เขาไม่ชอบเธอเพราะไม่ใช่สเปก เธอไม่ชอบเขาเพราะความเจ้าชู้ จากคู่หมั้นที่พ่อแม่จัดหาให้ กลายเป็นคนที่ทำให้หัวใจว้าวุ่น จนตามติดเธอไปทุกที่ ดูแลทุกเวลา "นั่นแฟนนายเหรอ" "ไม่ใช่แฟน เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน" เรื่อง หลงกลรัก คู่หมั้นวิศวะ (อันตรา & ภาวิชญ์) เซต หลงกลรัก (เรื่องที่ 2) "อันตรา" เด็กเนิร์ดคณะมนุษยศาสตร์ ปี 2 เรียบร้อย พูดน้อย เรียนดี ไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น "ภาวิชญ์" หนุ่มหล่อคณะวิศวะปี 4 เขาเป็น 1 ใน จตุรเทพคณะวิศวะ ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ ชอบผู้หญิงอายุมากกว่า ไม่ชอบผูกมัด ฉลาด แต่แพ้น้ำตาผู้หญิงอย่างอันตราที่สุด หลังจากตกกะไดพลอยโจน เธอกับเขาจึงต้องเป็น "ว่าที่คู่หมั้น" กันนับจากวันนั้น เมื่อคอยดูแลเธอ เขาก็เริ่มรู้ว่า อันตราไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คิด ยิ่งนานวัน ยิ่งอยากอยุ่ใกล้ อยากดูแล จนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้น.... ฝากติดตามความรักของอันตรา กับ ภาวิชญ์ ด้วยนะคะ คู่นี้เป็น 1 ในนิยายเซต "หลงกลรัก" ของไรต์เอง ตามไปดูความละมุน ความคลั่งรักของพวกเขาได้เลยค่ะ
View Moreคณะวิศวะ
“โชคร้ายจริง ๆ ทำไมต้องโดนใช้เอาของมาเก็บให้อาจารย์ด้วยนะ”
“เอามานี่เถอะ รีบกลับไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวเราเอาไปเอง”
“จะดีเหรออัน ไปด้วยกันเถอะ”
“ไม่เป็นไร พอดีเราจะแวะไปที่นั่นอยู่แล้ว อีกอย่างของแค่ซองเดียวเอง นุ่นกลับไปก่อนเถอะ”
“งั้นเราไปก่อนนะ ขอบใจมากนะอัน”
“รีบไปเถอะ”
“อันตรา” นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ปีสอง เธอและเพื่อนในคลาส ถูกอาจารย์ใช้ ให้นำเอกสารมาส่งที่คณะวิศวะ ซึ่งอยู่ห่างจากคณะของเธอพอสมควร อันตราเป็นคนเงียบขรึม เด็กเนิร์ดที่เรียนดี เป็นที่รักของอาจารย์ ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไร อาจารย์ก็มักจะวานเธอบ่อย ๆ เพราะความมีน้ำใจ อันตราจึงไม่ค่อยปฏิเสธ
“ห้องไหนนะ อ้อ ห้องนี้เอง”
เธอเปิดเข้าไป และนำเอกสารไปวางบนโต๊ะของอาจารย์ ที่แจ้งอยู่หน้าซอง และกำลังเดินออกจากห้อง ก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ตรงสุดทางเดิน
ปึง!
เสียงเหมือนประตูกระแทกกับอะไรสักอย่าง เธอจึงเดินไปดูใกล้ ๆ แต่ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร่ ก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ลอดออกมา ซึ่งเป็นเสียงเหมือนคนกระซิบกันอยู่ข้างใน ประตูสั่นอีกครั้งพร้อมกับเสียง
“อย่านะคะ ไม่อย่างนั้นเค้กจะ…อ๊ะ! พี่ภาวิชญ์!”
“ภาวิชญ์” เธอคุ้นกับชื่อนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะใช่คนที่เธอรู้จักหรือเปล่า เขาเป็นหนุ่มหล่อของคณะวิศวะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ "จตุรเทพคณะวิศวะ" ที่โด่งดังไปทั้งมหาลัย
แกร๊ก!
