“ไม่คิดเลยว่าคนที่นอนด้วยกันทุกคืน ที่แท้จะเป็นนางนกต่อขายความลับให้ศัตรู!” ชีวิตของ ‘สายป่าน’ เปลี่ยนไปเมื่อต้องเข้ามาพัวพันในวงจรมาเฟียทรงอิทธิพลอย่าง ‘ไตรพัฒน์’ เขายื่นสถานะเด็กในปกครอง...แต่ก็ถีบหัวส่งเมื่อรู้ว่าเธอเป็น ‘นางนกต่อ’ ให้กับศัตรู!
View Moreบทนำ
จุดเริ่มต้นของวงจรมาเฟียเกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น...
กระสุนปืนโหมถล่มไม่ต่างจากหยาดฝนที่สาดเทชุ่มฉ่ำ หากมันไม่ใช่หยดน้ำ แต่กลับเป็นหยาดโลหิตสีแดงสดที่ไหลหลั่งราวกับสายธาร
ปัง!
ปัง!
ปัง!
ลำปืนจ่อยิงโดยเป้าหมายการเพ่งเล็งนั้นอยู่ที่ ‘ไตรพัฒน์’ เพียงจุดเดียว กลุ่มคนนับสิบเบนศูนย์หน้าปรี่มายังตัวมาเฟียหนุ่มหมายเอาชีวิต แต่ด้วยทักษะและประสบการณ์ที่เพียรพบกลับทำให้รอดพ้นดงลูกตะกั่วมาได้อย่างหวุดหวิด
ไตรพัฒน์วิ่งหนีไปตามตรอกซอยหลังจากที่ออกมานอกตัวร้านสังสรรค์ อาศัยความชำนาญพื้นที่และความคล่องแคล่วของร่างกายให้พาตัวเองเข้ามาหลบหลีกในตรอกแคบ ๆ มืดมิดไร้แสงไฟ ในขณะเดียวกันมืออีกข้างที่ไม่ได้ประคองลำปืนก็คอยติดต่อหาลูกน้องคนสนิทที่รับหน้ากับศัตรูอีกกลุ่มไปด้วย
“ฉิบ!” เสียงสบถด่ากร้าวดังเค้นลอดไรฟันที่มันเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ
มาเฟียหนุ่มทาบฝ่ามือลงบริเวณบาดแผลจากการถูกยิงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มันถูกทำแผลเป็นอย่างดีแต่ก็ปริแตกเนื่องจากใช้กำลังแรงในการหลบหนีศัตรูที่หวังพรากชีวิตให้สิ้น
เขาทิ้งตัวลงสู่พื้นพลางผ่อนลมหายใจออกหนัก ๆ เพื่อหวังควบคุมสติของตัวเองที่ลดน้อยลงทุกที หากไม่มีบาดแผลการถูกยิงที่หน้าท้องฝั่งซ้าย เขาเองก็มั่นใจว่าป่านนี้คงได้ออกไปเผชิญหน้ายิงสวนกับเหล่าลูกน้องของศัตรูให้ตายราบคาฝ่าเท้าไปแล้ว
“นะ...นี่มันอะไรกัน กรี๊ด!!!”
