Share

สอยเดือนวิศวะ

last update Последнее обновление: 2025-03-26 23:57:18

เมื่อวานพี่อุลตร้ามาเคาะประตูห้อง คงต้องการจะขอโทษฉันนั่นแหละ แต่ฉันยังโกรธเขาอยู่ จึงไม่ยอมเปิดประตูเพื่อรับฟัง คำแก้ตัวอะไรจากเขาทั้งนั้น

จนกระทั่งวันนี้...

ฉันนั่งรถเมล์มาเรียนมหาลัย โดยที่ไม่ยอมให้คนเป็นพี่ชาย ขับรถมาส่งเหมือนเช่นทุกครั้ง เพราะยังโกรธเขาไม่หาย และรีบเดินเข้ามหาลัยไปอย่างเร่งด่วน เพราะจวนใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนกันแล้วนั่นแหละ

Rrr! Rrr! Rrr!

แต่โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพาย ที่ฉันได้เปิดระบบสั่นเอาไว้ ทำให้ฉันสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังโทรเข้ามา

ที่แรกก็คิดว่าจะปล่อยให้มันสั่น จนกว่ามันจะเงียบหายไปเอง แต่ด้วยเกรงว่าคนที่บ้าน อาจจะโทรเข้ามา เพราะมีธุระสำคัญ

แต่มันกลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดคิด และโคตรจะเซ็งกับชีวิต เมื่อมองเห็นชื่อของตองเก้า ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ

“ โทรมาทำไม! หมาออกลูกเป็นควายหรือยังไงฮะ!....ฉันกำลังจะเข้าเรียนแล้ว ”

ฉันกดรับ พลางตวาดเข้าไปในโทรศัพท์อย่างลืมกลัว เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกอีกฝ่าย ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวมากเกินไป

เพราะฉันคิดว่าตัวเอง สามารถเบ่งใส่เขาได้ ในเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน หากฉันอยู่ต่อหน้าของตองเก้า ฉันก็ต้องทำเป็นกลัวเขาไว้ก่อน

(เดี๋ยวเธอต้องเจอดีแน่นอน ที่กล้าตะคอกใส่ฉันก่อนน่ะ)

ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ที่ได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น   ฉันจึงพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองให้ได้ ก่อนจะพูดกับเขาออกไปว่า

“ มีอะไรให้อันนารับใช้ เชิญว่ามาได้เลยค่ะ”

(แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย เย็นนี้ฉันไปรับเธอนะ ว่าจะพาไปเที่ยวผับด้วยกัน)

“ ไม่ไป!...ฉันไม่ชอบไปเที่ยวในสถานที่แบบนั้น ฉันต้องอ่านหนังสือ แล้วนายก็ควรจะอ่านด้วยเหมือนกัน นายคิดว่าตัวเองเก่งมากนักรึไงฮะ? ”

(ก็พอตัว หัววิศวะอย่างฉันเก่งแก้สมการ พอๆ กับแก้ผ้า เธออยากจะลองดูบ้างมั้ยละ?)

“พูดไปพูดมา นายก็ไม่วายพาฉันลงใต้สะดือทุกครั้ง คิดเรื่องอื่นเป็นบ้างรึเปล่า?”

(กับเธอฉันคิดแค่เรื่องเดียว คนเป็นแฟนกันแล้วคิดแต่เรื่องเอากัน มันแปลกตรงไหน?)

“นายกำลังกวนฉัน งั้นก็พูดไปคนเดียวเลยละกัน เพราะฉันจะวางสายของนาย แล้วก็ไม่ไปเที่ยวที่ไหนกับนายทั้งนั้น”

(เธอรู้มั้ย? ว่าฉันไม่ชอบให้ใครขัดใจ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอ...)

“เออ..ก็ได้!..แต่ฉันต้องขอเคลียร์กับที่บ้านของฉันก่อน”

ฉันรีบผ่อนลมหายใจเพื่อคลายความตึงเครียด และรู้สึกเกลียดนายนั่น อย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน

 (งั้นตอนเย็นเจอกัน)

“.......”

(....อันนา)

“อะไรของนายอีกละ?”

(ขอบใจนะ ที่ให้ฉันเป็นจูบแรกของเธอ)

กริ๊ก!...

ฉันรีบกดวางสาย เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายเชิงย้ำคำ ถึงการกระทำของเจ้าตัว ด้วยหัวใจที่กำลังเต้นแรงตามอารมณ์ที่ผสมกับความโมโห

ฉันอาจจะเป็นไบโพล่าเข้าสักวัน หากว่ายังทนคบกับนายนั่นอยู่ ...

