“อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
View Moreณ สนามบินสุวรรณภูมิ
ร่างอันอวบอัดของ “มีน มารียา เวทติวัตร” กำลังย่างกายออกมาจากอาคารผู้โดยสารในประเทศพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หลังจากที่เธอไปทำงานเป็นไกด์ที่ภาคใต้เกือบสองเดือน เพราะทางลูกค้าลงไปดูงานที่นั่นจนเธอนั้นปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย จนกระทั่งเสร็จภารกิจนี้เธอถึงได้กลับมาทำงานที่กรุงเทพตามปกติ
“มีน…จะกลับยังไง….ให้พี่ไปส่งไหม เดี๋ยวสามีของพี่มารับ” ลูกปลารุ่นพี่ที่ไปทำงานด้วยกันเอ่ยถามมารียาอย่างมีน้ำใจ เพราะเด็กสาวนิสัยก็ค่อนข้างจะน่ารักเลยทีเดียว
“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลูกปลา พอดีแฟนของมีนบอกว่าจะมารับน่ะค่ะ ขอบคุณที่ชวนนะคะ” มารียาพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะแฟนหนุ่มของเธอได้อาสามารับเธอในวันนี้แล้ว
“หูย…คุณปรมินทร์นี่น่ารักกับเราตลอดเลย…คอยรับคอยส่งแบบนี้สงสัยอีกไม่นานมีนคงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้แล้วมั้งเนี่ย…” ลูกปลาเอ่ยแซวออกไป เพราะแฟนของมารียานั้นเป็นลูกค้าของบริษัทที่พวกเธอเคยทำงานให้ จนทำให้เขาเจอกับมารียาจนสานสัมพันธ์กันมาจนถึงตอนนี้
“ไม่มีหรอกค่ะพี่…อย่าแซวมีนเลยค่ะ เรื่องข่าวดีของมีนกับพี่ปาล์มคงอีกนานเลยล่ะค่ะ เราพึ่งคบกันได้ปีเดียวเองค่ะ…” มารียาพูดตอบไป เพราะเธอกับปรมินทร์กำลังคบกันได้แค่ปีเดียวเอง และเธอกับเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเท่าไหร่ ต่างคนก็ต่างทำงาน จะเอาข่าวดีที่ไหนมาล่ะ
“อืม…จะกี่ปีถ้าคนมันใช่จะช้าจะเร็วยังไงมันก็ต้องได้แต่งงานแหละ ดูอย่างพี่สิ คบกับสามีแค่หกเดือนเองพวกพี่ก็แต่งงานกันแล้ว พวกพี่ยังรักกันมาได้เป็นสิบๆปีเลย” ลูกปลาพูดออกไปด้วยรอยยิ้มออกไป
“ที่รัก…ผมอยู่ทางนี้….” เสียงของนพคุณสามีของลูกปลาเอ่ยเรียกภรรยาด้วยน้ำเสียงดีใจ
“สามีพี่มารับแล้ว งั้นพี่ไปก่อนนะมีน ไว้เจอกันที่ทำงานนะ บ้ายบาย” ลูกปลาพูดบอกไปก็ยิ้มให้มารียาไป
อย่างอบอุ่น ก่อนจะรีบเข็นรถเข็นกระเป๋าไปยังรถของสามีที่จอดอยู่มุมด้านหน้านั้นทันที “เฮ้อ….แล้วนี่พี่ปาล์มอยู่ไหนเนี่ย ทำไมยังไม่มาอีกนะ เมื่อวานเราก็บอกแล้วนิว่าเราจะถึงกี่โมง…”มารียาพูดบ่นไปก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาแฟนหนุ่มทันที แต่เขาก็ไม่รับสายของเธอเลย ทำให้เธอนั้นโทรซ้ำๆอยู่หลายรอบทีเดียว
“ทำอะไรของเขาอยู่นะ ทำไมไม่รับสายเลยเนี่ย…ถ้าไม่ว่างก็น่าจะบอกกันหน่อย พี่ปาล์มนะพี่ปาล์ม เจอตัวแล้วต้องบ่นหน่อยแล้ว ” มารียาพูดบ่นออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะปรมินทร์มักจะมีงานรัดตัวแบบนี้เสมอ จากนั้นเธอก็เลือกที่จะเข็นรถออกไปทางแท็กซี่ที่พึ่งส่งผู้โดยสารลงไปก่อนหน้านี้ทันที เพราะโทรไปไม่รับแบบนี้เธอก็ไม่ควรจะรอเขาอยู่ตรงนี้ต่อไป
“พี่คะ ไปคอนโดเทอมินาร์ดหนึ่งเก้าที่สุขุมวิทค่ะพี่” มารียาพูดบอกไปเพราะนั่นเป็นคอนโดที่เธออาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ และก็มีมุกดาน้องสาวต่างแม่ของเธออาศัยอยู่ด้วยอีกคนเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่น้องสาวเรียนอยู่
“ได้ครับ เชิญคุณรถเลยครับ เดี๋ยวผมยกกระเป๋าให้เองครับ…” คนขับแท็กซี่บอกไปก็เข้าไปเข็นรถกระเป๋าไปไว้ใกล้ๆท้ายรถ แล้วเขาก็รีบขนกระเป๋าของลูกค้าใส่ท้ายรถทันที ส่วนมารียาก็เปิดประตูรถจะเข้าไปนั่ง แต่ดันมีกระเป๋าสะพายเล็กๆวางอยู่ที่เบาะ
“พี่คะ นี่กระเป๋าของผู้โดยสารที่พึ่งลงไปหรือเปล่าคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปแล้วหยิบกระเป๋านั้นขึ้นมาให้พี่คนขับแท็กซี่ดู
“อ่อ ใช่แล้วครับ…ของฝรั่งแขกสองคนนั้นแน่ๆเลย เขาพึ่งลงไปเมื่อกี้เลยครับ นั่นไงครับ ที่ใส่เสื้อสีขาวกับสีดำที่เดินเข้าไปตรงนั้นไงครับ…” หนุ่มแท็กซี่พูดออกไปแล้วหันไปมองหาผู้โดยสารที่พึ่งลงจากรถของเขาไปเมื่อกี้แล้วรีบชี้ให้หญิงสาวดูทันที
“งั้นพี่รอตรงนี้แปปนึงนะคะ เดี๋ยวหนูจะเอากระเป๋านี่ตามไปให้เขาแปปนึง…” มารียาหันไปมองตามแล้วก็เจอเจ้าของกระเป๋าแล้ว เธอจึงรีบเอ่ยบอกไปแล้วรีบวิ่งเข้าไปด้านในอีกครั้ง ก่อนจะถือกระเป๋าสะพายเล็กนี่ตรงไปหาผู้ชายสองคนนั้นอย่างเร่งรีบ
“คุณคะ…คุณคะ โอ๊ย…” มารียาเข้าไปเรียกผู้ชายที่ใส่เสื้อสีขาวแล้วทำท่าจะเอามือแตะที่แขนของเขา แต่เขากลับหันมาแล้วเอามือจับแขนของเธอแล้วบิดอย่างแรงจนเธอเจ็บจนต้องร้องออกมา ก่อนจะมองหน้าของชายตรงหน้าที่ทำร้ายเธออย่างเอาเรื่อง
และแล้วมารียาก็ต้องทำหน้าอึ้งออกมาทันทีเมื่อได้เห็นหน้าหล่อๆที่คมเข้มของเขา จมูกเป็นสัน คิ้วดกดำ หนวดเคราเป็นทรงอย่างสะอาดสะอ้าน นี่ขนาดใส่แว่นตานะเนี่ย ยังโคตรหล่อเลย แถมกลิ่นตัวก็โคตรหอม พวกแขกขาวนี่หน้าตากินขาดจริงๆ มารียาคิดในใจอย่างอดไม่ได้
ด้านเศรษฐีหนุ่มอย่าง “ฮัสลาน ราเชด บรูฮัมนี” ก็หันมามองหญิงสาวที่เข้ามาใกล้ชิดเขาด้วยสายตาจดจ้องผ่านแว่นตาสีดำนี่ แล้วเขาก็มองอย่างพิจารณาว่าเธอจะเข้ามาหาเขาเพราะอะไร แต่แม่ง ผู้หญิงคนนี้โคตรสวยเลย
“โอ๊ย…คุณ…ปล่อยฉันก่อน…ฉันแค่จะเอากระเป๋าของคุณมาให้…คุณลืมไว้ในแท็กซี่ที่คุณลงมาเมื่อกี้…อือ…” มารียาร้องไปแล้วก็พูดภาษาอังกฤษออกไปอย่างชัดเจน ว่าเธอนั้นตั้งใจจะเอากระเป๋ามาคืนเขา ทำให้เขานั้นรีบปล่อยมือของเธออย่างรวดเร็ว
“กระเป๋าของนายจริงๆด้วยครับ…” อาลีลูกน้องคนสนิทของฮัสลานเอ่ยพูดบอกไป เมื่อเห็นเธอถือกระเป๋าของเจ้านายของเขาอยู่จริง
“ผมขอโทษ..ผมไม่ได้จะทำร้ายผู้หญิง ผมคิดว่าคุณจะเข้ามาทำร้ายผม ผมก็เลยป้องกันตัวอัตโนมัติ” ฮัสลานพูดออกไปแบบรู้สึกผิด เพราะเธอถือกระเป๋าของเขาอยู่ในมือจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ไม่ระวังเหมือนกัน…เอากระเป๋าของคุณไปสิคะ…”มารียาพูดออกไปแล้วเอามือจับที่ข้อมือของตัวเองแบบระคายเคืองแบบปวดๆ เพราะเขาเล่นบีบซะแรงเลย ข้อมืออวบๆของเธอเลยเจ็บแปลบๆเลยทีเดียว
“ขอบคุณครับ…อ่อ เดี๋ยวผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไป เพราะเธอยังจับข้อมืออยู่แบบนั้นทำให้เขาคิดว่าเธอน่าจะเจ็บอยู่
“อ่อ ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้เองไม่จำเป็นต้องไปหาหมอหรอกค่ะ ฉันขอตัวนะคะ พอดีให้พี่แท็กซี่เขารออยู่ข้างนอกน่ะค่ะ” มารียาพูดตอบไปแบบเขินๆอย่างงงๆ ก่อนจะรีบชิ่งหนีเพราะอยู่ต่อหน้าผู้ชายหล่อๆแบบนี้แล้วใจคอไม่ดีเลย
