Share

6 นักศึกษา (วิศวะ) ใหม่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-21 05:33:24

6

นักศึกษา (วิศวะ) ใหม่

"โอ๊ย!! ไอ้พิมพ์หัวกู" ออโต้กุมหัวตัวเองก่อนจะเอื้อมมือมาดึงผมฉันคืนแต่ไม่ได้ดึงแรงมาก เหมือนแค่แกล้งกันเล่น

"โขกแรง ๆ เนี่ยแหละ มึงจะได้ตื่น!" ฉันกระชากผมมันแล้วดึงซ้ำ ๆ

"เฮ ๆ ๆ พวกคุณปีสามกันแล้วนะ!!" อาจารย์วิลเลี่ยมตวาดขึ้นลั่น ทำให้เราสองคนจำต้องหยุดการอาฆาตแค้นต่อกันเพียงเท่านี้

"เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ " ท่านตำหนิก่อนจะหันไปคุยกับนักเรียนใหม่ รวมถึงหัวหน้าจากฝ่ายทะเบียนอีกคน

ในตอนแรกอาจารย์ก็คุยกับนักเรียนใหม่เป็นภาษาอังกฤษ แต่พอมีฝ่ายทะเบียนเข้ามาด้วย ท่านก็เลยสนทนาเป็นภาษาไทยแทน ซึ่งอีกฝ่ายก็พูดไทยได้เช่นกัน

"เอาจริงวิชาของปีหนึ่งปีสอง เทียบโอนได้หมด แต่วิชาของคณะวิศวะบางตัว ก็ยังมีต้องเก็บอีก" อาจารย์วิลเลี่ยมพูดพร้อมกับเปิดเอกสารการเรียนของนักศึกษาคนนั้นไปพลาง ๆ ซึ่งร่างสูงก็หันหลังให้กับพวกเรา แต่หันหน้าคุยกับอาจารย์ด้วยที่เคร่งเครียด

"แต่ที่น่าทึ้งคือ..เรียนบริหารมา แต่ดันทำข้อสอบของคณะวิศวะภาคเหมืองแร่และปิโตรเลียมได้เกือบเต็ม"

"เพราะขนาดเด็กในคณะวิศวะ ยังสอบผ่านมาได้แค่ ห้าคนเอง" อาจารย์วิลเลี่ยมเม้มปากอย่างช่างใจ เพราะปกติแล้วการย้ายคณะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนทำกัน และต้องผ่านการพิจารณาจากอาจารย์หลายฝ่ายด้วยกัน

"ถ้าย้ายมาวิศวะ นักศึกษาจะจบช้าไปหนึ่งนะ. ถ้าจะเก็บเครดิตได้ครบยังไงก็ต้องลงซัมเมอร์ ไหวไหมล่ะ?" อาจารย์วิลเลี่ยมยืนคำนวณเครดิตให้กับเขาพร้อมกับเขียนแผนการเรียนให้คร่าว ๆ

"เรื่องจบช้า..ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ เพราะผมไม่ได้รีบ" ร่างสูงตอบกลับไปเสียงเรียบ ฉันที่กำลังตั้งตั้งหน้าเซนชื่อตัวเองอยู่ก็ถึงกับชะงักไปเลยเหมือนกันเพราะเสียงของหมอนี่มันคุ้นมาก ๆ แถมสำเนียงการพูดภาษาไทยที่ไม่ค่อยชัดยังทำให้รู้สึกคุ้นเข้าไปอีก

"โอเค..เท่าที่ดูจากเกรดแล้วเรานี่หัวกะทิ ของฝั่ง BBA เลยนะ ย้ายมาวิศวะก็ดีเหมือนกัน" อาจารย์วิลเลี่ยมดูจะชอบตาเด็กใหม่นี่พอควรเลย อีกอย่างห้องเรียนภาควิชา วิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม มันก็เงียบจริง ๆ ไม่แปลกที่อาจารย์จะดีใจที่มีคนเข้ามาสนใจเรียนเพิ่ม