ทว่าเสียงเล็กของใครคนหนึ่งกรีดร้องขึ้นหลังจากที่เปิดประตูออกมาจากด้านหลังร้านสังสรรค์ ไตรพัฒน์หันขวับก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปชาร์จและใช้มือปิดทาบริมฝีปาก หนำซ้ำยังออกแรงดันร่างกายเล็กเบียดชิดให้เธอคนนั้นนั่งลงกับพื้นโดยมีตัวของเขากำบังไว้จนมิด
“หุบปาก! อยากตายหรือไง!” มาเฟียหนุ่มตวาดเสียงเข้ม นอกจากเสียงแหลม ๆ ของเธอจะพาซวยแล้ว มันก็ยิ่งทำให้นาทีชีวิตสั้นลงกว่าที่ควรเป็นเข้าไปใหญ่
มือหนากดย้ำที่ริมฝีปากบาง ส่งสายตาคาดโทษดุดัน เฉกเช่นเดียวกับการควบคุมลมหายใจเพื่อหวังให้พื้นที่แห่งนี้เกิดเสียงเบาบางมากที่สุด
ไม่รู้ว่าต้นสายปลายเหตุเกิดขึ้นจากอะไร หากแต่เธอมั่นใจว่าเขาคนนี้กำลังถูกไล่ล่าจากกลุ่มคนนับสิบ เธอได้ยินเสียงปืนสนั่นไปทั่วทั้งเมืองจนต้องเปิดประตูออกมาดู แต่ไม่ทันคิดว่าต้นเหตุต้นเรื่องจะอยู่ใกล้ตัวจนทำให้ซวยร่วมไปด้วยแบบนี้
“ถ้าเธอร้องไอ้พวกคนนั้นมันก็จะกลับมาฆ่าทั้งเธอและฉัน!” ไตรพัฒน์กดเสียงต่ำค่อย ๆ คลายมือออกจากใบหน้าหวานและเปลี่ยนไปคว้าหมับจับที่ข้อมือเล็กก่อนจะนำพาเธอวิ่งหลบหนีไปอีกทาง
เรี่ยวแรงของเขาในตอนนี้ลดน้อยลง จวบจนร่างกำยำทิ้งตัวและพิงแนบไปกับกำแพง เมื่อไม่สามารถฝืนความเจ็บปวดได้อีกต่อไป
“คะ...คุณ คุณถูกยิงเหรอ!” เมื่อตั้งสติถึงได้รู้ว่าบริเวณหน้าท้องของเขามีเลือดไหลหลั่งออกมาเป็นจำนวนมาก
“อึก...หุบปากอย่าส่งเสียง! ฉันรับรองว่าฉันจะไม่ทำให้เธอตายแน่นอน” เขาบอกทั้งที่เสียงขาดห้วงไม่ได้ศัพท์ ในขณะที่ลมหายใจเริ่มเร่งระดับหนักขึ้นเรื่อย ๆ
เม็ดเหงื่อผุดตามกรอบหน้าคมคาย สีเลือดตามร่างกายกลับค่อย ๆ ซีดเผือดลงถนัดตา
“ฮึก...นี่มันอะไรกัน ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ ฉันจะ...”
“อยู่เฉย ๆ ได้ไหมวะ!” เสียงคำรามดุกร้าวแผดลั่น
เวลาแบบนี้ต่อให้มีนายตำรวจยศใหญ่ลงพื้นที่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ มันมีผลประโยชน์อยู่กั้นกลาง และที่สำคัญผู้บงการอยู่ในเงามืดที่ไม่มีใครจับตัวได้
วงการสีเทาน่ากลัวกว่าที่คิดจินตนาการไว้มาก หากแต่การย่างกรายเข้ามาบนเส้นทางนี้ย่อมไม่มีหนทางให้หวนกลับ มีแต่จะเดินตรงต่อไปข้างหน้าหรือไม่ก็คือการจบชีวิตเพื่อล้างไพ่เท่านั้น
“พวกมันวนกลับมาทางนี้!” มือใหญ่ปิดทาบที่ริมฝีปากของหญิงสาวอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังเข้ามาใกล้กับบริเวณที่หลบซ่อน
“กูได้ยินเสียงแถว ๆ นี้ พวกมึงมาค้นดูตรงนี้! กูว่ามันต้องหลบอยู่แถว ๆ นี้แน่!”
“นายสั่งมา ถ้าเจอก็ให้ฆ่ามันทันที!”
เสียงฝีเท้าหนักของผู้คนนับสิบรวมไปถึงบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธคืบคลานประชิด ไตรพัฒน์เก็บกลั้นลมหายใจ เฉกเช่นเดียวกับหญิงสาวตัวน้อยที่ซุกตัวนั่งลงสู่พื้นจนแทบเกยมาอยู่บนตัก
เขาขยับวงแขนเปลี่ยนเป็นการดึงรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด หวังให้ร่างกายของเธอจมประสานกลมกลืนกับตัวเองมากที่สุด ถึงแม้ว่าการมีอีกหนึ่งชีวิตติดสอยห้อยตามจะทำให้การหลบหนีเกิดความลำบาก แต่อย่างไรแล้วคนที่เป็นต้นเหตุต้นเรื่องอย่างเขาก็ควรตายก่อนผู้บริสุทธิ์แบบเธอ
แต่ทว่า...
ปัง!
ปัง!
ปัง!
