"มึงมีน้องสาวเหรอ?" ศิลาถามขึ้นนิ่ง ๆ
"ไม่มี แค่เด็กขายพวงมาลัย กูเห็นน้องมันขายหน้าแดงหน้าดำกูเลยอุดหนุนไอ้พวกนี้ก็แซวแรงไป" มาร์คตอบเพื่อนรักตัดรำคาญ พร้อมทั้งนึกถึงหน้าใส ๆ แก้มแดง ๆ เมื่อเช้า ที่เขาพานั่งหน้ารถไปส่งที่บ้านแล้วพากลับไปส่งที่โรงเรียน เจ้าตัวไหว้สวยทั้งไปทั้งกลับ ถ้าตอนเย็นเจออีกก็คงจะไหว้อีกแน่ ๆ เมื่อคิดถึงตอนนั้นชายหนุ่มจึงเผลอยิ้มออกมา พร้อมทั้งส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างเอ็นดู
"เคลิ้มครับ ยิ้มครับ พูดถึงแล้วหน้าบานไม่หุบ มึงบอกว่าน้องมันอยู่กับตา ไม่ไปขอมาเลี้ยงเองเลยล่ะ ตัวแค่นั้นไม่กินเปลืองอะไรหรอกมั้ง" โรมหันมาว่าเพื่อนขำ ๆ
"ไอ้โรม น้ำหวานไม่ใช่หมากูจะได้ขอมาเลี้ยงเล่น มึงจะกลับบ้านก็ไปซะที ลากกูเข้าคุกอยู่นั่นแหละ" มาร์คว่าเสียงดังใส่เพื่อนไม่จริงจัง พร้อมกับลุกขึ้นถอดเสื้อเดินเข้าห้องส่วนตัวไป
"มึงก็หยอกแรงไปไอ้โรม กูว่าไอ้มาร์คมันเอ็นดูน้องมันจริง ๆ นั่นแหละ ขนาดกูเจอครั้งเดียวยังถูกชะตาเลย หรือมึงไม่ถูกชะตาน้องมัน" เทนหันไปว่าเพื่อนด้วยกลัวว่าเพื่อนอีกคนจะโกรธจริง เพราะเขาก็ไม่เคยมีน้องผู้หญิง เขาเองก็คิดว่าน่าจะดีถ้าได้ยินเสียงแจ๋ว ๆ นั่น คงหนวกหูดีแบบที่มาร์คว่า
"เฮ้ย...กูแค่พูดเล่น คนเว้ยไม่ใช่ลูกหมา แล้วไอ้มาร์คมันก็เคยบอกว่ามันอยากได้น้องสาว ใครจะยุเพื่อนเข้าคุกกันวะ" โรมว่าพลางหันหลังเดินออกจากห้องพร้อมกับศิลาลุกขึ้นยืน
"แล้วมึงจะไปไหนศิ" เทนว่าขึ้นทันทีที่เพื่อนลุก
"กลับคอนโด" เสียงห้วนตอบนิ่ง ๆ
"คืนนี้มึงจะมาร้านหรือเปล่าเนี่ย"
"อืม ..."
"ศิ กูว่าระวังแมรี่ไว้ด้วยนะ คนที่นางคบมาก่อนได้ข่าวหมดไปหลายล้านแล้วรถที่เอาไปจอดขายกูว่าก็คงทรงเดียวกับรถมึงนี่แหละถึงบ้านมึงจะรวยมากแต่กูก็อยากเตือนมึงนะเพื่อน"
เทนว่าพลางมองหน้าเพื่อนรักอย่างเป็นห่วง พวกเขาคบกันมานานจนรู้นิสัยกันดี ถึงศิลาจะไม่มีนิสัยง้อผู้หญิงหรือถนอมน้ำใจใคร แต่ถ้าใครเดือดร้อนเพื่อนของเขาจะไม่ขัดเสมออย่างตอนนี้ที่เขายอมให้คู่ควงคนล่าสุดเข้าพักในคอนโดให้เช่าของเขาฟรีและให้ยืมรถไปใช้ โดยไม่สนใจคำทัดทานจากที่บ้านด้วยเหตุผลว่า ก็เขาเดือดร้อน แค่นั้น"อืม ขอบใจ" เสียงทุ้มห้วนดังขึ้นก่อนที่จะเดินออกจากห้องตามโรมไปอีกคน เทนได้แต่ถอนหายใจตามหลังเพื่อนแล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนมาร์คเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกคน พวกเขาจะมานอนที่นี่กันประจำเพราะมันใกล้ทั้งมหาลัยและร้านเลยมีเสื้อผ้าอยู่นี่ด้วยบางส่วน ส่วนคอนโดของเขาก็มีเสื้อผ้าของเพื่อนด้วยเช่นกันเรียกว่าไปใกล้ตรงไหนก็พากันนอนตรงนั้นได้เลย จริง ๆ คอนโดนี้มี 2 ห้องนอน แต่พอถึงเวลานอนจริง ๆ พวกเขาจะพากันนอนรวมกันที่ห้องของมาร์คห้องเดียวเท่านั้น (อีกห้องเพื่อรับแขก แต่พวกเขาบอกว่า พวกเขาไม่ใช่แขก เลยพากันนอนรวมกับเจ้าของห้อง>~< )
..........//..........