"ว่าแต่ทำไมถึงย้ายมาวิศวะละ?" อาจารย์เอ่ยถามอย่างละเอียดเพื่อความแน่ใจ เพราะการจะย้ายคณะแต่ละครั้งมันสำคัญมากจริง ๆ ท่านคงไม่อยากให้เด็กใหม่ตัดสินใจพลาด

"ผมรู้สึกว่าวิชาเกี่ยวกับบริหารมันไม่ค่อยท้าทายนะครับ เพราะผมเองอยู่กับเรื่องการบริหารธุรกิจมาตั้งแต่เด็ก ๆ "

"เลยอยากจะเรียนอะไรที่ยากกว่านั้น และอะไรที่มันสามารถไปต่อยอดกับธุรกิจของที่บ้านได้"

"ภาควิชานี้ตอบโจกย์ดี" ร่างสูงตอบกลับพร้อมกับหันมามองทางทุกคนที่นั่งอยู่ แต่ฉันก็ไม่ได้โฟกัสเขาสักเท่าไหร่ เพราะมือยังคงก้มหน้าเล่นมือถือไถ่จอหางานพิเศษแถว ๆ มหาลัยทำไปพลาง ๆ

"เรื่องเรียนน่ะ ครูคิดว่าไม่น่าหวงเท่าไหร่"

"แต่ที่หวงน่าจะเป็นระบอบรุ่นพี่รุ่นน้องในสังคมของวิศวะมากกว่า เพราะถ้าเราไม่ผ่านการรับน้อง เราก็จะไม่ได้เกียร์รุ่น"

"ที่นี่..เราอยู่กันแบบครอบครัว และการรับรุ่นคือการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว"

"ผมยินดีเข้ารับน้องใหม่พร้อมกับเด็กปีหนึ่ง เพื่อให้ได้เกียร์รุ่นครับ"

"งั้นก็ดี...ไหน ๆ จะย้ายคณะแล้ว ก็จงเป็นวิศวะอย่างเต็มตัว" อาจารย์วิลเลี่ยมยิ้มให้นักศึกษาใหม่ ก่อนจะจรดปากกาเซนชื่อตัวเองลงไปในใบลงทะเบียนเรียนของเขา

ในระหว่างที่เด็กใหม่พูดคุยกับอาจารย์วิลเลี่ยมอยู่นั้น พวกเราทั้งห้าก็นั่งคุยเล่นกันไปพลาง ๆ

"ฝรั่งเหรอวะ?" ไอ้โยเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก

"สูงอย่างกับเปรต" เสียงของไอ้เลโอจอมปากหมาก็เริ่มบลูลี่นักเรียนใหม่แบบขำขันกัน

"เขาพูดไทยได้ พวกมึงเบาได้เบา" ไอ้อาร์เดลหันไปเตือนพวกเพื่อน เพราะมันเองก็ลูกครึ่งเช่นกัน

"มึงรู้จักเหรอไอ้เดล?" ไอ้โยกระซิบถามและคุยกันข้ามหัวฉันกันไปกันมาตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน

"รู้จักดิ..เห็นแค่ด้านหลังกูก็จำมันได้เลย ก็ไอ้พี่เนี่ยแหละที่ทำให้สาวนิเทศคนนั้นทิ้งกูไป" อาร์เดลก็รีบเล่าต่อในทันที

"แสดงว่าเขาหล่อกว่ามึงอะดิ" ฉันแกล้งพูดแหย่มันไปเล่น ๆ แต่มือก็ยังคงก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไปเพื่อกดหางานพิเศษทำไปพลาง ๆ อย่างไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไหร่ เพราะการมาของเด็กใหม่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันสักหน่อย

"ปากมึงนี่นะ ไอ้พิมพ์" อาร์เดลเลิกคิ้วมองทางฉันอย่างเอาเรื่อง

"หล่อกว่ารึเปล่าไม่รู้ แต่น่าจะใหญ่กว่าแน่ ๆ สาวคนนั้นถึงทิ้งมึงไป" ไอ้เลโอเหลือบมองไปที่เป้ากางเกงของอาร์เดลแบบแกล้ง ๆ

"ไอ้เชี่ยเลโอ มึงเคยนั่ง ๆ อยู่แล้ววูบมั้ย?"