เสียงปืนดังถี่รัวขึ้นอีกครั้งในจังหวะที่สติอันเลือนพร่าจะดับวูบเข้าสู่ห้วงแห่งความมืดมิด
มาเฟียหนุ่มพยายามข่มความเจ็บปวดและเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งเพื่อมองภาพสถานการณ์ เขาเห็นกลุ่มชายชุดดำกำลังสาวเท้าเข้ามาใกล้ มองถัดไปยังเบื้องล่างก็พบว่ามีอีกกลุ่มคนมากมายเช่นกันที่นอนเกลื่อนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น
“นายครับ! นาย!”
“พวกมึงเข้ามาพยุงตัวนายสิวะ!”
เสียงเข้มดังตีพันจนจับจุดไม่ได้ จังหวะเดียวกันนั้นสัมผัสความอบอุ่นจากคนข้างกายก็ค่อย ๆ หายลับไป และถูกแทนที่ด้วยมือใหญ่ของคนหลายชีวิตที่ตรงปรี่เข้ามาประคอง
หญิงสาวในอ้อมแขนถูกดันให้ออกห่าง เธอกำลังตัวสั่นเทาด้วยความหวั่นกลัว หากแต่ดวงตากลมโตกลับจดจ้องมองมาที่เขาด้วยความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด
“พวกคุณเป็นใครคะ จะเอาตัวเขาไปไหน เขาเจ็บอยู่นะ!”
“เขาเป็นเจ้านายของผม ผมกำลังจะพาเขาไปในที่ปลอดภัย ส่วนคุณช่วยขยับออกไปด้วยครับ ผมไม่อยากรังแกผู้หญิง” คำพูดราบเรียบแต่กลับแฝงซ่อนไปด้วยความโหดเหี้ยมมากมาย แน่นอนว่าประโยคนั้นทำให้คนตัวเล็กถอยหลังไปหลายก้าว ไม่ว่าจะเป็นความหวั่นกลัวจากชายฉกรรจ์นับสิบ รวมไปถึงปืนสีดำขลับและอาวุธครบมือที่อยู่ห่างจากร่างกายไม่ถึงหนึ่งเมตร สิ่งเหล่านั้นทำให้เธอจำต้องขยับหนีเพื่อรักษาชีวิต
“เธอ...อึก...ชื่อเธอ เธอชื่ออะไร” ไตรพัฒน์รวบรวมเรี่ยวแรงและเปล่งคำถามออกไป สติของเขาไม่ได้มีมากพอที่จะจดจำเรื่องราว ณ ตอนนี้ได้นัก แต่สิ่งที่เขาควรบันทึกเข้าสู่สมองนั้นก็คือชื่อของผู้หญิงคนนี้ที่ร่วมฝ่าดงกระสุนไปพร้อม ๆ กันในค่ำคืนเลวร้าย
“ป่าน...สายป่าน ฉันชื่อสายป่าน” หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่วเบา หากแต่มันดังพอที่จะทำให้เขาจดจำชื่อของเธอ
ทว่าดวงตาคมเข้มกลับดับวูบลงไปพร้อม ๆ กับเรี่ยวแรงมหาศาลที่ทิ้งผ่อนลงมา
เสียงสุดท้ายก่อนสติเลือนพร่าคือเสียงจากคนแปลกหน้าที่เขาเพิ่งพบเจอ และภาพสุดท้ายก่อนดวงตาจะหลับใหลก็เป็นเจ้าของชื่อ ’สายป่าน’ พยายามพุ่งมาหาเขาโดยมีสายตาอาทรที่สะท้อนผ่านออกมา
ไตรพัฒน์ไม่อาจทนพิษบาดแผลความเจ็บปวดได้อีกต่อไป สติของเขาวูบไหวดับสิ้น และถูกแทนที่ด้วยเงามืดสีดำขลับ...
