ใบข้าว talk
ทางด้านหญิงสาวที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกตัว เมื่อมีแสงแดดที่รอดผ่านรูม่านมากระทบที่เปลือกตา หญิงสาวหันไปมองทางด้านชายหนุ่มที่ได้ครั้งแรกของเธอไป เธอได้แต่นอนมองเขานิ่งๆ แม้จะสับสนอยู่ภายในใจว่าเธอกำลังทำอะไรลงไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอนั้นเป็นฝ่ายเริ่มที่จะเข้าหาฝ่ายชายก่อน ตอนที่เธอทำเธอเองก็พอมีสติสมควร ถึงจะไม่ได้รู้สึกมึนมากเหมือนช่วงแรกที่เดินออกจากคลับแต่ในกายเธอกับร้อนรุ่มดั่งมีกองไฟกองใหญ่สุ่มอยู่ภายในกายเธอ ในเมื่อเธอปล่อยให้เรื่องมันเกินเลยมาขนาดนี้แล้ว เธอก็ต้องยอมรับกับผลของมันให้ได้ เธอเองที่เห็นว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายนั้นหลับอย่างสนิทอยู่ เธอจึงค่อยๆ จับเอามือของเขาที่พาดไว้กับเอวคอดของเธอไว้ออกเบาๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างทุลักทุเล เพราะตอนนี้เธอรู้สึกว่ามันเจ็บมากๆ เจ็บกว่าตอนที่เขาพึ่งจะทำเสร็จใหม่ๆ เลยด้วยซ้ำ ทีตอนทำเธอไม่ยังกะรู้สึกเจ็บ ถ้าเจ็บตอนนั้นเธออาจจะบอกให้เขาหยุดหรือให้เขาทำเธอเบาๆ ลงกว่านี้อีกหน่อย หลังจากที่ลุกขึ้นมาได้แล้ว ใบข้าวก็เริ่มเดินไปเก็บชุดที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นโดยเป็นฝีมือของเธอเองนั่นแหละที่เป็นคนถอดออกไป เมื่อเก็บเสร็จแล้วก็ตรงเข้าไปที่ห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าที่ปลายเตียงเปิดดูเงินในกระเป๋าที่ตอนนี้มีติดตัวอยู่แค่200AUD (ประมาณ5000บาทไทย) เธอจึงหยิบเงินทั้งหมดวางไว้ที่หัวเตียงของชายหนุ่มและนำโทรศัพท์ของเขามาวางทับไว้ นี่เธอทั้งเนื้อทั้งตัวเลยน่ะเนี่ย จากนั้นเธอก็ค่อยๆ ย่องออกจากห้องเบาๆ เพื่อไม่ให้ทางด้านชายหนุ่มได้รู้สึกตัว แม้เธอจะไม่ได้รู้จักชื่อเขาก็ตาม แต่เธอจำใบหน้าของเขาที่ตราตรึงได้ ใบหน้าที่ดูเหมือนจะเคร่งๆ ขึมๆ แต่แอบติดความขี้เล่นหน่อยๆ ของเขา ยังคงติดตาและคงจะฝังอยู่ในใจเธอแบบนี้ไปจนไม่อาจสามารถที่จะลืมเลือน (ผู้ชายที่ได้ครั้งแรกของเธอไป) “ลาก่อนนะคะคุณ…..หวังว่าต่อจากนี้เราคงจะไม่ได้เจอกันอีก หรือถ้าเจอกันอีกฉันก็จะทำเป็นไม่รู้จักคุณนะคะ ลาก่อน” ใบข้าวได้แต่บอกลาผู้ชายคนนั้นอยู่ภายในใจ จากนั้นเธอก็รีบลงมาจากห้องชั้นบนสุด ที่เธอก็พึ่งรู้หลังจากที่ตัวเองเดินเข้าลิฟต์มา แต่ก็ไม่ได้ที่จะสนใจอะไรมาก ก่อนจะกดลิฟต์ไปชั้นที่จะเป็นเป้าหมายของเธอ ทันทีที่เข้าห้องมาหญิงสาวก็ชำระร่างกายอีกครั้งผลันหันไปมองกระจกตรงหน้าที่ตอนนี้ปรากฏรูปร่างของเธอที่เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำ เป็นจ้ำ ที่เขาฝากไว้ที่เธอไม่ว่าจะเนินอก หน้าท้อง หรือตรงต้นขาด้านใน แทบจะไม่เหลือพื้นที่สำหรับผิวขาวผ่องของเธอ ยิ่งคิดยิ่งหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชายคนนี้ร้อนแรงเป็นบ้า หลังจากชำระร่างกายเสร็จหญิงสาวก็เดินมาล้มตัวลงที่เตียงนอน ตอนนี้เธอง่วงมากๆ เพราะเธอตื่นหลังจากที่เขาเริงกิจกรรมสวาทกับเธอจนเกือบฟ้าสางไม่นาน เธอที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็รู้สึกถึงหนังตาที่หนักอึ้งก่อนจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงพร้อมกับสติที่ดับวูบไป ต่อมา ใบข้าวที่ตอนนี้กำลังนั่งจัดกระเป๋าอยู่ เพื่อที่จะเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทย หันไปมองนาฬิกา เหลืออีกประมาณสามชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะถึงเวลาไฟล์ทบิน พรืดดดดดด เสียงรูดซิปกระเป๋าบ่งบอกว่าเธอเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว ตอนนี้หญิงสาวได้ลากกระเป๋าสองใบโตเดินออกมาหน้าโรงแรมมารอรถที่จองไว้ให้ไปส่งที่สนามบิน ดีหน่อยที่เธอจองโรงแรมที่ใกล้สนามบินจึงไม่น้องนั่งรถนานๆ สนามบินนานาชาติซิดนีย์ คิงส์ฟอร์ด สมิธ (SYD) ใบข้าวเดินไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์โหลดกระเป๋าอะไรเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะไปหาอะไรกินรองท้องก่อนที่เครื่องจะออก “ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ สายการบินXXX เที่ยวบินที่XXX พร้อมที่จะออกเดินทางไปยังท่าอากาศ ขอเรียนเชิญผู้โดยสารทุกท่านขึ้นเครื่องได้ ณ ประตูทางออกหมายเลข7 ขอบคุณค่ะ Attention please,……..” หญิงสาวที่ได้ยินเสียงประกาศของสายการบินเธอก็เดินไปที่ประตูทางออกทันที ขากลับใบข้าวจองที่นั่งแบบbusiness classไว้ เพราะเธอชอบความสะดวกสบายของชั้นบินนี้อีกทั้งยังมีความส่วนตัวมากพอสมควร หญิงสาวที่เลือกเมนูอาหารกับพนักงานบริการบนเครื่องบินพร้อมทั้งบอกเวลาเสิร์ฟเรียบร้อยแล้วก็ลมตัวนอนลงทันทีและปิดประตูกั้นระหว่างช่องที่นั่ง ด้วย ความเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมเริงสวาทกับชายหนุ่มเมื่อคือบวกกับมานอนที่ห้องพัก รวมๆ แล้วหญิงสาวนอนไปได้แค่สามชม.