บทที่ 20จูบรสเหล้า“เสร็จแล้วค่ะ” มือเล็กติดเทปสีสาวขุ่นที่ผ้าพันแผลเป็นลำดับสุดท้าย เป็นอันว่าหน้าที่นางพยาบาลจำเป็นได้เสร็จลุล่วงตามไปด้วยสายป่านเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ เพราะมันก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เธอต้องรับหน้าที่ทำแผลให้คนอื่นแบบนี้ แถมยังเป็นแผลถูกยิงที่ถูกกระสุนเฉียดผ่านอีกต่างหากไตรพัฒน์มองผ้าสีขาวที่พันแขนแกร่งของตัวเองเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นและเดินไปเปิดตู้ชั้นวางบางอย่าง กระทั่งเห็นแก้วทรงเตี้ยและขวดของเหลวสีอำพันถึงได้มั่นใจว่าของที่เขาหยิบออกมานั้นจะต้องเป็นเหล้าราคาแพงแน่นอน“นี่คุณไตร คนที่มีแผลเขาห้ามดื่มเหล้านะ” สายป่านเอ่ยแทรกขึ้นเมื่อเห็นว่าไตรพัฒน์กำลังรินเครื่องดื่มใส่แก้วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ใบหน้าหวานหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นมารุตที่เดินเข้ามาพร้อมกับข้าวกล่องและถุงพลาสติกจากร้านสะดวกซื้อก็ทำเอาความหิวโหยที่ซุกซ่อนอยู่นั้นปรากฏออกมาโครก...คราก...เสียงท้องร้องดังประท้วงออกมาพลันทำให้คนที่อยู่ในห้องได้ยินอย่างชัดเจน เป็นมารุตที่หลุดยิ้มและหัวเราะแต่ก็รีบหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง ผิดกับสายป่านที่ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน
บทที่ 21ชดใช้ NC18++“อือ...” สายป่านร้องในลำคอเมื่ออากาศอันน้อยนิดใกล้จะหมด มือเล็กคลายออกจากต้นคอหนาเปลี่ยนมาเป็นการดันแผ่นอกแกร่งของไตรพัฒน์ออกเบา ๆไตรพัฒน์เองก็ยอมผละริมฝีปาก ปล่อยให้คนใต้ร่างกอบโกยอากาศที่เขาพรากไปจากเธอ แต่มันก็เป็นเพียงไม่กี่วินาที เพราะหลังจากนั้นริมฝีปากของเขาก็โน้มบดเบียดกดจูบลงไปอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาตั้งใจเคล้าคลึงด้วยน้ำหนักดูดดึงมากกว่าเดิม แถมมือก็ยังจับรั้งข้อมือเล็กที่ผลักดันร่างกายของเขาให้ตรึงอยู่เหนือศีรษะมือใหญ่ปล่อยให้ข้อมือของสายป่านเป็นอิสระ เคลื่อนต่ำมาตามไหล่มนลงมายังเอวบาง ก่อนที่การลากไล้จะแปรเปลี่ยนมาเป็นการบีบคั้นเคล้นคลึงของเนื้อเนียนจนเกิดรอยแดงมาเฟียหนุ่มสอดมือเข้าไปใต้เสื้อนักศึกษา แตะสัมผัสบางเบาแต่มันกลับคล้ายเปลวเพลิงที่ทำให้คนตัวเล็กใจสั่น ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนผ่านไปยังจุดไหน หญิงสาวก็สั่นสะท้านหวามไหวไปด้วยทุกครั้งทุกอย่างดำเนินไปขณะที่ริมฝีปากของสองคนเคล้าคลึงกันไม่ห่าง กระทั่งเนื้อเนียนขาวใต้ร่มผ้าที่เขาสัมผัสหากแต่ตายังไม่ได้เชยชมกลับทำให้ความอดทนของมาเฟียหนุ่มขาดสะบั้นลงไตรพัฒน์ผละริมฝีปากออก เคลื่อนจูบต่ำลงมายังปลายคาง