SARAN BAR
รถซีรี่ 3 สีดำคันหรูวิ่งเข้ามาจอดหน้าร้านโซนจอดรถ วีไอพี เรียกสายตากลุ่มหญิงสาวที่ยืนคุยกันที่หน้าร้านให้หันมามองอย่างสนใจ เมื่อประตูฝั่งคนขับเปิดออกผู้ที่ก้าวลงมาจากรถเป็นหนุ่มรูปหล่อหน้าคม อารมณ์ดี ที่มาในชุดเสื้อยืดคอกลมสีดำธรรมดากับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำคุมโทน ทำให้ 1 ในหญิงสาวหุ่นดียิ้มหวานอย่างยั่วยวนส่งให้ชายหนุ่มทันที
"พี่มาร์ค!" เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ดังขึ้นด้านหน้าที่จอดรถเรียกความสนใจของเจ้าของชื่อให้หันขวับกลับไปทันที
"อ้าว! ทำไมยังอยู่ในชุดนักเรียนอยู่ล่ะ" ชายหนุ่มเอ่ยถามยิ้ม ๆ พร้อมกับมองเด็กผมเปียที่ยืนอยู่หน้ารถตัวเอง หมดความสนใจกลุ่มสาวสวยไปทันที
"พอดีครูให้ ป.6 กับ ม. 3 อยู่ประชุมกีฬาสีค่ะเลยกลับค่ำแล้วรีบเอามาลัยมาให้ป้าข้าวมันไก่ก่อนเลยยังไม่ได้เปลี่ยนค่ะ" แม่ค้าตัวน้อยตอบเสียงใส
"อ้าว แม่ค้าน้อย เอาดอกไม้มาให้ไอ้มาร์คมันเหรอ" โรมที่เดินมากับศิลาที่มีสาวเซ็กซี่เดินกอดแขนมาด้วยเอ่ยทักมาแต่ไกล
"สวัสดีค่ะ พี่โรม (ยกมือไหว้สวยพร้อมส่งยิ้มให้อย่างน่ารัก) เอามาส่งป้าข้าวมันไก่ค่ะ วันนี้มาส่งเจ้าเดียว" แม่ค้าตัวน้อยพูดขึ้นเสียงแจ๋ว ๆ
"แล้วไปไหนต่ออีกมั้ยเนี่ยเรา เดี๋ยวก็มืดแล้วนะ เอ้อ...นี่เพื่อนพี่ พี่ศิลา แล้วก็..." " แมรี่" มาร์คถามพร้อมกับแนะนำเพื่อนแต่เมื่อจะแนะนำหญิงสาวที่มากับเพื่อน ศิลาจึงรีบเอ่ยสวนขึ้นทันที
"สวัสดีค่ะพี่ศิลา สวัสดีค่ะพี่แมรี่" เด็กน้อยยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มให้อย่างน่ารัก จนคนตัวโตที่เพื่อนเพิ่งแนะนำยืนมองนิ่งบอกความรู้สึกไม่ได้ไปทันที
"เสร็จนี่ หนูก็จะกลับบ้านเลยค่ะ กะจะแวะตลาดซื้อผลไม้ไปฝากเพื่อนด้วยเพื่อนหนูป่วย" เด็กน้อยตอบไปตามซื่อ
"เพื่อนป่วย?" มาร์คทวนคำ
"ใช่ค่ะ เพื่อนชั้นเดียวกันบ้านที่อยู่ในสวนข้างบ้านหนูไง น้องเพลงป่วย ตอนนี้หมอให้กลับมารักษาที่บ้านแล้ว หนูเลยจะซื้อผลไม้ไปให้ค่ะ ไปนะคะสวัสดีค่ะพี่มาร์ค พี่โรม พี่ศิลา สวัสดีนะคะพี่คนสวย" เธอเรียกว่าคนสวยเพราะเธอจำชื่อผู้หญิงไม่ได้แล้ว แต่คนได้ยินกลับหน้าบานขึ้นมาทันที เด็กน้อยตอบพลางยกมือไหว้ลาแบบรวดเดียวจบตั้งท่าจะหันหลังวิ่งกลับบ้าน
"เดี๋ยว...(มาร์คดึงผมเปียเอาไว้จนเธอเบรกตัวโก่ง) เดี๋ยวพี่พาไปส่ง"
"ไม่เป็นไร ๆ รบกวนเวลางานพี่เปล่า ๆ ไปนะคะ สวัสดีค่ะ" ปฏิเสธเสียงรัวทันทีพร้อมกับยกมือไหว้อีกรอบแล้วหันหลังเดินไว ๆ หนีไปจนชายหนุ่มต้องมองตามพรางส่ายหน้าน้อย ๆ
