หลังจากส่งมัมมาริสากับเออเนสขึ้นไปห้องพักเรียบร้อยแล้ว นางปทุมมาศกับน้องญาก็ลงมาที่ครัวเพื่อเตรียมอาหาร แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่บ้านเสียหลายวันจึงไม่มีของสดเหลือติดบ้านเลย น้องญาจึงอาสาขับรถมอเตอร์ไซด์ออกไปซื้อของในตลาดสดที่เคยไปอยู่ประจำ เพราะตลาดอยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก ขณะนั้นเออเนสกับมัมมาริสาก็เดินมายังครัวพอดี เธอเดินตรงมายังเด็กสาวพร้อมกับเอามือลูบหัวทุยเบาๆ อย่างเอ็นดู
“ไหน .. วันนี้น้องญาจะทำอะไรให้มัมกินจ๊ะ” มัมมาริสาเอ่ยถามเด็กสาว พลางกอดเอวคอดนั้นไว้หลวม ๆ
“วันนี้หนูจะทำแกงเขียวหวานปลากราย ทานกับขนมจีน ปลาทับทิมทอดสามรส หอยลายผัดฉ่า แกงส้มชะอมกุ้ง แล้วก็กุ้งทอดกระเทียมค่ะ” น้องญาเอ่ยเมนูให้มัมมาริสาฟัง นางถึงกับตาโต
“โอ้โห.. เมนูน่าทานทั้งนั้นเลย แต่กุ้งทอดกระเทียมนี่ทำให้ใครแถวนี้เป็นพิเศษหรือเปล่าน๊า” มัมมาริสาเอ่ยแซว น้องญายิ้มหวานจนตาหยี
“พอดีมีแต่อาหารรสจัดค่ะ แม่กลัวพี่เออเนสจะทานไม่ค่อยได้ เลยให้ทำเมนูที่ไม่เผ็ดให้ด้วย หนูเลยจะทำกุ้งทอดกระเทียมค่ะ”
น้องญาตอบ มัมมาริสายิ้ม ขนาดเมนูที่จะทำให้ยังเลือกเป็นกุ้งที่ลูกชายคนเล็กเธอชอบเสียด้วย แสดงออกให้เห็นถึงความใส่ใจของเด็กสาวที่มีต่อเออเนสอย่างเห็นได้ชัด น้องญาหยิบเสื้อแขนยาวและหมวกแก๊ปมาสวมเพื่อเตรียมตัวออกจากบ้านไปตลาด มัมมาริสาเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อ้าว..แล้วนั่นหนูจะไปไหนล่ะลูก แต่งตัวทะมัดทะแมงเชียว” มัมมาริสาถามพลางเดินมาช่วยน้องญาเก็บผมเข้าไปยังหมวกแก๊ปให้เรียบร้อย
“จะออกไปตลาดสดแถวนี้แหละค่ะ พอดีไม่ได้อยู่หลายวันของสดเลยไม่มีค่ะมัม หนูขี่มอเตอร์ไซด์ไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ” น้องญาตอบพลางกล่าวขอบคุณที่มัมมาริสาช่วยเก็บผมใส่หมวกให้
“งั้นฉันขอไปด้วย ไปนั่งรถเล่น” เออเนสเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินตามคนตัวเล็กที่เดินน้ำหน้าไปแล้ว
“น้องญาว่าอย่าดีกว่าค่ะพี่เออเนส คือแดดที่นี่มันร้อนมาก เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะคะ” น้องญาเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก นี่เพิ่งจะเก้าโมงกว่า ๆ เอง แดดไม่ได้ร้อนมากสักหน่อย” เออเนสกล่าวตอบ พร้อมกับขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายน้องญาทันที คนตัวเล็กเลยปล่อยเลยตามเลย และขับรถออกจากบ้านไป ทิ้งให้มัมมาริสายืนยิ้มไม่หุบ