อันตราตกใจ จนทำของในมือเธอตก จึงรีบโกยทุกอย่างตรงหน้า และวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที โดยที่ไม่คิดว่าในวันนั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องวุ่น ๆ ระหว่างเธอกับเขา….
“AUN กรุ๊ป…. โลโก้นี้คุ้นตามากเลยแฮะ”
“พี่ภาวิชญ์คะ เรายังคุยกันไม่จบ”
“จบไปแล้ว บอกให้ไปให้พ้น อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก”
“ไม่ค่ะ! ทำไมคะ พี่ยังไม่ได้บอกเลยว่า เค้กสู้พี่ครีมไม่ได้ตรงไหน เค้กเป็นดาวคณะพยาบาล ถึงจะไม่สวยเท่าพี่ครีมแต่ก็เรียนดี และหนุ่ม ๆ คนอื่นก็ตามจีบ ทำไมพี่ถึง…”
“นั่นมันเรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน อีกอย่างก็เลิกเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบได้แล้ว”
“พี่จะไม่มีทางลืมพี่ครีมได้เลยเหรอคะ ทำไมพี่งี่เง่าขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่พี่ครีมแค่หลอกพี่ และสุดท้ายก็หนีไปต่างประเทศกับผู้ชายคนอื่น”
ปัง!!
“โอ๊ย! พี่ภาวิชญ์ เค้กเจ็บนะ”
ภาวิชญ์ทนฟังสิ่งที่ “เค้ก” พูดออกมา มากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว พี่สาวของเธอ “ครีม” เป็นคนรักคนแรกของเขา เธอสวย เซ็กซี่ ทำงานเก่ง เป็นอดีตเลขาพ่อของเขา
จนเมื่อสองปีก่อน ที่เขาจับได้ว่าเธอคบกับผู้ชายอีกคน ซึ่งเป็นนักธุรกิจดังของไต้หวัน เธอเลือกที่จะทิ้งเขาไป พร้อมกับลาออกจากงานที่ทำมาเกือบห้าปี
“อย่าเอาเรื่องนี้มาพูดกับฉันอีก ถ้ายังอยากเรียนที่นี่อยู่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ว่าตำแหน่งดาวกับเกรดเอของเธอ มันได้มายังไง”
“พี่ภูวิชญ์!”
เขามองเธอด้วยสายตารังเกียจ ก่อนจะเดินออกมาทันที และไม่นึกอยากเจอเธออีก เค้กเป็นน้องสาวของครีม เธอพึ่งสอบติดมหาลัยในคณะพยาบาลในปีนี้ ซึ่งเขาพยายามเลี่ยงที่จะไม่พบเธอ แต่เธอเหมือนจะประกาศว่ารู้จักเขา วันนี้ก็ตามเขามาถึงที่นี่ เพื่อนสนิทของเขาเริ่มสงสัย ดังนั้นก่อนที่มันจะบานปลาย เขาจะต้องหยุดไว้ก่อน
คณะวิศวะ
“ไอ้ภีม ทางนี้!”
“ก้องภพ” เพื่อนสนิทของเขา เรียกเขาอยู่หน้าคณะ “ภีม” คือชื่อเล่นของเขา ซึ่งมีไม่กี่คนที่เรียก เพราะส่วนใหญ่ก็จะเรียกติดปากว่าภาวิชญ์ ซึ่งเป็นชื่อจริง
“ไอ้ตะวันบอกว่า โปรเจคจบใกล้เสร็จแล้ว เหลือแค่ส่วนของมึง ใกล้หรือยัง”
“กูส่งให้มันไปตั้งแต่เช้าแล้ว”
“อ้าวเหรอ แหะ ๆ”
“มึงพึ่งมาสินะ”
“นิดหน่อย เมื่อคืนเลิกดึก ก็เลย…”
“มึงไปสนามแข่งมาอีกแล้วเหรอวะ”
“เออ...เฮ้ยนั่น น้องครีม ดาวคณะพยาบาลไม่ใช่เหรอ มาทำอะไรที่นี่ มาหามึงเหรอ”
“มาหาพ่อมึงมั้ง ไม่รู้โว้ย!”