นิดๆ ทางด้านใบข้าวที่คิดอะไรเพลินๆ ก็เลือกที่ตะปิดเปลือกตารับความผ่อนคลายลงในทันที ลูคัส talk ทางด้านชายหนุ่มที่รู้สึกว่าวันนี้เขาหลับได้สนิทเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะหญิงสาวเมื่อคืนที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวบวกกับความนุ่มนิ่มของร่างกายอันเย้ายวนนั้นมันยังตราตรึงจนเขาแทบจะไม่อย่างลืมสัมผัสที่เขากับเธอมอบให้กันและกัน ยิ่งได้นอนกอดหญิงสาวและหลับไปพร้อมๆ กันด้วยแล้วเขายิ่งคิดก็ยิ่งอารมณ์ดี มือก็เริ่มที่จะควานหาร่างกายอันแสนจะนุ่มนิ่มของสาวสวยเมื่อคืน แต่กับคว้าได้แค่ที่นอนที่ว่างเปล่า เมื่อรู้สึกได้ดังนั้นเขาก็เด้งตัวออกจากที่นอนทันที อุณหภูมิที่นอนที่เขาสัมผัสบ่งบอกว่าเธอลุกออกจากที่ตรงนี้ไปนานพอสมควรแล้ว ในเมื่อเธอไม่อยู่รอที่จะคุยกับเขา เขาก็ไม่ได้คิดจะใส่อะไรมาก เพราะปกติคู่นอนสำหรับไม่มีสิทธิ์ที่จะร่วมหลับนอนรวมกับเขา แค่ทำเรื่องอย่างว่าเสร็จก็จ่ายเงิน ทุกอย่างก็จบ แต่ในเมื่อเธอคนนั้นไม่รอที่จะรับเงินเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร หลังจากชายหนุ่มคิดได้ดังนั้นจึงวาดขาลงจากเตียงและเดินตรงไปที่ห้องน้ำทันที 30นาทีต่อมา ลูคัสชำระร่างกายเสร็จก็แต่งตัวด้วยโทนสีดำทั้งหมด หลังจากที่แต่งตัวเสร็จก็พร้อมที่จะออกไปทำงานแล้ว เขาเดินไปที่หัวเตียงเพื่อจะเอาโทรศัพท์ เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็มีอะไรบางอย่างปลิวร่วงลงไปอยู่ที่พื้นตรงเท้าของเขา “...........” ชายหนุ่มที่เห็นกระดาษนั้นแล้ว ก็ขมวดคิ้วทันที เงินอย่างนั้นหรอ เขาไม่เคยคิดที่จะพกเงินสดติดตัวเลยด้วยซ้ำ เพราะปกติมีบัตรไว้ใช้จ่ายไม่จำกำวงเงินอยู่แล้ว ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงหยิบธนบัตรขึ้นมาทันที “200 อย่างนั้นหรอ” “นี่ฉันได้ค่าตัวจากเธอเพียงแค่200เองหรอ” ทันทีที่เขาเข้าใจว่าธนบัตรนี่มาจากไหนก็คงจะไม่พ้นหญิงสาวที่เขานอนด้วยเมื่อคืนอย่างแน่นอน ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เขาไม่ใช่ผู้ชายอย่างว่าน่ะ เป็นเขาสิ ต้องเป็นเขาสิ ที่ควรจะเป็นฝ่ายให้เงินกับหญิงสาว เขากำธนบัตรไว้แน่น หน้าตอนนี้เริ่มยับยู่ยี่ไปหมด ให้ไปทั้งคืนจนตัวเขาแทบหมดน้ำได้แค่200 ยิ่งคิดยิ่งโมโห “อย่าให้เจอกันอีกน่ะแม่หนูน้อย ฉันล่อเธอไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันไปเลย ข้อหาว่าเขามีค่าตัวแค่นี้”"ปะป๊า!!!""ปะป๊า!!!""ปะป๊า!!!""