Share

เด็ก Gen

last update Последнее обновление: 2025-03-26 23:58:52

( เธออยู่กับใคร? ทำไมถึงได้กล้าเสียงดังใส่ฉันฮะ) ตองเก้าตะโกนถามฉันเข้ามาเสียงตึง ฉันจึงลดระดับอารมณ์ของตัวเองลงมา ก่อนจะตอบเขากลับไปว่า

“ อยู่กับเพื่อน... ”

(ผู้หญิง...ใช่มั้ย?)

“ผู้ชาย...แถมยังหล่อกว่านายหลายเท่า”

( ถ้าไม่อยากเน่าตาย บอกมันให้อยู่ห่างๆ จากเธอเอาไว้ )

ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย และไม่อยากจะพูดกับผู้ชายคนนี้ ฉันจึงได้คิดหาวิธีที่จะทำให้อีกฝ่าย กดวางสายของเขาไปเอง

“ แบ๊ตวิทยุของนายจะหมดแล้วนะ  มีอะไรก็รีบๆ พูดมาเร็วๆ เข้า ”

( อย่ามาหลอกฉันซะให้ยาก แบตวิทยุนั่น เปิดทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืนยังไงก็ไม่หมด ไม่มีทางที่เธอจะมาหลอกคนอย่างฉันได้ )

ฉันอยากจะลมใส่ ที่หลอกคนอย่างเขาไม่ได้สักที...เฮ้อ!

“ แล้วจะเรียกฉันหาพระแสงอะไรยะ!! ”

( ไหน...ว.3 อีกครั้งสิ )

ว.3 หมายความว่า ตองเก้าต้องการให้ฉัน ทบทวนข้อความกับเขาใหม่

“ ก็..เรียกฉันทำไมบ่อยๆ...ละคะ ”

( ฟังแล้วค่อยลื่นหูหน่อย...ฉันต้องการจะย้ำเธอถึงเรื่องของเราในค่ำคืนนี้ )

“ ฉันรู้แล้ว! ”

(จะให้ฉันไปรับเธอได้ที่ไหน?)

“ ที่บ้านของหลินซีเพื่อนซี้ของฉันเอง...เดี๋ยวฉันปักหมุด แล้วจะส่งโลเคชั่นไปให้นาย...แค่นี้นะฉันจะได้ไปทำอย่างอื่น ”

ฉันตัดบทสนทนา ด้วยการหมุนปุ่มปิดวิทยุทันที หลังจากที่พูดจบโดยไม่สนใจคนที่อยู่อีกฝั่งนั่น

หลินซีหัวเราะเสียงดังลั่น เมื่อได้ยินฉันกร่นด่าวิทยุสื่อสาร ทั้งที่ได้ปิดมันไปแล้ว

“คู่ของแกดูแปลกดีว่ะ มีโทรศัพท์แต่กลับใช้วิทยุในการติดต่อสื่อสารกัน นี่ฉันก็เพิ่งจะเคยเห็น”

“ก็นายนั่นเป็นกู้ภัย ถึงได้ชอบใช้วิทยุสื่อสารไง เพราะการใช้วิทยุสื่อสารกัน มันง่ายต่อการประสานงาน ระหว่างองค์กรกับองค์กร ซึ่งตอนนี้โรงพยาบาลในบางพื้นที่ มีบุคลากรไม่เพียงพอต่อคนเจ็บ และคนตายที่มีมากขึ้นทุกวัน  ที่สำคัญกว่านั้นคือพ่อของตองเก้า เป็นถึงเจ้าของมูลนิธิ ที่ฉัน พ่อ และพี่ชาย ได้สังกัดอยู่ด้วยกัน  แล้วนายนั่นก็เคยเป็นเพื่อนซี้ กับพี่ชายของฉันมาก่อน”

“เดี๋ยวนะ...แกใช้คำว่า ‘เคย’...เป็นเพื่อนซี้”

“อื้ม...เคยเป็น...แต่ตอนนี้เขาสองคนไม่ถูกกัน  แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นเพราะอะไร ”

“เวรกรรม! ถ้าพี่อุลรู้เข้าแกจะทำยังไง?”

