“ทำไมวันนี้มาช้านักล่ะ”
ใบข้าวสลัดความทรงจำยากลำบากทว่าหอมหวานนั้นทิ้ง เผชิญหน้ากับความเป็นจริงตรงหน้า รุ่นพี่ในที่ทำงานทักเธอด้วยใบหน้าบึ้งตึง นอกจากจะไม่ได้ห้องซ้อมกลับคืนมา ยังถูกเขตครามถ่วงเวลาจนเกือบจะเสียงาน ใบข้าวรีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดพนักงานของผับ ใบหน้าสวยหวานของเธอแต่งเข้มขึ้นหลายระดับ เพราะไม่อยากให้คนรู้จักล่วงรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่นี่ กำลังจะเดินออกไปประจำตำแหน่งบริกรอย่างทุกที ผู้จัดการก็เข้ามาบอกให้เธอไปทำหน้าที่ก้นครัว รู้ได้ทันทีเลยว่า วันนี้เจ้าของสถานที่เองก็พาเพื่อนของเขามาสังสรรค์ วันไหนที่เขตครามมา เธอจะหลีกเลี่ยงเขาไปทำงานอยู่ท้ายครัว หลังจากผับปิด งานท้ายครัวหนักหนาสาหัสมาก แถมเงินที่ได้ยังน้อยนิดถ้าเทียบกับงานเสริฟ ใบข้าวในชุดนักศึกษาลากสังขารกลับมาที่หอพักนอกมหาวิทยาลัย ยืนจ้องมองความทรุดโทรมของอาคารอย่างเหนื่อยหน่าย เธออยากเปลี่ยนเส้นทางชีวิตใหม่ ที่ไม่ต้องโคจรไปพบกับอนาคตที่มีสามีชื่อเขตคราม แต่ถ้าเธอเปลี่ยนมัน ความสำเร็จหอมหวานที่เคยฝ่าฟันอย่างยากลำบากจนได้พบกับมัน เธอจะยังได้พบอะไรแบบนั้นอยู่ไหม บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เธอเข้าทำงาน คือบริษัทหลักของตระกูลเขา แล้วไอ้ตำแหน่งเลขาเงินเดือนสูงลิ่ว ก็คือตำแหน่งเลขาหน้าห้องของไอ้เผด็จการที่ชื่อเขตคราม ไอ้สามีเฮงซวยที่ชอบโยนงานมาให้เธอทำ สามีบ้าอำนาจที่ใช้เธอเยี่ยงกว่าทาสในเรือนเบี้ย “บางทีชีวิตที่ไม่มีเขตคราม อาจจะเป็นชีวิตที่เธอปรารถนาจนอยากย้อนกลับมาแก้ไขก็ได้” ใบข้าวพึมพำกับตัวเอง เธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เงื่อนไขคืออะไรก็ยังไม่รู้ ความทรงจำที่เธอมีอยู่ตอนนี้ บอกได้เลยว่ามันไม่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ มันขาดหายไปหลายช่วง ที่แจ่มแจ้งชัดเจนมีแค่ช่วงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วก็ช่วงชีวิตหลังจากที่ฝ่าฟันจนได้เป็นภรรยาของเขตครามแล้ว ชีวิตสองช่วงเวลาต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว ราวกับอยากทำให้เธอได้รู้ว่า ถ้าหากครั้งนี้เธอตัดสินใจพลาดจะไม่มีโอกาสให้อีกเป็นครั้งที่สอง วันต่อมา ภารกิจทวงคืนห้องซ้อมยังไม่สำเร็จ ในตอนเย็นหลังจากเรียนคาบสุดท้ายจบ ใบข้าวรีบเดินตรงไปยังอาคารเสริม ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ประตูห้องซ้อมเปิดอ้า เสียงด้านในดังกระหึ่ม สมาชิกในชมรมอยู่ครบ คนที่ไม่ใช่สมาชิกของชมรมก็ด้วย แต่ใบข้าวไม่สนใจใครเลย เธอมองตรงไปที่เขตคราม เขากำลังนั่งคุยกับผู้หญิงสวยคนหนึ่งอยู่ ท่าทางสนิทสนมเกินเพื่อนทำให้ใบข้าวก้าวเข้าไปในห้องแบบไม่คิดอะไร ซ่า! ซ่า! เสียงของมวลน้ำร่วงลงมาจากถังขนาดกลาง ซึ่งห้อยแขวนอยู่กับเชือกเส้นหนึ่งโยงเข้ากับกระถางไม้ประดับภายในห้อง น้ำในถังทั้งหมดร่วงหล่นใส่ร่างของใบข้าวพอดิบพอดี ก่อนที่มันจะเจิงนองอยู่บนพื้นตรงกับขอบเส้นของบานประตู เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับเธอบ่อยมาก และจะเกิดขึ้นบ่อยมากกว่านี้ ในช่วงที่เธอต้องทำกิจกรรมร่วมกับพวกพ้องของเขตคราม ซึ่งปกติเธอจะระมัดระวังตัวเองมาก แต่วันนี้ … มันเป็นเพราะภาพของเขตคราม ภาพที่เธอในวัยยี่สิบเอ็ดปีจะไม่มีทางหวั่นไหวกับมันเด็ดขาด แต่เพราะความจริงแล้ว เธอไม่ใช่ใบข้าวในวัยยี่สิบเอ็ดปีนะสิ เธอก็เลยหวั่นไหวกับภาพของเขตครามสุดๆ ภาพที่มันเหมือนว่าเขากำลังนอกกายนอกใจเธอ “ฮะ! ฮ่าๆ ฮ่าๆ” ช่วงเวลาที่เหมือนกับโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ โดนเสียงหัวเราะของภัทรดึงให้กลับมาเป็นปกติ ตัวการในการกลั่นแกล้งยังคงหัวเราะสะใจกับภาพมอมแมมของใบข้าว ทว่าในใจลึกๆนั้น ชั้นในสีขาวใต้เสื้อนักศึกษาเปียกชุ่ม กระตุ้นให้หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะเอาซะเลย ใบข้าวเป็นผู้หญิงที่สวยสุดๆ ดวงตากลมโต จมูกเล็กเชิ่ดรั้น ริมฝีปากแดงอมชมพูแสนจิ้มลิ้ม ไหนจะสัดส่วนที่ลงตัวพอๆกับเหล่านางแบบนั่นอีก แต่เพราะเธอเป็นยัยยาจกหนูสกปรกที่หลุดมาอยู่กลางฝูงหงษ์ ความสวยของเธอจึงถือว่าไม่มีประโยชน์เลย นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ภัทรรู้สึกว่า เขากำลังจะมองข้ามความจนของเธอไป “พรุ่งนี้ … ฉันให้เวลาพวกนายเก็บของถึงแค่พรุ่งนี้” “เธอพูดอะไรของเธออะยัยหนูสกปรก” ภัทรที่ยืนอยู่ใกล้ใบข้าวมากที่สุด ถามแทนคนอื่นๆที่ได้ยินประโยคนั้นไม่เหมือนกัน “ฉันบอกว่าให้เวลาพวกนายขนของออกไปถึงแค่พรุ่งนี้ไง!” ใบข้าวตวาดลั่น เมื่อก่อนเวลาโดนแกล้ง เธอแค่โกรธ และเกลียดพวกเขา แต่ตอนนี้ เธอทั้งโกรธ ทั้งเกลียด ทั้งน้อยใจ ไหนนายบอกว่าในอนาคตเราเป็นสามีภรรยากันไง ทำไมนายถึงทำเพียงแค่มองเฉยๆเหมือนที่นายเคยทำ ทำไมนายไม่ยอมปกป้องฉัน