ปะป๊า!!!" ประตูห้องทำงานชั้นบริหารถูกผลักเข้ามาอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงอันทรงพลังและฝีเท้าทั้งสี่ที่วิ่งตรงมาที่โต๊ะทำงานของลูคัสที่กำลังนั่งทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ผู้ที่เปิดประตูห้องยังไม่ได้รับอนุญาตจากลูคัสคนแรกประเดิมด้วยพี่ใหญ่อย่างน้องลิต้า เด็กหญิงขวัญข้าว โบลโซเวอร์ พี่คนที่สองอย่างน้องลินา เด็กหญิงอารียา โบลโซเวอร์ พี่คนที่สามอย่างน้องลิสา เด็กหญิงอลิชา โบลโซเวอร์ และน้องสุดท้องอย่างน้องลูติน เด็กชายอชิรา โบลโซเวอร์ ตามลำดับไม่ต้องสงสัยว่าทำไมนามสกุลของน้องลิต้าถึงเปลี่ยนจากนามสกุลปัทมกุล มาเป็นนามสกุลโบลโซเวอร์ เพราะวันที่มัมของเขาได้คิดชื่อให้เด็กทั้งสามคนเสร็จแล้วก็เรียกคนจากอำเภอให้มาเปลี่ยนชื่อนามสกุลของทั้งใบข้าวและน้องลิต้าให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อที่จะได้มาเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างไม่มีข้อแม้ ซึ่งใบข้าวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใดจึงทำให้ทั้งสองได้เปลี่ยนนามสกุลมาเป็น โบลโซเวอร์ แต่โดยดี"โอ้โห~ คิดถึงจังเลยครับมาให้ปะป๊าหอมหน่อยเร็ว " เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนผลักประตูเข้ามาลูคัสก็วางงานตรงหน้าลงทันทีพร้อมกับลุกจากเก้าอี้มานั่งยองๆรอเด็
"คุณแม่!!! ปะป๊า!!!" "ชู่ววว เบาๆลูกเดี๋ยวน้องๆหนูตกใจนะ" ตอนนี้เธอกำลังให้นมลูกคนสุดท้ายอยู่บนเตียงคนไข้ อยู่ดีๆประตูก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของน้องลิต้าและเสียงตะโกนดังโหวกโวยวายที่มาก่อนตัวนั้นทำให้เธอที่กำลังตั้งใจให้นมลูกอยู่ก็แอบสะดุ้งโหยงอยู่เหมือนกัน "ไหนน้องหรอคะคุณแม่" ลิต้าที่ได้ยินว่าน้องกำลังหลับอยู่ก็รีบวิ่งตรงไปที่เตียงของใบข้าวพร้อมกับเขย่งเท้ายืดคอพยายามมองน้องที่กำลังดูดนมจากเต้าของใบข้าวอยู่"นี่จ้ะ หนูเห็นไหมลูก" ใบข้าวก็พยายามที่จะก้มให้น้องลิต้าดูใบหน้าของเด็กชายตัวน้อยที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาดูดนมจากเต้าของเธอยังไม่ได้สนใจใคร"ลิต้ามาดูน้องๆกับพ่อสิครับ มานี่มาน้องอยู่นี่ตั้งสองคน" เพราะว่าเห็นเมียตัวเองฝืนร่างกายพยายามที่จะก้มเอาตัวลูกชายให้น้องลิต้าดูก็กลัวว่าเมียจะเจ็บแผลเลยต้องรีบเรียกให้น้องลิต้ามาดูน้องๆทั้งสองคนที่ตัวเองกำลังเอานอนบนรถเข็นอยู่ แทนที่จะให้ใบข้าวฝืนก้มลงมาต่อเพราะกลัวจะเป็นอันตรายกับแผลที่พึ่งจะผ่าคลอด"ค่าาาาาา" เมื่อเห็นว่าทางของปะป๊าของตัวเองมีน้องอยู่ตั้งสองคน น้องลิต้าก็รีบวิ่งมาดูน้องๆที่ตรงโซฟาของญาติผู้ป่วยทันที ทำให้ใบข้าวหันกลับไปสนใ
