บทที่ 7
“เอี๊ยด!!!”
เขาเหยียบเบรครถแทบไม่ทัน!! เธอวิ่งมาตัดหน้ารถ และยืนร้องไห้อยู่หน้ารถ! เขาเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งโมโหหนัก! เหยียบคันเร่งให้ล้อรถบดกับพื้น!!
“อยากตายเหรอ! อยากตายไปตายที่อื่น!! แต่ตายก็ดี น้องเธอมันจะได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้!” เธอสะอื้นตัวโยนก่อนจะวิ่งมาคุกเข่าข้างรถ มือเล็กเกาะกระจกไว้
“มะ...หมอ...ปะ...ปุยนุ่น...ขะ...ขอโทษ ปุยนุ่นจะไม่ดื้อแล้ว ฮืออออ” เขาไม่ตอบอะไร ได้แต่เคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยรถ
“นุ่นยอมแล้ว ฮึก...ยอมทุกอย่าง ฮึกก ปุยนุ่นขอโทษค่ะ ขอโทษ...ฮือออ” เธอเบะปากร้องไห้ยกมือไหว้เขา
“หมออย่าโกรธนุ่นเลย นุ่นจะไม่ดื้ออีกแล้วคะ...ค่ะ ไม่กล้าแล้ว” เขาหันไปมองหน้าเธอ ที่ร้องไห้จนตาปิด
“ขึ้นรถ” เธอรีบลุกขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนจะวิ่งอ้อมไปเปิดประตูขึ้นรถ เขาถอยรถเข้าซองก่อนจะดับไฟรถลง...
“เงียบสักที! ฉันรำคาญเสียงร้องไห้ของเธอ!” เธอเม้มปากกลั้นสะอื้น
“เธอรู้ไหมว่าคนเรามีชีวิตอยู่ด้วยอะไร? ด้วยเงินยังไงล่ะ! และตอนนี้เธอไม่มีเงิน!! เพราะฉะนั้นอย่ามาอวดดีกับฉัน!”
“ฮึกกก”
“อย่าขัดคำสั่ง! ฉันสั่งให้เธอทำอะไรก็ทำ! ถ้าเธออยากให้น้องเธอมีชีวิตที่สุขสบาย อยากเรียนได้เรียน อยากกินอะไรได้กิน อย่าทำให้ฉันไม่พอใจ ตราบใดที่ยังต้องพึ่งพาฉันอยู่!”
“ถ้าเธอดื้ออีก...มันจะไม่มีครั้งที่สอง ฉันจะทำให้เธอทุกข์ทรมานยิ่งกว่านี้ จำไว้”
“ปุยนุ่นไม่กล้าดื้อแล้วค่ะ ฮึกกก”
“ลงจากรถไปได้แล้ว!” เธอสะดุ้งก่อนจะเปิดประตูรถ แค่เธอลงไปยืนที่พื้นปิดประตูรถ เขาก็เหยียบคันเร่งขับรถออกมาทันที ดวงตาคมมองกระจกหลัง ยังคงเห็นเธอยืนร้องไห้อยู่ที่เดิม...
