“หม่อมฉันคือคนที่สามารถทำให้พระองค์สมปรารถนาได้เพคะ...” เฟยเซียงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้า แต่ทว่าแววตายามมองบุตรสาวกลับแฝงไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน เฟิ่งอี้คือบุตรสาวของนางที่เกิดจากเทียนตี้ผู้ชั่วช้าองค์นั้น!
เฟิ่งอี้มองเฟยเซียงอย่างไม่เข้าใจ สายตาของนางเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่อยากถามอีกฝ่าย แต่ทว่าเมื่อได้สบตากันแล้วนางกลับไม่สามารถเอ่ยคำถามออกมาได้ทั้งหมด เพราะอะไรกัน...สายตาคู่นี้ที่คุ้นเคยเหลือเกิน “เจ้า..!” นางกำลังจะเอ่ยถาม แต่ทว่าเสียงของนางกำนัลอีกคนที่อยู่หน้าห้องเอ่ยขึ้นมา “พระชายารอง พระชายารัชทายาทเสด็จมาเพคะ” เฟิ่งอี้จำต้องเก็บความสงสัยและคำถามเอาไว้ในใจ นางปั้นรอยยิ้มขึ้นมาประดับบนใบหน้า พยายามสำรวมท่าทางอากัปกิริยาให้มากที่สุด “รีบเชิญเสด็จที่ตำหนักรับรอง” ก่อนที่เฟิ่งอี้จะก้าวเดินออกไป เฟยเซียงกระซิบนางว่า “พระชายาต้องมีหม่อมฉันคอยรับใช้เคียงข้างเพคะ มิฉะนั้นแล้วพระชายาอาจจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้เสียเอง”ขบวนเสด็จของเฟิ่งหรั่นมิได
เฟยเซียงเดินค้นหาหลินเอ๋อร์ทั่วเรือนพักของตนเอง จนกระทั่งนางเดินเข้ามาในห้องลับแห่งหนึ่งที่หลินเอ๋อร์ไม่มีทางรู้จัก นางนั่งลงบนพื้นเย็นภายในห้องแห่งนั้นแล้วหลับตาทำสมาธิ การบำเพ็ญเพียรพลังมารของนางเกือบถึงขีดจำกัดแล้ว มันมีพลังมากพอที่จะจับตาหาผู้ที่ต้องการพบ ทว่าภาพที่ปรากฏขึ้นมาในห้วงสมาธินั้นคือภาพที่หลินเอ๋อร์ลอบลงไปที่เมืองมนุษย์!‘หรือว่านางจะหาความจริงเรื่องชาติกำเนิดของตนเอง!’เฟยเซียงพยายามคิดหาคำตอบในใจ หมากตัวสุดท้ายที่นางจะเก็บเอาไว้เล่นงานศัตรูบัดนี้กลับหายหลุดมือไป!นัยน์ตาของปีศาจหงส์แดงก่ำด้วยเพลิงโทสะ นางลุกขึ้นจากสมาธิทันใดนั้นปีกสีดำพลันสยายออกจากกลางแผ่นหลัง ไอสีดำซึ่งบ่งบอกถึงปราณมารที่มากล้นเกือบเกินขีดจำกัดทำให้รู้ว่าผู้นั้นบำเพ็ญเพียรถึงระดับใดแล้ว ยามนี้ความโกรธของเฟยเซียงมีมากพอที่จะสังหารผู้คนให้ตายในบัดดล!“เห็นทีข้าคงต้องลงมือขั้นเด็ดขาดกับพวกเจ้าทุกคน!”หลายวันแล้วที่เย่ไหลเซียงไม่ได้ความเคลื่อนไหวเรื่องแผนการร้ายของลู่อวี้ เนื่องด้วยอีกฝ่ายเอาแต่เก็บตนอยู่ในห้อ
รัตติกาลมาเยือนแสงจันทร์นวลลออสาดส่องไปทั่วท้องนภา หมู่ดวงดาราทั้งหลายจับกลุ่มกันทอประกายเป็นกลุ่มดาว ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่อง ผิวน้ำในสระบัวกระเพื่อมไหวเล็กน้อยตามแรงลมที่พัดโชยเอื่อยมา ลมหนาวเย็นที่พัดปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณทำให้เฟิ่งหรั่นกับลู่เฟยหลงรู้สึกถึงความหนาวเย็นและความอบอุ่นไปพร้อมกันแม้ว่าที่นี่จะเป็นเมืองทัวปา เป็นเมืองที่มีขนาดเล็กเพียงแค่หนึ่งในสี่ของแคว้นเหลียว แต่ทว่าหากศึกษาสภาพภูมิศาสตร์ดีๆ นั้น สถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การลอบสังหารอย่างยิ่งหากลู่อวี้วางกับดักสังหารนางกับลู่เฟยหลงที่นี่ เฟิ่งหรั่นใช้นิ้วของตนเองชี้ไปที่ดวงดาราทีละดวงและนับมันอย่างเพลิดเพลิน โดยมีพระสวามีอย่างลู่เฟยหลงนอนหนุนตักนางอย่างสบายใจหลังจากกลับมาจากประชุมศึกกับทัวปาอวี้ เขาแทบไม่ได้ความคืบหน้าอันใด เพราะแม่ทัพนายกองของเมืองทัวปาล้วนแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องข้าศึกที่โจมตีทำให้ยากต่อการวางกลยุทธ์ แต่ทว่าดูเหมือนทัวปาอวี้คงได้ตระเตรียมการกับลู่อวี้มาอย่างดี เรื่องที่คาดไม่ถึงว่าเขาอาจจะรู้ทันแผนการลอบสังหารครั้งนี้ก็ย่อมได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเลิกประชุมนายกองและกลับ
การเดินทางไปเมืองทัวปาค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากทัวปาเป็นเมืองที่มีอาณาเขตติดกับเผ่าซยงหนู นอกจากจะต้องเผชิญการรุกรานบ่อยครั้งแล้ว ยังต้องเผชิญภัยธรรมชาติที่มาจากผืนดินและทะเลอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากทะเลทางเบื้องทิศบูรพามีอาณาเขตเชื่อมต่อไปถึงมหาสมุทรใหญ่ ซึ่งมหาสมุทรใหญ่นี้คือสายน้ำหลักที่ไหลลงสู่แว่นแคว้นต่างๆ ให้มีน้ำในการดำรงชีพเหล่าทหารหลายพันนายที่ลู่เฟยหลงนำมาด้วยนั้นล้วนเป็นทหารกองทัพเสวียนอู่ ทั้งเขาและเฟิ่งหรั่นต่างนั่งอยู่บนเกี้ยวของรถม้าด้วยกันทั้งคู่ บัดนี้ไหล่หนาของรัชทายาทหนุ่มถูกผู้เป็นภรรยาหนุนซบอย่างแผ่วเบา ดวงตาของนางเหม่อลอยราวกับมีเรื่องมากมายในใจที่อยากปลดปล่อย“มีเรื่องทุกข์ใจอันใดงั้นหรือ?” ฝ่ามือจากไหล่อีกข้างของลู่เฟยหลงประคองศีรษะของผู้เป็นภรรยาให้นอนหนุนตักเขาอย่างอ่อนโยน เฟิ่งหรั่นกำลังจะลุกขึ้นแต่ทว่ากลับถูกเขาดันหน้าผากให้นอนหนุนอยู่เช่นนั้น“ท่านพี่ หม่อมฉันเป็นชายา หาสมควรให้พระองค์ทำเช่นนี้นะเพคะ หม่อมฉันอาจถูกตำหนิ” นางกล่าว เดิมทีสามีควรหนุนนอนบนตักภรรยา มีที่ใดกันที่สามีเสียสละตักของตนเองให้ภรรยาหนุนนอนเช่นน
นับวันปราณมารที่ถูกซ่อนอยู่ภายในหุบเขาเตี่ยนถังจะยิ่งกำเริบหนักขึ้นทุกที ลำพังเฟิ่งหรั่นในตอนนี้นางถูกกัดกินลมปราณจนร่างกายอ่อนแอ แต่ทว่าด้วยตบะเซียนที่นางสั่งสมมายาวนานทำให้นางสามารถต่อสู้กับปราณมารที่กัดกินจิตวิญญาณและพลังเซียนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น‘ผู้ที่ลอบทำร้ายข้าจะต้องมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีอย่างแน่นอน’นางคิดในใจ ยามนี้ร่างกายเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง แต่ไม่อาจนอนพักผ่อนได้ หากนางล้มนอนพักผ่อนเมื่อใด ลมปราณในกายอาจแตกซ่านได้ทุกเมื่อ นางจำเป็นต้องรักษาลมปราณและกายนี้เอาไว้มิให้แตกดับ หากไม่แล้วแดนสวรรค์จะเกิดเรื่องอันใดขึ้นก็ยากจะหยั่งรู้อึก!นางสะอึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอาเจียนออกมาเป็นโลหิตสีแดงฉาน บ่งบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของนางย่ำแย่เพียงใด หากสภาพร่างกายนางย่ำแย่อยู่แบบนี้ อีกไม่นานกองทัพมารคงฉวยโอกาสนี้บุกแดนสวรรค์ หลังจากที่ไป๋หู่และนางต้องราชทัณฑ์ กองทัพสวรรค์ในยามนี้จึงมีเพียงจูเชว่และชิงหลงที่ยังเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านกองทัพมาร แต่ทว่านางทราบมาจากเหล่าทหารที่เฝ้านางอยู่หน้าถ้ำว่ากองทัพสวรรค์นั้นพ่ายแพ้จนเกือ
