เฟิ่งเจาหรงออกมาสูดอากาศข้างนอก ตอนนี้นางไม่ได้ทำงานในเหลาสุรานั้นอีกต่อไป เพราะพระเมตตาของรัชทายาทลู่เฟยหลงทรงอนุญาตให้นางพักที่เรือนของเจ้าเมืองไป๋ซูเหวินสักระยะหนึ่ง หากทำศึกชนะเฟิ่งอี้ได้เมื่อใดนางก็จะมีอิสระ ได้ออกมาใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังกับมารดาของตนเอง
ส่วนทางด้านลู่เฟยหลงนั้น ตอนนี้เขากับเฟิ่งหรั่นมีคำสั่งลับกับซ่งหลานและจางซินเฉิง โดยออกอุบายให้ซ่งหลานนำกองทัพทหารหนานจิงจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังเมืองทัวปาเพื่อจับทัวปาอวี้มาสำเร็จโทษ ซึ่งการทำตามแผนเป็นไปด้วยดี เพราะหลังจากที่ทัวปาอวี้แน่ใจว่าลู่เฟยหลงตายแล้ว และเฟิ่งอี้ขึ้นเป็นฮองเฮาผู้สำเร็จราชการแทนสวามีของนาง เจ้าเมืองทัวปาก็เริ่มมีท่าทีกระด้างกระเดื่องหมายจะตั้งตนเองเป็นอิสระจากการปกครองของต้าเหลียว ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ซ่งหลานวางแผนการคาดการณ์กำลังของศัตรูได้ที่วางกำลังทหารประจำประตูแต่ละทิศได้แม่นยำ ในเมื่อทัวปาอวี้สนใจแต่การก่อกบฏตั้งตนเองเป็นอิสระ ซ่งหลานจึงนำทหารจำนวนหนึ่งไปลอบสังหารคนของทัวปาอวี้ ส่วนอีกจำนวนหนึ่งลอบเข้าไปในตำหนักใหญ่ของเมืองทัวปาเพื่อจับทัวปาอวี้มาแบบเป็นๆ แผนการนับวันอาการของเฟิ่งอี้ยิ่งหนักมากขึ้นทุกที เฟยเซียงแอบถ่ายปราณมารที่เกินขีดจำกัดเอาไว้ในกายนาง โดยที่นางนั้นไม่รู้ตัวเลยสักนิด ตอนนี้ภายในวังหลวงระส่ำระส่ายยิ่งนัก สถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าที่ควร เหล่าบรรดาเสนาบดีน้อยใหญ่ต่างพยายามตั้งตนมาเป็นใหญ่แทนนางโดยอ้างเรื่องที่นางไม่ออกว่าราชการหลายวัน อีกทั้งซู่ไท่เฟยเองก็มีท่าทีคุกคามภายในราชสำนักมากขึ้นเรื่อยๆ“ฮองเฮา หม่อมฉันว่าเรียกหมอหลวงมาดูอาการเถิดเพคะ นับวันพระนางจะยิ่งทรงประชวรหนักมากขึ้นทุกที หากไม่...” นางกำนัลสาวกำลังจะกล่าวต่อ ทว่าเมื่อได้รับสายตาดุจากประมุขแห่งราชสำนักฝ่ายในต้องเงียบปากลง“อาการที่ข้าเป็นอยู่ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็รักษาไม่ได้ทั้งนั้น ตอนนี้ในวังหลวงเป็นอย่างไรบ้าง ซู่ไท่เฟยมีความเคลื่อนไหวหรือไม่” เฟิ่งอี้หวงแหนอำนาจที่ได้มาเกินกว่าจะห่วงตนเองในยามนี้ ยามนี้ซู่ไท่เฟยพยายามสร้างฐานอำนาจแทนนาง ส่วนตัวนางที่อุตส่าห์มานะสร้างฐานอำนาจของตนเองมานานขนาดนี้ นางจะไม่ยอมเสียอำนาจไปเด็ดขาด“จากคนของเราที่ไปสอดแนมในตำหนักคังเฉวียน เหล่าเสนาบดีกลุ่มหนึ่งรวมถึงเจ้ากรมพ