ฉันไม่เคยออกเที่ยวในตอนกลางคืน จนติดเป็นนิสัยเหมือนกับนายตองเก้า นอกจากเราจะมีงานเลี้ยงฉลองที่สำคัญๆ ถึงจะได้ไปร่วมสนุกกันสักที

ฉันจึงขอความร่วมมือจากหลินซี ที่เป็นเพื่อนสนิทกับฉัน เราทั้งสองคนเคยเรียนด้วยกันมา ตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาลจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เราก็ยังพากันมาสอบเข้ามหาลัย และได้เรียนอยู่ในคณะเดียวกัน

“ แกช่วยฉันหน่อยนะ เผื่อพี่อุลโทรมาเช็คว่าฉันพูดจริงไหม เราจะได้ตอบเขาไปเหมือนๆ กัน ”

“แกโกรธกับพี่อุลอยู่ไม่ใช่? แล้วแกจะกลัวไปทำไม?"

"ฉันยังโกรธเขา แต่เขาไม่ได้โกรธฉันนี่หว่า แล้วต่อมเสือกเรื่องของฉัน พี่อุลมันไม่เคยพลาดเลยสักงาน”

"งั้นฉันจะช่วยแกก็ได้  แต่แกต้องบอกฉันมาก่อนว่า แกจะไปลัลลากับผู้ชายคนไหน? ”

หลินซีมองฉันด้วยสายตาสงสัย แต่เรื่องที่ฉันได้ตกลงกับตองเก้าเอาไว้ ฉันไม่สามารถจะเล่าให้ใครฟังได้

“แกพูดเหมือนฉันมีผู้ชายเยอะแยะงั้นแหละ ” ฉันแถไปอีกทางอย่างต้องการเบี่ยงประเด็น

“จากที่เห็น มันก็มีอยู่หลายคนที่คอยตามมาวอแว  แต่ก็ไม่เคยเห็นแกสนใจใคร ฉันถึงได้อยากรู้ไงเล่า! ”

"......"

“ ว่าไง...ใครวะ? ”

ฉันคงนิ่งนานเกินจนไป หลินซีถึงได้สะกิดย้ำ และถามเอากับฉันอีกครั้ง

“ตองเก้า..ที่อยู่วิศวะไฟฟ้าปีสามไง แกพอจะรู้จักเขาไหมละ? ”

หลินซีเบิกตากว้าง พลางเขย่าแขนฉัน ก่อนพูดออกมาดังๆ ว่า

“ ว๊าว!ไอ้อันนา แกสอยเดือนวิศวะมากินเลยเหรอวะ แล้วแกจะรับมือเขาไหวรึเปล่า? ฉันได้ข่าวว่าหมอนั่นเป็นคนที่ชอบเอาแต่ใจ แถมยังเจ้าชู้  อีกอย่างที่รู้ก็คือ เขาเป็นคนหัวโคตรไบท์ และติดหนึ่งในสิบของรุ่น ที่น่าจะได้ลุ้นเกียรตินิยมอันดับต้นๆ คนอะไรวะทำไมถึงได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง หากได้เขามาเป็นพ่อของลูกมันก็เข้าทางแกพอดี...”

“อีบ้า!...ใครมันจะไปคิดไกลได้ขนาดนั้นวะ ฉันก็แค่ลองคบเขาไปงั้นๆ ไม่ใช่เสป็คเลยสักหน่อย ฉันชอบผู้ชายเอาใจใส่ พูดจาอ่อนหวาน ที่สำคัญฉันไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ ซึ่งแกก็น่าจะรู้ดีกว่าใคร ”

“อ้าว...คนละขั้วซะงั้น อาจไปกันไม่รอด แต่ลองดูก็ไม่เสียหลาย ถ้าไม่ถูกใจก็บาย คืนนี้แกต้องกลับมาค้างที่บ้านฉัน งั้นเย็นนี้แกก็ต้องกลับบ้านพร้อมฉันอ่ะดิ แล้วแกโทรไปบอกที่บ้านหรือยังวะ เดี๋ยวพี่ของชายแกอาจจะมาโวยวายเอากับฉัน หาว่าฉันชอบชวนแกเที่ยวกลางคืนอีกหรอก”

“ฉันไม่ได้บอกพี่อุล แต่ขออนุญาตจากแม่แล้วนั่นแหละ แม่ฉันเข้าใจอีกทั้งยังเห็นดีเห็นงามตามนั้น ท่านต้องการให้ฉันหาประสบการณ์ แกก็รู้นี่ว่าแม่ฉันน่ะเปรี้ยวแค่ไหน ทุกวันนี้ท่านก็หาว่าฉันเหมือนกบอยู่ในกะลา ส่วนพ่อก็คิดตรงกันข้ามแต่ก็ไม่กล้าขัดใจ ฉันเลยเข้าทางแม่น่าจะดีกว่าใคร”