บทที่ 22อีกครั้ง NC18++SAIPAN’S PART ;“อื้อ...” ความมึนตึงเมื่อยขบปลุกตื่นให้ฉันหลุดจากห้วงความฝัน ขยับตัวเหยียดแขนขาพลางส่งเสียงพึมพำในลำคอเบา ๆ ด้วยอาการงัวเงียฉันยังคงหลับตาพริ้ม แต่หัวสมองก็ตื่นรับรู้ไปเกือบทั้งหมด เพียงแต่ความเหนื่อยล้าอ่อนกำลังที่ปรากฏกลับทำให้ฉันแทบไม่อยากขยับเขยื้อนร่างกายเลยสักนิดเพราะหมอนนุ่ม ๆ ผ้าห่มอุ่น ๆ แถมอุณหภูมิภายในห้องก็ยังหนาวจนตัวสั่น การกกตัวนอนอยู่บนเตียงนี่แหละถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด“อืม ให้ไอ้ตุลย์จัดการได้ อืม...แค่นี้”ทว่าเสียงเข้มคุ้นหูกลับดังเข้าสู่โสตประสาท ฉันถึงกับเบิกตาถลนก่อนจะพลิกตัวหันไปยังต้นเสียงถึงได้พบว่าเป็นคุณไตรที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ ๆพรึ่บ!ฉันดีดตัวขึ้นจากเตียงแทบจะทันที ขณะสายตาก็กวาดมองสิ่งรอบข้างจนรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง แต่มันกลับเป็นห้องนอนในบ้านของคุณไตรต่างหาก!มันเป็นห้องเดียวกันกับวันที่ฉันโดนวางยา!“ตื่นแล้วเหรอ” คนตัวใหญ่วางโทรศัพท์ลงที่ลิ้นชักข้างเตียงก่อนที่เขาจะนั่งลงและขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ เขาเอ่ยถามเสียงนุ่มนวล พานทำให้หวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขาม
บทที่ 23คนของเขา“คะ...คุณไตร ป่านต้องกลับบ้านแล้วนะ” ฉันบอกเสียงแผ่วเบาเนื่องจากคุณไตรกำลังกดสายตาจดจ่อกับเอกสารตอนนี้ฉันอยู่ในห้องทำงานของคุณไตรซึ่งก็หมายความว่าฉันกำลังอยู่ในบ้านของเขาเหมือนเดิมนั่นแหละฉันอยู่ที่บ้านของเขามาสองวันแล้ว ซึ่งก็เป็นคุณไตรอีกนั่นแหละที่ไม่ยอมให้ฉันกลับ หลังจากที่ความสัมพันธ์ของเราสองคนเกิดขึ้นโดยที่ฉันเองก็ไม่สามารถนิยามความหมายได้ไม่ว่าจะเป็นกำแพงของเราสองคนที่เคยมีกั้นกลาง ความลึกซึ้งข้ามขั้นสถานะ ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังฟ้องชัดว่าในตอนนี้สถานะของฉันกับเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว“กลับทำไม” คุณไตรเอ่ยขึ้นพลางละสายตาจากแผ่นกระดาษ ดวงตาคมเข้มดำขลับที่มองมาทำเอาฉันถึงกับลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่“ก็พรุ่งนี้ป่านต้องไปทำงาน ป่านต้อง...”“งั้นก็ย้ายมาอยู่ที่นี่”ไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยจบ เสียงเข้มของคุณไตรก็แทรกขึ้น พร้อมกับร่างกายสูงใหญ่ที่หยัดตัวจากเก้าอี้และเดินเข้ามาหา ก่อนที่เขาจะนั่งลงบนโซฟาข้างกายฉัน“ไม่ค่ะ” ฉันส่ายหน้าและรีบตอบปฏิเสธ“ทำไม”“ป่านก็มีบ้านของตัวเองนะ แล้วอีกอย่างมันก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ป่านจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่”“ก็ย้ายมาอยู่กับฉัน นอนกับฉัน นี่ไง