"อื้อ~" "เป็นยังไงบ้างครับที่รัก หนูโอเคไหม" ลูคัสที่นั่งรอเมียคนสวยตื่นจากการคลอดสามแฝดอยู่ตรงโซฟาก็รีบเด้งตัวออกจากโซฟามาหาใบข้าวที่เตียงผู้ป่วยทันที ตั้งแต่ออกจากห้องคลอดใบข้าวก็ยังหลับอยู่ต่อประมาณสามชั่วโมง ซึ่งช่วงนี้ก็เริ่มเย็นแล้วส่วนน้องลิต้าพ่อกับแม่ของเขาเป็นคนอาสาออกไปรับให้เอง"แค่กๆ ลูกล่ะคะเฮีย ลูกเราเป็นยังไงบ้าง" ทันทีที่ใบข้าวตื่นมาก็ร้องเรียกหาลูกน้อยที่ตัวเองเพิ่งคลอดออกจากท้องไปทันที เพราะหลังจากที่เธอคลอดสามแฝดเสร็จแล้วเธอก็รู้สึกเหนื่อยรู้สึกเพลียจนตัวเองเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เจอแต่เพดานสีขาวและเฮียลูคัสที่นั่งรอเธออยู่บนโซฟาโดยที่ทั้งห้องไม่มีแม้แต่เสียงเด็กร้อง เธอจึงรีบถามหาลูกแฝดทั้งสามของตัวเองทันที"ลูกๆของเรายังอยู่ที่ห้องเด็กแรกเกิดครับที่รัก เดี๋ยวอีกสักพักพยาบาลน่าจะมาส่งลูกๆของเราแล้วล่ะ" เพราะก่อนหน้านี้พยาบาลเปิดมาดูอาการของใบข้าวก็พบว่าเธอยังไม่ตื่นจากฤทธิ์ของยาสลบ เลยบอกว่าถ้าใบข้าวตื่นให้กดกริ่งเรียกได้เลยเดี๋ยวพยาบาลจะนำลูกแฝดทั้งสามมาส่งให้ที่ห้องเองเพราะว่าต้องเอาเด็กๆเข้าเต้าคุณแม่ก่อน"งั้นหรอคะ~" ใบข้าวหน้าจ๋อยลงทันทีที่
ตึก ตึก ตึก ตึก"ตาลูค!!! หนูข้าวคลอดหรือยังลูก" คุณหญิงดารารัตน์และคุณเอเธนส์รีบต่อเครื่องตรงมาที่กรุงเทพฯทันทีหลังจากที่ได้รับสายโทรศัพท์จากลูกชายสุดที่รักว่าหนูใบข้าวจะคลอด เมื่อมาถึงสนามบินคุณหญิงก็ไม่รีรอที่จะเรียกรถให้ตรงมาที่โรงพยาบาลทันทีโดยไม่ได้แวะพักที่ไหน เมื่อมาถึงก็เห็นลูกชายตัวโตของเขานั่งกุมหัวเครียดอยู่หน้าห้องคลอด"ยังเลยครับมัม แต่ว่าเมียผมเข้าไปนานแล้วไม่รู้ว่าด้านในเป็นยังไงบ้าง ผมเป็นห่วงเมียกับลูกผมครับ" ตอนนี้ลูคัสรู้สึกกังวลไปหมดทุกสิ่งอย่าง เพราะด้วยครรภ์ที่เมียตัวเองตั้งนั้นเป็นครรภ์แบบที่ต้องดูแลพิเศษ ซึ่งต้องผ่าคลอดเพราะว่าถ้าคลอดธรรมชาติคุณหมอที่ทำคลอดก็กลัวว่าคนเป็นแม่จะหมดแรงก่อนที่ลูกจะออกมาครบหมดทุกคน "อย่ากังวลไปเลย เมียแกและลูกแกจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน ไว้ใจหมอและปล่อยให้หมอทำให้ดีที่สุดเถอะ" คุณเอเธนส์คนเป็นพ่อรีบเข้ามาปลอบลูกชายที่กำลังทำหน้าเคร่งเครียดอยู่หน้าห้องคลอด ซึ่งเขาผ่านการเป็นพ่อคนมาก่อนเขารู้ดีว่าในใจของลูกชายตอนนี้นั้นมันกลัวและกังวลมากแค่ไหน เพราะมันไม่ต่างจากตอนที่เขามานั่งหน้าเครียดอยู่หน้าห้องคลอดในเมื่อก่อนเหมือนกัน "แต่ผมอยาก