"ไอ้พวกหื่น มึงหยุดลามกสักนาทีดิ กูจะอ้วก" ฉันส่ายหน้ากับบทสนธนาของพวกมันที่เริ่มจะต่ำตมมากขึ้นไปทุกที ๆ

"สารนิเทศที่นั่นก็ใช่ย่อยคุยกับกูมาได้เป็นเดือน ๆ พอเจอไอ้พี่นี้ไปคืนเดียวเท่านั้น..บล็อกไลน์กูเฉย" อาร์เดลระบายความในใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ

"พวกมึง ๆ จำไว้นะ เราจะไม่คุยกับไอ้เด็กใหม่นั้นเด็ดขาด จนกว่ามันจะได้รับรุ่น" ไอ้โยพูดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะการรับรุ่นของคณะวิศวะสำคัญมากจริง ๆ ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าตอบรับกันไปในทันที

"อ๋อ...กูจำได้ละคนที่เป็นกัปตันทีมบอลของบริหารไง...คนที่ชื่อเพอร์ (ออโต้) / ชู่ว!! ที่นี่ห้องเรียนนะไม่ใช่สนามบอล ช่วยเงียบกันหน่อย (อาจารย์วิล) ยังไม่ทันที่ไอ้ออโต้จะพูดจบ อาจารย์ก็ดุขึ้นมาอีกครั้งทำให้ทั้งห้องเงียบกริบได้ภายในเสี้ยววินาทีเดียวเลย

"พิมพ์ตะวัน เอากระดาษรายชื่อมาให้เพื่อนใหม่เขียนชื่อทีสิ" อาจารย์วิลเลี่ยมตะโกนเรียกฉัน ซึ่งน่าจะเป็นคนที่ดูมีสติมากที่สุดในห้องนี้แล้วจริง ๆ

"ได้ค่ะอาจารย์" ฉันเดินถือกระดาษตรงไปทางอาจารย์วิลเลี่ยม โดยมีร่างสูงในชุดนักศึกษายืนหันหลังให้อยู่

"อันนี้ของนาย.." ฉันวางกระดาษลงตรงหน้าของนักศึกษาใหม่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เพื่อมองหน้าเขาแบบชัด ๆ

แต่ทว่า...

"นะนายยย!!" ฉันอ้าปากค้างไปเลยเมื่อพบว่า นักศึกษาใหม่ที่ย้ายมาจากคณะบริหารคือ..ไอ้ฝรั่งโรคจิตสุดหื่นคนนั้น

คนที่ฉันต่อยปากแตก แถมยังกระทืบกระจกรถคันละหลายสิบล้านของมันไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

"ไง?" ร่างสูงกระตุกยิ้ม พร้อมกับลูบมุมปากที่ยังคงแดง ๆ ช้ำ ๆ ของเขา ก่อนจะดึงกระดาษเข้ามา

( พระเจ้าทำไมๆๆ ต้องเป็นหมอนี่ด้วย )

เขียนชื่อของตัวเอง และรหัสนักศึกษาลงไป

"เราสองคน..รู้จักกันเหรอ?" อาจารย์วิลเลี่ยมถามขึ้นเมื่อเห็นเราสองคนจ้องหน้ากันแบบอึ้ง ๆ