“ แล้วพี่ชายของแกละ จะไม่ว่าหรือไง หากรู้ว่าแกคบกับผู้ชาย หรือไปเที่ยวที่ไหนกับผู้ชายสองต่อสองน่ะ ”

“ ก็ต้องไม่ให้รู้ดิวะ ถึงได้บอกให้แกช่วยร่วมมือกับฉันด้วยนี่ไง ”

( มรกต 013จาก มรกต301 ว.2 เปลี่ยน )

ฉันยังพูดไม่ทันขาดคำดี เสียงวิทยุสื่อสารที่อยู่ในกระเป๋า ก็ดังเข้ามาขัดจังหวะ หลินซียิ้มขำขณะที่เห็นฉันล้วงเอาวิทยุเคลื่อนที่ ขึ้นมากดคีย์รับแล้วตอบอีกฝ่ายกลับไป

“ นายจะเรียกรหัสของฉันทำไมเนี่ย ในเมื่อช่องนี้มันไม่ใช่ช่องวิทยุ ของส่วนกลางสักหน่อย ”

( ฉันอยากเรียกจะทำไม!! หรือเธอมีปัญหา? )

“ ปัญญาอ่อนว่ะ..นายจะเรียกฉันทำไมบ่อยๆ ฮะ รีบพูดธุระของนายมาเลย ไม่งั้นฉันจะปิดเครื่องของนายซะ!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 2 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    [ตองเก้า...จากต้นไทรวอสองเปลี่ยน]ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังมาแต่ไกล แต่เป็นความรู้สึกที่คลับคล้ายกับกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น...แล้วผมก็พยายามฝืนที่จะลืมตา[ไอ้เก้า!...มึงมัวทำห่าอะไรอยู่วะ...ทำไมมึงถึงไม่พาน้องมันมาสักที..กูกับหลินนั่งรอพวกมึงมาชั่วโมงกว่าๆ อีกสิบห้านาทีถ้ามึงยังไม่มา หลินบอกว่าจะไปหาอันนาที่เต๊นแล้วนะเว้ย]เสียงของไอ้ต้น! ที่เป็นคนเรียกชื่อผมดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร นั่นจึงทำให้ผมรีบหันไปคว้ามันมากดคีย์รับ"เออโทษทีว่ะ...อากาศกำลังดีมันเลยทำให้กูเผลอหลับไปพร้อมกับอันนา"[ มึงคิดว่ากูไม่รู้เลยงั้นสิ...ไอ้สันดาน ]"เออตามนั้น...ในเมื่อมึงรู้แล้วจะถามกูทำไม...บอกหลินด้วยว่าไม่ต้องมาเพราะกูกับอันนากำลังจะไป"ผมรีบตัดบทสนทนา ก่อนหันมองอันนาที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี"ไอ้ต้นมันเรียกวิทยุตามเราสองคนน่ะ" ผมบอกเจ้าของใบหน้าน่ารัก ก่อนก้มลงไปจุ๊บริมฝีปากของเธอทีหนึ่ง ซึ่งมันยังไม่น่าจะพอเพราะเมื่อผมผละออกมา อันนาก็รั้งต้นคอของผมให้ลงไปจูบกับเธออีกครั้งก่อนจะผละออก"ต่อกันไหม?...ฉันจะได้วิทยุบอกไอ้ต้นมันว่า ให้พาหลินไปเดินเที่ยวที่งานดนตรีกันก่อนไม่ต้องรอ""ขืนต่ออีกที ฉันคงได