“อ้าวไอ้ภีม มึงจะไปไหนล่ะ”
“ไปหาอะไรสนุก ๆ ทำ มึงจะไปไหม”
“ไปสิวะ เรื่องสนุก ๆ แบบนี้กูไม่พลาดอยู่แล้ว ว่าแต่มึงจะไปไหน”
“ร้านกาแฟ”
“ห๊ะ!”
ร้านกาแฟ
ร้านนี้อยู่หน้ามหาลัย ซึ่งอยู่ใกล้คณะวิศวะของเขา ภาวิชญ์ต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง ก็เลยอยากไปที่นั่น ซึ่งเขาเคยเจอเธอและเพื่อน ๆ ไปนั่งเป็นประจำ ไม่ใช่ว่าพวกเธอชอบใครที่คณะของเขาหรอก แต่ร้านนี้กาแฟอร่อยและบรรยากาศดี พวกเธอจึงชอบมา
“สาว ๆ เพียบเลยว่ะ อ้าวนี่มึงจะไปไหน ไม่นั่งเหรอ ทำไมเลือกนั่งโต๊ะหลืบนั้นทุกทีเลยวะ ไอ้ตะวันก็ชอบไปนั่งโต๊ะนั่นประจำเลย”
“เงียบหน่อย ไปสั่งกาแฟไป”
“กูทุกทีเลย เอาอะไร เหมือนเดิมไหม คาปูร้อน”
“อืม”
ก้องภพเดินไปสั่งกาแฟ ในบรรดาเพื่อนสี่คน ภาวิชญ์สนิทกับก้องภพมากที่สุด เพราะพวกเขาชอบแข่งขันความเร็ว สนามแข่งรถยนต์ เป็นที่ประจำของพวกเขา พ่อของก้องภพเป็นนักการเมืองชื่อดัง และตอนนี้ยังมีตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีอีกด้วย แม้ว่าตะวันเพื่อนของเขา จะมีธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรู แต่ตะวันไม่ได้ชอบแข่งรถ เหมือนพวกเขาสองคน
“กาแฟมาแล้ว”
ก้องภพเอากาแฟมาวาง ระหว่างที่นั่งคุยกันเรื่องสนามแข่ง เป้าหมายของเขาก็เดินเข้ามา ดูเหมือนว่าวันนี้ พวกเธอจะมากันครบสี่คน ซึ่งเขาคุ้นกับรุ่นน้องกลุ่มนี้ดี เพราะเหมือนว่าเพื่อนของเขา จะชอบมองหนึ่งในกลุ่มพวกเธอเอาไว้ เพียงแต่ว่าเธอคนนั้น… มีแฟนแล้ว
“จริงเหรอ แล้วแกจะเอาไงต่อมะปราง”
“ฉันตัดสินใจแล้วว่า จะย้ายออกมาทันที แต่ตอนนี้ยังหาห้องไม่ได้”
ภาวิชญ์นั่งเงียบ ก้องภพซึ่งมองแต่สาว ๆ ในร้านไม่ได้ตั้งใจฟัง เขาเหมือนกำลังดูอะไรบางอย่างที่มือถือ และยื่นให้ภาวิชญ์ดู
“ดูนี่ คืนนี้มีแข่ง เดิมพันน่าสน ไปไหม”
“คืนนี้ไม่ไป มีธุระ”
“เชี่ย! ถ้ามึงไม่ไปก็น่าเสียดายนะโว้ย น้องครีมก็ไปด้วย นั่นระดับดาวคณะเลยนะ”
“แล้วไง”
เขามองไปที่กลุ่มนักศึกษาหญิงอีกโต๊ะหนึ่ง แต่พวกเธอไม่เห็นพวกเขา เพราะมัวสนใจเรื่องของเพื่อนอยู่ ดูเหมือนว่าจะมีคนหนึ่ง ที่กำลังวนหาของอยู่ จนเพื่อนอีกคนของเธอถามขึ้นมา
“ไอ้อัน มึงเป็นอะไรเนี่ย เห็นหาอะไรอยู่พักใหญ่ละ”