"มะ..ไม่รู้ค่ะ..ไม่รู้จัก" ฉันรีบส่ายหน้าและเดินกลับมานั่งที่โต๊ะตัวเองทันที

ร่างสูงรับชีทเอกสารการเรียนจากอาจารย์วิลเลี่ยมและเดินผ่านพวกเราทุกคน เดินอ้อมไปทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะจดเลคเชอร์ที่ตรงกับโต๊ะของฉันแบบเป๊ะ ๆ

"โอเค ๆ ทุกคนฟังทางนี้นะ เมเจอร์ของเราจะมีสมาชิกมาเพิ่มอีกคนหนึ่ง คือเพอร์ซุส ซึ่งตามจริงแล้วเขาเป็นรุ่นพี่ปีสี่ ที่จะลงมาเรียนกับน้อง ๆ เนื่องจากเขาย้ายจากบริหารมาน่ะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเอ่ยแนะนำนักศึกษาใหม่

ปั่ก! หัวเข็มขัดของเขากระแทกเข้าที่หัวของฉันเต็ม ๆ

"…งื้ดด" ฉันทำได้แค่กัดฟันแน่นอย่างอดทน และโน้มหัวหลบพร้อมกับลูบหัวเบา ๆ เหมือนจะโดนอะไรแข็ง ๆ ชนแต่ไม่ใช่แค่หัวเข็มขัดน่ะ

(นี่มันวันซวยอะไรของฉันว่ะ!!)

"หวัดดีนะทุกคน" เพอร์ซุสเอ่ยทักทายทุกคนในห้อง ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราทั้งห้าก็ทำนิ่งเงียบ ราวกับไม่ได้ยินใด ๆ

"ฮะแฮ่ม!! ครูหวังว่าพวกเราจะต้อนรับ และดูแลเพื่อนใหม่เป็นอย่างดี" อาจารย์วิลเลี่ยมดุขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นแล้วว่าทุกคนตึง ๆ ใส่นักเรียนใหม่

"ครูขอสั่งให้พวกคุณทั้งห้าคน รับผิดชอบในการพาเพื่อนใหม่คนนี้เข้ารวมกิจกรรมของรุ่นในปีนี้"

"จำไว้ด้วยว่าภาควิชาปิโตรเลียมเรามีกันแค่นี้ ครูหวังว่าทุกคนจะช่วยเหลือกันและกันให้ได้มากที่สุดนะ"

"ที่พูดไปนี่เข้าใจกันไหม??" พอเห็นว่านักศึกษาทุกคนเงียบ อาจารย์วิลเลี่ยมก็ขึ้นเสียงถามดังลั่น

"เข้าใจค่ะ /ครับ" เราทั้งหมดจำต้องขานตอบกลับไปอย่างไม่มีทางเลือกอื่น

"และถ้าเพอร์ซุสไม่ได้รับเกียร์รุ่นในปีนี้ ครูจะขอหักคะแนนจิตพิสัยของพวกคุณทั้งหมด!"

"เพราะถือว่าพวกคุณไม่มีความสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียว! และนั้นไม่ใช่วิสัยทัศน์ที่วิศวะอย่างเราพึ่งมี!"

"โห่ ไรอ่าาาา จานๆๆ" เสียงโห่ร้องของพวกเราดังขึ้นอย่างประท้วง ๆ แต่ว่า..อาจารย์กลับไม่ได้สนใจอะไรเลยจริง ๆ

"เงียบ แล้วเริ่มเรียนกันได้แล้ว!"

ฟุ่บ พอจังหวะที่นั่งเขาก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้มากซะจน ฉันรับรู้ได้เลยว่าปลายจมูกของเขามันสัมผัสกับเส้นผมของฉัน

"นี่!!" ฉันหันไปถลึงตาใส่เขา ซึ่งก็เป็นจังหวะที่พวกเพื่อนที่เหลือหันมองหน้าฉันด้วยเช่นกัน เพราะว่ากฏของเราคือห้ามคุยกับเด็กใหม่ จนกว่าเขาจะได้เกียร์รุ่น

"…." ฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะหันหน้ากลับมานั่งตามเดิม