“แหม..ยิ้มไม่หุบเลยนะครับมัม อย่าบอกนะว่ามีแผนอะไรอีก ถึงได้ยิ้มแบบนี้” เซดริกเอ่ยแซวมัม หลังจากที่เขาออกมายืนดูทั้งสามคนคุยกันอยู่ได้พักใหญ่
“ก็ไม่มีอะไร น้องญาเขาน่ารักดี” นางตอบเลี่ยง ๆ แต่เหมือนเซดริกจะรู้ทันไปซะหมด
“น้องญาน่ะน่ารักครับ แต่ไอ้น้องชายผมนี่สิมันน่ากลัวนะมัม มันเจ้าชู้เงียบจะตาย” เซดริกเอ่ยเตือนมัม นางเองก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไปเหมือนกัน
หลังจากขับรถออกมาจากบ้านแล้ว น้องญาก็เลือกที่จะขับช้า ๆ เพราะวันนี้แดดไม่ร้อนจริง ๆ อากาศดีมาก ดูครึ้ม ๆ เหมือนฝนจะตกเธอเลยถือโอกาสขี่รถกินลมไปด้วยเลย เออเนสขยับเข้ามาชิดน้องญา จนอกแกร่งของเขาชิดกับแผ่นหลังของเธอ ลำแขนแข็งแรงของเขากอดคนตัวเล็กและเอาคางของตัวเองวางไว้บนหัวไหล่มนของเธอ
“อุ๊ย !! พี่เออเนส” เธอร้องด้วยความตกใจกับการกระทำของชายหนุ่ม
“ขยับออกไปหน่อยก็ได้ค่ะ ทำไมต้องชิดขนาดนี้ด้วยคะ กอดซะเน่นเลย น้องญาอึดอัดค่ะ”
เธอบอกชายหนุ่มแต่เขาทำเหมือนไม่สนใจ แถมยังเอาจมูกโด่งคลอเคลียสูดกลิ่นหอมที่ซอกคอของคนตัวเล็กอีกต่างหาก ทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกมานอกอก
“หอมจัง” เออเนสเอ่ยเบา ๆ พลางกดจูบที่ท้ายทอยของเด็กสาว จนเธอต้องหดคอหนี กว่าจะขี่รถถึงตลาด เธอก็โดนเขากอดและจูบโน่นจุ๊บนี่ไปตลอดทาง เธอห้ามอย่างไรเขาก็ไม่ยอมฟัง
หลังจากที่ได้ของครบตามที่ต้องการแล้ว สองหนุ่มสาวก็พากันหิ้วของพะรุงพะรังมาใส่ตะกร้าใหญ่ที่หน้ารถจนเต็ม
“ขากลับพี่เออเนสขี่ไหมคะ น้องญาจะได้ซ้อนบ้าง” เธอบอกคนตัวโตให้ขี่รถแทนเธอ เพราะไม่อยากถูกเขากอดจูบไปตลอดทาง แต่เขาเหมือนจะรู้ทัน
“ไม่ล่ะ ฉันไม่ถนัดขี่มอเตอร์ไซด์ ขอซ้อนดีกว่า สบายดี”
เขาเอ่ยยิ้ม ๆ น้องญาจึงจำต้องเป็นฝ่ายขี่รถกลับตามเดิม ซึ่งก็เหมือนเดิม ระหว่างทางคนตัวโตก็กอดเธอแน่น คลอเคลียซอกคอขาวไม่หยุด แถมรอบนี้เอี้ยวตัวมาหอมแก้มนุ่มของเธออีกต่างหาก เป็นเพราะถนนสายนี้เป็นถนนสายใน ซึ่งไม่ใช่ทางหลัก จึงไม่มีคนพลุกพล่าน นานๆ จะมีรถผ่านสักคัน แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวอะไร
“โอ๊ย!!! พี่เออเนส นั่งดี ๆ เป็นไหมคะ ยุกๆยิกๆ อยู่นั่นแหละ จะกอดจะจูบไปถึงไหนกันเนี่ย มือไม้ยัังกะปลาหมึกเลย” น้องญาเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ แต่อีกฝ่ายก็ใช้ลูกด้าน คือหน้าด้านอย่างเดียว พูดอะไรก็ไม่ฟังเอาแต่ทำหน้ามึน กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ น้องญาก็แทบช้ำไปหมด