“ฉัน... เหมือนจะทำปากกาที่พ่อให้หายไปน่ะ”
“อะไรนะ แล้วไปตกที่ไหน นึกดี ๆ สิ”
“ช่างเถอะ คงหล่นที่หอสมุดละมั้ง แค่ปากกาด้ามเดียวช่างมัน เอาไว้ไปขอด้ามใหม่ก็แล้วกัน ว่าแต่มะปรางเถอะ ตอนนี้เรื่องนี้สำคัญกว่านะ”
พวกเธอหันไปสนใจเพื่อนสนิท ภาวิชญ์นั่งฟังจนพวกเธอได้กาแฟ และพากันเดินออกไป ก้องภพรับสาย เขาจึงเดินออกไปคุยด้านหลังร้าน ภาวิชญ์ล้วงกระเป๋าและเอาปากกาด้ามทอง ซึ่งมีสลักชื่อและโลโก้ของบริษัทที่คุ้นเคยขึ้นมาดู
“ใช่เธอจริง ๆ ด้วยสินะอันตรา… แค่ชื่อก็น่าแกล้งแล้ว น้องอัน…”
ภาวิชญ์ไม่ลืมที่จะดึงมือถือของเขาออกมา และกดโทรหาเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง เสียดายวันนี้ที่เขาไม่ได้มาด้วย แต่เรื่องนี้ภาวิชญ์คิดว่า “ตะวัน” คงสนใจไม่น้อย
“ว่าไงวะไอ้วิชญ์ มีอะไรถึงโทรหากูตอนนี้”
“มึงยุ่งอยู่เหรอ”
“เปล่าหรอก กำลังจะไปบริษัทพ่อน่ะ โดนเรียกตัวด่วน มึงอยากหารถใหม่ไปแข่งเหรอถึงโทรหากู”
“เปล่า กูคิดว่ามีเรื่องบางอย่าง ที่มึงน่าจะสนใจมากกว่ารถ เรื่องของน้อง “มะปราง” คณะมนุษย์ที่มึงเคยบอกว่ายิ้มสวยคนนั้น จำได้ไหม”
อันตราถูกเขาพาเข้ามา จับถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำใต้ฝักบัว แปรงฟันและสระผมให้เรียบร้อย กระทั่งเป่าผมให้แห้ง เขาแทบจะเปลี่ยนเป็นพ่อคนได้อยู่แล้ว เมื่ออยู่กับอันตรา นานวันเข้าสิ่งเหล่านี้ ภาวิชญ์ก็ทำไปโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เธอเปลี่ยนมาเป่าผมให้เขาอยู่“แห้งแล้วค่ะ”“พี่ชอบเวลาอันใส่เสื้อเชิ้ตของพี่แบบนี้มากเลยรู้ไหม มันเซ็กซี่มาก”“อันรู้ค่ะ ถึงได้ยั่วพี่แบบนี้ไงล่ะคะ”“รู้ใจแบบนี้ คืนนี้คงต้องคุยกันยาวแล้วล่ะ”“อ๊ะ พึ่งจะอาบน้ำมา เบา ๆ หน่อย อุ๊ย พี่ภีม เสียว อาาา”เขาปลดกระดุมออกไม่กี่เม็ด และเริ่มใช้ลิ้นดุนดันที่หน้าอกอวบตรงหน้า รอยคิสมาร์คเริ่มหายไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ เขาให้เธอได้พักช่วงมีรอบเดือน ซึ่งอันตรารู้ว่าภาวิชญ์อัดอั้นแค่ไหน เพราะมือของเธอที่จับที่เป้ากางเกงของเขา รู้สึกได้ถึงความแข็งขืนของมังกรยักษ์ในนั้น“อูยย เบาหน่อยเมียจ๋า มันแข็งจนไม่ไหวแล้ว”“ก็อย่าเล้าโลมเยอะสิคะ รีบเข้ามา”“พี่กลัวอันเจ็บ ต้องทำให้พร้อมก่อน”เขาอ่อนโยนกับเธอเสมอ ทุกครั้งที่มีเซ็กซ์กัน ไม่มีครั้งไหนที่ภีมจะเร่งรีบและทำให้เธอเจ็บเลย อีกอย่างต่อให้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน ถ้าอันตราบอกว่าไม่ เขาก็จะไม่รบกวนเธอ