“ก็คงจะทางใครทางมันละมั้ง...แต่ช่างมันเหอะ...ชีวิตของฉันคงไม่ได้มีผู้ชายคนนี้แค่เพียงคนเดียว เพราะเดี๋ยวก็จะมีเข้ามาใหม่ ฉันไม่จำเป็นต้องแคร์ แกว่าฉันพูดถูกมั้ยละ?”

“แหม...แม่คนช่ำชอง ที่แกว่านั่นของแท้ยืนอยู่ตรงนี้เว้ย...เราเป็นผู้หญิงยุคใหม่ จะแคร์ไปทำไมวะ ในเมื่อเราก็สามารถเลือกได้ ฟันผู้ชายแล้วทิ้งนั่นคือผู้หญิงยุคเรานี่แหละ”

“ห๊ะ! แกเคยฟันผู้ชายมาแล้ว อย่างงั้นเหรอหลินซี!?” ฉันถามเพื่อนรัก เพราะรู้สึกตกใจมาก เมื่อได้ยินมันพูดออกมาแบบนั้น

“ยังไม่ได้ฟันว้อย!..เพราะยังไม่มีใครเข้าตา มันก็เลยไปไม่ถึงขั้นนั้นสักที  มีแต่พวกเสือสิงห์ ฉันก็เลยทิ้งพวกมันก่อน ตอนนี้โสดซิง ฉันกับแกคงต้องชิงกันปักตระไคร้แล้วมั้ง”

““แกเคยได้ยินเขาพูดมั้ย?...ว่าผู้ชายที่ใส่แว่นตา จะซ่อนความหื่นกระหายเอาไว้ข้างใน แล้วผู้ชายในคณะของเราก็มีเยอะแยะ แถมยังใส่แว่นตาหนาเตอะแทบจะทุกคน แกก็เลือกเอาใครสักคนสิวะ”

“ทั้งคณะมีว่าที่หมอหน้าตาดีๆ อยู่แค่ไม่กี่คนเอง ฉันเห็นแล้วก็เซ็งชะมัด อีกอย่างฉันไม่เชื่อแกหรอกที่ว่า ผู้ชายใส่แว่นตาจะซ่อนความหื่นเอาไว้น่ะ เพราะที่เห็นส่วนใหญ่ ก็มักจะซ่อนความแต๋วแตกเอาไว้ข้างใน ฉันหาผู้ชายคณะอื่นมาเป็นแฟนน่าจะดีกว่า”

“จะเลือกเอาคณะไหนก็แล้วแต่แกเถอะว่ะ ฉันว่าตอนนี้ เราควรจะไปหาอะไรกินกันก่อนนะ ฉันหิวแล้วก็ไม่อยากจะหิ้วท้องรอ ไปจนถึงบ้านของแกอ่ะ”

“ก็ได้...งั้นไปกันโลด!”

เป็นเพราะตองเก้าโทรมานัดฉันอย่างกะทันหัน ฉันจึงต้องขอยืมชุดของหลินซีมาใส่ เพราะตัวของเราทั้งสองคน มีขนาดไซส์ที่ใกล้เคียงกันมาก ฉันรื้อเสื้อผ้าของหลินซีออกมาจากตู้ แต่ดูเหมือนจะไม่เจอชุดที่ถูกใจ แถมยังถูกมันบ่นใส่จนหูชา

“ อันนา...แกช่วยตามโลกให้มันทันหน่อยดิวะ ผู้หญิงสมัยนี้เขาจะต้องเปิดเผย สิ่งที่เคยซ่อนเร้นอยู่ภายใน ให้ออกมาสู่สายตาของชาวโลกกันหมดแล้ว ฉันขอร้องว่ะ แกอย่าทำตัวเป็นคนหัวโบราณ เหมือนพวกเต่าล้านปีจะได้มั้ย? เพราะเราคือวัยรุ่นที่อยู่ในยุค Generation Alpha แกเข้าใจป่ะ”