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 1 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    วันสิ้นปี ณ.ที่เขาใหญ่{Unna part}เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเราสองคนมากมาย จึงเป็นเหตุที่ทำให้การจัดกิจกรรม ของชมรมวิศวะไฟฟ้าคราวนั้นต้องถูกยกเลิกกลางคัน และหลังจากที่ทุกคนปรับความเข้าใจกันได้ ตองเก้าจึงจัดทริปเค้าดาวน์ที่เขาใหญ่เพราะเจ้าตัวเขาต้องการเอาใจฉันนั่นเองอยากรู้ใช่ไหมละ ว่าทำไมฉันถึงเลือกเค้าท์ดาวน์ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่แห่งนี้..นั่นเป็นเพราะที่นี่มีงานลานดนตรีที่ถูกจัดขึ้นทุกปี แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้เลยสักครั้งซึ่งในบริเวณงานดังกล่าว จะมีพื้นที่ประมาณราวหนึ่งตารางกิโลเมตรเห็นจะได้ บริเวณด้านในจะประกอบไปด้วยเวทีต่าง ๆ ที่เอาไว้สำหรับให้นักร้องทั้งหลายขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนที่ตั้งใจมาในงานนี้ได้ฟัง ซึ่งแต่ละเวทีก็ยังแยกประเภทของดนตรีแต่ละแนวอย่างเช่น Jazz Pop Rock หรือลูกทุ่ง กระทั่งรำวงย้อนยุค รวมไปถึงการระเล่นต่างๆ อย่างมากมายที่นี่จึงเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางให้คนที่มีดนตรีในหัวใจได้มารวมตัวกัน เพราะมีเหล่าบรรดาศิลปินในดวงใจหลากหลาย ที่เราจะได้เห็นพวกเขามารวมตัวกันที่นี่นั่นเองและจุดที่เราเข้าพักก็จะอยู่ใกล้กับสถานที่ที่จัดงานลานดนตรี ซึ่งฉ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ตีตราจอง (จบ)

    "ไม่ให้กลับ!...โอ๊ย!"ตองเก้าร้องเสียงดัง พลางทำหน้าแหยเพราะคงเจ็บแผลจากการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้กำลังแขนของตัวเองมากเกินไป"ฉันบอกนายแล้วเห็นมั้ยว่าอย่าขยับ!..." ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ ประคองร่างใหญ่ให้นอนลงไปที่เดิม"ฉันไม่กลับแล้วก็ได้... ฉันขอโทษความจริงฉันไม่น่ายั่วให้นายโกรธเลย...เจ็บมากมั้ย?""เจ็บมาก..." เจ้าตัวพูดว่าเจ็บแถมยังเบะปาก จนฉันอยากจะขำพรืดออกมาเมื่อเห็นหน้าตาของเขา"สามวันที่เราไม่ได้เห็นหน้ากัน ทำฉันคิดถึงเธอมาก...จูบหน้าผากฉันหน่อยได้ไหม?"ตองเก้ากำลังอ้อนฉันด้วยการใช้คำพูดหวานๆ และมันก็ทำให้ฉันใจอ่อนกับเขาอีกตามเคย"แค่หน้าผากเองเหรอ?" ฉันถามขณะโน้มหน้าลงจูบหน้าผากตามที่เขาร้องขอ จากนั้นจึงถามเขาต่อว่า"พอไหม?" แต่ฉันไม่ได้รอคำตอบอะไร เพราะฉันค่อยๆ จูบไล่จากหน้าผากลงมาจนถึงริมฝีปากของเขา แต่จูบแค่เพียงเบาๆ"เอาอีก..."เห็นไหมละ...ว่าพอเจ้าตัวได้คืบก็จะเอาศอก ฉันจึงได้บอกเขาออกไปว่า..."พอก่อนนะ เพราะตอนนี้ฉันมีเรื่องที่จะถามนาย.." ฉันว่าพลางหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม"เรื่องอะไร?"“แหวนของนะโม อยู่กับแม่นายใช่ไหม ฉันอยากขอเอาไปคืนให้เขา”“อยู่ที่เอวา เอวาอาสาว่าจะเ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ผู้หญิงสายรุก

    ฉันหยุดยืนอยู่หน้าห้องพิเศษของตองเก้าพลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนหันไปมองหน้าของนะโมเพื่อขอกำลังใจนะโมพยักหน้าให้พร้อมกับยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเชิงต้องการขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน แต่ฉันยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไป เมื่อคนที่อยู่ด้านในกลับเป็นฝ่ายเปิดออกให้เอง“อันนา!...อันนามาแล้วค่ะแม่”เอวาร้องลั่นราวกับดีใจนักหนาเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน ก่อนหันไปบอกคนเป็นมารดาที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับบิดาของเธอเรายกมือขึ้นไหว้พวกท่านพร้อมกัน และเมื่อเห็นว่าท่านรับไหว้ฉันกับนะโมจึงเดินตามหลังเอวาไปนั่งด้วยกันที่โซฟา แต่ทว่า..อยู่คนละฝั่ง และฉันเป็นคนที่ได้นั่งอยู่ตรงกลางทุกคนในครอบครัวของตองเก้ารู้เรื่องราวของนะโมทุกอย่าง โดยผ่านการบอกเล่าจากฉันเมื่อสามวันที่ผ่านมา"เราใช่ไหมที่มีชื่อว่านะโม?..."แม่ของเอวาเลื่อนสายมาที่นะโมตอนถาม เพราะเมื่อสามวันก่อนตอนที่พวกเราอยู่โรงพยาบาล พวกท่านยังไม่ทันได้สังเกตใคร นอกฉันกับคนเป็นลูกชายของท่านเท่านั้น"ครับ.." นะโมตอบกลับสั้นๆ พอได้ยินอย่างนั้นท่านจึงได้พูดกับเขาในประโยคต่อไปอีกว่า"ครอบครัวของเราขอขอบใจเธอมากนะ ที่ได้ช่วยชีวิตลูกชายของเราไว้ แล้วยังพาเขามา