“ครับ…ขอบคุณมากนะครับ…” ฮัสลานพูดบอกไปก็มองหญิงสาวแล้วยิ้มมุมปากให้อย่างขอบคุณ ก่อนจะมองเธอยิ้มตอบเขามาแล้วก็หันหลังเดินออกไป เขาก็มองตามด้วยรอยยิ้มมุมปาก เพราะไม่คิดว่าจะเจอคนสวยใจดีแบบนี้ด้วย
“สวยแล้วยังใจดีอีกนะครับนาย…เงินในกระเป๋าเป็นตับๆแต่เขากลับวิ่งเอามาคืนให้เรา ” อาลีพูดออกไปแล้วมองด้วยรอยยิ้มที่เธอมีน้ำใจขนาดนี้
ฮัสลานก็มองตามเธอไปแล้วก็ยิ้มมุมปากออกมา ก่อนจะหันมามองลูกน้องของเขาที่มองตามเธอด้วยสายตาหวานเยิ้ม เขาก็มองด้วยสีหน้าหมั่นไส้ทันที
“พรึบ…อ่ะเอาไป ต่อไปก็อย่าสับเพร่าลืมกระเป๋าอีก ไม่มีคนสวยใจดีให้นายบ่อยๆหรอกนะอาลี ป่ะ ไปกันได้แล้ว” ฮัสลานพูดไปก็เอากระเป๋าโยนใส่ลูกน้องของเขา ก่อนจะรีบเดินเข้าไปเชคอินกับพนักงาน เพราะเขาต้องรีบขึ้นเครื่องบินไปคูเวตด่วน เพราะงานที่นั่นกำลังมีปัญหาใหญ่
ด้านมารียาก็รีบกลับไปขึ้นแท็กซี่แล้วเธอก็เดินทางกลับไปที่คอนโดของเธอ แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พร้อมกับภาพของกวินตาลูกสาวของแม่เลี้ยงของเธอ ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นน้าของเธอด้วย เพราะพอแม่ของเธอตายพ่อก็เอาน้องเมียมาเป็นเมียเลย
“พี่กวาง…มีนว่าถ้ากลับถึงห้องจะโทรหาพี่กวางพอดีเลยค่ะ…มีอะไรหรือเปล่าคะ” มารียารับสายแล้วเอ่ยพูดทักทายพี่สาวไป
“เปล่า พี่ก็แค่จะโทรมาถามเราว่ากลับถึงกรุงเทพหรือยังเท่านั้นเอง” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเป็นห่วงน้องสาว
“ถึงเมื่อกี้เองค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่นั่งรถแท็กซี่ไปที่คอนโดอยู่ค่ะ…แล้วทำไมวันนี้พี่กวางตื่นเช้าจังเลยคะเนี่ย ที่ดูไบมันพึ่งจะแปดโมงเองนะคะ” มารียาเอ่ยถามไปเพราะดูไบเวลาจะช้ากว่าไทยสามชั่วโมง
“คุณจาซุสเขาไม่อยู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอดีธุรกิจน้ำมันที่คูเวตมีปัญหาน่ะ เขากับหุ้นส่วนก็เลยต้องบินไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นน่ะ พี่ก็เลยว่างทั้งวันเลย…อ่อ…พี่ลืมไปเลย เมื่อวานพี่จ่ายค่าคอนโดงวดสุดท้ายให้แล้วนะ เดี๋ยวเข้าไปเอาเอกสารที่นิติบุคคลด้วย พี่ให้เขาโอนเป็นชื่อของมีนแล้ว” กวินตาพูดบอกน้องสาวไป เพราะหน้าที่ของเธอคือดูแลจาซุส มหาเศรษฐีหนุ่มที่ซื้อตัวเธอมาเป็นสาวใช้คอยบำเรอให้เขาตามที่เขาต้องการ ซึ่งมันก็ได้เงินมากพอที่จะทำให้เธอส่งเสียให้คนที่บ้านได้แบบสบายๆ แม้กระทั่งคอนโดที่น้องสาวทั้งสองคนอยู่ เธอก็เป็นคนซื้อให้
“ทำไมโอนเป็นชื่อมีนล่ะคะ” มารียาเอ่ยถามออกไปอย่างแปลกใจ ที่กวินตาโอนเป็นชื่อของเธอ
“ก็พี่ซื้อให้มีนไง เอาไปเถอะ เพราะกว่าคุณจาซุสเขาจะเบื่อพี่ พี่ก็คงจะผ่อนบ้านที่ไทยได้อีกสักหลังแล้วล่ะ แล้วก็คงจะมีเงินกลับไปตั้งตัวที่ไทยสักก้อน…” กวินตาพูดออกไปแบบไม่รู้เลยว่าเธอจะถูกเขี่ยทิ้งวันไหน ที่แน่ๆตอนนี้กอบกวยได้เธอก็ต้องรีบ
“แต่นี่ก็ปีกว่าแล้วนะคะที่พี่อยู่กับเขามา บางทีคุณจาซุสเขาอาจจะรักพี่กวางก็ได้นะคะ ไม่งั้นเขาก็คงจะปล่อยพี่ไปนานแล้ว ” มารียาพูดไปความความคิดของเธอ เพราะตอนแรกที่เธอรู้ว่าพี่สาวไปเป็นนางบำเรอของมหาเศรษฐีคนนี้เธอก็ไม่ได้สนับสนุนเลยสักนิด แต่มันเป็นทางที่พี่สาวของเธอเลือกแล้ว เธอก็ต้องเคารพการตัดสินใจของกวินตา