หลินซีอธิบายคร่าวๆ แต่เท่าที่ฉันรู้มา เด็ก GEN ที่ว่านั่น มันจะต้องเกิดในช่วงปีพ.ศ.2553 จนถึงพ.ศ.2568 แต่ที่หลินซีพูดออกมานั่น มันไม่น่าจะใช่...ฉันจึงรีบค้านมันกลับไป

“ใช่เหรอวะ? ในเมื่อเราเกิดก่อนหน้านั้นตั้งสี่ห้าปี เราจะเป็นเด็ก GEN ได้ยังไง”

ถึงฉันจะเถียงกลับไปด้วยเหตุผล แต่มีหรือที่คนอย่างมันจะยอมให้กันได้ง่ายๆ

“...แค่ถอยกลับไปอีกไม่กี่ปี แกก็หยวนๆ ให้หน่อยดิวะ...”

เห็นมั้ยละ...ว่ามันยังสามารถที่จะแถต่อไปได้ ฉันจึงเลิกสนใจ และหันมามองกองเสื้อผ้าที่วางไว้นั่นแหละ แล้วแต่ละชุดของมันก็สุดแสนจะเซ็กซี่ และมีแต่ชุดเดรสที่เป็นสายเดี่ยวแทบจะทั้งนั้น 

หลินซีจงใจเลือกชุดสีดำ ที่มีสายใส้ไก่ผูกไขว้ไว้หลังคอ แบบพอดีตัวมาให้ฉัน  ความยาวของมันเลยหัวเข่าขึ้นมา จนเกือบจะถึงโคนขาอ่อน ซึ่งปกปิดสิ่งที่ซ่อนไว้ภายในแทบไม่ได้เลย  

ฉันไม่เคยใส่ชุดแบบนี้เลยสักครั้ง แต่หากลองสักตั้งก็คงไม่เป็นไร เพราะสถานที่ที่เขาจะพาฉันไป มันคือผับที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ ก็แต่งตัวสไตล์นี้กันทั้งนั้น

หลินซีจับฉันทำผมและแต่งหน้าให้   จนรู้สึกได้เลยว่า มันไม่น่าจะใช่ฉันเลยจริงๆ

ผู้หญิงที่อยู่ในกระจกบานกว้าง นั่นคือฉันจริงๆ ใช่มั้ย?

ฉัน...ได้แต่ถามตัวเองกลับไปกลับมา...

“สวยมากเลยใช่มั้ยละ ฝีมือของฉัน ได้ทำให้แกกลายเป็นนางฟ้า ที่จุติลงมาจากสวรรค์ เพื่อประทานให้กับท่านเทพตองเก้า ฟังแล้วก็เข้าท่าดีนะ”

“แหวะ!...ฉันว่านายนั่นน่าจะเป็นจอมมาร ที่มาจากบรรพกาลมากกว่า เพราะฆ่าเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมตายให้สักที”

“แกนี่นะอันนา...เฮ้ย!”

เอี๊ยดดดดด!!