"มึงไม่ตามไปส่งน้องล่ะ" โรมเอ่ยขึ้นเสียงนิ่ง ซึ่งมาร์คก็ยืนมองตามหลังคนตัวเล็กนิ่ง ๆ เหมือนอยู่ในภวังค์ โรมจึงตัดสินใจดึงกุญแจรถจากมือเพื่อนแล้วขับรถออกไปทันที
"อ้าว ไอ้โรมมันไปไหน" มาร์คเหมือนหลุดออกจากภวังค์หันมาถามศิลาพลางมองตามไฟท้ายรถตัวเอง
"ไปส่งน้องมึงไง ปล่อยเดินไปทำไมมืดค่ำ" ศิลาว่าพลางหันหลังเดินเข้าร้านโดยมีแมรี่เดินเกาะแขนไปไม่ห่าง
~~~~~~~~~~
ฝากฝั่งของโรม
ปริ้น...ปริ้น... "น้ำหวาน!"
เสียงบีบแตรจากฝั่งตรงข้ามพร้อมกับกระจกรถเลื่อนลงตามมาเสียงตะโกนเรียกทำให้เด็กน้อยที่กำลังจ้ำอ้าวให้ทันร้านผลไม้รีบหันไปมองทันที และได้เห็นคนในรถกวักมือเรียกไว ๆ จากฝั่งตรงข้าม เด็กน้อยหันซ้ายหันขวาก่อนวิ่งข้ามถนนไปหาอย่างงง ๆ "มีอะไรหรือเปล่าคะพี่โรม"
"ป่ะ พี่ไปส่ง จะไปซื้อผลไม้ด้วยไม่ใช่หรือไง" โรมว่าพลางปลดล็อกประตูฝั่งด้านข้างคนขับ
"เอ่อ...คือ" เด็กน้อยอึกอัก
"เฮ้ย ไม่ต้องกลัว พี่เป็นเพื่อนไอ้มาร์คมัน พอดีพี่จะกลับบ้านเดี๋ยวแวะไปส่ง มา ๆ ขึ้นรถ" โรมว่าพลางเอื้อมมือไปเปิดประตูฝั่งด้านข้างคนขับ
"มันจะเหมาะหรือคะ หนูว่าไม่ต้องลำบากพี่โรมดีกว่าค่ะ ตลาดอยู่แค่นี้เองแล้วหนูซื้อส้มแค่โลเดียวมันไม่ได้หนักนะคะ หนูถือไหว" น้ำหวานว่าอย่างเกรงใจและมันอาจดูไม่ดีที่เธอจะมีผู้ชายไปส่งตอนค่ำ ๆ แบบนี้ตาเธอต้องไม่สบายใจแน่เลย
"ระแวงนะเราเนี่ย พี่ไม่ทำอะไรเราหรอกน่า ไอ้มาร์คมันฝากไปส่ง มาขึ้นมาเดี๋ยวร้านผลไม้ก็ปิดกันพอดี" ว่าพลางแกล้งยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา
"งั้น กะ...ก็ได้ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ" ว่าพลางเดินอ้อมไปด้านข้างคนขับแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่ง ปิดประตูไม่แรงนักพร้อมกับหันไปจับเบลมาคาดเองเรียบร้อย ซึ่งการกระทำของเธอ โรมมองนิ่ง ๆ แล้วยิ้มมุมปากอย่างพอใจ แล้วพาเด็กน้อยไปซื้อผลไม้ที่ตลาดก่อนพาไปส่งที่บ้าน โดยเดินเข้าไปสวัสดีตาของน้ำหวานแนะนำตัวเองว่าเป็นเพื่อนของมาร์คที่สั่งพวงมาลัย สายตาแอบสำรวจบ้านหลังเล็กที่ 2 ตาหลานอยู่ถึงจะเป็นบ้านที่มีเพียง 1 ห้องนอนและมีห้องโถงแต่ก็ทำความสะอาดเอี่ยมข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบแม้กระทั่งรองเท้าที่เธอใส่มาเธอยังถอดวางอย่างเป็นระเบียบบนชั้นและถุงเท้าเธอพับวางใส่ตะกร้าใบเล็กอย่างเรียบร้อย
"พี่โรมรีบมั้ยคะ ทานข้าวกับพวกเรามั้ย วันนี้ตาทำต้มยำปลานิลกับผัดผักบุ้งค่ะ" เด็กน้อยว่าขึ้นเสียงใสดังมาจากส่วนที่ต่อเติมออกมาเป็นครัว
"พี่ไม่รบกวนหรือครับ แล้วบอกว่าจะไปเยี่ยมเพื่อน" โรมว่าพลางมองหน้าตาน้อยอย่างเกรงใจที่แค่ตั้งใจพามาส่งก็จะให้รบกวนขนาดนี้