เฟิ่งเจาหรงออกมาสูดอากาศข้างนอก ตอนนี้นางไม่ได้ทำงานในเหลาสุรานั้นอีกต่อไป เพราะพระเมตตาของรัชทายาทลู่เฟยหลงทรงอนุญาตให้นางพักที่เรือนของเจ้าเมืองไป๋ซูเหวินสักระยะหนึ่ง หากทำศึกชนะเฟิ่งอี้ได้เมื่อใดนางก็จะมีอิสระ ได้ออกมาใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังกับมารดาของตนเองส่วนทางด้านลู่เฟยหลงนั้น ตอนนี้เขากับเฟิ่งหรั่นมีคำสั่งลับกับซ่งหลานและจางซินเฉิง โดยออกอุบายให้ซ่งหลานนำกองทัพทหารหนานจิงจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังเมืองทัวปาเพื่อจับทัวปาอวี้มาสำเร็จโทษ ซึ่งการทำตามแผนเป็นไปด้วยดี เพราะหลังจากที่ทัวปาอวี้แน่ใจว่าลู่เฟยหลงตายแล้ว และเฟิ่งอี้ขึ้นเป็นฮองเฮาผู้สำเร็จราชการแทนสวามีของนาง เจ้าเมืองทัวปาก็เริ่มมีท่าทีกระด้างกระเดื่องหมายจะตั้งตนเองเป็นอิสระจากการปกครองของต้าเหลียว ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ซ่งหลานวางแผนการคาดการณ์กำลังของศัตรูได้ที่วางกำลังทหารประจำประตูแต่ละทิศได้แม่นยำในเมื่อทัวปาอวี้สนใจแต่การก่อกบฏตั้งตนเองเป็นอิสระ ซ่งหลานจึงนำทหารจำนวนหนึ่งไปลอบสังหารคนของทัวปาอวี้ ส่วนอีกจำนวนหนึ่งลอบเข้าไปในตำหนักใหญ่ของเมืองทัวปาเพื่อจับทัวปาอวี้มาแบบเป็นๆแผนการ
เฟิ่งหรั่นกระชับผ้าคลุมใบหน้าให้แนบชิดยิ่งกว่าเดิม นางกระซิบบอกลู่เฟยหลงด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านพี่ หม่อมฉันเห็นคนรู้จักที่นี่เพคะ”ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “ผู้ใดกัน?”“เฟิ่งเจาหรง น้องสาวอีกคนของหม่อมฉัน ลูกสาวอนุเพคะ” เฟิ่งหรั่นตอบภายในใจของนางนึกหวาดหวั่น หากเฟิ่งเจาหรงเห็นนางกับสวามีเกรงว่าแผนการลับคงไม่เป็นแผนการลับอีกต่อไปชายหนุ่มเข้าใจความกลัวของเฟิ่งหรั่นดี เขากำชับเถ้าแก่เจ้าของเหลาสุราเสียงเข้มว่า “ห้ามใครเข้ามาที่ตรงนี้เด็ดขาด...”เถ้าแก่เจ้าของเหลาสุรามึนงงเล็กน้อย แสดงว่าแขกเหล่านี้ต้องการเช่าพื้นที่ชั้นบนทั้งหมดเลยงั้นหรือ?ไป๋ซูเหวินโยนถุงเงินให้กับเถ้าแก่เจ้าของเหลาสุรา “รับไปเสียแล้วอย่าสงสัยมาก”เนื่องด้วยที่ไป๋ซูเหวินมีฐานะสูงเป็นถึงเจ้าเมือง เถ้าแก่เจ้าของเหลาสุราจึงไม่บังอาจสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยทั้งเมืองหนานจิงนี้ นอกจากหนานจิงอ๋องที่เป็นใหญ่ ไป๋ซูเหวินก็คืออีกคนที่มีอำนาจรองลงมา ความยิ่งใหญ่และความฉลาดเฉลียวทำให้ไม่มีใครกล้าทดสอบสติปัญญาหรือ
ฮองเฮาเฟิ่งอี้เดินทางมายังคุกหลวงของวัง สายตาอ่อนหวานเหลือบมองบิดาที่เลี้ยงนางมาตั้งแต่ยังเด็กด้วยแววตาดูแคลน อัครมหาเสนาบดีเฟิ่งที่ผู้คนใต้หล้ากับอดีตฮ่องเต้กล่าวกันว่าคือผู้ผดุงความยุติธรรม แต่สำหรับเฟิ่งอี้แล้วนั้น ชายผู้นี้คือชายที่ไร้ความเมตตาอย่างสิ้นเชิง ไม่เคยให้ความรักต่อบุตรสาวอย่างเท่าเทียมกัน ต่อให้ใต้เท้าผู้นี้จะไม่ทราบว่านางมิใช่บุตรสาวแท้ๆ ก็ตามอดีตอัครมหาเสนาบดีที่เคยมีอำนาจล้นฟ้า บัดนี้สภาพร่างกายโรยราเต็มที ดวงตาที่เลื่อนลอยมองบุตรสาวคนเล็กด้วยความผิดหวัง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันในโชคชะตาของตนเอง “ฮองเฮาเสด็จมาหาบิดาอย่างกระหม่อมถึงที่นี่ นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก”“ข้าแค่มาทำหน้าที่ส่งบิดาบุญธรรมอย่างท่านต่างหาก...