เสียงเบรกรถดังสนั่นลั่นไปทั้งซอย พลอยทำให้ฉันกับหลินซี ต้องรีบวิ่งปรี่ออกมาดูเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นแถวหน้าประตูบ้าน ของมันเองนั่นแหละ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 2 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    [ตองเก้า...จากต้นไทรวอสองเปลี่ยน]ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองดังมาแต่ไกล แต่เป็นความรู้สึกที่คลับคล้ายกับกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น...แล้วผมก็พยายามฝืนที่จะลืมตา[ไอ้เก้า!...มึงมัวทำห่าอะไรอยู่วะ...ทำไมมึงถึงไม่พาน้องมันมาสักที..กูกับหลินนั่งรอพวกมึงมาชั่วโมงกว่าๆ อีกสิบห้านาทีถ้ามึงยังไม่มา หลินบอกว่าจะไปหาอันนาที่เต๊นแล้วนะเว้ย]เสียงของไอ้ต้น! ที่เป็นคนเรียกชื่อผมดังออกมาจากวิทยุสื่อสาร นั่นจึงทำให้ผมรีบหันไปคว้ามันมากดคีย์รับ"เออโทษทีว่ะ...อากาศกำลังดีมันเลยทำให้กูเผลอหลับไปพร้อมกับอันนา"[ มึงคิดว่ากูไม่รู้เลยงั้นสิ...ไอ้สันดาน ]"เออตามนั้น...ในเมื่อมึงรู้แล้วจะถามกูทำไม...บอกหลินด้วยว่าไม่ต้องมาเพราะกูกับอันนากำลังจะไป"ผมรีบตัดบทสนทนา ก่อนหันมองอันนาที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี"ไอ้ต้นมันเรียกวิทยุตามเราสองคนน่ะ" ผมบอกเจ้าของใบหน้าน่ารัก ก่อนก้มลงไปจุ๊บริมฝีปากของเธอทีหนึ่ง ซึ่งมันยังไม่น่าจะพอเพราะเมื่อผมผละออกมา อันนาก็รั้งต้นคอของผมให้ลงไปจูบกับเธออีกครั้งก่อนจะผละออก"ต่อกันไหม?...ฉันจะได้วิทยุบอกไอ้ต้นมันว่า ให้พาหลินไปเดินเที่ยวที่งานดนตรีกันก่อนไม่ต้องรอ""ขืนต่ออีกที ฉันคงได

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์    ตอนพิเศษ 1 Countdown ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่

    วันสิ้นปี ณ.ที่เขาใหญ่{Unna part}เนื่องจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเราสองคนมากมาย จึงเป็นเหตุที่ทำให้การจัดกิจกรรม ของชมรมวิศวะไฟฟ้าคราวนั้นต้องถูกยกเลิกกลางคัน และหลังจากที่ทุกคนปรับความเข้าใจกันได้ ตองเก้าจึงจัดทริปเค้าดาวน์ที่เขาใหญ่เพราะเจ้าตัวเขาต้องการเอาใจฉันนั่นเองอยากรู้ใช่ไหมละ ว่าทำไมฉันถึงเลือกเค้าท์ดาวน์ข้ามปี ณ.ที่เขาใหญ่แห่งนี้..นั่นเป็นเพราะที่นี่มีงานลานดนตรีที่ถูกจัดขึ้นทุกปี แต่ฉันไม่เคยมีโอกาสได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้เลยสักครั้งซึ่งในบริเวณงานดังกล่าว จะมีพื้นที่ประมาณราวหนึ่งตารางกิโลเมตรเห็นจะได้ บริเวณด้านในจะประกอบไปด้วยเวทีต่าง ๆ ที่เอาไว้สำหรับให้นักร้องทั้งหลายขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตให้คนที่ตั้งใจมาในงานนี้ได้ฟัง ซึ่งแต่ละเวทีก็ยังแยกประเภทของดนตรีแต่ละแนวอย่างเช่น Jazz Pop Rock หรือลูกทุ่ง กระทั่งรำวงย้อนยุค รวมไปถึงการระเล่นต่างๆ อย่างมากมายที่นี่จึงเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางให้คนที่มีดนตรีในหัวใจได้มารวมตัวกัน เพราะมีเหล่าบรรดาศิลปินในดวงใจหลากหลาย ที่เราจะได้เห็นพวกเขามารวมตัวกันที่นี่นั่นเองและจุดที่เราเข้าพักก็จะอยู่ใกล้กับสถานที่ที่จัดงานลานดนตรี ซึ่งฉ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ตีตราจอง (จบ)