บทที่ 45พลาด“กล่อมเด็กเข้านอนเรียบร้อยแล้วเหรอครับ”เมื่อไตรพัฒน์เดินเข้ามาในห้องทำงาน เสียงของมือขวาคนสนิทก็ไม่วายเอ่ยแซวอย่างขบขัน นัยน์ตาพราวเป็นประกาย จนคนที่ถูกถามเป็นต้องรีบปั้นหน้านิ่งขรึมพร้อมกับกดสายตาดุส่งไปให้“ไอ้ตุลย์ไปถึงหรือยัง”“อ้าว นายยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ” มารุตเลือกที่จะถามต่อ น้ำเสียงหยอกเย้าไม่เกรงกลัวในอำนาจของผู้เป็นนาย เพราะทำงานด้วยกันมานานหลายปี การได้เห็นนายตัวเองกล่อมเด็กสาวคนโปรดเข้านอนก็นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าเก็บภาพเป็นที่ระลึกไว้มากที่สุด“ไอ้รุต!” ไตรพัฒน์ตวัดสายตาดุดันให้กับมือขวา ทั้งที่เปลี่ยนเรื่องเข้าสู่งานในค่ำคืนนี้แล้วก็ยังไม่วายไล่ต้อนเขาถึงสิ่งที่ไม่เคยทำอย่างการง้องอนเด็กในปกครองแต่เขาก็ทำมันไปแล้วจริง ๆ นั่นแหละ...“โอเคครับ ไม่พูดแล้วครับ ตอนนี้คุณตุลย์ไปรอยังจุดนัดหมายแล้วครับนาย คนของเรารายงานว่าอีกสิบนาทีลูกค้าก็จะเดินทางมาถึง” มารุตยกมือปิดปากตัวเองเมื่อได้ยินน้ำเสียงเข้ม ๆ ของนายที่แสดงออกว่าไม่มีทีท่าจะเล่นด้วย จากนั้นถึงได้วกกลับเข้าเรื่องการส่งสินค้าที่เขาได้มอบหมายให้ตุลธรผู้เป็นน้องชายจัดการ“แล้วเรื่องหนอนมึงคิดว่าใคร”
บทที่ 44เลี้ยงส่งวันสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาฝึกงานไม่มีภาระความรับผิดชอบใด ๆ นอกเหนือจากการเลือกร้านอาหารให้กับหัวหน้าสาวเลี้ยงอำลาก่อนจะแยกจากกันเมื่อถึงเวลาเลิกงานเหล่าพนักงานออฟฟิศก็รวมตัวกัน โดยมีการนัดหมายและจุดหมายปลายทางเป็นสถานที่เดียวกันก็คือร้านอาหารไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัท จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการเลี้ยงส่งน้องเล็กสุดอย่างสายป่านที่จะไม่ได้มาทำงานที่บริษัทอีกต่อไปแล้ว“โห พี่นุ้ย...สั่งอาหารไว้รอแล้วเหรอคะเนี่ย”ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องอาหารที่ถูกจองไว้ล่วงหน้าก็เป็นต้องตกตะลึงเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าหัวหน้าสาวที่สนิทสนมกันจะเลือกจองห้องรับรองพิเศษเพื่อความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าที่ตอนนี้กำลังวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะจนเธอตาลายไปหมด“ระดับพี่นุ้ยไม่ธรรมดาอยู่แล้วแหละป่าน” เสียงจากทางด้านหลังซึ่งเป็นของหนึ่งในพี่ที่ทำงานที่เธอเองก็สนิทสนมด้วยเช่นกัน“ใช่จ้ะ เลี้ยงส่งป่านทั้งทีนี่นา ป่านน่ะเป็นเด็กฝึกงานคนแรกของบริษัทเราเลยนะ แถมพี่เองก็ทั้งรักทั้งเอ็นดู นี่ยังเสียดายเลยที่ครบกำหนดฝึกงานแล้ว ไม่งั้นพี่จะขอให้บอสทำสัญญาว่าจ้างต่อนะเนี่ย”“โอ๊ย อย่าเพิ่งพูดกันเลย