บทที่ 24คุณพริตตี้ (1)เวลาเลิกงานก็คือการกลับบ้านมาสักผ้าที่กองพะเนินจนแทบล้นหัวฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อยู่ในชุดลำลองใส่สบาย ก่อนจะยกตะกร้าผ้าที่เตรียมพร้อมสำหรับการซักล้าง เนื่องจากวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานั้นฉันอยู่บ้านคุณไตรจนไม่ได้กลับมาจัดการ มันก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ฉันจำต้องเจียดเวลามาแบ่งให้กับภาระงานบ้านพวกนี้ยังไงล่ะ“ตอนนี้ฉันควรจะนั่งกินข้าวแล้วก็นั่งดูทีวีไม่ใช่หรือไงเนี่ย เฮ้อ...ชีวิตไอ้ป่านมันช่างน่าสงสารจริง ๆ” คำบ่นเริ่มหลุดออกมาในขณะที่มือสองข้างก็ขยี้เนื้อผ้าไปกับฟองโฟมจากน้ำยาซักล้างเบา ๆความจริงแล้วที่บ้านก็มีเครื่องซักผ้านั่นแหละ แต่ชุดที่ฉันกำลังซักนั้นเป็นเสื้อนักศึกษากับชุดชั้นใน มีพวกชุดนุ่งเล่นประปรายมาบ้าง ฉันเลยตัดสินใจเลือกที่จะซักมือร่วมทั้งหมด เพราะถ้าหากแยกประเภทและลองคำนวณคร่าว ๆ แล้ว การซักมือน่าจะช่วยประหยัดค่าไฟและค่าน้ำได้มากกว่าเว้นก็แต่กำลังแรงนี่แหละที่โคตรเปลือง!ครืด...ครืด...เสียงเพลงจากมือถือที่เปิดคลอใกล้ ๆ หยุดชะงักลงเนื่องจากมีสายโทรเข้ามา ฉันหันไปมองพลางใช้ข้อศอกกดปุ่มรับสายและเปิดลำโพง กระทั่งเสียงแหลม ๆ กรีดกรายดังขึ้นก็ทำเอาร
บทที่ 25คุณพริตตี้ (2)“มาทำอะไรที่นี่” เสียงทุ้มดุดันเอ่ยขึ้นหลังจากที่เดินนำฉันมายังจุดลับตาซึ่งฉันเองก็ทำได้เพียงสงบปาก เดินตามเขามาเงียบ ๆ กระทั่งถึงที่หมายนั่นแหละถึงได้ยินน้ำเสียงแข็งกร้าว เฉกเช่นเดียวกับดวงตาคมเข้มที่กดจ้องมองมาอย่างเอาคำตอบ“ปะ...ป่านมาทำงานไงคะ แต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มขนาดนี้” ปากพูดพลางก้มหน้ามองสำรวจร่างกายตัวเองที่แต่งองค์ทรงเครื่องครบครัน“...” ไม่ได้รับคำตอบใดกลับมาอีก ฉันจึงเชยใบหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าคุณไตรกำลังมองฉันด้วยความเรียบนิ่ง ไร้ซึ่งอารมณ์และความรู้สึก หากแต่ลึก ๆ กลับได้รับกระแสความโหดเหี้ยมที่มันแผ่ซ่านออกมา“มันเป็นงานด่วนน่ะค่ะ ตอนนั้นป่านถึงบ้านเรียบร้อยแล้วนะ แต่เจ๊สวยกำลังลำบากป่านเลยต้องมาช่วย นี่ก็ตั้งใจจะส่งข้อความไปบอกคุณอยู่พอดี แต่คุณไตรก็ดันเดินเข้ามาดักไว้ก่อนนี่แหละค่ะ”ฉันบอกเสียงอ่อน เช่นเดียวกับดวงตาหวานเชื่อม เพราะไม่ได้มีเจตนาที่จะปิดบังเขาเลยสักนิด เห็นนัยน์ตาดุ ๆ กับใบหน้าเข้มขรึมก็อดที่จะกังวลไม่ได้ แต่หลังจากที่อธิบายความจริงออกไปก็สังเกตเห็นว่าคุณไตรเริ่มคลายปมคิ้วลงไปได้บ้างแบบนี้ก็แปลว่าเขากำลังอ่อนลงให้กันอยู่ใช่ไหมน
บทที่ 26หน้าที่ผู้หญิงของมาเฟียรถยนต์คันหรูจอดที่หน้าตัวบ้านหลังใหญ่ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะเปิดประตูและเดินลงจากรถ ทำให้พริตตี้สาวสวยที่นั่งติดสอยมาด้วยรีบสาวเท้าก้าวตามเข้าไปติด ๆสายป่านแทบเปลี่ยนจากการเดินเป็นวิ่งเมื่อขายาว ๆ ของไตรพัฒน์ก้าวทิ้งระยะห่างไปจากตัวเธอมากพอสมควร ไม่รู้ว่าเขาเดินเร็วหรือว่าเธอขาสั้น หรือไม่ก็อาจจะตั้งใจแกล้งให้เธอหอบเหนื่อยกระวนกระวายแบบนี้“คะ...