วขณะยังไม่ทันได้รวบรวมสติ แสงไฟจากตรอกก็ถูกบดบังด้วยเงาร่างสูง ธนาทัศไม่ได้กลับไปที่รถเบนท์ลีย์คันหรู แต่กลับก้าวตามขึ้นมา นั่งลงบนเบาะหลัง...ข้างๆ ลลิลพื้นที่แคบๆ ในรถ เต็มไปด้วยกลิ่นโคโลญจน์ราคาแ
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
บทที่ 4 : ตีตรานางบำเรอ
“เธอรู้รื่องที่ไม่ควรจะรู้” เสียงของเขากดต่ำลง แฝงไว้ด้วยความอันตราย “ทางเลือกเดียวคือ เธอต้องพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าเธอยังมี คุณค่าพอที่จะอยู่ต่อ ทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอมีประโยชน์กว่าพวกคนรับใช้ที่ไร้ค่าพวกนั้น หรือไม่ก็...”เขาจงใจเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง สายตาของเขากวาดมองใบหน้าซีดขาวของ ลลิลมองดูริมฝีปากของเธอที่สั่นเทาเล็กน้อยด้วยความกลัว ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เหลือออกมาอย่างช้าๆ: “...หรือไม่ ฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บคนไร้ประโยชน์ ที่รู้ความลับมากเกินไปไว้กับตัวอีกต่อไป”คำสุดท้ายนั้นเหมือนกับเหล็กแหลมที่แทงทะลุหัวใจของลลิล ร่างกายของเธออ่อนยวบลงเกือบจะล้มลงพื้น โชคดีที่เธอคว้าพนักแขนโซฟาไว้ได้ทันจึงทรงตัวอยู่ได้ เธอจ้องมองดวงตาที่ไร้อุณหภูมิของธนาทัศ ในที่สุดก็เข้าใจว่า นับตั้งแต่ถูกเขาพาตัวมา เธอก็ไม่มีทางถอยหลังอีกต่อไปแล้วร่างบางกลั้นหายใจ หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์คุณค่าของตนเอง ลลิลค่อยๆทรุดตัวลงคุกเข่าที่พื้นเบื้องหน้า นิ้วมือที่เย็นเฉียบและสั่นเทา ค่อยๆ เลื่อนขึ้นไป ช้าๆ จนมาหยุดที่หัวเข็มขัดโลหะมันวาวของร่างสูงทันทีที่นิ้วแตะหมับ!
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
บทที่ 5 : หมากในเกมธุรกิจ
ห้าวัน...ห้าวันที่ผ่านไปเหมือนห้าศตวรรษ เวลาในกรงทองแห่งนี้เดินเชื่องช้าจนน่าประหลาดกิจวัตรของลลิลมีเพียงการตื่นขึ้นมาบนเตียงที่นุ่มเกินไป อาหารยังคงถูกส่งเข้ามาเวลาเดิม แต่ 'เจ้าของร่างสูง' ไม่เคยกลับมาเลย นับตั้งแต่วันนั้น วันที่เรียกว่า 'ตรวจสอบสินค้า'อาหารรสเลิศ แต่ลลิลกลืนไม่ลง ร่างบาง..มองตัวเองในกระจกอีกครั้ง แก้มตอบลง ผิวซีดเผือด รอยฟกช้ำจางหาย แต่แววตาว่างเปล่า ร่างกายนี้ซูบผอม อ่อนแอ ทั้งร่างกาย และจิตใจ'นางบำเรอ' คำที่ชายผู้นั้นพูดทิ้งไว้ มันหมายความว่าอะไร ถ้า 'เจ้าของ' ไม่เคยมาหา... คลิกเสียงประตูหน้าถูกปลดล็อก ร่างบางสะดุ้งสุดตัว หัวใจหยุดเต้น ชายหนุ่มกลับมาแล้วร่างบางวิ่งสัญชาตญาณสั่งให้ซ่อนตัว ลลิลพุ่งไปแอบหลังบานประตูไม้หนา ที่เปิดค้างเชื่อมไปยังห้องนอน ตัวสั่นเทา กลั้นหายใจเสียงฝีเท้าดังเข้ามา ไม่ใช่คนเดียว"นายครับ" เสียงของเดช มือขวาคนนั้นลลิลแอบมองผ่านช่องว่างของบานพับ ร่างสูงสง่าก้าวเข้ามาในเพนต์เฮาส์ ตามด้วยเดชที่เดินตามหลังมาอย่างนอบน้อมร่างสูงเดินไปที่มินิบาร์ เหมือนไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของลลิล หรืออาจไม่สนใจเลย เสียงน้ำแข็งกระทบแก้วดังใส ตามด้วยเสียง