ปั่ก!! ปลายเท้าขอบเขากระแทกเข้าที่ขาเก้าอี้ของฉัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาตั้งใจชัด ๆ

"โทษที..พอดีว่าขามันยาวน่ะ" เขาพูดขึ้นด้วยใบหน้ากวน ๆ

ขณะที่อาจารย์วิลเลี่ยมเริ่มทำการสอน แนะนำรายวิชาไปเรื่อย ๆ

ฟุ่บ! รองเท้าผ้าใบไซต์ 44 สีขาวแบรนด์ดังยื่นมาใต้เก้าอี้ของฉัน

"ขายาวมากใช่ไหม?" ฉันเหยียดยิ้มก่อนจะยกเท้าขึ้นเหยียบรองเท้าผ้าใบสีขาวของเขาแบบเน้น ๆ ๆ พร้อมกับขยี้ฝากรอยสกปรกไว้บนรองเท้าคู่ใหม่นั้นอย่างตั้งใจ และไม่ลืมที่จะเปิดปลอกปากกาหมึกซึมและปล่อยตกลงไปที่รองเท้าของเขา พร้อมกับขยี้ซ้ำ ๆ เอาให้ซักไม่ออกเลย!!

"ไอ้พิมพ์ ๆ " ไอ้ออโต้ที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามากระซิบบางกับฉันเบา ๆ

"รองเท้าไอ้เด็กใหม่น่ะ... ลิมิตเต็ดอิดิชั่น คู่ละเกือบ ๆ ห้าหมื่นกว่า ๆ...บอกไว้เผื่อมึงจะไม่รู้"

"อะไรนะ??" ฉันเบิกตาโตอย่างอึ้ง ๆ และหันไปมองหน้าไอ้ออโต้อีกครั้ง

ก่อนที่กลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ และปลายจมูกโด่ง ๆ ของเด็กใหม่จะยื่นมาตรงกลางระหว่างหน้าของฉันกับไอ้ออโต้

"ไม่ใช่..ห้าหมื่น..เจ็ดหมื่น!!" 

"พอดีคู่นี้ฉันพรีออเดอร์มาจากอเมริกาน่ะ"

🌊☀️🏄🏻‍♀️

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   10 ไม่ซ้ำหน้า

    10ไม่ซ้ำหน้า@บลูมูนบาร์(หนึ่งในบาร์ชื่อดังหลังมหาลัยอเธน่า)บลูมูนบาร์จะมีสระว่ายน้ำอยู่กลางบาร์ และมีวงดนตรีสดเล่นตลอดทั้งคืน สลับกับการเป็นเพลงแนว EDM ทุก ๆ เที่ยงคืนจะกิจกรรมโยนเหล้าราคาลงไปในสระว่ายน้ำ หากลูกค้าคนไหนที่กระโดดลงไปในสระแล้วงมเหล้าขึ้นมาได้ ก็จะได้เหล้าขวดแพงนั้นไปในทันทีและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบาร์แห่งนี้เป็นการถือหุ้นรวมกันระหว่างศิษย์เก่าจากคณะวิศวะล้วน ๆ จึงไม่แปลกเลยที่พวกเราจะนับว่า บลูมูนบาร์คือถิ่นฐาน แต่ก็ไม่ใช่บาร์จะไม่รับคนจากคณะอื่น ๆ เลย เพราะถ้ามีแต่วิศวะมาเที่ยวคงไม่มีสาว ๆ สวย ๆ เต็มบาร์แบบทุกวันนี้แน่"เข้างานมาก็เจอภาพบาดตาบาดใจเลยวะ..พี่มีนาหักอกกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า" ไอ้ออโต้คล้องคอของฉันเหมือนคนที่ยืนไม่ไหว มันจับที่อกตัวเอง พลางบีบน้ำตา เมื่อเห็นพี่มีนาของตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเพอร์ซุสทั้งสองโยกย้ายไปตามเสียงเพลง ก่อนจะโน้มหน้าจูบนัวกันไปโดยไม่แคร์สายตาของคนรอบ ๆ ที่ซุบซิบนินทากันให้แซด"มึงอย่าเวอร์ได้ไหม..มึงกับพี่เขายังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ กูเห็นมึงน่ะคุยแต่กับรูปโปสเตอร์หน้าตึกของเขา" ฉันถอนหายใจและมองไปทางเพื่อนตัวเองแบบเอื้อม ๆ"จริง ๆ ม