"ไม่รบกวนหรอกลูก…
3 ปีต่อมามหาบัณฑิตสาวสวยเดินหอบดอกไม้ช่อโตยิ้มร่าเข้ามาหาชายสูงวัยวันนี้ลุงปกรณ์มาตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับหญิงสาวเมื่อ 3 ปีก่อนเพื่อแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตคนใหม่และเพื่อนรักอย่างของขวัญ ซึ่งการมาของลุงกรณ์ในครั้งนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่เป็นการมาครอบครัวใหญ่ประกอบไปด้วยครอบครัวของมาร์คที่มากันครบและพาคุณย่าวัย80 กว่ามาด้วยและที่เซอร์ไพรส์คืออามนตรีที่บินตรงจากอเมริกาเช่นกัน และยังมีครอบครัวของศิลาและของขวัญที่มีประมุขของบ้านมาแสดงความยินดีกับหลานสาวทั้ง 2 และที่ขาดไม่ได้คือพี่ชายทั้ง 2 ของ 2 สาวและครอบครัว และเพื่อนรักไข่มุกที่มาพร้อมสามีและลูกสาวตัวน้อยวัยกำลังพูดคุยที่มาร์คค่อนข้างจะหลงมากตั้งแต่แรกเห็น ทั้งขออุ้มขอหอมดูหวงและโอ๋สุดพลังจนพ่อเด็กกลัวว่าจะไม่ได้ลูกคืนโดยการมาครั้งนี้เป็นการจัดการ2 สามีของ 2 สาวที่เช่าเครื่องบินเหมาลำทั้งมาและกลับไทยเพื่อไปฉลองปริญญาที่บ้านเกิดอีกรอบ"ที่รัก เป็นอะไรครับทำไมหน้าซีด ๆ หนูนอนไม่พอรึป่าว" มาร์คเอ่ยข้างหูภรรยาคนสวยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขณะที่เครื่องบินกำลังเหินฟ้ามุ่งสู่ประเทศบ้านเกิด"หวานเวียนหัว
"ตายแล้ว นี่อะไรกันเนี่ย" น้ำหวานอุทานตาโตเมื่อเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเองแล้วเห็นถุงสินค้าแบรนด์ดังเกือบ 20 ถุงวางอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น หญิงสาวรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปหยิบถุงที่เล็กที่สุดมาเปิดแล้วต้องขมวดคิ้วเมื่อตรวจแล้วสินค้าทุกถุงถูกตัดป้ายราคาออกทั้งหมด ทำให้หญิงสาวต้องหอบของทุกถุงลงวางกับพื้นแล้วเปิดทีละถุงออกมากดดูราคาสินค้าทางช็อป"แปดแสน!" หญิงสาวอุทานตาโตกับราคากระเป๋าสะพายหนังอะไรซักอย่างสีดำใบกระทัดรัดที่เพียงพอแค่ใส่กระเป๋าสตางค์ใบสั้นของเธอกับมือถือหน้าจอ 6.7 นิ้ว ได้เท่านั้น"ตาย...ทำไมมันแพงขนาดนี้เนี่ย" หญิงสาวบ่นพึมพำแล้วเปิดกล่องรองเท้าผ้าใบที่คล้ายกันอยู่ 2 คู่เป็นของผู้ชายและของผู้หญิงแล้วเมื่อเช็คราคาและคำนวณเป็นเงินบาทไทยอย่างรวดเร็วก็ถึงกับหน้ามืด "คู่ละ 6 หมื่น! พี่มาร์คเป็นบ้าอะไรทำไมใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้เนี่ย" แล้วหยิบกล่องที่บรรจุสูทตัวแพงที่มีรุ่นติดอยู่ที่ฝากล่องออกมาเสิร์ชหาราคาพร้อมกับคำนวณเป็นเงินไทยแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดกล่องอย่างเบามือ"ตัวละ สะ สะ สี่แสนเลยเหรอ แล้ว ๆ ๆ มี 3 กล่อง คุณพระ! อิหวานจะเป็นลม ใส่แล้วมั