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   พ้นขีดอันตราย

    เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน จากชั่วโมงหนึ่งกลายเป็นสองสามสี่ และในชั่วโมงที่ห้านั่นเองที่ฉันได้เห็นร่างของหมอใหญ่เปิดประตูออกมา แล้วบอกกับพวกเราทุกคนว่า“คนเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”ทุกคนเฮโลลั่นโรงพยาบาลประสานเสียงกัน จนถูกคุณหมอดุเข้าให้นั่นแหละถึงได้พากันเบาเสียงลงฉันเห็นคนเป็นพี่ชายพลอยดีใจร่วมไปกับคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของทั้งสองคน มันยังคงไม่จืดจางฉันคิดว่าอย่างนั้นพี่อุนเดินมาโอบไหล่ฉันเชิงให้กำลังใจ ขณะเดียวกันก็ดึงฉันเข้าไปกอด ก่อนจะผละออกมาพูดว่า“แกกลับไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ดูเสื้อผ้าของแกมีแต่เลือดอยู่เต็มไปหมด หมอบอกว่าไอ้เก้ามันพ้นขีดอันตรายแล้ว เราแค่รอให้มันฟื้นหมอถึงจะอนุญาตให้เราเข้าเยี่ยมมันได้"หลังจากที่พี่ชายบอกฉัน หลินซีก็เข้ามาพูดในทำนองเดียวกัน“ฉันก็คิดแบบพี่อุลนะ แกกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ มอมแมมเป็นลูกหมาเลย”ฉันรับฟัง แต่ยังไม่ขยับไปไหน เนื่องจากฉันกำลังสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาใครบางคน“หลิน... นะโมละเขาไปไหน แกเห็นเขาไหม?” ฉันเอ่ยถามเอากับเพื่อนสนิทเพราะคิดว่ามันน่าจะรู้ดี“นะโมกลับไปเอารถที่ห้าง

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   แหวนของใคร?

    เราสองคนช่วยกันพยุงตองเก้าให้นอนราบไปกับพื้นรถทางด้านหลัง และนะโมยังจับดูชีพจรของตองเก้าอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่เราสองคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยนะโมเปิดกระเป๋าร่วมยาแล้วล้วงเอาผ้าก๊อต มาปิดปากแผลให้ตองเก้าที่ด้านหน้า จากนั้นเราจึงช่วยกันพลิกร่างหนาเพื่อทำแผลให้เขาที่ด้านหลังเจ้าตัวทำหน้าแหยทุกครั้งนั่นแหละแต่ทว่ากลับไม่มีเสียงร้อง ผิดกับฉันที่มีน้ำตาไหลนองออกมา โดยไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดไหลได้สักทีเมื่อปฐมพยายาบาลเบื้องต้นให้คนเจ็บเสร็จสรรพ ฉันจึงแจ้งทางศูนย์กลับไปว่า เราได้นำตองเก้าขึ้นรถกู้ชีพของเขาไปส่งโรงพยาบาลให้เอง โดยสั่งการให้ศูนย์ช่วยประสานกับทางโรงพยาบาลว่าให้เตรียมทุกอย่างไว้รอพอได้ยินเสียงฉัน พี่อุลจึงขึ้นความถี่เรียกขาน ทั้งอย่างนั้นเวลานี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่างมันฉันไม่แคร์ เพราะฉันสนแค่คนที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันในตอนนี้เท่านั้นเองนะโมให้ฉันเอาผ้าสะอาดที่มีในกระเป๋า กดทับบาดแผลของตองเก้าเอาไว้อีกชั้น เพื่อกันไม่ให้เลือดไหลออกมามาก จากนั้นเขาจึงใช้ผ้าด้ายดิบผืนใหญ่ที่มีไว้สำหรับห่อคนตาย แต่มันยังไม่ผ่านไช้งาน มาห่มให้ตองเก้าเพราะเราไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status