บทที่ 43ระบายอารมณ์ฉันเดินไปเดินมาภายในตัวบ้านเนื่องจากเป็นห่วงและไม่รู้ว่าคุณไตรจะเป็นยังไงบ้าง หลังจากที่เขาเก็บตัวอยู่ในห้องทำงานหลายชั่วโมง ก็มีเพียงพี่มารุตคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ลองสอบถามจากพี่มารุตตอนที่เขาเดินออกมาก็ได้รับเพียงการส่ายหน้า นั่นเลยทำให้ฉันเลือกที่จะรอคอยเขาอยู่ด้านล่าง และหวังให้เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองได้ในไม่ช้าเหตุการณ์ในวันนี้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบริษัทไทรอัมพ์มาก นอกจากจะพลาดการร่วมหุ้นกับนักธุรกิจคนสำคัญแล้ว เขายังถูกหยามหน้ากับบริษัทคู่แข่งที่หวังแย่งชิงพื้นที่ทางธุรกิจอีกด้วยแล้วสิ่งที่เจ็บช้ำที่สุดที่ทำให้คุณไตรเดือดดาลมากขนาดนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ออกไป พอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร หากแต่มันหลุดรอดถึงอีกฝ่ายจนถูกตัดหน้าแก่งแย่งแบบนี้ มันเลยทำให้คิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่าเขากำลังถูกหักหลังจากคนที่เป็นหนอนแฝงตัวและสิ่งที่ทำให้ฉันสะท้อนใจก็คือเรื่องนี้...หากฉันคิดร่วมมือเป็นนางนกต่อหวังพรากชีวิตของเขา ฉันก็ไม่ต่างจากหนอนบ่อนไส้ดี ๆ นี่เอง!“ผมว่าคุณไปหาอะไรรองท้องสักหน่อยน่าจะดีนะครับ นั่งรอแบบนี้มันก็ไม่มีอะไรดีข
บทที่ 42ปาดหน้าเค้กSAIPAN’S PART ;บรรยากาศตอนเช้าของบ้านหลังใหญ่ตกอยู่ในความวุ่นวายที่มีกำลังชายชุดดำมากกว่าเดิมสองเท่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่คุณไตรจะต้องออกไปดีลกับหุ้นส่วนคนใหม่ที่จะร่วมหุ้นกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า“หล่อแล้วค่ะ” ฉันเอ่ยพร้อมรอยยิ้มหลังจากที่จัดแจงสวมใส่ชุดสูทราคาแพงให้กับคุณไตร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับนัดหมายในไม่ช้า“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามกันอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็ค่อย ๆ ประคองสัมผัสที่ผ้าพันแผลจากการถูกยิงบริเวณต้นแขนของฉันอย่างเบามือหลังจากที่คุณไตรพาฉันกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ของเขา เขาก็เรียกหาหมอรินให้มารักษาเป็นการด่วน แต่โชคดีมากที่กระสุนไม่ได้ฝังเข้าสู่เนื้อกาย บาดแผลแค่ฉีกเล็ก ๆ เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นความตั้งใจของคนอีกฝ่ายทุกอย่าง“นิดหน่อยค่ะ” ฉันตอบและหลบสายตาลงเพราะไม่อาจหาญพอที่จะมองหน้าเขาได้ตอนนี้รู้สึกอับอายไม่กล้าสู้หน้า ทั้งยังสับสนวุ่นวายจนไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของตัวเองความจริงที่ถูกเปิดเผยว่าพี่สาวที่หลงเหลืออยู่ในชีวิตนั้นเป็นมือปืนหวังพรากชีวิตคนที่ฉันเผลอมอบควา
บทที่ 41เหยื่อล่อ (2)พลั่ก!“อ๊ะ!” สายป่านร้องขึ้นเมื่อร่างสูงใหญ่ของชายชุดดำผลักให้เข้ามาด้านในโกดังมืดทึบ จนร่างกายล้มลงกระแทกกับพื้น“เฮ้ย เบาหน่อยสิวะ เดี๋ยวน้องเขาก็ระบมหมด” ผู้เป็นนายที่เดินตามมาเอ่ยปราม หากแต่แท้จริงกลับยิ้มหยันพอใจ และไม่ได้มีท่าทีตำหนิคนของตัวเองเลยสักนิด“อย่ามายุ่งกับน้องสาวฉัน!” เส้นด้ายรีบวิ่งเข้ามาผลักคนตัวใหญ่ออกห่าง ก่อนจะตรงปรี่เข้ามาประคองรั้งร่างกายน้องสาวของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องทั้งนั้น“อ้อ...