คุณไตร พาป่านมาที่นี่ทำไมคะ” สองขาเล็กสับไปมาจนแทบสะดุด ขณะที่ปากก็ร้องถามปนความหอบ จวบจนเดินตามเขาเข้ามาถึงห้องนอนถึงจะได้ยอมลดระดับความเร็ว“...”“แล้วผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใครคะ ไม่ถูกกันเหรอ แล้วคุณไตรได้ทำร้ายเขาหรือเปล่า” สายป่านถามถึงผู้ชายที่ทำตัวรุ่มร่ามกับเธอในงานมอเตอร์โชว์ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ถูกกับไตรพัฒน์มาตั้งแต่ต้น แต่เธอถูกลูกน้องของเขาพาตัวออกมาจากงานเลยไม่ทันเห็นว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง“อย่าพูดถึงมัน!”“โอเคค่ะ แต่ป่านขอกลับบ้านนะ ป่านต้องกลับบ้าน” หญิงสาวตอบรับเพราะดูเหมือนว่าความหงุดหงิดกำลังก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งเพียงเพราะพูดถึงผู้ชายคนนั้น“...”“นี่มันก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ป่านก็ต้องไปทำงา
บทที่ 27หลงเธอวันหยุดของนักศึกษาฝึกงานเวียนวนมาอีกครั้ง และเช่นเคยนอกจากมันจะเป็นวันหยุดที่สายป่านไม่ต้องไปทำงานแล้ว สถานที่ที่เธอขลุกตัวอยู่ตลอดทั้งวันก็คงไม่พ้นบ้านของไตรพัฒน์แม้กระทั่งการพูดคุยสนทนาในเรื่องธุรกิจระหว่างไตรพัฒน์กับน้องชายเขาก็ไม่วายลากเธอเข้ามาด้วย ทำให้ในตอนนี้หญิงสาวนั่งนิ่งตัวเกร็ง เพราะฟังไม่เข้าใจและไม่รู้จะทำตัวยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้าแล้วจะให้เธอมานั่งอยู่ด้วยทำไมทั้ง ๆ ที่คุยเรื่องสำคัญกันอยู่...สายป่านบ่นในใจพลางกลอกตาไปมา“ผมเอาเงินเข้าเซฟเรียบร้อยแล้วนะ งานเมื่อคืนก็ไม่มีปัญหา ราบรื่นทุกอย่าง” ตุลธรนั่งไขว่ห้างพลางโน้มตัวเคลื่อนกระดาษที่ระบุคำสั่งซื้อ พร้อมกับรายงานผลกับการส่งสินค้าเมื่อคืน เนื่องจากได้รับมอบหมายให้ทำการแทนผู้เป็นพี่“มันตุกติกบ้างหรือเปล่า”“ก็ไม่นะ ปกติทุกอย่าง ไอ้เสี่ยมันยังบอกอีกว่าจะสั่งเรื่อย ๆ”“อืม ดีมาก มึงทำได้ดีมากไอ้ตุลย์” ไตรพัฒน์พยักหน้ารับให้กับผลงานที่น้องชายรับหน้าที่ได้ดีอีกเช่นเคยมันไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเฟียหนุ่มส่งต่อให้ผู้เป็นน้องทำ และมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่งานเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะตั้งแต่ที่เขาเริ่มให้ตุลธรเ
บทที่ 45พลาด“กล่อมเด็กเข้านอนเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”เมื่อไตรพัฒน์เดินเข้ามาในห้องทำงาน เสียงของมือขวาคนสนิทก็ไม่วายเอ่ยแซวอย่างขบขัน นัยน์ตาพราวเป็นประกาย จนคนที่ถูกถามเป็นต้องรีบปั้นหน้านิ่งขรึมพร้อมกับกดสายตาดุส่งไปให้“ไอ้ตุลย์ไปถึงหรือยัง”“อ้าว นายยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ” มารุตเลือกที่จะถามต่อ น้ำเสียงหยอกเย้าไม่เกรงกลัวในอำนาจของผู้เป็นนาย เพราะทำงานด้วยกันมานานหลายปี การได้เห็นนายตัวเองกล่อมเด็กสาวคนโปรดเข้านอนก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าเก็บภาพเป็นที่ระลึกไว้มากที่สุด“ไอ้รุต!” ไตรพัฒน์ตวัดสายตาดุดันให้กับมือขวา ทั้งที่เปลี่ยนเรื่องเข้าสู่งานในค่ำคืนนี้แล้วก็ยังไม่วายไล่ต้อนเขาถึงสิ่งที่ไม่เคยทำอย่างการง้องอนเด็กในปกครองแต่เขาก็ทำมันไปแล้วจริง ๆ นั่นแหละ...