' ข้าพเจ้า ลูคัส บลูโซเวอร์ ขอรับคุณ ลลิตา ปัทมกุล เป็นภรรยาและขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่ข้าพเจ้า ลลิตา ปัทมกุล ขอรับคุณ ลูคัส บลูโซเวอร์ลลิตา ปัทมกุล เป็นสามีและขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่ '"เฮียเมื่อไหร่จะเลิกดูคลิปนี้กันคะ" ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินตรงมาที่เตียง ก็เห็นเฮียเขากำลังนั่งดูคลิปวีดีโองานแต่งงานของเราทั้งสองคนที่จัดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว "ที่รักเฮียอยากแต่งงานอีกรอบจังเลย เราแต่งงานกันไหมครับ" ลูคัสเงยหน้าขึ้นจากไอแพดที่กำลังเล่นวีดีโองานแต่งงานของทั้งสองมาพูดกับใบข้าวด้วยใบหน้าจริงจัง"พอแล้วค่ะเฮีย แต่งครั้งเดียวก็พอมันเปลืองเงิน" นั่นแหละหลังจากที่ผ่านวันนั้นมาเขาก็ขอเธอแต่งงานแทบจะทุกวัน ไม่รู้ไปติดใจอะไรกับงานแต่งงานนักหนา"หงึ~" เมื่อโดนฉันปฏิเสธไปเฮียเขาก็สะบัดหน้าหนีฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"ถ้าเฮียงอนข้าว เฮียก็อดกินมะม่วงดองนะคะ" ฉันพูดเสร็จก็ทำท่ายกจานมะม่
"งั่มๆๆๆๆ ปะป๊าขอกุ้งอีกค่าาา~" นี้พวกเราทั้งสามคนมานั่งกินอาหารซีฟู้ดกันที่ร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง โดยที่ลูคัสคุณพ่อลูกสี่ต้องคอยบริการเจ้าหญิงทั้งสองคน คนหนึ่งก็จะกินกุ้งอีกคนหนึ่งก็จะกินปู จนเขานี้แทบจะแกะไม่ทันตามความต้องการของทั้งสองแล้ว "แป๊บนะครับลูก ปะป๊าขอแกะปูตัวนี้ให้คุณแม่ก่อนนะครับ" "โอเคค่า~ งั่มๆๆ" เมื่อทำท่าโอเคใส่คนเป็นพ่อเสร็จแล้วน้องลิต้าก็ลงมือกินข้าวผัดตรงหน้ารอกุ้งไปก่อน "เฮียไม่ต้องแกะแล้วก็ได้ค่ะ ถ้าเฮียเอาแต่แกะให้พวกเราทั้งสองคนนี้เฮียจะไม่ได้กินข้าวนะคะ" ที่จริงเธอก็ขอเป็นคนแก่ปูเองตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็เป็นเขานั่นแหละที่ไม่ยอมให้เธอทำ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขายังจะไม่ได้กินข้าวสักคำเลยด้วยซ้ำ "โอเคครับเดี๋ยวเฮียจะแกะตัวนี้เป็นตัวสุดท้ายแล้วครับ" ถ้าเขาขัดใจเมียไปเดี๋ยวก็ได้งอนกันอีก เธอจำเป็นต้องละเมอจากการแกะปูแกะกุ้งให้ทั้งสองก่อน และเรียกเด็กเสริฟร้านมาแกะให้พร้อมกับทิปแบบจัดหนัก "กินนี่สิคะ" ใบข้าวที่ทนรอให้สามีตัวเองกินข้าวช้าไม่ไหว ก็ตักข้าวผัดที่มีเนื้อปูที่เขาแกะให้เธอใส่ช้อนพร้อมกับยื่นไปจ่อที่ปากของเขาเป็นแกมบังคับ "กินสิคะเฮีย เฮียไม่รักข้าวแล้