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
บทที่ 6 : การยอมจำนนเพื่อความอยู่รอด
"เดี๋ยวนี้"เสียงที่เปล่งออกไปเด็ดขาด แต่ร่างบางที่ยืนอยู่หน้าอินเตอร์คอมกลับสั่นเทา ความเงียบที่ตอบกลับมาบีบคั้นหัวใจ นานราวกับชั่วนิรันดร์ ลลิลกำลังจะกดซ้ำ"คุณทัศไม่ว่าง" เสียงของเดชตอบกลับมา เย็นชา และไร้ความรู้สึก"ได้โปรด!" ลลิลตะโกนกลับไป ความอัปยศหายไป เหลือเพียงความกลัวตาย "ฉันมีเรื่อง...เรื่อง 'ข้อเสนอ' ใหม่""เรื่องที่จะเป็น 'ประโยชน์' กับเขามากกว่า!" ร่างบางใช้คำที่รู้ว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญผลประโยชน์มากแค่ไหนความเงียบเข้ามาอีกครั้ง ไม่นานนักก็มีเสียงคลิกเสียงปลดล็อกประตูดังขึ้น เดชยืนอยู่ที่หน้าประตู สายตารำคาญใจ "คุณทัศกำลังจะไปงานเลี้ยง เธอมีเวลาหนึ่งนาทีเท่านั้น"หนึ่งนาที! ร่างบางที่ได้ยินเช่นนี้ รีบวิ่งสวนร่างของเดชเข้าไป มุ่งหน้าไปยังห้องที่ใหญ่ที่สุด ห้องที่ร่างบาง 'เดา' ว่าเป็นห้องทำงานของเจ้าของเพนต์เฮาส์ โดยไม่สนใจสายตาของเดช ไม่สนใจชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่อยู่ ไม่สนใจเท้าเปล่าเดชไม่ห้าม เพียงแค่เดินตามมาอย่างเงียบๆ เหมือนคุมนักโทษ ที่กำลังวิ่งไปสู่ลานประหาร ด้วยตัวเองปัง!ลลิลผลักประตูเข้าไป กลิ่นโคโลญจน์ กลิ่นซิการ์จางๆ และกลิ่นของ 'อำนาจ' ปะทะใบหน้าทันที ภาพท
last updateLast Updated : 2025-11-10
Read more
บทที่ 7 : ราคาของการซื้อขาด NC
"ถอดเสื้อผ้าออกซะ"หญิงสาวช้อนตามองอย่างไม่เข้าใจ ในใจได้แต่คิดว่าสิ่งที่ทำเมื่อสักครู่นี้มันยังไม่พออีกเหรอ แต่สุดท้ายเมื่อเห็นสายตาเอาจริงเอาจังนั้น ร่างบางก็ไม่อาจปฏิเสธได้ใช้เวลาเพียงไม่นานร่างทั้งร่างของหญิงสาวก็เปลือยเปล่าต่อหน้าของร่างสูง มือเล็กๆ ทั้งสองข้างนั้นพยายามยกขึ้นมาปิดจุดสงวนของตัวเองด้วยความเขินอายสายตาของชายหนุ่มจ้องมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างต้องการประเมินอะไรบางอย่างก่อนที่จะลุกขึ้นเต็มความสูง จับตัวของหญิงสาวพลิกตัวให้หน้าแนบไปกับกำแพงเย็น สองแขนถูกไพล่เอาไว้ทางด้านหลังและมีทัศประกบอยู่นิ้วเรียวของชายหนุ่มไล้ไปตามผิวเนียนนั้นอย่างเชยชมตั้งแต่ท้ายทอยไล้มาหลังและหยุดอยู่ที่ร่องสวาทของร่างบางธนาทัศค่อยๆ ดุนดันนิ้วของตัวเองเข้าไปในนั้นอย่างช้าๆ ชักนิ้วเข้าออกเพื่อขยายรูนั้นเพื่อรอรับสิ่งที่ใหญ่กว่าหลายเท่าตัว นิ้วที่ถูกสอดใส่เข้าไปนั้นค่อยๆ ถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองนิ้ว และจบด้วยสามนิ้วลลิลบิดเร้าสะโพกไปมาด้วยความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายมอบให้ ยามที่ปลายนิ้วนั้นกดลงที่จุดกระสันภายใน มันทำให้เสียงครางหวานที่พยายามกดเก็บเอาไว้หลุดลอดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ใช้เวลาอยู่นานกว่า