หรือนายอยากจะเปลี่ยนเป็นอนาคตที่ไม่มีฉันในชีวิตจริงๆ ใบข้าวเดินหนีออกมาจากห้องด้วยความสับสน ปาดคราบน้ำออกไปจากใบหน้า แต่ทว่า ยิ่งนาน ของเหลวเหล่านั้นยิ่งมีความหนืด อย่าบอกนะว่านี่มันไม่ใช่แค่น้ำเน่าธรรมดา แต่เป็นน้ำเน่าชนิดที่ล้างไม่ออก “อ๊าก!!” ตึง ตึง! ใบข้าววิ่งกลับไปในทิศทางเดิม ยืนหน้าตึงอยู่ประตูทางเข้าห้องซ้อม ผู้คนในห้องทำราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น และมันกระตุ้นความโกรธของเธอให้พุ่งทะลุปรอท “ฉันจะจดรายชื่อพวกนายส่งสภา!” “เห้ๆ! ยัยประธานสภา เธออย่ามาให้อำนาจในทางที่ผิดแบบนี้สิ พวกเราทำผิดอะไรไหนบอกหน่อยสิ?” ภัทรรู้สึกสนุกยิ่งกว่าเมื่อก่อน เขาเพิ่งจะเคยรู้สึกแบบนี้ หลังจากที่เมื่อวานเขาโดนใบข้าวก้าวมาจนเกือบประชิดตัว อยากเห็นใบหน้าสวยหวานของเธอ เปรอะเปื้อนไปด้วยหวาดน้ำตา อยากได้ยินเสียงหวานเอ่ยขอร้อง ว่าพอได้แล้ว เลิกแกล้งฉันสักที “ผิดอะไรงั้นเหรอ ผิดที่มั่วสุมยังไงล่ะ” ใบข้าวก้าวเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว เธอหยุดลงหน้าโต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่มีโซฟาหรูหราวางอยู่หลายตัว บนโซฟาตัวหนึ่งนั้น มีร่างของเขตครามกับหญิงสาวดาวมหาวิทยาลัยคลอเคลียกันอยู่ ใบข้าวพยายามไม่สนใจคนทั้งสอง คว้าเอาบุหรี่ไฟฟ้าบนโต๊ะมากำไว้แน่น “นั่นมันของฉันนะย่ะ!” “โอ้! รู้ตัวเจ้าของมันแล้วแฮะ! แบบนี้ยิ่งดีกับงานของฉันเลย พรุ่งนี้เจอกันที่สภา” หมับ! ใบข้าวหมุนตัวเดินไปแล้ว แต่เพียงแค่สองก้าวไหล่ของเธอก็ถูกจับ แรงบีบมหาศาลทำให้เธอเอี้ยวใบหน้ากลับไปมอง สบดวงตาคมกล้าสีเทาเข้มอย่างไม่เกรงกลัว สะบัดหัวไหล่ให้หลุดพ้นจากมือของเขตคราม แต่ทำไม่สำเร็จ เขาไม่ยอมปล่อยไหล่ของเธอ ซ้ำยังบีบแรงขึ้นจนเธอหลุดเบ้หน้าออกไป12 : 45 น. โรงแรม XXX ผลสรุปคือฉันกับเขตครามมาสายเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกโล่งใจ เพราะเขาบอกว่าจริงๆแล้ว พวกผู้ใหญ่เลื่อนนัดไปเป็นบ่ายโมง และคนทำให้ฉันเป็นกังวลมาตลอดก็โดนลงโทษไปตามระเบียบ แม้ฉันจะง้อด้วยจูบหวานๆ เขตครามก็ยังไม่หยุดทำหน้าบึ้ง ง้อยากนักฟาดหลังอีกสักรอบดีไหม “นี่คราม! เลิกทำหน้าแบบนั้นได้ยัง ฟาดอีกสักรอบดีไหมเนี่ย”ร่างสูงในชุดสูทสีกรมท่าถอยกรูดไปด้านหลัง ท่าทางหวาดกลัวปลอมๆนั่น ทำให้ฉันปรี่เข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นหมายจะฟาดหัวไหล่ เสียงใครบางคนก็ขัดการกระทำของฉัน ลดมือลงข้างลำตัว หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนเกือบชน “สวัสดีค่ะอาจารย์ ไม่ใช่สิ คุณหมอคริส มิน”“สวัสดีใบข้าว”“สวัสดีจ๊ะข้าว”แปลกใจที่เจอคุณหมอคริสกับมินตราที่นี่ แต่ที่น่าแปลกใจมากกว่าก็คือความใกล้ชิดของคนทั้งสอง แม้ไม่ได้อยู่ในระดับที่มองออกว่าเป็นคู่รัก แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างแอบแฝงอยู่ “มากันแล้วเหรอ ยัยหนู”“คุณย่า ทำไมไม่รอข้างในล่ะครับ”เขตครามเดินเข้าไปช่วยพยุงผู้หญิงที่เขาเรียกว่าย่า ทว่าท่านยังดูอ่อนเยาว์เหมือนผู้หญิงวัยสี่สิบปลายๆ ฉันเดินเข้าไปใกล้ท่าน ยกมือไห
วันต่อมา “ข้าว ใบข้าว ตื่นได้แล้ว”เสียงนุ่มนวลรบกวนห้วงนิทราหวาน ฉันปรือตาขึ้นมองไปทางที่ตั้งของนาฬิกา เมื่อพบว่ามันเพิ่งจะเก้าโมงเช้า ก็ปิดเปลือกตาลงเหมือนเดิม แอบด่าคนที่ใช้แรงฉันทั้งคืนจนเกือบรุ่งสาง ไม่รู้จะรีบปลุกทำไม จำไม่ได้หรือไงว่าวันนี้วันเสาร์ “ข้าว! ตื่น”ครั้งนี้เขตครามไม่ได้ทำเพียงแค่เรียก เขาดึงรั้งผ้าห่มไปจากตัวฉัน ยิ่งเขาดึงฉันยิ่งออกแรงยื้อ เมื่อเห็นว่าผลแพ้ชนะมันกำลังจะเอนเอียงไปทางเขา ก็ส่งตาขวางไปให้ “ฉันเหนื่อย! ง่วงด้วย ร่างเหมือนจะแหลกเลย”ไอ้คนหื่นกามไม่หลงกล สุดท้ายผ้าห่มนุ่มสบายก็ร่วงหล่นอยู่ปลายเตียง คนที่นุ่งเพียงกางเกงนอนขาสั้นขยับขึ้นมาคร่อมทับทันที สายตาหื่นห่ามเกิดขึ้นอีกแล้ว ฉันที่เหนื่อยสายตัวแทบขาดรีบยกมือขึ้นฟาดหน้าอกเขาสุดแรง เพี๊ยะ! “ก็บอกว่าเหนื่อยไง!”“ชิ! ก็อยากให้นอนต่ออยู่หรอก แต่เธอลืมหรือไง ว่าต้องไปทานมื้อกลางวันกับพ่อแม่ฉันอะ”“เห้ย! จริงด้วย!”“เห้อ! ให้ช่วยอาบไหม?”“ไม่ต้องย่ะ! นายมานั่นแหละมันจะยิ่งช้า”ฉันลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท จึงหอบร่างกายร้าวรานลงไปจากเตียง จากนั้นก็เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัว ตอบโต้กับเขตครามขณะที่เดินไ
สัปดาห์ต่อมา ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนให้ความสนใจข่าวลือเรื่องการคบหากันระหว่างฉันกับเขตครามอย่างล้นหลาม จนกระทั่งข่าวการลาออกจากตำแหน่งของอาจารย์คริสหลุดออกมา ข่าวลือของฉันถึงได้ซาลง แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนก็ยังให้ความสนใจอยู่ จนฉันไม่เป็นอันทำอะไรเลย “เธอเองเหรอที่คนเขาลือกันให้แซ่ดว่าเป็นตัวจริงของครามอะ ฉันว่าข่าวมั่วมากกว่ามั้ง หรือไม่ก็คงเอาตัวไปประเคนใส่ปากให้เขาเคี้ยวจนได้เป็นตัวจริง” นินิวพูดจาค่อนขอดใส่ หลังจากวางเอกสารเกี่ยวกับงานของเธอลงบนโต๊ะเพื่อให้ฉันตรวจสอบ ยัยนี่เพิ่งจะรู้หรือไงว่าฉันเป็นผู้หญิงในข่าวลือ ก็นะ คงจะเพิ่งรู้นั่นแหละว่าเป็นฉัน ก็เธอมัวแต่ไปปลอบใจพราวฟ้านี่นา คงคิดว่าขอดไม้ผุๆอันนั้น จะพาเธอไปถึงฝังฝันได้อยู่“ก็ดีกว่าคนที่ล้างตัวเองใส่พานไปถวายถึงปาก แต่เขาไม่ยอมเคี้ยว ไม่ใช่หรือไง”“แก! ปากดีขึ้นเยอะนี่ใบข้าว!”“อืม ก็ไม่ต่างจากเธอที่ปากเน่ามากกว่าเดิม แปรงฟันด้วยนะ กลิ่นหึ่งจนจะอ้วกเลยเนี่ย”“แก! อีข้าว!”“อย่าคิดว่าฉันสู้เธอได้แค่ปากนะนินิว”ผู้หญิงหุ่นสะบึมน่าอิจฉาหยุดฝีเท้า จากนั้นก็เต้นเร่าๆอยู่บนส้นสูงแหลมปรี๊ด แต่งตัวมาแบบหวังไปทำค
“ถ้าต้องมานั่งรู้สึกผิดต่อกัน ก็ไม่ควรทำมันตั้งแต่แรกไหม”“นั่นสิ บอกตัวเองใช่ไหม”“ฉันยอมรับว่าหลบหน้านาย ฉันแค่อยากจัดการความรู้สึกของฉัน ไม่ได้บอกว่าจะเลิกคบกันสักหน่อย นายบอกว่านายรู้จักฉันมานานนี่นา นายน่าจะรู้อยู่แล้วไหมว่าฉันเป็นคนนิสัยยังไง ถ้าฉันได้ตัดสินใจอะไรไปแล้ว ฉันไม่มีทางเปลี่ยนใจ เรื่องของเราก็เช่นเดียวกัน”อาจจะสับสนไปบ้าง อาจจะรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง แต่ฉันก็จะพยายามทำมันให้สำเร็จให้ได้ การถีบตัวเองขึ้นไปโดยไม่พึ่งแรงส่งจากเขา มันคงทำให้ฉันรู้สึกภาคภูมิได้บ้าง อย่างน้อยๆฉันก็อยากพยายาม อยากให้คนรอบข้างมองว่าฉันมีคุณค่า และคู่ควรกับคนสูงส่งเช่นเขา “ … เธอควรจะพูดแบบนี้กับฉัน ก่อนที่จะทำมันนะ รู้ไหมว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันเหมือนหมาบ้ามากแค่ไหน”“ก็บ้าๆบอๆตลอดอยู่แล้วปะ?”“นี่! ฉันยังไม่หายโกรธเธอนะ”เขตครามทำหน้าเหมือนหมาป่าโดนนายพรานดุ พอคนตัวโตๆทำหน้าแบบนั้น สมองมันอดคิดหาสิ่งเปรียบเทียบไม่ได้ เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบโต้อะไร หมาป่าตัวใหญ่ก็แปลงกายไปเป็นหมาบ้าน “รู้แล้วน่าว่าฉันทำให้เธอโกรธเหมือนกัน อย่าทำหน้าแบบนั้นเลยนะ เดี๋ยวฉันอุ้มกลับ”เข้าใจว่าการคุ