เมื่อถึงบ้านสองหนุ่มสาวก็ถือของพะรุงพะรังเข้ามาในครัว โดยมีมัมมาริสาและนางปทุมมาศช่วยกันทำอาหารมื้อนี้ด้วย เมื่อทำอาหารเสร็จก็เกือบเที่ยงพอดี ทุกคนพร้อมกันที่โต๊ะอาหารและรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย
“น้องญาทำกับข้าวเก่งมากเลยนะเนี่ย เด็กสาว ๆ สมัยนี้ทำอาหารกันไม่ค่อยจะเป็นแล้วนะคะน้องมาศ” มัมมาริสาเอ่ยชมน้องญา
“เรามีกันแค่สองคนแม่ลูกค่ะพี่สา ตั้งแต่พ่อของน้องญาเสียเราก็ต้องสู้กันมาทุกอย่าง น้องญาเลยไม่ได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนกับเด็กอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน เพราะต้องช่วยแม่ทำงานทุกอย่าง แล้วก็ต้องทำขนมส่งขายด้วย” นางปทุมมาศเอ่ยถึงบุตรสาว มัมมาริสาพยักหน้ารับรู้ ยิ่งรู้สึกเอ็นดูเด็กสาวมากขึ้นไปอีก
“ว๊า!!. กุ้งทอดกระเทียมหมดซะแล้ว เออเนสเหมาหมดเลย อร่อยมากล่ะสิท่า”
เซดริกเอ่ยแซว เมื่อเห็นน้องชายเจริญอาหารเป็นพิเศษ คนโดนแซวได้แต่ยิ้มให้พี่ชาย แต่ไม่พูดอะไร ยังคงก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อไป
“เดี๋ยวพรุ่งนี้มาศกับน้องญาจะทำขนมไทยให้พี่สาทานนะคะ มาศจำได้ว่าพี่สาชอบขนมไทยมาก เมื่อตอนเปิดโรงแรม JC มาศกับน้องญาเป็นคนไปทำขนมให้ตอนเปิดงาน ไม่รู้ว่าพี่สาจะจำได้ไหม” นางปทุมมาศเอ่ยกับมัมมาริสา เธอทำท่านึกอยู่สักพักก็พยักหน้าหงึกๆ
“อ้อ... จำได้ค่ะ จำได้แล้ว น้องมาศทำขนมได้สวยและอร่อยมากจริง ๆ พี่ชอบทานเม็ดขนุนกับฝอยทองกรอบมาก ๆ เลยค่ะ จำได้ว่าหลังจากปิดงานไปแล้วยังให้คนที่โรงแรมมาสั่งทำอีกตั้งหลายครั้ง พูดแล้วก็อยากทานเลยค่ะ” มัมมาริสากล่าว
“ผมชอบทานขนมอะไรก็ไม่รู้ครับ มันเป็นก้อนเล็กๆ มีหลายๆ สี ข้างนอกกรอบ ข้างในนิ่มและหอมด้วยครับ” เออเนสบอกกับนางปทุมมาศ
“อ้อ.. เขาเรียกขนมอาลัวค่ะ อันนั้นฝีมือน้องญาเขาประดิดประดอยทำ บีบเป็นก้อนเล็ก ๆ ใช้เวลาทำนานเลยนะคะ กว่าจะได้ทานเกือบสองวันเลยนะ” นางปทุมมาศบอกกับทุกคน
“แล้วแบบนี้ผมจะได้ทานไหมครับเนี่ย ไม่รู้ว่าคนทำเขาจะทำให้ผมทานไหมหนอ” เออเนสกล่าวพลางมองไปยังน้องญาที่นั่งทานข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ถ้าอยากทานเดี๋ยวน้องญาทำให้ทานได้ค่ะ” เธอตอบ ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ
สามปีผ่านไป วันนี้เป็นวันรับปริญญาของน้ำฟ้ากับปฏิญญา หลังจากพิธีเช้าผ่านไปเรียบร้อยเซนส์ก็พาน้ำฟ้ากลับเพนท์เฮาส์เพื่อพักผ่อน เย็นนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองบัณฑิตใหม่ที่คฤหาสน์มาร์ตินโดยมีครอบครัวของเซดริก พี่ชายของเออเนสบินมาจากประเทศไทยด้วย"เห้อ.. ปวดเท้าจัง"น้ำฟ้านั่งลงที่เตียงนอน หลังจากที่อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ที่เธอกับปฏิญญาบินหนีสองหนุ่มไปอิตาลีในคราวนั้น หลังจากกลับมาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเซนส์ก็ดีขึ้นตามลำดับ เขาเข้าไปขอโทษพี่ชายและแม่ของเธอพร้อมกับอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พวกท่านเข้าใจ และขออนุญาตเพื่อคบกันโดยเปิดเผย เขาอยากหมั้นกับน้ำฟ้าแต่แม่ของเธอบอกว่าไม่ต้องหมั้นให้ยุ่งยาก หากสองคนมั่นใจว่ารักกันชอบกันแม่ของน้ำฟ้าท่านอนุญาตให้อยู่ด้วยกันก่อน ทำให้เซนส์ดีใจมาก เขาซื้อเพนท์เฮาส์พร้อมกับรถหรูคันใหม่โดยใช้ชื่อน้ำฟ้าเป็นเจ้าของ เพื่อให้เธอและครอบครัวรู้ว่าเขาจริงจังและให้เกียรติเธอและรับเธอเข้ามาอยู่ด้วยกันที่เพนท์เฮาส์ใหม่ตั้งแต่นั้นมา"ปวดเท้ามากเหรอครับ พี่นวดให้นะ" เซนส์นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของคนรัก ฝ่ามือแกร่งโอบอุ้มเท้าเรียวเล็กของน้ำฟ้าขึ้นมาบีบนวดผ่อนคล
ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำฟ้าและปฏิญญาใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลีภายใต้การดูแลอย่างดีของมัมมาริสา พวกเธอได้ตระเวนเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ต่าง ๆ ทานอาหารอร่อย ๆ และได้ช้อปปิ้งอย่างมีความสุขครืดดดดด ครืดดดดดเสียงโทรศัพท์ของน้ำฟ้าดังขึ้น เธอปรายสายตามองไปที่หน้าจอเห็นชื่อพี่ชาย จึงรีบกดรับทันที"สวัสดีค่ะพี่พอล คิดยังไงถึงเธอหาฟ้าคะเนี่ย" น้ำฟ้าปั้นเสียงสดใสคุยกับพี่ชาย(ทำไมมาอิตาลีไม่บอกพี่สักคำ ปิดเครื่องไปเป็นอาทิตย์ รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงมากนะ) พอลพูดเสียงดุ"ฟ้าแค่มาพักผ่อนกับญาญ่าที่โรงแรมของมัมมาริสาแม่ของคุณเออเนสค่ะ อาทิตย์หน้าก็กลับแล้ว ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกพี่พอล เอ๊ะ!! แล้วพี่พอลรู้ได้ไงคะว่าฟ้าอยู่อิตาลี?" น้ำฟ้าฉุกคิดขึ้นได้จึงรีบถามด้วยความสงสัย(ก็แฟนฟ้ามาตามหาฟ้าที่บริษัทพี่ตั้งแต่สองวันแรกที่ฟ้ามีปัญหากันไง ทะเลาะกันทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่อง หนีไปทำไม)"ไม่ได้หนีค่ะ แค่ไม่อยากเจอหน้า ฟ้าจะเลิกกับเขาแล้ว"(เออ ดี เลิกไปเลยเพราะพี่ก็ซัดมันไปซะน่วมแล้ว เหอะ.. มีอย่างที่ไหนวะ ทำให้น้องสาวเขาต้องหนีไปยังกล้ามาตามหากับพี่ชายเขาอีก)"ห๊ะ.. แล้วพี่ไปทำเขาทำไมอะ เขาเป็นอะไรมากไหม"