“โอเคครับ ไม่พูดแล้วครับ ตอนนี้คุณตุลย์ไปรอยังจุดนัดหมายแล้วครับนาย คนของเรารายงานว่าอีกสิบนาทีลูกค้าก็จะเดินทางมาถึง” มารุตยกมือปิดปากตัวเองเมื่อได้ยินน้ำเสียงเข้ม ๆ ของนายที่แสดงออกว่าไม่มีทีท่าจะเล่นด้วย จากนั้นถึงได้วกกลับเข้าเรื่องการส่งสินค้าที่เขาได้มอบหมายให้ตุลธรผู้เป็นน้องชายจัดการ“แล้วเรื่องหนอนมึงคิดว่าใคร”
บทที่ 44เลี้ยงส่งวันสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาฝึกงานไม่มีภาระความรับผิดชอบใด ๆ นอกเหนือจากการเลือกร้านอาหารให้กับหัวหน้าสาวเลี้ยงอำลาก่อนจะแยกจากกันเมื่อถึงเวลาเลิกงานเหล่าพนักงานออฟฟิศก็รวมตัวกัน โดยมีการนัดหมายและจุดหมายปลายทางเป็นสถานที่เดียวกันก็คือร้านอาหารไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัท จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการเลี้ยงส่งน้องเล็กสุดอย่างสายป่านที่จะไม่ได้มาทำงานที่บริษัทอีกต่อไปแล้ว“โห พี่นุ้ย...สั่งอาหารไว้รอแล้วเหรอคะเนี่ย”ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องอาหารที่ถูกจองไว้ล่วงหน้าก็เป็นต้องตกตะลึงเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าหัวหน้าสาวที่สนิทสนมกันจะเลือกจองห้องรับรองพิเศษเพื่อความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าที่ตอนนี้กำลังวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะจนเธอตาลายไปหมด“ระดับพี่นุ้ยไม่ธรรมดาอยู่แล้วแหละป่าน” เสียงจากทางด้านหลังซึ่งเป็นของหนึ่งในพี่ที่ทำงานที่เธอเองก็สนิทสนมด้วยเช่นกัน“ใช่จ้ะ เลี้ยงส่งป่านทั้งทีนี่นา ป่านน่ะเป็นเด็กฝึกงานคนแรกของบริษัทเราเลยนะ แถมพี่เองก็ทั้งรักทั้งเอ็นดู นี่ยังเสียดายเลยที่ครบกำหนดฝึกงานแล้ว ไม่งั้นพี่จะขอให้บอสทำสัญญาว่าจ้างต่อนะเนี่ย”“โอ๊ย อย่าเพิ่งพูดกันเลย
บทที่ 43ระบายอารมณ์ฉันเดินไปเดินมาภายในตัวบ้านเนื่องจากเป็นห่วงและไม่รู้ว่าคุณไตรจะเป็นยังไงบ้าง หลังจากที่เขาเก็บตัวอยู่ในห้องทำงานหลายชั่วโมง ก็มีเพียงพี่มารุตคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ลองสอบถามจากพี่มารุตตอนที่เขาเดินออกมาก็ได้รับเพียงการส่ายหน้า นั่นเลยทำให้ฉันเลือกที่จะรอคอยเขาอยู่ด้านล่าง และหวังให้เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองได้ในไม่ช้าเหตุการณ์ในวันนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบริษัทไทรอัมพ์มาก นอกจากจะพลาดการร่วมหุ้นกับนักธุรกิจคนสำคัญแล้ว