#ร้านไอ้ฟิว
“อารมณ์ดีอะไรว่ะ!” ไอ้พัดเอ่ยถามเขา
“เปล่า” เขายิ้ม เขาสนุกกับการที่ได้เห็นเธอเจ็บปวดไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน
“หัวเราะแบบนี้ทำเรื่องชั่ว ๆ มาแน่นอน” เขายักไหล่
“เวรกรรมมันมีจริงนะเว้ยย ทำเหี้ยไรไว้ ใครไม่เห็นผีสางเทวดาเห็น” เขาหัวเราะ ไอ้ทิตั้งแต่มีเมียมันเหมือนพระขึ้นทุกวัน
เธอเดินกลับมาที่ห้องพักห้องเดิม พยาบาลหลายคนกำลังช่วยกันจัดเตรียมห้องและย้ายนายกลับมาอยู่ห้องเดิม
ห้องพักเตียงเดี่ยว ห้องหอมสะอาด แอร์เย็นเฉียบ มีเครื่องฟอกอากาศ ทีวี ตู้เย็น โซฟาอุปกรณ์ครบครันมีพยาบาลคอยเดินตรวจทุกครึ่งชั่วโมง
พยาบาลเข็นนายที่หลับอยู่ เปลี่ยนมานอนเตียงในห้องใหม่ พยาบาลบอกให้เธอพักผ่อน เพราะพวกพยาบาล เธอจะคอยเข้ามาดูแลนายเอง ให้เธอนอนพักได้เลย
เพียงได้ยินเช่นนั้น เธอก็กระบอกตาร้อนผ่าว เธอไม่รู้ว่าวันหนึ่ง เธอจะสามารถร้องไห้ได้วันล่ะกี่รอบ และร้องได้นานเท่าไหร่ แต่วันนี้เธอร้องไห้หนักจริง ๆ
เธอเดินเข้าไปข้างเตียง นายนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง มือเรียวยกขึ้นลูบหัวน้อง ก้มลงไปหอมแก้มอุ่น ๆ ของน้อง กลิ่นตัวเด็กหอม ๆ นายยังเด็กมาก และยังคงไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เธอไม่อยากให้น้องต้องลำบากมากกว่านี้ เธอรู้แล้ว เธอไม่ควรขัดใจเขา เพราะเธอต้องพึ่งพาเขา เธอไม่มีทางอยู่ได้ด้วยตัวเองในตอนนี้ เธอไม่ควรอวดดี
“พี่นู้นน...พี่นู้น” เธอลืมตาตื่นหลังจากหลับไปตอนไหนไม่รู้...
“ตื่นแล้วเหรอ ปวดแผลเหรอครับ” เธอเอ่ยถาม เพราะนายพยายามแกะเฝือกออก
“นายอยากแคะแล้ว”
“ไม่ได้ครับ...และไม่ใช่แคะ แต่ต้องเรียกว่าแกะครับ”
“แคะครับ คิก ๆ”
นายย้อนฉันเข้าให้ ก่อนจะปิดปากหัวเราะชอบใจ ฉันมองน้องที่ผ่อนคลายกว่าเดิมมาก อาการดีขึ้น เล่นซน และทานอาหารมากขึ้น
มีขนม ผลไม้ นม เข้ามาให้ทุกครึ่งชั่วโมงพร้อมพยาบาลที่ผลัดมาตรวจ ทุกคนดูแลนายดีมาก เอ็นดูนายมาก
#ในห้องพัก
“คุณหมอมาแล้ว ไหนวันนี้ใครแกะเฝือกค้าบ” เธอหันไปมองพยาบาลที่เดินเข้ามาในห้อง ประตูเปิดค้างไว้ เธอมองค้าง ก่อนเขาจะเดินเข้ามา
“ม่ายมีค้าบ...ไม่มีใครแคะค้าบ” นายตอบอย่างฉอเลาะ
วันนี้เขาใส่เสื้อสีฟ้าอ่อนกางเกงสีน้ำเงินเข้ม สวมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตา สวมใส่แว่นตา ผมไม่ได้เซต
“พี่หมอค้าบบบ นายชอบห้องนี้” นายเอ่ยบอกเขาทันทีที่เจอหน้า
“นั่งลงดี ๆ เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอก” เขาเอ่ยบอกนายที่ลุกขึ้นยืนบนเตียงทั้งที่ใส่เฝือก เขาก้มลงไปตรวจดูแผลที่ผ่าตัด
“เดี๋ยวเปลี่ยนเฝือกใหม่ อันนี้สกปรกและหมอเด็กมารึยัง?”
“มาช่วงบ่ายค่ะ” เขาพยักหน้าตอบพยาบาล
“กดแบบนี้เจ็บไหม…” เขากดลงบริเวณแถว ๆ ที่ผ่าตัด
“แผลบวม ๆ นะ เดี๋ยวเพิ่มยาลดบวมเอาตัวดีหน่อย” เขาหันไปบอกพยาบาล
“อย่ากระโดดมาก เดี๋ยวแผลอักเสบหายช้า แล้วทำไมตาแฉะ ๆ” เขาถามขึ้น ก่อนจะจับหน้านายเข้าไปใกล้ และเอาไฟฉายส่องที่ตา นายหัวเราะ
“ตัวหมอหอมเหมือนพ่อเลยค๊าบบบ”