เคเอส กรุ๊ป สาขาอังกฤษร่างบางเดินหน้างอเข้ามากระแทกก้นสวยลงที่เก้าอี้ด้านหลังของโต๊ะทำงานในห้องผู้ช่วยท่านประธานสาขา แล้วชำเลืองมองคนที่กำลังทำท่าอ่านเอกสารอย่างขมักขเม้นเหมือนไม่ได้รู้สึกว่าเธอเดินเข้ามาในห้อง"โปรเฟสเซอร์คะ หวานขอลางานครึ่งวันค่ะ" เสียงหวานว่าขึ้นอย่างแง่งอน"ไม่อนุญาตครับ วันนี้คุณน้ำหวานยังไม่ช่วยผมทำงานซักบรรทัดเลยนะครับ" เจ้าของห้องว่าขึ้นนิ่ง ๆ"งั้นเอางานมาค่ะหวานจะทำ ไม่ใช่ให้มานั่งเป็นตุ๊กตาเสียกบาลอยู่แบบนี้""จะทำตอนนี้เลยหรือครับ" ชายหนุ่มหันมามองหน้าสายตากรุ้มกริ่ม แล้วจ้องหน้าอกคู่สวยที่ดันเชิ้ตผ้าลื่นสีหวานอย่างเปิดเผย"หันไปเดี๋ยวนี้โปรเฟสเซอร์ ตามข้อตกลงของเราคือหวานจะลงไปอยู่กับพวกพี่ข้างล่างได้วันที่โปรเฟสเซอร์มีสอนนะคะ" คนสวยออกคำสั่งแล้วพูดถึงข้อตกลงร่วมกันหน้าบึ้ง ๆ"แต่ตามข้อตกลงของเรา คุณผู้ช่วยจะต้องขึ้นมาถ้าผมอยู่ที่ห้องนี่ครับ" ชายหนุ่มหันมาพูดยิ้ม ๆ แล้ววางปากกาในมือก่อนจะหันเก้าอี้ทั้งตัวมามองหน้าหญิงสาว"พี่มาร์ค... หวานอยากฝึกการตลาดน่ะ นะ...นะ นะ..." คนตัวเล็กลุกขึ้
"เอ่อ...อาตรีมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือคะ พี่มีนาไปตามหาที่บ้านแม่นารถหลายรอบเลยค่ะ ไปตามที่ร้านพี่โรมถามหนูตั้งหลายรอบ" หญิงสาวเอ่ยถามในขณะที่แม่บ้านตักข้าวใส่จานให้และเธอก็เผลอยกมือไหว้อย่างไทยจนแม่บ้านแอบยิ้มกับความน่ารักแรกเห็น"ก็มาตั้งแต่มาร์คให้มานั่นแหละ อามาอยู่ที่นี่ได้ 3 ปีกว่าแล้วล่ะ" อามนตรีตอบหญิงสาวยิ้ม ๆ"พี่มาร์คให้มา?" หญิงสาวทวนคำพลางมองหน้ามาร์คอึ้ง ๆ"เผอิญว่าไร่องุ่นของพ่อเพื่อนพี่ที่นี่ อยากแบ่งขายพี่เลยซื้อให้อาตรีดูแลต่อ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พลางตักอาหารวางใส่จานให้หญิงสาว"ซื้อไร่องุ่นที่นี่หรือคะ""ใช่ลูก มาร์คสร้างชีวิตใหม่ให้อาได้หลุดพ้นจากครอบครัวนั้น ตอนนี้อามีความสุขมากจนไม่อยากกลับไทยเลยล่ะ" อามนตรีตอบยิ้ม ๆ "แล้วพี่มีนอาเดือนล่ะคะ" "ก็ช่างเขาสิลูก 2 แม่ลูกนั่นไม่ได้เกี่ยวกับอาหรอก ลูกของอาจริง ๆ เป็นผู้ชายชื่อต้นกับตามเขาเสียตอนอนุบาลทั้งคู่ ส่วนมีนาเป็นลูกที่ติดท้องมาของเดือนแรม อามันก็แค่เด็กในไร่การศึกษาสูงที่สุดในตอนนั้นที่เจ้าของไร่บังคับให้แต่งงานกับลูกสาวเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองแล้วสวมหัวโขนให้อาทำงานเป็นลูกเขยทั้ง ๆ ที่จริง ๆ อามันก็แค่ลูกจ้างนั่