last updateLast Updated : 2025-11-10
Read more
บทที่ 8 : เกมที่เดิมพันด้วยชีวิต
แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านม่านหนา ลลิลลืมตาขึ้นบนพื้นกระเบื้องที่เย็นเฉียบ ร่างกายยังคงเปลือยเปล่าใต้ชุดคลุมอาบน้ำที่ชื้นแฉะ ร่างกายปวดร้าว โดยเฉพาะความระบมช้ำ ณ จุดเร้นลับที่ถูกย่ำยีเมื่อคืน ทำให้ทุกการขยับตัวคือความทรมานคลิกเสียงปลดล็อกดิจิทัลดังขึ้น ผู้หญิงในชุดยูนิฟอร์มสองคนก้าวเข้ามา ลลิลฝืนพยุงร่างลุกขึ้น ปล่อยให้สายตาเย็นชาเหล่านั้นสำรวจ ปล่อยให้พวกนั้นจับร่างอาบน้ำอุ่นอีกครั้งโลชั่นและน้ำมันหอมราคาแพงถูกชโลมลงบนผิว เหล่าผู้รับใช้นวดวนโลชั่นอย่างเป็นกลาง ไร้อารมณ์ มือเย็นชาเหล่านั้นไม่สนใจ แม้จะต้องสัมผัสโดนรอยแดงเป็นจ้ำๆ บริเวณซอกคอและหัวไหล่ ร่องรอยความเป็นเจ้าของที่ธนาทัศขบเม้มทิ้งไว้เมื่อคืน ทุกสัมผัสที่ควรจะนุ่มนวล กลับยิ่งเสียดแทงความระบมช้ำจนร่างบางต้องกัดริมฝีปากแน่นชุดราตรีสีแดงสดชุดเดิมถูกสวมลงบนร่างที่นิ่งงัน ตามด้วย 'ป้ายราคา' สร้อยคอเพชรเส้นนั้น ความเย็นเฉียบของอัญมณีแนบลงบนผิว มันคือเครื่องยืนยันสถานะเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ร่างบางถูกพาไปยังลิฟต์ ลงไปยังลานจอดรถใต้ดิน รถลีมูซีนสีดำสนิทจอดรออยู่ ประตูเปิดออก ธนาทัศนั่งอยู่ข้างในแล้ว บุรุษผู้นั้นอยู่ในชุดทักซิโดสีดำสน
last updateLast Updated : 2025-11-10
Read more
บทที่ 9 : จูบเย้ยหยัน
แทนที่จะเดินหนี ธนาทัศกลับจูงลลิล ลากผ่านฝูงชนที่แหวกทางให้ เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบทิศทางทุกย่างก้าวหัวใจของลลิลหล่นวูบ'โกหก!' ความคิดนั้นเหมือนฟ้าผ่า 'เขากำลังจะส่งมอบฉันเดี๋ยวนี้!'ร่างบางพยายามดึงแขนกลับ ต้านทานแต่ไร้ผล มือใหญ่ของธนาทัศ บีบลงบนแขนเล็ก แน่นเหมือนคีมเหล็ก เป็นการเตือน 'อยู่นิ่งๆ' คำขู่เมื่อคืนดังก้องในหัวในที่สุด ทั้งคู่มาหยุดตรงหน้าชายแก่ร่างท้วมคนนั้น"อา...สวัสดี คุณทัศ" ชายแก่หัวเราะ เสียงดังกลบเสียงดนตรี สายตาตะกละตะกรามยังคงไม่ละไปจากลลิล"และนี่คงเป็น..." ชายแก่หันมามองลลิล ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า "ดอกไม้ที่งดงามที่สุดในคืนนี้"ชายแก่พยายามจะคุยกับลลิลโดยตรง "ไม่ทราบว่าดอกไม้นี้ ชื่ออะไร"ลลิลก้มหน้าเม้มปากแน่น ร่างบางสั่นสะท้านด้วยความกลัวจนควบคุมไม่ได้ ธนาทัศยิ้มเบาๆ ตอบราวกับลลิลไม่มีตัวตน "เด็กคนนี้ไม่มีชื่อหรอกครับ เจ้าสัว""แต่มี 'ราคา'"คำว่า 'เจ้าสัว' ทำให้ร่างบางยิ่งสั่นสะท้าน นี่คือชายแก่ที่ร่างสูงพูดถึงในห้องทำงาน คนที่ร่างบางเกือบถูก 'ขาย' ให้"ยอดเยี่ยม! พูดจาแบบนักธุรกิจ!" เจ้าสัวหัวเราะดังกว่าเดิม ชายแก่ก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว กลิ่นบรั่นดีฉ
last updateLast Updated : 2025-11-10
Read more