และใช่!...เฟยเซียงหลอกใช้เสวียนอู่ ซึ่งในยามที่อีกฝ่ายกำลังตกอับเพราะแดนสวรรค์เป็นต้นเหตุ ย่อมทำให้ไฟแค้นในใจลุกโหมกระพือได้มากขึ้น นางควรเติมน้ำมันเพื่อปลุกไฟแค้นนั้นขึ้นมา ทำลายเฟิ่งหรั่น ทำลายทุกคนที่นางเกลียดชัง!นางเริ่มต้นด้วยการเดินทางไปพบเสวียนอู่กับราชามารลู่จี๋ที่แดนมาร คาดไม่ถึงว่าจะได้รับความร่วมมือจากทั้งสองเป็นอย่างดี เสวียนอู่ต้องการครอบครองแดนสวรรค์กับเฟิ่งหรั่น ส่วนลู่จี๋ก็ต้องการล้างอายแทนพี่ชายของตนที่ถูกไป๋หู่สังหารอย่างอนาจ ทุกอย่างช่างจัดสรรมาให้นางอย่างลงตัวนัก หลังจากนั้นไม่นานเป็นดังคาด เมื่อเฟิ่งหรั่นกับไป๋หู่อยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก เหล่านายทหารสวรรค์เริ่มสั่นคลอนความเชื่อมั่นในเทียนตี้และเทียนโฮ่ว ทหารสวรรค์ต่างแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกลายเป็นสงครามภายในขนาดย่อมอย่างเงียบๆ แต่ถึงกระนั้นด้วยการนำของเทียนตี้แห่งสรวงสวรรค์ พระองค์ก็มีรับสั่งให้ทหารในพระบัญชาออกรบทันทีทว่าผลของการรบที่ได้กลับมาคือความพ่ายแพ้ เนื่องจากทหารบางส่วนที่ภักดีกับเสวียนอู่ลอบติดต่อและให้ความช่วยเหลืออดีตผู้บัญชาการกองทัพของตนเองอย่างลับๆ จนทัพสวรรค์เกือบสิ้นท่า หากแต่ได้แ
ความตั้งใจของเสวียนอู่คือการยึดครองแดนสวรรค์และล้างความอับอายให้กับตนเอง เฟิ่งหรั่นดูถูกความสามารถของเขาอย่างชัดเจนว่าไม่คู่ควรกับนาง ถ้าเช่นนั้นเขาจะเป็นผู้ลงทัณฑ์นางให้ทรมานสาสมกับความอัปยศที่เขาได้รับครั้งนี้ อดีตแม่ทัพหนุ่มคิดอย่างหมายมั่นในชัยชนะ ตอนนี้ไป๋หู่ถูกสั่งขังคุกอสนีบาต คนที่พอจะกุมกองทัพได้ตอนนี้มีเพียงชิงหลงกับจูเชว่เท่านั้น หากเทียบความสามารถกับตนเองแล้ว เสวียนอู่กล้าเอ่ยได้เลยว่าทั้งสองนั้นไม่สามารถเทียบตนเองได้เลยในกองทัพสวรรค์เขายอมรับว่าตนเองเป็นรองเพียงไป๋หู่ผู้เดียว แต่ก็มิใช่จะยอมเป็นรองเสียทุกเรื่อง แพ้ศึกรบแต่จะแพ้ศึกรักไม่ได้ เฟิ่งหรั่นคือบันไดแห่งอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในสวรรค์ หากผู้ใดได้อภิเษกกับนางก็เท่ากับว่ามีสิทธิ์อย่างมากในราชบัลลังก์สวรรค์หากเทียนตี้สละพระองค์เป็นไท่ซ่างเหล่าจวิน ซึ่งเขาจะยอมให้ไป๋หู่ขึ้นมาเหนือตนเองอีกไม่ได้เด็ดขาด!เสวียนอู่ลอบติดต่อกับคนสนิทของตนเองในกองทัพสวรรค์ ซึ่งแน่นอนแล้วว่าตอนนี้เริ่มจะลำบากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะกองทัพทั้งหมดในตอนนี้ล้วนตกอยู่ในมือของประมุขสวรรค์ พระองค์มีอำนาจบัญชาการอย่างเด็ดขาดเพียงผู้