เขายังถูกหยามหน้ากับบริษัทคู่แข่งที่หวังแย่งชิงพื้นที่ทางธุรกิจอีกด้วยแล้วสิ่งที่เจ็บช้ำที่สุดที่ทำให้คุณไตรเดือดดาลมากขนาดนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ออกไป พอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร หากแต่มันหลุดรอดถึงอีกฝ่ายจนถูกตัดหน้าแก่งแย่งแบบนี้ มันเลยทำให้คิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่าเขากำลังถูกหักหลังจากคนที่เป็นหนอนแฝงตัวและสิ่งที่ทำให้ฉันสะท้อนใจก็คือเรื่องนี้...หากฉันคิดร่วมมือเป็นนางนกต่อหวังพรากชีวิตของเขา ฉันก็ไม่ต่างจากหนอนบ่อนไส้ดี ๆ นี่เอง!“ผมว่าคุณไปหาอะไรรองท้องสักหน่อยน่าจะดีนะครับ นั่งรอแบบนี้มันก็ไม่มีอะไรดีข
บทที่ 42ปาดหน้าเค้กSAIPAN’S PART ;บรรยากาศตอนเช้าของบ้านหลังใหญ่ตกอยู่ในความวุ่นวายที่มีกำลังชายชุดดำมากกว่าเดิมสองเท่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่คุณไตรจะต้องออกไปดีลกับหุ้นส่วนคนใหม่ที่จะร่วมหุ้นกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“หล่อแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยพร้อมรอยยิ้มหลังจากที่จัดแจงสวมใส่ชุดสูทราคาแพงให้กับคุณไตร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับนัดหมายในไม่ช้า“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามกันอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็ค่อย ๆ ประคองสัมผัสที่ผ้าพันแผลจากการถูกยิงบริเวณต้นแขนของฉันอย่างเบามือหลังจากที่คุณไตรพาฉันกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ของเขา เขาก็เรียกหาหมอรินให้มารักษาเป็นการด่วน แต่โชคดีมากที่กระสุนไม่ได้ฝังเข้าสู่เนื้อกาย บาดแผลแค่ฉีกเล็ก ๆ เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นความตั้งใจของคนอีกฝ่ายทุกอย่าง“นิดหน่อยค่ะ” ฉันตอบและหลบสายตาลงเพราะไม่อาจหาญพอที่จะมองหน้าเขาได้ตอนนี้รู้สึกอับอายไม่กล้าสู้หน้า ทั้งยังสับสนวุ่นวายจนไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของตัวเองความจริงที่ถูกเปิดเผยว่าพี่สาวที่หลงเหลืออยู่ในชีวิตนั้นเป็นมือปืนหวังพรากชีวิตคนที่ฉันเผลอมอบควา
บทที่ 41เหยื่อล่อ (2)พลั่ก!“อ๊ะ!” สายป่านร้องขึ้นเมื่อร่างสูงใหญ่ของชายชุดดำผลักให้เข้ามาด้านในโกดังมืดทึบ จนร่างกายล้มลงกระแทกกับพื้น“เฮ้ย เบาหน่อยสิวะ เดี๋ยวน้องเขาก็ระบมหมด” ผู้เป็นนายที่เดินตามมาเอ่ยปราม หากแต่แท้จริงกลับยิ้มหยันพอใจ และไม่ได้มีท่าทีตำหนิคนของตัวเองเลยสักนิด“อย่ามายุ่งกับน้องสาวฉัน!” เส้นด้ายรีบวิ่งเข้ามาผลักคนตัวใหญ่ออกห่าง ก่อนจะตรงปรี่เข้ามาประคองรั้งร่างกายน้องสาวของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องทั้งนั้น“อ้อ...