“ต่อให้เขารักพี่ยังไง พี่ก็เป็นได้แค่นางบำเรอของเขาเท่านั้นแหละ พี่เป็นคนต่างชาติต่างศาสนากับเขา ครอบครัวของเขาไม่มีทางยอมรับพี่หรอก ถ้าวันหนึ่งเขาแต่งงานพี่ก็ต้องไป…ตอนนี้อายุของเขามันถึงช่วงที่ต้องแต่งงานแล้ว ไม่นานครอบครัวของเขาก็คงจะหาผู้หญิงมาแต่งงานกับเขาแล้วล่ะ…” กวินตาพูดออกไปด้วยเสียงเศร้า เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่จะแต่งเมียคนแรกเป็นชาวดูไบหรือมุสลิมด้วยกันเอง ส่วนน้อยที่จะแต่งงานกับคนต่างชาติ ยิ่งพวกเศรษฐีแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะส่วนใหญ่ก็แต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัวทั้งนั้น
“อย่าเข้าดราม่าแบบนี้สิคะพี่กวาง เรื่องมันยังไม่เกิดขึ้นอย่างพึ่งคิดไปไกลสิคะ” มารียาพูดบอกไปเพื่อให้พี่สาวสบายใจ
“พี่ก็แค่เผื่อใจไปก็เท่านั้นเอง…เวลาเจอสถานะการณ์นั้นจริงๆจะได้ทำใจได้ไง…พี่ไม่โชคดีแบบเราหรอก ที่มีแฟนเป็นถึงผู้บริหารสุดหล่อน่ะ” กวินตาพูดไปก็แอบแซวน้องสาวไปเพื่อไม่ให้ตัวเองเศร้าใจไปมากกว่านี้
“เฮ้อ…อย่าพูดถึงพี่ปาล์มเลยค่ะ เมื่อวานบอกว่าจะมารับมีน วันนี้กลับหายเงียบไปเลย ไม่รู้ว่าติดงานหรือว่าไปติดสาวที่ไหนกันแน่…สองเดือนมานี้ยิ่งคุยกันน้อยๆอยู่ด้วย จะคบกันรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยค่ะพี่กวาง” มารียาพูดบ่นไปอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอเองก็ยุ่ง เขาเองก็ยุ่ง จะโทษใครก็ไม่ได้
“เอาน่า คบกันมาจะหนึ่งปีแล้วก็ต้องรอดแล้วล่ะ รักเขาแล้วก็อดทนหน่อยสิเราน่ะ” กวินตาพูดบอกไปแบบให้กำลังใจน้องสาว
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ วันนี้คบรอบหนึ่งปีที่คบกันแล้วด้วย…ถ้าพี่ปาล์มลืมล่ะก็ เป็นเรื่องแน่ค่ะ” มารียาพูดบอกพี่สาวไป จากนั้นเธอก็พูดเม้าท์กับพี่สาวไประหว่างที่เดินทางไปที่คอนโดของเธอ
ณ คอนโดของมารียา
ภายในห้องก็ถูกจัดด้วยช่อกุหลาบสีขาวสลับกับสีแดงสดและที่พื้นก็มีกลีบกุหลาบสีขาวโรยไว้อย่างสวยงาม ก่อนจะมีกล่องสีขาวใหญ่ๆตั้งอยู่ที่กลางห้องพร้อมกับมีลูกโป่งลอยละล่องอยู่ที่เพดานแล้วมีริบบิ้นห้อยลงมาเป็นเส้นสายอย่างสวยงาม
“พี่ปาล์มทำเซอร์ไพร์สให้พี่มีนขนาดนี้ ไม่คิดว่ามุกจะน้อยใจบ้างเหรอคะ” มุกดาเอ่ยถามออกไปแล้วค่อยๆเข้าไปหาปรมินทร์ที่จัดเตรียมห้องไว้เซอร์ไพร์สมารียากลับมาซะจนเธออดอิจฉาไม่ได้เลย
“เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอมุก…เอามือออกไป…เดี๋ยวพี่ต้องไปรับมีนเขาที่สนามบิน” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยเสียงเข้มก็เอามือของเขาไปจับมือของมุกดาออกไปด้วยสีหน้านิ่งๆ
“จะรีบไปรับทำไมล่ะคะ กว่าพี่มีนจะมาถึงก็อีกตั้งชั่วโมงสองชั่วโมงนู้นล่ะมั้งคะ มุกว่าพี่ปาล์มมาเอาใจมุกก่อนดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นมุกก็ไม่รับประกันว่ามุกจะเผลอพูดเรื่องของเราสองคนตอนไหน” มุกดาพูดออกไปแล้วก็ยิ้มมุมปากใส่ปรมินทร์ไปอย่างเจ้าเล่ห์