หลังจากที่น้ำฟ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินออกมาบริเวณด้านหน้าเวทีเพื่อมาพบกับเซนส์ตามที่นัดแนะกันไว้ แต่เธอพยายามมองหาก็ไม่พบไม่รู้ว่าเขาไปรออยู่ที่ไหน"หายไปไหนนะพี่เซนส์" น้ำฟ้าบ่นพึมพำในขณะที่มือก็หอบดอกไม้ช่อโตที่เซนส์มอบให้เอาไว้แนบอก"อ้าว! ฟ้ายังไม่ไปอีกเหรอ?" เสียงปฏิญญาเอ่ยทักแล้วเดินตรงเข้ามาหา"รอพี่เซนส์อยู่น่ะสิ บอกให้พี่เขารออยู่แถวนี้ไม่รู้หายไปไหน""นี่ฉันก็รอพี่เออเนสอยู่เหมือนกัน เห็นบอกว่าจะไปรอที่ห้องพักก่อนแล้วจะเดินออกมารับ แต่ก็ไม่เห็นมา สักที เลยกะว่าจะเดินไปห้องพี่เออเนสเอง" น้ำฟ้าพยักหน้าให้เพื่อน"หรือว่าพี่เซนส์จะไปรอที่ห้องเขาแล้ว ฟ้าลองเดินไปดูดีไหม?" ปฏิญญาเอ่ยชวน"ญาญ่าไปก่อนเลย ฉันว่าจะรอตรงนี้อีกสักแป๊บ ถ้าไม่เจอจริงๆ เดี๋ยวฉันเดินไปเอง""เอางั้นเหรอ งั้นฉันไปก่อนนะ"น้ำฟ้าเดินดูจนทั่วบริเวณนั้นแต่ก็ไม่พบกับเซนส์ เธอตัดสินใจเดินไปที่ห้องพักส่วนตัวของเขา เขาเพิ่งมาถึงก่อนงานเริ่มแค่แป๊บเดียว บางทีเขาอาจจะเหนื่อยเลยไปรอที่ห้องก็อาจจะเป็นได้ เธอเดินผ่านพนักงานที่เฝ้าชั้นพิเศษนี้ตรงเคาท์เตอร์ซึ่งพนักงานก็ยิ้มบางๆ ให้น้ำฟ้า เธอคิดว่าพนักงานคงจะจำ
มาร์ตินกรุ๊ป @อิตาลีเซนส์เดินทางมาถึงอิตาลีก็ตรงเข้ามาที่บริษัทเพื่อมาหาแด๊ดโนแอลและมัมมาริสาทันที เพราะตอนนี้ท่านทำงานอยู่ที่นี่ส่วนที่ฝรั่งเศสท่านให้เออเนสกับเซนส์เป็นคนดูแลและตอนนี้พวกท่านก็รู้เหตุผลของการมาในครั้งนี้ของเซนส์เป็นอย่างดี มัมมาริสาเดินเข้าไปโอบกอดลูกชายบุญธรรมเหมือนปกติที่เคย แต่เซนส์เองก็ยังติดเกรงใจและเกร็งเสียทุกทีไป"แหม..มัมกอดนิดกอดหน่อยทำเป็นเกร็งนะ" มัมมาริสากระเซ้า เซนส์ยิ้มให้ท่านพร้อมกับก้มหัวทำความเคารพเช่นเคย"ดีแล้วที่แกตัดสินใจมาที่นี่ เมื่อวานแด๊ดเจอคุณคาเตอร์ รายนั้นพูดกับแด๊ดว่าอามิยาเลิกกับสามีแล้ว และตอนนี้ขอบินไปทำใจและจะไปอยู่กับเพื่อนสนิทก็คือแก" แด๊ดโนแอลพูดเสียงเรียบ เซนส์ถึงกับถอนหายใจพรืด"ผมไม่คิดว่าคุณคาเตอร์จะใช้อามิยาเป็นเครื่องมือแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นลูกสาวของเขาแท้ ๆ เห็นแก่ตัวจนไม่สมควรจะเป็นพ่อคน"เซนส์กัดฟันกรอด กำมือแน่น ครั้งที่แล้วพ่ออามิยาก็ใช้เธอเป็นเครื่องมือโดยให้เธอแต่งงานกับไมเคิลเพื่อพยุงฐานะของตัวเอง ส่วนครั้งนี้ก็ยังสร้างเรื่องให้ลูกสาวมีปัญหากับสามีโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของลูกสาวตัวเอง แถมยังพยายามเอาเธอใส่พานมาถว