ห้าวันถัดมา“อันครับ… ตื่นได้แล้วนะ”“อือ พี่ภีม อันไม่อยากไปแล้ว ฮืออ”“ไม่เอาน่าอย่างอแง เดี๋ยวพวกคุณแม่จะรอนาน วันนี้ไปดูอีกสองที่สุดท้ายแล้ว ถ้าอันไม่ชอบก็จบ ไม่ต้องไปอีกแล้วตกลงไหม แต่ตอนนี้ลุกขึ้นมาก่อน รีบไปอาบน้ำเร็ว”เขารู้ว่าแฟนสาวคงไม่อยากตื่น ในวันหยุดที่เธอมีรอบเดือนแบบนี้ แต่ทั้งคู่นัดกับคุณแม่ทั้งสองเอาไว้ ว่าจะไปดูสถานที่จัดงานหมั้น เพราะสองครอบครัวทำธุรกิจร่วมกัน ดังนั้นเรื่องการจัดงาน ก็จำเป็นต้องแจ้งอย่างเป็นทางการ แต่อันตราที่ถูกพาพวกแม่ ๆ ไปดูสถานที่มากว่าหลายวัน ก็ดูเหมือนจะไม่มีที่ไหนถูกใจเธอเลย“มาครับ รีบตื่นพี่จะอาบน้ำให้ เร็ว ๆ เข้า"“ไม่ได้! อันอาบเองพี่จะบ้าเหรอ อันมีรอบเดือน”“พี่ลืมไป เอาน่า เอาไว้หลังจากไปดูสถานที่เสร็จแล้ว จะพาไปกินไอศกรีมร้านโปรดของอัน ดีไหม”“พี่ภีมจะบ้าเหรอ เป็นประจำเดือนใครเขากินไอติมกันล่ะ ไม่เอา ขอกุ้ง ตัวโต ๆ น้ำจิ้มซีฟู๊ด”“ได้หมดเลย แต่ตอนนี้ลุกขึ้นมาอาบน้ำก่อน เดี๋ยวพี่เตรียมชุดให้"“ฮือ…วันหยุดของฉัน”"เอาน่า หลังจากนี้ก็ไม่ยุ่งแล้วล่ะ เชื่อพี่"เชื่อกับผีน่ะสิ เธอคิดในใจ เพราะหลังจากไปดูสถานที่ สุดท้ายก็ลงเอยที่อันตราคิดว่า
รัชชานนท์ถึงกับหน้าเหวอไปทันที ช่วงหนึ่งปีนี้เขาถูกย้ายไปดูแลสาขาเชียงใหม่ และพึ่งได้มีโอกาสกลับมาที่กรุงเทพ ไม่คิดเลยว่าลูกสาวท่านประธานที่เขาหมายตาเอาไว้ จู่ ๆ จะมีคู่หมั้นไปแล้ว นี่เขาพลาดอะไรไป“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณนนท์ ผมภาวิชญ์ ลูกชายคุณภาษิต”“คุณภาษิตเหรอ คุณหมายถึงท่านประธานภาษิต เจ้าของท่าเรือและเจ้าของโรงแรมนี้”“ครับ ดีใจที่ได้พบกันนะครับ”“ครับ ผมรัชชานนท์ ยินดีที่ได้รู้จัก เอ่อ วันนี้พี่ยังมีธุระ เอาไว้พี่โทรหานะอัน”“ค่ะพี่นนท์ สวัสดีค่ะ”“ไปก่อนนะครับคุณภาวิชญ์ เอาไว้พบกันใหม่”“ครับ จริงสิงานหมั้นของเรา อันก็เชิญคุณนนท์ไปด้วยใช่ไหม”“เอ่อ...”