“เลิกขู่พี่สักทีเถอะมุก เรื่องของเราสองคนมันเกิดขึ้นก็เพราะความเมา ความเข้าใจผิดทั้งนั้น พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น” ปรมินทร์พูดบอกไปด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะถ้าคืนนั้นเขาไม่เมาและมาที่นี่ เขาก็คงไม่เผลอตัวไปหลับนอนกับมุกดา จนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้หรอก
“แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว แล้วหลังจากคืนนั้นพี่ปาล์มก็มานอนกับมุกตลอดเลยนิคะ ทำไมคะ แค่พี่มีนจะกลับมาแค่นี้ พี่ปาล์มคิดจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วเหรอคะ พี่มีนเขาจะรู้ทำหน้ายังไงนะคะ ถ้าเขารู้ว่าแฟนตัวเองมาเอากับน้องสาวแบบนี้…” มุกดาพูดออกไปก็ค่อยๆเอามือแกะดุมเสื้อชุดนักศึกษาของตัวเองออกช้าๆทีละเม็ดๆ พร้อมกับส่งสายตามองปรมินทร์แบบยั่วยวน
สี่ชั่วโมงผ่านไป…ณ เวลาเที่ยง…มารียาก็ตื่นขึ้นมาแล้วด้วยสภาพที่อ่อนแรงเพราะเธอถูกฮัสลานจับกดอ้าขาเอาไม่รู้กี่รอบ ไหนจะถูกเขาขึ้นขาหยั่งยังไม่พอ เขายังมาพาเธอนั่งชิงช้าห้อยเพื่อกระแทกเธอแรงๆอีก แต่ล่ะอย่างที่เขาเอากับเธอน่ะล้วนแต่ทำให้เธอนั้นอ่อนแรงทั้งนั้น และตอนนี้เธอก็ไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงเลย“ตื่นแล้วเหรอคุณ…ผมจะมาเรียกคุณไปทานอาหารพอดีเลย นี่เที่ยงแล้วด้วยลุกมาทานอะไรหน่อยไป…คุณจะได้มีแรงสู้กับผมอีก…เอะ…หรือว่าคุณลุกไม่ไหว ให้ผมเอามาให้คุณทานในนี้ไหม…ผมยินดีบริการเลยนะ…” ฮัสลานพูดบอกไปแล้วก็มองเธอด้วยยิ้ม เพราะเขาเห็นหน้าสวยๆของเธอทำหน้างอนใส่เขาแบบนี้แล้วมันโคตรน่ารักเลย“ไม่ต้อง…ฉันไม่อยากจะกินอะไรทั้งนั้นแหละ…คุณออกไปซะ ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณ” มารียาพูดออกไปแบโกรธๆเขา ก่อนจะเมินหน้าไม่สนใจเขา เพราะเธอโกรธที่เขาทำกับเธอแบบนี้“ยังไม่ทันจะท้องเลยนะคุณก็เบื่อหน้าผัวตัวเองแล้วเหรอ ถ้าท้องขึ้นมาจะขนาดไหนเนี่ยหึ….” ฮัสลานแกล้งพูดหยอกเย้าเธอไป เมื่อเธอทำท่าทีหมางเมินกับเขา“คุณฮัสลาน ทำไมคุณมันหน้าด้านขนาดนี้หึ…ฉันพูดด่าอะไรไปคุณไม่คิดจะสะทกสะท้านอะไรบ้างเลยหรือไง หรือว่าหน้าคุณมัน
มารียาก็ถูกเขากระหน่ำท่อนเอ็นใส่แบบไม่ยั้งจนเธอนั้นเสียวและจุกที่ท้องน้อยเลย เธอก็ส่ายหน้าไปมาอย่างทรมานเลยทีเดียว จะหยุดเขาก็ทำไม่ได้เพราะเขาเอามือกดขาของเธอไว้ แต่เธอจะไม่ยอมให้เขากดขี่ข่มเหงเธอแบบนี้อีกแล้ว“เอาสิ…อ้ะ อ้ะ ไปนอนโรงพยาบาลบาลก็ดี ฉันจะได้หลุดพ้นจากการทำลูกของคุณสักที….โอ๊ย….ซี๊ด….อ้ะ อ้ะ….” มารียาร้องครางตอกกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้“โอว์….ฟัก….ต่อให้คุณจะไปนอนที่โรงพยาบาล ผมก็จะตามไปกระแทกหอยคุณให้ได้ ผมจะทำให้คุณครางลั่นโรงพยาบาลเลยมารียา….อ่าส์….ซี๊ด….ตับ ตับ ตับ….” ฮัสลานพูดบอกไปก็กัดฟันจนกรามขึ้นเป้นสันเลยทีเดียว จากนั้นเขาก็ส่งท่อนเอ็นใส่ร่องสาวเธอแบบรัวๆเลยทีเดียว“อ้ะ…คุณมันใจร้าย…อ้ะ อ้ะ…” มารียาพูดต่อว่าเขาไปก็ร้องครวญครางอย่างทรมานใต้ร่างของเขา เพราะไม่ว่าจะยังไงเขาก็ยังคงไม่ลดละกับการที่จะมีอะไรกับเธอเลย“คุณนั่นแหละที่บังคับให้ผมต้องใจร้ายกับคุณแบบนี้…อ่าส์…ซี๊ด….ถ้าคุณอยากให้ผมใจดีด้วยก็พูดให้รู้เรื่องหน่อย อ่าส์…ไม่ใช่มาเถียงผัวตัวเองฉอดๆแบบนี้ ตับ ตับ ตับ….โอว์…ซี๊ด….” ฮัสลานพูดบอกเธอไปก็ถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวของเธอแล้วเขาก็เอาหมอนมารองก้นของเธอไว้สูง แล้
มารียาก็ดิ้นพล่นขึ้นมาทันทีเพราะมันสั่นแรงและยังถูไถที่ติ่งเสียวของเธออีก เธออยากจะเอามือไปจับมันออกแต่มันก็ไม่สามารทถได้เพราะทั้งมือทั้งเท้าต่างก็ถูกล็อคไปหมดแล้ว ทำให้เธอนั้นกำหมัดแน่นเลยทีเดียวจนตัวเธอนั้นเด้งหน้าอกขึ้นแล้วดิ้นไปมาอย่างทรมาน“อื้อ….อือ…อ้ะ….อ้ะ….” มารียาร้องครางออกมาอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป เมื่อตอนนี้ร่างกายของเธอมุนถูกรุกรานอย่างหนัก เพราะเธอพึ่งเสร็จไปเมื่อกี้การที่เธอถูกเล่นเสียวต่ออีกทำให้มันทรมานมาก“หึๆ…ดูสิมีนว่าตอนนี้คุณน่ะกำลังเสียวมากแค่ไหน ดูตัวเองในกระจกนั่นสิ….โคตรยั่วเลย….” ฮัสลานพูดไปก็กดปรับเก้าอี้ให้มันเป็นนั่งเอนพิงลงไป แล้วมันก็ทำให้มารียานั้นได้เห็นตัวเองอย่างชัดเจนเลย จนเขานั้นทนไม่ไหวต้องถอดกางเกงแล้วเอาท่อนเอ็นใหญ่ออกมา แล้วเอามือรูดชักเบาๆอย่างทนไม่ไหว เพราเห็นแค่นี้เขาก็อยากจะเสียบเธอแล้ว แต่ไม่ก่อน เขายังอยากจะทรมานตัวเองไปพร้อมๆกับเธอด้วยมารียาได้ยินแบบนั้นก็มองตัวเองที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เอนเบาะนี้ราวกับในหนังโป๊แนวซดิตส์เลย แล้วดูร่องสาวและตูดของตัวเองตอนนี้สิ มันถูกเติมเต็มไปด้วยของเล่นที่ฮัสลานนั้นเอามายัดเยียดใส่ในตัวเธอ และมันก็กำลังสร
“ในเมื่อคุณพึ่งเข้าห้องแดงของผมเป็นครั้งแรก งั้นก็เอาแบบเบาๆไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวคุณจะหาว่าผมใจร้ายกับคุณอีก…หึๆ…” ฮัสลานพูดไปก็หยิบไข่สั่นแบบอัตโนมัติออกมาจากลิ้นชัก แล้วก็ตามด้วยลูกตุ้มพวงขนกระต่ายและก็ผ้าปิดตาสีขาว ที่สามารถทำให้เธอเห็นแบบลางๆตอนนี้ที่ถูกปิดตาได้“ฉันไม่เล่นอะไรกับคุณทั้งนั้นแหละคุณฮัสลาน คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นถ้าคุณปล่อยฉันเมื่อไหร่ ฉันจะเล่นงานคุณให้หนักเลย…” มารียาพูดออกไปก็พยายามดิ้นขัดขืน แต่เธอข้อมือของเธอก็ถูกเขาล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนาจริงๆ“ก่อนที่คุณจะได้เล่นงานผม ผมก็คงจะเล่นงานคุณหนักๆไปแล้วล่ะ คุณจะเอาแรงที่ไหนมาเล่นงานผมหึ เอาตัวเองให้เดินออกจากห้องนี้ให้ได้ก่อนเถอะ เพราะวันนี้ผมจะเอาจนคุณขาถ่างจนหุบไม่ลงเลย หึๆ…” ฮัสลานพูดไปก็เอาของทีเขาเลือกมาไปวางไว้บนเตียงแล้วเขาก็มองเธอแบบเจ้าเล่ห์“วันนี้ไม่ได้ มันก็ต้องมีวันอื่นอยู่ดี ฉันไม่ยอมปล่อยให้คุณรังแกฉันฝ่ายเดียวหรอก” มารียาพูดบอกไปพร้อมกับสายตาที่มองเขาแบบไม่พอใจ“ปากดีจริงเลยนะคุณเนี่ย ดี!... ในเมื่อคุณคิดจะเอาคืนผม งั้นผมก็ไม่เกรงใจอะไรคุณแล้วล่ะ…ตรงนี้มันคงไม่เหมาะกับคุณ…ผมว่าไปตรงเก้าอี้