    "ไม่ให้กลับ!...โอ๊ย!"ตองเก้าร้องเสียงดัง พลางทำหน้าแหยเพราะคงเจ็บแผลจากการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้กำลังแขนของตัวเองมากเกินไป"ฉันบอกนายแล้วเห็นมั้ยว่าอย่าขยับ!..." ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ ประคองร่างใหญ่ให้นอนลงไปที่เดิม"ฉันไม่กลับแล้วก็ได้... ฉันขอโทษความจริงฉันไม่น่ายั่วให้นายโกรธเลย...เจ็บมากมั้ย?""เจ็บมาก..." เจ้าตัวพูดว่าเจ็บแถมยังเบะปาก จนฉันอยากจะขำพรืดออกมาเมื่อเห็นหน้าตาของเขา"สามวันที่เราไม่ได้เห็นหน้ากัน ทำฉันคิดถึงเธอมาก...จูบหน้าผากฉันหน่อยได้ไหม?"ตองเก้ากำลังอ้อนฉันด้วยการใช้คำพูดหวานๆ และมันก็ทำให้ฉันใจอ่อนกับเขาอีกตามเคย"แค่หน้าผากเองเหรอ?" ฉันถามขณะโน้มหน้าลงจูบหน้าผากตามที่เขาร้องขอ จากนั้นจึงถามเขาต่อว่า"พอไหม?" แต่ฉันไม่ได้รอคำตอบอะไร เพราะฉันค่อยๆ จูบไล่จากหน้าผากลงมาจนถึงริมฝีปากของเขา แต่จูบแค่เพียงเบาๆ"เอาอีก..."เห็นไหมละ...ว่าพอเจ้าตัวได้คืบก็จะเอาศอก ฉันจึงได้บอกเขาออกไปว่า..."พอก่อนนะ เพราะตอนนี้ฉันมีเรื่องที่จะถามนาย.." ฉันว่าพลางหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม"เรื่องอะไร?"“แหวนของนะโม อยู่กับแม่นายใช่ไหม ฉันอยากขอเอาไปคืนให้เขา”“อยู่ที่เอวา เอวาอาสาว่าจะเ

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   ผู้หญิงสายรุก

    ฉันหยุดยืนอยู่หน้าห้องพิเศษของตองเก้าพลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนหันไปมองหน้าของนะโมเพื่อขอกำลังใจนะโมพยักหน้าให้พร้อมกับยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเชิงต้องการขออนุญาตคนที่อยู่ด้านใน แต่ฉันยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไป เมื่อคนที่อยู่ด้านในกลับเป็นฝ่ายเปิดออกให้เอง“อันนา!...อันนามาแล้วค่ะแม่”เอวาร้องลั่นราวกับดีใจนักหนาเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน ก่อนหันไปบอกคนเป็นมารดาที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับบิดาของเธอเรายกมือขึ้นไหว้พวกท่านพร้อมกัน และเมื่อเห็นว่าท่านรับไหว้ฉันกับนะโมจึงเดินตามหลังเอวาไปนั่งด้วยกันที่โซฟา แต่ทว่า..อยู่คนละฝั่ง และฉันเป็นคนที่ได้นั่งอยู่ตรงกลางทุกคนในครอบครัวของตองเก้ารู้เรื่องราวของนะโมทุกอย่าง โดยผ่านการบอกเล่าจากฉันเมื่อสามวันที่ผ่านมา"เราใช่ไหมที่มีชื่อว่านะโม?..."แม่ของเอวาเลื่อนสายมาที่นะโมตอนถาม เพราะเมื่อสามวันก่อนตอนที่พวกเราอยู่โรงพยาบาล พวกท่านยังไม่ทันได้สังเกตใคร นอกฉันกับคนเป็นลูกชายของท่านเท่านั้น"ครับ.." นะโมตอบกลับสั้นๆ พอได้ยินอย่างนั้นท่านจึงได้พูดกับเขาในประโยคต่อไปอีกว่า"ครอบครัวของเราขอขอบใจเธอมากนะ ที่ได้ช่วยชีวิตลูกชายของเราไว้ แล้วยังพาเขามา