พี่สาวของหวงซะด้วย มึงก็ระวังหน่อยสิวะ ผลักเขาล้มแบบนั้นเกิดผัวน้องเขามาเล่นงานกูจะทำยังไง” เรย์ยียวน รอยยิ้มเหยียดหยันเมื่อเห็นสองพี่น้องมองเขาด้วยความจงเกลียดจงชัง และคนที่พูดถึงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากไตรพัฒน์ที่หวงแหนผู้หญิงคนนี้ยิ่งกว่าอะไร“ต้องการอะไรคุณเรย์ ทำไมต้องเอาน้องสาวของฉันเข้ามาเกี่ยวด้วย!” เส้นด้ายหันไปประจันหน้า น้ำเสียงตวาดกร้าวดังแผดลั่นทั้งหยาดน้ำตาที่ไหลหลั่งหมับ!“ก็เพราะน้องของเธอมันเป็นเหยื่อล่ออย่างดีน่ะสิ!” ร่างสูงให้คำตอบและเดินเข้ามาดึงรั้งเส้นด้ายให้แนบชิด มือใหญ่คว้าหมับที่ใบหน้าสะสวยของเธอ ออกแรง
บทที่ 40เหยื่อล่อ (1)“เจ็บหรือเปล่า ถ้าเจ็บบอกฉันนะป่าน” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยบอกอย่างอ่อนโยน ขณะที่มือใหญ่ก็บรรจงกดสำลีชุบยาแนบไปกับแผลถลอกตามขาเรียว“ไม่เจ็บเลยค่ะ” สายป่านส่ายหน้าพลางยิ้มออกมาบาง ๆเธอไม่ได้เจ็บกับบาดแผลเลยสักนิด กลับกันเธอเจ็บปวดในหัวใจเสียมากกว่า…หลังจากที่ไตรพัฒน์พาเธอกลับมาที่บ้าน เขาก็จัดการทำแผลให้เธอเองกับมือ ทั้งยังบอกกับนุ้ยหัวหน้างานให้แล้วด้วยว่าสายป่านเกิดอุบัติเหตุจนต้องขอตัวกลับก่อนด้วยเหตุนั้นสายป่านถึงต้องรีบส่งข้อความไปขอโทษขอโพย ทั้งยังถ่ายรูปบาดแผลเล็ก ๆ ไปยืนยันอีกแรง เนื่องจากกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจที่ไม่ยอมบอกโดยตรง แต่สิ่งที่นุ้ยตอบกลับมาล้วนแต่มีความเป็นห่วงเป็นใย ทั้งยังอนุญาตให้ลางานได้ในวันพรุ่งนี้ สายป่านเลยคลายกังวลไปได้อีกหนึ่งเรื่อง“ทำไมเธอถึงไปเจอกับมันได้ล่ะ คนของฉันบอกว่าเธอเดินเข้าไปหามันเอง” มาเฟียหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ นัยน์ตาคมเข้มแต่ไม่มีการตำหนิใด ๆ เลยสักนิด ทว่ามันกลับทำให้สายป่านร้อนรุ่มจนแสดงท่าทีกังวลออกมา“อึก! ปะ...ป่าน ป่าน...”“ตอนแรกคนของฉันมันรายงานว่าเธอน่าจะรู้จักกับมัน เพราะเห็นจับมือพูดคุยกันด้วย
บทที่ 39ผิดแผน“พี่นุ้ยจะเอาอะไรคะ เดี๋ยวป่านไปสั่งให้ค่ะ” สายป่านถามหลังจากที่เดินเข้ามาด้านในร้านกาแฟพร้อมกับหัวหน้าที่ดูแลการฝึกงาน“อืม...เอาอะไรดีนะ เอาเลมอนโซดาดีกว่า เบื่อพวกกาแฟแล้ว อะนี่จ้ะ เอาเงินนี่จ่ายนะ ป่านเองก็สั่งมาด้วยเลย” ครุ่นคิดรายการที่จะสั่งไม่นานก็ตัดสินใจได้ เธอหยิบธนบัตรส่งให้กับเด็กสาว พร้อมกับกำชับให้สั่งเครื่องดื่มมาด้วยกัน เนื่องจากรู้ดีว่าจะต้องได้รับการปฏิเสธกลับมาเช่นทุกครั้ง“เลี้ยงป่านอีกแล้วง่า พี่นุ้ยอย่าใจดีนักสิคะ ถ้าป่านฝึกงานเสร็จแล้วป่านคงใจหายแย่ที่จะไม่ได้เจอหัวหน้าใจดีแบบพี่นุ้ยอีก” สายป่านส่งสายตาอ้อน หากแต่คำพูดที่เอื้อนเอ่ยล้วนออกมาจากหัวใจทั้งสิ้น“พี่ต่างหากที่ใจหาย นี่ก็เหลืออีกไม่ถึงเดือนแล้วด้วย เฮ้อ...ฝึกงานเสร็จแล้วก็มาสมัครที่นี่ได้นะป่าน บริษัทเรายินดีต้อนรับเสมอ”“โหย ป่านนี่เด็กเส้นดี ๆ นี่เอง”“แน่นอนสิ บอกไปเลยนะว่าเป็นเด็กพี่นุ้ย ไม่มีใครกล้าแหย็มแน่!”“คิก ๆ ป่านไปสั่งเครื่องดื่มดีกว่า พี่นุ้ยไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะ เดี๋ยวป่านเอาไปเสิร์ฟให้ถึงที่เลย” หญิงสาวส่งยิ้มร่าก่อนจะเดินแยกไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม และเลือกสั่งตามร