บทที่ 10 : ปีกที่ถูกเด็ด
ลลิลยืนนิ่งเป็นตุ๊กตาประดับห้อง แก้วแชมเปญในมือสั่นระริกจนของเหลวสีอำพันเกือบจะกระฉอกออกมา มืออีกข้างกำแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ ความเจ็บปวดทางกายเทียบไม่ได้เลยกับความอัปยศที่แผดเผาอยู่กลางอกคำพูดของธนาทัศยังคงดังก้อง 'เห็นไหม เธอมี 'ประโยชน์' แล้ว'ประโยชน์...คำนี้ช่างน่ารังเกียจ ประโยชน์ของร่างบางคือการถูกใช้เป็นเครื่องมือตบหน้าคนอื่น คือการถูกตีตราต่อหน้าสาธารณะด้วยจูบที่ไร้ความรู้สึก จูบที่อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอย่างป่าเถื่อนลลิลเหลือบมองร่างสูงที่ยืนห่างออกไปไม่กี่ก้าว ชายหนุ่มกลับเข้าสู่บทบาทนักธุรกิจผู้ทรงอำนาจได้อย่างไร้รอยต่อ พูดคุย หัวเราะเบาๆ กับกลุ่มนักการเมือง โดยไม่หันมามอง 'ถ้วยรางวัล' ที่เพิ่งใช้งานไปแม้แต่น้อยร่างสูงคงคิดว่าลลิลสิ้นฤทธิ์แล้ว คงคิดว่าการ 'ซื้อขาด' ในคืนนั้น และการ 'ลงทัณฑ์' ด้วยจูบเมื่อครู่ ได้ทำลายศักดิ์ศรีของร่างบางจนหมดสิ้นแล้วใช่...ศักดิ์ศรีของลลิลถูกขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี แต่มันไม่ได้ดับไฟในใจของหญิงสาว มันกลับจุดไฟแห่งความเกลียดชังและความปรารถนาที่จะหนีให้ลุกโชนขึ้นมาแทน'ฉันต้องหนี'ความคิดนั้นชัดเจนยิ่งกว่าครั้งไหนร่างบางกวาดสายตามองไปรอบห้อ
last updateLast Updated : 2025-11-13
Read more
บทที่ 11 : กลับสู่กรง
รั้วเหล็กตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ห่างออกไปเพียงไม่กี่สิบก้าว ลมหายใจของลลิลขาดห้วง ร่างกายที่บอบช้ำจากเมื่อคืนก่อนถูกผลักดันด้วยสัญชาตญาณเฮือกสุดท้าย เท้าเปล่าที่เหยียบย่ำบนหญ้าเปียกชื้นไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกต่อไปความหวัง...มันคือสิ่งเดียวที่ขับเคลื่อนร่างบางในตอนนี้อีกแค่สิบก้าว...อีกห้าก้าว... มือเล็กยื่นออกไปข้างหน้า ปลายนิ้วสั่นเทาเกือบจะสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบของโลหะธาตุแห่งอิสรภาพแต่แล้วร่างบางที่พุ่งทะยานก็หยุดชะงักกะทันหันราวกับชนเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็นไม่ใช่กำแพง แต่เป็นเงาร่างหนึ่งที่ก้าวออกมาจากเงามืดของต้นไม้ใหญ่ เงามืดที่ลลิลกำลังจะใช้เป็นที่หลบซ่อนนั่นเองร่างหนาไม่ได้วิ่งไล่ตาม ไม่ได้รีบร้อน ชายคนนั้นเพียงแค่ก้าวออกมา 'ยืนขวาง' อย่างใจเย็น ราวกับยืนรออยู่ตรงนั้นนานแล้วร่างที่กำลังพุ่งทะยานชะงักกึก ร่างกายเสียหลักเกือบล้มลงบนพื้นหญ้าที่ลื่นชื้น หัวใจที่เคยเต้นรัวด้วยความหวัง หล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม และหยุดเต้นไปชั่วขณะแสงจันทร์สลัวสาดส่องลงมาเผยให้เห็นใบหน้าที่เรียบเฉย ไร้ความรู้สึกแต่ลลิลจดจำได้แม่นยำ'เดช'มือขวาคนสนิทของธนาทัศความหวังทั้งหมดที่เคยลุกโชน
last updateLast Updated : 2025-11-13
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status