ช่วงบ่ายเกิดความโกลาหลกันขึ้น เพราะ 2 หลานสาวของคุณหญิงหายออกไปจากออฟฟิศ โดยไม่ได้ออกไปทานข้าวพร้อมกับคุณหญิง มาร์คไล่ดูกล้งวงจรปิดที่ออฟฟิศและของอพาร์ตเมนต์อย่างละเอียดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าช่วงที่ตนไม่อยู่แล้วสั่งให้เลขาเพื่อนเช็คทะเบียนรถแท็กซี่ที่ 2 สาวขึ้นไปอย่างร้อนรน ช่วงบ่ายหลังจากที่รู้ว่าคนทั้ง 2 เดินทางไปที่ไหน ศิลาได้เรียกพนักงานที่อยู่ไหนเหตุการณ์ที่เป็นสาเหตุให้ของขวัญตัดสินใจกลับบ้านขึ้นมาพบทุกคน ชายหนุ่มสั่งให้เอ็ดเวิร์ดจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาไฟล์ตที่ด่วนที่สุด เพราะคนทั้งคู่ไม่ได้นำเอาสิ่งของอะไรติดตัวไปนอกจากกระเป๋าสตางค์และเอกสารการเดินทางทั้งมือถือยังถูกทิ้งไว้ที่โซฟาในห้องของน้ำหวานอย่างไม่ใยดี..........//..........เช้าตรู่ของประเทศสหรัฐอเมริการถลีมูซีนสนามบินวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านสีขาวหลังเล็กน่ารักที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่มากนัก2 คนก้าวลงจากรถแล้วเดินอาด ๆ เข้าบ้านอย่างคุ้นเคยเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินตรงมาที่ครัวทำให้น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่เพื่อนอย่างสงสัย"ใครมาแต่เช้าค่ะมี้"
Mark talkเมื่อคืนผมได้คุยกับผู้ร่วมทุนคนใหม่ของโครงการที่ฝรั่งเศสครับ ท่านบอกว่าผู้หญิงเขาไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบ เขาต้องการความรัก อันนี้มันเป็นสิ่งเกินคาดหมายของผมมากจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาผมจะคิดว่าการรับผิดชอบเป็นอะไรที่ทุกคนต้องการเสมอ ตอนที่ผมอยู่เมืองไทยการที่เราจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนหนึ่ง สำหรับผมคือการยื่นเงินเป็นตัวเลขให้แล้วจบกันตรงนั้นผมคิดว่าเป็นแค่การซื้อขายหรือความรับผิดชอบในทางธุรกิจที่จะไม่ผูกมัดหรือผูกพันอะไรกัน แต่เมื่อผมมีอะไรกับน้องในคืนนั้น ผมพยายามจะขอรับผิดชอบโดยอ้างสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ยื่นจำนวนเงินหรือสิ่งที่เป็นตัวเลขให้ แต่ผมกลับนึกคำพูดหรือความหมายพวกนั้นไม่ออก จนได้มาคุยกับผู้ร่วมทุนท่านนี้ ท่านเหมือนเป็นผู้เขี่ยผงเล็ก ๆ ออกจากตาของผมทำให้เข้าใจว่าสิ่งที่ผมจะยื่นให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เราอยากจะมีเขาอยู่ตลอดชีวิต มันไม่ใช่ความรับผิดชอบ แต่ สิ่งที่ผมควรยื่นให้เธอคือ ความรักแล้วท่านก็ใจดีมากครับที่ยอมให้เครื่องบินส่วนตัวมาส่งพวกผมเมื่อคืน ตลอดทางผมนึกหาคำพูดต่าง ๆ หาเหตุผลประกอบว่าทำไมน้องถึงไม่อยากให้ผมกล่าวถึงเรื่องนี้ จนผมได้คุยกับไอ้เทน ม