บทที่ 38หุ้นส่วนหลายวันผ่านไปหลังจากที่รักษาตัวจนร่างกายหายเป็นปกติ ไตรพัฒน์ก็ให้ความสนใจกับเนื้อหางานต่อทันที ซึ่งในวันนี้เขาได้นัดหมายให้น้องชายเข้ามาหาที่บริษัท เนื่องจากมีธุระสำคัญที่จะต้องพูดคุยกันโดยด่วน รวมถึงมารุตเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้ด้วยเช่นกันไตรพัฒน์เข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับมือขวา กระทั่งเห็นว่าตุลธรได้มานั่งรอที่ห้องแห่งนี้ก่อนแล้วเรียบร้อย แม้ว่าเนื้อหางานในวันนี้จะเป็นงานสำคัญ อีกทั้งตุลธรเองก็ไม่มีหน้าที่ใด ๆ กับส่วนนี้ แต่ไตรพัฒน์เองก็ยังคงหวังในภายภาคหน้าว่าเขาจะดันตุลธรขึ้นนั่งในตำแหน่งสำคัญแทนตัวเอง“มึงทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง” ไตรพัฒน์นั่งลงบนโซฟาพลางกดสายตามองไปยังน้องชาย ที่ตอนนี้ทำหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบก็ไม่ปานคนเป็นพี่ชายย่อมรู้ดีว่ามันเกิดจากสิ่งใด แต่ที่เขาต้องถามออกไปนั้นก็เหมือนเป็นการติเตียนและย้ำชัดในสถานะว่าต่อให้แสดงอารมณ์ในรูปแบบไหน เขาก็ไม่มีวันตามใจได้เหมือนเรื่องอื่นตุลธรไม่มีหน้าที่กับงานของบริษัท เหตุเพราะเกลียดขยาดจนแทบไม่อยากเข้าใกล้ คงจะมีก็แต่เรื่องเดียวที่ทำงานได้ดีจนออกปากชมอยู่หลายครั้งนั
บทที่ 37ไม่เคยพอ“คุณไตร...” ฉันพยายามเปล่งเสียงเรียกรั้งให้เขาหยุด หากแต่มันบางเบาและถูกกลืนกลับลงสู่ลำคอดังเดิมเมื่อริมฝีปากฉกฉวยทาบทับซ้ำแล้วซ้ำเล่าสติของฉันถูกพรากให้ดำดิ่งอยู่ในห้วงปรารถนา ลอยล่องไปกับสัมผัสรสจูบไหวหวามของเขาจนไม่อาจกู่กลับได้อีกต่อไปฉันหลับตาพริ้มตอบรับและตอบสนอง ปล่อยตัวปล่อยใจและส่งมอบให้เขาทั้งหมด มือสองข้างยกขึ้นคล้องที่ต้นคอหนา บดเบียดร่างกายให้แนบชิดคลอคลึงหวังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันริมฝีปากของเราบดคลึงกันเนิ่นนานจนไม่รู้เลยว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าไร กระทั่งรู้ตัวอีกทีเสื้อผ้าบนร่างกายของตัวเองและเขาได้หลุดหายไปจนหมดแล้วความเปลือยเปล่าถูกกระทบด้วยลมแอร์เย็นฉ่ำ ครั้นสติดวงน้อย ๆ อันเลือนรางถึงได้ย้อนคืนกลับมา จนมันประมวลได้ว่าตอนนี้คุณไตรกำลังเริ่มต้นบทบรรเลงขึ้นแล้ว“คุณไตรไม่ใส่ถุงเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามเสียงบางเบา ตอนที่ผงกหัวมองถึงได้เห็นว่าเขากำลังชักรูดลำกายอวบก่อนจะกดจ่อพร้อมสอบกระทั้นที่ปากทาง“อยากสด ได้ไหม?”“ดะ...ได้ค่ะ ป่านกินยาคุมอยู่”“ก็ดี” สิ้นคำตอบเอวหนาก็สอบเข้าหาจนฉันสะดุ้งโหยงแม้ว่าช่องทางจะฉ่ำเยิ้มพร้อมพรักเป็นอย่างดี แต่ด้วยขนาดที่แตกต
Comments