หากจะคิดว่าใครมีบุญคุณกับข้า ก็คงเป็นข้าที่มีบุญคุณกับตัวเอง มิใช่ท่านที่เป็นแค่บิดาบุญธรรม” เฟิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ท่าทีเย็นชาและคำพูดที่ห่างเหินนั้นทำให้อัครมหาเสนาบดีเฒ่าเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง“เจ้าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ได้อย่างไร เจ้าคลอดมาจากมารดาที่เป็นฮู หยินเอก เป็นพี่น้อง
ตำหนักของซู่ไท่เฟยเฟิ่งอี้เดินทางมาตำหนักของซู่ไท่เฟย ซึ่งบัดนี้ย้ายมาอยู่ในเขตตำหนักคังเฉวียนของอดีตไทเฮาแล้ว เรื่องนี้หากเฟิ่งอี้วางแผนทำเพียงผู้เดียวก็ย่อมได้ แต่ว่าซู่ไท่เฟยนั้นกระหายในอำนาจมากเพียงใดข้อนี้เฟิ่งอี้ทราบดี ไท่เฟยในอดีตองค์จักรพรรดินางหมายมั่นปั้นมืออยากเป็นไทเฮามาเนิ่นนาน แต่ทว่าเฟิ่งอี้ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ด้วยตอนนี้อำนาจของไท่เฟยก็แทบจะคลุมทั้งวังหลวงอยู่แล้ว หากช่วยสถาปนาให้เป็นไทเฮา อำนาจของตนเองอาจจะถูกลดลงตำหนักคังเฉวียนถูกทำความสะอาดและประดับตกแต่งใหม่ นางมองซู่ไท่เฟยในอาภรณ์หรูหราสำหรับรอวันรับราชโองการแต่งตั้งเป็นไทเฮา แต่ทว่าสำหรับเฟิ่งอี้นั้นนางมีโชคดีอยู่อย่างหนึ่ง การที่นางทำให้ลู่อวี้ล้มป่วยจนไม่สามารถเดินเหินหรือออกว่าราชการได้นั้น ทำให้ซู่ไท่เฟยไม่สามารถรับการแต่งตั้งเป็นไทเฮาได้ง่าย แม้ว่าตอนนี้เฟิ่งอี้จะกลายเป็นผู้สำเร็จราชการตามธรรมเนียมราชวงศ์แล้วก็ตาม“ยินดีกับฮองเฮาพระองค์ใหม่ด้วยนะเพคะ” น้ำเสียงประชดประชันของซู่ไท่เฟยดังขึ้นมาเมื่อเฟิ่งอี้ก้าวขามาถึงหน้าประตูตำหนัก “ได้เป็นใหญ่ปกครองวังหลังแล้ว บัดนี้ก
“เจ้าเคยมีความละอายใจต่อนางหรือไม่?”เฟิ่งหรั่นถามเฟยเซียง คำถามนี้เป็นคำถามที่เสียดแทงความรู้สึกในจิตใจของหลินเอ๋อร์อย่างยิ่ง ต่อให้เฟยเซียงจะไม่เคยมอบความรักให้กับนาง เห็นนางเป็นเพียงเครื่องมือในการแก้แค้นทุกคน แต่ทว่านางก็อดผูกพันไม่ได้ ด้วยเพราะอีกฝ่ายก็เลี้ยงนางมาจนเติบใหญ่เช่นกัน ต่อให้เฟยเซียงคิดฆ่านางเมื่อคราวก่อน แต่ความรู้สึกส่วนลึกในใจที่อีกฝ่ายเป็นผู้มีพระคุณตนเองก็ไม่อาจเพิกเฉยเฟยเซียงสบตากับหลินเอ๋อร์ นางตอบว่า “ไม่เคยมี”หลินเอ๋อร์หลับตาลงอย่างปลงตก อย่างไรเฟยเซียงก็ยังเป็นตนเองอยู่วันยังค่ำ ต่อให้ตายอย่างไรก็ไม่มีวันยอมรับความจริงเบื้องหน้าที่เกิดขึ้นหรือต่อให้นำคชสารทั้งโขลงมาลากก็ไม่อาจฉุดอีกฝ่ายให้กลับมาเปลี่ยนใจแก้ไขความผิดนั้นได้“เจ้าคือหลินเอ๋อร์สินะ ไป๋ลู่บอกความจริงกับข้าหมดแล้ว ว่าเจ้านั้นคือน้องสาวข้า น้องสาวที่ถูกสลับตัวกับเฟิ่งอี้” เดิมทีนางควรดีใจที่ได้เจอกับน้องสาวที่พลัดพรากจากกัน แต่ทว่าสถานการณ์อันน่าตึงเครียดเช่นนี้นางไม่อาจทำได้ เฟิ่งหรั่นต้องการสะสางปัญหาทุกอย่