“มันก็แค่การตัดสินใจของคุณคนเดียว ครอบครัวคุณไม่ได้รับรู้ด้วยเลย คุณมาพูดเองเออเองแบบนี้จะให้ฉันเชื่ออะไรหึ…ครอบครัวคุณก็คงไม่ต่างจากครอบครัวของคุณจาซุสเขาหรอก คุณไม่ได้ต้องมาหลอกฉันซะให้ยากเลย ฉันไม่หลงเชื่อคุณหรอกคุณฮัสลาน” มารียาพูดไปพร้อมกับยืนยันว่าเธอไม่เชื่อเขา เพราะขนาดพี่สาวของเธอที่อยู่กับจาซุสมาสองปี ยังต้องยอมแพ้กลับไทยไปเลย แล้วเขาที่รวยกว่าจาซุสล่ะ จะไปเหลืออะไรกัน“แต่ครอบครัวผมกับครอบครัวของจาซุสมันคนล่ะครอบครัวกันนะคุณ คุณจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ครอบครัวของผมไม่ได้สนใจเรื่องความแตกต่างทางสังคมหรือเชื้อชาติอะไรเลย ที่ครอบครัวผมสนใจมีอย่างเดียวเลยคือเรื่องทายาท และมันก็เป็นต้นเหตให้เราสองคนมาเถียงกันอยู่ตอนนี้ ดังนั้นเรื่องแต่งงานของคุณกับผมมันจะไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าคุณท้องลูกของผม คุณจะกลายเป็นเมียแล้วก็แม่ของลูกผมอย่างถูกต้องทันที ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองดูก็ได้” ฮัสลานพูดอธิบายบอกไปแบบตรงๆ เพราะครอบครัวของเขานั้นอยากให้เขามีเมียมีลูกจะตายไป แต่ในกรณีของมารียา เธอจะต้องท้องก่อนเขาถึงจะมีอะไรไปต่อรองกับพ่อแม่ของเขาเพื่อรับเธอมาเป็นภรรยาอย่างถูกต้อง“ฉันต้องท้องฉันเท่าน
ณ เพ้นท์เฮ้าท์ของฮัสลานในเวลาต่อมาฮัสลานก็เดินเข้ามาในบ้านแบบเงียบๆไม่พูดคุยอะไรกับมารียาเลยทำให้มารียานั้นเดินตามเขาแล้วมองแบบงงๆว่าเขาโกรธอะไรเธอ ทั้งที่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าโกรธงอนกันเลยสักนิดเดียว“คุณฮัสลาน คุณมีอะไรไม่พอใจฉันคุณก็พูดมาเถอะค่ะ ไม่ใช่มาเงียบใส่กันแบบนี้ฉันไม่ชอบ…เราไม่ใช่เด็กๆกันแล้วนะคะ” มารียาเอ่ยพูดออกไปแล้วมองตามเข้าไปด้วยสีหน้าจดจ้อง เพราะเธอทนให้เขาเงียบใส่เธอ ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนแบบนี้ไม่ได้ เธอไม่อยากจะใช้สงครามประสาทกับเขาหรอกนะ“รู้ด้วยเหรอว่าเราไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว แล้วคุณคิดบ้าอะไรอยู่หึถึงได้คิดจะฉีดยาคุมกำเนิดโดยไม่บอกผมเลยสักคำน่ะ ถ้าผมไม่โทรหา ป่านนี้คุณก็คงฉีดมันไปแล้วสินะ” ฮัสลานหันไปพูดตอบเธอด้วยสีหน้าโกรธๆอย่างอดไม่ได้“อ่อ ที่โกรธอยู่นี่เพราะฉันไม่ได้บอกคุณเรื่องนี้เหรอคะ ฉันคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรฉันก็เลยไม่ได้บอกคุณน่ะค่ะ อีกอย่างนี่มันก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ได้กินยาคุมเป็นประจำแบบฉัน และถ้าฉันฉีดมันแล้ว มันก็ดีกับเราทั้งคู่ไม่ใช่เหรอคะ…” มารียาพูดบอกไปแล้วมองสบตากับเขาอย่างอ่อนโยน“มันไม่ได้ดีกับผมเลยมารียา ผมต้องการที่จะมีลูกกับ
ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นครดูไบมารียาก็แอบปลีกตัวจากฮัสลานตอนที่เขานั้นไปประชุมข้างนอก ออกมาที่โรงพยาบาลใกล้ๆกับบริษัทของเธอ เพราะเธอได้โทรนัดเวลาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้มาถึงเธอก็ได้เข้าพบหมอได้เลย“คุณแน่ใจนะคะว่าจะฉีดยาคุมกำเนิดน่ะ” หมอหนุ่มเอ่ยถามออกไปกับคนไข้อย่างต้องการความแน่ใจ“แน่ใจค่ะ ฉันไม่อยากจะท้องตอนนี้ คุณหมอฉีดได้เลยค่ะ” มารียาพูดบอกไปเพราะเธอไม่ค่อยได้ทานยาคุมทุกวัน เธอจึงตัดสินใจมาฉีดยาคุมกำหนดเพื่อป้องการไม่ให้เธอพลาดตั้งท้องขึ้นมาแบบพี่สาวของเธอ เนื่องจากฮัสลานนั้นแทบจะไม่เคยปล่อยข้างนอกเลยนับตั้งแต่มีอะไรกันมา เขาจะปล่อยในแทบทุกครั้ง ทำให้เธอกลัวว่าเธอจะพลาดท้องกับเขาขึ้นมา