พี่สาวของหวงซะด้วย มึงก็ระวังหน่อยสิวะ ผลักเขาล้มแบบนั้นเกิดผัวน้องเขามาเล่นงานกูจะทำยังไง” เรย์ยียวน รอยยิ้มเหยียดหยันเมื่อเห็นสองพี่น้องมองเขาด้วยความจงเกลียดจงชัง และคนที่พูดถึงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากไตรพัฒน์ที่หวงแหนผู้หญิงคนนี้ยิ่งกว่าอะไร“ต้องการอะไรคุณเรย์ ทำไมต้องเอาน้องสาวของฉันเข้ามาเกี่ยวด้วย!” เส้นด้ายหันไปประจันหน้า น้ำเสียงตวาดกร้าวดังแผดลั่นทั้งหยาดน้ำตาที่ไหลหลั่งหมับ!“ก็เพราะน้องของเธอมันเป็นเหยื่อล่ออย่างดีน่ะสิ!” ร่างสูงให้คำตอบและเดินเข้ามาดึงรั้งเส้นด้ายให้แนบชิด มือใหญ่คว้าหมับที่ใบหน้าสะสวยของเธอ ออกแรง
บทที่ 40เหยื่อล่อ (1)“เจ็บหรือเปล่า ถ้าเจ็บบอกฉันนะป่าน” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็บรรจงกดสำลีชุบยาแนบไปกับแผลถลอกตามขาเรียว“ไม่เจ็บเลยค่ะ” สายป่านส่ายหน้าพลางยิ้มออกมาบาง ๆเธอไม่ได้เจ็บกับบาดแผลเลยสักนิด กลับกันเธอเจ็บปวดในหัวใจเสียมากกว่า…หลังจากที่ไตรพัฒน์พาเธอกลับมาที่บ้าน เขาก็จัดการทำแผลให้เธอเองกับมือ ทั้งยังบอกกับนุ้ยหัวหน้างานให้แล้วด้วยว่าสายป่านเกิดอุบัติเหตุจนต้องขอตัวกลับก่อนด้วยเหตุนั้นสายป่านถึงต้องรีบส่งข้อความไปขอโทษขอโพย ทั้งยังถ่ายรูปบาดแผลเล็ก ๆ ไปยืนยันอีกแรง เนื่องจากกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจที่ไม่ยอมบอกโดยตรง แต่สิ่งที่นุ้ยตอบกลับมาล้วนแต่มีความเป็นห่วงเป็นใย ทั้งยังอนุญาตให้ลางานได้ในวันพรุ่งนี้ สายป่านเลยคลายกังวลไปได้อีกหนึ่งเรื่อง“ทำไมเธอถึงไปเจอกับมันได้ล่ะ คนของฉันบอกว่าเธอเดินเข้าไปหามันเอง” มาเฟียหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ นัยน์ตาคมเข้มแต่ไม่มีการตำหนิใด ๆ เลยสักนิด ทว่ามันกลับทำให้สายป่านร้อนรุ่มจนแสดงท่าทีกังวลออกมา“อึก! ปะ...ป่าน ป่าน...”“ตอนแรกคนของฉันมันรายงานว่าเธอน่าจะรู้จักกับมัน เพราะเห็นจับมือพูดคุยกันด้วย
บทที่ 39ผิดแผน“พี่นุ้ยจะเอาอะไรคะ เดี๋ยวป่านไปสั่งให้ค่ะ” สายป่านถามหลังจากที่เดินเข้ามาด้านในร้านกาแฟพร้อมกับหัวหน้าที่ดูแลการฝึกงาน“อืม...เอาอะไรดีนะ เอาเลมอนโซดาดีกว่า เบื่อพวกกาแฟแล้ว อะนี่จ้ะ เอาเงินนี่จ่ายนะ ป่านเองก็สั่งมาด้วยเลย” ครุ่นคิดรายการที่จะสั่งไม่นานก็ตัดสินใจได้ เธอหยิบธนบัตรส่งให้กับเด็กสาว พร้อมกับกำชับให้สั่งเครื่องดื่มมาด้วยกัน เนื่องจากรู้ดีว่าจะต้องได้รับการปฏิเสธกลับมาเช่นทุกครั้ง“เลี้ยงป่านอีกแล้วง่า พี่นุ้ยอย่าใจดีนักสิคะ ถ้าป่านฝึกงานเสร็จแล้วป่านคงใจหายแย่ที่จะไม่ได้เจอหัวหน้าใจดีแบบพี่นุ้ยอีก” สายป่านส่งสายตาอ้อน หากแต่คำพูดที่เอื้อนเอ่ยล้วนออกมาจากหัวใจทั้งสิ้น“พี่ต่างหากที่ใจหาย นี่ก็เหลืออีกไม่ถึงเดือนแล้วด้วย เฮ้อ...ฝึกงานเสร็จแล้วก็มาสมัครที่นี่ได้นะป่าน บริษัทเรายินดีต้อนรับเสมอ”“โหย ป่านนี่เด็กเส้นดี ๆ นี่เอง”“แน่นอนสิ บอกไปเลยนะว่าเป็นเด็กพี่นุ้ย ไม่มีใครกล้าแหย็มแน่!”“คิก ๆ ป่านไปสั่งเครื่องดื่มดีกว่า พี่นุ้ยไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะ เดี๋ยวป่านเอาไปเสิร์ฟให้ถึงที่เลย” หญิงสาวส่งยิ้มร่าก่อนจะเดินแยกไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม และเลือกสั่งตามร