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   9 เซอร์ไพรส์ (พิมพ์ตะวัน) 

    9เซอร์ไพรส์(พิมพ์ตะวัน) "ยัยพิ้ง?" ฉันหรี่ตามองตรงไปที่น้องสาวที่กำลังนั่งมาสก์หน้าด้วยโคลนสีเขียว ๆ และหันมาโบกมือทักทายฉันด้วยหน้าระรื่น"มาได้ไงเนี่ย..แล้วเรามีกุญแจห้องพี่ได้ไง?" ฉันแอบตกใจอยู่เหมือนกัน จริงอยู่ที่พิ้งเคยมาที่ห้องฉัน แต่ไม่คิดว่าพิ้งจะมีกุญแจเปิดเข้ามารอก่อนแบบนี้"พอดีพิ้งเข้าไปขอยืมของในห้องพี่พิมพ์น่ะ ก็เลยบังเอิญเจอกุญแจสำรอง..บวกกับคิดถึงพี่พิมพ์มาก ๆ เลยนั่งรถแท็กซี่มาหา" พิ้งกี้เดินเข้ามาสวมกอดฉัน ซึ่งฉันก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรไปเพราะห้องนอนที่บ้าน ยัยพิ้งก็มักจะเข้ามายืมเสื้อผ้าของใช้อยู่บ่อย ๆ อยู่แล้วเพราะความจริงเราสองคนก็ไม่ได้อายุต่างกันมาก ฉันยี่สิบเอ็ดปี ส่วนยัยพิ้งก็สิบเก้าปี"แล้วได้คุณพ่อกับแม่รึยังว่าจะมาหาพี่" ฉันเดินไปวางกระเป๋าลงก่อนจะถอดเสื้อช็อปออกแขวนเอาไว้"พี่พิมพ์! พิ้งอายุสิบเก้าปีจะยี่สิบแล้วนะ..จะไปไหนทำอะไรไม่จำเป็นต้องรายงานพ่อกับแม่แล้วไหมอะ?" พิ้งถอนหายใจออกมาก่อนจะเถียงกลับทันที"พิ้งโตมากแล้ว พี่พิมพ์เองก็เหมือนกัน..เลิกทำเหมือนพิ้งเป็นเด็ก ๆ สักทีน่า" เธอพูดก่อนจะเดินสะบัดตูดเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างที่มาส์กหน้าอยู่ออกโทรศัพท์