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   พ้นขีดอันตราย

    เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน จากชั่วโมงหนึ่งกลายเป็นสองสามสี่ และในชั่วโมงที่ห้านั่นเองที่ฉันได้เห็นร่างของหมอใหญ่เปิดประตูออกมา แล้วบอกกับพวกเราทุกคนว่า“คนเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้วครับ”ทุกคนเฮโลลั่นโรงพยาบาลประสานเสียงกัน จนถูกคุณหมอดุเข้าให้นั่นแหละถึงได้พากันเบาเสียงลงฉันเห็นคนเป็นพี่ชายพลอยดีใจร่วมไปกับคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของทั้งสองคน มันยังคงไม่จืดจางฉันคิดว่าอย่างนั้นพี่อุนเดินมาโอบไหล่ฉันเชิงให้กำลังใจ ขณะเดียวกันก็ดึงฉันเข้าไปกอด ก่อนจะผละออกมาพูดว่า“แกกลับไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ดูเสื้อผ้าของแกมีแต่เลือดอยู่เต็มไปหมด หมอบอกว่าไอ้เก้ามันพ้นขีดอันตรายแล้ว เราแค่รอให้มันฟื้นหมอถึงจะอนุญาตให้เราเข้าเยี่ยมมันได้"หลังจากที่พี่ชายบอกฉัน หลินซีก็เข้ามาพูดในทำนองเดียวกัน“ฉันก็คิดแบบพี่อุลนะ แกกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ มอมแมมเป็นลูกหมาเลย”ฉันรับฟัง แต่ยังไม่ขยับไปไหน เนื่องจากฉันกำลังสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาใครบางคน“หลิน... นะโมละเขาไปไหน แกเห็นเขาไหม?” ฉันเอ่ยถามเอากับเพื่อนสนิทเพราะคิดว่ามันน่าจะรู้ดี“นะโมกลับไปเอารถที่ห้าง

  • My engineer เกียร์ล็อคกาวน์   แหวนของใคร?

    เราสองคนช่วยกันพยุงตองเก้าให้นอนราบไปกับพื้นรถทางด้านหลัง และนะโมยังจับดูชีพจรของตองเก้าอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยที่เราสองคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลยนะโมเปิดกระเป๋าร่วมยาแล้วล้วงเอาผ้าก๊อต มาปิดปากแผลให้ตองเก้าที่ด้านหน้า จากนั้นเราจึงช่วยกันพลิกร่างหนาเพื่อทำแผลให้เขาที่ด้านหลังเจ้าตัวทำหน้าแหยทุกครั้งนั่นแหละแต่ทว่ากลับไม่มีเสียงร้อง ผิดกับฉันที่มีน้ำตาไหลนองออกมา โดยไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดไหลได้สักทีเมื่อปฐมพยายาบาลเบื้องต้นให้คนเจ็บเสร็จสรรพ ฉันจึงแจ้งทางศูนย์กลับไปว่า เราได้นำตองเก้าขึ้นรถกู้ชีพของเขาไปส่งโรงพยาบาลให้เอง โดยสั่งการให้ศูนย์ช่วยประสานกับทางโรงพยาบาลว่าให้เตรียมทุกอย่างไว้รอพอได้ยินเสียงฉัน พี่อุลจึงขึ้นความถี่เรียกขาน ทั้งอย่างนั้นเวลานี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็ช่างมันฉันไม่แคร์ เพราะฉันสนแค่คนที่อยู่ในอ้อมแขนของฉันในตอนนี้เท่านั้นเองนะโมให้ฉันเอาผ้าสะอาดที่มีในกระเป๋า กดทับบาดแผลของตองเก้าเอาไว้อีกชั้น เพื่อกันไม่ให้เลือดไหลออกมามาก จากนั้นเขาจึงใช้ผ้าด้ายดิบผืนใหญ่ที่มีไว้สำหรับห่อคนตาย แต่มันยังไม่ผ่านไช้งาน มาห่มให้ตองเก้าเพราะเราไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status