บทที่ 38หุ้นส่วนหลายวันผ่านไปหลังจากที่รักษาตัวจนร่างกายหายเป็นปกติ ไตรพัฒน์ก็ให้ความสนใจกับเนื้อหางานต่อทันที ซึ่งในวันนี้เขาได้นัดหมายให้น้องชายเข้ามาหาที่บริษัท เนื่องจากมีธุระสำคัญที่จะต้องพูดคุยกันโดยด่วน รวมถึงมารุตเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้ด้วยเช่นกันไตรพัฒน์เข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับมือขวา กระทั่งเห็นว่าตุลธรได้มานั่งรอที่ห้องแห่งนี้ก่อนแล้วเรียบร้อย แม้ว่าเนื้อหางานในวันนี้จะเป็นงานสำคัญ อีกทั้งตุลธรเองก็ไม่มีหน้าที่ใด ๆ กับส่วนนี้ แต่ไตรพัฒน์เองก็ยังคงหวังในภายภาคหน้าว่าเขาจะดันตุลธรขึ้นนั่งในตำแหน่งสำคัญแทนตัวเอง“มึงทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง” ไตรพัฒน์นั่งลงบนโซฟาพลางกดสายตามองไปยังน้องชาย ที่ตอนนี้ทำหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบก็ไม่ปานคนเป็นพี่ชายย่อมรู้ดีว่ามันเกิดจากสิ่งใด แต่ที่เขาต้องถามออกไปนั้นก็เหมือนเป็นการติเตียนและย้ำชัดในสถานะว่าต่อให้แสดงอารมณ์ในรูปแบบไหน เขาก็ไม่มีวันตามใจได้เหมือนเรื่องอื่นตุลธรไม่มีหน้าที่กับงานของบริษัท เหตุเพราะเกลียดขยาดจนแทบไม่อยากเข้าใกล้ คงจะมีก็แต่เรื่องเดียวที่ทำงานได้ดีจนออกปากชมอยู่หลายครั้งนั
บทที่ 37ไม่เคยพอ“คุณไตร...” ฉันพยายามเปล่งเสียงเรียกรั้งให้เขาหยุด หากแต่มันบางเบาและถูกกลืนกลับลงสู่ลำคอดังเดิมเมื่อริมฝีปากฉกฉวยทาบทับซ้ำแล้วซ้ำเล่าสติของฉันถูกพรากให้ดำดิ่งอยู่ในห้วงปรารถนา ลอยล่องไปกับสัมผัสรสจูบไหวหวามของเขาจนไม่อาจกู่กลับได้อีกต่อไปฉันหลับตาพริ้มตอบรับและตอบสนอง ปล่อยตัวปล่อยใจและส่งมอบให้เขาทั้งหมด มือสองข้างยกขึ้นคล้องที่ต้นคอหนา บดเบียดร่างกายให้แนบชิดคลอคลึงหวังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันริมฝีปากของเราบดคลึงกันเนิ่นนานจนไม่รู้เลยว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าไร กระทั่งรู้ตัวอีกทีเสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเองและเขาได้หลุดหายไปจนหมดแล้วความเปลือยเปล่าถูกกระทบด้วยลมแอร์เย็นฉ่ำ ครั้นสติดวงน้อย ๆ อันเลือนรางถึงได้ย้อนคืนกลับมา จนมันประมวลได้ว่าตอนนี้คุณไตรกำลังเริ่มต้นบทบรรเลงขึ้นแล้ว“คุณไตรไม่ใส่ถุงเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามเสียงบางเบา ตอนที่ผงกหัวมองถึงได้เห็นว่าเขากำลังชักรูดลำกายอวบก่อนจะกดจ่อพร้อมสอบกระทั้นที่ปากทาง“อยากสด ได้ไหม?”“ดะ...ได้ค่ะ ป่านกินยาคุมอยู่”“ก็ดี” สิ้นคำตอบเอวหนาก็สอบเข้าหาจนฉันสะดุ้งโหยงแม้ว่าช่องทางจะฉ่ำเยิ้มพร้อมพรักเป็นอย่างดี แต่ด้วยขนาดที่แตกต