“ฮึก! อือ”ฉันหลับตาลงยอมรับความพ่ายแพ้ ทั้งทางร่างกาย ทั้งความรู้สึก เป็นฉันนั่นแหละที่ผิด ถ้าเปิดใจคุยกับเขาไม่หนีหน้า ระหว่างเราคงไม่บาดหมาง เขาคงไม่โกรธจนตัดสินใจทำเรื่องระยำ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คนขี้ขลาดอย่างฉันจะกล้าพูดมันจริงๆเหรอ “ฮึก! ไม่มีอะไรจะพูดกับฉันแล้วใช่ไหม ไม่คิดจะขอโทษฉันเลย”น้ำเสียงเจ็บปวดดังชิดแผ่นหลัง ท่อนลำที่กำลังสอบเข้าออกด้วยความรุนแรง ค่อยๆลดระดับความเร็วลง คงไว้เพียงความหนักหน่วง และสะโพกที่บดโยกไปซ้ายทีขวาที เมื่อไร้ซึ่งถ้อยคำตอบโต้ คนข้างหลังก็ฝังคมเขี้ยวลงบนหัวไหล่ โยกบั้นท้ายถี่รัว หนักหน่วง รวดเร็ว และเข้าสุดออกสุดเกือบทุกครั้ง “ฮึก! ฮือ! อือ อ๊า!”เมื่อร่างกายสุดจะกลั้นมันก็หดเกร็งตัว บีบรัดตัวตนด้านในให้ปริแตก แก่นเนื้ออวบใหญ่ปลดปล่อยสายธารหลั่งไหลเข้ามา มากมายจนมันเอ่อล้นออกไปตามการถอดถอนท่อนลำ “อึก! อย่าคิดว่ามันจะจบแค่นี้ล่ะใบข้าว”เขตครามสอดความใหญ่โตเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้รุนแรงน้อยลง แต่ก็ยังเข้าสุดออกสุดหมือนเดิม ฉันหมดแรงจะต่อต้าน ร่างกายมันไม่ฟังคำสั่งตั้งแต่แรก โหยหาสัมผัสของเขา อยากได้อยากเอาในสิ่งที่เขาทำ อยากครอบครองทุกอย่
“อึก! แม่ง! รีบประชุมเหอะ!”เขตครามจับสะโพกฉันขึ้นและวางลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ฉันรู้ว่าอะไรทำให้เขาพูดและทำแบบนั้น ไอ้ท่อนลำที่มันเหยียดขยายเพราะการทาบทับของบั้นท้ายฉันนะสิ แต่มันดีแล้วแหละ ฉันอยากรีบประชุมให้มันเสร็จ อยากหนีหน้าเขา ไม่พร้อมเผชิญหน้ากับเขาจริงๆ กลัวทุกสิ่งที่ตัวเองเก็บซ่อนไว้ พรั่งพรูออกมาให้เขารับรู้ การประชุมเป็นไปด้วยความราบรื่น แม้จะมีความขัดแย้งระหว่างนักศึกษาทั้งสองคณะเกิดขึ้นบ้าง แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี หลงเหลือเพียงเรื่องเดียวที่เป็นปัญหาในขณะนี้ ก็คือตัวพระนางของแสดงละครเวทีนั่นเอง กิจกรรมที่คณะของฉันกับคณะวิศวกรรมจะทำร่วมกันในปีนี้ก็คือละครเวที เนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวข้องกับลานเกียร์คณะวิศวะกรรม ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือจนกลายเป็นตำนาน ยิ่งได้ความสัมพันธ์ที่เริ่มมาจากความไม่ลงรอยกับคณะของฉันเข้าไป เนื้อหาละครมันจึงดูมีอะไรซ่อนอยู่มาก คนเขียนบทก็ฉลาด ขาดก็แต่คนสวมบทบาทนั่นแหละ โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่อง “เอ่อ … ขออนุญาตเสนอรายชื่อได้ไหมคะ?”วีนาคือคนเสนอบทละครเวที จนมันได้รับเลือกให้เป็นกิจกรรมที่พวกเราจะทำร่วมกัน เธอยกมือขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งขอเสนอรายชื่อด้