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   8 ทุ่มหมดตัวและหัวใจ

    8ทุ่มหมดตัวและหัวใจ(END : พิมพ์ตะวัน) การรวมพลกันของชาววิศวะ ทั้งปีหนึ่ง สอง สามและสี่ผ่านไปได้ด้วยดี รุ่นพี่ก็บอกถึงกำหนดการต่าง ๆ แบบคร่าว ๆ ไปว่าเดือนไหนจะมีกิจกรรมอะไร และหลังจากสอบเสร็จเราจะมีค่ายรับน้อง (โหด) ที่พวกน้อง ๆ ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะหากใครไม่เข้าร่วม ก็จะไม่ได้รับเกียร์รุ่น(เกียร์ = สัญลักษณ์ตัวแทนของวิศวะ)หลังจากที่รุ่นพี่ได้บอกกฎเกรณ์ประจำคณะของเรา ข้อปฏิบัติต่าง ๆ รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันสำคัญ ๆ ของคณะ เสร็จก็ได้แจกกลุ่มไลน์ใหญ่ของทั้งคณะ เพื่อที่เวลามีกิจกรรมอะไรจะมีการแจ้งผ่านไลน์เป็นหลักและอย่างที่รู้กันดีว่า ทุกคณะจะมีการแข่งขันกีฬาภายในมหาลัย ซึ่งทุกคณะจริงจังกันเอามาก ๆ และก็มีเรื่องต่อยตีกันแทบจะทุกปี และน้อยคนมากที่จะย้ายคณะกลางคันแบบเพอร์ซุสแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มีท่าทีกังวลใจอะไรเลย แถมยังเข้าได้ดีกับพวกสาว ๆ คนอื่นในคณะอีกด้วย"ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือมาชมนุมกันอย่างครบถ้วนในวันนี้" รุ่นพี่ปีสี่เริ่ม ๆ เข้าแถวเรียวกระดาน เป็นอันจบพิธีชุมนุมรุ่นพี่รุ่นน้องในวันแรก"แรดเหลือเกินพ่อคุณ" พิมพ์ตะวันมองไปที่เขาและทำได้แค่ย

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส    7 ความซวยมาเยื่อนถึงที่ (มีภาพประกอบ)

    7ความซวยมาเยื่อนถึงที่(มีภาพประกอบ)(เลิกคลาส)"โอเค เดี๋ยวครูจะให้เลิกคลาสก่อนเวลาสามสิบนาทีนะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเงยหน้าขึ้นถามทุกคนอีกครั้ง"เพราะวันนี้คณะวิศวะเรามีนัดรวมตัวกันที่ลานกิจกรรม เรื่องการรับน้องปีหนึ่ง" อาจารย์วิลเลี่ยมปิดหนังสือลงก่อนจะเดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าพวกเราทั้งห้าคน"ถ้าจะเข้าวิศวะแค่ย้ายหน่วยกิจอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องรับรุ่นด้วย" อาจารย์พูดขึ้นกับเพอร์ซุสก่อนจะกดปิดจอโปรเจคเตอร์ด้วยรีโมท"ทุกคนกลับได้เลย ยกเว้นพิมพ์ตะวัน ครูจะคุยเรื่องงานเด็กทุนปีนี้น่ะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมารอ"งั้นเจอกันหน้าลานรับน้องนะ พวกกูไปดูดบุหรี่ก่อน" อาร์เดลหันมาบอกกับฉัน และใช้หางตามองทางเพอร์ซุสเล็กน้อยก่อนที่พวกมันทั้งสี่คนจะลุกจากโต๊ะ พร้อมกับสะพายกระเป๋าเดินนำออกจากห้องไปจนหมด เหลือแค่เพอร์ซุสที่ยังคงนั่งเปิดชีทเรียนอ่านไปคร่าว ๆ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าและเดินออกไปเป็นคนสุดท้ายฟุ่บ! แผ่นกระดาษตารางชั่งโมงทุนที่ฉันต้องทำให้กับทางมหาลัย ซึ่งก็จะเป็นพวกกิจกรรมแทบจะทุกกิจกรรมของมหาลัยเลย ไม่ว่าจะจัดเตรียมงานประชุม รับน้อง หรือกีฬาสี เด็