การซ้อมใหญ่ผ่านไปด้วยดี สัปดาห์หน้าก็จะถึงวันงานแล้ว งานจะถูกจัดขึ้นที่โรงแรม Max Martin โดยเออเนสเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของงานนี้ วันนี้ปฏิญญามาหาน้ำฟ้าพร้อมกับความไม่สบายใจเกี่ยวกับผู้หญิงที่ชื่ออามิยา เพราะเธอไปเห็นผู้หญิงคนนั้นกอดกับเออเนสอยู่ในห้องทำงาน ถึงแม้เออเนสจะอธิบายว่าอามิยาเป็นแค่เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยม และเซนส์ก็บอกว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมจริงๆ และยืนยันได้ว่าอามิยากับเออเนสเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นและที่สำคัญอามิยาก็แต่งงานแล้ว แต่น้ำฟ้าก็ยังแอบเห็นสีหน้าและแววตาที่วิตกกังวลของเพื่อนรักอยู่ดี@มาร์ตินกรุ๊ปประเทศไทย ณ.ห้องท่านรองรถคันหรูของเซนส์จอดลงยังลานจอดรถในที่จอดประจำตำแหน่ง เขาก้าวเท้าลงจากรถแล้วพาตัวเองไปยังห้องทำงานของเออเนสทันที หลังจากที่เขารู้เรื่องของอามิยาจากปฏิญญา เขาก็รีบออกมาจากคอนโดของน้ำฟ้าทันทีเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอามิยา เธอถึงกล้าบินมาถึงที่นี่แกร๊กกกเซนส์ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของเออเนสซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ส่วนอามิยานั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวใกล้ ๆ กัน ทันทีที่เธอเห็นเซนส์ เธอก็ลุกขึ้นแล้วถลาเข้ากอดเซนส์พร้อมกับร
ครืดดดดด ครืดดดดดดเสียงโทรศัพท์ของเซนส์ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อสูท เมื่อเห็นเป็นชื่อของน้ำฟ้า เขาก็ยิ้มออกมา มือหนาจัดแจงวางเอกสารตรงหน้าลงเพื่อกดรับสายทันที"ว่าไงครับคนสวย"(พี่เซนส์งานยุ่งไหมคะ)"ก็เหลือเคลียร์เอกสารนิดหน่อยครับ ฟ้ามีอะไรหรือเปล่า"(คุณแม่ฟ้าโทรมาหาค่ะ วันนี้คุณแม่กับพี่พอลว่าง ท่านเลยชวนพี่เซนส์ไปทานข้าวที่บ้าน พี่จะสะดวกไหมคะ)เซนส์เหลือบมองนาฬิกาข้อมือนิดหนึ่งแล้วรีบตอบกลับแฟนสาวทันที"ต้องสะดวกสิครับ ไม่อย่างงั้นเดี๋ยวคุณแม่กับพี่ชายไม่ปลื้มพี่ก็แย่สิน่ะสิ โอกาสดีแบบนี้ต้องรีบทำคะแนนหน่อย" เซนส์เอ่ยกระเซ้าคนรัก(ฮ่า ๆๆ ถ้าอย่างนั้นเลิกงานแล้วพี่เซนส์มารับฟ้าที่คอนโดนะคะ เพราะคุณแม่นัดทานข้าวที่บ้าน เดี๋ยวไปพร้อมกัน)"โอเคครับ บ่ายสามโมงครึ่งพี่ถึงคอนโดนะครับ แล้วเจอกันนะ"เซนส์วางสายจากน้ำฟ้าแล้วรีบเคลียร์งานทันที เพราะเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเศษ ๆ เขาก็ต้องไปรับน้ำฟ้าที่คอนโดตามที่นัดไว้แล้วน้ำฟ้าพาเซนส์มาที่บ้านเดี่ยวหลังหนึ่งที่มีอาณาบริเวณที่กว้างขวางและบรรยากาศร่มรื่นมาก จนไม่น่าเชื่อว่าท่ามกลางเมืองกรุงแบบนี้จะมีบ้านที่มีบรรยากาศแบบนี้ได้ ภ