เธอจึงตัดปัญหาด้วยการฉีดยาคุมซะเลย จะได้ไม่ต้องมาเจอปัญหาในภายหลัง“โอเคครับ งั้นเรามาทำความเข้าใจกับการฉีดยาคุมกันก่อนนะครับ ฉีดครั้งเดียวจะสามารถคุมกำเนิดได้นานถึง 3 เดือน ตอนนี้ถ้าคนไข้ทานยาคุมกำเนิดแบบแผงอยู่ก็ให้เลิกทานได้เลยนะครับ” หมอหนุ่มพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม“ค่ะคุณหมอ…” มารียาพยักหน้าตอบไปแบบเข้าใจที่หมอพูด“หลังฉีดอาจจะประจำเดือนไม่มาไม่ต้องตกใจนะครับ มันเป็นผลข้างเคียงจากการฉีกน่ะครับ
“อืม….รู้จักขอโทษก็ดี มีอะไรก็เข้าไปคุยกันในบ้าน ฉันไม่อยากมาเถียงกับแกให้อายเพื่อนบ้านหรอกนะยัยมุก…” กวินตาพูดออกไปแล้วเธอก็เดินเข้าไปในบ้านทันที เพราะถึงมุกดาจะก้าวร้าวยังไง เธอก็ยังเป็นน้องสาวของเธออยู่“ไปลูก พี่เขาให้เข้าบ้านแล้วก็ทำตัวดีๆหน่อย อย่าไปทำให้พี่เขาโมโหอีก ป่ะ” เพ็ญพักตร์พูดบอกไปแล้วก็พยักหน้าใส่ลูกสาวให้เดินตามเธอเข้าไปมุกดาก็ทำหน้าบึ้งๆออกไป ก่อนจะเดินตามพี่สาวและแม่เข้าไปในบ้าน พอเข้ามาด้านในเธอก็เห็นว่ามีสนามหญ้ากว้างไปจนสุดข้างบ้านเลย มันก็ไม่ได้เล็กแบบที่เธอคิดเลย พี่สาวของเธอคงซื้อไว้สำหรับลูกที่จะเกิดมาแน่ๆ“แม่คะ นี่พี่กวางเขาจะกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้วเหรอคะ ถึงได้ซื้อบ้านอยู่แบบนี้น่ะ…แล้วผู้ชายของพี่กวางล่ะคะ เขามาด้วยไหม…” มุกดาเข้าไปกระซิบถามแม่ของเธออย่างอยากรู้ เพราะอยู่ๆก็กลับมากะทันหันแถมยังซื้อบ้านเป็นหลังอยู่อีก แบบนี้มีแววว่าจะอยู่ยาวไหมล่ะ“เขาไม่ได้มาด้วยเพราะยัยกวางเลิกกับเขาแล้ว ก็เลยตัดสินใจกลับมาอยู่ไทยแล้วก็จะไม่กลับไปดูไบอีก…เพราะฉะนั้นแกก็อย่าไปถามอะไรพี่แกเรื่องนี้ล่ะ…”เพ็ญพักตร์พูดบอกไปตามตรง เพราะเธอไม่อยากจะให้กวินตาคิดมากอีก“เลิกกันแล
หลายวันผ่านไปจาซุสก็ถูกครอบครัวของเขาบังคับให้มาดูตัวว่าที่เจ้าสาวของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะตอนนี้งานแต่งงานของเขานั้นได้ถูกกำหนดไว้ให้จัดแต่งในเดือนหน้านี้แล้ว มันจึงทำให้เขานั้นนั่งทำหน้าเซ็งๆอย่างอดไม่ได้ เพราะเขาต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับการที่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะไปรอดได้ยังไงกัน“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยได้ไหมจาซุส แกจะมาทำให้พ่อกับแม่ขายหน้าทางนู้นเขาไม่ได้นะ ถ้าพวกเขามาแกต้องยิ้มแย้มเขาใจไหม” จามีลพูดบอกลูกชายของเขาไปขณะที่นั่งรออีกฝ่ายมาอยุ่ในร้านอาหารหรู“ผมมาตามที่พ่อแม่ต้องการแล้ว ยังจะให้ผมยิ้มแย้มอะไรอีกครับ ผมไม่ได้ยินดีที่จะได้แต่งงานสักหน่อย…”จาซุสพูดบอกไปตรงๆอย่างอดไม่ได้ เพราะใครจะไปยิ้มออกกันถูกบังคับให้แต่งงานขนาดนี้“ไม่ยินดีแต่ลูกก็ต้องแต่ง แม่ไม่ยอมให้ลูกไปคว้าเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นเมียหรอกนะ ลูกสะใภ้ของตระกูลเราจะต้องมีฐานะเหมาะสมกันเท่านั้น แล้วหนูอาย่าน่ะเขาก็ฐานะเหมาะสมกับเรา แถมหน้าตาก็สวยมากเลยด้วย สวยกว่านางบำเรอของลูกซะอีก ” ชามาเอ่ยพูดกับลูกชายของเธอไป เพราะลูกสะใภที่เธอหามาให้ลูกชายน่ะสวยมาก“สวยกว่าแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจ
Comments