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   6 นักศึกษา (วิศวะ) ใหม่

    6นักศึกษา (วิศวะ) ใหม่"โอ๊ย!! ไอ้พิมพ์หัวกู" ออโต้กุมหัวตัวเองก่อนจะเอื้อมมือมาดึงผมฉันคืนแต่ไม่ได้ดึงแรงมาก เหมือนแค่แกล้งกันเล่น"โขกแรง ๆ เนี่ยแหละ มึงจะได้ตื่น!" ฉันกระชากผมมันแล้วดึงซ้ำ ๆ"เฮ ๆ ๆ พวกคุณปีสามกันแล้วนะ!!" อาจารย์วิลเลี่ยมตวาดขึ้นลั่น ทำให้เราสองคนจำต้องหยุดการอาฆาตแค้นต่อกันเพียงเท่านี้"เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ " ท่านตำหนิก่อนจะหันไปคุยกับนักเรียนใหม่ รวมถึงหัวหน้าจากฝ่ายทะเบียนอีกคนในตอนแรกอาจารย์ก็คุยกับนักเรียนใหม่เป็นภาษาอังกฤษ แต่พอมีฝ่ายทะเบียนเข้ามาด้วย ท่านก็เลยสนทนาเป็นภาษาไทยแทน ซึ่งอีกฝ่ายก็พูดไทยได้เช่นกัน"เอาจริงวิชาของปีหนึ่งปีสอง เทียบโอนได้หมด แต่วิชาของคณะวิศวะบางตัว ก็ยังมีต้องเก็บอีก" อาจารย์วิลเลี่ยมพูดพร้อมกับเปิดเอกสารการเรียนของนักศึกษาคนนั้นไปพลาง ๆ ซึ่งร่างสูงก็หันหลังให้กับพวกเรา แต่หันหน้าคุยกับอาจารย์ด้วยที่เคร่งเครียด"แต่ที่น่าทึ้งคือ..เรียนบริหารมา แต่ดันทำข้อสอบของคณะวิศวะภาคเหมืองแร่และปิโตรเลียมได้เกือบเต็ม""เพราะขนาดเด็กในคณะวิศวะ ยังสอบผ่านมาได้แค่ ห้าคนเอง" อาจารย์วิลเลี่ยมเม้มปากอย่างช่างใจ เพราะปกติแล้วการย้ายคณะเป็นเรื่องที่ไ

  • MAKE A MISTAKE พลั้งพลาดรัก | เพอร์ซุส   5 เปิดเทอม  (มีภาพประกอบ)

    5เปิดเทอม (มีภาพประกอบ)(พิมพ์ตะวัน) วันต่อมา"อ้าว..เปิดเทอมแล้วเหรอลูก?" สามีของแม่เอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเองก็กำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานเช่นค่ะ"ใช่ค่ะคุณพ่อ" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะสวมเสื้อแจ็กเกตทับชุดนักศึกษาอีกที"อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนมั้ยลูก มื้อเช้าเนี่ยสำคัญนะพิมพ์" ท่านเดินเข้ามาพูดคุยด้วยใบหน้าที่ดูปกติดีทุกอย่าง ราวกับคนละคนกับคนเมื่อคืนเลย"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีมหาลัยอยู่ไกลนะคะ..อีกอย่างพิมพ์ต้องรีบจ่ายค่าเช่าหอพักก่อน" ฉันรีบยกมือไหว้คุณพ่อ และหันไปไหว้แม่ของตัวเองที่กำลังเดินจูงมือน้องชายตัวแสบลงมาจากบันไดชั้นสองของบ้านพอดี"พี่พิมพ์ครับ"พัตเตอร์น้องชายตัวเล็กตะโกนเรียกหาฉันลั่น พร้อมกับวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันไว้ทันที"พัตเตอร์ไม่อยากให้พี่พิมพ์ไปเรียนเลย...เพราะกว่าพี่พิมพ์จะกลับบ้านก็สองสามอาทิตย์ทีหนึ่งเลย พัตเตอร์เบื่อไม่มีใครสอนทำการบ้านเลย" เจ้าตัวเล็กกระทืบเท้าเบา ๆ และงอแงทันทีที่เห็นฉันใส่ชุดนักศึกษา ซึ่งก็งอแงงแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่ฉันเริ่มเข้ามหาลัยแล้วล่ะ"งั้นถ้าพัตมีอะไรที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ก็โทรมาหาพี่สิ เดี๋ยวพี่สอนทางโทรศัพท์ก็ได้" ฉันย่อตัวลงลูบหัวน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status