อันตราทำหน้าอึดอัดเล็กน้อย เพราะรู้ว่านนท์คิดยังไงกับเธอ แต่เรื่องนี้เธอยังไม่ทันได้คิด ก็เจอเขาเสียก่อน ภาวิชญ์ยืนยิ้มและหันไปมองนนท์ ซึ่งแทบจะยิ้มไม่ออก“ถ้ายังไงจะให้อันเชิญไปนะครับ หวังว่าจะได้พบกัน ในงานหมั้นของเราสองคน”“ครับ พี่ยินดีด้วยนะอัน”“ขอบคุณค่ะพี่นนท์ อันขอตัวก่อนนะคะ”อันตรารีบเดินกลับเข้าไปในห้อง เธอสังเกตว่าภาวิชญ์พูด และยิ้มน้อยลง จนกระทั่งนั่งฟังเรื่องที่พ่อแม่ของทั้งคู่ไปต่างประเทศ และซื้อของมาฝากทั้งคู
“หมั้นเหรอคะ เร็วขนาดนี้เลย”“ทำไมดูเหมือนไม่ดีใจเลยล่ะ หรือว่ามีแต่พี่ ที่ดีใจอยู่คนเดียว”“ไม่ใช่สักหน่อย ทำไมจู่ ๆ ถึงได้เร่งล่ะคะ”ภาวิชญ์ดึงเธอเข้ามาจนชิดอีกครั้ง “ก็เพราะพี่ใจร้อนน่ะสิ อีกอย่างไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบแล้ว แต่อันยังต้องเรียนอีกตั้งสองปี ถ้าไม่หมั้นเอาไว้ก่อน พี่จะไปทำงานอย่างสบายใจได้ยังไง ต่อไปก็ไม่ได้มาเฝ้าที่มหาลัยแล้ว”“ดูทำหน้าเข้าสิ ทำไมคะ ไม่ไว้ใจอันเหรอ ตลอดเวลาไม่มีใครเข้ามาเลยนะคะ มีแต่ทางพี่ภีม”“ไม่ใช่สักหน่อย เรื่องแบบนี้มันบอกได้ด้วยเหรอ ว่าจะมาได้เมื่อไหร่ ไม่รู้แหละ วันเสาร์ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้กลับบ้านกันดีกว่า นะครับ”“แล้วรายงานล่ะคะ”“ก็เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ แก้อีกนิดเดียวเอง อันก็เอาหนังสือมาเก็บหมดแล้วนี่ เอาน่านี่ก็จะห้าโมงแล้ว กลับกันเถอะ รู้ไหมว่าพี่เมื่อยมากเลย ปวดหัวไปหมดแล้วเนี่ย”“ก็ได้ ๆ ไม่ต้องดัน ขอเก็บหนังสือก่อน”“เดี๋ยวก็มีคนมาเก็บเองแหละน่า ไปกันเถอะ รีบกลับบ้าน”อันตราถูกภาวิชญ์ดึงกลับบ้าน เขาแทบจะอุ้มเธออยู่แล้ว ช่วงนี้อันตราแทบจะไม่ได้เจอเพื่อน ๆ หลังเลิกเรียนเลย เพราะภาวิชญ์เรียนเสร็จ เป็นต้องมานั่งเฝ้าเธอหน้าคณะ ไม่กลับบ้านก็ต
หลังจากไปเยี่ยมเค้กกลับมาแล้ว อันตราก็กลับมาเก็บของเงียบ ๆ ที่ห้องพักของภาวิชญ์ ก่อนจะออกจากโรงพยาบาล วันนี้เขาให้กองทัพมาช่วยขับรถไปส่งให้ ก้องภพเองก็มาช่วยเขาด้วย เพราะวันนี้ตะวันมีนัดกับมะปราง ทั้งคู่เลยมาไม่ได้ เมื่อทั้งสองคนมาส่งทั้งคู่ที่คอนโด ก็รีบกลับทันที“ขอบใจนะไอ้ก้อง ไอ้กองทัพ”“ไม่เป็นไร มึงก็พักผ่อนให้ดี ไม่ต้องคิดมากหรอก เรื่องบางอย่าง พวกเราก็ทำเต็มที่แล้ว น้องอันก็ด้วยนะ ไม่ต้องคิดมากแล้ว”“ขอบคุณค่ะพี่ก้อง”ก้องภพรู้ว่า อันตรารู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยชีวิตเค้กเอาไว้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อเห็นสภาพของรุ่นน้องที่เคยสวย ปากดีและคอยหาเรื่องเธอไม่หยุด ต้องนอนนิ่งอยู่บนเตียงคนป่วยแบบนั้น ก็ทำให้อันตรารู้สึกแย่ลงไปนิดหน่อยเธอเข้ามาในห้องที่คุ้นเคย ก็พอจะทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง ภาวิชญ์เดินเอาของไปเก็บ และหันมากอดเธอจากด้านหลัง อันตราจับเขาเอาไว้“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ”หยดน้ำตาหล่นใส่หลังมือของภาวิชญ์ ทำให้เขาตกใจ และรีบหันมาจับตัวเธอหันมา แฟนสาวของเขากำลังร้องไห้ “อย่าร้องนะ อันไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งนั้น อย่าร้องอีกเลย”“อันขอโทษค่ะ…”ภาวิชญ์กอด
ครีมหันมายิ้ม และจับมืออันตราด้วยความรู้สึกขอบคุณจากหัวใจ หากวันนั้นอันตราไม่ช่วยบริจาคเลือดให้ เค้กก็คงยังไม่พ้นขีดอันตรายจนถึงวันนี้ “เค้กคงดีใจ ที่อันอยากไปเยี่ยมเธอ ขอบคุณมากเลยนะคะ”“เอาไว้อันจะชวนพี่ภีมไปเยี่ยมเธอนะคะ”“จ้ะ”ห้องพักของภาวิชญ์“ไม่ไปหรอก พวกเราก็ช่วยไปเยอะแล้ว อันบริจาคเลือดให้ นั่นก็มากไปแล้วนะ ต้องไปเยี่ยมด้วยเหรอ”“อะไรกันคะ เห็นรีบร้อนไปช่วยขนาดนั้น นึกว่าเป็นห่วงเสียอีก”“ไม่ต้องมาประชดเลยนะ เดี๋ยวพี่หายแล้วจะโดนไม่ใช่น้อย”“ใครกลัวกันล่ะคะ ตอนนี้อย่าพึ่งปากดี กินข้าวก่อน”“ป้อนหน่อยสิ นะครับ”อันตราได้แต่ส่ายหน้า และเดินมาแกะชามข้าวที่พึ่งมาส่ง เธอกำลังป้อนข้าวเขา ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ตะวัน มะปรางและเพื่อน ๆ ก็เดินเข้ามา จนทั้งคู่ไม่ทันตั้งตัว ภาวิชญ์เกือบสำลักเมื่อเห็นหน้าเพื่อน ๆ “โอ้โหไอ้วิชญ์ ป่วยแค่นี้ถึงกับแดกข้าวเองไม่ได้ พวกมึงดู ๆ อ้อนฉิบหายเลยว่ะ”“ไอ้เวร! เงียบไปเลย มาทำอะไรกันเยอะแยะ”“โธ่ไอ้เพื่อนเวร! กูกับปรางเป็นคนพามึงมาส่งโรงพยาบาล ยังไม่สำนึกอีก มีหน้ามาถามว่ามาทำไม ปรางดูสิ มันด่าพี่”ตะวันหันไปฟ้องมะปราง อันตราได้แต่ก้มหน้า เ
Comments